Police Radio (Thailand)

Police Radio (Thailand) ศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำร

ศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศผข.ตร.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมตำรวจ(ในสมัยนั้น) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เผยแพร่ผลการปฏิบัติงานของตำรวจให้ประชาชนและข้าราชการตำรวจได้รับทราบ เป็นการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างตำรวจกับประชาชน และปัจจุบันทำหน้าที่ ผลิตสื่อวิทยุกระจายเสียงเพื่อการประชาสัมพันธ์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อการเผยแพร

่ ข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปสู่ประชาชน ซึ่งออกอากาศด้วยระบบ FM ๓๗ สถานี และระบบ AM ๗ สถานี โดยมีศูนย์ผลิตรายการและข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสถานีแม่ข่ายในการผลิตรายการและข่าวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกอากาศผ่านดาวเทียมไปยังสถานีวิทยุกระจายเสียงในเครือข่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๔๔ สถานี ทั่วประเทศ

📍ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานพิธีเนื่องในวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ครบรอบ 8 ปีวันนี้ (1 กันยายน 2568) พล...
01/09/2025

📍ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานพิธีเนื่องในวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ครบรอบ 8 ปี
วันนี้ (1 กันยายน 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ครบรอบ 8 ปี ณ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมด้วยอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คณะทูตานุทูต ผู้แทนหน่วยงานภาคี และผู้ทรงคุณวุฒิในวงการท่องเที่ยวเข้าร่วม โดยมี พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้การต้อนรับ ภายในงานได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่หน่วยงานและกำลังพล และพิธีทักษิณานุประทาน พร้อมนำเสนอสรุปผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ชื่นชมข้าราชการตำรวจท่องเที่ยวที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง และเน้นย้ำให้ทุกนายพึงเป็น “เพื่อน” และ “ที่พึ่ง” ของนักท่องเที่ยว โดยผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวพร้อมขานรับขับเคลื่อนเดินหน้าพัฒนางาน สร้างความเชื่อมั่นและการบริการนักท่องเที่ยว ตามแนวคิด “ความสะดวก–ความปลอดภัย–ความเป็นธรรม” ตอบสนองนโยบายรัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยกระดับมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขับเคลื่อนบูรณาการทำงานเพื่อความปลอดภัยกับตำรวจพื้นที่ และสายด่วน 1155 ซึ่งรองรับ 8 ภาษาต่างประเทศ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง , แอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police เพื่อการติดต่อกับตำรวจท่องเที่ยวที่สะดวกยิ่งขึ้น และโครงการกล้อง AI ในแหล่งท่องเที่ยว ที่สามารถติดตามและจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 421 ราย โดยในก้าวต่อไปจะเสริมศักยภาพด้วยการนำรถปฏิบัติการเคลื่อนที่อัจฉริยะและโดรนตรวจการณ์ มาใช้ในแหล่งท่องเที่ยวและเทศกาลสำคัญทั่วประเทศ พร้อมขยายเครือข่ายอาสาสมัครกว่า 8,500 คน ในทุกจังหวัดเพื่อทำงานร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด

01/09/2025

📍กองสารนิเทศ X คุณอั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์✳️
ชวนน้องๆ เยาวชน สร้างเกราะป้องกันยาเสพติด
พบเบาะแสยาเสพติดแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำวิธีเก็บ URL เฟซบุ๊กมิจฉาชีพ ให้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีวันนี้ (31 สิงหาคม 2568) พ...
31/08/2025

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แนะนำวิธีเก็บ URL เฟซบุ๊กมิจฉาชีพ ให้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
วันนี้ (31 สิงหาคม 2568) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ซึ่งจากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์พบว่า มิจฉาชีพนิยมใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางหลักในการก่อเหตุ

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเก็บข้อมูลพยานหลักฐานเกี่ยวกับบัญชีเฟซบุ๊กของมิจฉาชีพ ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และสามารถนำไปใช้ในการแจ้งความดำเนินคดีได้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงขอแนะนำ วิธีการเก็บ URL และข้อมูลบัญชีเฟซบุ๊กของมิจฉาชีพ ดังนี้

