Mati Insight "Mati Insight" เพจรวมคอนเทนต์อินโฟกราฟฟิกที่น่ารู้น่าสนใจจากสื่อในเครือมติชน จำกัด (มหาชน)

อะไร คือเบื้องหลัง ความอร่อยแบบไทยที่ขึ้นเครื่องการบินไทย ยุคหลังฟื้นฟูกิจการเปิดเผยครั้งแรกในงาน🎡FOOD CARNIVAL “อร่อยเอ...
29/09/2025

อะไร คือเบื้องหลัง ความอร่อยแบบไทยที่ขึ้นเครื่องการบินไทย ยุคหลังฟื้นฟูกิจการ
เปิดเผยครั้งแรกในงาน🎡FOOD CARNIVAL “อร่อยเอาเรื่อง”

✈️พาทุกคนบินลัดฟ้าไปกับ “Good Taste for a Good Cause เบื้องหลังรสชาติไทยที่บินไกลทั่วโลก” ชวนฟังเรื่องราวจากครัวการบินไทยที่พาอาหารไทยจากถนนสู่ท้องฟ้า จนกลายเป็นรสชาติระดับโลก พร้อมเกร็ดการคัดสรรวัตถุดิบ และเบื้องหลังเมนูในตำนาน
✨พบกับ คุณกิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมพาร์ตเนอร์ Siplin “กลิ่นไทย”, กานเวลา ช๊อคโกแลต และ ผัดไทยทิพย์สมัย
🎤ดำเนินรายการโดย : คุณกุ้ง-วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์ นักเขียนและบรรณาธิการบริหาร Hi-Class Media Group และผู้ก่อตั้ง DP-Studio
📍ในวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2568 | เวลา : 17.00-18.00 น. บริเวณลานสนามหญ้า
🔥งานนี้เข้าฟรี!
👉🏻ลงทะเบียนฟรีได้ที่ : https://forms.gle/bfDxeFAE9t4yfrFGA
😋ปักหมุดมาได้เลยที่งาน🎡FOOD CARNIVAL “อร่อยเอาเรื่อง”
⏰3-5 ตุลาคม 2568 | เวลา 12.00-21.00 น.
🎪 ที่ มิวเซียมสยาม

#อร่อยเอาเรื่อง #มิวเซียมสยาม #เทศกาลอาหาร #เส้นทางเศรษฐี #สำนักพิมพ์มติชน #การบินไทย

คลาสนี้เหมาะกับใคร ✅มือใหม่ที่อยากสร้างอาชีพ สร้างแบรนด์สมูทตี้ ✅สายเฮลตี้ ดูแลสุขภาพ ที่อยากทำสมูทตี้ดื่มเองที่บ้าน✅ผู้...
26/09/2025

คลาสนี้เหมาะกับใคร
✅มือใหม่ที่อยากสร้างอาชีพ สร้างแบรนด์สมูทตี้
✅สายเฮลตี้ ดูแลสุขภาพ ที่อยากทำสมูทตี้ดื่มเองที่บ้าน
✅ผู้ประกอบการที่มีแบรนด์อยู่แล้ว แต่อยากเสริมเมนูเครื่องดื่มเพิ่ม

🔥เวิร์กช็อปเดียว สร้างอาชีพได้เลย! “สมูทตี้ 101 : จากแก้วสู่แบรนด์” เรียนเต็มๆ 2 ชั่วโมงครึ่ง แถมได้ลงมือทำจริง
⚡พิเศษ! ลงทะเบียนเวิร์กช็อป รับฟรี คูปอง Grab Food Gift Voucher มูลค่า 150 บาท (จำนวนจำกัด)
ความน่าสนใจของคลาสนี้
🩷Product Story : สอนแนวคิดการทำโปรดักต์ เช่น ทำสมูทตี้ไม่ใส่น้ำแข็ง
🩷การเลือกวัตถุดิบ อย่าง “ผลไม้และส่วนผสม” จนทำสมูทตี้ทานเองได้
🩷แบ่งกลุ่มทดลองทำสมูทตี้ และชิมกันสดๆ ในคลาส
🩷ถาม-ตอบ ข้อสงสัย
คลาสนี้เหมาะกับใคร
✅มือใหม่ที่อยากสร้างอาชีพ สร้างแบรนด์สมูทตี้
✅สายเฮลตี้ ดูแลสุขภาพ ที่อยากทำสมูทตี้ดื่มเองที่บ้าน
✅ผู้ประกอบการที่มีแบรนด์อยู่แล้ว แต่อยากเสริมเมนูเครื่องดื่มเพิ่ม
เรียนวันไหน
📍วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 | เวลา : 13.00-15.30 น. ห้องนันทนาการ 102
⚡️จำกัดเพียง 30 ท่าน
💸ราคา 349 บาท/คน/คลาส
👉🏻ลงทะเบียน Workshop ได้ที่ https://forms.gle/YcUoHCp7Ei33Kt1h8
⚡️ลงทะเบียน รับฟรี! Grab Food Gift Voucher จำนวนจำกัด
📲สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ - 2 ตุลาคม 2568
แล้วมาเจอกันที่งาน
😋🎡FOOD CARNIVAL “อร่อยเอาเรื่อง”
⏰3-5 ตุลาคม 2568 | เวลา 12.00-21.00 น.
🎪 ที่ มิวเซียมสยาม
#อร่อยเอาเรื่อง #มิวเซียมสยาม #เทศกาลอาหาร #เส้นทางเศรษฐี

