News Creator Thai สื่อสารทุกภารกิจ ถูกต้องตามกฎหมาย และสร้างสรรค์สังคม

ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘วันคล้ายวันประสูติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีกรมหมื่นสุทธนารีนาถควรมิควรแล้วแ...
13/07/2025

ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ

๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๘

วันคล้ายวันประสูติ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี
กรมหมื่นสุทธนารีนาถ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้า คณะทำงาน นิวส์ครีเอเตอร์ไทย 🙏

POLITICS VOICE : ‘ไผ่ ซัด รักชนก ‘ เป็นเหตุม็อบชาวกำแพงเพชร บุกศูนย์ ปชน. โวยพาดพิงงบพัฒนา เล่นการเมืองจนได้เรื่อง ไม่คิ...
12/07/2025

POLITICS VOICE : ‘ไผ่ ซัด รักชนก ‘ เป็นเหตุม็อบชาวกำแพงเพชร บุกศูนย์ ปชน. โวยพาดพิงงบพัฒนา เล่นการเมืองจนได้เรื่อง ไม่คิดเคลียร์ขอจับเข่าคุยกับคนรู้เรื่อง ย้ำให้ชาวกำแพงเพชรมั่นใจไม่ถูกเบรกทำฝาย-ถนน

วันที่ 12 ก.ค. 2568 ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จังหวัดชลบุรี นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีชาวบ้านไปร้องที่ศูนย์ประสานงานพรรคประชาชน จ.กำแพงเพชร กรณีที่ นส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ออกมาร้องเรื่องการใช้งบประมาณ จ.กำแพงเพชร ว่า ตนเพิ่งได้ทราบเมื่อเช้าว่ามีชาวบ้านจำนวนมากไปที่ศูนย์ประสานงานพรรคประชาชน ตนอยู่ที่งานตั้งแต่เมื่อวาน (11 ก.ค.) เพิ่งทราบข้อมูล เท่าที่ฟังได้รับการร้องเรียน พวกเขาเป็นห่วงเรื่องงบประมาณหลายภาคส่วน รวมถึงถนน และการช่วยเหลือ ไม่ใช่แค่กระทรวงเกษตรฯ เท่านั้น และเป็นห่วงว่าจะมาตัดงบพวกเขาหรือไม่ จะเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่พวกเขารอคอยมานาน นส.รักชนก อาจจะไม่ทราบว่ากว่าจะได้ฝายหนึ่ง ตนเข้ามาเป็น สส. สมัยแรกเกือบ 20 ปี ตนทำมาตลอด ต้องผ่านการหลายขั้นตอน แต่พอมาพูดแบบนี้ทำให้ชาวบ้านไม่สบายใจ รวมถึงถนนกำแพงเพชรที่พังและทรุดโทรม ยังมีอีกหลายเรื่อง ชาวบ้านเริ่มเป็นห่วงจึงมาแสดงออก

เมื่อถามว่า การที่ นส.รักชนก มาพูดแบบนี้อาจจะทำให้โครงการต่างๆ ในการพัฒนา จ.กำแพงเพชร ต้องโดนตรวจสอบหรือโดนเบรกหรือไม่ นายไผ่ เผยว่า ตนต้องฝากเรียนประชาชนว่า ผมและทีมงานพรรคกล้าธรรมจะปกป้อง ทำให้ประชาชนชาวเกษตรกรจังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดต่างๆ ที่มี สส. มีผู้แทน และผู้สมัคร จะปกป้องให้เต็มที่ไม่ให้โดนตัด ไม่ต้องกังวล แต่ทุกอย่างเราทำภายใต้กฎหมาย ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราปกป้อง นี่เป็นสิ่งที่ต้องสมควรทำ

เมื่อถามว่า จะกลายเป็นการเมืองที่ไปกระทบกับปัญหาของประชาชนหรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า ต้องกระทบปัญหาประชาชนแน่ น้ำคือปัจจัยที่สำคัญ ถนนคือสิ่งสำคัญ รวมถึงที่ทำไว้เยอะ เป็นปัญหาแน่

การที่ประชาชนออกมาเรียกร้องให้ นส.รักชนก อยู่ในขอบเขต เขาได้ฟังเสียงสะท้อนในเขตที่เขาดูแลบ้างหรือไม่ นายไผ่ ย้ำว่า นี่เป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่ สส.คนหนึ่ง มายุ่งกับงบประมาณของ สส.อีกพื้นที่หนึ่ง ไม่เคยเกิดขึ้น ส่วนใหญ่ถ้าตรวจสอบได้ก็ต้องยกขึ้นว่าผิดตรงไหน แต่ไม่ใช่การกล่าวลอยๆ ไม่เคยมีปรากฏการณ์ ไม่เคยมีใครทำ

ส่วนจะมีการเคลียร์กับ นส.รักชนก หรือไม่นั้น ผมต้องคุยกับคนที่คุยรู้เรื่อง ต้องกลับไปคุยกับประชาชน ชาวบ้าน เพราะเขาลำบากที่ออกมา ก็ต้องรีบกลับไปทำความเข้าใจให้กับพ่อแม่พี่น้องที่ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ จะได้ในสิ่งที่เขารอคอย เราจะพยายามทำให้ดียิ่งขึ้น

POLITICS UPDATE :  ‘อัครา พรหมเผ่า‘ เปิดศูนย์ประสานงาน พรรคกล้าธรรม อ.ศรีราชา  จ.ชลบุรี ประกาศพร้อมเป็นที่พึ่งให้ชาวชลบุ...
12/07/2025

POLITICS UPDATE : ‘อัครา พรหมเผ่า‘ เปิดศูนย์ประสานงาน พรรคกล้าธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ประกาศพร้อมเป็นที่พึ่งให้ชาวชลบุรี ด้าน “ไผ่ ลิกค์” นำของขวัญงบกว่า พันล้านบาท พัฒนาเมือง EEC

วันที่ 12 ก.ค. 68 พรรคกล้าธรรม (กธ.) นำโดย นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ประสานงานพรรคกล้าธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม (กธ.) นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรค, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ รองหัวหน้าพรรค รวมถึง ส.ส.ของพรรค อาทิ นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก, นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี, น.ส.ณมาณิตา กลับบ้านเกาะ กก.บห.พรรคกล้าธรรม และผู้ช่วย รมว.เกษตรฯ นอกจากนี้ยังมี นางศรัณยา สุวรรณพรหม นายก อบจ.หนองบัวลำภู และ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย

นายอัครา กล่าวว่า ที่นี่ไม่ใช่ศูนย์ประสานเรื่องของพรรคการเมือง แต่เป็นสถานที่ของชาวจังหวัดชลบุรีทุกท่าน ที่สามารถมาร้องเรียนเรื่องราวและปัญหาต่าง ๆ ให้พรรคกล้าธรรมประสานแก้ไขให้ พรรคเราแม้จะเปิดตัวมาไม่นาน แต่กระแสและความนิยมเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะทุกคนในพรรคกล้าที่จะลงมือทำ กล้าที่จะเผชิญทุกปัญหา เช่นเดียวกับ ส.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ที่ตนชื่นชมในการทำงานอย่างมาก และวันนี้ก็ต้องขอบคุณ ส.ส.ที่มาเป็นสักขีพยานด้วย ทั้งนี้ พรรคกล้าธรรมขอต้อนรับชาวชลบุรีเข้าสู่ครอบครัวพรรคกล้าธรรม

ด้านนายไผ่ กล่าวว่า วันนี้ตนนำของขวัญจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งตนอยู่ในคณะอนุกรรมาธิการภายใต้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีหน้าที่ศึกษาการขับเคลื่อนแผนพัฒนาในพื้นที่ดังกล่าว และได้อนุมัติงบประมาณหลายพันล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาจังหวัดชลบุรีให้ประชาชนมีถนนดี ๆ ใช้ มีความปลอดภัยในโรงงาน และแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งตนไม่ได้ปรับลดงบประมาณของชาวศรีราชาเลย เพราะเห็นว่าจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาเพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ

“จากนี้ไป ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีบุคลากรของพรรคกล้าธรรมเข้าไปกำกับดูแล จะนำความเจริญในทุกด้านมาสู่ชาวศรีราชา โดยในวันนี้ท่านอัคราจะลงพื้นที่บริเวณสะพานปลาบ้านแหลมฉบัง เพื่อรับฟังปัญหาและพบปะประชาชนด้วยตนเอง อีกทั้งชาวศรีราชายังมี ส.ส.กฤษฎิ์ ที่คอยนำความเดือดร้อนไปบอกกล่าวในสภาฯ และถึงรัฐมนตรี เพื่อเร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด” เลขาธิการพรรคกล้าธรรม ระบุ

จากนั้น นายอัครา ได้ลงพื้นที่พบปะกลุ่มชาวประมงและรับฟังปัญหาในพื้นที่ ณ บ้านแหลมฉบังเก่า อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมกล่าวช่วงหนึ่งว่า ตนจะนำปัญหาในพื้นที่มาเขียนเป็นแผนโครงการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวประมง พร้อมพัฒนาต่อยอดโครงการให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำมีรายได้เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น โดยได้มอบหมายให้กรมประมงดูแลการออกแบบก่อสร้างหลังคาสะพานเทียบท่าเรือ และขยายเขื่อนกั้นคลื่นให้ออกไป 40 - 50 เมตร เพื่อให้เรือสามารถจอดเทียบท่าในช่วงน้ำลดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
#กล้าธรรมวันนี้ #เกษตรวันนี้ #อัคราพรหมเผ่า

POLITICS UPDATE : ‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ ประกาศบนเวที งานสัมมนา  สส.และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ DARE TO DO คนกล้าลงมือทำ “ผมคือค...
12/07/2025

POLITICS UPDATE : ‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ ประกาศบนเวที งานสัมมนา สส.และสมาชิกพรรคทั่วประเทศ DARE TO DO คนกล้าลงมือทำ “ผมคือคนบ้า กล้าทำ กล้าคิด สมัยหน้าต้องมี สส. 70” พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

วันที่ 11 ก.ค. 2568 ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จังหวัดชลบุรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวเปิดงานเสวนา สส.และสมาชิกพรรค หัวข้อ “DARE TO DO คนกล้า ลงมือทำ”

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่คิดว่าครอบครัวของเราโตไว มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองของจริง หลายคนถามว่าเรามาทำอะไรกัน หลายคนสงสัยว่าจะมีการเลือกตั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้หรือไม่ ตั้งแต่เช้าตนได้รับโทรศัพท์ว่าวันนี้พรรคกล้าธรรมทำอะไรที่พัทยา ตนตอบว่าเรามีความพร้อมที่สุดที่จะรับใช้ประชาชน ครอบครัวของเราเริ่มจากในสภา มีพี่น้อง สส. 4 คน ที่กล้าเข้าไปอยู่ในพรรคกล้าธรรม ทั้ง 4 คน ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตพรรคกล้าธรรมจะไปถึงไหน แต่เมื่อนำร่องแล้วก็ตามมาอีก 20 คน และตามมาเรื่อยๆ อย่างที่หัวหน้าพรรคได้กล่าวไว้ ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดี แม้หัวหน้าพรรคไม่อยู่ แต่เรามีผู้หลักผู้ใหญ่ มึประธานยุทธศาสตร์พรรค เลขาธิการพรรค และรัฐมนตรีทั้งสองคน“

”ตนอยากฝากความเชื่อมั่นให้ทุกคนที่มาวันนี้ ได้พูดปากต่อปากที่เรามีตัวแทนทั้ง 77 จังหวัด ครอบครัวของเราสมบูรณ์ ไม่กล้ามีพรรคไหนจัดเหมือนพรรคกล้าธรรม ทำให้ดี ทำให้เวอร์ไว้ก่อน พรรคนี้คนปกติอยู่ไม่ได้ เพราะคนปกติที่คิดมาก ฉลาดมาก ละเอียดมาก อยู่ไม่ได้ เพราะพรรคนี้จะเป็นพรรคที่กล้า กล้าทำเพื่อประชาชน“