👉กรณีใช้งานผ่านเว็บไซต์ (คอมพิวเตอร์)
1. ให้เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของมิจฉาชีพ
2. คลิกที่ URL ซึ่งอยู่ด้านบนของเบราว์เซอร์
3. คัดลอกหรือบันทึกภาพหน้าจอ URL และหน้าโปรไฟล์

👉กรณีใช้งานผ่านแอปพลิเคชันมือถือ
1. ให้เข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของมิจฉาชีพ
2. กดที่ปุ่มสัญลักษณ์ “…”
3. เลื่อนลงไปด้านล่างสุด แล้วคัดลอกหรือบันทึกภาพหน้าจอ URL

เพียงเท่านี้ พี่น้องประชาชนก็จะสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน สำหรับใช้เป็นข้อมูลประกอบในการแจ้งความออนไลน์ หรือแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้พนักงานสอบสวนสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับมิจฉาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

🔸️หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงหรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ www.thaipoliceonline.go.th หรือโทร สายด่วน 1441 และ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

📌 กองสารนิเทศชวนใส่ชุดไทยไปเที่ยววังงาน "สานศิลป์ 120 ปี พระตำหนักจิตรลดา"         วันที่ 30 – 31 สิงหาคม 2568       ณ พ...
30/08/2025

📌 กองสารนิเทศชวนใส่ชุดไทยไปเที่ยววัง
งาน "สานศิลป์ 120 ปี พระตำหนักจิตรลดา"
วันที่ 30 – 31 สิงหาคม 2568
ณ พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน
*************************
✨สุดพิเศษกับการฉายภาพยนตร์ครั้งแรก ณ พระตำหนักจิตรลดา วังปารุสกวัน✨
ชมภาพยนตร์ไทยคลาสสิกทรงคุณค่า เรื่อง พระเจ้าช้างเผือก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็น “มรดกความทรงจำแห่งโลก” (Memory of the World) ประจำปี 2568, เรือนแพ, ชั่วฟ้าดินสลาย และสวรรค์มืด ซึ่งได้รับการสนับสนุนไฟล์โดยหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)
📲ลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านทาง QR Code หรือ Google form
วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2568
📍 รอบฉาย เวลา 10.00 น. เรื่อง "พระเจ้าช้างเผือก"
Google form : https://forms.gle/y7xuRjtJHWATKD8z6
📍 รอบฉาย เวลา 12.00 น. เรื่อง "เรือนแพ"
Google form : https://forms.gle/Njm6V7e5m3J6LDjv8
📍 รอบฉาย เวลา 14.00 น. เรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย”
Google form : https://forms.gle/ZSH7cJeWkVznxSva8
📍 รอบฉาย เวลา 16.00 น. เรื่อง "สวรรค์มืด "
Google form : https://forms.gle/QJLPQHBksieLJ5e38
⭐️ไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียน⭐️

#สานศิลป์๑๒๐ปีพระตำหนักจิตรลดา #พระตำหนักจิตรลดา #พิพิธภัณฑ์ตำรวจวังปารุสกวัน #พิพิธภัณฑ์ตำรวจ #วังปารุสกวัน #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #กองสารนิเทศ #หอภาพยนตร์องค์การมหาชน

📍วันนี้ (30สิงหาคม 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พ้นธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต....
30/08/2025

📍วันนี้ (30สิงหาคม 2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พ้นธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 โดยมีผู้บังคับบัญชา เพื่อนข้าราชการตำรวจ ครอบครัว ญาติ มิตร ร่วมพิธีด้วยความอาลัยยิ่ง ณ วัดตรีทศเทพวรวิหาร แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

📍Cop Talk ep.14🔹️พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผบก.สท./รองโฆษก ตร.✨️ ชวนใส่ชุดไทย เที่ยววังปารุสก์ ในงาน "120 ปี พระตำหนั...
30/08/2025

