VERY CAT SOUND Compose your dream. Mont : (+66) 085-666-2425
https://linktr.ee/Verycat
[email protected]

VERYCATSOUND
Music Production : รับแต่งเพลง ทำ sound effect เสียงดนตรีประกอบ ภาพยนตร์ เพลงโฆษณา เพลงละคร และสื่อทุกชนิด ติดต่อบริการผลิตดนตรีที่
Game Music : รับทำดนตรีประกอบเกมส์ เพลงเกมส์ และซาวด์เอฟเฟค
Portfolio & Blog : https://www.verycatsound.co (new website)
https://www.verycatsound.com (old website)
Youtube Channel : youtube.com/user/verycatofficial

Community group about Shibuya-kei
คอมม

ูนิตี้คนรักดนตรีแนว Shibuya-kei
www.facebook.com/groups/shibuyakeith/

ติดต่อ (+66) 0856662425
www.verycatsound.co
[email protected]

ข่าวสารสมาชิกเดือน พ.ย. ปี 2025 มีอะไรให้เรียนบ้าง?แจ้งข่าวสารอัปเดตบทเรียนใหม่ในชุด REAL PRODUCER PASS ประจำเดือน พฤศจิ...
01/11/2025

ข่าวสารสมาชิกเดือน พ.ย. ปี 2025 มีอะไรให้เรียนบ้าง?
แจ้งข่าวสารอัปเดตบทเรียนใหม่ในชุด REAL PRODUCER PASS ประจำเดือน พฤศจิกายน 2025 แล้ว สำหรับใครที่เป็นสมาชิก สามารถเข้าไปเรียนต่อเนื่องได้ทันที ส่วนใครที่ยังไม่ได้สมัคร มาดูกันครับว่าเดือนนี้เรามีคอร์สอะไรน่าสนใจกันบ้าง บอกได้เลยว่าแต่ละ Slot ถูกออกแบบมาให้คุณสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เข้าใจง่าย และนำไปใช้ได้จริง ใครยังลังเลอยู่ มาดูรายละเอียดกันได้เลยครับ
สำหรับใครที่ยังไม่รู้เรื่อง REAL PRODUCER PASS เลย เรามีแบ่งเป็นเลเวลาต่าง ๆ แต่ละระดับก็จะได้สิทธิ REAL PRODUCER PASS สำหรับเรียนวิชาต่าง ๆ ดังนี้

- LV 1 Supporter : สำหรับผู้ที่สมัคร Membership ในราคา 300 บาท จะได้รับสิทธิ REAL PRODUCER PASS สำหรับเรียนวิชาใน Slot 1

- LV 2 Learner : สำหรับผู้ที่สมัคร Membership ในราคา 450 บาท จะได้รับสิทธิ REAL PRODUCER PASS สำหรับเรียนวิชาใน Slot 1-4

- LV 3 Future Producer : สำหรับผู้ที่สมัคร Membership ในราคา 1,000 บาท จะได้รับสิทธิ REAL PRODUCER PASS สำหรับเรียนวิชาใน Slot 1-5

และพิเศษด้วยระบบ Credit Cashback สะสมเงินค่าสมาชิกที่จ่ายทุกเดือนให้เป็นเครดิตส่วนลดและคอร์สเรียนในหลักสูตร The Real Producer ช่วงปลายปี
มาดูกันเลยว่าในเดือนพฤศจิกายน ปี 2025 แต่ละ Slot มีวิชาอะไรบ้าง และจะเกริ่นวิชาของในเดือนธันวาคมกันให้ด้วย

Slot 1 :

- NOV 2025
VCA005 Reharmonization
การแปลงคอร์ดฮาโมนี่เพลงให้น่าสนใจ ช่วยให้เข้าใจหลักการปรับคอร์ดจากคอร์ดที่มีอยู่แล้ว ให้มีลูกเล่น มีสีสันมากยิ่งขึ้น

- DEC 2025
VCA006 WAY OF MUSIC MAKER
แนะแนวเส้นทางสู่สุดยอดนักทำเพลง ช่วยในการแนะนำเนื้อหาหรือบทเรียนเกี่ยวกับการทำเพลง โดยจะไกด์ลำดับไล่เรียงความสำคัญ เพื่อเดินทางสู่สุดยอดนักทำเพลงได้
Slot 2 :

- NOV 2025
VCA103 Creative Lyric EP2
การเขียนเนื้อเพลงที่ Pop และที่ดี

- DEC 2025
VCA103 Creative Lyric EP3
ทำความเข้าใจประเภทและประวัติศาสตร์เพลงไทย
Slot 3 :

- NOV 2025
VCA202 ADV. Music Designer EP1
การเขียนไลน์ประสาน 4 แนว หรือ 4 Part harmony เป็นเนื้อหาที่คุ้มมาก เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้ก้าวพ้นการทำเพลงระดับพื้นฐาน ไปสู่ระดับที่สูงขึ้น

- DEC 2025
VCA202 ADV. Music Designer EP2
การเขียนไลน์ประสาน 4 แนว ส่วนที่ 2 เจาะเรื่องโน้ตนอกคอร์ด พร้อมเคล็ดลับวิธีใช้อย่างไรให้เหมาะสม
Slot 4 :

- NOV 2025
VCA301 Basic Harmony EP4
เข้าใจเรื่องคอร์ด 7 (7th Chord) หรือคอร์ดที่มีโน้ตสี่ตัว และวิธีใช้ ใช้อย่างไรถึงเหมาะสมและดูดี

- DEC 2025
VCA302 ADV. Harmony EP1
“Modal” สเกลที่นอกเหนือจากเมเจอร์หรือไมเนอร์ทั่วไป ซึ่งมีอารมณ์เฉพาะตัว
Slot 5 :

- NOV 2025
VCA401 Basic Jazz Harmony EP3
เข้าใจพื้นฐานดนตรีบลูส์ อีกหนึ่งแนวดนตรีที่มีส่วนเกี่ยวของกับแจ๊ส เป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้ต่อยอดไปถึงแจ๊สได้

- DEC 2025
VCA401 Basic Jazz Harmony EP4
เข้าใจเรื่องคอร์ด 9 (9th Chord) พร้อมพูดถึง Rootless Voicing และ Tension
ใน Slot 1 และ Slot 4 จะเอาวิชาเดิมของในเดือนตุลาคมออก แต่ใน Slot 2 Slot 3 และ Slot 5 จะยังสามารถย้อนดูคลิปก่อนหน้าได้เพราะยังเป็นวิชาเดียวกัน ใครที่เป็นสมาชิกไม่ว่าจะระดับไหน ลองจัดสรรเวลาที่เหมาะสมกับตัวเองให้ดี เพราะสมัครเป็นสมาชิกและเรียนทั้งที ก็อยากให้ได้รับความคุ้มค่าและประโยชน์ที่ควรได้รับสูงที่สุด
นอกเหนือจาก 3 เลเวลที่กล่าวไปแล้ว สำหรับใครที่คิดว่าอยากจริงจังในเส้นทางการทำเพลงและเป็น producer จริง ๆ เราเปิดเลเวล 4 และเลเวล 5 เพิ่มเติม ซึ่งจะมอบสิทธิพิเศษที่รับรองว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน
โดยทั้งสองเลเวลนี้จะได้สิทธิพิเศษแบบเดียวกับเลเวล 3 ทุกประการ คือเรียนบทเรียนใน REAL PRODUCER PASS ได้ทุก Slot แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือจะมีระบบคิดเงินที่ทวีคูณขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าเป็นเลเวลที่เปิดให้สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนหลักสูตร The Real Producer ทั้งหมดจริง ๆ ซึ่งมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้

- LV 4 Master Plan: สำหรับผู้ที่สมัคร Membership ในราคา 1,500 บาท พร้อมเรียนวิชาในหลักสูตร The Real Producer ทั้งหมดได้ครบภายในเวลา 5 ปี

