เจริญกรุง

เจริญกรุง ข้อมูลการติดต่อ, แผนที่และเส้นทาง,แบบฟอร์มการติดต่อ,เวลาเปิดและปิด, การบริการ,การให้คะแนนความพอใจในการบริการ,รูปภาพทั้งหมด,วิดีโอทั้งหมดและข่าวสารจาก เจริญกรุง, ครีเอเตอร์ดิจิทัล, Bangkok.

กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายายหลานเหลนโหลนที่เคารพรัก พวกเรา #เจริญกรุง ขอเรียนเชิญทุก ๆ ท่านเข้ามาร่วมเพลิดเพลินกับพื้นที่แห่งการหลอมรวมทางศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ภายใต้การนำเสนอที่ร่วมสมัย และรุ่มรวยอารมณ์ขัน บนพื้นฐานของกาลเทศะอย่างไทย 🤣

ชีวิตในรั้ววัง นับว่าเป็นเรื่องราวที่หลายคนสนใจใคร่รู้ เพราะในรั้ววังนั้น คือแหล่งรวมของสรรพวิทยาแขนงต่างๆ มากมาย เป็นจุ...
13/10/2025

ชีวิตในรั้ววัง นับว่าเป็นเรื่องราวที่หลายคนสนใจใคร่รู้ เพราะในรั้ววังนั้น คือแหล่งรวมของสรรพวิทยาแขนงต่างๆ มากมาย เป็นจุดกำเนิดของขนบธรรมเนียม จารีตประเพณีที่ดีงาม ซึ่งแต่โบราณ ไม่ปรากฏว่ามีการเผยแพร่ กระทั่งในสมัยหลัง นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว ขนบธรรมเนียมที่เคร่งครัดของรั้ววังจึงคลี่คลายลงไป และเริ่มปรากฏว่ามีการนำเรื่องราวในรั้ววังมาเผยแพร่แก่สาธารณชน อย่างเช่นเรื่องของหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ หรือที่ผู้อ่านรู้จักในนามผู้เขียน “ชีวิตในวัง” และ “ชีวิตนอกวัง” ผู้เติบโตมาท่ามกลางกำแพงวัง ใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งในโลกแห่งราชประเพณี

หม่อมหลวงเนื่องเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ ณ วังพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ เดิมชื่อ “ทับทิม” ก่อนจะได้รับนามใหม่ว่า “เนื่อง” เป็นบุตรีของหม่อมราชวงศ์อั้น นิลรัตน์ และนางเผือก นิลรัตน์ ณ อยุธยา สืบสายราชสกุลมาจากกรมหมื่นอลงกฎกิจปรีชา ผ่านพระอัยกา หม่อมเจ้าชายชุ่ม นิลรัตน์ ด้วยชาติกำเนิดนี้เอง ท่านจึงมีเส้นทางชีวิตผูกพันกับราชสำนักตั้งแต่ลืมตาดูโลก

เมื่อยังเล็ก บิดานำท่านไปถวายให้หม่อมเจ้าหญิงสะบาย นิลรัตน์ ผู้เป็นท่านย่า ซึ่งขณะนั้นทรงกำกับห้องเครื่องในพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมขุนสุทธาสินีนาฏ ณ วังสวนสุนันทา ท่านจึงเติบโตในร่มเงาของวัง ได้เรียนรู้ระเบียบ มารยาท การครัวชาววัง และวิถีสตรีฝ่ายในอย่างละเอียดประณีต ภายหลังถูกส่งขึ้นถวายตัวเป็นข้าหลวงในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี พร้อมทั้งได้รับพระราชทานเหรียญทองลงยา ประดับอักษร “น.น.” อันเป็นเกียรติยศสูงสุดของหญิงชาววังคนหนึ่ง

วัยเยาว์ของท่านจึงไม่ได้มีเพียง “ความเรียบร้อย” หากเต็มไปด้วยเรื่องสนุกซุกซนที่ท่านมักหยิบมาเล่าอย่างขบขันในภายหลัง ทั้งการซ่อนขนม การเล่นพิเรนทร์กับสหาย และวีรกรรมที่แม้ครูบาอาจารย์จะเข้มงวดเพียงใด แต่หัวใจของเด็กหญิงในวังก็ยังเปี่ยมด้วยเสียงหัวเราะและมิตรภาพ ขณะเดียวกัน ท่านยังได้ร่ำเรียนหนังสือในโรงเรียนนิภาคาร ในพระอุปถัมภ์ของกรมขุนอู่ทองฯ จนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับกุลสตรีในยุคนั้น

เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ ท่านจึงออกจากวังมาดำรงชีวิต “นอกกำแพงวัง” อย่างเต็มตัว เริ่มต้นอาชีพครูประชาบาล สอนหนังสือด้วยระเบียบแบบสตรีชาววังอยู่กว่า ๒๒ ปี ทั้งที่โรงเรียนเทเวศร์ศึกษาและโรงเรียนวัดสมณานัมบริหาร ชีวิตนอกวังของท่านจึงเป็นชีวิตที่แม้จะสามัญ แต่ไม่เคยขาดศักดิ์ศรี ความสนุก และอารมณ์ขัน

จวบจนปี พ.ศ. ๒๕๒๘ เมื่อสหายร่วมวัยจากวังสวนสุนันทา หม่อมราชวงศ์หญิงศรีคำ ทองแถม ถึงแก่กรรม ท่านจึงเขียนคำไว้อาลัยถวาย นั่นคือผลงานครั้งแรก และเป็นจุดเริ่มต้นของ “ชีวิตในวัง” อันโด่งดัง บทความเหล่านั้นถูกตีพิมพ์ต่อเนื่องในนิตยสาร ลดา อาหาร-โรงแรม-ท่องเที่ยว และ พลอยแกมเพชร นำไปสู่การรวมเล่มกว่า ๑๙ เล่ม ที่กลายเป็นเสียงแท้จากคนในวัง ซึ่งหาฟังแทบไม่ได้ในยุคสมัยนี้