📍Cop Talk ep.14
🔹️พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผบก.สท./รองโฆษก ตร.
✨️ ชวนใส่ชุดไทย เที่ยววังปารุสก์ ในงาน "120 ปี พระตำหนักจิตรลดา" 30-31 ส.ค.68 ณ พิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน

#วังปารุสกวัน
#พิพิธภัณฑ์ตำรวจ
#กองสารนิเทศ

พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผบก.สท./รองโฆษก ตร. ชวนใส่ชุดไทย เที่ยววังปารุสก์ ในงาน "120 ปี พระตำหนักจิตรลดา" 30-31 ส.....

📍รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวการจัดแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทย – มาเลเซีย ชิงถ้วยรุจิรวงศ์ ครั้...
29/08/2025

📍รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวการจัดแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทย – มาเลเซีย ชิงถ้วยรุจิรวงศ์ ครั้งที่ 36 ประจำปี 2568
🔶️วันนี้ (29 สิงหาคม 2568) เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานการจัดการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย พร้อมด้วย มูฮัมหมัด ฮาฟิซ อาบู บาการ์ เลขานุการเอก/ผู้ช่วยทูตตำรวจ ประจำสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย ประจำประเทศไทย และ พล.ต.ต.เทอดศักดิ์ รุจิรวงศ์ ที่ปรึกษาคณะทำงานฯ แถลงข่าวการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ชิงถ้วยรุจิรวงศ์ ครั้งที่ 36 ประจำปี 2568 ณ ห้องสารสิน อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

🏈สำหรับการแข่งขันกีฬารักบี้ประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ก่อให้เกิดความรักความสามัคคีระหว่างตำรวจไทยกับตำรวจมาเลเซียอย่างแน่นแฟ้น ในการบูรณาการทำงานร่วมกัน ตลอดจนเพิ่มศักยภาพการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่จะมาคุกคามประชาชนระหว่างสองประเทศ โดยการจัดการแข่งขันครั้งแรก เมื่อปีพุทธศักราช 2504 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในยุคสมัยของ พล.ต.อ.ประเสริฐ รุจิรวงศ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจ ได้ดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลานานกว่า 64 ปี มีการจัดการแข่งขันมาแล้ว 32 ครั้ง โดยหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน

🏆การแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลชิงถ้วย "รุจิรวงศ์" ครั้งที่ 36 สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 3 - 6 กันยายน 2568 และจะมีการแข่งขันจริงในวันที่ 4 กันยายน 2568 ณ สนามกีฬารักบี้ฟุตบอล โรงเรียนปริ้นส์รอยแยลส์วิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
🔸️1. การแข่งขันชิงถ้วย "รุจิรวงศ์" ประเภทอายุไม่เกิน 45 ปี
🔸️2. การแข่งขันชิงถ้วยรางวัลชนะเลิศ ประเภทอาวุโส อายุเกิน 45 ปีขึ้นไป

👉พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า การแข่งขันในครั้งนี้มุ่งเน้นความสัมพันธ์ มิตรภาพของหน่วยงานระหว่างประเทศ โดยทีมสโมสรรักบี้ฟุตบอลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย มีความพร้อมร่วมการแข่งขัน นักกีฬารักบี้ฟุตบอลทุกคนได้ฝึกซ้อมและมุ่งมั่นที่จะเข้าร่วมการแข่งขันอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการแข่งขันแพ้ชนะ ไม่ได้เป็นการบ่งชี้มากไปกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจทั้งสองประเทศที่จะยั่งยืนตลอดไป

👉ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนพี่น้องประชาชนและข้าราชการตำรวจ ร่วมรับชมและส่งกำลังใจแก่นักกีฬาตำรวจไทย ในการแข่งขันกีฬารักบี้ฟุตบอลประเพณีระหว่างตำรวจไทยและตำรวจมาเลเซีย ชิงถ้วย "รุจิรวงศ์" ครั้งที่ 36 ในวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน 2568 เวลา 15.00 น. เป็นต้ นไป ณ สนามกีฬารักบี้ฟุตบอล โรงเรียนปริ้นส์รอยแยลส์วิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หรือผ่านช่องทาง Facebook : Royal Thai Police Rugby Club