นี่คือ ข้อเสนอที่น่าสนใจที่สุดของคุณธนาธร ในรอบหลายๆปี “ธนาธรและพรรคประชาชนดูจะมีท่าทีอ่อนลงแล้ว พรรคภูมิใจไทยและนักการเ...
26/09/2025

นี่คือ ข้อเสนอที่น่าสนใจที่สุดของคุณธนาธร ในรอบหลายๆปี
“ธนาธรและพรรคประชาชนดูจะมีท่าทีอ่อนลงแล้ว พรรคภูมิใจไทยและนักการเมืองดีๆ ร้ายๆ กลุ่มอื่นๆ ก็น่าจะพร้อมปรับตัวไปตามกระแส

แต่ไม่แน่ใจนักว่า พรรคเพื่อไทยที่ยังดูเมาหมัดกระฟัดกระเฟียดอยู่จะอยากประนีประนอมแค่ไหน คล้ายๆ กันกับกองทัพที่ยังดูเพลิดเพลินไปกับการเดินสายปลุกกระแส “ชาตินิยม” และการได้กำกับควบคุมนโยบายความมั่นคงในแบบ “สายเหยี่ยว” อย่างเต็มพิกัด”

"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" เพิ่งโยน "ความหวัง-ความใฝ่ฝันก้อนใหญ่" เข้าสู่สังคมไทย ผ่านการเสนอแนวคิดเรื่อง "Grand Compro...

🍕“อร่อยปักหมุด” กว่า 40 ร้านเด็ด😋😋🎡FOOD CARNIVAL “อร่อยเอาเรื่อง”⏰3-5 ตุลาคม 2568 | เวลา 12.00-21.00 น.🎪 ที่ มิวเซียมสยา...
22/09/2025

🍕“อร่อยปักหมุด” กว่า 40 ร้านเด็ด😋
😋🎡FOOD CARNIVAL “อร่อยเอาเรื่อง”
⏰3-5 ตุลาคม 2568 | เวลา 12.00-21.00 น.
🎪 ที่ มิวเซียมสยาม
#อร่อยเอาเรื่อง #มิวเซียมสยาม #เทศกาลอาหาร #เส้นทางเศรษฐี #สำนักพิมพ์มติชน

📢  Pre-order📕 “The Future of Thailand อนาคตประเทศไทย”✍🏻 โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 🔸 เปิดจอง: 19 ก.ย. – 6 ต.ค. 2568“The Fut...
19/09/2025

📢 Pre-order
📕 “The Future of Thailand อนาคตประเทศไทย”
✍🏻 โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 🔸 เปิดจอง: 19 ก.ย. – 6 ต.ค. 2568
“The Future of Thailand อนาคตประเทศไทย” ไม่ได้เป็นเพียงหนังสือ หากแต่เป็น “แผนที่ทางปัญญา” ที่ชี้ให้เห็นทั้งปัญหาและหนทางแก้ไข เขียนจากมุมมองของคนที่เคยยืนในสภา และเสียงเคยถูกปิดกั้น แต่ยังเลือกที่จะส่งเสียงต่อไปถึงประชาชน เสียงที่จริงใจ ตรงไปตรงมา และหนักแน่นพอจะจุดเทียนแห่งความหวังให้ปกคลุมประเทศนี้

19 กันยายน 2549 เกิดการรัฐประหาร โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คมช.) มี พล.อ....
19/09/2025

19 กันยายน 2549 เกิดการรัฐประหาร โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คมช.) มี พล.อ.สนธิ บุญบรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อยึดอำนาจจากรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