ผู้อ่านรักท่านก็เพราะท่านไม่เคยสอนใคร ไม่เคยโอ้อวด แต่เล่าเรื่องด้วยหัวใจ ทั้งเรื่องหวาน เรื่องขม เรื่องซึ้ง เรื่องขำ ทุกอย่างผ่านสายตาของผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยถือผ้ากราบเบื้องพระยุคลบาท เคยตักแกงถวาย เคยนั่งอยู่หลังม่าน และเคยเดินออกจากวังด้วยเท้าตนเอง

ด้วยผลงานอันเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทำให้ในเวลาต่อมา หม่อมหลวงเนื่องได้รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๕ และยังได้รับรางวัลนราธิป ครั้งที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๖

หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ กราบถวายบังคมลาถึงแก่กรรม ด้วยโรคชรา เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ที่สถาบันบำราศนราดูร อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี สิริอายุได้ ๙๖ ปี

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานหีบทองลายองุ่น พวงมาลาวางหน้าหีบศพ และพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับศพไว้ในพระราชานุเคราะห์โดยตลอด มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพ และพระราชทานพระราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพ พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน และประทาน พวงมาลาวางหน้าหีบศพ อนึ่ง พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ประทานน้ำอาบศพด้วยและพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ ณ เมรุวัดทินกรนิมิต จังหวัดนนทบุรี

เรื่อง : นพรัศมี
อ้างอิง : ชีวิตในวัง, ชีวิตนอกวัง

#หม่อมหลวงเนื่อง #นิลรัตน์ #ชีวิตในวัง #ชีวิตนอกวัง #วิถีชีวิตราชสำนัก #นางข้าหลวง #ความทรงจำ #วังหลวง #ประวัติศาสตร์ชีวิต #เจริญกรุง

วัดพระธาตุโนนตาล ตั้งอยู่ที่บ้านธาตุ หมู่ที่ ๙ ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ก่อร่างขึ้นจากก...
13/10/2025

วัดพระธาตุโนนตาล ตั้งอยู่ที่บ้านธาตุ หมู่ที่ ๙ ตำบลโนนตาล อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ก่อร่างขึ้นจากกลุ่มผู้คนอพยพในช่วงต้นสมัยรัตนโกสินทร์ โดยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๔ ขุนหลวงปากดี ขุนหลวงเพชร พ่อเฒ่าพวย พ่อเฒ่าอินทร์ และพ่อเฒ่ามือลาย ได้นำครอบครัวออกจากเมืองท่าอุเทน มาตั้งหลักแหล่งบริเวณหนองนางเก้งหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหนองอีเก้ง เพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมและสร้างชุมชนถาวรขึ้นในพื้นที่ใหม่ จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๒๐ ชาวบ้านได้ค้นพบเจดีย์เก่าองค์เล็กกลางป่ารกร้างโดยไม่ทราบที่มาที่ไป ช่วงนั้นพ่อเฒ่าอั้งจึงชักชวนชาวบ้านร่วมกันก่อสร้างองค์เจดีย์ให้ใหญ่ขึ้นด้วยศรัทธา แม้การก่อสร้างจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์และพ่อเฒ่าอั้งได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่หมู่บ้านกลับได้รับชื่อ “บ้านธาตุ” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แสดงถึงความผูกพันระหว่างชุมชนกับองค์พระธาตุในฐานะศูนย์รวมจิตวิญญาณ

ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๘๐ วัดพระธาตุโนนตาลได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ภายใต้การนำของหลวงพ่อผง หลวงพ่อบน และหลวงพ่อภู พร้อมด้วยพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง โดยได้ก่อสร้างองค์เจดีย์พระธาตุให้สูงใหญ่ขึ้นควบคู่กับการสร้างพระอุโบสถ ซึ่งแล้วเสร็จใน พ.ศ. ๒๔๘๖ องค์พระธาตุในครั้งนั้นมีความสูงถึง ๓๖ เมตร ตั้งบนฐานกว้างด้านละ ๗ เมตร ๕๐ เซนติเมตร ถือเป็นสถาปัตยกรรมศาสนสถานที่ทรงอำนาจที่สุดของชุมชน สืบทอดคติการสร้างพระธาตุแบบล้านช้างในลุ่มน้ำโขง แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี องค์พระธาตุยังคงได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งใน พ.ศ. ๒๕๓๖ เจ้าอธิการอำนาจ อุตฺตโม เจ้าคณะตำบลโนนตาล เขต ๒ พร้อมด้วยพระคันธี กตปุญโญ จัดพิธีเปลี่ยนยอดฉัตรพระธาตุแทนของเดิมที่ชำรุด มีการยกฉัตรขึ้นยอดพระธาตุในวันเสาร์ที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๖ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๔ เวลา ๑๐ นาฬิกา ๐๙ นาที ถือเป็นการประกาศความศักดิ์สิทธิ์และความรุ่งเรืองของวัดพระธาตุต่อหน้าชนรุ่นหลัง

อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์ของพระธาตุโนนตาลต้องเปลี่ยนหน้าสำคัญอีกครั้งใน พ.ศ. ๒๕๖๘ เมื่อองค์เจดีย์บางส่วนเกิดการพังทลายจากโครงสร้างภายในที่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา ประกอบกับความเสียหายจากฝน ความชื้น และการทรุดตัวของฐานราก เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงสร้างความสะเทือนใจแก่ชาวบ้านที่ผูกพันกับพระธาตุมาหลายชั่วอายุคน แต่ยังเปิดเผยสิ่งที่มิอาจมองเห็นได้ในยามที่องค์ธาตุยังครบสมบูรณ์ นั่นคือ “หัวใจของพระธาตุ” หรือวัตถุมงคลที่ถูกบรรจุไว้ภายในเพื่อความศักดิ์สิทธิ์และความมั่นคงแห่งศรัทธา

