LM Thai LM (Logistics Manager) แหล่งข่าวสารด้านโลจิสติกส์ชั้นนำ

Liebherr ฉลองความสำเร็จครบ 25 ปี ด้วยการพัฒนาเครนยกตู้สินค้า (RTG) ให้มีความหลากหลายมากขึ้นLiebherr Container Cranes ประ...
08/11/2025

Liebherr ฉลองความสำเร็จครบ 25 ปี ด้วยการพัฒนาเครนยกตู้สินค้า (RTG) ให้มีความหลากหลายมากขึ้น

Liebherr Container Cranes ประกาศเปิดตัวเครนคานยกตู้สินค้า (RTG) รุ่นใหม่ พร้อมยกระดับการให้บริการผลิตภัณฑ์ RTG ฉลองการครบรอบการพัฒนาและสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 25 ปี

เครน RTG ชุดใหม่ได้รับการออกแบบเพื่อตอบสนองปฏิบัติการท่าเทียบเรือที่มีความต้องการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเครื่องยนต์ Liebherr RTG รุ่นใหม่จะมอบประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ลดอัตราการปล่อยคาร์บอน และสามารถปฏิบัติการได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ผู้ปฏิบัติการสามารถเลือกโซลูชันที่เหมาะสมได้ตามต้องการ

RTG รุ่นใหม่มีให้เลือกทั้งหมดห้ารูปแบบ ได้แก่

- RTG-CB (Electric, Conductor Bar) เครน RTG พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมระบบผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ต้องการระบบรางจ่ายไฟอยู่กับที่
- ERTG-CRD (Electric, Cable Reeling Frum) เครน RTG ที่รองรับแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่มีความยืดหยุ่น สามารถใช้ระบบสายไฟแบบล้อหมุน
- RTG-HC (Hybrid, Capacitor) เครน RTG ระบบไฮบริดที่ใช้ตัวเก็บประจุสำหรับเก็บรักษาพลังงาน โดยผสานกับตัวกำเนิดพลังงานดีเซลที่มีขนาดเล็กลง ถือเป็นตัวเลือกการลงทุนที่ต่ำที่สุดและสามารถคืนทุนได้เร็วที่สุดสำหรับระบบไฮบริด
- RTG-HB (Hybrid, Battery) เครน RTG พลังงานไฮบริดไฟฟ้าดีเซล ใช้ระบบจัดเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี ออกแบบมาเพื่อประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยคาร์บอน
- RTG-VSG (Variable Speed Genset) เครน RTG เชื้อเพลิงดีเซลแบบประหยัด โดยมีการปรับประสิทธิภาพการทำงาน ลดการใช้เชื้อเพลิงลงเมื่อเทียบกับเครน RTG ที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซลแบบมาตรฐาน

Mr. Charlie McCarthy กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม บริษัท Liebherr Container Cranes กล่าวว่า “ผลิตภัณฑ์ RTG ที่หลากหลายของเรา ช่วยมอบความยืดหยุ่นและตัวเลือกที่ไม่มีใครทัดเทียม เพื่อตอบสนองความต้องการในปฏิบัติการที่หลากหลาย เครน RTG พลังงานไฟฟ้า ปฏิบัติการโดยมีอัตราการปล่อยคาร์บอนเท่ากับศูนย์ ขณะที่เครนระบบไฮบริดจะมอบความสามารถในปฏิบัติการที่เป็นเลิศ พร้อมกับลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีนัยสำคัญ ​ช่วยลดค่าใช้จ่าย และการซ่อมบำรุง นอกจากนี้ เครื่องผลิตพลังงานไฟฟ้าที่หลากหลายของ RTG ยังจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติการและลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซลแบบดั้งเดิม”

Hyster-Yale ได้รับการรับรองด้านความยั่งยืนจาก EcoVadisHyster-Yale Materials Handling (Hyster-Yale) ได้รับการรับรองระดับ ...
07/11/2025

Hyster-Yale ได้รับการรับรองด้านความยั่งยืนจาก EcoVadis

Hyster-Yale Materials Handling (Hyster-Yale) ได้รับการรับรองระดับ Bronze จากการประเมินความยั่งยืนของ EcoVadis โดยบริษัทฯ ได้เข้าร่วมการประเมินติดต่อกันเป็นปีที่สาม

การรับรอง EcoVadis เกิดการประเมินความเป็นเลิศด้านยั่งยืนทั้งหมดสี่ด้าน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม แรงงานและสิทธิมนุษยชน จริยธรรม และการดำเนินการด้านความยั่งยืน ซึ่งในปีนี้ Hyster-Yale ได้รับการจัดอันดับสูงขึ้นทั้งสี่หมวดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

