Police Radio (Thailand)

Police Radio (Thailand) ศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำร

ศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศผข.ตร.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมตำรวจ(ในสมัยนั้น) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เผยแพร่ผลการปฏิบัติงานของตำรวจให้ประชาชนและข้าราชการตำรวจได้รับทราบ เป็นการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างตำรวจกับประชาชน และปัจจุบันทำหน้าที่ ผลิตสื่อวิทยุกระจายเสียงเพื่อการประชาสัมพันธ์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อการเผยแพร

่ ข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปสู่ประชาชน ซึ่งออกอากาศด้วยระบบ FM ๓๗ สถานี และระบบ AM ๗ สถานี โดยมีศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสถานีแม่ข่ายในการผลิตรายการและข่าวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกอากาศผ่านดาวเทียมไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียงในเครือข่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๔๔ สถานี ทั่วประเทศ

📍ผบ.ตร. ชื่นชมตำรวจปฏิบัติการเฉียบ วิสามัญผู้ต้องหายาเสพติดหลังยิงต่อสู้ขณะจับกุม ย้ำใช้ยุทธวิธีตามหลักสากล รอบคอบ ปลอดภ...
27/10/2025

📍ผบ.ตร. ชื่นชมตำรวจปฏิบัติการเฉียบ วิสามัญผู้ต้องหายาเสพติดหลังยิงต่อสู้ขณะจับกุม ย้ำใช้ยุทธวิธีตามหลักสากล รอบคอบ ปลอดภัย และขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด
วันนี้ (27 ตุลาคม 2568) เวลาประมาณ 18.00 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุวิสามัญผู้ต้องหาคดียาเสพติด บริเวณบ้านพักริมคลองมหาสวัสดิ์ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.), พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิไล ผบก.สส.บช.น. และ พล.ต.ต.ชัยยะ เพ็ชรปัญญา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ

💢ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ชุดสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้สืบทราบเบาะแสว่า นายวิชัยฯ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย ที่ จ.296/2568 ลงวันที่ 25 ต.ค. 2568 ข้อหา “ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย” ได้หลบหนีมากบดานในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของเพื่อนในพื้นที่ ขณะเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม นายวิชัยฯ ได้ใช้อาวุธปืนยิงสวนใส่เจ้าหน้าที่หลายนัด เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้ตามหลักยุทธวิธีเพื่อป้องกันตัว เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

👉จากการตรวจสอบในบ้านพบอาวุธปืนขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก, ปลอกกระสุนจำนวนหนึ่ง, ยาบ้ากว่า 100 เม็ด และไอซ์อีกบางส่วน โดยจากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่าผู้ตายเคยต้องโทษคดียาเสพติดมาแล้วถึง 6 คดี และยังมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งตำรวจจะขยายผลเพื่อติดตามผู้ร่วมขบวนการต่อไป

🔹️พล.ต.อ.สำราญฯ กล่าวว่า นายวิชัยฯ ถือเป็นผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ตำรวจใช้เวลาในการติดตามจับกุมตัวอยู่ ซึ่งขอชมเชยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้ปฏิบัติตามยุทธวิธีและปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด หลังจากนี้จะมีการขยายผลการจับกุมว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องอีกบ้าง และตรวจสอบว่าในระหว่างที่กบดานมาที่เกิดเหตุ มีการจำหน่ายยาเสพติดรายย่อยในชุมชนหรือไม่ ยืนยันว่าตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเฉียบขาด เพื่อให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

🔹️พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร. ได้แสดงความห่วงใยและชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญ รอบคอบ และใช้ยุทธวิธีตามหลักสากลในการเข้าจับกุม พร้อมย้ำว่า ปัจจุบันผู้ต้องหาคดียาเสพติดมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมรุนแรง และพร้อมต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ จึงกำหนดแนวทางให้ทุกหน่วยตรวจสอบประวัติอาชญากรอย่างละเอียด และวางแผนยุทธวิธีให้รอบคอบก่อนเข้าปฏิบัติการ เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน ซึ่งการปราบปรามยาเสพติดเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสร้างชุมชนและสังคมไทยให้แข็งแรง ปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน

📍รองจเรตำรวจแห่งชาติรับข้อมูลคนหายจากการถูกหลอกลวงไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ประเทศเพื่อนบ้าน จากมูลนิธิกระจกเงา วันนี้ (27 ตุล...
27/10/2025

📍รองจเรตำรวจแห่งชาติรับข้อมูลคนหายจากการถูกหลอกลวงไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ประเทศเพื่อนบ้าน จากมูลนิธิกระจกเงา
วันนี้ (27 ตุลาคม 2568) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้รับมอบหนังสือจากมูลนิธิกระจกเงา โดย นางสาวกนกวรรณ พูลเพิ่ม รองหัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา และ นางสาวศิริพร ติวสร้อย หัวหน้าเวรรับแจ้งเหตุคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ในเรื่องของข้อมูลคนหายที่พบว่าถูกหลอกลวงไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน

👉สืบเนื่องจากปัญหาสถานการณ์คนหายที่ถูกล่อลวงสู่อาชญากรรมข้ามชาติ ที่เชื่อมโยงกับขบวนการสแกมเมอร์ บัญชีม้า และการค้ามนุษย์ โดยตลอดปี 2568 มูลนิธิกระจกเงารับแจ้งคนหายที่ถูกพาไปเป็นสแกมเมอร์ยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเปิดบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งหลอกให้ลงทุน กว่า 119 ราย อายุเฉลี่ย 26 ปี โดยในจำนวนนี้เป็นชาย 73 ราย หญิง 46 ราย รวมทั้งมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีถึง 18 ราย อายุน้อยสุดเพียง 15 ปีและผู้สูงอายุอายุมากสุด 65 ปี

🔹️นางสาวกนกวรรณ พูลเพิ่ม รองหัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้แม้มีการปิดชายแดนกัมพูชาแต่ยังมีการหลั่งไหลไปของคนไทยที่ถูกหลอกชักชวนไปทำงาน เมื่อข้ามแดนไปแล้วถูกกักขังในสถานที่ปิด ยากที่จะหลบหนี หากไม่ยอมทำงานอาจไม่ปลอดภัยหรือถูกส่งไปที่อื่น โดยขณะนี้มีคนหายที่มูลนิธิกระจกเงารับแจ้งเหตุ อีก 25 รายที่ยังไม่ได้กลับประเทศไทย และกำลังรอความช่วยเหลือ โดยในวันนี้ได้ยื่นหนังสือให้ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้ทราบข้อเท็จจริงและติดตามกรณีเด็กหญิง 16 ปี ถูกชักชวนให้ทำงานในโลกออนไลน์ แต่ถูกหลอกพาไปทำงานสแกมเมอร์ยังประเทศเพื่อนบ้าน และต้องการให้อนุกรรมการประชาสัมพันธ์ป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ช่วยติดตามคนไทยที่ยังติดอยู่ในแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติกลับมายังประเทศไทย และขอให้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้คนหางานได้รู้เท่าทันประกาศในโลกออนไลน์ ที่มีนายหน้าไปโพสต์รับสมัครงานแต่ท้ายสุดถูกหลอกพาไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ โดยควรบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มนายหน้าหลอกคนซึ่งน่าจะก่อเหตุอยู่ภายในประเทศด้วย

🔹️พล.ต.ท.ไตรรงค์ฯ กล่าวว่า จะนำข้อมูลคนหายที่ได้รับจากมูลนิธิกระจกเงานี้ ไปดำเนินการต่อในการติดตาม ช่วยเหลือ พร้อมขอเตือนคนไทยอย่าตกไปเป็นเหยื่อทำงานให้กับแก๊งสแกมเมอร์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากพบเห็นประกาศรับสมัครงานที่มีการอ้างให้เงินเดือนดี มีที่พักสบาย และมีการนัดหมายในจังหวัดตามแนวชายแดน ขอให้อย่าหลงเชื่ออย่างเด็ดขาด เพื่อมีแนวโน้มสูงว่าจะถูกหลอกไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน และหากใครหลงเชื่อขอให้กลับใจ มาแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะได้เป็นเบาะแสในการกวาดล้างจับกุมต่อไป

