Green News Thailand

Green News Thailand สื่อนอกกระแส ของคนข่าวนอกระบบ

20 ตุลาคม 68 ข้อเสนอกลุ่มรักษ์เขากระบี่ต่อกรณีการคัดค้านการระเบิดภูเขา 4 อำเภอ จังหวัดกระบี่.....หลักการของการจัดทำคำสั่...
20/10/2025

20 ตุลาคม 68

ข้อเสนอกลุ่มรักษ์เขากระบี่ต่อกรณีการคัดค้านการระเบิดภูเขา 4 อำเภอ จังหวัดกระบี่.....
หลักการของการจัดทำคำสั่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาภูเขากระบี่4อำเภอ

1.กลุ่มรักษ์เขากระบี่มีเจตนาให้การคลี่คลายความขัดแย้งใช้งานศึกษาข้อเท็จจริงเป็นเกณฑ์ตัดสิน ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติแร่มาตรา17วรรค4 จึงขอให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งทำหน้าที่คลี่คลายความขัดแย้งด้วยหลักการทางวิชาการ

2.ให้หน้าที่ของคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้น ประกอบด้วยการศึกษาข้อเท็จจริงว่า พื้นที่ภูเขากระบี่4อำเภอซึ่งปรากฎอยู่ในแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ เป็นแหล่งต้นน้ำและแหล่งโบราณหรือไม่ หากมีลักษณะพื้นที่ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติแร่ ก็ให้ดำเนินการขึ้นทะเบียนแหล่งน้ำและแหล่งโบราณและให้นำการศึกษาดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การปลดพื้นที่กระบี่ออกจากแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ หากผลการศึกษาระบุว่ามีคุณสมบัติตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรแร่มาตรา17วรรค4

3.ในระหว่างที่คณะกรรมการที่แต่งตั้งกำลังปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง ขอให้ทั้งหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนยุติการดำเนินการใดที่จะนำไปสู่การอนุมัติ อนุญาตในกิจการทำแร่ทั้ง4อำเภอของจังหวัดกระบี่ ซึ่งประกอบด้วยอำเภอเมือง อำเภอลำทับ อำเภออ่าวลึก อำเภอปลายพระยา

4.ให้คำสั่งลงนามแต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นรัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560
5.สัดส่วนของคณะกรรมการที่แต่งตั้งให้มีสัดส่วนเท่ากันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนโดยให้ใช้วิธีหารือร่วมกันเพื่อเสนอชื่อคณะกรรมการ

กลุ่มรักษ์เขากระบี่

#กลุ่มรักษ์เขากระบี่ #รวมพลคนรักษ์เขากระบี่ #คัดค้านการระเบิดเขากระบี่

28/09/2025

สภาล่ม พรบ.อากาศสะอาด สะดุด
สะท้อนอะไร?

แถลงการณ์จาก สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนาเรื่อง แอบอ้างชื่อสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบโครงการ “ปราจีน...
23/09/2025

แถลงการณ์จาก สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
เรื่อง แอบอ้างชื่อสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบโครงการ “ปราจีนร่วมพัฒนา:เขตเศษฐกิจสีเขียว สร้างสมดุล EEC
บนฐานธรรมนูญชุมชนและการมีส่วนร่วมจากฐานราก” Prachinburi Sandbox

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลโครงการ "ปราจีนร่วมพัฒนา: เขตเศรษฐกิจสีเขียว สร้างสมดุล EEC บนฐานธรรมนูญชุมชนและการมีส่วนร่วมจากรากฐาน (Prachinburi Sandbox)

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อน EEC อย่างโปร่งใส ด้วยงบประมาณ 1,200 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี โดยระบุว่าหน่วยงานหลักรับผิดชอบคือ สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา จังหวัดปราจีนบุรี สภาเกษตรกร และอื่น ๆ

สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ขอชี้แจงว่า สถาบันฯ ไม่มีส่วนรู้เห็น เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวแต่อย่างใดทั้งสิ้น และสถาบันฯ มีจุดยืนชัดเจนในการคัดค้านการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งหมด เพราะสร้างผลกระทบทางนิเวศ ละเมิดสิทธิชุมชน และประชาชนอย่างรุนแรง