- LV 5 Ultimate Plan : สำหรับผู้ที่สมัคร Membership ในราคา 3,000 บาท พร้อมเรียนวิชาในหลักสูตร The Real Producer ทั้งหมดได้ครบภายในเวลา 3 ปี

สำหรับใครที่สนใจสองเลเวลนี้สามารถติดต่อได้ที่ Verycatsound และดูเงื่อนไขเพิ่มเติมกันได้เลย
นอกจากนี้ ใครที่ติดอยู่กับกำแพงการแต่งเพลง เรากำลังจะเปิดคอร์ส VCA102 : Modern Song Writing ที่จะเปิดเผยความลับในการแต่งเพลงที่ซับซ้อนขึ้นกว่าพื้นฐานทั่วไป ช่วยให้นำความรู้พื้นฐานดนตรีมาประยุกต์สู่การสร้างสรรค์เพลงที่ดีได้จริง เหมาะกับคนที่พอรู้เรื่องคอร์ดโน้ตแล้ว แต่ยังไม่สามารถเอาไปใช้สร้างเป็นเพลงที่ดีได้

โดยจะแบ่งราคาตั้งแต่ 7,900 - 13,900 บาท ซึ่งแต่งต่างกันที่ระบบการเรียน การเรียน มีทั้งแบบ Workshop จริง แบบเจอตัว และเป็น Onlive Live ซึ่งเรายังมีราคาโปรโมชั่นพิเศษ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกันได้ที่ VERYCATSOUND
ปีหน้าช่วงเดือนมกราคม 2026 จะมีคลาส VCA404B Electronic Music Study เรียนรู้แนวดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ในราคา 15,000 บาท ซึ่งมีราคาพิเศษ สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้เช่นกัน
และตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2026 จะเปิดคอร์สเลเวล 5 ที่จะเป็นเรื่องเพลงประกอบในรูปแบบต่าง ๆ

- VCA501 Cinematic Sound & Music การทำดนตรีประกอบภาพ

- VCA502 Film Score & Theme Music ประพันธ์ธีมดนตรีต่าง ๆ ทั้งธีมตัวละคร สถานที่ หรือบรรยากาศต่าง ๆ ในหลากหลายอารมณ์

- VCA503 Game Music Technique การทำดนตรีประกอบเกม หรือดนตรี Interactive

- VCA504 Commercial Music การทำดนตรีโฆษณา
แต่ละวิชาจะมีราคาที่คอร์สละ 22,000 บาท แต่สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกันเข้ามาได้ เรามีราคาพิเศษมอบให้อย่างแน่นอน
สำหรับใครที่สนใจสามารถกด Subscribe และ Join เป็น Membership กับเราได้ อย่างที่บอกว่าแต่ละวิชาเป็นบางส่วนจากหลักสูตร The Real Producer ซึ่งมีมูลค่าสูง แต่สามารถดูได้ในราคา Membership บอกได้เลยว่าคุ้มค่ากับค่าสมัครแน่นอน
รวมถึงถ้าสนใจในการทำเพลงอย่างจริงจัง อยากเป็นโปรดิวเซอร์มืออาชีพ เรามีหลักสูตร The Real Producer ที่สอนให้คุณเป็นโปรดิวเซอร์ได้ สามารถติดต่อและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน VERYCATSOUND และ VERYCATACADEMY
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนครับ

-------------

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

1.
หลักสูตร The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
"ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง"
เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official
คลิก: https://line.me/ti/p/
► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
► โทร: 085-666-2425

2.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE:
#สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง

นี่คือลักษณะของเสียง (Envelope) พื้นฐานที่เราสามารถปรับได้ใน Synthesizer ทำให้เราสามารถจำแนกและเลือกใช้เสียงชนิดต่างๆ ได...
01/11/2025

นี่คือลักษณะของเสียง (Envelope) พื้นฐานที่เราสามารถปรับได้ใน Synthesizer ทำให้เราสามารถจำแนกและเลือกใช้เสียงชนิดต่างๆ ได้

———————

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

1.
หลักสูตร The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
"ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง"
เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official
คลิก: https://line.me/ti/p/
► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
► โทร: 085-666-2425

2.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE:
#สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง

50 แนวดนตรีที่ Music Producer ควรทำเป็นแค่เราทำเพลงเป็นสักเพลง เราอาจจะเรียกว่าตัวเองเป็น Music Producer ได้ก็จริง แต่คำ...
30/10/2025

50 แนวดนตรีที่ Music Producer ควรทำเป็น
แค่เราทำเพลงเป็นสักเพลง เราอาจจะเรียกว่าตัวเองเป็น Music Producer ได้ก็จริง แต่คำถามคือ เรา
รับงานเพลงได้ทุกแนวจริงหรือไม่? คำตอบก็คงขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถทำแนวเพลงไหนได้เป็นหลัก ซึ่งถ้าใครทำได้น้อยหน่อยก็อาจจะเสียโอกาสในแนวเพลงที่ทำไม่ได้ไป Verycat จึงอยากแนะนำ 50 แนวดนตรีที่ครอบคลุมการทำเพลงในยุคปัจจุบัน แม้จะดูเหมือนเยอะ แต่ถ้าใครสามารถทำได้ครบทั้ง 50 แนวนี้คุณจะ
พร้อมรับงานจ้างได้ทุกรูปแบบอย่างแน่นอน โดย 50 แนวเพลงนี้ แบ่งออกให้เข้าใจง่าย ๆ เป็น 5 ช่วงดังนี้
ช่วงที่ 1 (แนวที่1 – 5) ดนตรีก่อนคริสตกาล ถึงช่วงประมาณ ศตวรรษที่19

1. Classical Music ซึ่งในที่นี้จะรวมพวกดนตรี Baroque Classic Romantic เข้าไว้ด้วยเลย นึกภาพ
ง่าย ๆ ก็คือดนตรีวงออเคสตร้า ถ้าทำเป็นก็จะมีความรู้เรื่องแนวคิด การใช้เครื่องดนตรีต่าง ๆ ได้

2. Impressionist Music ดนตรีมีความละเมียดละไม มุ่งเน้นการสร้างบรรยากาศหรืออารมณ์ที่ไม่
คาดคิด เช่นเดียวกับศิลปะในช่วงเดียวกัน ทำให้สามารถใช้กับการทำเพลงประกอบภาพได้

3. Medieval Music เป็นดนตรียุคกลางประมาณปี ค.ศ. 500 – 1400 นึกภาพง่าย ๆ คือยุคเดียวกับ
Game of Throne มีอัศวิน มีเวทมนตร์ ซึ่งถ้าจะทำได้ต้องอาศัยความรู้เรื่อง Mode ด้วย

4. Avant-Garde music เป็นเหมือนดนตรีทดลองของทางคลาสสิค มีการใช้ทางคอร์ดอีกแบบหนึ่งซึ่ง
ถือว่านอกกรอบในยุคนั้น แต่ปัจจุบันก็ยังมีการใช้ เช่น เป็นดนตรีประกอบในหนังเรื่อง Poor Thing

5. Ragtime Music เป็นดนตรีในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดดเด่นด้วยจังหวะที่สนุกสนานแบบฟีล
Retro นึกภาพง่าย ๆ เหมือนสวนสนุก มีม้าหมุน
ช่วงที่ 2 (แนวที่6 – 15) “Jazz Music”

6. Blues Music หนึ่งในแนวดนตรีที่เป็นรากฐานให้กับอีกหลาย ๆ แนว เช่น Jazz , Rock and Roll
รวมไปถึงเป็นพื้นฐานการ Improvise ดนตรีด้วย เป็นอีกหนึ่งแนวที่ควรเรียนและทำให้ได้