นอกจากนี้ หากมีบุคคลสูญหายและมีข้อมูลบ่งชี้ว่าถูกหลอกลวงไปทำงานแก๊งสแกมเมอร์ประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้แจ้งมาได้ที่สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 หรือมูลนิธิกระจกเงา หมายเลขโทรศัพท์ 080-7752673 ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะนำเข้าคณะอนุกรรมการฯ เพื่อขับเคลื่อนการประสานงานกันอย่างเป็นระบบ เพื่อเร่งรัดช่วยเหลือเหยื่อทั้งหมดกับประเทศไทย

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติตีแผ่ 4 พฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบตั้งฐานปฏิบัติการ หากพบขอให้รีบแจ้งวันนี้ (27 ตุลาคม 2568) พ...
27/10/2025

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติตีแผ่ 4 พฤติกรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบตั้งฐานปฏิบัติการ หากพบขอให้รีบแจ้ง
วันนี้ (27 ตุลาคม 2568) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมักใช้กลอุบายหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์บางกลุ่มได้แฝงตัวตั้ง “ฐานปฏิบัติการ” ภายในที่พักอาศัย เช่น คอนโดมิเนียม หมู่บ้านจัดสรร หรือบ้านเช่า เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ และใช้โทรศัพท์หรือสื่อสังคมออนไลน์ในการหลอกเหยื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะกวาดล้างจับกุมทุกราย ไม่ให้สามารถมาตั้งฐานในไทยได้อย่างเด็ดขาด

💢สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอตีแผ่ 4 พฤติกรรมต้องสงสัยของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างชาติ เพื่อให้ประชาชนสามารถช่วยกันสอดส่องและแจ้งเบาะแสได้อย่างทันท่วงที ดังนี้

🔹️1. มีกลุ่มชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่ร่วมกันโดยไม่ปรากฏอาชีพชัดเจน - มักมาเป็นกลุ่ม 3–6 คน เช่าที่พักระยะสั้น และไม่สุงสิงกับคนในชุมชน และมีพฤติกรรมเข้า–ออกไม่เป็นเวลา ซึ่งอาจเป็นการรวมกลุ่มทำงานภายในห้องเพื่อปฏิบัติการหลอกลวงทางโทรศัพท์

🔹️2. มีเสียงพูดโทรศัพท์ภาษาต่างประเทศตลอดเวลา – มักได้ยินเสียงสนทนาภาษาต่างประเทศดังออกมาจากห้องเกือบตลอดทั้งวัน โดยมีลักษณะเหมือนการอ่านสคริปต์ซ้ำ ๆ ในการโทรหลอกเหยื่อ

🔹️3. ปิดม่านตลอดเวลา ไม่เปิดไฟในตอนกลางวัน แต่เปิดไฟตลอดทั้งคืน - เพราะมักทำงานในช่วงกลางคืนตามเวลาประเทศต้นทางของเหยื่อ และปิดม่านเพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกมองเห็นการทำงานภายในห้อง

🔹️4. มีอุปกรณ์สายไฟหรือเครื่องมือสื่อสารจำนวนมาก - บางห้องมีปลั๊กพ่วงหรือสายไฟพาดหลายเส้น มีคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือเราเตอร์หลายเครื่อง และมักมีคนมาซ่อมหรือขนของเข้าออกบ่อยครั้ง

👉หากพี่น้องประชาชนพบเห็นพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว ขอให้อย่านิ่งนอนใจ เพราะอาจเป็น “ฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้บ้านคุณ โดยสามารถแจ้งเบาะแสพฤติกรรมต้องสงสัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบได้ทันที ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมภารกิจถวายความปลอดภัย ถวายพระเกียรติ ขบวนเชิญพระบรมศพ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี...
26/10/2025

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมภารกิจถวายความปลอดภัย ถวายพระเกียรติ ขบวนเชิญพระบรมศพ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”