และสถาบันฯ ก็มีจุดยืนคัดค้านการขยายเขต EEC มาที่จังหวัดปราจีนบุรี เพราะจะทำให้จังหวัดที่มีฐานนิเวศ ความมั่นคงอาหาร เกษตรอินทรีย์ สมุนไพรถูกทำลาย และเปิดช่องให้นายทุน ทุนข้ามชาติแย่งชิงทรัพยากร และผลักภาระ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคมสู่ชุมชนและประชาชน

จุดยืนดังกล่าวมาจากการที่สถาบันฯ ได้ดำเนินการโครงการปราจีนบุรี Sandbox หรือ "ปราจีนร่วมสร้าง" ร่วมกับภาคประชาสังคม และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ในปีที่ผ่านมา โดยเป็นการสร้างกระบวนการกำหนดและขับเคลื่อนนโยบายอย่างมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วนในจังหวัดปราจีนบุรี

โดยเกิดวิสัยทัศน์ร่วมที่อยากเห็นปราจีนบุรีเป็นจังหวัดพัฒนาบนฐานการคุ้มครอง ส่งเสริมนิเวศ เกษตรอินทรีย์ สมุนไพร อย่างยั่งยืน

ปราจีนบุรีต้องไม่ใช่เมืองขยะอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมต้องเป็นสีเขียว มีธรรมาธิบาล เพื่อเป้าหมายนิเวศ เกษตร สุขภาพที่ยั่งยืนและเป็นธรรม ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกทำลายหาก EEC ขยายมาครอบคลุมปราจีนบุรี

สถาบันฯ ยังมีความเห็นว่า กระบวนการศึกษาและการจัดรับฟังความคิดเห็นการขยาย EEC สู่ปราจีนบุรี ขาดธรรมาภิบาล มุ่งรวบรัดให้ได้ข้อสรุปรับรอง EEC ปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยเฉพาะผู้เดือดร้อน ทำให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยกระหว่างประชาชนกับหน่วยงานรัฐ

แต่การเอาชื่อสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนาไปแอบอ้าง ด้วยโครงการที่ใช้ ChatGPT ประมวลขึ้นมาอย่างจับแพะชนแกะ สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของสถาบันฯ ที่ยืนหยัดปกป้องสิทธิชุมชนในการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดมา

สถาบันฯ จึงขอปฏิเสธความเกี่ยวข้องใดๆกับโครงการดังกล่าวและขอประณามการกระทำใส่ร้ายป้ายสี และหากยังไม่หยุดบิดเบือน สถาบันฯ จะดำเนินการฟ้องร้องผู้กระทำการดังกล่าวให้ถึงที่สุด

สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
วันที่ 23 กันยายน 2568

ที่มา : สถาบันชุมชนทัองถิ่นพัฒนา

23/09/2025

เคยถามตัวเองไหม ? ว่าเรารักธรรมชาติ หรือต้องการเอาผลประโยชน์จากธรรมชาติกันแน่

22/09/2025

ความไม่สมดุล คือมนุษย์จำนวนมากนิยมเสพธรรมชาติ
แต่การปกป้องรักษาธรรมชาติกลับเงียบงัน จริงไหม?

ร่วมติดตาม
22/09/2025

ร่วมติดตาม

ร่วมติดตามฟังการเสวนา "พลเมืองสู้มลพิษ" ผ่านทางเพจมูลนิธิบูรณะนิเวศ วันที่ 22 กันยายน 2568 นี้ เวลา 10.00-11.30 น.
ในหัวข้อ “จากภารกิจทีมสุดซอยสู่ก้าวต่อไปของคณะสุดซอย”
โดย ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ อดีตหัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (ทีมสุดซอย)
.
“ประสบการณ์และอุปสรรคของการต่อสู้กับมลพิษในฐานะพลเมือง”
โดย ดาวัลย์ จันทรหัสดี ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรม
.
“พัฒนาการการต่อสู้เชิงนโยบายด้านมลพิษของภาคประชาชน
โดย เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ
ดำเนินรายการโดย สถาพร พงษ์พิพัฒน์วัฒนา หัวหน้าฝ่ายสื่อสารและดูแลภาพลักษณ์องค์กร TIJ

|ปราจีนบุรี| 19 กันยายน 68 เครือข่ายปราจีนบุรีเข้มแข็ง ออกแถลงการณ์ประณาม กรณีการข่มขู่คุกคามตัวแทนเครือข่ายปราจีนบุรีเข...
20/09/2025