ภายหลังการเก็บกู้พื้นที่โดยกรมศิลปากร ได้มีการค้นพบโบราณวัตถุสำคัญจำนวนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น กลุ่มพระพุทธรูป เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเนื้อสำริด ๑ องค์พระพุทธรูปโบราณปางเปิดโลก จำนวน ๒ องค์ แบบพิมพ์พระปางสมาธิ ๑ องค์ และพระแกะสลักในเนื้อหินใสคล้ายหินโป่งข่าม ๑ องค์ สร้อยคอทองคำ ๑ เส้น ฉัตร ๕ ชั้น เนื้อโลหะผสม ปิดทองฉลุลาย พร้อมเหรียญกษาปณ์ของไทยที่ผลิตขึ้นในช่วงรัชกาลที่ ๗ - ๘ โดยมีลักษณะเป็นเหรียญทองแดงกลมแบนตรงกลางมีรู ซึ่งน่าจะเป็นของถวายหรือทักษิณาทานที่บรรจุไว้ในพิธีฝังหัวใจพระธาตุ เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ศาสนสถานตามคตินิยมโบราณ

เรื่อง : มนตราลัย
อ้างอิง : กรมศิลปากร
ที่มาภาพ : สิม

#วัดพระธาตุโนนตาล #โนนตาล #พระธาตุ #นครพนม #โบราณวัตถุ #พระโบราณ #ฉัตรทอง #เหรียญโบราณ #โบราณคดีพื้นบ้าน #ความเชื่อท้องถิ่น #เจริญกรุง

13/10/2025

EP.324 ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นกบฏ ความในใจของพระยาเทพหัสดิน
#รวีโรจน์เล่าเรื่อง #ประวัติศาสตร์ #ประวัติศาสตร์ไทย

ทีมงานเจริญกรุง ขอกราบขอบพระคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ และผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่ร่วมสนับสนุนโครงการ  #ห้องน้ำเพื่อน้อง ที่...
13/10/2025

ทีมงานเจริญกรุง ขอกราบขอบพระคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ และผู้สนับสนุนทุกท่าน ที่ร่วมสนับสนุนโครงการ #ห้องน้ำเพื่อน้อง ที่พวกเราตั้งใจหาเงินสมทบทุนช่วยซ่อมและสร้างห้องน้ำให้น้อง ๆ โรงเรียนวัดบ้านดาบ จ.ลพบุรี โดยเริ่มกิจกรรมระดมทุนกันตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จนถึงเดือนตุลาคม 2568 โดยทางโรงเรียนได้ประเมินราคาว่าจะต้องใช้งบประมาณ 170,000 บาท ในการสร้างห้องน้ำใหม่จำนวน 10 ห้อง สำหรับนักเรียนกว่า 200 ชีวิต

ต่อมาทางทีมงานและผู้สนับสนุนได้ไปเยี่ยมน้อง ๆ ที่โรงเรียนและได้เห็นสภาพของห้องน้ำเก่า ที่ยังพอสามารถซ่อมได้ จึงได้หารือร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียน และตัดสินใจซ่อมห้องน้ำเก่าก่อน ทำให้น้อง ๆสามารถใช้งานห้องน้ำเก่าได้ทั้งหมด และดำเนินการระดมทุนเพิ่มเติมร่วมกับโรงเรียน จนขณะนี้ ได้รับเงินสมทบทุนเพียงพอต่อการดำเนินการซ่อมห้องน้ำที่เหลือทั้งหมดและสร้างห้องน้ำใหม่ให้น้อง ๆ อีก 10 ห้องแล้ว ทั้งนี้ เงินส่วนที่ได้รับเพิ่มเติมมา ผู้อำนวยการโรงเรียน จะเก็บไว้เพื่อสมทบในการดำเนินการสร้างโรงอาหารให้กับเด็ก ๆ ต่อไป

ทีมงานเจริญกรุง ขอกราบขอบพระคุณทุกท่าน ที่ร่วมกิจกรรมครั้งนี้กับพวกเรา และขออวยพรให้โรงเรียนวัดบ้านดาบดำเนินการซ่อม สร้าง ห้องน้ำให้น้อง ๆ เสร็จสมบูรณ์ได้ตามวัตถุประสงค์ รวมทั้งขอให้หาเงินสมทบสร้างอาคารโรงอาหารให้เด็ก ๆ สำเร็จดังที่คาดหวังไว้ได้โดยเร็วต่อไป 🙏🙏🙏

พวกเราเชื่อเสมอว่า สังคมจะดีขึ้นได้แน่ ๆ ถ้าเราช่วยกัน โดยเฉพาะการหยิบยื่นโอกาสและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเด็ก ๆ ในบ้านเมืองของเรา เพื่อให้เขามีปัจจุบันที่ดี และมีโอกาสสร้างอนาคตอย่างมีคุณภาพ

ทีมงานเจริญกรุง ขอถือโอกาสนี้ประกาศข่าวดีว่าพวกเราทำสำเร็จแล้ว!! เราระดมทุนร่วมกับโรงเรียนจนได้งบประมาณครบแล้ว!! และอยากมาขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ ❤️