🤍สำนักงานตำรวจแห่งชาติถวายความอาลัย พร้อมถวายความปลอดภัย ถวายพระเกียรติสูงสุด และดูแลประชาชนตลอดเส้นทางเคลื่อนขบวนเชิญพร...
26/10/2025

🤍สำนักงานตำรวจแห่งชาติถวายความอาลัย พร้อมถวายความปลอดภัย ถวายพระเกียรติสูงสุด และดูแลประชาชนตลอดเส้นทางเคลื่อนขบวนเชิญพระบรมศพฯ ตั้งศปก.ส่วนหน้า และ กอ.ร่วม ดูแลความสงบเรียบร้อย ตลอดพระราชพิธี
วันนี้ (26 ตุลาคม 2568) พล.ต.ท.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล/รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมข้าราชการตำรวจทุกนาย และครอบครัวตำรวจ ร่วมถวายความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสู่สวรรคาลัย โดยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ และพร้อมรวมใจ รวมกำลังในการถวายความปลอดภัย ถวายพระเกียรติ ในการเชิญพระบรมศพ และเคลื่อนขบวนพระบรมศพฯ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

◾️รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร.กำชับตำรวจทุกนายที่ร่วมภารกิจสำคัญครั้งนี้ ให้ดูแลความเรียบร้อย และดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนที่จะหลั่งไหลร่วมถวายความอาลัยตลอดเส้นทางขบวนเชิญพระบรมศพฯ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ตลอดจนให้อำนวยความสะดวกการจราจรในเส้นทางต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. เป็นผู้รับผิดชอบกำกับดูแล

◾️ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีข้อสั่งการไปยังข้าราชการตำรวจปฏิบัติ ดังนี้
1. ถวายความปลอดภัยในขบวนเชิญพระบรมศพ ฯ
2. ถวายพระเกียรติพระบรมศพฯ ในเส้นทางเคลื่อนพระบรมศพฯ อย่างสมพระเกียรติ
3. ดูแลความความเรียบร้อยและความปลอดภัยประชาชนที่ร่วมถวายความอาลัยพระบรมศพฯ ตลอดเส้นทาง
4. จัดทำแผนถวายความปลอดภัยในงานพระราชพิธีฯ การเคลื่อนขบวนเชิญพระบรมศพฯ และซักซ้อมการปฏิบัติ
5. กำชับมาตรการด้านการข่าว โดยให้กองบัญชาการตำรวจสันติบาลเป็นหน่วยหลักในการบูรณาการด้านการข่าวร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และหน่วยในพื้นที่
6. ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลพิจารณาการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) และกองอำนวยการร่วมในการถวายความปลอดภัย รวมทั้งดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยประชาชน และอำนวยความสะดวกการจราจรตลอดพระราชพิธี
7. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยทำความเข้าใจกับกำลังพลในเรื่องของความเหมาะสมในการประพฤติปฏิบัติตน รวมถึงการแต่งกายในช่วงไว้ทุกข์

🤍สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราช...
25/10/2025

🤍สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

🗓️ วันอาทิตย์ที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๘
🕗 เวลา ๐๘.๐๐ น. - ๑๒.๐๐ น.
📍 ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง

🇹🇭สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลดธงครึ่งเสาถวายความอาลัย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เสด...
25/10/2025

🇹🇭สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลดธงครึ่งเสาถวายความอาลัย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เสด็จสู่สวรรคาลัย

#น้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

25/10/2025

ประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต

🤍สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ข้าพระพุทธเจ้า ข้าราชการตำรวจ และครอบครัวตำรวจ สำนัก...
24/10/2025

🤍สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้า ข้าราชการตำรวจ และครอบครัวตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

📍ผบ.ตร.สั่งขยายผลจับกุม 3 ชาวจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลางกรุง และยกระดับมาตรการปฏิบัติการเชิงรุกให้มีเขี้ยวเล็บสกัดสแกมเมอร์💢...
24/10/2025