7. New Orleans Jazz เป็น Jazz ยุคดั้งเดิม เริ่มสร้างจังหวะ Swing มาใช้เป็นครั้งแรก ให้ความรู้สึก
ใกล้เคียงกับ Ragtime มักจะเอาไปใช้ผสมเป็นแนวอื่น ๆ เช่น Gypsy Jazz

8. Swing Big Band Jazz เป็น Jazz แบบวงขนาดใหญ่คล้ายออเคสตร้า เป็นดนตรีที่มีอิทธิพลต่อการ
เต้นรำในยุคนั้น หาฟังตัวอย่างง่าย ๆ จากหนังเรื่อง Swing Girls ที่มีจังหวะสนุกสนานไปกับการเต้น

9. Bossa nova , Samba เป็นอีกหนึ่งแนวที่มีอิทธิพลจาก Jazz ใช้คอร์ด Jazz เข้าไปผสม ทำให้ถ้า
อยากเป็นแนวนี้ ต้องศึกษาเรื่อง Jazz ด้วย ซึ่งแนวเพลงนี้เป็นที่นิยมกันอยู่เรื่อย ๆ ด้วย

10. Bebop เป็น Jazz ที่ฟังยากขึ้น มีการโซโล่ Improvise ที่ดุเดือด ซับซ้อน แตกต่างจาก Jazz ดั้งเดิมที่อาจจะเน้นการเล่นเป็นชุด ซึ่งก็ยังมีการใช้แนวนี้เป็นเพลงประกอบสินค้าคลาสสิคได้

11. Cool Jazz เป็นแนวที่คาบเกี่ยวกับ Bebop แต่สไตล์จะมีความเรียบง่าย ละเอียดอ่อนกว่า นึกถึง
เพลงเปิดคลอบรรยากาศใน Lobby โรงแรมหรู ที่ช่วยเติมความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น เป็นกันเอง

12. Hard Bop เป็นแนวที่คาบเกี่ยวกับ 2 แนวก่อนหน้า แต่จะให้ความรู้สึกถึงคนดำมากกว่า มีอารมณ์
ของดนตรี Funk ผสมเข้าไปด้วย

13. Modal Jazz คือแนวเพลง Jazz ที่เน้นการใช้ Mode เพื่อสร้างอารมณ์ บรรยากาศที่หลากหลายขึ้น

14. Fusion Jazz เป็นการนำ Jazz มาผสมกับแนวอื่น ๆ เช่น Funk , R&B , Rock and Roll ,
Electronic ทำให้เพลงมีความหลากหลาย ซับซ้อน ตัวอย่างชัด ๆ ที่หาฟังกันได้ เช่น Casiopea

15. Free Jazz เป็น Jazz ที่ไม่มีโครงสร้างตายตัว ประมาณว่าเป็นดนตรีทดลองของทาง Jazz ไม่มี
กฏเกณฑ์ตายตัว สามารถทำเพลงตามความรู้สึกของผู้สร้างได้
ช่วงที่ 3 (แนวที่16 – 30) “Rock” แนวดนตรีที่เล่นกับ Band เป็นหลัก

16. Rock and Roll , Rockabilly แนวดนตรีที่โดดเด่นด้วยกีตาร์ไฟฟ้า มีจังหวะที่เร็ว รวมถึงผสมผสาน
แนว Blues และ Country มาเล่นกับจังหวะให้รู้สึกมีพลังมากขึ้น

17. British Rock เป็นการผสมผสานดนตรี Rock ของอเมริกาเข้ากับวัฒนธรรมดนตรีแบบอังกฤษ
ตัวอย่างที่ชัดเจนเลยคือ The Beatles ซึ่งส่งอิทธิพลต่อดนตรีในช่วงนั้นอย่างมาก

18. Soft Rock เป็นร็อคที่ฟังสบายขึ้น ลื่นหู ดนตรีจะมีความนุ่มนวล สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ซึ่ง
ส่วนใหญ่จะมีองค์ประกอบของโฟล์คผสมอยู่ ตัวอย่างศิลปินที่เห็นได้ชัด คือ Fleetwood Mac , Bread

19. Psychedelic Rock เป็นดนตรีที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมการใช้ยา หรือสารเสพติดต่าง ๆ มีการใช้
Reverb Echo หรือ Delay เข้าช่วย เพื่อสร้างความรู้สึกล่อยลอย หรือในเชิงที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ

20. UK Punk Rock ดนตรีพังห์อังกฤษที่แสดงออกถึงความต่อต้านทางสังคม มีรากฐานมาจาก Rock
แต่จะมีจังหวะที่เร็ว ดนตรีที่ให้ความรู้สึกดุเดือด รุนแรง เช่น S*x Pistols

21. Krautrock เกิดขึ้นจากเยอรมนี เป็นการผสมผสานระหว่างดนตรี Rock และ Electronic ซึ่งเป็น
การทดลองสร้างเสียงใหม่ ๆ ไม่ยึดติดกับโครงสร้างเดิมมากนัก

22. Hard Rock เป็นแนวดนตรีร็อกที่มีเสียงหนักแน่นและเต็มไปด้วยพลัง ใช้กีตาร์ไฟฟ้าเสียงดัง เบส
กลองหนักแน่น ตัวอย่างชัด ๆ เลยคือ Guns N’ Roses , Led Zeppelin

23. Heavy Metal เป็นแนวที่แตกออกมาจาก Hard Rock ดนตรีที่มีความเข้มข้นขึ้นไปอีก ใช้เสียง
Distortion อย่างไม่ยั้ง มีการเล่นกีตาร์ที่เร็วข้น ตัวอย่างเช่น Metallica

24. New Wave , Electronic Rock เป็นแนวที่ผสมผสานดนตรี Punk Rock , Electronic เข้าด้วยกัน เกิดเป็นเสียงใหม่ มีความแปลกและทันสมัยขึ้น

25. Alternative Rock เป็นดนตรี Rock ที่ฉีกออกจากเดิม จากแต่ก่อนที่ไล่สเกล เปลี่ยนเป็นการเล่น
ดิบ ๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ปรับแต่งมากเกินไป มีความเป็นธรรมชาติ แต่คงไว้ซึ่งอารมณ์ที่เข้มข้น

26. Brit Rock , Brit Pop เป็น Poprock แบบอังกฤษ ให้ฟีลที่แตกต่างจาก Rock ของฝั่งอเมริกา เช่น เปลี่ยนจากตีคอร์ดขึ้นลง เป็นการตีลงอย่างเดียว

27. Poppunk เป็นแนวที่ผสมผสาน Punk Rock , Pop เข้าด้วยกัน มีเมโลดี้ที่ติดหู ฟังง่ายขึ้น
สนุกสนาน มีฟีลโยกหัวได้พอประมาณ

28. Garage Rock เสียงจะมีความดิบ ไม่ปรุงแต่งมาก แสดงออกถึงความเป็นธรรมชาติ และเล่น
ออกมาในมาดกวน ๆ หน่อย คู่กับภาพแฟชั่นขาเดฟ ที่ดังขึ้นมาพร้อมกันในช่วงนั้น

29. Math Rock เป็นแนวที่เฉพาะตัวพอสมควร มีการค านวณห้องดนตรีและเล่นในจังหวะยาก ๆ ใช้
โครงสร้างที่ไม่ปกติแต่เอามาทำเป็นสไตล์ Rock ทำให้ได้อีกฟีลที่แตกต่างจากแนวอื่น

30. Post Rock เป็น Rock ที่เน้นการสร้างบรรยากาศและอารมณ์ ไม่อิงกฎเกณฑ์การใช้โครงสร้าง เช่น
ลอย ๆ ฟุ้ง ๆ หม่น ๆ ดิ่ง ๆ พุ่ง ๆ ซึ่งเรามักจะได้ยินคำแบบนี้บ่อย ๆ เวลาฟังเพลงแนวนี้
ช่วงที่ 4 (แนวที่31 – 40) แนวดนตรีอื่น ๆ ในช่วงที่คาบเกี่ยวกับดนตรีRock

