Connect the Dots The Connector

ไม่ต้องเป็นหัวแถวอย่างใครเขา... ทำงานประจำก็สร้างอิสรภาพทางการเงินได้   เคยไหม นั่งไถฟีดเจอแต่คลิปกูรู-ไลฟ์โค้ชบอกให้ออก...
09/07/2025

ไม่ต้องเป็นหัวแถวอย่างใครเขา... ทำงานประจำก็สร้างอิสรภาพทางการเงินได้
เคยไหม นั่งไถฟีดเจอแต่คลิปกูรู-ไลฟ์โค้ชบอกให้ออกจากงานประจำไปทำธุรกิจของตัวเอง สร้างบริษัทของตัวเอง ไปเป็นหัวแถว บ้างก็มองว่าคนทำงานประจำว่าไม่มี Growth Mindset ยึดติด Comfort Zone ขี้เกียจ ไม่รู้จักพัฒนาตัวเอง แต่ในความเป็นจริง มันกลับไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป
การเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นแบกความเสี่ยงสูง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่าหลังโควิดมี SMEs ไทยปิดกิจการเพิ่มกว่าปีละ 7% แม้จะตั้งใหม่ปีละ 7% เช่นกันแต่ก็พบว่าธุรกิจที่อยู่รอดเกิน 3 ปีลดลงมาก ทั้งแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก หรือความสามารถในการดำเนินธุรกิจจากภายใน ล้วนส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างรุนแรง
อีกทั้งเจ้าของธุรกิจยังต้องทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น จนกว่าธุรกิจจะโตจนมั่นคงได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่ที่แน่ ๆ ต้องใช้ความพยายามมาก และเหนื่อยมากเช่นกัน ถึงจุดหนึ่งก็จะไม่ได้แบกแค่ธุรกิจตัวเองแต่ยังต้องแบกรายได้ของพนักงานทั้งหมดอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน พนักงานประจำแม้จะมีความเสี่ยงตกงาน หางานใหม่ยาก เมื่ออายุมากขึ้น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแบกความเสี่ยงของธุรกิจเอง และมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง มีหน้าที่ชัดเจน เลิกงานคือจบ มีเวลาไปทำอย่างอื่น ไม่ต้องมีต้นทุน มีรายได้สม่ำเสมอ และยังหารายได้เสริมจากช่องทางอื่นได้ นอกจากนี้ยังมีบำนาญประกันสังคมไว้ช่วยค่าใช้จ่ายตอนเกษียณอีกส่วนหนึ่ง
แล้วอิสรภาพทางการเงินล่ะ ทำงานประจำ หรือหารายได้เสริม มันก็ยังต้องทำงานนี่ ไม่มี Passive Income แล้วจะเอาอิสรภาพทางการเงินมาจากไหน
“อิสรภาพทางการเงิน” ไม่ได้ซับซ้อนและค่อนข้างตรงตัว อิสระ หมายถึง ความสามารถในการทำสิ่งใดโดยไม่ถูกจำกัดหรือสั่งโดยใคร เมื่อรวมกับการเงินจึงหมายถึงความสามารถในการใช้ชีวิตโดยไม่ถูกจำกัดด้วยเรื่องเงินนั่นแหละ รวมถึงการไม่ต้องทำงานด้วย (เพราะทำงานก็คือหาเงิน) ซึ่งจะทำแบบนั้นได้คือการมีเงินมากพอใช้จ่ายตลอดไป ซึ่งเป็นหัวใจหลักของอิสรภาพทางการเงิน ไม่ใช่การมี Passive Income อย่างที่หลายคนเข้าใจกัน เพียงแต่การมี Passive Income มันช่วยให้เรามั่นใจได้มากขึ้นว่าจะรายได้ใช้ไปเรื่อย ๆ เท่านั้น
นั่นหมายความว่าแค่หาเงินให้พอใช้ไปตลอดชีวิต เราก็จะมีอิสรภาพทางการเงินได้ ซึ่งพนักงานประจำก็สามารถทำได้ด้วยการออมและลงทุน ไม่ว่าจะกับหุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ สกุลเงินดิจิทัล ฯลฯ ยิ่งเป็นคนที่มีเงินเดือนสูง ก็อาจสร้างอิสรภาพทางการเงินได้เร็วไม่แพ้เจ้าของธุรกิจเลย
หากมีเงินสะสมในพอร์ตมากพอ ก็นับว่าเรามีอิสรภาพทางการเงินได้แล้ว และถ้าลงทุนกับสินทรัพย์ที่สร้าง Passive Income อย่างหุ้นปันผล หรืออสังหาริมทรัพย์ เราก็ยังมีรายได้เข้ามาตลอด โดยไม่ต้องลงทุนทำธุรกิจของตัวเองด้วยซ้ำ
ดังนั้น ไม่ต้องไปกังวลว่าเราจะต้องออกจากงานไปตั้งแถวใหม่ ทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จเท่านั้นจึงจะมีอิสรภาพทางการเงินและเกษียณอย่างสุขสบาย ทำงานประจำก็มีเงินใช้ตลอดชีวิตได้แค่รู้จักเก็บออมและลงทุนอย่างฉลาด ไม่จำเป็นต้องทำตามคำพูดของใครที่เขาไม่ได้ออกทุนให้เราไปเสี่ยงเจ๊งสักนิด

'ควอนอึนบี' เทพธิดาแห่ง Waterbombเทศกาลสุดแซ่บที่กลายเป็นไวรัลทุกปีWaterbomb เทศกาลดนตรีกลางสายฝนสุดยิ่งใหญ่ของเกาหลีใต้...
09/07/2025