ท่ามกลางความปลาบปลื้มต่อการโค้นล้มสิ่งที่เรียกว่า “ระบอบทักษิณ”ที่สิ้นสุดไปพร้อมๆกับอวสานของรัฐธรรมนูญ 2540 ปรากฎภาพผู้ปกครองนำบุตรหลานถ่ายรูปคู่กับทหาร ล้อไปกับภาพโคโยตี้ในชุดลายพรางเต้นหน้ารถถัง

ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งนำของกินไปมอบให้กับทหารในคณะปฏิรูปฯ ที่หน้ากองบัญชากองทัพบก ในกรุงเทพมหานครฯ และตามจังหวัดสำคัญต่างๆของประเทศ ยังปรากฎพบทหารผูกริบบิ้นสีเหลืองอุ้มเด็กขึ้น-ลงรถถังที่จอดประจำการอยู่ตามจุดสำคัญต่างๆ

ภาพทหารกับ “ดอกกุหลาบ” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการรัฐประหารครั้งนี้ที่อาจเรียกได้ว่า “โรยด้วยกลีบกุหลาบ” เพราะสุกแก่หง่อมเต็มที

ผ่านมา 19 ปี วันนี้แม้กองทัพยังไม่ลงมือยึดอำนาจอีกรอบ แต่กรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ก็ผลักดัน “กระแสทหารนิยม”ขึ้นสูงอีกครั้ง ในขณะที่ “รัฐธรรมนูญ” ซึ่งควรจะเป็นหลักของประเทศยังอยู่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม

ในโอกาสครบรอบเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทางศูนย์ข้อมูลมติชน ขอประมวลภาพเหตุการณ์ในวันดังกล่าวมาให้ชม ซึ่งจะทำให้เห็น “อารมณ์” ทางการเมืองของสังคมไทย ณ ช่วงเวลานั้นได้อย่างชัดเจน

#19ปี #19กันยา2549 #ประมวลภาพ #ศูนย์ข้อมูลมติชน

13/09/2025

พลทหารมะโหนก ประจำกองทัพไทย อุทิศตนรับใช้ ประเทศชาติ ประชาชน…บึ้มมมม

40 ปี กบฎ 9 กันยา อีกครั้งกับความพยายาม ล้มอำนาจพลเอกเปรมพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์มติชนวันที่ 9 กันยายน ได้รายงานข่าวว่า...
09/09/2025

40 ปี กบฎ 9 กันยา อีกครั้งกับความพยายาม ล้มอำนาจพลเอกเปรม

พาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์มติชนวันที่ 9 กันยายน ได้รายงานข่าวว่าในบ่ายวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2528 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีและคณะจำนวน 45 คนได้เดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซีย มีคณะบุคคลในวงการรัฐบาลและประชาชนไปส่งยังสนามบินกันคับคั่งรวมทั้งลูกเสือชาวบ้าน คล้ายกับว่าจะไปกันหลายวัน แต่ความจริง พลอ.เปรมเดินทางกลับมาวันที่ 9 กันยายน ภายหลังจากเจรจาเรื่องราวต่างๆกับรัฐบาลอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว

พร้อมกันนั้น ยังมีการรายงานข่าวอีกว่า “พันเอกมนูญ รูปขจร” อดีต ผบ.ม.พัน 4 รอ. ได้เดินทางด่วนกลับจากสหรัฐอเมริกาถึงเมืองไทยในตอนกลางคืนของวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายนอย่างพอดิบพอดี
ภายในวันที่ 9 กันยายนนั้นเอง ระหว่างที่พล.อ.เปรม กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเวลา 06.45 น. สถานีวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ได้อ่านคำประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 1 ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี โดยมีพลเอกเสริม ณ นคร เป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ตามด้วยคณะผู้ก่อการสำคัญ 5 คนซึ่งล้วนเป็นนายทหารนอกราชการ ได้แก่ 1.พลเอกยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก / 2.พันเอกมนูญ รูปขจร อดีตผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ / 3.พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทร์ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคชาติประชาธิปไตย / 4.นาวาอากาศโท มนัส รูปขจร น้องชายพันเอกมนูญ และ 5.พลเอกเสริม ณ นคร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้ก่อการปฏิวัติคครั้งนี้โดยใช้โอกาสในขณะที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีและพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและผู้บัญชาการทหารบกเดินทางไปต่างประเทศ ลงมือก่อการรัฐประหาร
ทั้งนี้ ตามคำประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 1 ได้แจ้งถึงที่มาและเหตุผลของการปฏิวัติในครั้งนี้ไว้ว่า การเข้ายึดอำนาจครั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองโดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่ทรุดหนัก และรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นประมุขแห่งรัฐให้ดำรงอยู่ตลอดไป
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานสถานการณ์ว่าการปฏิวัติรัฐประหารในครั้งนี้ นอกจากกลุ่มนายทหารนอกราชการระดับผู้นำดังกล่าวไปแล้ว ยังกลุ่มทหาร “ยังเติร์ก” เข้าร่วมกระบวนการ โดยทหารฝ่ายก่อการได้ส่งกำลังพ้นคอสีฟ้าเป็นสัญลักษณ์ เข้าปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล กองบัญชาการทหารสูงสุดและสวนจิตรลดา
อนึ่ง เพื่อแสดงเจตจำนงในการพัฒนาประชาธิปไตย คณะรัฐประหารได้เสนอข้อเสนอหลัก ได้แก่ การพัฒนาสถาบันและกระบวนการประชาธิปไตยระดับท้องถิ่นทุกระดับ ทั้งระดับตำบล อำเภอและจังหวัด เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยเติบโตจากรากฐานของสังคมอย่างแท้จริง ผ่านการให้มีการจัดการเลือกตั้งทั้งระดับตำบล จังหวัด และระดับชาติ อันเป็นการแสดงเจตนาแน่วแน่ที่จะพิทักษ์รักษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และแล้วการปะทะก็เกิดขึ้นราว 9.50 น. โดยประมาณ ที่บริเวณพระบรมรูปทรงม้า มีกระสุนปืนตกลงจำนวนมากดังสนั่น นอกจากนั้น ยังมีเสียงปืนดังประปราย ประชาชนที่ผ่านไปมาละเวกนั้นวิ่งหนีกันอลหม่าน มีทหารจำนวนหนึ่งนั่งรถจักรยานยนต์ประกาศให้ประชาชนอย่าเข้าไปในบริเวณดังกล่าวจนถึงเวลา 10.10 น. ยังมีเสียงปืนดังประปลาย ขณะเดียวกัน ในบริเวณถนนวิภาวดีรังสิตกลับเกิดเสียงดังได้ยินเกือบทั่วทั้งกรุงเทพฯ

เสียงปืนที่ดังสนั่นในช่วงเช้าของวันที่ 9 จึงเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการปะทะที่กินเวลาเกือบช่วงครึ่งเช้าของวัน ทำให้ในเหตุการณ์ กบฎ 9 กันยา มีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน บาดเจ็บกว่า 50 คน ทรัพย์สินเสียหายหลายล้านบาท หนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้น มีผู้สื่อข่าวชาวต่างประเทศ 2 รายที่เสียชีวิตจากลูกหลงในเหตุการณ์ปะทะ
เวลาประมาณ 16.40 ทางฝ่ายทหารของรัฐบาลพล อ.เปรม ได้แถลงว่า ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายไปสู่ภาวะปกติแล้ว กลุ่มทหารฝ่ายก่อการได้วางอาวุธพร้อมนำกำลังกลับเข้าประจำกรมกองเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ กลุ่มทหารนอกราชการระดับผู้นำการก่อการได้ถูกจับกุม เช่น พลเอก เสริม ณ นคร พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พลเอก ยศ เทพหัสดิน เป็นต้น ขณะที่ พลเอก มนูญ และ นาวาโท มนัส รูปขจร 2 พี่น้องสายเลือดทหารและเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อการหลัก สามารถหลบหนีออกนอกประเทศไปได้หรือ/และได้รับอนุญาตให้ออกนอกประเทศไปได้
ในเชิงตัวเลข ความพยายามในการรัฐประหารจนเกิดเป็นเหตุการณ์ “กบฎ 9 กันยา” นับเป็นความพยายามครั้งที่ 17 ในการรัฐประหาร นับตั้งแต่การปฏิวัติสยาม พ.ศ.2475 เป็นเวลา 53 ปีจวบจนถึง พ.ศ.2528 นับเวลาเป็นค่าเฉลี่ยประมาณ 3 ปี จะเกิดความพยายามในการรัฐประหารขึ้น 1 ครั้ง ซึ่งนับว่าเกิดขึ้นบ่อยกว่ารอบของคณะรัฐบาลเสียอีก
ส่วนสาเหตุอันนำมาสู่เหตุการณ์กบฎ 9 กันยา สืบเนื่องจากกบฎเมษาฮาวายระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน พ.ศ.2524 กลุ่มทหารยังเติร์กได้นำกำลังเข้าหวังจะยึดอำนาจจากคณะรัฐบาลของ พล อ.เปรมเช่นกัน หากแต่การก่อการในครั้งนั้น ไม่สำเร็จ เลยยังผลสืบเนื่องให้การก่อการของกลุ่ม “ยังเติร์ก” ในครั้งนี้ มีเป้าประสงค์เดิมในการล้มล้างอำนาจของ พล อ.เปรม โดยอาศัยจังหวะเวลาที่เหมาะสมคือช่วงที่ผู้นำรัฐบาลอย่าง พล อ. เปรม มิได้พำนักอยู่ในกรุงเทพในการก่อการ

"สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน"อีกทางหนึ่ง “คนอยากเปลี่ยน” ก็ต้องยอมเข้าไปคลุกคลี แทรกซึม ปนเปื้อนอยู่ภายในโครงสร้างดังกล่าว หรือพ...
08/09/2025

"สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน"
อีกทางหนึ่ง “คนอยากเปลี่ยน” ก็ต้องยอมเข้าไปคลุกคลี แทรกซึม ปนเปื้อนอยู่ภายในโครงสร้างดังกล่าว หรือพยายามโลดแล่นเข้าไปเป็นตัวละครรายหนึ่ง/กลุ่มหนึ่งในโลกของ “ละครการเมืองเรื่องเก่าๆ” แล้วกำหนดขีดเขียน “บทบาทใหม่-พฤติกรรมใหม่-เจตจำนงใหม่” ซึ่งเปี่ยมล้นด้วย “ปณิธานแห่งความเปลี่ยนแปลง” ให้แก่ตนเอง
อันจะส่งผลให้ “สตอรี่” ใน “ละครการเมือง” ที่เคยหมุนวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า แปรเปลี่ยนผกผันไปสู่ทิศทาง-ผลลัพธ์ใหม่ๆ กระทั่งกำเนิดเป็น “บทตอนใหม่” ที่มีเนื้อหาผิดแผกแตกต่างออกไปจากโครงสร้างเรื่องราวแบบเดิม

ส่วนตัวยังเชื่อลึกๆ ว่า กระบวนการตัดสินใจอันยากลำบากของบุคลากรทุกองคาพยพใน “พรรคประชาชน” ก่อนจะนำมาสู่มติหนุน “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นั้นวางพื้นฐานอยู่บนหลักคิดทำนองนี้

ก็ได้แต่หวังว่า “พรรคประชาชน” จะเข้าไปสร้าง “สตอรี่ใหม่” ใน “ละครการเมือง” ที่เหมือนจะเป็นเรื่องเก่าเรื่องเดิมได้สำเร็จ

ไม่ถูกสะกด ครอบงำ หลอกล่อ จนกลายเป็น “ลูกแกะ” ที่โดนขย้ำ หรือ “ยักษ์-อสูร” ที่ต้องโดนกำราบปราบสำเร็จโทษไปเสียก่อน

อ่านบทความ ‘ละครการเมืองไทย’ | ปราปต์ บุนปาน
https://www.matichon.co.th/weekly/featured/article_858584

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ แคนดิเดต รมว.คลัง เป็นเหลนปู่ของปรีดี พนมยงค์ เพราะ เอกนิติ เป็นลูกชายของอิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ ...
06/09/2025

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ แคนดิเดต รมว.คลัง เป็นเหลนปู่ของปรีดี พนมยงค์

เพราะ เอกนิติ เป็นลูกชายของอิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่เป็นบุตรชายของ พระนิติทัณฑ์ประภาศ (สนอง สุจริต) กับนางชวนชื่น นิติทัณฑ์ประภาศ ซึ่งเป็นน้องสาวของ ปรีดี พนมยงค์

อิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยังเคยเป็นตุลาการเสียงข้างน้อย 1 ใน 7 คนที่วินิจฉัยว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินฯ หรือคดีซุกหุ้น เมื่อปี 2544

3 กันยายน 2544 ราวตี 3 ศิลปินล้านนาชื่อดัง นาม “จรัล มโนเพ็ชร” เกิดล้มป่วยกะทันหันระหว่างพักผ่อนอยู่กับนางอันยา โพธิวัฒน...
03/09/2025

