POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ POLICE TV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การดูแลของกองตำรวจสื่อสาร สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

POLICE TV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสื่อประชาสัมพันธ์อีกประเภทหนึ่งในการเผยแพร่กิจกรรมตำรวจ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างข้าราชการตำรวจและประชาชนทั่วไป รวมถึงการนำเสนอข่าวสารต่างๆเพื่อสังคม เว็บไซต์ www.policetv.tv
ดำเนินการโดย บริษัท ยูซีไอ มีเดีย จำกัด

ตำรวจ ดส. ทลายแหล่งผลิต 4x100 ย่านมหาวิทยาลัย ยึดน้ำท่อม-ยาอันตรายเพียบอ่านต่อในคอมเมนต์👇⬇️   #สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรว...
14/07/2025

ตำรวจ ดส. ทลายแหล่งผลิต 4x100 ย่านมหาวิทยาลัย ยึดน้ำท่อม-ยาอันตรายเพียบ
อ่านต่อในคอมเมนต์👇⬇️

#สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

14/07/2025

เตือนภัย! ระวัง SMS แนบลิงก์ปลอม หลอกเตือนคะแนนหมดอายุ สุดท้ายขโมยข้อมูลบัตรเครดิต

ตำรวจทางหลวงอยุธยา รวบเมียนมาขนเพื่อนร่วมชาติใช้รถแวนซุก 11 ต่างด้าวอัดแน่นมาในรถ หวังตีเนียนมากับรถที่เดินทางกลับหลังหย...
14/07/2025

ตำรวจทางหลวงอยุธยา รวบเมียนมาขนเพื่อนร่วมชาติใช้รถแวนซุก 11 ต่างด้าวอัดแน่นมาในรถ หวังตีเนียนมากับรถที่เดินทางกลับหลังหยุดยาว สุดท้ายไม่รอดสายตาถูกจับยกคัน

https://policetv.tv/archives/46067

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ไล่ล่าหนุ่มเสพยาซิ่งรถมอไซค์ย้อนศร หวังหนีตำรวจสุดชีวิต สุดท้ายไม่รอด โดนรวบทันควันตำรวจสอบสวนกลาง...
13/07/2025

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ไล่ล่าหนุ่มเสพยาซิ่งรถมอไซค์ย้อนศร หวังหนีตำรวจสุดชีวิต สุดท้ายไม่รอด โดนรวบทันควัน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) จับกุม นายธิระพันธ์ฯ อายุ 38 ปี โดยถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน
1. เสพยาเสพติดให้โทษประประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต​
2. เป็นผู้ขับขี่รถและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต
.
พร้อมด้วย ใบรายงานผลการตรวจปัสสาวะของนายธิระพันธ์ฯลงวันที่ 12 ก.คน.68 ของโรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร
.
สถานที่จับกุม บริเวณถนนทางหลวง 41 กม.45 อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร
.
พฤติการณ์ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 12 ก.ค.68 ตำรวจทางหลวงชุมพรได้ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ออกตรวจเส้นทางหลวงหมายเลข 41 ถึงช่วง กม.50 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก พบนายธิระพันธ์ฯ ขับขี่มอเตอร์ไซค์บนท้องถนนในลักษณะส่ายไปมา หวาดเสียว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ถนนคนอื่น จึงส่งสัญญาณไฟและประกาศเสียงออกไปให้จอดรถ แต่นายธิระพันธ์ฯ กลับเร่งเครื่องรถขับขี่หนีออกไปด้วยความเร็ว ทั้งยังขับขี่ย้อนศรทั้งขาขึ้น-ขาล่อง ก่อนเลี้ยวหลบเข้าซอยแล้วจอด เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งติดตามจนสกัดจับกุมตัวนายธิระพันธ์ฯได้ เมื่อเข้าไปพูดคุยสอบถาม พบนายธิระพันธ์ฯ มีอาการพิรุธ จึงขอทำการตรวจค้นตัวและรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับขี่มา ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เมื่อทำการสอบถามอีกครั้ง นายธิระพันธ์ฯ ยอมรับสารภาพว่าเพิ่งเสพยาบ้ามาเมื่อวันที่ 11 ก.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงหลังสวน ผลเป็นบวก และได้ส่งไปตรวจยืนยันอีกครั้งที่โรงพยาบาล ผลก็ยังคงเป็นบวก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวนายธิระพันธ์ฯ พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งตะโก ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