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า พวกเราไป จ.สกลนคร มีคนถามว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ จะเป็นอย่างไร เพราะเป็นมือใหม่ จะทำอะไรให้เกษตรกร ตนอยู่กระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่ปี 62 ไม่ต้องอ่านสคริป รู้ว่าจะตอบชาวบ้านอย่างไร ”เวลาพูดแล้วคำพูดคือนายผม พูดแล้วต้องรับผิดชอบ พูดแล้วต้องทำให้ได้ พี่น้องข้าราชการสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ต้องสยบ ต้องเกรงใจ ทำงานด้วย ให้เราด้วยหัวใจ ใช้หัวใจใส่สมอง ทำงานไม่ใช่ให้สมองสั่งใจ“ เวลารัฐมนตรีเกษตรฯ ไปตรวจราชการ ปลัดอธิบดี เขาจะเดินตาม เขาให้ใจ “ครอบครัวกล้าธรรม กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ จนถึงปัจจุบันก็ยังดูแลอยู่ สิ่งไหน อย่างไหนที่รับปากชาวบ้านแล้วเราทำ” พี่น้องถามว่าจะมีมาตรการอะไรดูแลชาวนาที่เวลานี้เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า จ.สกลนครน้ำท่วมทั้งจังหวัดต้นกล้าตายทั้งหมด นี่คือเรื่องละเอียดอ่อนที่เราต้องทำ คนฐานรากคือคนส่วนใญ่ของประเทศ ถ้าฐานรากอ่อนแอประเทศก็เข้มแข็งไม่ได้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ปรึกษาก่อนว่าจะเดินหน้าอย่างไร จะใช้นโยบายอย่างไร

ดังนั้น อย่ามองว่าประเทศไทยจะเจริญมั่นคงด้วยอุตสาหกรรม ตนพูดทุกเวทีว่า จีดีพีรวมของประเทศ มองภาคอุตสาหกรรมมากเกินไป พอย้ายฐานการผลิตเราก็ดิ่งลงเหว หากฐานรากไม่มีหนี้ก็จะทำให้จีดีพีขึ้น “ตนในฐานะกูรู ผู้ที่คลุกคลีกับเกษตรกร วันนี้ในการประชุมทีมไทยแลนด์ กับทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ก็เชิญตนไปคุยภาษีทรั้มป์ ที่บ้านพิษณุโลก และตนก็เป็นคนพูดเยอะที่สุด ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแต่ตนรู้เยอะ รู้มาก คลุกคลีกับความเป็นจริงของเกษตรกรคนฐานราก พูดว่าเราจะรับปากใครไม่ได้ เกษตรกรตายหมด แต่บางสินค้าไม่กระทบกับเรา ไม่เกี่ยวกับเกษตรกร ให้นำเข้ามาเลย ไม่ใช่อาชีพหลักของเรา แต่ถ้าเป็นหมูเห็ดเป็ดไก่วัว นำเข้ามาก็เจ๊ง เกษตรกรจะอยู่อย่างไร ที่เรากลัวแล้วไปแก้ผ้าให้เขาเอาอย่างเวียดนาม เจอไป 20% สหรัฐฯ ไม่ลดให้ ถ้าคนรู้จริงจะกล้าพูดว่าทำไม่ได้

ร.อ.ธรรมนัส เผยว่า การเจรจาบ้านพิษณุโลกวันนี้ ไม่ให้ใครยอมทุกเรื่อง การตกลงท้ายที่สุดจะจบที่สภา ถ้าสภาไม่เห็นชอบต่อสนธิสัญญาเหล่านี้ก็พับไป ทุกอย่างให้จบที่สภา “พรรคกล้าธรรม ต้องกล้าคิด ต้องเอาความคิดไปสู่การปฏิบัติให้เกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ของประเทศ คือคนฐานราก”

นอกจากนี้ เรามี สส. อย่างไม่เป็นทางการ 30 กว่าชีวิต วันนี้เราได้แค่นี้ การเลือกตั้งครั้งต่อไปตนเชื่อว่าเจ้าที่เจ้าทาง เพราะสมัยที่พรรคพลังประชารัฐ มี สส. 121 คน พอย้ายไปตึกนายสันติ พร้อมพัฒน์ เหลือ 40 คน และตอนนี้เหลือ 18-19 คน ไม่รู้จะมาอีกเมื่อไหร่ ที่นี่ทำเลดี เป็นชัยภูมิดี ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคกล้าธรรมจะมากกว่า 70 ชีวิต สิ่งสำคัญที่สุด ผู้แทนแต่ละจังหวัดของพรรคกล้าธรรมมีความพร้อมทุกเรื่อง นโยบายดีๆ ที่กำลังจะวางยุทธศาสตร์ ตนเชื่อว่าที่ น.อ.อนุดิษฐ์ อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่คนธรรมดา เป็น สส.กี่สมัย มาเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค จะนำเรื่องนโยบาย ตนไม่มีความกังวล

“ตนเป็นคนบ้า จะนำพาให้ชนะการเลือกตั้ง การเลือกตั้งที่จังหวัดนครศรีธรรมราชครั้งที่ผ่านมา ตนไปวันแรกกลับมาเอามือก่ายหน้าผากตัวเองแล้วคิดว่าแพ้แน่ เหนื่อย เพราะเขาจ่ายน้ำลงไปแต่ละบ้าน แต่เราไม่ทำเลย เขามีความพร้อมทุกอย่าง ไม่ใช่ยิงกระสุน แต่เราไม่มีความพร้อม ตนใช้เวลาตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน มีเวลา 10 วัน เราชนะ อย่างนี้เราธรรมดาไหมล่ะ ถ้าเป็นมวยเราเป็นรอง แล้วเจอความบ้าของธรรมนัส เจอความบ้าของหลายคน เราชนะเป็น 10,000”

ร.อ.ธรรมนัส ย้ำด้วยว่า หลายคนที่นั่งอยู่ตรงนี้คิดถูกแล้วที่เดินเข้ามาสู่ครอบครัวพรรคกล้าธรรม วันนี้เรามีตั้งแต่ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา กระบี่ พังงาถล่มแน่ ไม่ดูสภาพตัวเองเลยว่าเนี่ยหรอเป็นผู้นำ ยังขอตังค์ผมใช้อยู่เลย นราธิวาสเรามีความพร้อมที่สุด ส่วนนราธิวาสทั้ง 5 เขต ถ้าไม่มาในเที่ยวหน้า ตกงาน ฝากไปถึงสันติด้วยว่า เพชรบูรณ์ 6 เขต อย่าคิดว่าไม่กล้า