ขอบพระคุณพี่น้องชมรมฉันรักวันหยุดที่สนับสนุนทุกกิจกรรมระดมทุนของพวกเรา ขอบพระคุณพี่ ปู จิตกร บุษบา ที่นำรายได้จากการขายหนังสือวิชาชีวิตมาสมทบทุน ขอบพระคุณพี่ออม อภิมุข ฉันทวานิช และทีมงาน ที่คอยให้คำปรึกษา ช่วยแนะนำเรื่อง e-Donation และช่วยสมทบทุน ขอบพระคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ที่ร่วมด้วยช่วยกันหาทุน ลูกค้าไลน์แม่บุญล้อมที่ช่วยสนับสนุนสินค้าเพื่อนเงินมาสมทบทุน แฟนเพจเจริญกรุง แฟนเพจ สามก๊ก ตั้งวงเล่า รวมถึงทีมงานเบื้องหน้าเบื้องหลัง เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ของพวกเราจากทุกเครือข่ายอีกมากมายที่เอ่ยชื่อไม่หมด ❤️❤️❤️

ขอขอบพระคุณทุกท่านจากใจ และพวกเราขออุทิศถวายคุณความดีนี้เป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 "พ่อ" ผู้เป็นต้นแบบการทำเพื่อสังคมให้กับพวกเรา

💛🙏🇹🇭

#สังคมดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง
#ห้องน้ำเพื่อน้อง
#เจริญกรุง

เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรบ้านห้วยคต ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอห...
13/10/2025

เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรบ้านห้วยคต ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยเส้นทางที่เสด็จฯ ไปเป็นเพียงทางเกวียน ขรุขระเต็มไปด้วยหลุมบ่อ เป็นเหตุให้รถยนต์พระที่นั่งติดหล่มใกล้บ้านของนายรวย งามขำ ชาวบ้านใจดีที่เข้ามาร่วมช่วยยกรถยนต์ฯ จนพ้นหล่มดังกล่าว

เมื่อทรงสนทนาด้วย จึงได้ทรงทราบถึงความทุกข์ยากของราษฎรในพื้นที่ ที่ไม่มีถนนสัญจร ต้องเดินเท้าหรือใช้เกวียนนำพืชผลไปขายในตลาดหัวหิน ด้วยระยะทางกว่า ๒๐ กิโลเมตร ใช้เวลานานนับวัน หรือ หากเช่ารถเพื่อขนส่ง ก็ต้องจ่ายถึงเที่ยวละ ๕๐๐ บาท ซึ่งไม่คุ้มกับราคาพืชผล และในยามเจ็บไข้ได้ป่วยก็ยากที่จะเดินทางถึงโรงพยาบาลได้ทันท่วงที

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์จึงมีพระราชดำริให้สร้างถนนจากหัวหินไปบ้านห้วยคต พร้อมทรงพระราชทานรถบูลโดเซอร์ (แทร็กเตอร์ดันดินกำลังสูง) แก่ตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร ซึ่งขณะนั้นปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันตก

ตำรวจฯ จึงได้ร่วมแรงร่วมใจกับชาวบ้านสร้างถนนขึ้นมาท่ามกลางภูเขาและพื้นที่ป่า โดยพักแรมอยู่ตามบ้านราษฎร ช่วยสอนหนังสือเด็ก ๆ และทำกิจกรรมร่วมกันหลังเลิกงาน สร้างความผูกพันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชุมชนได้อย่างมีนัยสำคัญทางความมั่นคง

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรอีกครั้ง

ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงทอดพระเนตรลำห้วยหลังบ้านนายรวย เพื่อหาจุดสร้างฝายทดน้ำ ขณะเดียวกันสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงทรงสอนเด็ก ๆ ร้องเพลงและเล่านิทานใต้ร่มไม้ใหญ่ ทั้งสองพระองค์ประทับเสวยพระกระยาหารอย่างเรียบง่ายกลางหมู่บ้าน

ก่อนเสด็จฯ กลับ พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสกับนายรวยว่า

“ต่อไปที่นี่ น้ำจะไหล ไฟจะสว่าง ที่ดินจะมีราคา ให้ช่วยกันรักษาที่ดินไว้ให้ลูกหลาน อย่าไปขาย…เพราะถ้าไม่มีที่ดินทำกิน ก็จะไม่มีอิสระ ต้องไปเป็นลูกจ้างคนอื่น…”

นายรวยได้นำขนุนมาถวาย พระองค์จึงพระราชทานเงินขวัญถุงจำนวน ๓๖ บาท ภรรยาของนายรวยเล่าว่า แม้หลายครั้งจะมีเหตุจำเป็นต้องใช้ แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนรอบข้างทุกครั้ง ทำให้ยังเก็บรักษาเงินพระราชทานไว้ได้จนวันนี้ พร้อมคำสั่งเสียของนายรวยที่บอกลูกหลานว่า…

“อย่าขายที่ดิน เพราะได้ให้สัญญากับพระเจ้าแผ่นดินไว้แล้ว”

ถนนที่สร้างขึ้นนี้ พระราชทานชื่อว่า “ห้วยมงคล” ซึ่งก่อสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาและความร่วมมือระหว่างประชาชนกับตำรวจฯ โดยใช้เวลาหลายปีจึงแล้วเสร็จ

ปัจจุบัน การเดินทางจากหัวหินถึงห้วยมงคลใช้เวลาเพียง ๒๐ นาที ถนนสายนี้ไม่เพียงเชื่อมหมู่บ้านกับเมือง แต่ยังเชื่อมใจชาวบ้านกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาประเทศผ่าน “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” กว่า ๔,๐๐๐ โครงการทั่วแผ่นดินไทย

ที่มาข้อมูล : สำนักงาน กปร.
ที่มาภาพ : ผู้จัดการออนไลน์

#โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ #ห้วยมงคล #ถนนแห่งน้ำพระราชหฤทัย #ในหลวงรัชกาลที่๙ #ตามรอยเท้าของพ่อ #สืบสานรักษาต่อยอด

เราส่วนใหญ่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยที่มี "ในหลวง" ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านเหตุการณ์บ้านเมือง และได้เห็นถึงพระปรีชาสามารถกับน้...
13/10/2025

เราส่วนใหญ่เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทยที่มี "ในหลวง"
ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านเหตุการณ์บ้านเมือง และได้เห็นถึงพระปรีชาสามารถกับน้ำพระราชหฤทัยของในหลวงที่ทรงงานตลอดเวลา

หลายครอบครัว หลายหมู่บ้าน ได้ลืมตาอ้าปาก มีอาชีพทำกิน... ที่ใดมีทุกข์ภัย ก็ได้รับความช่วยเหลือที่พระราชทานมาอย่างเร่งด่วนก่อนใครเสมอ...

ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระองค์ พวกเราเสมือนมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ช่วยกันทำดี สร้างสรรค์ เพื่อ "บ้าน" เพราะเรามี "พ่อ" ผู้ใจดี เมตตา พาเราฝ่าทุกวิกฤต พ่อที่เล่นดนตรี แต่งเพลงให้ลูกฟัง พ่อที่ถ่ายรูป วาดรูป เขียนคำอวยพรให้ทุกวันปีใหม่ พ่อที่หาเงิน หาอาหาร หาครู หาวิชา หาโอกาส มาให้ พ่อที่คอยพร่ำสอนและเป็นแบบอย่างของความดี

แผ่นดินนี้มั่นคงได้ เพราะพระองค์ทรงวางรากฐานไว้ให้...

แม้วันนี้พระองค์จะเสด็จกลับสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่สิ่งดี ๆ ที่ทรงสร้างไว้ จะยังคงเจริญงอกงามบนแผ่นดินไทย... ภาคภูมิใจที่สุดที่เกิดเป็นคนไทยและอยู่บนแผ่นดินไทย 💛 บ้านสุดอบอุ่นที่พ่อทำไว้ให้พวกเรา 🇹🇭

น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ด้วยรักและคิดถึงสุดห้วใจ
🙏🙏🙏

ทีมเจริญกรุง

#๑๓ตุลาคม #วันนวมินทรมหาราช #รัชกาลที่๙ #คิดถึงในหลวง #ในดวงใจนิรันดร์

เนื่องในวันที่ ๑๓ ตุลาคม วันคล้ายวันเสด็จสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทางเพจเจ...
13/10/2025

เนื่องในวันที่ ๑๓ ตุลาคม วันคล้ายวันเสด็จสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทางเพจเจริญกรุงจึงใคร่ขอนำเสนอเหตุการณ์ “พระนารายณ์กลับสวรรค์” ในรามายณะ เพื่อร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผู้ทรงเสมอเสมือนด้วย “นารายณ์อวตาร” มายังแผ่นดินไทยมาตลอด ๗๐ ปีแห่งการครองสิริราชสมบัติ

ถ้าใครอ่านรามเกียรติ์ฉบับพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๑ จนจบเรื่อง ก็จะพบว่า "รามเกียรติ์ไทย" จบลงด้วยความสุข กล่าวคือ พระรามกับนางสีดาได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ส่วนพระพรตพระสัตรุดก็ได้มีบทบาทประกอบวีรกรรมในท้ายที่สุด ทว่า "รามายณะ" อินเดีย มีฉบับของวาลมีกิเป็นอาทิ กลับหาได้จบเช่นนั้นไม่...

แล้วรามายณะจบลงอย่างไร? ลำดับเหตการณ์มีดังนี้...

๑) นางสีดาเสด็จกลับลงในแผ่นดินดิน ที่นางสีดาต้องกลับคืนสู่ดิน เพราะนางสีดา คือ บุคคลาธิษฐานของแผ่นดิน หรืออีกนัยหนึ่ง คือ พระลักษมี/พระภูเทวี (พระธรณี) ที่พระนารายณ์มีหน้าที่ต้องปกป้องรักษาตามหน้าที่ประจำตรีมูรติ

๒) พระลักษมณ์เดินลงแม่น้ำสรยูกลับสู่ไวกูณฑ์ (แม่น้ำสำคัญที่ไหลผ่านกรุงอโยธยา เป็นแม่น้ำสายเดียวกับ “แม่น้ำสรภู” ในสำนวนไทย “ชักแม่น้ำทั้งห้า”) เหตุที่พระลักษมณ์ต้องเสด็จกลับเป็นลำดับแรกนั้น เพราะพระองค์ คือ อวตารของพระยาเศษนาค (อนันตนาคราช) บัลลังก์ของพระนารายณ์ จึงต้อง “กลับไปรอพระเป็นเจ้า” ก่อนพระราม พระพรต และพระศัตรุฆน์

๓) เมื่อจัดการกิจต่าง ๆ ในอโยธยาแล้ว พระราม พระพรต พระศัตรุฆน์ ก็เสด็จลงแม่น้ำสรยูกลับสู่ไวกูณฑ์พร้อมกัน สาเหตุที่ต้องเสด็จกลับสวรรค์ผ่านแม่น้ำนั้นก็เพราะว่า พระรามเป็นอวตารของพระนารายณ์ หากเทียบ “สมการเชิงสัญญะ” แล้ว พระนารายณ์ = น้ำ ส่วนเกษียรสมุทรและการบรรทมเหนืออนันตนาคราชก็เป็นบุคคลาธิษฐานของน้ำและความเป็นนิรันดร์เหนือกาลเวลา ส่วนพระพรตและพระศัตรุฆน์ คือ อวตารของ “สังข์ปัญจชันยะ” และ “สุทรรศนจักร” ในหัตถ์ของพระนารายณ์ตามลำดับ ทุกพระองค์จึงต้องอาศัยน้ำในการเสด็จกลับสวรรค์