|ปราจีนบุรี| 19 กันยายน 68 เครือข่ายปราจีนบุรีเข้มแข็ง ออกแถลงการณ์ประณาม กรณีการข่มขู่คุกคามตัวแทนเครือข่ายปราจีนบุรีเข้มแข็งกลางเวทีรับฟังความคิดเห็น(ร่าง)รายงานผลการศึกษาฯ ผนวกพื้นที่ปราจีนบุรีของ EEC ภาคตะวันออก
••••
แถลงการณ์
ประณามการข่มขู่คุกคามตัวแทนเครือข่ายปราจีนเข้มแข็ง ในการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อ
(ร่าง) รายงานผลการศึกษาโครงการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ตามที่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2568 เวลาประมาณ 13.35 น. ได้เกิดเหตุการณ์ข่มขู่คุกคามตัวแทนเครือข่ายปราจีนเข้มแข็ง ซึ่งเดินทางไปเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) รายงานผลการศึกษาโครงการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ณ ห้อง Stardust โรงแรมสยามดาษดา เขาใหญ่รีสอร์ท อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี มีคณะร่วมจัดงานคือ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ และจังหวัดปราจีนบุรี โดยทางเครือข่ายปราจีนเข้มแข็ง ได้รับหนังสือเชิญ ทางระบบ
เมสเซนเจอร์ของเฟสบุ๊ค ในวันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ.2568 ซึ่งได้รับก่อนการจัดประชุมเพียง 3 วันเท่านั้น แต่ทางเครือข่ายฯ ก็ยินดีเข้าร่วม

เวลาประมาณ 13.00 น. ทางตัวแทนเครือข่ายฯ ได้เดินทางมาถึงสถานที่จัดเวทีฯ และลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงาน ทางทีม อส.ก็เชิญและพาเข้าไปนั่งในห้องประชุม ขณะกำลังฟังบรรยายอยู่นั้น กลับมีเจ้าหน้าที่ อส.จำนวน 2-3 นาย มาขอค้นกระเป๋า โดยบอกว่าต้องการค้นอาวุธ โดยอาจารย์ที่บรรยายบนเวทีก็ยังบรรยายต่อ ไม่มีท่าทีแสดงความห่วงใยแม้แต่น้อย

ทางเครือข่ายปราจีนเข้มแข็ง เห็นว่าการจัดเวที ประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) รายงานผลการศึกษาโครงการจัดทำข้อเสนอแนะ เชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น ทั้งในรูปแบบการเข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็น การยื่นหนังสือต่อหน่วยงาน หรือการแสดงออกในรูปแบบอื่นใดโดยสันติวิธี เป็นสิทธิเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองคุ้มครองและถือเป็นสิทธิการมีส่วนร่วมในสิ่งแวดล้อมภายใต้หลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โดยหน่วยงานเจ้าหน้าที่รัฐและผู้จัดมีหน้าที่ต้องเคารพให้ความสำคัญและประกันรับอรงให้กระบวนการมีส่วนร่วมนั้นเกิดขึ้นโดยเสรี ปราศจากการปิดกั้นข่มขู่คุกคาม แต่ในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2568 เป็นการจัดเวทีที่มีลักษณะปิดกั้น และขาดหลักการการมีส่วนร่วมโดยสิ้นเชิง โดยมีประเด็นดังนี้

1.บรรยากาศของห้องประชุม ที่มีการจัดกำลัง อส.ไว้ทั่วห้อง ทำให้ผู้เข้าร่วมมีความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะผู้ที่แสดงความคิดเห็นต่างจากการนำเสนอ

2. ละเมิดสิทธิและมีพฤติการณ์ในการคุกคามทำให้หวาดกลัวต่อผู้เข้าร่วมประชุมโดยการที่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาขอค้นกระเป๋าโดยเฉพาะสุภาพสตรี ละเมิดความเป็นส่วนตัว โดยเป็นการเลือกค้นเฉพาะบุคคลซึ่งไม่ได้มีพฤติการณ์หรือมีเหตุอันควรสงสัยใดๆ เจ้าหน้าที่ไม่มีการแจ้งถึงสาเหตุการค้นที่ชัดเจน ทั้งที่ผู้เข้าร่วมมีหนังสือเชิญเข้าร่วมประชุมอย่างชัดเจน หากเพื่อรักษาความปลอดภัยก็ควรปฏิบัติกับผู้เข้าร่วมทุกคนก่อนเข้าห้องประชุมมิใช่การเข้ามาค้นเฉพาะบุคคลและในระหว่างการจัดการประชุม