สำหรับภาคตะวันออก ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี แปดริ้ว ขอมอบให้ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลภาคตะวันออก เฟ้นหาผู้สมัคร

ส่วนภาคอื่นเรามีความพร้อม ภาคเหนือตนกำกับดูแลเอง ไม่ต้องห่วงสมัยหน้าตนไม่ลงแค่ 2 เขตจะให้นายอัครา พรหมเผ่า ซึ่งเป็นน้องชายลงแทน แล้วตนเอง จะไปลุยกับทุกคนทุกจังหวัด

“วันนี้วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ประกาศเลยว่า พรรคกล้าธรรมคือพรรคที่มีความพร้อม กล้าคิด กล้าทำ เพื่อพี่น้องประชาชน”

ร้อยเอกธรรมนัส ยังระบุว่า ด้วยความดังที่กล่าวมาแล้ว ตนมั่นใจว่าจะนำพรรคกล้าธรรม ในสมัยหน้าเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน

#การเมืองวันนี้ #กล้าธรรมวันนี้ #ธรรมนัสพรหมเผ่า

POLITICS UPDATE : “พรรคกล้าธรรม” สัมมนา คนกล้า(ลงมือ)ทำ “อนุดิษฐ์” ประกาศ นำทัพฝ่าวิกฤตศรัทธาการเมืองไทย ชู ภารกิจยกระดั...
11/07/2025

POLITICS UPDATE : “พรรคกล้าธรรม” สัมมนา คนกล้า(ลงมือ)ทำ “อนุดิษฐ์” ประกาศ นำทัพฝ่าวิกฤตศรัทธาการเมืองไทย ชู ภารกิจยกระดับพรรคสู่สถาบันการเมือง ยัน ไม่ใช่ไม้ประดับ แต่เป็นพลังที่กล้าทำและทำจริง มั่นใจ พร้อมส่งผู้สมัครครบทุกเขต เลือกตั้ง 70

วันที่ 11 ก.ค. 2568 ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จังหวัดชลบุรี พรรคกล้าธรรม(กธ.)จัดงานสัมมนา DARE TO DO คน "กล้า (ลงมือ) ทำ" นำโดย ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม โดยมีกรรมการบริหารพรรค สส. และสมาชิกพรรคกล้าธรรม อาทิ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา,นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรค, นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก,นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี,นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส,นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส ,นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี ฯลฯ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

โดย น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม (กธ.)ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์และทิศทางของพรรคกล้าธรรมในฐานะพรรคทางเลือกใหม่ของประชาชน พร้อมเปิดใจถึงจุดยืน อุดมการณ์ และความตั้งใจที่จะยกระดับพรรคการเมืองให้เป็น “สถาบันทางการเมือง” ที่ประชาชนสามารถพึ่งพาได้อย่างแท้จริงในช่วงที่บ้านเมืองกำลังเผชิญวิกฤตความไม่เชื่อมั่น และสูญญากาศทางการเมือง

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตศรัทธาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลให้ประเทศเข้าสู่ภาวะสูญญากาศ การขาดเสถียรภาพ และความไม่มั่นใจทางเศรษฐกิจและสังคม พร้อมระบุว่า นี่คือ ช่วงเวลาแห่งความรับผิดชอบที่พรรคกล้าธรรมต้องแสดงบทบาทให้ประชาชนเห็นว่าคือ ทางเลือกที่จริงจัง ไม่ใช่เป็นเพียงพรรคเล็กหรือพรรคเฉพาะกิจ โดยเราต้องยืนหยัดให้ได้ในวันที่สังคมสับสน และเมื่อพายุโหมกระหน่ำ เราต้องเป็นร่มเงาให้ประชาชน

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อถึงเหตุผลในการเข้าร่วมพรรคกล้าธรรมว่า เป็นเพราะหัวใจตรงกันกับผู้บริหารพรรค โดยเฉพาะแนวคิดที่ว่า “ไม่มีเขา ไม่มีเรา ไม่มีรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน มีแต่ประชาชน” ซึ่งเป็นแนวคิดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนตามหามาทั้งชีวิตการเมือง

“พรรคกล้าธรรม ไม่ใช่พรรคที่ยึดติดกับภาพลักษณ์ ไม่ได้เล่นการเมืองบนเวทีโซเชียลหรือปราศรัยเพื่อคะแนนนิยม แต่คือพรรคที่ “กล้าทำ และทำจริง” โดยลงพื้นที่จริง รับฟังประชาชนจริง และผลักดันการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเราจะไม่เป็นแค่พรรคที่ดีแต่พูด แต่เราจะเป็นพรรคที่ลงมือทำ และทำให้เห็น” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุถึงบทบาทประธานยุทธศาสตร์พรรคว่า บทบาทของตนไม่ใช่เพื่อความสง่างามทางตำแหน่ง แต่คือ ภาระและหน้าที่ในการวางรากฐานยุทธศาสตร์พรรค สร้างระบบการทำงานที่แก้ปัญหาให้ประชาชนได้จริง โดยจับมือกับทีมปฏิบัติการที่แข็งแกร่ง เช่น นายการุณ โหสกุล ผู้ช่วยประธานยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นกำลังหลักในภาคสนาม เพราะถ้ามีฝ่ายบุ๋น ก็ต้องมีฝ่ายบู๊ พรรคเรามีทั้งมือซ้ายและมือขวา และพร้อมบินฝ่าพายุไปด้วยกัน

ส่วนการวางแผนสำหรับการเลือกตั้งปี 2570 นั้น น.อ.อนุดิษฐ์ เปิดเผยว่า พรรคกล้าธรรมจะส่งผู้สมัครครบทุกเขตในการเลือกตั้งปี 2570 แต่ไม่ใช่การส่งคนเพียงเพื่อแสดงสัญลักษณ์ แต่จะเฟ้นหาผู้แทนที่พร้อมอุทิศตนเพื่อประชาชน เป็นผู้แทนที่ เก่ง มีใจ และมีจริยธรรม โดยเป้าหมายของพรรคคือการยกระดับจาก พรรคการเมืองทั่วไป ไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืน และมีบทบาทจริงในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการกล่าวบนเวที น.อ.อนุดิษฐ์ ได้ยกมือชูขึ้น และขอให้ กก.บห , สส.และสมาชิกพรรคกล้าธรรม ยกมือขึ้น เพื่อแสดงสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือ พร้อมประกาศคำมั่นว่า พรรคกล้าธรรมจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราจะตื่นมาทุกวันเพื่อหาทางออกให้ประชาชน สร้างความเชื่อมั่น และเพื่อทำงานอย่างเต็มพลัง ด้วย DNA ของคนกล้าธรรม
#การเมืองวันนี้ #กล้าธรรมวันนี้