31. Soul , R&B , Motown ทั้ง 3 แนวมีความใกล้เคียงกัน มีการใช้คอร์ด Jazz รวมถึงจังหวะต่าง ๆ ที่
ให้ความรู้สึกลื่นไหล สามารถโยกได้พอประมาณ

32. Funky Music พัฒนาต่อมาจาก Soul , R&B อีกที เป็นแนวที่มีความสนุกสนาน มีการเดินจังหวะ
เน้นทั้งจังหวะตบ จังหวะยก ได้อย่างมีลูกเล่น

33. Disco มีจังหวะที่จดจำง่าย ลื่นไหลด้วยเสียงเบสและอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในแนวที่มีสีสัน
สนุกสนาน และยังได้รับความนิยม เรียกว่าเป็นอมตะเลยก็ว่าได้

34. Reggae Ska Dub เป็นแนวที่ใกล้เคียงกัน อย่าง Reggae จะเน้นไปทางอารมณ์ มีจังหวะเดินเบส
โดดเด่น Ska จะอัพจังหวะขึ้นมา มีความคึกคัก ส่วน Dub จะมีการใช้เทคนิค หรือ Effect ต่าง ๆเข้าไป

35. New Age , World Music ทั้งสองจริง ๆ เป็นคนละแนว แต่มีบางอย่างคล้ายกัน เช่น มีความรู้สึก
ล่องลอยจากสิ่งที่อยู่เหนือจริง ล้ำสมัย (New Age) หรือธรรมชาติ วัฒนธรรมพื้นบ้าน (World Music)

36. Country Music ประมาณว่าเป็นลูกทุ่งในฝั่งอเมริกา ใช้กีตาร์เป็นหลัก มีการร้องเอื้อน ๆ เหน่อ ๆ
ให้ความรู้สึกถึงทุ่งหญ้า ฟาร์มต่างจังหวัด

37. Folk Music ใช้กีตาร์เป็นหลัก ใกล้เคียงกับ Country Music แต่จะไม่เหน่อ เนื้อหาออกไปในทาง
เพื่อชีวิต สะท้อนให้เป็นถึงความเป็นอยู่ หรือความอัดอั้นต่อบางสิ่ง

38. Indie Pop เป็นดนตรีที่ต่างจาก Pop อื่น ๆ อาจจะมีความเก๋ เฟี้ยว ขึ้น แต่ก็มีหลากหลาย
พอสมควร ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ

39. Pop แนวนี้จริง ๆ เริ่มต้นจากเป็นค าที่ใช้เรียกในช่วงที่ The Beatles มีอิทธิพลทางดนตรี ทำให้
นิยามคำว่า Pop ว่าเป็นแนวเพลงลักษณะนี้ และเริ่มใช้เรียกว่าเป็นแนวเพลงตั้งแต่นั้นมา

40. Rap , Hiphop เป็นแนวที่โดดเด่นเรื่องจังหวะการร้องเฉพาะตัว รวมถึงการใช้เสียงอิเล็กทรอนิกส์
มาสร้างสีสัน และเริ่มดังขึ้นตั้งแต่ช่วง 2010 เป็นต้นมา
ช่วงที่ 5 (แนวที่41 – 50) Electronic Music

41. House ดนตรี Electronic ที่พัฒนาจาก Disco มีจังหวะสม่ำเสมอ ลงเสียงเบสหรือกลองที่ชัดเจน
มักใช้ประกอบแฟชั่นโชว์ เดินแบบที่ให้นางแบบสามารถเดินตามจังหวะได้

42. Trance เป็นแนวเพลงที่เน้นการสร้างบรรยากาศของเสียงที่ลอยและมีพลัง โดยใช้เสียง
synthesizers ค่อย ๆ บิลด์อารมณ์ จนสร้างความรู้สึกให้เข้าสู่สภาวะ “trance” หรือภวังค์ตามชื่อแนว

43. Techno เป็นแนวที่มีจังหวะซ้ำ ๆ มีการใช้ sequencer มาสร้างเพลง พร้อมกับเดินไลน์เสียงเบสที่
ลึก มีบีทที่แน่น

44. Big Beat มีลักษณะเด่นด้วยเสียงสแนร์ที่คมชัดและดังกว่ากระเดื่อง ช่วยเพิ่มพลังให้กับเพลง
ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ Fatboy Slim

45. Jungle , Drum and Bass (DNB) เป็นแนวที่เด่นด้วยความเร็ว อาจจะสูงถึง 180 BPM เต็มไป
ด้วยความตื่นเต้น มีพลัง ให้ความรู้สึกรีบร้อนและมีชีวิตชีวา

46. Ambient แนวดนตรีที่มักเน้นเสียงและบรรยากาศ สงบ ผ่อนคลาย มีความเคลื่อนไหวในจังหวะ
หรือทำนองน้อย คล้าย ๆ New Age , World Music

47. EDM (Electronic Dance Music) จะมีลักษณะคล้าย ๆ House แต่จะมีการอัพบีท เดินจังหวะให้
มีความสนุกสนาน

48. IDM (Intelligent Dance Music) เป็นดนตรีElectronic ที่เน้นความซับซ้อน มักจะเล่นกับเสียงที่บิดเบี้ยว ไม่สมบูรณ์ หรือเล่นกับเสียง noise

49. Dubstep โดดเด่นด้วยบีทที่ชัดเจน มีลูกเล่นเบสแบบ wobble ที่ช่วยให้เสียงเบสดูมีชีวิต ชีวา
ตัวอย่างที่เด่นชัดคือ Skrillex

50. Future Bass มีการผสมผสานหลากหลายเสียงเข้าด้วยกัน พร้อมกับเปลี่ยนจังหวะบ่อย ๆ ทำเสียง
สูง – ต่ำ ในบางช่วง เพื่อเพิ่มมิติให้กับเพลง
นอกจาก 50 แนวเพลงนี้แล้ว จริง ๆ ยังมีแนวเพลงอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น J pop , K pop หรือแม้แต่ลูกทุ่งในบ้านเรา ที่คิดว่าสักครั้งในชีวิตของการเป็น Music Producer อาจจะมีโอกาสได้ลองทำก็ได้

-------------

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

1.
หลักสูตร The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
"ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง"
เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official
คลิก: https://line.me/ti/p/
► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
► โทร: 085-666-2425

2.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE:
#สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง

ครูแนะแนวเคยหาว่าผมติดยา“ครูแนะแนวหาว่าผมติดยา” ประโยคนี้ไม่ได้มาจากภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ หรือเรื่องแต่งแต่อย่างใด แต่มาจ...
29/10/2025

ครูแนะแนวเคยหาว่าผมติดยา
“ครูแนะแนวหาว่าผมติดยา” ประโยคนี้ไม่ได้มาจากภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ หรือเรื่องแต่งแต่อย่างใด แต่มาจาก “ประสบการณ์จริง” ของตัวเองที่พบเจอในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งแน่นอนเป็นช่วงวัยที่กำลังค้นหาตัวเอง ละเอียดอ่อนต่อความรู้สึก จึงต้องมีครูแนะแนวมาชี้แนะแนวทางการเลือกเข้าเรียนคณะต่าง ๆ