การจบเรื่องแบบนี้อาจทำให้หลายคนที่คุ้นเคยกับตอนจบนิทานประเภท Lived happily ever after รู้สึกแปลก ๆ ว่าทำไม “จบเศร้าจัง” แต่ถ้าเราเข้าใจปรัชญาพราหมณ์-ฮินดู ว่าสรรพสิ่งทั้งปวงล้วนมีหน้าที่ (ธรรมะ) ประจำตน เมื่อพระราม นางสีดา และเหล่าพระอนุชา ทำหน้าที่ปราบอธรรมเสร็จสิ้นแล้วก็ได้เวลาที่จะต้องกลับคืนสู่สภาวะเดิมอย่างไม่มีข้อแม้...เพราะโลก (ย์) นี้เป็นแต่เพียงมายา

กระนั้นก็มีตัวละครตัวหนึ่งในรามายณะที่เชื่อกันว่ายังมีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ นั่นคือ หนุมาน หนึ่งใน “จีรังชีวินทั้ง ๘” ในคติฮินดู ทั้งนี้เหตุผล (เชิงสัญญะ) ว่าทำไมหนุมานจึง “ไม่ตาย” นั้นก็เป็นเพราะว่า “หนุมาน = ความรักภักดีต่อพระราม” ซึ่งต่อให้พระรามเสด็จกลับสวรรค์ไปแล้ว ความรักภักดีนี้ก็ยังจะดำรงอยู่เป็นนิรันดร ส่วนเรื่องรามายณะอันเป็นเรื่องสรรเสริญพระนารายณ์เองก็จะดำรงคงอยู่ในโลกตลอดไป

เช่นเดียวกัน...ความจงรักภักดีของคนไทยที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ ๙ ย่อมจะดำรงอยู่เหนือกาลเวลา และแม้ว่าพระองค์จะเสด็จกลับคืนเป็นพระนารายณ์แล้ว “ผลพระคุณ ธ รักษา” ก็ยังคงส่งผลให้ “ปวงประชาเป็นสุขศานติ์” อย่างยั่งยืนถาวรชั่วกาลนาน

เรื่อง: เฉินเหล่าซือ

#พระราม #รามาวตาร #พระวิษณุ #ในดวงใจนิรันดร์ #ฮินดู #คติความเชื่อ #เจริญกรุง

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์ 💛🙏🇹🇭 #เรารักในหลวง  #ในดวงใจนิรันดร์  #เจริญกรุง
12/10/2025

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์ 💛🙏🇹🇭

#เรารักในหลวง
#ในดวงใจนิรันดร์
#เจริญกรุง

ถนนเฟื่องนคร สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ เดิมเริ่มจากปากคลองตลาดไปสิ้นสุดที่วัดบวรนิเวศวิหาร แต่ปัจจุบัน ช่วงระยะทางจากเส...
12/10/2025

ถนนเฟื่องนคร สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ เดิมเริ่มจากปากคลองตลาดไปสิ้นสุดที่วัดบวรนิเวศวิหาร

แต่ปัจจุบัน ช่วงระยะทางจากเสาชิงช้าถึงวัดบวรฯ ถูกเปลี่ยนให้เป็นถนนตะนาว จึงเหลือระยะทางเพียง ๕๐๐ เมตรเท่านั้น โดยเริ่มต้นที่แยกสี่กั๊กพระยาศรี และมาบรรจบกับแยกเสาชิงช้า

ถนนสายสั้นแห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นย่านการค้าคึกคัก สมชื่อ “เฟื่องนคร” ที่หมายถึงความรุ่งเรืองของเมืองหลวง ไม่ต่างจากปัจจุบัน ที่อุดมไปด้วยคาเฟ่ ร้านอาหาร สถานที่ราชการ วัดวาอาราม ฯลฯ

#เฟื่องนคร #ถนนเก่า #กรุงรัตนโกสินทร์ #เจริญกรุง

ขอแสดงความยินดีกับ พี่ ปู จิตกร บุษบา  พี่ใหญ่ของพวกเรา ในโอกาสได้รับรางวัล นักศึกษาเก่าดีเด่น ประเภทผู้ส่งเสริมสังคม จา...
12/10/2025

ขอแสดงความยินดีกับ พี่ ปู จิตกร บุษบา พี่ใหญ่ของพวกเรา ในโอกาสได้รับรางวัล นักศึกษาเก่าดีเด่น ประเภทผู้ส่งเสริมสังคม จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๘ ด้วยจ้าาาา 🥳❤️🙏🇹🇭✨️

พี่ปูเป็นแบบอย่างของคนที่ “ลงมือทำ” เพื่อคนรอบข้างอยู่เสมอ ช่วยด้วยหัวใจเมตตาและไม่ลืมช่วยอย่างมีสติและใช้ปัญญาไตร่ตรอง เพราะพี่ปูมักชวนพวกเราให้คิดก่อนช่วยว่าความช่วยเหลือนั้นจะเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร และช่วยแบบใดจึงเหมาะสมที่สุด พี่ทำให้พวกเราเห็นว่า การช่วยกันด้วยความเข้าใจ คือสิ่งที่ทำให้สังคมดีขึ้นได้จริง!!

ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่ปูเป็นทั้งผู้ริเริ่ม ผู้สนับสนุน และแรงบันดาลใจในหลายโครงการ เป็นคนพาให้พวกเราได้ร่วมกันทำสิ่งดี ๆ รอบตัว ได้เห็นรอยยิ้มของผู้คน ได้เห็นน้ำใจที่ส่งต่อกันไปไม่รู้จบ หลายคนได้รับโอกาส ได้เรียนรู้ และกลายเป็นผู้มอบโอกาส เป็นคนที่อยากช่วยเหลือผู้อื่นต่อ เป็นพลังเล็ก ๆ ที่รวมกันจนกลายเป็นความเปลี่ยนแปลงที่งดงาม

รางวัลนี้จึงไม่เพียงเป็นเกียรติแก่พี่ปูเท่านั้น แต่ยังเป็นความภูมิใจของพวกเราทุกคน ที่ได้ร่วมเดินอยู่บนเส้นทางแห่งการให้และการสร้างสรรค์เพื่อสังคมกับพี่ปู