📍“Warroom IAC” ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อายัดเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำคืนให้แก่ผู้เสียหาย “MONEY CASH BACK” ได้อีก 5 ราย ก...
29/08/2025

📍“Warroom IAC” ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อายัดเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำคืนให้แก่ผู้เสียหาย “MONEY CASH BACK” ได้อีก 5 ราย กว่า 2 ล้านบาท
🔶️วันนี้ (29 สิงหาคม 2568) เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ผบ.ศกค.) หรือ International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) มอบหมายให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.)/ที่ปรึกษา ศกค. แถลงผลการปฏิบัติของ “Warroom IAC” ในการกวาดล้างเครือข่าย ระงับบัญชี ติดตามเงินคืนผู้เสียหาย ตามปฏิบัติการ “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลง ณ ห้อง “Warroom IAC” สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

🔶️ในการปฏิบัติการของ “Warroom IAC” จะบูรณาการทำงานกับหลายภาคส่วนในการเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การดำเนินการเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ภายใน 3 เดือน พบว่าตั้งแต่เปิด “Warroom IAC” วันที่ 4 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา มีการปราบปรามเห็นผลชัดเจนขึ้น และสามารถอายัดเงินของผู้เสียหายทั้งบัญชีธนาคารและคริปโตเคอเรนซี ได้รวดเร็วขึ้นและมากขึ้นตามลำดับ โดยตั้งแต่วันที่ 4 - 28 สิงหาคม 2568 มีจำนวนเคสที่นำเข้าวอร์รูม 426 เคส มูลค่าความเสียหายรวม 225,093,192 บาท จากการดำเนินการของวอร์รูม สามารถอายัดได้ 201 เคส มูลค่าทรัพย์สินที่อายัดได้ 75,246,769 บาท นอกจากนี้ ยังพบเคสที่ถอนเงินสด 170 เคส มูลค่าเงินสดที่ถูกถอนรวม 92,145,130 บาท

🔶️ทั้งนี้ จากการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยต่างๆ เพื่อปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งประสานความร่วมมือกับธนาคารและสถาบันการเงินทุกแห่ง ทำให้ “Warroom IAC” สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงิน และอายัดเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 234 ล้านบาท และล่าสุดสามารถติดตามเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้โอนเงินเพิ่มเติมได้อีก จำนวน 5 ราย จำนวน 2,058,920 บาท เพื่อนำคืนให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 5 ราย

👉กรณีที่ 1 : ผู้เสียหายเป็นหญิงรายหนึ่ง ได้ใช้งานเฟซบุ๊ก พบบัญชีแฟนเพจของคนร้าย ชื่อ “ทิวา ชินธาดาพงศ์” ที่ลงข้อมูลแอบอ้างเป็น อาจารย์ทิวา ชินธาดาพงศ์ หรือ เซียนมี่ นักลงทุนชื่อดัง โดยเพจดังกล่าวได้ลงโฆษณาเชิญชวนให้เล่นหุ้น ผู้เสียหายจึงได้ติดต่อเพจดังกล่าวไป ต่อมาได้แอดไลน์ และได้สนทนากับผู้ใช้ชื่อไลน์ว่า “มาย” ที่อ้างว่าเป็นเลขาของ อ.ทิวา ชินธาดาพงศ์ จากนั้นผู้เสียหายได้ถูกดึงเข้ากลุ่ม “SET Up 17” โดยในกลุ่มจะบอกราคาหุ้น จากนั้นให้ผู้เสียหายย้ายกลุ่มไปยังอีกกลุ่ม ชื่อ “Class A SET UP” เป็นกลุ่มเกี่ยวกับการเล่นหุ้น ต่อมา คนร้ายได้แจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อเล่นหุ้น ผ่านโปรแกรมชื่อ “Macquaie Prime” ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปหลายครั้ง โดยได้กำไรจริงในช่วงแรก ต่อมาคนร้ายจึงชักจูงให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่ม เพื่อกำไรที่เพิ่มขึ้น สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ รวมความเสียหายทั้งหมด 4,719,820.58 บาท