'ควอนอึนบี' เทพธิดาแห่ง Waterbomb
เทศกาลสุดแซ่บที่กลายเป็นไวรัลทุกปี
Waterbomb เทศกาลดนตรีกลางสายฝนสุดยิ่งใหญ่ของเกาหลีใต้ ที่ทุกปีจะเปลี่ยนเวทีให้กลายเป็นสมรภูมิแห่งความสนุก ความเซ็กซี่ และการแสดงที่ไม่มีใครยอมใคร ได้เพลิดเพลินเต้นไปกับเสียงดนตรีและการแสดงสุดร้อนแรง โดยปีนี้ ‘ควอนอึนบี’ เจ้าของฉายา “เทพธิดาแห่ง Waterbomb” ก็ขึ้นมาระเบิดเวทีอีกครั้ง จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วบ้านทั่วเมืองกับชุดเสื้อแดงและท่าเต้นสุดแซ่บของเธอ
ควอนอึนบี หนึ่งในสมาชิกวง IZ*ONE เธอได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการเซอร์ไววัลยอดนิยม Produce 48 และได้เดบิวต์ในที่สุด จนเข้าสู่เส้นทางศิลปินเดี่ยวและมีโอกาสได้ขึ้นเวที Waterbomb ครั้งแรกในปี 2023 สร้างความน่าประทับใจกับการแสดงที่ครบรส จนทำให้เธอกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลนี้ไปแล้ว
ซึ่ง Waterbomb 2025 นี้ อึนบี มาในลุกเสื้อคลุมสีแดง พร้อมด้วยบิกินีบราสีขาวและกางเกงยีนส์ขาสั้นสุดเซ็กซี่ และแสนจะโดดเด่นท่ามกลางความร้อนแรงของงานแฟสติวัล เธอมาพร้อมกับการแสดงเพลง Door, Hello Stranger และเพลง Rumor ที่ได้ร่วมแสดงกับ อีชีอัน อดีตผู้เข้าแข่งขันจากรายการ Produce 48 เป็นการแสดงออกถึงมิตรภาพแสนน่ารักของพวกเธอได้อย่างดี
นอกจากนี้ ควอนอึนบี ยังสร้างเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ด้วยการคัฟเวอร์เพลง ‘Crazy In Love’ ของ Beyoncé ด้วยเสียงร้องหวาน ๆ บวกกับท่าเต้นสุดเซ็กซี่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คลิปการแสดงของเธอกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์เพียงชั่วข้ามคืน ผู้คนต่างมอบความมั่นใจและคำวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงบวกจนได้รับฉายา “Waterbomb Goddess”
Waterbomb เป็นเทศกาลดนตรีที่รวบรวมเหล่าไอดอลศิลปินไว้มากมาย เพื่อมาระเบิดเวทีสุดร้อนแรงให้เปียกชุ่ม ซึ่งนอกจากอึนบีแล้ว ในปีนี้หลายคนยังรอคอยการขึ้นเวที Waterbomb ในฐานะเพลงโซโล่ครั้งแรก นั่นก็คือ คาริน่า จากวง aespa ที่เรียกได้ว่าเป็นพี่สาวที่กำลังมาแรงในช่วงนี้เลย เธอมาพร้อมกับเพลงโซโล่ที่มีท่าเต้นไวรัลไปทั่วโซเชียล อย่างเพลง up ที่ทั้งเท่และจังหวะสนุก จนได้รับกระแสตอบรับที่ดีเลยทีเดียว
และที่ขาดไม่ได้ของงานสุดชุ่มฉ่ำนี้ คงหนีไม่พ้น Jay Park เจ้าของเพลงฮิตระดับชาติอย่าง “Mommae” ที่ไม่ว่าเล่นกี่รอบเวทีก็สะเทือนทุกครั้ง กลายเป็นภาพจำของ Waterbomb จนไปแล้วก็ว่าได้ อีกทั้งยังมี Chung Ha, Jeon Somi, Kai, Gray, 2NE1, LOCO และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มาแสดงระเบิดเวทีจนร้อนแรงเสียมากกว่าดับร้อนเสียอีก
ถ้าให้พูดถึงตำนานที่ผ่านมาของ Waterbomb คงมีทั้ง ซอนมี ในการขึ้นแสดงด้วยเสื้อกล้ามขาว Gucci ที่กลายเป็นไวรัลไม่แพ้กัน หรือแม้แต่เจ้าแม่เซ็กซี่ของเกาหลีใต้อย่าง ฮยอนอา ที่แม้เธอจะยืนเฉย ๆ รังสีความร้อนแรงก็แผ่ออกมาทั่วงาน ยิ่งในตอนแสดงยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะเธอเป็นที่น่าจับตามองมาตลอดอยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังมี ฮวาซา สาวผิวแทนที่สวยและยั่วยวนแบบข้ามมาตรฐานของเกาหลีใต้ และเธอได้สร้างตำนานการแสดงไว้บนเวที Waterbomb เช่นกัน สุดท้ายที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ คือ BIBI กับการแสดงเพลง weekend พร้อมถอดเสื้อโชว์บิกินี่สีเหลืองสดใส แต่ออร่าความเซ็กซี่นั้นแผดเผาคนทั้งงานได้เลยทีเดียว
แม้ Waterbomb จะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ศิลปินได้แสดงความร้อนแรงกันอย่างเต็มที่ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่น่าเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั้นก็คือการคุกคามทางเพศ
ซึ่งไม่นานมานี้มีชาวเน็ตรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวของ อึนบี ว่าเธอนั้นนั้นถูกคุกคามทางเพศระหว่างการแสดง จากท่าเต้นและชุดที่ค่อนข้างวาบหวิว จนทำให้แฟน ๆ และชาวเน็ตต่างตั้งคำถามว่าชุดที่เธอใส่นั่นเธอเต็มใจหรือไม่ หรือแม้กระทั่งออกมาวิจารณ์ว่าต้นสังกัดของเธอล้มเหลวในการปกป้องศิลปิน
Waterbomb คือเวทีที่เปิดให้ศิลปินได้แสดงตัวตน ความมั่นใจ และเสน่ห์ในแบบที่อาจแสดงบนเวทีไหนได้ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องตระหนักกันอยู่เสมอว่าการแสดงหรือการแต่งตัว ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างในการล่วงละเมิดหรือคุกคามใครก็ตาม เพราะเสน่ห์และตัวตนของศิลปิน ไม่ควรถูกล้ำเส้นเช่นนี้ ไม่ว่าจะในเพศไหน ๆ

