25/10/2025
ปุ๊นมา-ยาสูบเจ๊ง!? ยอดนักสูบตกฮวบ 40% หลังเปิดปุ๊นเสรี หันมาปุ๊นเพิ่ม 200% ดึงยอดสุราทรุดด้วย! เหตุ Gen Z มองสมุนไพรปลอดภัยกว่า
มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ก ร่วมกับมหาวิทยาลัยเคนทักกี จัดทำผลการศึกษาวิจัยพฤติกรรมของนักสูบภายหลังจากเปิดเสรีปุ๊นในสหรัฐอเมริกา (USA) พบว่ายอดผู้บริโภคยาสูบลดลงกว่า 41% ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ภายหลังจากปลดล็อคปุ๊นเสรีเพื่อสุขภาพ-การแพทย์และสันทนาการ ขณะที่ยอดผู้ใช้ปุ๊นพุ่งมากกว่า 200% เนื่องจากประชาชนศึกษาความรู้ด้านปุ๊นจนมีความเข้าใจและหันมาใช้ทดแทนยาสูบ โดยให้เหตุผลด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพที่มากกว่า
รายงานวิจัยดังกล่าวอ้างอิงผลการสำรวจแห่งชาติว่าด้วยการใช้ยาและสุขภาพ (NSDUH) ซึ่งพบว่าในช่วงปลดล็อคเสรีปุ๊นระหว่างปี 2015-2025 มีผู้ใช้ปุ๊นเพียงอย่างเดียวเพิ่มขึ้นจากเดิมในปี 2015 อยู่ที่ 3.9% เพิ่มขึ้นเป็น 10.6% ของประชากรทั้งหมด คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% ขณะที่ยอดนักสูบยาสูบจากเดิมมีสัดส่วน 15% ลดลงเหลือเพียง 8.8% ของประชากรทั้งหมด ในปี 2025 คิดเป็นอัตราลดลง 40% โดยการศึกษานี้ใช้กลุ่มตัวอย่างที่ไม่ได้ถ่วงน้ำหนักจำนวน 42,163 ถึง 46,906 คนในแต่ละช่วงเวลา
นักวิจัยเขียนในวารสาร Addictive Behaviors ว่าแนวโน้มการใช้ปุ๊นและยาสูบทั้เปลี่ยนแปลงไปอาจเป็นหลักฐานของ “การทดแทน” ท่ามกลาง “การรับรู้ถึงอันตรายที่เปลี่ยนแปลงไป กฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป และบรรทัดฐานที่เปลี่ยนแปลงไป” ตามข้อมูลการศึกษาที่เพิ่มขึ้นต่อผลกระทบด้านสุขภาพ โดยนักวิจัยท่านอื่นๆ ก็ได้สังเกตเห็นแนวโน้มที่คล้ายคลึงว่าปุ๊นถูกนำมาใช้เป็นสารทดแทนแอลกอฮอล์มากขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อมองลึกลงไปถึงกลุ่มผู้ใช้ปุ๊นพบว่าส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มที่มีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมสูง (มีการศึกษาระดับอุดมศึกษา มีรายได้สูง และมีประกันสุขภาพเอกชน) และผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็เป็นชนชั้นกลางที่มีการศึกษาและรายได้จากการทำงาน
สอดคล้องกับการศึกษาล่าสุด ข้อมูลจากการสำรวจของ Gallup ที่เผยแพร่เมื่อปลายปีที่แล้ว พบว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 15 เปอร์เซ็นต์รายงานว่าพวกเขาบริโภคปุ๊น ซึ่งมากกว่า 11 เปอร์เซ็นต์ที่บอกตอบผลสำรวจว่าพวกเขาไม่ได้ใช้ยาสูบเลยในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ผู้เขียนรายงานฉบับใหม่ชี้ให้เห็นว่า “การใช้ปุ๊นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” ในขณะที่ “การใช้ยาสูบลดลง” แสดงให้เห็นถึง แนวโน้มที่น่ากังวลหรือไม่ โดยเฉพาะผลกระทบในระยะยาวที่เรื่องปุ๊นอาจกลายเป็นวิกฤติสุขภาพครั้งใหม่แทนที่การใช้ยาสูบในหลายช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ส่วนด้านมหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan) ในสหรัฐอเมริกาพบว่า ในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมาระหว่างปี 2013-2023 หลังปลดล็อกปุ๊นเสรีใน USA พบว่ามียอดผู้ที่หันมาใช้ปุ๊นทดแทนการดื่มสุราเพิ่มขึ้นมากถึง 75% หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ยปีละ 4.4% โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่าง Gen Y ไปจนถึง Gen Z ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพ พร้อมเจาะลึกชุดข้อมูลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่าคนวัยหนุ่มสาวดื่มสุราลดลงมากถึง 35% ขณะที่ประชากรวัยกลางคนอายุ 35-50 ปี มียอดการดื่มสุราลดลงถึง 20% สอดคล้องกับงานวิจัยของสำนักข่าวชื่อดัง Bloomberg ซึ่งระบุว่าการใช้ปุ๊นทดแทนแอลกอฮอล์ “เพิ่มสูงขึ้น” อย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากกระแสการปลดล็อกเสรี ประชากรเข้าใจประโยชน์ของปุ๊นมากขึ้นส่วนใหญ่จึงเปลี่ยนความคิดที่เคยกลัวปุ๊น โดยส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่นักสูบสันทนาการแต่เป็นการบริโภคในรูปแบบการกิน เช่น ขนมปุ๊น เครื่องดื่มปุ๊น และกัมมี่เป็นต้น