ซึ่งมีไม่น้อยเลยที่เส้นทางของใครหลายคนจะถูกกำหนดจากครูแนะแนว แต่ถามว่าครูแนะแนวมีสิทธิ์ที่จะแนะนำเส้นทางที่ผิดให้กับเราบ้างไหม บทความนี้จึงอยากให้ทุกคนที่มีเป้าหมาย ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องดนตรีก็ได้ มาลองฟังประสบการณ์ของคนที่ “ครูแนะแนวหาว่าติดยา” ว่าทำอย่างไร และผ่านมันมาจนได้เป็น Music Producer ได้อย่างไร
ก่อนจะไปถึงมัธยมปลายที่เจอคำว่าหาติดยา อยากพาย้อนมาถึงจุดเริ่มต้นของการเริ่มชอบดนตรีก่อน โดยที่จำความได้ ดนตรีเริ่มเข้ามีบทบาทในชีวิตตั้งแต่ประถมศึกษา เริ่มฟังเพลงทั่ว ๆ ไป แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก ก็ยังดูการ์ตูน สนุกไปกับการเล่นเกม ตามประสาเด็กทั่วไป แต่เริ่มมีความรู้สึกชอบจริง ๆ เมื่อพี่สาวที่กำลังเข้าเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ ได้เปิดเพลงกล่อมนอนทุกคืน ซึ่งเพลงที่เปิดนั้นแทบเป็นเพลงนอกกระแสทั้งนั้น มีทั้งเพลงร็อค เพลงอัลเทอร์เนทีฟ แต่เมื่อตัวเองได้เข้าเรียนในมัธยมศึกษาตอนต้น ก็พบว่าเพลงที่ตัวเองชอบมันต่างกับของเพื่อนในชั้นโดยสิ้นเชิง แต่ในความต่างก็ได้เจออีกสิ่งหนึ่ง คือการเห็นเพื่อนเล่นกีตาร์ ทำให้เริ่มรู้สึกว่าสำหรับตัวเองเพลงไม่ได้มีไว้ฟังเท่านั้น แต่สามารถทำขึ้นมาใหม่ได้ด้วย จึงเริ่มมีความรู้สึกอยากทำเพลงอย่างจริงจังขึ้นมาเป็นเป้าหมายในชีวิต
ถึงจะบอกว่ามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว แต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า อาชีพนี้เรียกว่าอะไร รวมถึงต้องเรียนอะไร หรือเดินไปทางไหนต่อถึงจะไปยังเป้าหมายนี้ได้ ซึ่งในความไม่รู้ในตรงนี้ ก็ทำให้มีตัดสินใจเอาเองในหลาย ๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเริ่มหาเรียนคอร์สทำเพลงต่าง ๆ รวมถึงไปสมัครฝึกกับทางค่ายเพลงด้วย แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้เลือกเข้าชมรมดุริยางค์เพราะคิดว่าเป็นคนละแนวกับที่ตัวเองชอบ ซึ่งก็อาจจะมีทั้งถูกและผิดปะปนกันไป
แต่ในขณะที่กำลังตั้งใจในเส้นทางดนตรี ก็ต้องสูญเสียเป้าหมายการเรียนดนตรีตามระบบการศึกษาไป เมื่อที่บ้านยื่นคำขาดว่าให้เลือกคณะที่สามารถหางานทำได้ และเอาดนตรีเป็นงานที่ไว้เล่นเสริมข้างนอกแทน ทำให้ตัวเองให้ความสำคัญกับการเรียนน้อยลง เริ่มมาสายบ้าง โดดบ้าง ตั้งใจเรียนให้เอาแค่พอผ่านได้ และหาความรู้ทางดนตรีผ่านคอร์สต่าง ๆ นอกห้องเรียนต่อไป
จริง ๆ ปัญหานี้เป็นเรื่องปกติที่วัยกำลังเรียนต้องเจอ และน่าจะแก้ไขได้เมื่อเจอกับครูแนะแนวในตอนมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยปกติแล้วครูแนะแนวจะทำหน้าที่ช่วยแนะแนวทางการเลือกเข้าคณะต่าง ๆ ของนักเรียน ซึ่งก็ควรยึดเอาเป้าหมายที่นักเรียนตั้งใจไว้เป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ครูแนะแนวในโรงเรียนมักจะแนะนำอาชีพต่าง ๆ จากผลเกรดที่คาดคะเนว่าจะผ่านเข้าไปได้ ผสมไปกับค่านิยมของอาชีพในสังคมที่มักจะมีรายได้ มีความมั่นคงเป็นหลัก
อาจจะบอกไม่ได้ว่าผิดหรือถูก เพราะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน แต่ในประสบการณ์ส่วนตัว สามารถบอกได้ว่าครูแนะแนวที่เจอ ได้แนะนำเส้นทางผิดให้กับตัวเอง และถึงขนาดหาว่าเป็นคนติดยา เพียงแค่เพราะเป็นคนที่ไม่ตั้งใจเรียนมาสาย โดดเรียน รวมถึงมีเป้าหมายที่ต่างจากเพื่อน โดยที่แย่ที่สุดคือ การเอาความรู้สึกที่ไม่อยากเรียนในระบบ ไปเล่าให้เพื่อน ๆ ในชั้นเรียนฟังและตอกย้ำความนอกคอกนี้เข้าไปอีก
เหตุการณ์นี้ก็ยิ่งทำให้ตัวเองเริ่มทิ้งการเรียนในระบบศึกษา และคิดว่าจะหาเรียนดนตรีเอาจากข้างนอกให้ได้ แต่กระทั่งเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ก็ยังพบว่าตัวเองก็ยังไม่สามารถทำดนตรีได้จริงจัง จนสุดท้ายก็ต้องยอมเรียนเปียโนเพื่อสอบเข้าคณะดุริยางคศิลป์เพื่อเรียนเอาปริญญาอีกใบ เพราะรู้ตัวแล้วว่าดนตรีไม่มีทางลัดและต้องเรียนอย่างเอาจริงเอาจัง ใช้เงินทุนและเวลาในการฝึกฝนเพื่อให้ได้มาเท่านั้น
แม้สุดท้ายจะได้ทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้วก็จริง แต่ก็เสีบเวลาเป็นสิบปีกว่าจะได้เดินมาทางที่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะไม่ต้องเสียเวลาขนาดนี้ ถ้าได้การแนะนำจากคนที่รู้จริง มีประสบการณ์จริงในเส้นทางอาชีพนั้น ๆ และหลายครั้งทุกคนก็เสียโอกาสจากการแนะแนวของคนที่ไม่รู้จริง ซึ่งอาจทำให้ไม่มีโอกาสกลับมาเดินในเส้นทางที่หวังได้เป็นครั้งที่สอง
ฉะนั้นแล้วทุกคนควรมีทางเลือกเสมอ และมีสิทธิ์เลือกในทางที่อยากเดิน เพียงแค่ตั้งใจเอาจริงเอาจังกับมัน ถ้าครั้งแรกยังพลาด ก็เอาครั้งที่สองหรือครั้งที่สามใหม่ เชื่อว่าไม่เสียเวลาเกินไปเมื่อเทียบกับการต้องทำอาชีพที่ไม่ได้ต้องการตั้งแต่แรก ซึ่งถ้าใครมีเป้าหมายในการทำดนตรี ที่นี่เปิดโอกาสให้กับทุกคนที่พร้อมเอาจริงเอาจังผ่านคอร์สเรียนที่กลั่นออกมาจากประสบการณ์เหล่านี้

-------------

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

1.
หลักสูตร The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
"ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง"
เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official
คลิก: https://line.me/ti/p/
► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
► โทร: 085-666-2425

2.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE:
#สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง #เรียนดนตรี

5 ปัญหาที่คน "เอาจริง" ต้องเจอ เมื่อหาที่เรียนทำเพลงเมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เป็นแค่มือสมัครเล่นอีกต่อไป และพร้อมจะลง...
27/10/2025