จากกรณีดังกล่าว บก.สอท.1 ได้นำกำลังสืบสวนจนทราบว่า นายภาคภูมิฯ อายุ 24 ปี หนึ่งในเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้กระทำความผิด ได้พักอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้เดินทางไปส่งหมายเรียกดังกล่าว ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของ นายภาคภูมิฯ ไว้ได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวตามที่ถูกหลอกลวง จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 500,000 บาท อายัดได้ทันเต็มจำนวน 500,000 บาท โดยผู้ต้องหาไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย

👉กรณีที่ 2 : ผู้เสียหายเป็นข้าราชการรายหนึ่ง ได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพที่อ้างตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ด้านกฎหมายของสถานีตำรวจในจังหวัดขอนแก่น แจ้งให้ผู้เสียหายรอรับโทรศัพท์จาก DSI จากนั้นได้มีคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ DSI โทรมาหา แจ้งว่าผู้เสียหายยักยอกเงินของทางราชการ และได้หลอกให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนผ่านทางแอปพลิเคชัน LINE หลังจากพูดคุยคนร้ายได้แจ้งให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับผลประโยชน์ จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ จากการทำธุรกรรมในบัญชีดังกล่าว จากนั้นคนร้ายข่มขู่ให้ผู้เสียหายแจ้งทรัพย์สินที่ผู้เสียหายมีอยู่ให้คนร้ายทราบ เพื่อจะได้ไม่มีผลกระทบต่อการรับราชการของผู้เสียหาย และคนร้ายจะให้การช่วยเหลือกรณีดังกล่าว ต่อมาคนร้ายแจ้งให้ผู้เสียหายให้โอนเงินทั้งหมดให้ตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปจำนวน 497,900 บาท จากนั้นคนร้ายแจ้งให้โอนเงินค่าทนายอีก จำนวน 100,000 บาท ต่อมาคนร้ายแจ้งให้โอนเงินค่าทนายอีก จำนวน 170,000 บาท แต่ผู้เสียหายหมดเงินแล้ว จึงไม่ได้โอนไปให้ รวมความเสียหายที่ถูกหลอกลวงไปทั้งสิ้น จำนวน 767,900 บาท

จากกรณีดังกล่าว บก.สอท.5 ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนติดตามผู้ต้องหาในขบวนการได้แล้วบางส่วน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของ นายอนุชิต ฯ หนึ่งในผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวเพื่อลงทุนตามที่ถูกหลอกลวง จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 497,900 บาท ซึ่งภายหลังรับทราบข้อกล่าวหา นายอนุชิต ฯ ผู้ต้องหา ให้ถ้อยคำว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ ไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์ และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถอายัดได้ทันทั้งหมด จำนวน 497,900 บาท

👉กรณีที่ 3 : ผู้เสียหายเป็นอดีตข้าราชการรายหนึ่งได้ถูกหลอกลวง โดยมิจฉาชีพติดต่อมาอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์
แจ้งว่ามีเอกสารที่ยังไม่ได้เซ็นรับ ซึ่งเอกสารดังกล่าวจ่าหน้าซองว่าถูกส่งมาจากกรมบัญชีกลาง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ตามคำแนะนำ โดยคนร้ายใช้ชื่อบัญชีไลน์ว่า“กลุ่มผู้เกษียณอายุ” และ “กนกรัตน์ หิรัญบูรณะ” ต่อมาคนร้ายได้ให้ทำตามขั้นตอนที่แนะนำ กระทั่งได้ถูกหลอกให้โอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร รวมความเสียหายกว่า 768,020 บาท