เรื่อง : วชิราภรณ์ พรทวีทรัพย์

09/07/2025

บางคนคิดเองจนเจ๊ง… แต่รองเท้า Skechers ก๊อบคนอื่นจนรวย! ธุรกิจนี้ทำได้ไง? ติดตามได้ใน 20:00 น. นี้

TikTok ชี้ “ช่วงพิจารณา” คือจุดเปลี่ยนความสนใจเป็นยอดขายกลยุทธ์ใหม่ที่แบรนด์ไทยไม่ควรมองข้ามในยุคที่งบการตลาดต้องใช้อย่า...
09/07/2025

TikTok ชี้ “ช่วงพิจารณา” คือจุดเปลี่ยนความสนใจเป็นยอดขาย
กลยุทธ์ใหม่ที่แบรนด์ไทยไม่ควรมองข้าม
ในยุคที่งบการตลาดต้องใช้อย่างคุ้มค่าและสร้างผลลัพธ์ได้จริง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังผันผวน หลายแบรนด์กำลังทบทวนกลยุทธ์ Digital Marketing ใหม่ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสทางธุรกิจ ซึ่ง TikTok ได้เผยแนวคิดสำคัญใน โดยเน้นว่า “ช่วงพิจารณา” (Consideration Phase) คือจุดตัดที่สำคัญระหว่างการรับรู้ (Awareness) และการตัดสินใจซื้อ (Conversion) ที่หลายแบรนด์มักมองข้าม
TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มความบันเทิงที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ได้จัดงาน Creators & Creativity Summit Thailand 2025 เพื่อสนับสนุนธุรกิจและแบรนด์ไทยทุกขนาดเพื่อเร่งปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ได้อย่างรวดเร็ว มุ่งให้ความสำคัญกับโซลูชัน Brand Consideration ที่มีเป้าหมายช่วยให้แบรนด์สามารถขยายการเติบโตในกลุ่มผู้ชม Intent Audience ซึ่งหมายถึงผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมและสนใจกับคอนเทนต์ในช่อง TikTok
มีการชี้ว่า แบรนด์ที่ต้องการขยายยอดขาย ไม่สามารถพึ่งการสร้าง Awareness เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป แต่ต้องสามารถ เปลี่ยนความสนใจของผู้ชมให้กลายเป็นการตัดสินใจซื้อจริง ผ่านโซลูชันแบบครบวงจร (Integrated Solutions) ที่ TikTok มีให้
[พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน]
คุณชลธิชา งามกมลเลิศ จาก TikTok Thailand ระบุว่า พฤติกรรมการซื้อเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ซื้อจากโฆษณาโดยตรงอีกต่อไป แต่จะฟังรีวิวจากครีเอเตอร์ หรือดูประสบการณ์ของผู้ใช้จริงบนแพลตฟอร์มก่อนตัดสินใจ
ข้อมูลจาก TikTok ชี้ว่า
- 64% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มซื้อสินค้าหลังดูวิดีโอจากครีเอเตอร์
- 55% รู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์มากขึ้น หากครีเอเตอร์พูดถึง
- 62% สนใจลองสินค้าใหม่
- 1 ใน 3 ค้นหาข้อมูลต่อทันทีหลังจากชมวิดีโอ
นั่นหมายความว่า ครีเอเตอร์ กลายเป็นตัวกลางสำคัญที่พาผู้ชมเดินทางจากการสนใจ ไปสู่การตัดสินใจซื้อ
[จาก Awareness สู่ Consideration]
TikTok เน้นว่าทุกขั้นตอนของ Customer Journey สามารถเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มได้ โดยเฉพาะช่วงกลางของ Funnel ที่มักจะถูกมองข้ามมากที่สุด ซึ่งก็คือ “ช่วงพิจารณา” (Consideration)
TikTok มีโซลูชันที่ออกแบบมารองรับช่วงนี้โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับครีเอเตอร์, การใช้ฟีเจอร์วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ชม (เช่น การคลิก, คอมเมนต์, กดดูวิดีโอยาว 6 วิขึ้นไป ฯลฯ) ไปจนถึงเครื่องมือวางแผนการตลาดแบบ Full Funnel อย่าง TikTok Market Scope, TikTok One และ Symphony Creative Studio
ตัวอย่างจริงจาก 2 แบรนด์ไทย ที่ใช้ “Consideration Phase” ได้ผลลัพธ์ชัดเจน
⭐ MizuMi
คุณเอกภัทร รักความสุข จาก MizuMi เผยว่า การตลาดบน TikTok ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าในช่วงที่พวกเขากำลังเปรียบเทียบสินค้าจริงจัง
โดยใช้กลยุทธ์ Full Funnel ที่เน้น “Middle Funnel” เป็นหลัก และทำงานร่วมกับครีเอเตอร์ ส่งผลให้ได้ยอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 40–50% ภายใต้งบเท่าเดิม และลิปออยล์ของแบรนด์มียอด GMV โตขึ้นถึง 80% และติดอันดับ Top 5 สินค้าขายดีบน TikTok
⭐ Joy House
ในตลาดที่นอนที่มีคู่แข่งสูง Joy House หาวิธีใหม่ในการทำให้ลูกค้าสัมผัสคุณภาพสินค้าได้ผ่านจอ โดยใช้ครีเอเตอร์ทำคอนเทนต์ “ทดลองนอนจริง” แชร์ประสบการณ์ตรง ซึ่งทำให้โฆษณาช่วง Consideration คุ้มกว่าการเน้นยอดวิวถึง 20–30% พร้อมดันยอดขายรวมเติบโตเฉลี่ยกว่า 20% และ Engagement สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้นการใช้ Creator Marketing มาขับเคลื่อนธุรกิจและวางแผนการตลาดใหม่ ๆ จึงเป็นโอกาสของทุกธุรกิจ TikTok แนะนำ 3 แนวทางวางแผนการตลาดและโฆษณาครึ่งปีหลัง โดยเน้น 3 มิติหลัก ดังนี้ 1.สร้างสรรค์ (Create), 2.สร้างอิมแพค (Influence) และ 3.วิเคราะห์ข้อมูล (Analyse) ผ่านการใช้ Integrated Solutions ที่มีใน TikTok