5 ปัญหาที่คน "เอาจริง" ต้องเจอ เมื่อหาที่เรียนทำเพลง
เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เป็นแค่มือสมัครเล่นอีกต่อไป และพร้อมจะลงทุนอย่างจริงจังเพื่อก้าวสู่การเป็นโปรดิวเซอร์มืออาชีพ... คุณจะพบว่าการ "เลือกที่เรียน" นั้นซับซ้อนและเต็มไปด้วยกับดักกว่าที่คิด
นี่ไม่ใช่แค่การเลือกคอร์สเรียน แต่คือการเลือกอนาคตของตัวเอง และสำหรับคนที่ "เอาจริง" นี่คือ 5 ปัญหาใหญ่ที่คุณจะต้องเจอ ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะพลาดท่าและเสียเวลาไปหลายปีกว่าจะรู้ตัว
1. ปัญหา "เนื้อหาไม่ตรงประเด็น": สอน "เปลือก" แต่ขาด "แก่น"

นี่คือปัญหาที่เจ็บปวดที่สุด คุณอยากเป็น "สถาปนิก" ผู้ออกแบบเพลง แต่หลักสูตรส่วนใหญ่กลับสอนให้คุณเป็นแค่ "ช่างตกแต่งภายใน"

สิ่งที่เกิดขึ้น: หลายสถาบันเน้นสอนแต่เรื่องเทคนิคที่ดูหวือหวาและขายง่าย เช่น การ Mix & Master หรือการใช้ปลั๊กอินต่างๆ เพราะมันดูเท่และจับต้องได้ง่าย แต่กลับละเลยหัวใจที่แท้จริงของการทำเพลง นั่นคือ "ศาสตร์แห่งดนตรี" อย่างการประพันธ์ (Composition) และการเรียบเรียง (Arrangement) ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากและซับซ้อนกว่ามาก

ผลลัพธ์: คุณจะจบออกมาโดยที่ใช้โปรแกรมเก่ง แต่ยังคง "แต่งเพลงไม่เป็น" หรือ "เรียบเรียงดนตรีไม่น่าสนใจ" ซึ่งก็คือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
2. ปัญหา "เนื้อหาไม่ลึกพอ": ความรู้ระดับ "ชิมลาง" ไม่ใช่ "มืออาชีพ"

ต่อให้บางหลักสูตรจะสอนเรื่องการแต่งเพลงจริงๆ แต่ความลึกของเนื้อหาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

สิ่งที่เกิดขึ้น: หลักสูตรจำนวนมากให้ความรู้ในระดับผิวเผิน ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ไม่ได้แตกต่างจากการเรียนรู้ด้วยตัวเองจากแหล่งข้อมูลฟรีมากนัก มันอาจจะดีพอสำหรับงานอดิเรก แต่ความรู้ระดับนั้น "ไม่ได้เสี้ยว" ของความลึกซึ้งที่สอนกันในระดับมหาวิทยาลัยดนตรีเลย

ผลลัพธ์: คุณจะยังคงติดอยู่กับ "กำแพงแห่งความซ้ำซาก" ทำได้แต่เพลงง่ายๆ ที่วนอยู่ในคีย์ (Diatonic) และไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ซับซ้อนและมีชั้นเชิงในระดับสูงได้
3. ปัญหา "วังวนเรียนซ้ำซาก": ติดอยู่ใน Basic Loop ไปตลอดกาล

นี่คือกับดักที่ทำให้คนส่วนใหญ่เสียทั้งเงินและเวลาไปมากที่สุด

สิ่งที่เกิดขึ้น: คุณเรียนจบคอร์สหนึ่ง แล้วพบว่ามันยังไม่ลึกพอที่จะไปต่อได้ คุณจึงไปหาที่เรียนใหม่ที่ดูเหมือนจะให้ได้มากกว่า แต่กลับถูกบังคับให้ต้องเริ่มเรียนตั้งแต่บทที่ 1 ใหม่ทั้งหมดตามหลักสูตรของเขา กลายเป็นว่าคุณต้องจ่ายเงินและเวลาเพื่อเรียนเรื่อง "คอร์ดพื้นฐาน" ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ผลลัพธ์: คุณจะติดอยู่ใน "Basic Loop" ไปตลอดกาล ไม่เคยได้ก้าวไปสู่เนื้อหาขั้นสูงจริงๆ สักที เพราะแต่ละที่ก็พยายามจะสอนแต่พื้นฐานของตัวเองซ้ำๆ นี่คือการเสียเวลาชีวิตที่น่าเสียดายที่สุด
4. ปัญหา "เนื้อหาไม่ครบ": คำสัญญาที่ไม่สอดคล้องกับ "ชั่วโมงเรียน"

"เรียนจบแล้วเป็นโปรดิวเซอร์มืออาชีพได้เลย!" คือคำโฆษณาที่เราเห็นกันบ่อยๆ

สิ่งที่เกิดขึ้น: หลายหลักสูตรให้คำสัญญาที่สวยหรู แต่เมื่อดู "จำนวนชั่วโมงเรียน" ทั้งหมดแล้ว กลับมีแค่ 20-40 ชั่วโมง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยทางคณิตศาสตร์ที่จะสร้างมืออาชีพได้ในเวลาอันสั้นขนาดนั้น

ผลลัพธ์: คอร์สที่ดูเหมือนจะ "ราคาไม่แพง" จริงๆ แล้วก็สมเหตุสมผลตามราคาของมัน เพราะเนื้อหาที่ได้มัน "น้อย" และ "ไม่ครบ" สำหรับการเป็นมืออาชีพ คุณจ่ายน้อย ก็ได้น้อยตามนั้น ไม่ใช่การได้ของดีราคาถูก
5. ปัญหา "รูปแบบการเรียน" ที่ไม่ตอบโจทย์ชีวิตจริง

สุดท้าย แม้คุณจะเจอหลักสูตรที่เนื้อหาดี แต่ก็อาจจะติดกับดักเรื่องรูปแบบการเรียน

สิ่งที่เกิดขึ้น: หลายคนยึดติดว่าต้อง "เรียนสด" เท่านั้น แต่ความจริงก็คือ หลักสูตรที่ "ลึกและจริงจัง" ระดับนั้น แทบจะหาที่เรียนสดนอกรั้วมหาวิทยาลัยไม่ได้เลย เพราะมันไม่ตอบโจทย์ทั้งตารางเวลาของผู้สอนที่เป็นมืออาชีพและผู้เรียนที่ส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน

ผลลัพธ์: การยึดติดนี้ทำให้คุณพลาด "โอกาสที่ดีที่สุด" ไป เพราะในปัจจุบัน รูปแบบการเรียนออนไลน์ที่ออกแบบมาอย่างดี คือวิธีเดียวที่คุณจะสามารถเข้าถึงความรู้ระดับลึก พร้อมกับความยืดหยุ่นที่สามารถจัดเวลาเรียนให้เข้ากับชีวิตของคุณได้
บทสรุป

เมื่อคุณเข้าใจปัญหาทั้ง 5 ข้อนี้แล้ว คุณจะมองเห็นภาพชัดเจนว่าทำไม VERY CAT ACADEMY ถึงถูกออกแบบมาในรูปแบบนี้

เราสร้างหลักสูตรที่เน้น "แก่น" มากกว่าเปลือก, มีเนื้อหาที่ "ลึก" และ "ครบถ้วน" พร้อมชั่วโมงเรียนที่มากพอจะเป็นมืออาชีพ, ออกแบบเป็น "เส้นทางสายตรง" ที่จะพาคุณออกจาก Basic Loop, และทั้งหมดนี้อยู่ใน "รูปแบบที่ยืดหยุ่น" สำหรับคนที่ "เอาจริง" แต่มีข้อจำกัดในชีวิต

เราไม่ได้สร้างคอร์สเรียน แต่เราสร้าง "ทางออก" จากปัญหาเหล่านี้
คำถามสุดท้ายคือ...
คุณพร้อมจะหยุดเสียเวลากับปัญหาเดิมๆ แล้วหรือยัง?