📣 มูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เชิญร่วมกิจกรรม “The COP Charity Run 2025” เดิน-วิ่งการกุศลลอยฟ้า ครั้งที่ 1พล.ต.อ.อด...
12/07/2025

📣 มูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เชิญร่วมกิจกรรม “The COP Charity Run 2025” เดิน-วิ่งการกุศลลอยฟ้า ครั้งที่ 1
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานกรรมการมูลนิธิ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว พร้อมด้วย พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8 ) ร่วมแถลงข่าวการจัดโครงการ “เดิน-วิ่งการกุศลลอยฟ้า ครั้งที่ 1 (The COP Charity Run 2025)”
กิจกรรมจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2568 เวลา 03.00 – 08.00 น. บริเวณลานอเนกประสงค์ สะพานพระราม 8 (ฝั่งธนบุรี) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสุขภาพ สร้างความรัก ความสามัคคีระหว่างตำรวจและประชาชน รวมถึงระดมทุนสนับสนุนงานด้านสาธารณประโยชน์
การแข่งขันแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

🏃‍➡️1. ฮาล์ฟมาราธอน ระยะทาง 21 กม. ค่าสมัคร 800 บาท (รับเสื้อ Finisher และเหรียญที่ระลึก)

🏃‍♂️‍➡️ 2. มินิมาราธอน ระยะทาง 10 กม. ค่าสมัคร 600 บาท (รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก)

🏃‍➡️ 3. เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ ระยะทาง 5 กม. ค่าสมัคร 500 บาท (รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก)

🏃‍♂️‍➡️ 4. ประเภท VIP ค่าสมัคร 2,000 บาท (รับเซ็ตเสื้อคอปก เสื้อแขนสั้น เหรียญ โดยจัดส่งทางไปรษณีย์ ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมกิจกรรม)

รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย จะนำไปมอบให้ 3 หน่วยงานสำคัญ ได้แก่

1. โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์
2. โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นทุนการศึกษาและสวัสดิการแก่ข้าราชการตำรวจ
3. มูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เพื่อช่วยเหลือข้าราชการตำรวจ ครอบครัว ผู้ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงประชาชนที่ด้อยโอกาส
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันทำให้กิจกรรมครั้งนี้เกิดขึ้น เงินทุนที่ได้รับจะนำไปใช้ประโยชน์เพื่อโรงพยาบาล โรงเรียน และสาธารณประโยชน์อย่างเต็มที่” พร้อมระบุว่า ทางมูลนิธิได้เตรียมอาหาร เครื่องดื่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างครบครัน
ด้าน พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลตำรวจจะจัดทีมแพทย์และพยาบาลประจำตลอดเส้นทางการแข่งขัน เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมอย่างใกล้ชิด พร้อมขอบคุณมูลนิธิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และผู้ให้การสนับสนุนทุกฝ่าย โดยยืนยันว่าจะนำเงินที่ได้รับไปใช้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วยและผู้มาใช้บริการโรงพยาบาลตำรวจ
📍ผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง page: The COP Charity Run 2025 https://www.facebook.com/TheCOPCharityRun
และสมัครออนไลน์ได้ที่ https://www.regis.run/2025thecoprun ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2568
สำหรับผู้ประสงค์ร่วมบริจาคสมทบทุน สามารถโอนเงินได้ที่ บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาโรงพยาบาลตำรวจ ชื่อบัญชี มูลนิธิ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว เลขที่บัญชี 982-4-40147-4


#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
#สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มยิงคู่อริหวังชำระแค้น หลบหนีหมายจับนานกว่า 10 ปี วันที่ 22 มิถุนายน 2551 เวลาประมาณกลางคืน...
12/07/2025

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มยิงคู่อริหวังชำระแค้น หลบหนีหมายจับนานกว่า 10 ปี