3.สถานที่จัดเป็นสถานที่เอกชน หรูหรา การเดินทางห่างไกลจากเมือง ประชาชนเข้าถึงยาก แทนที่จะใช้หอประชุมจังหวัดที่เป็นสถานที่ราชการ ประชาชนรู้จักเป็นอย่างดีและการเดินทางเข้าถึงง่ายกว่า

4.การปิดกั้นการแสดงความเห็น และไม่ใช่การรับฟังโดยแท้จริง เมื่อผู้เห็นต่างแสดงความคิดเห็นก็จะพยายามเร่งเร้าและรวบรัดให้จบการพูด แต่เมื่อมีผู้พูดเห็นด้วยก็ปล่อยให้พูดยืดยาว รวมถึงให้ตัวเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ออกมาพูดโต้แย้งกับประชาชนที่เห็นต่าง

ดังนั้นทางเครือข่ายปราจีนเข้มแข็งจึงขอประณาม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ที่ร่วมกันดำเนินการให้เกิดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็นฯ ที่มีลักษณะบิดเบี้ยวจากหลักการสากล สร้างบรรยากาศคุกคาม หวาดกลัว ให้ผู้เข้าร่วม เพียงเพื่อต้องการดำเนินงานให้ครบตามขั้นตอนก่อนการประกาศผนวกรวมจังหวัดปราจีนบุรีเป็นพื้นที่ขยาย EEC เท่านั้น
20 กันยายน 2568

เครือข่ายปราจีนเข้มแข็ง

ที่มาข้อมูล/ภาพ : หยุดอีอีซีปกป้องปราจีนฯ

#หยุดยกปราจีนให้ทุนจีน #จีนบุรี #นอมินี #ศูนย์เหรียญ #ไม่เอาจีนเทา #ทุนจีนบุรี #หยุดยกปราจีนไปให้ทุนจีน #ปัญหา ีน #ปราจีนบุรี #กากขยะ #ไม่เอาEEC #จีนเทาบุรี #อุตสาหกรรม #หยุดEEC #จีนเทา #ไม่เอาSEC #แลนด์บริดจ์

| #พรรคภูมิใจไทย| 18 ก.ย.68 ช่วงเวลา 14.00 น.เครือข่ายประชาชนภาคใต้-ภาคตะวันออกรวมตัว เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี นาย...
19/09/2025

| #พรรคภูมิใจไทย| 18 ก.ย.68 ช่วงเวลา 14.00 น.
เครือข่ายประชาชนภาคใต้-ภาคตะวันออกรวมตัว เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกุล ที่พรรคภูมิใจไทย
••••
ขอให้ทบทวนนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษและโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง - ชุมพร

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับพรรคภูมิใจไทยที่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ที่หัวหน้าพรรคคือคุณอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการเข้ามาบริหารประเทศในสถานการณ์พลิกผันทางการเมืองอันเกิดขึ้นจากความล้มเหลวในการบริหารของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา

ทั้งเรื่องสังคมการเมือง ปัญหาเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศที่สั่งสมมาหลายปี

ดังนั้นการเข้ามาเป็นรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยในครั้งนี้ จึงถูกคาดหวังว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ดีขึ้นได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะได้สะท้อนได้จากโฉมหน้าของคณะรัฐมนตรีทั้งหมด รวมถึงแนวนโยบายที่รัฐบาลจะแถลงต่อรัฐสภา

เครือข่ายภาคประชาชนจากภาคใต้และภาคตะวันออก ซึ่งเป็นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาบนแนวคิด “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่ถูกกำกับด้วยกฎหมายฉบับพิเศษในพื้นที่ภาคตะวันออก หรือ EEC และพื้นที่ภาคใต้ที่กำลังจะถูกประกาศเป็นระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ SEC เพื่อรองรับโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง - ชุมพร