ขอแสดงความยินดีกับพี่ใหญ่ของเราอีกครั้ง และขอเป็นอีกหนึ่งพลังเล็ก ๆ ที่จะร่วมเดินไปกับพี่ในการทำสิ่งดี ๆ เพื่อสังคมต่อไป 🌿💚

With love and respect from all of us ❤️

ทีมเจริญกรุง

#รางวัลนักศึกษาเก่าดีเด่น #ผู้ส่งเสริมสังคม #คณะอักษรศาสตร์ #มหาวิทยาลัยศิลปากร #ปูจิตกรบุษบา #สังคมดีไม่มีขายถ้าอยากได้ต้องร่วมสร้าง

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระมหากรุณาเป็นล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวไทยมาตลอดระยะเวลา ...
11/10/2025

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระมหากรุณาเป็นล้นพ้นต่อพสกนิกรชาวไทยมาตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีในสิริราชสมบัติ ผู้คนส่วนใหญ่ อาจเห็นภาพของพระอค์ที่เสด็จพระราชดำเนินไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อทอดพระเนตรสภาพภูมิประเทศ ก่อนจะมีพระราชดำริ และพระราชทานแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาพัฒนาต่อไป

แต่ยังมีพระราชกรณียกิจอีกประการหนึ่งที่สำคัญ และทรงเอาพระราชหฤทัยใส่มาตลอดพระชนมชีพ นั่นคือ กิจการด้านการศึกษา ดังปรากฏว่าพระองค์เสด็จไปในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตในหลายสถาบัน พระราชทานทุนแก่นักเรียน นักศึกษา จำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังทรงห่วงใยในกลุ่มคนที่ไม่มีโอกาสได้เข้าสู่ระบบการศึกษาด้วย และมีพระราชกระแสรับสั่งให้ทดลองเปิดการเรียนการสอนในรูปแบบที่ต่างออกไป โดยมีพระราชกระแสเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘

โรงเรียนนอกระบบตามพระราชดำรินั้น แตกต่างจากโรงเรียนในระบบโดยสิ้นเชิง กล่าวคือ ให้โอกาสอย่างเต็มที่แก่ผู้ด้อยโอกาส ไม่กำหนดพื้นความรู้ขั้นต่ำ เพศ วัย และศาสนา รวมทั้งให้อยู่ประจำในโรงเรียนจนกว่าจะเรียนจบ โดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน ที่พัก และอาหารวิธีการและกระบวนการสั่งสอนก็แตกต่างจากโรงเรียนในระบบ โดยจะใช้การประสิทธิ์ประสาทศิลปวิทยาแบบ "พระดาบส" ในสมัยโบราณ พระดาบสเป็นผู้ทรงศีลถึงพร้อมด้วยความรู้และเมตตาที่จะถ่ายทอดให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ศิษย์ต้องมีความพอใจอยากเรียน อ่อนน้อม และเต็มใจปรนนิบัติท่าน เกิดสัมพันธภาพงดงามระหว่างครูและศิษย์ และเป็นหนทางที่ศิษย์จะได้เรียนรู้การงานอาชีพควบคู่ไปกับความดีงาม ทรงเชื่อว่าในบ้านเมืองเรามีผู้ทรงความรู้และมีจิตใจดีอยู่มากที่จะทำหน้าที่พระดาบสเพื่อให้ศิษย์มีวิชาชีพเลี้ยงตนได้และเป็นผู้มีศีลธรรม มีนำใจช่วยเหลือส่วนรวมได้

โรงเรียนช่างแบบนอกระบบนี้เป็นนวัตกรรมการศึกษาของไทยที่ก้าวล้ำไปกว่าภาครัฐและยังไม่มีกฎหมายรองรับการจัดตั้งขึ้นเป็น “โรงเรียน” ทรงแก้ไขอุปสรรคโดยการจัดตั้งเป็น “โครงการทดลอง” เล็ก ๆ เสียก่อน สอนผู้เรียนไม่เกิน ๗ คน ไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย เรียกโครงการพระดาบสในความอุปถัมภ์ของมูลนิธิอานันทมหิดล พระราชทานเงินที่มีผู้โดยเสด็จพระราชกุศลในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๔๘ พรรษา วันที่ ๕ ธันวาคมพ.ศ. ๒๕๑๘ จำนวน ๒,๕๗๒,๐๐๐ บาทเพื่อใช้ในการดำเนินโครงการ

ดร. เชาวน์ ณศีลวันต์ อดีตองคมนตรีในรัชกาลที่ ๙ ได้ถ่ายทอดพระราชกระแสเกี่ยวกับโครงการนี้ว่า ไม่จำกัดเฉพาะอาชีพช่าง “…อยากให้ใครเข้ามาเรียนอะไรก็ได้ ในที่สุดจะให้เป็นมหาวิทยาลัยแต่ตอนต้นจะให้เป็น pilot project เล็ก ๆ ก่อน…”