“ถ้าไม่ชอบก็ไปดู Soundtrack สิ!” Superman พากย์ไทย ดี/แย่ยังไงก็ยังต้องดู เสียงสะท้อนของผู้ชมที่เลือกไม่ได้   ล่าสุด War...
08/07/2025

“ถ้าไม่ชอบก็ไปดู Soundtrack สิ!”
Superman พากย์ไทย ดี/แย่ยังไงก็ยังต้องดู เสียงสะท้อนของผู้ชมที่เลือกไม่ได้
ล่าสุด Warner Bros. Thailand ได้ปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง Superman (2025) ฉบับเสียงภาษาไทยออกมาแล้ว หลังจากมีประเด็นเรื่องการเปลี่ยนเอา เอม สรรเพชญ์ มาพากย์แทนนักพากย์อาชีพ และออกแถลงการณ์ยืนยันว่าได้ผ่านการคัดเลือกและมาตรฐานของทาง Warner Bros. ที่สหรัฐฯ เมื่อแฟน ๆ ได้ชมตัวอย่างนั้น ก็ได้ผลสรุปออกมาตรงกันว่า “โชคดีละแกล”
การเปลี่ยนตัวเอาดาราหน้าใหม่ด้อยประสบการณ์มาพากย์ตัวละครหลักของเรื่อง ซึ่งเป็นบทระดับขึ้นหิ้ง สร้างความกังวลใจให้กับแฟน ๆ ที่เฝ้ารออย่างมาก เมื่อได้รับชมตัวอย่างเสียงไทย แฟน ๆ ก็ได้รับการยืนยันว่าสิ่งที่พวกเขากังวลน่าจะเป็นจริง
เพจหนังและผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เนื้อเสียงของคุณเอมแม้จะมีความคล้ายนักแสดงที่รับบท Superman แต่การใช้น้ำเสียงในการพากย์กลับทำออกมาได้ไม่ดีนัก นอกจากนี้โทนเสียงก็ยังไม่นิ่ง แต่ละช็อตที่พากย์เสียงไม่เหมือนเดิม และที่สำคัญคือ “พากย์ไม่ชัด” จนหลายคนฟังไม่ถนัดว่าพูดคำว่าอะไร จนถูกนำมาแซวบนโซเชียลด้วยประโยคหนึ่งในตัวอย่างว่า “โชคดีละแกล”
กลับกันก็มีเพจหนังและผู้ใช้โซเชียลมีเดียบางกลุ่มที่มองว่าคุณเอมก็ทำได้ดีแล้วสำหรับการพากย์ครั้งแรก และไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไรกับเสียงพากย์ในตัวอย่างนี้
ทั้งนี้หลายคนก็มองว่า ถ้าไม่พอใจกับเสียงพากย์ไทยก็แค่ไปดูระบบเสียง Soundtrack (ซับไทย) ก็ได้นี่ จะดราม่าทำไม หรือ จะดีไม่ดีก็ไปวัดกันเลยสิว่าคนดูพากย์ไทยเยอะแค่ไหน ซึ่งนี่เป็นทัศนะที่แคบเกินไป เพราะในความเป็นจริงจะดีแย่อย่างไรพากย์ไทยก็ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับทุกคน แต่เป็นตัวเลือกเดียวของคนจำนวนมาก
ปัจจัยที่ผู้ชมเลือกดูหนังพากย์ไทยนั้นหลากหลาย ทั้งเรื่องรสนิยม การชมพากย์ไทยอาจได้ฟังบทพากย์ที่สร้างสรรค์ แปลกใหม่จากบทพูดต้นฉบับ ต้องการติดตามผลงานของนักพากย์ที่ชอบ แต่บางคนก็มีเงื่อนไขบังคับ เช่นอาจมีปัญหาสายตา อ่านซับไม่ทัน หรือบางคนก็อาจไม่แข็งภาษาอังกฤษ การดูพากย์ไทยจึงเป็นตัวเลือกจำเป็น
แต่ที่สำคัญ ปัจจัยใหญ่ที่สุดคือเรื่องสถานที่ สำหรับชาวกทม. และปริมณฑล การเลือกดู Soundtrack หรือพากย์ไทยเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่กับผู้ชมที่อยู่ต่างจังหวัด แทบไม่มีโอกาสได้เลือก
จะด้วยรสนิยมของคนต่างจังหวัด ไม่ค่อยมีชาวต่างชาติ หรือเหตุผลใดก็ตาม โรงหนังต่างจังหวัดส่วนใหญ่ฉายรอบพากย์ไทยล้วน หรือถ้ามีรอบ Soundtrack ก็มีแค่วันละ 1-2 รอบช่วงกลางวัน หรือรอบดึกเลยเท่านั้น ซึ่งผู้ชมกลุ่มนี้ก็จำต้องดูพากย์ไทยที่อาจจะชอบหรือไม่ชอบอย่างเลือกไม่ได้
การตัดสินใจของค่ายหนังในการแคสต์นักพากย์จึงสำคัญอย่างยิ่ง และส่งผลต่อประสบการณ์การรับของผู้ชมอย่างมาก สุดท้ายแม้หนังจะดี แต่เสียงพากย์ไม่ตอบโจทย์ ก็อาจกลายเป็นประสบการณ์แย่ ๆ ของผู้ชมได้
แล้วคุณคิดอย่างไรกับตัวอย่าง Superman เสียงไทยตัวนี้บ้าง ลองคอมเมนต์บอกกันหน่อย
Superman 10 กรกฎาคมนี้ในโรงภาพยนตร์