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าแนวคิดการพัฒนาดังกล่าวกำลังสร้างปัญหาให้กับพวกเราในหลายมิติ อย่างเช่นการสูญเสียฐานทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย รวมถึงปัญหามลพิษจากขยะพิษที่เกิดขึ้นจากความล้มเหลวในการจัดการของเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้

พวกเราจึงมีความเห็นว่ารัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ ด้วยการกลับไปทบทวนแนวทางการพัฒนาดังกล่าว ที่กำลังถูกตั้งคำถามว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนต่างชาติมากกว่าคนในชาติของตนเองหรือไม่

พวกเราจึงมีความหวังอย่างยิ่งว่า รัฐบาลที่กำลังจะมีการจัดตั้งโดยการนำของพรรคภูมิใจไทย จะมีวิธีการบริหารบ้านเมืองที่แตกต่างและดีกว่ารัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีการประกาศใช้ไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นมา ที่จะต้องจัดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายในรอบ 5 ปี ที่มีการประกาศใช้ อันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

ทั้งนี้เพื่อจะได้กลับไปทบทวนข้อบกพร่องและความล้มเหลวของการบริหารงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ตามที่ได้ยกตัวอย่างไว้แล้วเบื้องต้น ก่อนที่จะมีการนำแนวนโยบายเช่นนี้ไปใช้ในภูมิภาคอื่นๆต่อไป

พวกข้าพเจ้าจึงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งหากรัฐบาลของท่านจะบรรจุนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ และโครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง - ชุมพร แถลงต่อรัฐสภาที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

โอกาสนี้ จึงขอเรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทย ในฐานะผู้นำจัดตั้งรัฐบาล ได้ใช้เวลาในการบริหารบ้านเมืองที่มีอยู่นี้ ให้เป็นไปตามเจตจำนงที่ท่านได้ทำบันทึกข้อตกลงกับพรรคประชาชนที่ว่าจะเข้ามาเพื่อสร้างทางออกให้กับสังคมการเมืองที่ดีขึ้น ด้วยการเลือกทำในเรื่องสำคัญเร่งด่วนอย่างเช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้ไขปากท้องประชาชน รวมถึงปัญหาความมั่นคงของประเทศที่กำลังเป็นอยู่ในเวลานี้

ทั้งนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนในสังคมโดยรวมต่อระบบการเมืองของประเทศ มากกว่าที่จะประกาศเดินหน้าโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ภายใต้แนวทางการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ท่ามกลางความคิดเห็นที่แตกต่างของคนในสังคม ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเช่นนี้

ที่มา/ภาพประกอบ : เครือข่ายประชาชนภาคใต้ -ภาคตะวันออก

#หยุดแลนด์บริดจ์ #หยุดSEC

19/09/2025

จับตาการหายไปของทรัพยากรชั่วข้ามคืนในรัฐบาลชั่วคราว

18/09/2025

แลนด์บริดจ์/SECจะทำลายภูเขาอีกหลายแหล่ง

| 18 ก.ย.68 |นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมภาคใต้ โพสต์ตั้งคำถาม นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีชั่วคราว ถึงกรณีการผลักดั...
18/09/2025

| 18 ก.ย.68 |นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมภาคใต้ โพสต์ตั้งคำถาม นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรีชั่วคราว ถึงกรณีการผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์

••••

เรียน นายกรัฐมนตรี กรณี การผลักดันโครงการแลนบริดส์

คำถามสำคัญก่อนการพูดถึงโครงการใดๆคือ ตอนนี้วิกฤติทางเศรษฐกิจของภาคใต้คืออะไร

ภาคใต้ขาดแคลนถนนและท่าเรือในการขนส่งสินค้าจนกลายเป็นเงื่อนไขของความตกต่ำทางเศรษฐกิจใช่หรือไม่ รัฐบาลจึงยินยอมทำลายทรัพยากรทางทะเลเพื่อนำมาทำถนนและท่าเรือ

คำถามสำคัญประการถัดมาคือ เมื่อสร้างถนนและท่าเรือเชื่อมสองฝั่งเสร็จแล้ว เศรษฐกิจภาคใต้จะเติบโตขึ้นเช่นนั้นหรือ

ถ้าเช่นนั้นแล้วถนนเซ้าเทิร์น ที่ทำรองรับโครงการนิคมอุตสาหกรรมเชื่อมอันดามันอ่าวไทยและไม่ได้ใช้ประโยชน์อันใดมาหลายสิบปี รวมทั้งท่าเรือระนองอันเก่าใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ระบบโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งต้องนั้นทีหลัง