“ความรับผิดชอบขององค์กรถือเป็นคุณค่าหลักสำหรับเรา และยังเป็นปัจจัยสำคัญในวิสัยทัศน์ของเราในการเปลี่ยนแปลงแนวทางการขนส่งวัสดุ นับตั้งแต่ท่าเรือไปจนถึงปลายทางสุดท้าย” Mr. Don Buckman ผู้จัดการฝ่าย Environmental Health and Safety บริษัท Hyster-Yale Materials Handling กล่าว “การได้รับการรับรองครั้งนี้ถือเป็นการสะท้อนถึงความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องของทีมบริหารที่มีต่อโครงการริเริ่มต่างๆ รวมทั้งความมุ่งมั่นของทีมบุคลากรในการพัฒนาและการดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ”

ในทุกๆ ปี EcoVadis จะทำการรับรองบริษัทที่มีคุณสมบัติและผ่านการประเมิน ซึ่งการประเมินนี้จะวัดคุณภาพของระบบบริหารจัดการความยั่งยืนของบริษัทผ่านนโยบาย การดำเนินงาน และผลลัพธ์ต่างๆ โดย EcoVadis มีหลักเกณฑ์การให้คะแนนที่เข้มงวดและได้รับการพัฒนามาอย่างดี ทำการประเมินโดยนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญ คะแนนจากการประเมินนี้ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถเปรียบเทียบตนเองกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ รวมทั้งกำหนดประสิทธิภาพด้านความยั่งยืนได้อย่างชัดเจนและมีรูปธรรมเป็นอย่างดี

อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในภาคส่วนการขนส่งที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเผาไหม้เชื้อเพ...
07/11/2025

อุตสาหกรรมโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในภาคส่วนการขนส่งที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลในยานพาหนะขนส่ง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปรับใช้รถบรรทุกไฟฟ้า หรือ EV Truck จึงเป็นหนึ่งในแนวทางรักษาสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจ ลองมาสำรวจจุดเด่นของการใช้ EV Truck เพื่อความยั่งยืนกันเถอะ

DP World และ Reliance Industries จับมือเปิดโซลูชันขนส่งทางรางในอินเดียDP World และ Reliance Industries ของอินเดีย จับมือ...
06/11/2025

DP World และ Reliance Industries จับมือเปิดโซลูชันขนส่งทางรางในอินเดีย

DP World และ Reliance Industries ของอินเดีย จับมือเป็นพันธมิตรเปิดตัวโซลูชันโลจิสติกส์สำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดยเปลี่ยนการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางถนนเป็นการขนส่งทางราง ช่วยลดอัตราการปล่อยคาร์บอน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการ

โดยโซลูชันใหม่นี้จะเชื่อมต่อศูนย์กลางการผลิตของ Reliance Industries ใน Jamnagar รัฐ Gujarat ประเทศอินเดีย กับสถานีบรรจุสินค้า (ICD) ของ DP World ใน Ahmedabad ก่อนจะขนส่งต่อไปยังท่าเรือ Mundra โดยก่อนหน้านี้การให้บริการขนส่งตู้สินค้าแต่ละเที่ยวในเส้นทางระหว่าง Mundra – Jamnagar – Mundra จะปฏิบัติการผ่านโหมดขนส่งสินค้าทางถนนบนระยะทางราว 700 กิโลเมตร ด้วยโซลูชันใหม่ดังกล่าวจะช่วยให้การขนส่งในเส้นทาง Ahmedabad – Jamnagar – Mundra สามารถเปลี่ยนไปใช้การขนส่งสินค้าทางรางได้ ซึ่งการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งในครั้งนี้จะช่วยลดความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและการปฏิบัติการได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ บริการขนส่งสินค้าทางรางแบบครบวงจรสามารถขนส่งสินค้าได้มากถึง 1,260 ตัน และสามารถขนส่งตู้สินค้าได้มากถึง 45 ตู้ในคราวเดียว ซึ่งจะช่วยปรับกระบวนการโลจิสติกส์ให้ราบรื่นยิ่งขึ้น ทั้งยังลดความต้องการในการใช้รถเทรลเลอร์และคนขับรถเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่เพียงลดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการขนส่ง แต่ยังช่วยให้การเชื่อมต่อของยานพาหนะมีความราบรื่นมากขึ้น อีกทั้ง การลดระยะทางในการขนส่งสินค้าทางถนนเป็นระยะทางมากกว่า 700 กิโลเมตรต่อตู้สินค้าลง ยังจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมีนัยสำคัญ

NX Group เข้าร่วมงาน SEMICON India 2025 พร้อมประกาศเป้าหมายเพิ่มยอดขายในอินเดียให้ถึง 60 ล้านเยนเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มบริษ...
06/11/2025

NX Group เข้าร่วมงาน SEMICON India 2025 พร้อมประกาศเป้าหมายเพิ่มยอดขายในอินเดียให้ถึง 60 ล้านเยน

เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มบริษัท NX Group ได้เข้าร่วมงาน SEMICON India 2025 ซึ่งจัดขึ้นใน New Delhi เป็นเวลาสามวัน พร้อมประกาศว่าจะเพิ่มยอดขายจากปฏิบัติการในอินเดียให้ถึง 60 ล้านเยน ภายในปี 2028 ซึ่งคิดเป็นสามเท่าจากยอดขายในปี 2023