(เมื่อก่อน) ร้อง Happy Birthday ซี้ซั้วเสี่ยงโดนฟ้อง!   เพลง Happy Birthday เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่คนร้องบ่อยที่สุดในโลก เ...
08/07/2025

(เมื่อก่อน) ร้อง Happy Birthday ซี้ซั้วเสี่ยงโดนฟ้อง!
เพลง Happy Birthday เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่คนร้องบ่อยที่สุดในโลก เพราะเป็นเพลงที่เนื้อเพลงไม่ยาก ทำนองไม่ซับซ้อน คนพูดอังกฤษไม่เป็นก็ร้องได้ แถมยังมีโอกาสให้ใช้ตลอดเพราะมีคนเกิดทุกวัน ตามบาร์ต่าง ๆ ก็มักให้วงดนตรีเล่นให้ลูกค้าที่มาร้านในวันเกิดอยู่เป็นประจำ
แต่รู้ไหมว่าเมื่อก่อนนี้หากเราร้องเพลง Happy Birthday อาจเสี่ยงโดนฟ้องได้เลย เพราะครั้งหนึ่งเพลงนี้เคยมีผู้ถือครองลิขสิทธิ์อยู่ แถมฟ้องเก่งเสียด้วย
ต้นกำเนิดของเพลง Happy Birthday เริ่มในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 สองพี่น้อง แพตตี้ และ มิลเดรด เจน ฮิลล์ (Patty Hill, Mildred J. Hill) ได้แต่งเพลงชื่อ Good morning to all ให้เด็กอนุบาลในชั้นเรียนของแพตตี้ โดยมีเนื้อและทำนองที่จดจำและร้องตามง่าย ต่อมาพวกเธอได้เผยแพร่เพลงนี้ในหนังสือเพลงที่ชื่อว่า Song Stories for the Kindergarten ในปี 1893 ผ่าน บริษัท ซัมมี่โค (Summy Co.)
แล้วกลายเป็น Happy Birthday ได้ยังไง?
ในปี 1901 เริ่มมีประโยคคล้ายเพลง Happy Birthday ถูกเผยแพร่ผ่านบทกวี "Roy's Birthday" โดย อีดิธ กู๊ดเยียร์ อัลเกอร์ (Edith Goodyear Alger) แต่ยังไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นเนื้อเพลง และในปีเดียวกันวารสาร Inland Educator and Indiana School Journal ก็บันทึกว่าเด็ก ๆ มีการร้องเพลงที่มีเนื้อร้องว่า “Happy birthday to you” แต่ไม่ได้ระบุเนื้อร้องและทำนองไว้
จนกระทั่งปี 1911 มีหนังสือที่ชื่อ The Elementary Worker and His Work ที่มีเนื้อเพลง Happy birthday ที่ระบุว่าให้ร้องด้วยทำนองของเพลง Good Morning to All เพลง Happy Birthday แบบที่เราร้องกันทุกวันนี้จึงได้เริ่มถือกำเนิดขึ้น
กระทั่งปี 1924 หนังสือ Harvest Hymns โดย Robert H. Coleman ได้ใส่โน้ตเพลงพร้อมเนื้อร้อง Happy Birthday เป็นครั้งแรกที่เพลงนี้ถูกประกอบร่างขึ้นมาโดยสมบูรณ์และเผยแพร่อย่างเป็นทางการ จากนั้นก็ถูกเผยแพร่อีกครั้งในสมุดโน้ตเพลง Children’s Praise and Worship ในปี 1928 ด้วยชื่อ “Happy Birthday to You”
แต่ในหนังสือเหล่านี้ไม่ได้มีการระบุที่มาของทำนองและเนื้อเพลง และในปี 1934 ละครเพลงเรื่อง As Thousands Cheer ก็ได้นำเพลง Happy Birthday to You ไปใช้ นั่นทำให้ครอบครัว Hills เกิดความไม่พอใจอย่างมาก เจสสิกา ฮิลล์ (Jessica Hill) น้องสาวของแพตตี้และมิลเดรด จึงได้ยื่นฟ้องทุกคนที่นำเพลงของพี่สาวไปใช้เชิงพาณิชย์
เรื่องลิขสิทธิ์และคดีความมันซับซ้อนและวุ่นวาย ในปีเดียวกันนั้นเจสสิกาจึงได้ทำข้อตกลงกับ Summy Co. โอนสิทธิ์การจัดการลิขสิทธิ์เพลง Good Morning to All และ Happy Birthday to You ทั้งหมด ในปี 1935 Summy Co. จึงได้จดลิขสิทธิ์การเรียบเรียงเปียโนเพลงนี้ โดย เพรสตัน แวร์ โอเรม ( Preston Ware Orem) และ อาร์.อาร์. ฟอร์แมน ( R. R. Forman)
ภายหลัง Summy co. ก็ถูก วอร์เนอร์ แชปเพล (Warner/Chappell) บริษัทในเครือ Warner Music Group ซื้อไปในปี 1988 พร้อมได้ลิขสิทธิ์เพลง Happy Birthday to You ซึ่งตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ไล่เก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง Happy Birthday to you จากทุกแหล่งที่เพลงถูกใช้เชิงพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็น หนัง วิทยุ คอนเสิร์ต และโชว์ต่าง ๆ ที่เผยแพร่เพลงสู่สาธารณะ จนในปี 2008 วอร์เนอร์แชปเพล เก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงนี้ได้ประมาณวันละ 5 พันดอลลาร์ ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ต่อปี
จนในปี 2013 เจนนิเฟอร์ เนลสัน (Jennifer Nelson) นักทำหนังอิสระ ได้ยื่นฟ้อง Warner/Chappell ด้วยเหตุที่ว่า ลิขสิทธิ์เพลง Happy Birthday to you ที่วอร์เนอร์แชปเพลถือครองอยู่นั้นไม่ถูกต้อง และพวกเขาไม่มีสิทธิ์เก็บค่าลิขสิทธิ์จากคนอื่นที่เอาเพลงไปใช้
ซึ่งถ้าย้อนดูยังไม่ได้มีการจดเนื้อกับทำนองร่วมกันจริง และลิขสิทธิ์ที่ Warner/Chappell ได้มาแต่ละครั้งก็ไม่ได้รวมถึงเนื้อเพลงและทำนองด้วย นอกจากนี้ Summy co. ก็ไม่ได้ถือลิขสิทธิ์เพลงตั้งแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ
ในปี 2015 ผู้พิพากษาจึงตัดสินว่าการถือสิทธิ์ของ Warner/Chappell ในเนื้อเพลง "Happy Birthday to You" นั้นไม่ถูกต้อง บริษัทได้ตกลงยินยอมจ่ายเงิยชดเชยกว่า 14 ล้านดอลลาร์ คืนให้กับคนที่เคยจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลง
จึงทำให้ศาลตัดสินได้อย่างชัดเจนว่า เพลง Happy Birthday to you ได้กลายเป็นสาธารณะสมบัติแล้วอย่างเป็นทางการ ในเดือนมิถุนายน 2016 เป็นต้นมา
(สารคดีการฟ้องร้องเรื่องลิขสิทธิ์เพลง Happy Birthday to You ระหว่าง เจนนิเฟอร์ และ Warner/Chappell ลิงก์ในคอมเมนต์)