แต่โจทย์แรกที่ต้องคิดก่อนคือ จะวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ในทิศทางใด บนผลประโยชน์ของประชาชน ภายใต้ทิศทางที่ออกแบบนั้นจะตอบคำถามได้ว่า โครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง เช่น ถนนและท่าเรือควรมีอะไรอยู่ตรงไหน นี่จึงเป็นหลักการที่ควรทำ

มากไปกว่านั้น โครงการนี้จะเชื่อมโยงกับกฎหมายฉบับหนึ่งคือ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้ผลักดันกฎหมายฉบับนี้มานาน ส่งผลให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ต่างชาติเช่าที่ดินได้99ปี

ยกเลิกอาชีพสงวนของคนไทย เกิดการยึดทรัพยากรน้ำ ป่าไม้ ที่ดิน ชายฝั่งทะเล บังคับเปลี่ยนผังเมืองของทุกจังหวัดเพื่อนำที่ดินมาทำนิคมอุตสหกรรม

ภายใต้กฎหมายฉบับนี้พรรคภูมิใจไทยต้องถามคนภาคใต้ว่า ยินยอมให้พรรคนี้ผลักดันกฎหมายให้ต่างชาติมายึดทรัพยากรภาคใต้เพื่อทำนิคมอุตสาหกรรมหรือไม่

อยากเรียนนายกรัฐมนตรีว่า กฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษจะเป็นจุดขัดแย้งสำคัญระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับประชาชนคนใต้ เพราะมันไม่ใช้กฎหมายพัฒนาแต่คือกฎหมายเพื่อกดขี่คนใต้เพื่อนำทรัพยากรทั้งมวลไปให้นักลงทุนภายใต้ 74 มาตราในร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้

ทำไมพรรคภูมิใจไทยจึงไม่ออกนโยบาย

1.พัฒนาการเกษตร สร้างโรงงานแปรรูป ผลิตการเกษตร ซึ่งคนภาคใต้ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพนี้

2.พัฒนาการท่องเที่ยวให้ก้าวหน้า มีคุณภาพ ปลอดภัย ซึ่งตรงกับศักยภาพภาคใต้

3.พัฒนาเกษตรคุณภาพสูง งานนวัตกรรมที่สอดคล้อง

ยังมีนโยบายที่สอดคล้องกับภาคใต้อีกมาก เหตุใดจึงไม่คิดทำ ทั้งที่นี่อาจเป็นที่มาของคะแนนเสียงและความนิยมของคนใต้ที่จะมีต่อพรรคภูมิใจไทยหากสมัยหน้าอยากจะปักธงในแผ่นดินภาคใต้

เรียนไปยังนายกรัฐมนตรีว่า การกำหนดการพัฒนาต้องอยู่บนหลักที่ถูกต้อง หากรัฐบาลเดินหน้านำภาคใต้ไปสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษของนักลงทุน จะกลายเป็นการจุดชนวนความขัดแย้งครั้งสำคัญ

เพราะกฎหมายSEC ไม่ใช่กฎหมายพัฒนาภาคใต้ แต่คือกฎหมายยึดทรัพยากรภาคใต้เพื่อให้เป็นนักลงทุนมาทำนิคมอุตสาหกรรม

ท่านนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรคภูมิใจไทยต้องอ่านร่าง พ.ร.บ.ที่ตัวเองเสนอให้กระจ่างนะครับ สส.เขตในภาคใต้จะได้ตอบประชาชนตอนหาเสียงได้ว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยจึงเสนอกฎหมาย เอาภาคใต้ไปให้นักลงทุนต่างชาติ

ประวัติศาสตร์บนโลกใบนี้ชี้ว่า อำนาจที่ถึงที่สุดจะเปลี่ยนพลิก

ที่มา : ประสิทธิ์ชัย หนูนวล

18/09/2025

โครงการแลนด์บริดจ์ เป็นการทำลายระบบนิเวศและฐานทรัพยากรของประเทศครั้งใหญ่สุด

ที่อยู่

Bangkok

เบอร์โทรศัพท์

+66811939175

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Green News Thailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Green News Thailand:

แชร์