📍ผบ.ตร.สั่งขยายผลจับกุม 3 ชาวจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลางกรุง และยกระดับมาตรการปฏิบัติการเชิงรุกให้มีเขี้ยวเล็บสกัดสแกมเมอร์
💢วันนี้ (24 ตุลาคม 2568) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการไปยัง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้เร่งสืบสวนขยายผลจับกุมทั้งขบวนการทั้งคนไทย และชาวต่างประเทศ กรณีวานนี้ (23 ตุลาคม 2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 2 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ กสทช. นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในซอยลาดพร้าว 3 แยก 6 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าเป็นฐานลับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงเอาเงินจากชาวต่างชาติ โดยพบว่าคอมพิวเตอร์ถูกเปิดใช้งานโดยมีการตั้งค่า IP ปลอม (Fake IP) และพบใช้ลักษณะคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง (scam) เจ้าหน้าที่ตรวจพบการยิงโฆษณาผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยแอบอ้างเป็นสำนักงานกฎหมายหรือทนายความ เพื่อล่อลวงเหยื่อว่าจะช่วยทวงเงินคืน ก่อนดำเนินการหลอกเอาทรัพย์ซ้ำ ซึ่งจากการสืบสวนเบื้องต้น พบกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติในทวีปยุโรป ยังไม่พบรายงานผู้เสียหายเป็นคนไทย

👉ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชาวจีนทั้งหมด 3 ราย ได้แก่ นายจาง ไห่หลง อายุ 38 ปี, นายหลิว ชุนหยิง อายุ 29 ปี และนายอู่ จื้อเฉียง อายุ 32 ปี พร้อมของกลางได้แก่ เครื่อง SIMBOX / GSM Gateway สำหรับใส่ซิมโทรศัพท์ 20 ช่อง จำนวน 4 เครื่อง, คอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ค 10 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 40 เครื่อง พร้อมเครื่องกระจายสัญญาณและอุปกรณ์อื่น ๆ โดยจับกุมในข้อหา “ช่วยซ้อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560” และ “นำเข้า มี หรือทำ ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498” นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

🔹️นอกจากนี้ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยยกระดับในการปฏิบัติการเชิงรุก ในการดำเนินการกับชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำผิดในไทย โดยเฉพาะแก๊งสแกมเมอร์ จะไม่ยอมให้มาตั้งฐานหลอกลวงในประเทศไทยอย่างเด็ดขาด โดยสั่งการให้

1. สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ต้องตรวจสอบและคัดแยกข้อมูลคนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรที่มีลักษณะผิดสังเกต เช่น เข้ามาในลักษณะนักท่องเที่ยวทั้งระยะสั้นและระยะยาว และเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรบ่อยครั้ง โดยให้แยกเป็นกลุ่มประเทศ สถิติการเข้าออก

2. ให้ทีมสืบสวน บช.น. และตำรวจภูธรภาค 1, 2, 7 ประสานกับทีมสืบสวน สตม. โดยบูรณาการร่วมกับกองการต่างประเทศ, กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และ ให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เป็น Center ในการตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรอย่างเข้มข้น โดยการปฎิบัติจะต้องออกภาพการปฏิบัติเชิงรุกแบบ Realtime

3. การปฏิบัติในการปราบปรามแก๊งมิจฉาชีพ Scammer ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐเอกชนและประชาชนทั่วไป โดยประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนพลเมืองดี ที่พบเห็นความผิดปกติในการพักอาศัยรวมตัวของบุคคลต่างชาติที่เข้ามาในราชอาณาจักร ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน/อพาร์ทเม้นท์/คอนโด/ห้องเช่า และสำหรับผู้ที่บอกว่ามีข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพ Scammer

🔹️นอกจากนี้ พล.ต.ต.ธีรเดชฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่ กสทช. สำหรับการปฏิบัติการในครั้งนี้ และขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะในกรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัด หากพบเห็นชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมผิดแผกไปจากนักท่องเที่ยวต่อไป ดูแล้วมีพิรุธน่าสงสัย สามารถแจ้งเบาะแสเข้ามาได้ที่สายด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่อยู่

Bangkok
10330

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Police Radio (Thailand)ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Police Radio (Thailand):

แชร์