เก็บตก 5 บทเรียนจากงาน   พร้อมภาพบรรยากาศตลอดทั้งงาน!จบกันไปแล้วกับงาน SUPALAI Presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2025 งา...
08/07/2025

เก็บตก 5 บทเรียนจากงาน
พร้อมภาพบรรยากาศตลอดทั้งงาน!
จบกันไปแล้วกับงาน SUPALAI Presents CREATIVE TALK CONFERENCE 2025 งานมหกรรมความรู้ ที่จะอัปเดตเทรนด์ มุมมอง เทคนิค และเรื่องราวเบื้องหลังธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหาร และคนวงการมากมาย เพราะวันพรุ่งนี้คำว่า “Creative” จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป! เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาปลดล็อกทุกไอเดียร่วมกัน
CTC2025 ที่ไม่ได้ให้แค่ความรู้ แต่มอบบทเรียนเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนวิธีมองโลก วิธีมองตัวเอง และวิธีทำงานให้กับทุกคน
💭 บางเวทีทำให้เรากล้าพูดในสิ่งที่ไม่เคยพูด
💡 บางประโยคทำให้เรากลับไปคิดกับสิ่งที่ทำทุกวัน
🧭 และบางคนที่ได้ฟัง…อาจทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ต้องเดินลำพัง
ใครที่ไม่มีบัตร แต่อยากรับชมแบบจัดเต็ม
สามารถซื้อบัตรรับชมย้อนหลังทุกเซสชันเพิ่มเติมได้ที่
👉 https://bit.ly/3TRATke
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #ททท #สุขทันทีที่เที่ยวไทย #ธุรกิจสร้างสรรค์

เทศกาลดนตรีท้องถิ่นซบเซา Maho Rasop Festival ประกาศงดจัดงานปีนี้ ประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับเทศกาลดนตรีระดับโลกที่จัดขึ้...
08/07/2025

เทศกาลดนตรีท้องถิ่นซบเซา
Maho Rasop Festival ประกาศงดจัดงานปีนี้
ประกาศอย่างเป็นทางการสำหรับเทศกาลดนตรีระดับโลกที่จัดขึ้นในประเทศไทยติดต่อกันมา 7 ครั้งอย่าง Maho Rasop Festival ว่างานจะไม่เกิดขึ้นในปีนี้ เพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัจจัยด้านราคาค่าตัวศิลปินที่พุ่งสูง และมีเทศกาลดนตรีจำนวนมากเกิดขึ้นในบ้านเรา แต่หากทุกอย่างกลับสู่แนวโน้มที่ดี เทศกาลดนตรี Maho Rasop Festival จะกลับมาอย่างแน่นอน
เทศกาลดนตรีชั้นนำของไทยในสายตาชาวโลกอย่าง Maho Rasop Festival หรือ Pelupo ได้พาเหรดนำศิลปินระดับโลกอย่าง AIR, Jack Johnson, Slowdive, The Drums, Kings of Convenience, MONO (Japan), Atarashii Gakko!, Phoenix ฯลฯ มาแสดงในประเทศไทยร่วมกับศิลปินท้องถิ่นฝีมือจัดจ้าน สร้างเม็ดเงินมหาศาล ขยายพรมแดนทางดนตรี และสร้างชื่อให้ประเทศไทยในฐานะผู้จัดระดับนานาชาติ
หลังการประกาศ กระแสตอบรับนอกจากการส่งกำลังใจให้ผู้จัดสามารถกลับมาสานต่อเทศกาลดนตรีอันทรงคุณค่านี้ได้ในเร็ววันคือ “ทำไมรัฐบาลไทย ถึงอุ้มชูแต่เทศกาลดนตรีต่างชาติ ทุ่มงบประมาณประเทศซื้อมาจัด แต่กลับทอดทิ้งเทศกาลดนตรีท้องถิ่นให้เจอกับปัญหา ทั้งที่พวกเขาคือคนที่ก่อร่างสร้างวัฒนธรรมทางดนตรีมาก่อนที่รัฐบาลจะรู้ถึงการมีอยู่ของ Soft power เสียอีก”
แต่แฟนคลับของ Maho Rasop Festival ยังพอมีรางวัลปลอบใจเป็น Maho Rasop Series ซีรีส์คอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงธันวาคม ปี 2025