วันที่ 22 มิถุนายน 2551 เวลาประมาณกลางคืน ตัวผู้ต้องหานั้นมีคู่อริกับทางกลุ่มผู้เสียหาย เคยทะเลาะวิวาทกันมาก่อนหลายครั้ง วันเกิดเหตุนั้น ผู้ต้องหาได้พกปืนลูกซอง (ประกอบขึ้นเอง) ขนาด 12 จำเลยได้พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปตามถนนสายกำแพงเพชร-ท่ามะเขือ หมู่ที่ 15 ตำบลเทพนคร อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร อันเป็นเมืองหมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ต่อมา ผู้ต้องหาได้ขับรถวนดูกลุ่มคู่อริไปมาหลายรอบ แล้วใช้อาวุธปืนลูกซองที่เตรียมมา ยิงใส่กลุ่มคู่อริ 1 นัด ระยะแค่ ไม่ถึง 10 เมตร โดยลูกกระสุนปืนถูก (ผู้เสียหายที่ 1 ลูกกระสุนเข้าบริเวณต้นคอ หน้าอก หน้าท้อง และสะโพก ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ), (ผู้เสียหายที่ 2 ลูกกระสุนเข้าบริเวณ ต้นแขนขวา กระดูกแขนขวาหัก), (ผู้เสียหายที่ 3 ลูกกระสุนเข้าบริเวณเหนือศอกขวา) ผู้เสียหายทั้ง 3 คน ได้รับการรักษาจากแพทย์ทันท่วงที ผู้เสียหายที่ 1 และ 2 นั้นต้องนอนรักษาตัว หลายเดือน ผู้ต้องหามีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ด้วยการเตรียมอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไว้ล่วงหน้า และขับรถวนดูกลุ่มคู่อริไปมา จนลงมือก่อเหตุ เพื่อหวังชีวิต หลังจากก่อเหตุผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัว ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำราจภูธรเมืองกำแพงเพชร และต่อสู้คดีอยู่ชั้นศาลมาโดยตลอด และหลบหนีไป จนศาลจังหวัดกำแพงเพชรได้ ออกหมายจับ

CIB รวบหนุ่มรับจำนำรถ จยย. คิดดอกเบี้ยโหด เกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนด​พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ เพื่อนของเจ้าของรถ ได้ขอยืมร...
11/07/2025

CIB รวบหนุ่มรับจำนำรถ จยย. คิดดอกเบี้ยโหด เกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนด

​พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ เพื่อนของเจ้าของรถ ได้ขอยืมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว -แดง ทะเบียน ชุมพร ของเพื่อน ไปใช้ ก่อนจะนำไปจำนำกับบุคคล ใน Facebook เป็นเงิน 7,0000 บาท (ทราบภายหลัง คือ นายธีรศักดิ์ ฯ ผู้ต้องหารายนี้ ) โดยเจ้าของรถตัวจริง ยินยอมต่อมาเจ้าของรถ ไปขอไถ่ถอนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวคืน แต่นายธีรศักดิ์ฯ แจ้งว่าให้เจ้าของรถ โอนเงินเพื่อไถ่ถอนรถจักรยานยนต์คืน เป็นเงินจำนวน 13,000 บาท รวมทั้งต้นและดอกเบี้ย และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาให้ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้

https://policetv.tv/archives/46056

🇹🇭🇯🇵 ผบ.ตร.นำคณะตำรวจไทยเยือนญี่ปุ่น เข้าพบ ผบ.ตร.ญี่ปุ่น และเอกอัครราชทูต หารือ แลกเปลี่ยนความร่วมมืออาชญากรรมไซเบอร์ ค...
11/07/2025