จากกรณีดังกล่าว บก.สอท.1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนติดตามผู้ต้องหาในขบวนการได้แล้วบางส่วน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของ นางสาววรรณนิษาฯ หนึ่งในผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวตามที่ถูกหลอกลวง จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 411,010 บาท ซึ่งอายัดได้ทันจำนวน 411,010 บาท

👉กรณีที่ 4 : ผู้เสียหายรายหนึ่งได้สั่งซื้อของออนไลน์ เมื่อโอนเงินไปแล้วปรากฎว่าไม่ได้รับสินค้าตามที่สั่ง ต่อมาได้มีคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมได้ติดต่อมาหาอ้างว่าจะช่วยเอาเงินคืนให้ จากนั้นให้เพิ่มเพื่อนในไลน์ คนร้ายได้แล้วดึงเข้ากลุ่มไลน์ชื่อ “DDos ชุดที่ 88” จากนั้นได้เริ่มให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกเป็นค่าเข้ากลุ่ม ต่อมาคนร้ายได้ใช้กลอุบายหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มอีกหลายครั้งเพื่อเป็นค่าดำเนินการในการติดตามเงินค่าสินค้าคืน สุดท้ายผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งหมด 15 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 3,691,061.54 บาท

จากกรณีดังกล่าว บก.สอท.1 ได้รวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนติดตามผู้ต้องหาในขบวนการได้แล้วบางส่วน และเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของ นางสาวสุนีย์ฯ หนึ่งในผู้ต้องหาไว้ได้ ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเข้าบัญชีดังกล่าวตามที่ถูกหลอกลวง จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 400,000 บาท ซึ่งอายัดได้ทันจำนวน 370,010 บาท

👉กรณีที่ 5 : ผู้เสียหายรายหนึ่งได้ใช้งานแอปพลิเคชัน facebook ต่อมาได้ถูกชักชวนจากในโซเชียลให้นำเงินไปลงทุนในแพลตฟอร์ม vips-psl .com ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินลงทุน ต่อมาไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ผู้เสียหายโอนเงินไปทั้งหมด จำนวน 9 ครั้ง ความเสียหายรวม จำนวน 4,315,000 บาท

จากกรณีดังกล่าว พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนในสังกัด รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการ จนสามารถออกหมายจับได้แล้วหลายราย โดยล่าสุดได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ติดตามจับกุม นายสิทธิศักดิ์ฯ อายุ 42 ปี หนึ่งในขบวนการได้ในพื้นที่ จ.ชุมพร เจ้าตัวสารภาพว่าได้ถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชี โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ จึงขอไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของ นายสิทธิศักดิ์ฯ ไว้ได้ จำนวน 280,000 บาท

🌟โดยวันนี้ “Warroom IAC” หรือ ศกค. นำโดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผบ.ศกค. ได้นำเงินจำนวน 2,058,920 บาท คืนให้แก่ผู้เสียหายทั้ง 5 ราย ตามปฏิบัติการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน”

📍พล.ต.ท.สำราญฯ เปิดการฝึกตำรวจนครบาล ทบทวนการปฏิบัติการดูแลชุมนุมสาธารณะ .👉พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรว...
28/08/2025