AGRICULTURE UPDATE : 2 รมต.เกษตรฯ ควง “ธรรมนัส” ลงพื้นที่ “สกลนคร-ร้อยเอ็ด” Kick off โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวข...
10/07/2025

AGRICULTURE UPDATE : 2 รมต.เกษตรฯ ควง “ธรรมนัส” ลงพื้นที่ “สกลนคร-ร้อยเอ็ด” Kick off โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย พร้อมปล่อยคาราวานรถ แจกปัจจัยการผลิตกว่า 200 ตัน

วันที่ 10 ก.ค. 2568 ณ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวสกลนคร ตำบลม่วงไข่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ลงพื้นที่เปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน ปี 2568 พร้อมปล่อยขบวนคาราวานรถจำนวน 100 คัน ที่ขนปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ประกอบด้วย ปุ๋ยเคมี จำนวน 200 ตัน สารชีวภัณฑ์ จำนวน 1,200 กิโลกรัม และปุ๋ยชีวภาพน้ำ 1,200 ลิตร เพื่อเตรียมนำไปมอบให้แก่เกษตรกรที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดสกลนคร

โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศูนย์ข้าวชุมชนให้มีศักยภาพผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ให้เพียงพอต่อความต้องการของชุมชนและพื้นที่ให้บริการและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีการผลิตข้าวให้มีคุณภาพดี และการใช้ปัจจัยในการผลิตข้าวให้ได้ประสิทธิภาพเหมาะสมและถูกต้อง

จากนั้นได้เดินทางไปเปิดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน ปี 2568 ณ ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวร้อยเอ็ด เพื่อมอบปัจจัยการผลิตให้เกษตรกร พร้อมปล่อยขบวนคาราวานรถจำนวน 100 คัน ที่ขนปัจจัยการผลิตทางการเกษตรด้วย

"จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานสำรวจความเดือดร้อนของเกษตรกร เพื่อให้รัฐบาลสนับสนุนงบกลางมาช่วยเหลือเยียวยาให้กับพี่น้องเกษตรกร ทำให้เกิดงานในวันนี้ขึ้น เพื่อมอบปัจจัยที่มีความจำเป็น ซึ่งจะเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร อีกทั้งกระทรวงเกษตรฯ ยังนำเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และชีวพันธุ์คุณภาพดีที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไรให้สูงขึ้น พร้อมสนับสนุนเทคโนโลยี เครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อให้มีความแม่นยำในการทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยในระยะเร่งด่วน คือ การเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ของเกษตรกรให้เร็วที่สุด จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ พร้อมทั้งให้สานต่อโครงการในพระราชดำริที่ยังไม่แล้วเสร็จหรือยังไม่ริเริ่ม เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างยั่งยืนต่อไป" นายอรรถกร กล่าว
#เมล็ดพันธุ์ข้าว #เกษตรวันนี้

AGRICULTURE UPDATE :  “รมช.อัครา” ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลานิลแปลงใหญ่” จ.ชลบุรี ยกเป็นต้นแบบ...
09/07/2025

AGRICULTURE UPDATE :
“รมช.อัครา” ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงปลานิลแปลงใหญ่” จ.ชลบุรี ยกเป็นต้นแบบ "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" สร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน

วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลอ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี พร้อมปล่อยลูกปูม้าคืนสู่ทะเล เพื่อช่วยฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล โดยมี ดร.ณมาณิตากลับบ้านเกาะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายธนสาร ธรรมสอน เลขานุการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวอิงอร ปัญญากิจผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประเทศ ซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง นายอดิเรก อุ่นโอสถ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่ส่วนจังหวัด เข้าร่วม ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลานิลแปลงใหญ่ ต.ท่าข้าม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เพื่อนำผลสำเร็จของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลานิลไปขยายผลต่อในพื้นที่ทำประมงในพื้นที่ภาคเหนือ

รมช.อัครา กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลานิลแปลงใหญ่ตำบลท่าข้าม เป็นตัวอย่างในการสร้างรายได้ ให้ชุมชนในพื้นที่อื่น ซึ่งมีศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยการเลี้ยงปลาแบบลดต้นทุนด้วยการใช้สวิงแขวน การสร้างอาหารธรรมชาติการเลี้ยงปลาแบบผสมผสาน เพื่อควบคุมปริมาณอาหาร ลดปัญหาน้ำเสีย สร้างการเลี้ยงปลาแบบ Zero Waste และมีการสร้างสถานีพลังงานชุมชนวิสาหกิจชุมชนปลานิลแปลงใหญ่ตำบลท่าข้าม รวมถึงระบบตรวจวัดติดตามแจ้งเตือนค่าออกซิเจน และสถานีตรวจวัดอากาศเหนือบ่อเพาะเลี้ยง ผ่านแอปพลิเคชั่น เพิ่มการเลี้ยงปลาด้วยเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสร้างปลาแปรรูปเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน ถือเป็นชุมชนตัวอย่าง ที่ควรนำองค์ความรู้ไปขยายสู่ชุมชน เกษตรกรผู้ทำประมงให้เกิดรายได้อย่างมั่นคง โดยการผลักดันให้ทำเกษตรแปลงใหญ่ และเสริมด้วยนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ เพื่อให้เกษตรกรไทยมีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น

จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทางต่อไปยังธนาคารสัตว์น้ำกลุ่มประมงเรือเล็กหน้าวัดโกมุท อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี เพื่อมอบนโยบายให้กรมประมงส่งเสริมการสร้างอาชีพให้กลุ่มชาวประมงในพื้นที่โดยใช้นักวิจัยของกรมประมงศึกษาหาพันธุ์สัตว์น้ำที่เหมาะกับการเพาะเลี้ยงในพื้นที่ รวมถึงให้ชาวประมงทำงานร่วมกับศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดและน้ำเค็มของกรมประมงทดแทนการออกเดินเรือจับสัตว์น้ำตามฤดูกาล ที่กำลังถูกภาวะโลกร้อนทำให้การแพร่พันธุ์ของสัตว์น้ำลดลง จึงต้องร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติ และอาชีพประมงไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ รมช.อัครา ได้สนับสนุนให้กลุ่มประมงในพื้นที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและรวมกันเป็นกลุ่มประมงแปลงใหญ่ บูรณาการร่วมกับกรมประมงและส่วนจังหวัด ในการร่างโครงการที่ต้องการพัฒนาอาชีพและชุมชนในพื้นที่ ส่งผ่านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ ส.ส.ในพื้นที่นำไปเสนอในสภา ให้เกิดเป็นโครงการที่ชาวประมงต้องการขับเคลื่อนในพื้นที่ จนเกิดเป็นชุมชนเข้มแข็งอย่างแท้จริง
#เกษตรวันนี้ #ประมง

SOCIAL UPDATE : แสตมป์เซเว่นฯ พลิกโฉมสุขาให้เด็กไทย ทะยอยปรับปรุง “ห้องน้ำเพื่อน้อง” ทั่วไทยซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อ...
09/07/2025

SOCIAL UPDATE : แสตมป์เซเว่นฯ พลิกโฉมสุขาให้เด็กไทย ทะยอยปรับปรุง “ห้องน้ำเพื่อน้อง” ทั่วไทย

ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ยกระดับคุณภาพชีวิตเยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ "ห้องน้ำเพื่อน้อง” เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย "สร้างชุมชนอุ่นใจ" ที่แปลงพลังใจจากการบริจาคแสตมป์ของลูกค้าในโครงการ "บุญนิธิแสตมป์เซเว่นเพื่อสาธารณกุศลทุกภูมิภาค" ให้เกิดเป็นห้องน้ำปรับปรุงใหม่

ปัจจุบัน ห้องน้ำที่สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐานกว่า 135 แห่งทั่วประเทศ ได้ส่งมอบให้แก่โรงเรียนต่างๆ เพื่อส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี สร้างความมั่นใจในการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ ซีพี ออลล์ ยังคงเดินหน้าขยายการสนับสนุนไปยังโรงเรียนที่ขาดแคลนและประสบภัยพิบัติต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้การช่วยเหลือกระจายไปในวงกว้าง

ล่าสุด นายธานี ลิมปนารมณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ เป็นผู้แทนส่งมอบ "ห้องน้ำเพื่อน้อง" ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่แก่ 2 โรหงเรียนในจังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ โรงเรียนวัดหนองนาดงกวาง ซึ่งมีนักเรียน 216 คน (ระดับอนุบาลถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3) โดยปรับปรุงห้องน้ำ 2 อาคาร ทั้งชายและหญิง ด้วยการเปลี่ยนสุขภัณฑ์ที่ชำรุด ประตู กลอนประตู ซ่อมแซมกระเบื้องหลังคา และทาสีใหม่ เพื่อให้ถูกสุขลักษณะและเพียงพอต่อการใช้งานของนักเรียน อีกแห่งคือ โรงเรียนบ้านใหม่เจริญธรรม ที่มีนักเรียน 234 คน (ระดับอนุบาลถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3) ซึ่งได้รับการปรับปรุงห้องน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เพียงพอต่อการใช้งาน สร้างความสะดวกสบายให้แก่นักเรียนมากยิ่งขึ้น

​โครงการ "ห้องน้ำเพื่อน้อง" สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ ซีพี ออลล์ ในการร่วมพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน การส่งเสริมสุขอนามัยที่ดีในโรงเรียนถือเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้เยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

#เซเว่นเป็นที่พึ่งชุมชน #การศึกษาเริ่มต้นที่ห้องน้ำ

AGRICULTURE UPDATE : “อรรถกร-อัครา” ถกแผนรับมือลำไย ออกกระจุกตัวช่วง ก.ค.- ส.ค. ประสาน ”พาณิชย์ - แรงงาน” กระจายผลผลิตออ...
08/07/2025

AGRICULTURE UPDATE : “อรรถกร-อัครา” ถกแผนรับมือลำไย ออกกระจุกตัวช่วง ก.ค.- ส.ค. ประสาน ”พาณิชย์ - แรงงาน” กระจายผลผลิตออกตลาด พร้อมเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน

วันที่ 8 ก.ค. 2568 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการผลผลิตลำไยคุณภาพ ครั้งที่ 1/2568

โดย นายอรรถกร เปิดเผยว่า ในปี 2568 คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดสูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยผลผลิตจะออกกระจุกตัวในเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนสิงหาคม 2568 อาจทำให้ผลผลิตลำไยล้นตลาด และราคาตกต่ำ ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่สำคัญคือปัญหาขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวลำไยผลสดที่จะส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยว รวบรวม และกระจายผลผลิตออกจากแหล่งผลิต ซึ่งหากมีแนวทางการผ่อนปรน หรือมีมาตรการเป็นการเฉพาะให้เคลื่อนย้ายแรงงานจากภาคตะวันออกไปสู่ภาคเหนือให้มีความสะดวก โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย จะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเก็บเกี่ยว รวบรวม และกระจายผลผลิต จึงจำต้องต้องประสานการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงแรงงาน

#เกษตรวันนี้ #ลําไย

TOURISM UPDATE : ททท. เปิดตัวโครงการ "Let Me Be Your Journey”  รับอาสาสมัครคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างโมเมนต์แห่ง  การให้ แบ่งป...
07/07/2025

TOURISM UPDATE : ททท. เปิดตัวโครงการ "Let Me Be Your Journey” รับอาสาสมัครคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างโมเมนต์แห่ง การให้ แบ่งปันความสุขพาเด็กด้อยโอกาสท่องเที่ยว 3 เส้นทาง พัทยา-ชลบุรี-เขาใหญ่ ตลอดสิงหาคมนี้

วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "Let Me Be Your Journey” อย่างเป็นทางการ โดยมีนายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. เป็นประธานงานแถลงข่าวฯ และได้รับเกียรติจากผู้แทนจากหน่วยงานพันธมิตรเข้าร่วมงาน ณ SCB Next Tech ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร ททท. ตั้งใจ ชวนเหล่าอาสาสมัครคนรุ่นใหม่ 90 คน แบ่งฝันปันความสุข ร่วมทริปออกเดินทางอันแสนพิเศษเพื่อค้นพบความสุขจากการเป็น “ผู้ให้” นำพากลุ่มผู้ด้อยโอกาส 60 คน เปิดโลกกว้างและเปิดประสบการณ์ผ่านการท่องเที่ยวใน 3 เส้นทาง ได้แก่ พัทยา ชลบุรี และเขาใหญ่ ตลอดเดือนสิงหาคม 2568 ขณะนี้เปิดรับอาสาสมัครแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน - 15 กรกฎาคม 2568 ทางเว็บไซต์ www.letmebeyourjourney.com

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า ปี 2568 เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025 ที่เน้นกระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวผ่านการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิด "Grand Moment" ที่มีความหมายสำหรับนักท่องเที่ยว จึงได้จัดทำโครงการ Let Me Be Your Jouney ภายใต้แนวคิด “Moment of Giving” มุ่งสร้างประสบการณ์การเดินทางที่เปี่ยมด้วยคุณค่าและความหมาย ผ่านกิจกรรมจิตอาสาเชิงท่องเที่ยว ชวนอาสาสมัครคนรุ่นใหม่ 90 คน ร่วมเปิดมุมมองใหม่ของการท่องเที่ยว พร้อมค้นพบความสุขจากการเป็น “ผู้ให้” โดยการพาน้องผู้ด้อยโอกาส จำนวน 60 คน จาก มูลนิธิ Five for All, โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา-บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซ้ำซ้อน, โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ และมูลนิธิเพื่อเด็กพิการ ออกเดินทางเปิดโลกกว้างผ่านการท่องเที่ยวใน 3 เส้นทาง ตลอดเดือนสิงหาคม 2568

สำหรับเส้นทางการท่องเที่ยว จำนวน 3 เส้นทาง ประกอบด้วย

เส้นทางที่ 1 ชลบุรี : “ตะลุยชลบุรี เมืองนี้มีความตื่นเต้น” วันที่ 16 สิงหาคม 2568 พาน้อง ๆ ด้อยโอกาสและพิการทางสายตา จำนวน 20 คน ไปกระทบไหล่กับเซเลบดังของสวนสัตว์เขาเขียว "น้องหมูเด้ง" และสัตว์นานาชนิด อิ่มท้องอาหารทะเลสด ๆ และตื่นเต้นกับ"หุบเขาไดโนเสาร์" ที่รวบรวมไดโนเสาร์ขนาดเท่าตัวจริงมากกว่า 400 ชนิดที่สวนนงนุช

เส้นทางที่ 2 เขาใหญ่ (นครราชสีมา) : “Adventure เขาใหญ่สนุกสุขใจไปด้วยกัน” วันที่ 23 สิงหาคม 2568 พาน้อง ๆ ผู้ด้อยโอกาส เด็กยากไร้และกำพร้าจำนวน 20 คน ไปปล่อยพลังกับกิจกรรม Soft Adventure ที่ Rootser Khaoyai ก่อนจะไปตะลอนฟาร์มเรียนรู้การรีดนมวัวสดๆ จากเต้า ณ ฟาร์มโชคชัย แวะเติมพลังก่อนกลับที่โชคชัย สเต๊กเฮ้าส์

และเส้นทางที่ 3 พัทยา (ชลบุรี) : “พัทยานี้มีหนาว” วันที่ 30-31 สิงหาคม 2568 พาน้อง ๆ พิการทางสายตาจำนวน 20 คน สู่พัทยาอิ่มอร่อยอาหารทะเลสด ๆ สนุกใกล้ชิดให้อาหารสัตว์หลายชนิดที่ทำฟาร์มดี ตื่นเต้นไปกับประสบการณ์สัมผัสอากาศหนาวในอุณหภูมิติดลบ เพลิดเพลินสวนสนุกเมืองน้ำแข็งที่ FROST Magical Ice Of Siam

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและหน่วยงาน สมาคม และภาคเอกชนที่ร่วมแบ่งปันความสุขให้กับน้องๆ ได้แก่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด , SCB Next Tech , วิทยาลัยนานาชาติเพื่อศึกษาความยั่งยืน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, Bolt, เพจพลเมืองจิตอาสา, เครือข่ายจิตอาสาและสมาคมจิตอาสา, บริษัท ทรัพย์เจริญ แทรเวล (2007) จำกัด, In the box และ Alice Café เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณค่า มีความหมาย และเกิดเป็นความประทับใจจนไม่อาจลืมเลือนอีกด้วย

ดร.ชนัญกร สุวรรณชื่น ประธานมูลนิธิ Five For All กล่าวว่า โครงการ “Let Me Be Your Journey” เปิดโอกาสให้น้องๆ ผู้พิการที่ขาดโอกาสทางสังคมได้ออกเดินทางท่องเที่ยว เพื่อเปิดโลกกว้างและเรียนรู้สิ่งใหม่ โดยกิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงมอบความสุขให้กับน้องผ่านการเดินทางและการดูแลอย่างใกล้ชิดเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโมเมนต์พิเศษให้กับเหล่าอาสาสมัครที่ได้สัมผัสถึงความสุขจากการเป็นผู้ให้ และเรียนรู้คุณค่าของการแบ่งปันตลอดเส้นทางแห่งการเดินทางร่วมกัน

นายเกรียงศักดิ์ สุวรภามณีสวัสดิ์ ผู้บริหารกลุ่มงาน GLOBAL PARTNERSHIP MANAGEMENT บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า โครงการ “Let Me Be Your Journey” สะท้อนถึงแนวทางและวิสัยทัศน์ของสยามพิวรรธน์ในการเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับสังคมในหลากหลายมิติ สยามพิวรรธน์รู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่เรื่องราวอันเปี่ยมพลังของเยาวชน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและสื่อสารคุณค่าของการแบ่งปันในสังคมไทยอย่างแท้จริง พร้อมตอกย้ำจุดยืนขององค์กรที่ให้ความสำคัญต่อความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมของทุกคน เพื่อขับเคลื่อนสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกันในทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ อาสาสมัครที่สนใจเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งฝันปันความสุข ยังสามารถลงทะเบียน ผ่านเว็บไซต์ www.letmebeyourjourney.com ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 โครงการฯ จะประกาศรายชื่ออาสาสมัคร จำนวน 90 คน ผ่านทาง www.letmebeyourjourney.com และ Facebook : Letmebeyourjourney ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดการเข้าร่วมโครงการ Let me be your journey เพิ่มเติมได้ทีเว็บไซต์ www.letmebeyourjourney.com, แฟนเพจเฟสบุ๊ก Letmebeyourjourney และ Line Officail Account :
#ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว

SPORTS UPDATE : Pai Enduro V.5 สนามแข่งสุดโหดระดับชาติประทับใจนักแข่งทั่วประเทศ ทำห้องพักปายกว่า 3,200 ห้องเกือบเต็ม ชมร...
06/07/2025

SPORTS UPDATE : Pai Enduro V.5 สนามแข่งสุดโหดระดับชาติประทับใจนักแข่งทั่วประเทศ ทำห้องพักปายกว่า 3,200 ห้องเกือบเต็ม

ชมรมปายเอ็นดูโร่ ร่วมกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ทำการปกครองอำเภอปาย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน องค์การบริหารส่วนตำบทุ่งยาว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวปาย สมาคมอาสาสมัครกู้กัยปายสามัคคี SSJ-ATV หน่วยงานเครือข่าย จัดกิจกรรมการแข่งขันรถจักรยานยนต์วิบาก ภายใต้ชื่อ “ปายเอ็นดูโร่ ครั้งที่ 5 (Pai Enduro 2025)“ ณ สนามแข่งรถพื้นที่ตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีนักแข่งจากทั่วประเทศกว่า 500 คัน เข้าร่วมการแข่งขันในช่วงระหว่างวันที่ 4 - 6 กรกฎาคม 2568 ซึ่งสนามการแข่งขันพื้นที่ของอำเภอปายได้รับการยกย่องว่าเป็นสนามที่มีความสวยงามของภูมิประเทศ และมีความท้าทายรวมถึงช่วงเวลาการจัดกิจกรรมมีความเหมาะสมมีฝนตกในบางช่วง ทำให้เกิดการพิสูจน์ฝีมือของนักแข่งจากทั่วประเทศ นับเป็นสนามลำดับต้นๆ ของประเทศที่นักแข่งให้ความสนใจ และให้การขนานนามว่า “โหดที่สุดในประเทศ” ณ เวลานี้

พิธีเปิดจัดขึ้นวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.30 น. โดยได้รับเกียรติจากนายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันรถจักรยานยนต์วิบากปายเอ็นดูโร่ ครั้งที่ 5 ณ สนามแข่งรถพื้นที่ตำบลทุ่งยาว อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีนักแข่งจักรยานยนต์วิบากจากทั่วประเทศกว่า 500 คัน เข้าร่วมการแข่งขันพร้อมด้วยผู้ติดตามและกองเชียร์จำนวนกว่า 3,000 คน โดยมีนายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นผู้กล่าวรายงานการจัดงาน และนายณพล พหุมันโต นายอำเภอปาย กล่าวต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมแข่งขันและนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมกิจกรรม

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงเชียร์เสียงปรบมือให้กำลังใจ เนื่องจากพื้นที่การแข่งมีความยากท้าทาย ซึ่งพิสูจน์ได้ถึงน้ำใจนักกีฬาที่มีความเป็นกันเองของทีมนักแข่งและกองเชียร์จากทีมต่างๆ ที่เข้าร่วมชมงาน ในจุดต่างๆ ตั้งแต่จุดโชว์ความสามารถ จุดแข่งขันที่ยากลำบากท้าทาย ตลอดเส้นทางจนถึงเส้นชัยของการแข่งแต่ละประเภท

นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า กิจกรรมการแข่งขันรถจักรยานยนต์วิบาก ปายเฮ็นดูโร่ มีมิติที่น่าสนใจหลากหลายทั้งความสวยงามของสภาพภูมิประเทศซึ่งนักท่องเที่ยว นักแข่ง จะได้พบเห็นความงามตามเส้นทางทั้งป่าไม้ ขุนเขา ลำน้ำ พื้นที่เพาะปลูกด้ายการเกษตรและยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปในจุดต่างๆได้อย่างสะดวกโดยจะทำให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในอำเภอปายและจังหวัดแม่ฮ่องสอน และขอขอบคุณหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้ร่วมจัดและร่วมสนับสนุนให้เกิดการจัดงานในครั้งนี้

นายอัครเดช วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็น กิจกรรมหนึ่งที่ทาง อบจ. ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งได้ ให้ความสำคัญและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการท่องเที่ยว ร่วมกับ จังหวัดแม่ฮ่องสอนและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมทั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะทำให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนในพื้นที่ และเกิดการรับรู้พื้นที่ และควรส่งเสริมให้เกิดการจัดขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

ว่าที่ ร้อยตรี ภาณุวัฒน์ ขัดนาค ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน กล่าวว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วง Green Season ที่เหมาะสมกับช่วงฤดูกาลและเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในพื้นที่โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในพื้นที่อำเภอปายในอัตราที่สูงมากกว่าร้อยละ 85 จาก จำนวนห้องพักกว่า 3,200 ห้องเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามคืนเนื่องจากนักท่องเที่ยวจะมีการเดินทางมาดูพื้นที่ล่วงหน้าจนถึงจบการแข่งพร้อมมีการประกาศผลการแข่งขันและมอบรางวัล ซึ่งได้มีการจองห้องพักและชำระเงินไว้ล่วงหน้ามากกว่า 1 เดือน นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยของผู้เข้าร่วมงาน ทั้งค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าของที่ระลึก ค่าบริการซ่อมแซมอะไหล่ ค่าเชื้อเพลิง ค่าใช้จ่ายด้านบันเทิง ค่าจ้างทีมงาน รวมทั้ง ค่าบริการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปในแหล่งทีองเที่ยวต่าง ๆ ภายในจังหวัด คาดว่าจะมีการหมุนเวียนเงินตราในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่าสิบล้านบาท
#แม่ฮ่องสอน

ที่อยู่

Rat Burana

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ News Creator Thaiผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์