3 กันยายน 2544 ราวตี 3 ศิลปินล้านนาชื่อดัง นาม “จรัล มโนเพ็ชร” เกิดล้มป่วยกะทันหันระหว่างพักผ่อนอยู่กับนางอันยา โพธิวัฒน์ ผู้เป็นภรรยา ที่บ้านพัก ต.เหมืองง่า อ.เมือง จ.ลำพูน
เวลานั้น จรัล ตื่นขึ้นมาด้วยอาการหายใจไม่ออกต้องเรียกหายาดม จากนั้นก๋เข้าห้องน้ำแล้ว ล้มหมดสติ ภรรยานำส่ง ร.พ.ลำพูน แพทย์พยายามช่วยชีวิตแต่ศิลปินคำเมืองสิ้นใจแล้ว
ต่อมา ร.พ. ลำพูนนำศพ “จรัล มโนเพ็ชร” มายังแผนกนิติเวช ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิต โดยแพทย์ผ่าพิสูจน์ศพนาน 5 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ได้ผลสรุปจากการผ่าตัดว่า “เส้นเลือดหัวใจตีบ” กระนั้น สำหรับคนใกล้ชิดและหมู่ญาติพี่น้อง เป็นที่ทราบกันดีว่าราชาเพลงคำเมืองนั้นป่วยด้วยโรคลูคีเมีย ต้องถ่ายเลือดแทบทุกเดือน และเดินทางไปถ่ายเลือดที่โรงพยาบาลรามาธิบดีที่กรุงเทพอยู่ทุกรอบ 6 เดือน
ด้านนางอันยา คู่ทุกข์คู่ยากของจรัล มโนเพ็ชร ยังได้เผยอีกว่า ช่วงเช้าของวันที่ 2 กันยายน 2544 “จรัล” ออกไปทำงานตามปกติที่บ้านนายมานิต อัชวงศ์ ผู้จัดการส่วนตัวในเมืองลำพูน เพื่อประชุมนักแสดงในเครือ เตรียมนำผลงานไปแสดงในงาน 25 ปี โฟล์กซองคำเมือง จรัล มโนเพ็ชร ซึ่งกำหนดแสดงในวันที่ 23 ต.ค.นี้ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย หลังประชุมเสร็จในช่วงเวลากลางคืน ก็ร่วมสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงานเล็กน้อย จากนั้นเวลาประมาณ 5 ทุ่ม จึงขอตัวกลับบ้านและมาถึงบ้านประมาณเที่ยงคืน
ต่อมา เวลาประมาณตี 3 จรัลตื่นขึ้นกลางดึก ขอยาหอมกับน้ำอุ่น จึงจัดให้ หลังจากนั้นอีกประมาณ 5 นาที ก็ร้องบอกว่าหน้ามืดและอาเจียนออกมา โดยพยายามจะเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำ ก่อนจะค่อยๆหมดเรี่ยวแรงและไม่ได้สติ ด้านนางอันยา จึงได้เร่งนำตัวนายจรัล ส่งโรงพยาบาลจังหวัดลำพูน เมื่อถึงมือของแพทย์ แม้จะปั้มหัวใจอยู่ราว 30 นาที แต่ไม่เป็นผล หมอได้ออกมาแจ้งข่าวต่อครอบครัวมโนเพ็ชรว่านายจรัลได้จากไปแล้ว
ในเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 4 กันยายน 2544 บริเวณวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศบำเพ็ญกุศล มีประชาชนทั้งในจังหวัดลำพูนและจังหวัดใกล้เคียงหลั่งไหลมาเคารพศพนาย จรัล อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวและทราบข่าวจากมัคคุเทศก์ว่า จรัลซึ่งเป็นผู้อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของล้านนาเสียชีวิต