
01/11/2025
หมีบุกหมู่บ้านคนในฮอกไกโดไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สัมพันธ์กับยุคไทโช
โศกนาฏกรรมหมีกินคนแห่งซังเกะเบ็ตสึ ฮอกไกโด ปี 1915
หมีสีน้ำตาล “เคสะกะเกะ” บุกหมู่บ้านกลางหิมะ กัดกินผู้คนเสียชีวิตรวม 8 ราย ถูกขนานนามว่าเป็นโศกนาฏกรรม “หมีกินคนร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น”🐻
อาจจะเนื่องจากการรุกล้ำถิ่น ขาดอาหารจึงมาหาข้าวโพดกิน
ทุกวันนี้มีอนุสรณ์สถานเตือนใจถึงอันตรายของมัน
เรื่องราวไทม์ไลน์ : ได้มีหมีสายพันธุ์ Ezo brown bear (หมีสีน้ำตาลเอโซะ) ตัวผู้ ขนาดใหญ่ (ประมาณ 340 กก. สูง 2.7 ม.) ถูกเรียกว่า “เคสะกะเกะ” (Kesagake) เพราะมีลายสีขาวเฉียงจากไหล่ถึงลำตัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์จำตัว. 
หมีตัวนี้เริ่มจากการขโมยข้าวโพดและของกินของมนุษย์ จากนั้นถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และต่อมาเริ่มโจมตีบ้านเรือนผู้ตั้งถิ่นฐาน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ. 
ในช่วงวันที่ 9–14 ธันวาคม หมีได้บุกเข้าไปในบ้านหลายหลังในหิมะและกลางคืน แล้วโจมตีคนในบ้านอย่างโหดเหี้ยม
มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บอีก 3 รายในช่วงเวลานั้น. 
ตัวอย่างเหตุการณ์: มีผู้หญิงท้องคนหนึ่ง (ชื่อ “ทาเคะ”) ถูกโจมตีและตายในบ้าน โดยตามคำบอกกล่าวเธอร้องขอว่าอย่าแตะที่ท้องของเธอ แต่ “ให้กินหัวของเธอแทน” เพื่อให้ลูกในท้องอยู่รอด เป็นภาพสะเทือนใจ. 
ต่อมาเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้รวมตัวเหมือนล่าสัตว์ และในวันที่ 14 ธันวาคม ในที่สุดก็สามารถยิงหมีจนสิ้นลมไปในป่าได้สำเร็จ
หมู่บ้านโรคุเซ็นซะวะหลังเหตุการณ์ถูกร้าง คนส่วนใหญ่ย้ายออกไป อดีตกลายเป็น “เมืองร้าง” จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงมีครอบครัวย้ายกลับมาตั้งถิ่นฐานใหม่. 
มีการสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตและเหตุการณ์นี้. 
เรื่องนี้ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรม ภาพยนตร์ และสื่ออื่นๆ ในญี่ปุ่นเช่น Demon Slayer : Infinity Castle (ดาบพิฆาตอสูร ปราสาทไร้ขอบเขต)
เป็น“บทเรียน”เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับสัตว์ป่าและผลของการบุกรุกถิ่นของสัตว์
ปัจจุบัน ประชากรหมีในฮอกไกโดเพิ่มจำนวนมากจนต้องขอร้องให้พรานล่าทำเนื้อหมีกระป๋องมากขึ้น
#ญี่ปุ่น #ประวัติศาสตร์ #หมีกินคน #เรื่องจริงสุดหลอน #เคสะกะเกะ