-------------

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

1.
หลักสูตร The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
"ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง"
เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official
คลิก: https://line.me/ti/p/
► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
► โทร: 085-666-2425

2.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE:
#สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง #เรียนดนตรี

วิเคราะห์เพลง Mantra – Jennieเมื่อ Jennie ปล่อยผลงานเดี่ยวใหม่อย่าง Mantra เหล่าแฟนเพลงและนักฟังทั้งหลายต้องหันมาสนใจอีก...
26/10/2025

วิเคราะห์เพลง Mantra – Jennie
เมื่อ Jennie ปล่อยผลงานเดี่ยวใหม่อย่าง Mantra เหล่าแฟนเพลงและนักฟังทั้งหลายต้องหันมาสนใจอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่เพียงชื่อเสียงที่โด่งดังเท่านั้น เพราะเพลงนี้ได้นำเสนอดนตรีในด้านใหม่ ๆ ภายใต้ความเรียบง่ายได้สะท้อนให้เห็นหลักการทำเพลงที่มีลูกเล่น และใส่มาได้อย่างแยบคาย
บทความนี้จึงจะพาไปสำรวจว่าทำไม Mantra ถึงเป็นมากกว่าเพลงธรรมดา พร้อมเล่าถึงเสน่ห์และความลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในเพลงและเป็นอีกเคล็ดลับที่ทำให้ Mantra สามารถสั่นสะเทือนโลกดนตรีและใจผู้ฟังได้

ในการวิเคราะห์ครั้งนี้ อาจมีเรื่องทฤษฎีมากพอสมควร แนะนำให้ดูคลิปประกอบความเข้าใจ หรือฟังเพลง Mantra ไปด้วย
โดยเริ่มต้นเรามาเน้นวิเคราะห์ Chord Progression และ Melody ของเพลง Mantra กันก่อน จากที่ค้นหาในหลาย ๆ ที่ รวมถึงแกะเพลงเองในบางส่วน พอบอกได้ว่าเพลง Mantra อยู่ในคีย์ Cm หรือใครอาจจะมองว่าเป็นคีย์ Eb ก็ได้ เพราะมีโน้ตเหมือนกัน แต่เหตุที่คิดว่าเป็นคีย์ Cm เพราะส่วนใหญ่ทั้งโน้ตและคอร์ดจะวนไปมาโดยมี Cm เป็นศูนย์กลาง

Chord Progression ของ Mantra ส่วนใหญ่ทั้งเพลงจะวนอยู่กับสี่คอร์ด โดยจะค่อย ๆ เล่าที่มาของคอร์ด เริ่มต้นมาจากสี่คอร์ดนี้อย่าง Cm – Bb7 – Fm – Ab (i – VII7 – iv – VI) ถ้าดูจากสี่คอร์ดนี้ ก็อาจจะเห็นว่าเป็นรูปคอร์ดที่ดูเรียบง่าย ไม่หวือหวามาก แต่การเล่นคอร์ดในเพลง Mantra จะมีการ simplify หรือต่อยอดขึ้นไปอีก เราลองมาไล่ดูกันเป็นสเต็ป ๆ ดังนี้

i – VII7 – iv – VI // Cm – Bb7 – Fm – Ab จากคอร์ดเรียบง่ายตรงนี้เราสามารถคิดต่อให้เป็น

i – VII7 – IV7 – VI // Cm – Bb7 – F7 – Ab เปลี่ยนคอร์ดที่ 3 ให้เป็นคอร์ดเมเจอร์เซเว่น

i – VII – IV7 – VI // Cm – Bb – F7 – Ab ตัดตัวเซเว่นออกในคอร์ดที่ 2

i – VII – IV – VI // Cm – Bb – F – Ab ตัดตัวเซเว่นออกในคอร์ดที่ 3

ถ้าใครลองดู Chord Progression ทั้ง 4 สเต็ปนี้ และลองเล่นตามไปทีละสเต็ป จะเห็นว่าจากเสียงที่เรียบง่าย จะเริ่มมีความอุ่นขึ้น จนได้เสียงที่ดูเท่ มีสไตล์ แต่ยังไม่จบเท่านี้ ในคอร์ดที่ 3 หรือคอร์ด F ยังมีการเล่นด้วยเบส A ด้วย หรือคอร์ด F/A

ซึ่งถ้ามาเรียงเป็น Chord Progression จะเห็นว่า ทั้ง 4 คอร์ดจะมีการเดินไลน์เบสแบบไหลโน๊ตต่ำลง Cm – Cm7/Bb – F/A – Ab ซึ่งจะให้เสียงที่ใกล้เคียงกัน ฟังดูเนียนขึ้น

นอกจากนี้ในบางท่อน ยังใช้ลูกเล่นเบสด้วยโน้ต C อย่างเดียวด้วย จะได้เป็น Cm – Cm7/C – F/C – Ab/C ซึ่งทั้งหมดนี้เริ่มต้นมาจาก Chord Progression ดั้งเดิมอย่าง i – VII7 – iv – VI // Cm – Bb7 – Fm – Ab และค่อย ๆ ขัดเกลา จัดวางเสียงต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ
ส่วน Melody จะขอยกมาเล่าในท่อนเริ่มมีเมโลดี้ร้อง (นาทีที่ 0.34) โดยเมโลดี้จะเน้นไปที่ตัวที่ 3 – 4 – 5 หรือโน้ต Eb – F – G ซึ่งมีความเรียบง่ายมาก ๆ แต่ยกมาเข้ากับเซ็ตสี่คอร์ดอย่าง Eb – Bb – F/A – Ab

ในเรื่อง Chord Progression นั้น คอร์ด Eb นั้นมีการเกลามาจากคอร์ด Cm ซึ่งทั้ง 2 คอร์ดเป็น Substitute มีโน๊ตที่สามารถทดแทนกันได้และให้เสียงที่ใกล้ ๆ กัน รวมถึงคอร์ด F/A ช่วยให้เสียงมีมิติขึ้น และถ้ามาดูรวม ๆ ทั้ง 2 อย่างพร้อมกันจะเห็นว่า Melody ที่มีแค่ 3 ตัวนั้น สามารถอยู่บนสี่คอร์ดได้ กลายเป็นโน้ตทั้งตัวที่ 3 – 6 – 9 – 7 ของสี่คอร์ดนั้น ๆ ซึ่งมันมีความเท่ และลงตัวได้พอดี

พร้อมกับไลน์ประสานที่วิ่งไหลผ่านทั้ง 4 คอร์ด เป็นโน้ตตัวที่ 5 – 1 – 9 – 7 ซึ่งล้วนเป็นโน้ตที่เท่ ให้ความรู้สึกของ Harmony ที่ผสานได้อย่างลงตัวทั้งเสียงสูง กลาง ต่ำ รวมถึงการเคลื่อนที่ของตัวโน๊ตที่มีความราบรื่น ไม่ติดขัดเลย ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงหลักการ Four-Part Writing หรือการเรียบเรียงเสียงประสานสี่แนวด้วย
อีกท่อนร้องของเพลง (นาทีที่ 1.07) จะมี Melody ที่น่าสนใจอย่าง F – Eb – C – F – G ซึ่งมาเล่นกับพาร์ทคอร์ด 4 คอร์ดอย่าง Cm – Cm7 – F/C – Ab/C ซึ่งโน้ตต่าง ๆ สามารถลงเป็นตำแหน่งโน๊ตที่น่าสนใจของแต่ละคอร์ดได้ทั้งหมด