สำนักพระราชวังเช่าที่ดินบริเวณหัวมุมถนนสามเสนตัดกับถนนศรีอยุธยา จำนวน ๑ ไร่ ๒๔๒.๘๗ ตารางวา จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในอัตราปีละ ๑๘๕ บาท เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักพระดาบส ในบริเวณมีบ้านไม้เก่า ๒ หลัง เลขที่ ๓๘๔ และ ๓๘๖ ถนนสามเสน เดิมเป็นบ้านพักผู้แทนราษฎร อยู่ในสภาพทรุดโทรม น้ำท่วมขัง ต้องซ่อมแซมบูรณะใหม่ จัดเป็นอาศรมมีที่พัก ที่สอน ที่เรียนปรับปรุงโรงรถให้เป็นห้องปฏิบัติการ ปีแรก มีผู้มาสมัครเรียน ๑๒ คน แต่บางคนไม่ได้ตั้งใจจริง คณะทำงานพิจารณาร่างโครงการจัดตั้งโรงเรียนวิชาช่างคัดเลือกไว้ ๖ คน ส่วนใหญ่เป็นลูกชาวนา มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด ความรูพื้้นฐาน ป.๗ - ม.๕ อายุ ๑๖ - ๓๓ ปี เข้าเรียนหลักสูตรช่างไฟฟ้า - วิทยุเบื้องต้น เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ต่อมาขยายเป็นช่างวิทยุชั้นสูง พ.ต.อ. เฉลิม สุขนพรัตน์ ผู้ชำนาญการช่างวิทยุ เกษียณราชการจากกรมตำรวจทำหน้าที่พระดาบส ต่อมาได้ถึงแก่กรรม พล.ต.ต.
สุชาติ เผือกสกนธ์ จึงเข้ามารับหน้าที่แทน มีพระดาบสอาสาร่วมอีก ๔ คน ล้วนเต็มใจเป็นอาสาสมัครไม่รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนอื่นใด พล.ต.ต. สุชาติ ได้เล่าต่อถึงเหตุผลที่ทรงเลือกวิธีการถ่ายทอดศิลปวิทยาแบบพระดาบสว่า

“…ใช้หลักการอย่างที่พระองค์รับสั่งว่าสอนแบบที่เหมือนกับสอนคนในบ้าน ท่านรับสั่งว่าในปัจจุบันครูกับนักเรียนมันห่างกันนักเรียนมักถือว่าครูเป็นลูกจ้าง คือการปฏิบัติตนระหว่างลูกศิษย์กับครูไม่เคารพกันที่เราใช้วิธีการนี้มันก็จะทำให้ช่องว่างระหว่างครูบาอาจารย์กับนักเรียนมันใกล้เข้ามาเด็กไม่ต้องไปหาวิชาที่อื่น เรียนกันอยู่ในบ้านเรียนกันอยู่ในครอบครัว…”

ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับการตั้งโครงการพระดาบสนั้น ประจวบเวลากับที่ภาครัฐได้เริ่มต้นพัฒนาการศึกษาสายอาชีพของประชาชนวัยแรงงานและกลุ่มเยาวชนนอกโรงเรียน พัฒนารากฐาน “การศึกษาผู้ใหญ่” จัดตั้งกรมการศึกษานอกโรงเรียน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ และออกระเบียบกรมการศึกษานอกโรงเรียน ว่าด้วยการดำเนินงานโรงเรียนผู้ใหญ่ พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นฉบับแรก จึงเกิดโรงเรียนผู้ใหญ่สายอาชีพขึ้น การสอนในโครงการพระดาบสสอดคล้องกับ “กลุ่มผู้สนใจ” ตามระบบการศึกษานอกโรงเรียนของทางราชการ ต่อมาเมื่อมีการออกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาในสถานศึกษาสังกัดกรมการศึกษานอกโรงเรียน พ.ศ. ๒๕๓๑ โครงการพระดาบสได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็น โรงเรียนผู้ใหญ่พระดาบส เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๒ รับศิษย์รุ่นละประมาณ ๓๐ คน เป็นอันสิ้นสุดโครงการทดลองอันยาวนานถึง ๑๔ ปี อย่างเป็นทางการเป็นการรับรองสัมฤทธิผลแห่งนวัตกรรมการศึกษานี้ ต่อมาโรงเรียนจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนพระดาบส ในพุทธศักราช ๒๕๕๐

พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดลุยเดชมการาช บรมนาถบพิตรพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ดำเนินการขอจัดตั้งมูลนิธิพระดาบส เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานอย่างมั่นคงต่อไปโดยได้จดทะเบียนเป็นมูลนิธิเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ และมีพระมหากรุณาธิคุณดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงช่วยเหลือดูแลโครงการพระดาบสมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๐ ทรงดำรงตำแหน่งรองประธานกิตติมศักดิ์ หม่อมหลวงจิรายุ นพวงศ์ องคมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการ ประกอบด้วย พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ คุณหญิงวัลลีย์ พงษ์พานิช นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา นายแก้วขวัญวัชโรทัย และ พล.ต.ต. สุชาติ เผือกสกนธ์

โรงเรียนพระดาบสที่มีรากฐานจากโครงการพระดาบส ใน พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้ดำเนินการต่อเนื่องอย่างมีเอกลักษณ์ตามแนวพระราชดำริตลอด ๔ ทศวรรษ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง โครงการลูกพระดาบส ที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑ และโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อพ.ศ. ๒๕๕๓ ที่จังหวัดยะลา ก่อเกิดคุณูปการแก่ผู้ด้อยโอกาสและบ้านเมืองของเราอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนี้มีศิษย์เรียนจบแล้วทั้งสิ้นจากทั้ง ๒ โรงเรียนนับพันคน ส่วนใหญ่มีงานทำ ประกอบอาชีพได้จริง และรู้จักดำรงวิถีชีวิตที่ดีงาม

ปัจจุบัน มูลนิธิพระดาบส ย้ายไปอยู่เลขที่ ๙๙/๙ หมู่ ๑๔ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับมูลนิธิพระดาบสไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์สืบต่อจากสมเด็จพระบรมชนกนาถ และทรงเป็นองค์ประธานกิตติมศักดิ์ มีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นรองประธานกิตติมศักดิ์

เรื่อง : อัครเดชเทเวศร์นฤมิต

#พระมหากรุณาธิคุณ
#รัชกาลที่เก้า
#การศึกษานอกระบบ
#สรรพวิชา
#พระดาบส
#ศิษย์พระดาบส
#เรียนฟรี
#มีวิชา
#พัฒนาคน
#พัฒนาชาติไทย
#ร่วมภาคภูมิใจ
#เจริญกรุง

ที่อยู่

Bangkok

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เจริญกรุงผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์