จึงถือโอกาสมารร่วมเคารพศพด้วย พร้อมกับมีการเปิดเพลงของจรัลที่ทุกคนรู้จัก เป็นการรำลึกถึงตลอดทั้งงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีวิทยุท้องถิ่นในภาคเหนือและในกรุงเทพฯ ต่างเปิดเพลงของจรัลตลอดทั้งวัน และมีผู้ฟังโทรศัพท์มาแสดงความเสียใจและความอาลัยเป็นจำนวนมากต่อการจากไปของศิลปินเพลงพื้นเมืองรายนี้ ซึ่งเป็นความภูมิใจของคนเหนือ ถือเป็นเอกลักษณ์และต้นตำรับของศิลปินพื้นบ้านล้านาที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ อีกทั้งทำประโยชน์ให้แก่ท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก ทั้งการส่งเสริมวํฒนธรรมท้องถิ่น จนได้รับรางวัลดีเด่นด้านวัฒนธรรมแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดงเพลงพื้นบ้าน ประจำปี 2540
ด้านลิขสิทธิ์เพลงของนายจรัล ผู้จัดการส่วนตัวของนายจรัลได้กล่าวว่า ลิขสิทธิ์เพลงที่ได้เขียนและเรียบเรียงไว้ได้มอบให้แก่นายไตรศุลี หรือ “ต้นไม้” ลูกชายเพียงหนึ่งเดียวของนายจรัล ส่วนคอนเสิร์ต25 ปี โฟล์กซองคำเมือง ที่จะจัดขึ้นนั้น จากการพูดคุยกับพี่น้องของจรัลเอง ยังไม่แน่ใจว่าจะยังมีการจัดคอนเสิร์ตขึ้นอีกไหม ส่วนตัวนั้นไม่อยากให้จัดงานดังกล่าวขึ้นอีกแล้ว เพราะไม่อยากไปยืนร้องไห้หลังเวที แต่ถ้ากระแสประชาชนอยากจัดก็คงต้องปรึกษากันอีกครั้งหนึ่ง
ด้านนายครรชิต มโนเพ็ชร น้องชายกล่าวถึงการจัดงานคอนเสิร์ตว่า รูปแบบเดิมที่วางไว้นั้นจะมีช่วงที่ 4 คนในตระกูลมโนเพ็ชรขึ้นร้องเพลงร่วมกัน แต่เมื่อมาถึงจุดนี้คิดว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบงานให้ต่างออกไป
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวมติชน ยังได้รายงานต่อไปว่า ขณะนี้มีบุคคลและคณะเจ้าภาพต่อคิวเป็นเจ้าภาพจัดงานศพไปจนถึงวันที่ 7 กันยายน ส่วนงานพระราชทานเพลิงศพนั้นจะมีการจัดตามขนบธรรมเนียมล้านนาโบราณ มีการจัดขบวนแห่ศพและเสลี่ยงเทศนาธรรมนำหน้าขบวน ตามด้วยขบวนปราสาทปากบาน ซึ่งใช้สำหรับคหบดีหรือคนมีซื่อเสียง และขบวนปี่แน-กล่องจุม เคลื่อนขบวนศพทอดยาวจากวัดพระธาตุหริภุญชัยจนไปถึงสุสานบ้านหลวย คาดว่าจะมีผู้คนเข้าร่วมนับหมื่นคนที่จะมาร่วมงานฌาปนกิจและพระราชทานเพลิงศพ
ภายหลังการฌาปนกิจในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2544 เถ้ากระดูกของจรัล บางส่วนถูกนำไปโปรยยังยอดดอยหลวงเชียงดาวตามความประสงค์ของเขาก่อนหน้านั้น บางส่วนนำไปไว้ที่กู่ของสายตระกูลที่ประตูหายยา บางส่วนถูกนำไปบรรจุใต้ฐานรูปปั้นโลหะรูปของเขา