ทำไมไม่หยุด..สำรวจปัจจัยที่ผู้เล่นยอมแลกด้วยชีวิต [Move มันส์ 🍿]  ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับซีรีส์ยอดนิยม Squid Game ซีซั่น 3 ...
07/07/2025

ทำไมไม่หยุด..สำรวจปัจจัยที่ผู้เล่นยอมแลกด้วยชีวิต [Move มันส์ 🍿]

ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับซีรีส์ยอดนิยม Squid Game ซีซั่น 3 แม้จะเกิดข้อถกเถียงมากมายทั้งฝ่ายที่ชอบและไม่ชอบ แต่คำถามยอดนิยมคงหนีไม่พ้น “ทำไมไม่ยอมหยุดเล่น” เรื่องนี้มีคำตอบ มาไขข้อข้องใจได้ใน Move มันส์ มูฟให้มันส์เรื่องการเงินและบันเทิง กับ ทักษ์ ทัพสุริย์

(Link ใต้คอมเมนต์)

ันส์ #หนี้

07/07/2025

"ไม่ใช่เพราะอยากรวย...แต่เพราะไม่มีทางเลือก" ทำไมผู้เล่น squid game ไม่ยอมหยุดแม้ต้องเสี่ยงตาย? ติดตามได้ 20:00 น. ใน ันส์

ติดกับร้านค้าไลฟ์สไตล์เข้าทุกครั้งแม้ไม่รู้จะซื้ออะไร เชื่อว่าหลายคนคงเคยเป็นกัน ที่เมื่อเห็นร้านค้าไลฟ์สไตล์แล้วอดไม่ได...
07/07/2025