🇹🇭🇯🇵 ผบ.ตร.นำคณะตำรวจไทยเยือนญี่ปุ่น เข้าพบ ผบ.ตร.ญี่ปุ่น และเอกอัครราชทูต หารือ แลกเปลี่ยนความร่วมมืออาชญากรรมไซเบอร์ คอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์ พร้อมดูงานสถานีตำรวจ หน่วยงานอาชญากรรมเทคโนโลยี เพื่อนำมาปรับใช้ ยกระดับการทำงานตำรวจไทย
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล/โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6-9 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และคณะ ได้เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ
ผบ.ตร.และคณะเข้าเยี่ยมคารวะ นายโยชิโนบุ คุสึโนกิ ผบ.ตร.ญี่ปุ่น โดยได้มีการหารือประเด็นความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ การฉ้อโกงออนไลน์ อาชญากรรมทางไซเบอร์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในโอกาสนี้ ผบ.ตร.ได้กล่าวขอบคุณ ผบ.ตร.ญี่ปุ่น ที่อนุมัติในหลักการการส่งนายตำรวจประสานงานมาประจำยังประเทศญี่ปุ่น
คณะตำรวจไทยได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานีตำรวจชินจูกุ ซึ่งเป็นสถานีตำรวจที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือนปฏิบัติหน้าที่รวม 700 นาย ในจำนวนนี้แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง 100 คน โดยคณะฯ ได้มีโอกาสเยี่ยมชมการฝึกของเจ้าหน้าที่ตำรวจแผนกต่าง ๆ ของสถานีตำรวจ ได้แก่ แผนกสืบสวนอาชญากรรมองค์กร และศูนย์รับแจ้งเหตุ
ผบ.ตร.และคณะยังได้เข้าพบ นายฮิเดอากิ โออิตะ ผู้อำนวยการสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์ เพื่อประชุม หารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลการสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์ และศึกษาดูงานหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางเทคโนโลยี โดยเป็นหน่วยงานทำหน้าที่สนับสนุนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในด้านการพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัล เช่น การตรวจสอบวัตถุพยานต่างๆ และการรักษาสภาพของวัตถุพยาน เช่น โทรศัพท์ ฮาร์ดดิสก์ รถยนต์ เป็นต้น และศึกษาดูงานศูนย์ต่อต้านการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจสอบและเฝ้าระวังการกระทำที่เป็นภัยต่อประเทศญี่ปุ่น ที่เน้นการโจมตีทางไซเบอร์
นอกจากนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐฯ ยังได้นำคณะเข้าหารือกับ นายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เพื่อหารือปัญหาการลักลอบเข้าเมือง การค้ามนุษย์ รวมถึงปัญหาการเดินทางของคนไทยและนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางมายังประเทศไทยด้วย
ทั้งนี้ การเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการของ ผบ.ตร.และคณะ นำมาซึ่งประโยชน์ของการหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางการญี่ปุ่น โดยเฉพาะอาชญากรรมทางไซเบอร์ คอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ รวมทั้งการดูงานสถานีตำรวจ ศูนย์สืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์ หน่วยงานพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัล ซึ่งได้ประโยชน์ แนวคิดหลายประการที่จะนำมาปรับใช้ในการทำงานของตำรวจไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ในการดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป

#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
#สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

“ผนึกกำลังประชาคมโลก ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์”วันนี้ (10 กรกฎาคม 2568) เวลา 13.30 น. ตามนโยบายของรัฐบาล ได้ก...
10/07/2025

“ผนึกกำลังประชาคมโลก ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์”