📍พล.ต.ท.สำราญฯ เปิดการฝึกตำรวจนครบาล ทบทวนการปฏิบัติการดูแลชุมนุมสาธารณะ .
👉พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกทบทวนข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะ ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ในสังกัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล
👉ในพิธีเปิดมีผู้บังคับบัญชาของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่รับผิดชอบหน้างานความมั่นคงเข้าร่วมเพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะมีมาตราฐานเป็นที่ยอมรับ
👉โครงการฝึกทบทวนข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะ นี้ พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เล็งเห็นถึงความสำคัญ เนื่องจากกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่เมืองหลวงที่สำคัญ และการปฎิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุมสาธารณะถือเป็นเรื่องสำคัญกับประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยว จึงมอบหมาย พล.ต.ต. มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 - 9 เข้าร่วมพิธีเปิดและตรวจเยี่ยมการอบรม โดยมี พล.ต.ต. ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผู้บังคับการ อารักขาและควบคุมฝูงชน พร้อมด้วย รองผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนให้การต้อนรับและ ให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรม ในสังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน จำนวนกว่า 450 นาย อย่างใกล้ชิด ณ ลานอเนกประสงค์ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568
🔹️พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายและแนะนำการปฏิบัติจากประสบการณ์ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่สอดคล้องกับกฎหมายการชุมนุมสาธารณะ เพื่อข้าราชการตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ชุมนุมสาธารณะปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สร้างความสงบสุขและอบอุ่นใจให้แก่ประชาชนและสังคมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดประชุมเชิงปฏิบัติการครูศูนย์ฝึกฯ พัฒนาการสอนวิเคราะห์อุบัติเหตุทางถนน วางรากฐานสู่การขับเคลื่อน...
28/08/2025

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดประชุมเชิงปฏิบัติการครูศูนย์ฝึกฯ พัฒนาการสอนวิเคราะห์อุบัติเหตุทางถนน วางรากฐานสู่การขับเคลื่อนมาตรการถนนปลอดภัยอย่างยั่งยืนในระดับประเทศ
วันนี้ (28 สิงหาคม 2568) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อนุมัติให้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการแก่ครูอาจารย์ที่ทำหน้าที่ในการสอบวิชาจราจรในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาการสอนการวิเคราะห์อุบัติเหตุทางถนน สู่มาตรการถนนปลอดภัย ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย (มนป.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อสร้างและพัฒนาองค์ความรู้ด้านการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน พร้อมผลักดันการแก้ปัญหาความเสี่ยงหลักร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม

👉การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการอบรมการวิเคราะห์อุบัติเหตุทางถนนเชิงลึก เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PRS) ให้กับครู อาจารย์ ตามศูนย์และโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ หัวใจสำคัญของการวิเคราะห์คือ จะมองให้ลึกกว่าคำว่าอุบัติเหตุทางถนนเกิดจากความประมาท หรือการฝ่าฝืนกฎหมาย แต่อาจเกิดจากขีดจำกัดของมนุษย์ ซึ่งต้องแก้ไขโดยการปรับปรับปรุงเชิงระบบ โดยนำระบบมาช่วยจำกัดข้อผิดพลาดของมนุษย์

👉ในเวทีประชุมยังได้หยิบยกตัวเลขอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2567 พบว่าตัวเลขการเกิดเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต “เป็นสีเขียว” ในทุกหัวข้อ แสดงถึงทิศทางที่ถูกต้อง แต่ความท้าทายคือจะรักษาตัวเลขที่ดีเช่นนี้ให้ต่อเนื่องได้ทุกปี ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมถือเป็นบุคลากรสำคัญที่จะต้องนำความรู้ไปถ่ายทอดให้นักเรียนนายสิบตำรวจ เพื่อผลิตกำลังพลคุณภาพกระจายสู่ทุกภูมิภาค

👉ผู้เข้าร่วมยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลพื้นที่ที่มีอุบัติเหตุสูงสุด เพื่อใช้ประกอบการวางมาตรการในท้องที่จริง ตลอดจนตั้งคำถามเชิงท้าทายว่า “AI หรือมนุษย์ตำรวจวิเคราะห์ได้ดีกว่ากัน?” ซึ่งคำตอบคือ แม้ AI จะช่วยได้ แต่ก็ยังต้องอาศัยการวิเคราะห์เชิงมนุษย์ควบคู่ เพื่อปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทจริง และการอบรมยังเน้นย้ำความสำคัญของ “ผู้เผชิญเหตุคนแรก” เนื่องจากเมื่อนักเรียนนายสิบตำรวจจบออกไป ทุกนายต้องทำหน้าที่เก็บข้อมูลและพยานหลักฐานเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะเดินทางมาถึง การรู้จักวิเคราะห์หาสาเหตุเบื้องต้น ไม่เพียงช่วยในการสืบสวน แต่ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่เองไม่ตกเป็นผู้ประสบอุบัติเหตุ ลดการบาดเจ็บและการสูญเสียชีวิตได้อีกด้วย

