09/09/2025
"ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯคนที่ 24 สร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองครั้งใหม่ ด้วยการเป็น "อดีตนายกฯ" คนแรกที่ถูกส่งตัวเข้าจำคุกในเรือนจำ ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมติบังคับโทษ จำคุกทักษิณ จำนวน 1 ปี ใน "คดีชั้น 14" และถูกส่งตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครในทันที
ภาพของ "ปอ ปิฎก สุขสวัสดิ์" สามี "แพทองธาร ชินวัตร" บุตรสาว เดินถือสูทของ "ทักษิณ" ออกมานอกเรือนจำ สะเทือนอารมณ์ของ "ด้อมแดง" เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเสียงสะอื้นของ "อิ๊งค์ แพทองธาร" ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ยิ่งสร้างความชอกช้ำแก่มวลชนอย่างหนัก
แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ หรือลืมไปแล้วว่า ชนวนเหตุสำคัญที่นำไปสู่คำสั่งของศาลฎีกาฯในวันนี้ เกิดขึ้นจาก 3 คำพิพากษาของศาลฎีกาฯในอดีต เมื่อครั้ง "ทักษิณ" ยังโลดแล่นบารมีสูงอยู่ในแวดวงการเมืองไทย กรุงเทพธุรกิจ ย้อนข้อมูลมาฉายภาพให้เห็นอีกครั้ง ดังนี้
📌พิพากษาคุก 3 คดี โทษรวมจำคุก 10 ปี แต่นับโทษซ้อนกันเหลือ 8 ปี
1.คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษ แบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า คดีหวยบนดิน โดยศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุกนายทักษิณ 2 ปี ไม่รอลงอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า การสั่งการของจำเลยที่ 1 จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย และจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดังนั้นเงินที่จ่ายเกินไปกว่ารายได้ของการจำหน่ายสลากจึงถือว่าก่อให้เกิดผลขาดทุนแก่รัฐ
2.คดีสั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อแก่รัฐบาลสหภาพพม่า 4,000 ล้านบาท ศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 (เดิม)
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีนายทักษิณ สั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) อนุมัติเงินกู้สินเชื่อจำนวน 4,000 ล้านบาท แก่รัฐบาลสหภาพพม่า โดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าต้นทุน เพื่อนำเงินกู้ดังกล่าวไปใช้ในการซื้อสินค้า และบริการของบริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) เป็นการเอื้อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น
3.คดีให้บุคคลอื่น (นอมินี) ถือหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แทน โดยบริษัท ชินคอร์ปฯ เป็นคู่สัญญาต่อหน่วยงานของรัฐ และเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม โดยศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา แบ่งเป็น ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ จำคุก 2 ปี ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการเข้ามามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น จำคุก 3 ปี
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า นายทักษิณ ดำเนินการดังกล่าวเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ซึ่งได้รับสัมปทานดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท. ชื่อขณะนั้น) และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด หรือบริษัท ดีพีซี ได้รับสัมปทานดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่จากการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท. ชื่อขณะนั้น) โดยทั้ง 2 บริษัทเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ชินคอร์ปฯ ซึ่งจำเลยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ให้ทั้ง 2 บริษัทได้รับคืนเงินภาษีสรรพสามิตที่ชำระแล้ว โดยมีสิทธินำไปหักออกจากค่าสัมปทานที่ต้องนำส่งให้ ทศท. และ กสท. เป็นผลให้ ทศท. และ กสท. ได้รับความเสียหาย
โดยคดีที่ 1 (จำคุก 2 ปี) และคดีที่ 3 (จำคุก 5 ปี แบ่งเป็นโทษจำคุก 2 ปี และ 3 ปี) นั้น มีการนับโทษจำคุกซ้อนกัน เนื่องจากกระทำความผิดตามตัวบทกฎหมายเดียวกัน นั่นคือโทษจำคุก 2 ปี ทำให้คดีของนายทักษิณคงเหลือโทษจำคุก 8 ปี กล่าวคือ คดีที่ 1 ลงโทษจำคุก 2 ปี คดีที่ 2 ลงโทษจำคุก 3 ปี และคดีที่ 3 ลงโทษจำคุก 3 ปี
📌พระราชทานอภัยลดโทษ คงจำคุก 1 ปี
ต่อมานายทักษิณ ชินวัตร ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ โดยเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชหัตถเลขา ในหลวงรัชกาลที่ 10 พระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้ ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไป อีก 1 ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษา เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคมและประชาชน สืบไป
📌2 คดียกฟ้อง
1.คดีกล่าวหาว่าอนุมัติให้กระทรวงการคลังเข้าไปบริหารจัดการแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI
คดีดังกล่าวศาลฎีกาฯ ได้ยกฟ้อง ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เป็นโจทก์ยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา โดยองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา พิพากษายื่นยกฟ้องตามเดิม
2.คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้สินเชื่อเครือกฤษดามหานคร กว่าหมื่นล้านบาทโดยทุจริต โดยศาลฎีกาฯ พิพากษายกฟ้องนายทักษิณ จำเลยที่ 1 โดยเห็นว่า คำว่า ‘ซูเปอร์บอส’ หรือ ‘บิ๊กบอส’ ที่ถูกอ้างว่าเป็นผู้สั่งการ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคือ นายทักษิณ
📌1 คดีหมดอายุความ
คดีทุจริตการจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่มีการกล่าวหาคุณหญิงพจมาน ชินวัตร (ภริยานายทักษิณ และนามสกุลขณะนั้น) และนายทักษิณ ในการซื้อที่ดินจำนวน 33 ไร่ 78 ตารางวา ราคา 772 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2551
โดยก่อนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะพิพากษาคดีดังกล่าว นายทักษิณ ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยอ้างว่าไปดูการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศจีน และหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษาแต่อย่างใด ทำให้ศาลฎีกาฯ อ่านคำพิพากษาลับหลัง จำคุกนายทักษิณ 2 ปี และยกฟ้องคุณหญิงพจมาน
ปัจจุบันคดีดังกล่าวหมดอายุความแล้ว
#ทักษิณ #การเมือง #ข่าวล่าสุด #เพื่อไทย #ชั้น14 #เนชั่นสุดสัปดาห์