วันนี้ (10 กรกฎาคม 2568) เวลา 13.30 น. ตามนโยบายของรัฐบาล ได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร./ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ฉก.88/หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจ UNODC ต่อต้านอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ ดำเนินการชี้แจงสถานการณ์ปัญหาอาชญากรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ ในปัจจุบันให้ประชาชนทราบสถานการณ์
ปัจจุบันสถานการณ์การหลอกลวงคนไทยของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ผ่านมา ยังมีที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา เมียนมา และลาว เพื่อที่จะหลอกคนชาติไทยและชาติต่าง ๆ ทั่วโลก และเนื่องจากประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการบินที่สำคัญในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มีเที่ยวบินจากทั่วโลกเข้ามาในประเทศ ประกอบกับการคมนาคมที่สะดวกในการเดินทางกลุ่มคนร้ายจึงอาศัยช่องว่างดังกล่าว เข้ามาในไทยในฐานะนักท่องเที่ยว เพื่อเดินทางไปยังบริเวณแนวชายแดนแล้วลักลอบข้ามไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย หรือใช้ช่องทางดังกล่าว หลอกคนข้ามไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จากมาตรการการตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต และน้ำมัน ไปยังแนวชายแดนประเทศเมียนมาที่ติดกับประเทศไทย
เพื่อกดดันให้มีการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ที่ปกครองโดยชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนระหว่างประเทศเมียนมาและไทย ทำให้เกิดการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเขตเมืองชเวโก๊ะโก๋ และเคเคพาร์ค ซึ่งพบคน 36 สัญชาติ จำนวน 8,893 ราย แต่ยังพบว่าแต่ยังมีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกจำนวนหนึ่งหลบซ่อนและตั้งอยู่บริเวณทางตอนใต้ของเมืองเมียวดี ซึ่งจะต้องมีมาตรการในการดำเนินการอีกต่อไป
ในส่วนของประเทศกัมพูชา พบว่ามีการขยายตัวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งที่หลอกคนไทยและคนชาติต่าง ๆ
ทั่วโลก พบว่ามีการตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา จำนวน ๕๒ จุด ๑๐ จังหวัด โดยส่วนใหญ่ยังอยู่ในเมืองปอยเปต และมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในเขตชายแดนติดกับทางประเทศเวียดนาม มีแก๊งชาวจีนเป็นผู้บริหารจัดการ ได้รับความคุ้มครองจากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
ในห้วงที่ผ่านพบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการขยายตัว จากประเทศกัมพูชาเช้ามาในประเทศไทยบางส่วน แต่ทางการไทยสามารถดำเนินการกวาดล้างจับกุมได้ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้มุ่งหลอกคนชาติอื่นไม่ใช่คนไทย อาทิ ออสเตรเลีย เวียดนาม เกาหลี จีน
ยุทธศาสตร์ ศปอส.ตร. ร่วมกับ ฉก.๘๘ และ UNODC ได้ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ “ผนึกกำลังประชาคมโลก ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์” โดยกำหนดยุทธศาสตร์ไว้ 5 ด้าน (I 2L AI)
1. การทำลายโครงสร้างพื้นฐานของอาคาร (Infrastructure) ได้แก่ ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต
2. การตัดเครือข่ายขบวนการนำพา (Logistics) ได้แก่ เพจโฆษณา หางาน เพจจัดหาบัญชีม้าและคริปโต แอพในการ ติดต่อหายานพาหนะ กลุ่มรถรับจ้าง กลุ่มนำพาข้ามแดน การซีลชายแดน กลุ่มจัดหาบัญชีม้าและคริปโต
3. การบังคับใช้กฎหมายและยึดทรัพย์ (Law Enforcement) โดยมุ่งเน้นไปที่ เจ้าของอาคารคอลเซ็นเตอร์ ผู้บงการ ผู้บริหารจัดการ ผู้ให้ความคุ้มครอง
4. การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการควบคุมป้องกันไม่ให้ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน หรือใช้ในการหลอกลวง เพื่อลักลอบข้ามผ่านแนวชายแดนไปทำงานที่แก๊งคอล เซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
5. ผนึกกำลังประชาคมโลก (International Community) ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ โดยนำองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ UNODC, INTERPOL, FBI และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มาร่วมปฏิบัติในศูนย์บริหารฉับพลันเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์ (War Room for Combatting Cyber Scam Syndicate) ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย โดยประเทศไทยจะเป็นผู้นำและศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยน ข้อมูล เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติงานร่วมกันในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา เมียนมา และลาว
การค้นเครือข่าย ก๊ก อาน
จากปฏิบัติการครั้งนี้ ทำการเข้าค้นเครือข่าย “ก๊ก อาน” 20 จุดในพื้นที่ 3 จังหวัด (กรุงเทพ สมุทรปราการ ชลบุรี) สามารถอายัดเงินสด ๒๗ ล้านบาท รถยนต์หรู และเอกสารสำคัญ ยึดทรัพย์รวมมูลค่า กว่า 1,100 ล้านบาท และจะดำเนินการออกหมายจับผู้มีส่วนร่วมกระบวนการทั้งหมด

หลีกเลี่ยงถนนรามอินทราปากซอยรามอินทรา 40  (มุ่งหน้าบางเขน)มีเหตุหญิงอายุประมาณ 60 ปี ปีขึ้นไปอยู่บนป้ายบอกทาง บริเวณหน้า...
10/07/2025

หลีกเลี่ยงถนนรามอินทราปากซอยรามอินทรา 40 (มุ่งหน้าบางเขน)

มีเหตุหญิงอายุประมาณ 60 ปี ปีขึ้นไปอยู่บนป้ายบอกทาง บริเวณหน้าปากซอยรามอินทรา 40 ถนนรามอินทรา มุ่งหน้าบางเขน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลโคกคราม อยู่ระหว่างเกลี้ยกล่อมหญิงดังกล่าว พร้อมทั้งประสาน เจ้าหน้าที่ดับเพลิง นำรถกระเช้า เพื่อช่วยเหลือที่เกิดเหตุ

ภาพโดย รถพยาบาลคันที่14 (ร่วมกตัญญู)

10/07/2025

“ปฏิบัติการล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามโลก”

แถลงผลการปฏิบัติการไล่ล่า ก๊ก อาน ตามหมายจับอาชญากรรมข้ามชาติ ข้อหามีส่วนร่วมกับอาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน

#ก๊กอาน #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ปฏิบัติการล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามโลก

ที่อยู่

Bangkok Noi

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ:

แชร์