🔹️พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จึงไม่เพียงสร้าง “ครูศูนย์ฝึกฯ ต้นแบบ” แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพบุคลากรด้านความปลอดภัยทางถนน และวางรากฐานสู่การขับเคลื่อนมาตรการถนนปลอดภัยอย่างยั่งยืนในระดับประเทศ

🔹️พล.ต.ท.นิธิธรฯ กล่าวระหว่างการเป็นประธานเปิดการประชุมว่า ข้อมูลคือหัวใจของการป้องกันอุบัติเหตุ การสร้างบุคลากรที่สามารถวิเคราะห์และใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้มาตรการความปลอดภัยทางถนนมีความแม่นยำ สอดคล้องกับปัญหาที่แท้จริง และนำไปสู่ถนนที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสมาคมแม่บ้านตำรวจ จัดโครงการ “แสงธรรมนำใจ” ครั้งที่ 3 ฟังธรรมบรรยายจาก “พระราชภาวนาวชิรญาณ...
27/08/2025

📍สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสมาคมแม่บ้านตำรวจ จัดโครงการ “แสงธรรมนำใจ” ครั้งที่ 3 ฟังธรรมบรรยายจาก “พระราชภาวนาวชิรญาณ (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรํสี)” หัวข้อ “การพัฒนาจิตเพื่อพัฒนาชีวิต”
🌟วันนี้ (27 สิงหาคม 2568) เวลา 09.30 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานโครงการ “แสงธรรมนำใจ” ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ, คุณอภิรมย์ ทรวดทรง อุปนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ/ที่ปรึกษาโครงการแสงธรรมนำใจ, คุณณพิชชา คล้ายคลึง อุปนายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ, คุณดุษฎี เย็นท้วม กรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านตำรวจ พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ และคณะแม่บ้านตำรวจ รวมกว่า 300 คน ร่วมฟังการธรรมบรรยายจาก “พระราชภาวนาวชิรญาณ (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรํสี)” วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา หัวข้อ “การพัฒนาจิตเพื่อพัฒนาชีวิต” ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทางออนไลน์

🌟พระราชภาวนาวชิรญาณ ได้แสดงธรรม “การพัฒนาจิตเพื่อพัฒนาชีวิต” เราควรฝึกจิตให้มีปัญญามากขึ้น โดยการพัฒนาจิตต้องฝึกการมีสติ สัมปชัญญะ ฝึกให้จิตรู้สึกตัวมากขึ้น ปล่อยวาง ยอมลง ปลงได้ ถ้าเรามีสติดูแลรักษาจิตได้ เราจะมีปัญญา มีจิตที่สงบ เบา ผ่องใส

🔷️โครงการ “แสงธรรมนำใจ” จัดขึ้นโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสมาคมแม่บ้านตำรวจ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจ, แม่บ้านตำรวจ และประชาชน ได้น้อมนำคุณธรรม หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยจะจัดขึ้นเป็นประจำตลอดปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ซึ่งในวันนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยข้าราชการตำรวจทั่วประเทศและครอบครัว รวมถึงประชาชนที่สนใจ สามารถรับชมรับฟังธรรมบรรยายย้อนหลังผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก สมาคมแม่บ้านตำรวจ และเพจเฟซบุ๊ก PoliceTV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

27/08/2025

🌟"แสงธรรมนำใจ" ครั้งที่ 3🌟
🙏พระราชภาวนาวชิรญาณ (หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรํสี) วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา

แสดงธรรมในหัวข้อ "การพัฒนาจิตเพื่อพัฒนาชีวิต

ที่อยู่

Bangkok
10330

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Police Radio (Thailand)ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Police Radio (Thailand):

แชร์