ติดกับร้านค้าไลฟ์สไตล์
เข้าทุกครั้งแม้ไม่รู้จะซื้ออะไร
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเป็นกัน ที่เมื่อเห็นร้านค้าไลฟ์สไตล์แล้วอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป แม้ยังไม่มีของที่จำเป็นต้องซื้อ แต่ก็เข้าไปเพื่อแอบส่องของน่ารัก ๆ หรือบางอย่างอาจจะมีประโยชน์ให้กับสักมุมในห้องได้ ซึ่งร้านค้าไลฟ์สไตล์พวกนี้จะขายของที่จิปาถะมาก ตั้งแต่ของตกแต่ง เครื่องเขียน ไปจนถึงของใช้ที่ใช้งานได้จริง ขายในราคาไม่ได้สูงมากนัก ทำให้คนผ่านไปผ่านมาเข้าไปเดินเล่นปล่อยใจแบบไม่ได้คิดอะไรกันบ่อย ๆ
[Daiso]
Daiso ถือกำเนิดในปี 1972 โดย Hirotake Yano ด้วยแนวคิด “ร้านสินค้าราคาเดียว” เป็นร้าน 100 เยน มีสินค้าครอบคลุมตั้งแต่เครื่องเขียน เสื้อผ้า ของทำความสะอาด และของมีประโยชน์อีกมากมาย ที่หลายคนเห็นแล้วคงเกิดอยากเหมากันเลยทีเดียว
จึงเป็นที่มาของ คำว่า ‘Daiso syndrome’ ที่เด็กเกาหลีเรียกกันเล่น ๆ เพราะมันเป็นอาการของคนที่เห็นร้าน Daiso จะเดินเข้าไปในร้านโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะในหมู่นักเรียนหอพักหรือผู้บริโภคที่ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย ถึงจะไม่มีของที่ต้องการซื้อจริง ๆ แต่ถ้าเห็นของที่ดูน่าสนใจ ก็จะรู้สึกอยากได้และหาข้ออ้างให้ตัวเองซื้อมันมาอย่าง งง ๆ เสียอย่างนั้น
[Miniso]
Miniso เป็นแบรนด์จากจีนที่ยกระดับร้านจิปาถะให้ดูมีดีไซน์มากขึ้น ด้วยค่านิยม “Simple and Natural” ที่เน้นความเรียบง่าย ใช้งานได้จริง โดยมีโมเดลการทำธุรกิจแบบ Stores Retailing ที่เน้นเฉพาะการขายผ่านหน้าร้านเท่านั้น ไม่มีบริการขายผ่านทางออนไลน์ เพราะ MINISO มองว่าสินค้าส่วนใหญ่ที่ขายดี จะเป็นสินค้าประเภท Fast Fashion ที่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ไปตามฤดูกาล จึงต้องทำให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัสสินค้าและบรรยากาศที่ร้านด้วยตัวเองนั่นเอง
ซึ่งเดิมที บริษัท ซิงไท่ เทรดดิ้ง จำกัด เป็นผู้นำเข้าสินค้า แต่ในปัจจุบันได้มีข่าวออกมาว่า ซิงไท่ ได้ยุติบทบาทการเป็นตัวแทนจำหน่าย MINISO แล้ว จึงได้รีโนเวทเป็นแบรนด์ LEMONY แทน
ส่วนแบรนด์ MINISO จะยังคงดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อไป โดย MINISO HEADQUATER จะเข้ามาบริหารจัดการโดยตรงผ่านบริษัทตัวแทนใหม่ ในนาม MINISO Official Thai คือ บริษัท มินิโซ วิงกี้ จำกัด มีร้านค้าเปิดดำเนินการแล้ว 3 สาขา ได้แก่ สาขาเอเชียทีค, สาขาเมกา บางนา, และสาขา MBK Center
[Moshi Moshi]
แบรนด์สัญชาติไทย มีกลยุทธ์หลักที่ใช้ในการพัฒนาสินค้า ทั้งด้าน Design: ออกแบบให้ตรงกับความชอบและการใช้งานของผู้บริโภค Quality: พัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ดี Price: ราคาสินค้าย่อมเยา และ Variety: นำเสนอสินค้าที่หลากหลาย
มีการตกแต่งร้านที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ และเพิ่มประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้า อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้นด้วย ทำให้ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว
ทุกร้านที่กล่าวมา ทั้งมีราคาถูก เข้าถึงง่าย สินค้าหลากหลาย และดึงดูดลูกค้าได้หลายกลุ่มตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงานที่มองหาสินค้าคุณภาพดี ดีไซน์น่ารัก หรือมินิมอล แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคนในราคาที่จับต้องได้ ทำให้คนเดินผ่านร้านพวกนี้แม้จะไม่ได้มีอะไรที่คิดว่าจะซื้อ แต่ถ้าได้เข้าไปเมื่อไหร่ล่ะก็ อาจจะได้ถุงใหญ่ติดมือมาด้วยเป็นแน่
ซึ่งความรู้สึกที่เรามีต่อร้านไลฟ์สไตล์เหล่านี้ จะบอกว่ามันเป็นเพียงความอยากซื้อเฉย ๆ ก็ไม่ผิด แต่ถ้ามองลึกลงไป พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะของมันน่ารักอย่างเดียว แต่ยังมีแรงจูงใจลึก ๆ ทางจิตใจ ที่ทำให้เราซื้อโดยไม่ตั้งใจ
และเหตุผลเชิงจิตวิทยาที่ซ่อนอยู่หลังถุงใหญ่ ๆ ที่เราหิ้วกลับบ้าน มีดังนี้
[Impulse Buying]
การซื้อแบบฉับพลัน ซื้อแบบไม่ไตร่ตรอง : พฤติกรรมการซื้อแบบฉับพลันโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน กระตุ้นโดยอารมณ์ในช่วงเวลานั้น ๆ หรือบรรยากาศในร้าน เป็นการ “หยิบด้วยใจไม่ใช่สมอง” เราอาจไม่ได้ต้องการสิ่งนั้นเลย แต่แค่เห็นตอนเหนื่อย ๆ หรือกำลังเบื่อ ๆ อยู่ พอหยิบขึ้นมาก็รู้สึกดีทันที เสียงในหัวจึงพูดขึ้นมาว่า “เอาก็ได้วะ”
[Retail Therapy]
การซื้อของเพื่อเยียวยาอารมณ์ : การซื้อของเพื่อคลายเครียดหรือเยียวยาความรู้สึก เช่น วันเหนื่อย ๆ แค่ได้ซื้อของน่ารักก็รู้สึกเหมือนได้ให้รางวัลตัวเอง แน่นอนว่าของน่ารักบางชิ้นไม่ได้มีคุณค่าทางการใช้งาน แต่มันเป็นคุณค่าที่ทำให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ในวันที่ชีวิตเหน็ดเหนื่อย แต่เพียงได้เติมของน่ารักก็มีความสุขเล็ก ๆ ไปอีกวัน
เขาถึงว่ากันว่าของน่ารักบางทีก็ทำมาขาย “เด็กวัย 25” มากกว่าเด็ก 10 ขวบ
[Decision Fatigue]
ความเหนื่อยล้าจากการตัดสินใจ : ในวันที่เราเหนื่อยล้ากับการตัดสินใจเรื่องใหญ่ ๆ มาทั้งวัน ร้านที่มีของราคาไม่แพง ชวนหยิบง่าย จึงช่วยพักสมองจากการตัดสินใจที่ซับซ้อนได้ เพราะสมองมนุษย์มีขีดจำกัดในการตัดสินใจ พอได้ใช้ไปทั้งวัน สมองจะไม่อยากคิดเยอะ ยิ่งเมื่อได้เจอของที่ถูกใจจึง “หยิบไว้ก่อน ค่อยคิดทีหลัง”
แล้วคุณล่ะ…เคยเผลอใจเดินเข้าร้านไลฟ์สไตล์แบบนี้บ้างไหม?
เคยหยิบของมาแบบ งง ๆ แต่สุดท้ายก็ซื้อมา แล้วค่อยคิดว่าจะใช้ทำอะไรดี เอามาก่อนดีที่สุดอะเนอะ

เรื่อง: วชิราภรณ์ พรทวีทรัพย์

07/07/2025

#เจสซี่สรุปให้ สำหรับภาระกิจในการเป็น Media Partner ของทีมงาน Connect the dots โครงการ The Influencer กิจกรรมในโครงการเดินทางมาใกล้ปิดโครงการแล้ว แสดงความยินดีล่วงหน้ากับผู้เข้าเรียนที่ได้รับความรู้ด้านการเงินการลงทุน และยังได้รางวัลจากการแข่งขันอีกด้วย 🎉🎉🎉

ฝากติดตามเพจ หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการที่มีผลงานการผลิตคอนเท้นท์ที่หลากหลาย ด้านการเงิน ธุรกิจ การลงทุน ✌️✌️

ที่อยู่

Bangkok
10900

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Connect the Dotsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Connect the Dots:

แชร์

Creative Investment Space

เนื่องจากโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้โลกการเงินการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน คนทั่วไป คนรุ่นใหม่ และนักลงทุน ควรรู้เท่าทัน จึงเป็นที่มาของ

Innovative investment space: พื้นที่แห่งการเรียนรู้นวัตกรรมการลงทุน

Change for better life: พื้นที่ที่จะเปลี่ยนให้คุณเป็นคนที่ดีกว่า

โดยเราจะมีการเรียนการสอนความรู้ด้านการลงทุนในรูปแบบใหม่ หลากหลาย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในนวัตกรรมการลงทุนสมัยใหม่ พร้อมสร้างสังคมการแบ่งปันความรู้ด้านการลงทุน