รวมถึงการใช้ Cm – Cm7 – F/C – Ab/C ที่มีการใช้เบส C กับทั้ง 4 คอร์ด ยังเป็นการสร้างมิติของดนตรีด้วยเทคนิคแว้ม หรือ Pedal Tone คือ การสร้างดนตรีที่เล่นโน้ตเสียงต่ำตัวเดิมซ้ำ ๆ สร้างความรู้สึกตึงเครียดหรือความต่อเนื่องในดนตรี เพื่อเตรียมตัวสู่อีกท่อนหนึ่งที่กำลังจะตามมาได้

นอกจากนี้ Melody ก็มีความน่าสนใจ โดยเมื่อวิ่งผ่านคอร์ดแรก จะลงเป็นโน้ตตัวที่ 4 หรือ 11 ซึ่งจะใช้ยากในคอร์ดเมเจอร์ แต่เมื่ออยู่ในคอร์ดไมเนอร์จะมีความพอดี รวมถึงไลน์เบสในท่อนนี้ก็คิดมาโดยมีโน้ต C เป็นตัวเด่น สามารถสอดรับไปกับคอร์ดทั้ง 4 ที่มีการเล่น on C ได้สวยงาม
ส่วนท่อนต่อไป (นาทีที่ 1.24) ก็ยังคงใช้คอร์ดเซ็ตหลักเหมือนเดิม มี Chord Progression เป็น 1 – b7(7) – 4 – b6 แต่มีการปล่อยไลน์เบสออก ทำให้เล่นคอร์ดได้อิสระ สร้างความรู้สึกปลดปล่อยและไหลต่อเนื่องจากท่อนเมื่อกี๊ได้อยากราบรื่น แต่ก็ยังเพิ่มมิติด้วยไลน์ประสาน ที่แต่ละโน้ตมีการเล่นเป็นคู่กับตัวร้องหลัก โดยมีคู่ 3 เป็นหลัก รวมถึงยังพอดีกับคอร์ดด้วยโดยเป็นโน้ตตัวที่ 3 – 3 – 5 – 3 ของทั้ง 4 คอร์ด ทั้งหมดนี้สะท้อนการทำเพลงด้วยแนวคิด Four-part writing ได้ดีมาก
ทั้งหมดที่เห็นมีการประสานเสียงกันอย่างลงตัว เริ่มต้นจากเพียง Chord Progression 4 คอร์ดแรกเท่านั้นเอง นอกจากนี้ในคอร์ด F/A ยังสามารถวิเคราะห์ได้ว่าเป็นคอร์ดที่นำมาจาก C Dorian ได้ โดยสามารถวิเคราะห์ได้จากเมโลดี้ทั้งหมดของเพลงที่อยู่ในคีย์ C minor แต่ว่าเขาไม่มีเมโลดี้ที่เล่นตั้ว A หรือ Ab เลย ซึ่งเดาได้ว่า เพลงคิดมาให้สามารถเข้ากับสเกล C Minor หรือจะเป็น C Dorian ก็ได้ ซึ่งจะต่างกันตรงตัวที่ 6 เป็น Ab หรือ A หรือถ้าเรามาดูที่คอร์ด จาก Chord Progression ที่เริ่มต้นมีตัว 7 และค่อย ๆ ขัดเกลา โดยตัดตัว 7 ออก เพราะอาจจะเปิดกว้างให้สามารถใช้โน้ตจาก C minor หรือ C Dorian ก็ได้ พอ Melody มันไม่ได้ล็อคตัว 6 ทำให้ทางเลือกคอร์ดมันใช้ได้มากขึ้น ในทาง Harmony ก็เลยเลือกได้ว่าจะเป็นแบบไหน มีอิสระมากขึ้น เลยเป็นการ Composition ที่ทั้งเท่และฉลาดคิด
นอกเหนือจากเพลง Mantra ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกอย่าง โดยถ้าใครได้ฟังเพลงของค่าย YG มาก่อน จะเห็นว่าการทำเพลงจะไม่ค่อยมีความซับซ้อนทาง Harmony มากนัก หรือเรียกว่ามีพอประมาณ จะไปเน้นที่การเรียบเรียงมากกว่า แต่ในงานใหม่ ๆ ของสมาชิกใน Blackpink จะเริ่มออกจากกรอบ Branding ที่ YG สร้างไว้ ทั้ง Lisa Jennie หรือ Rose ก็จะมีเพลงที่ทั้งซับซ้อนทาง Harmony ขึ้น หรือซับซ้อนน้อยลง แต่จะเห็นได้ว่ามีการเลือกใช้กลิ่นทางดนตรีที่แตกต่างจากเดิม ซึ่งไม่ใช่แค่สมาชิก Blackpink เท่านั้น แต่ในยุคนี้ ทุกคนต่างสร้างเพลงที่มีกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ ให้ผลงานโดดเด่นกว่างานชิ้นอื่น ๆ
ฉะนั้นในการทำเพลงให้ได้มีคุณภาพในยุคนี้จำเป็นต้องใช้ความรู้ทางดนตรีที่มากกว่าเพลงตลาดในยุคก่อน ๆ โดยเฉพาะเรื่อง Harmony และ Mode ที่ควรจะเข้าใจอย่างลึกซึ้ง อย่างเพลง Mantra ถ้าทำได้ไม่ดีก็จะเป็นแค่เพลงธรรมดา ๆ ทั่วไป แต่ด้วยความรู้เรื่อง Harmony ทำให้สามารถเปลี่ยนโน้ตเพียงนิดเดียว ก็สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร และเท่ขึ้นไปอีกขั้นได้
ซึ่งถ้าใครสนใจในเรื่อง Harmony สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คอร์ส VCA301 VCA302 Basic Harmony และ VCA401 VCA402 Jazz Harmony ในหลักสูตร The Real Producer

-------------

เราไม่ได้สอนให้คุณแค่ทำเป็น แต่สอนให้คุณเก่ง รู้ลึก รู้จริง
ถ้าคุณมีอาชีพโปรดิวเซอร์เป็นความฝัน มาคุยปรึกษากันได้ครับ
หากคุณสนใจการทำดนตรีจริงๆ แบบลึก จริงจัง คุณเลือกได้ ระหว่าง

1.
หลักสูตร The Real Producer
REAL / DEEP / EXCLUSIVE
"ลึกและตรงประเด็นที่สุดกับการทำเพลง"
เนื้อหาครอบคลุมทุกอย่างที่จำเป็นต่อการเป็นโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักทำดนตรี ในระดับมืออาชีพ
เล็งเห็นถึงความสำคัญของวิชาดนตรีแท้ๆ ที่เป็นรากฐานในการสร้างงานดนตรีที่มีคุณภาพทัดเทียมสากล
สนใจหลักสูตร หรือ และข้อมูลเพิ่มเติม ที่ link
► สอบถามหลักสูตร: LINE Official
คลิก: https://line.me/ti/p/
► ปรึกษา/นัดเวลา หรือขอ Demo เรียนฟรี! : http://mkt.verycatsound.academy/mf2
► โทร: 085-666-2425

2.
VERYCATSOUND Membership เริ่มต้นเส้นทางโปรดิวเซอร์ของคุณด้วยคลาสเรียน Exclusive รายเดือนในราคาที่เข้าถึงได้
► ดูรายละเอียดและสมัครเลย: https://verycatsound.com/join-member/

ติดต่อจ้างทำเพลง / อื่นๆ
► LINE:
#สอนทำเพลง #เรียนทำเพลง

ที่อยู่

580/7 Baanbodin Exclusive Ladphrao 112 Wangtonglang Plubpla
Bangkok
10310

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 19:00
อังคาร 09:00 - 19:00
พุธ 09:00 - 19:00
พฤหัสบดี 09:00 - 19:00
ศุกร์ 09:00 - 19:00

เบอร์โทรศัพท์

0856662425

เว็บไซต์

https://linktr.ee/Verycat

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ VERY CAT SOUNDผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์