3 ก.ย. 2558 : พระปางฮิลใจ กลายเป็นข่าวหน้า 1 เมื่อมีผู้สังเกตเห็นหน้าบันของอุโบสถวัดเจริญสุคันธารามหรือวัดบ้านกันผม ต.พร...
03/09/2025

3 ก.ย. 2558 : พระปางฮิลใจ

กลายเป็นข่าวหน้า 1 เมื่อมีผู้สังเกตเห็นหน้าบันของอุโบสถวัดเจริญสุคันธารามหรือวัดบ้านกันผม ต.พระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เป็นรูปพระพุทธเจ้ารายล้อมด้วยปัญจวัคคีย์ภิกษุทั้ง 5 รูป อันเป็นเหตุการณ์ตอนปฐมเทศนา แต่ที่ผิดแปลก คือพระพุทธเจ้าในภาพปูนปั้นนั้นกำลังชู 2 นิ้ว คล้ายๆกับการชูสัญลักษณ์ “สู้ๆ” จนชาวบ้านนิยามว่าเป็น “ปางสู้ๆ”
จากการสอบถามนายแหลม จั้นอรัญ อายุ 78 ปีในหมู่บ้านกันผม กล่าวว่าอุโบสถแห่งนี้ก่อสร้างมานานแล้ว ตั้งแต่ ปี 2513 ซึ่งในขณะนั้นมีพระอธิการตุ่นเป็นเจ้าอาวาส มีช่างจากบุรีรัมย์เป็นผู้ออกแบบอุโบสถ แต่หลังจากสร้างอุโบสถเสร็จไม่นาน พระอธิการตุ่นก็ได้ลาสิกขาไปอยู่กับครอบครัว โดยที่ชาวบ้านก็ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆกับตัวอุโบสถ ครั้นต่อมาหลายปีเข้า มีผู้สังเกตเห็นและพูดต่อๆกันไปถึงความแปลกประหลาดของพระพุทธเจ้าชู 2 นิ้ว ซึ่งหลายคนตั้งชื่อว่า “ปางสู้ๆ” เหมือนเป็นกำลังใจให้ชาวบ้านว่าอย่าท้อแท้กับอุปสรรคต่างๆในชีวิต
ส่วนสาเหตุที่ช่างผู้สร้างอุโบสถทำปางสู้ๆขึ้นนั้น นายแหลมไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริง แต่ก็ถือว่าทำให้คนสนใจพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น ต่อมา ทางทีมผู้สื่อข่าวสำนักข่าวข่าวสด ได้เดินทางไปพบกับนายตุ่น กรอกงูเหลือม อายุ 74 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดเจริญสุคันธารามหรือว่าวัดบ้านกันผม ซึ่งเปิดเผยว่าขณะที่ตนเป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้นได้มีชาวบ้านมาปฏิบัติธรรม ส่วนมากเป็นคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน ส่วนคนวัยทำงานหรือหนุ่มสาวนั้นมักจะไม่ค่อยเข้าวัดมาศึกษาพระธรรม เมื่อตนมีโอกาสสร้างอุโบสถหลังใหม่ ทดแทนหลังเก่าที่เสื่อมสภาพไป จึงคิดทำหน้าบันปางปฐมเทศนาที่แฝงภาพพระพุทธเจ้าชู 2 นิ้วไว้ เพื่อให้เกิดความแปลกใจแก่ผู้พบเห็น
โดยนายตุ่น กรอกงูเหลือม อดีตเจ้าอาวาสวัดเจริญสุคันธาราม ยังได้เผยอีกว่าภาพพระพุทธเจ้าชู 2 นิ้วนั้นแทนความหมายเรื่องการเดินทางสายกลาง คือ 1.ต้องไม่ตึงจนเกินไป 2.ต้องไม่หย่อนจนเกินไป มีแต่ผู้ตระหนักในข้อดังกล่าวจึงจะสามารถมีความสุขได้
ในส่วนของประวัติวัดเจริญสุคันธาราม ตามประวัติของกรมการศาสนาระบุว่าวัดตั้งขึ้นเมือง พ.ศ.2391 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2432 หากเชื่อตามข้อมูลดังกล่าว นั้นหมายความว่าการสร้างอุโบสถของวัดขึ้นใหม่ เมื่อ พ.ศ.2513 ตามคำให้การของ นายตุ่น กรอกงูเหลือม อดีตเจ้าอาวาส อุโบสถหลังนี้ควรจะเป็นอุโบสถหลังที่ 2 หรือ 3 ของวัดที่สร้างขึ้นทดแทนอุโบสถเดิมที่มีการพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.2432 แล้ว
ทั้งนี้ พระพุทธเจ้าปางสู้ๆ หากพิจารณาด้วยมุมมองทางศิลปกรรม อาจจัดเป็นพระพุทธรูปที่แสดงออกตามเอกลักษณ์ในเชิงช่างอีสานอย่างแท้จริง ดังสังเกตได้จากพระวรกายผิดหลักกายวิภาค พระพักตร์ของพระพุทธเจ้ามีลักษณะที่นักวิชาการบางท่านเรียกว่า แบบเด็กๆ แลดูเด๋อๆด๋าๆ น่ารักแบบซื่อๆ สิ่งเหล่านี้นับรวมไปถึงการดัดแปลงเปลี่ยนจากการปฐมเทศนาที่พระพุทธรูปจำต้องอยู่ในท่าแสดงธรรมหรือยกพระหัตถ์ขึ้นจีบนิ้วพระหัตถ์ เป็นปางสู้ๆ ไปเสียอย่างงั้น

อ้างอิง
“แห่ดู-ปางสู้ๆ พุทธรูปชู 2 นิ้ว”, (วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ.2558), ข่าวสด
กรมการศาสนา. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม 17 นครราชสีมา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์กรมการศาสนา
ติ๊ก แสนบุญ. พระพุทธรูปอีสาน : ตัวตนคนอีสาน พระวรกายผิดหลัก พระพักตร์แสดงอารมณ์... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/culture/article_5117

ที่อยู่

Bangkok
10900

เบอร์โทรศัพท์

+6625890020

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Mati Insightผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Mati Insight:

แชร์