SEMICON India 2025 เป็นหนึ่งในงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียใต้ จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อส่งเสริมให้อินเดียก้าวเป็นศูนย์กลางการออกแบบ ผลิต และพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ โดยปีนี้มีผู้จัดแสดงเข้าร่วมประมาณ 350 ราย จาก 48 ประเทศทั่วโลก ภายในงาน NX Group ได้นำเสนอโซลูชันโลจิสติกส์ล่าสุดของบริษัทฯ รวมถึงบริการคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในอินเดีย และความคืบหน้าในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ในอินเดีย

นอกจากนี้ NX Group ยังได้ประกาศแผนก่อสร้างคลังสินค้าเซมิคอนดักเตอร์แห่งใหม่ใน Gujarat และ Assam ภายในปี 2027 โดยใช้ประโยชน์จากความรู้ด้านโลจิสติกส์เซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับจากญี่ปุ่น ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ และประเทศอื่นๆ ในการสร้างโซลูชันแบบไฮบริด ‘Local x Global’ ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการในอินเดีย เพื่อพัฒนาฟังก์ชันโลจิสติกส์การควบคุมคุณภาพสูง ซึ่งจำเป็นต่ออุตสาหกรรมฯ โดยครอบคลุมมาตรการป้องกันการสั่นสะเทือนผ่านยานพาหนะที่มีระบบ Air Suspension การควบคุมอุณหภูมิและความชื้น คลังสินค้าทัณฑ์บน และการจัดส่งสินค้าในระยะสุดท้าย (Last-mile delivery) โดย NX Group ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์เพื่อสนับสนุนการเติบโตในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอุตสาหกรรมอื่นๆ ของอินเดีย อีกทั้งกำลังพิจารณาปรับใช้การขนส่งทางรางและทางทะเลตามคำแนะนำของรัฐบาลอินเดีย

LEO Global Logistics ฉลองครบรอบ 36 ปี ตอกย้ำการเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ของโลจิสติกส์ไทยปี 2026 ที่กำลังใกลเ...
05/11/2025

LEO Global Logistics ฉลองครบรอบ 36 ปี ตอกย้ำการเติบโตอย่างยั่งยืนพร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ของโลจิสติกส์ไทย

ปี 2026 ที่กำลังใกลเข้ามานี้ ก็จะเป็นการครบ 3 รอบหรือ 36 ปี สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO ตลอดระยะเวลา 36 ปีที่ผ่านมา LEO ได้สร้างมิติใหม่ให้กับบริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้พิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำในการสร้างมาตรฐานใหม่ๆ และแสดงความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการที่เป็นเลิศ ผ่านการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งในแง่ของขอบข่ายการให้บริการและหน่วยธุรกิจที่หลากหลาย ด้วยโซลูชันที่ทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม

เนื่องในโอกาสครบรอบ 36 ปี LEO ได้กำหนดทิศทางและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ใหม่ เพื่อต่อยอดรากฐานอันแข็งแกร่งตลอดกว่าสามทศวรรษ สู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไปอีกในอนาคต

ในวาระครบรอบ 36 ปีนี้ นิยตสาร LM ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท LEO Global Logistics เพื่อย้อนรอยกลับไปดูเส้นทางแห่งความก้าวหน้าของบริษัทฯ พร้อมเจาะลึกถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงกลยุทธ์และแนวทางสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำโลจิสติกส์ของประเทศไทยต่อไปในอนาคต

Over Three Decades of Relentless Growth

LEO เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้าทางทะเลในปี 1991 ทั้งในส่วนของ Inbound และ Outbound และเปิดให้บริการ Direct Weekly Groupage/Consolidation Services (LCL Services) ไปยังเมืองท่าหลัก ๆ ทั่วโลก โดยในช่วงเริ่มต้น LEO มีพนักงานเพียง 5 คน และปิดท้ายในปี 1991 ด้วยพนักงานถึง 40 คน และนับจากนั้นมาบริษัทฯ ก็เดินหน้าให้บริการและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง อีกทั้งยังเดินหน้าลงทุนขยายบริการต่างๆ ให้หลากหลายยิ่งขึ้น เช่น การบริการด้าน Airfreight บริการดำเนินพิธีการกรมศุลกากร บริการด้านบริหารและจัดการคลังสินค้า สามารถให้บริการโลจิสติกส์ได้อย่างครบวงจรที่ครอบคลุมทั่วโลก (End-to-End Global Logistics Services) มี Network Agencies ใน 190 ประเทศ ทำให้สามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุมทั่วโลก โดยในปัจจุบัน มีจำนวนพนักงานที่อยู่ในเครือ LEO ทั้งหมดเกือบ 500 คน

นอกจากนี้ LEO ยังได้มีขยายสาขาไปยังแหลมฉบังและสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อขยายตลาดการขนส่ง เพิ่มความคล่องตัวในการให้บริการ รวมทั้งขยายขอบข่ายการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศให้โดดเด่นและชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ LEO ยังได้จัดตั้งบริษัท YJC Depot ในปี 2009 และบริษัท Aramex (Thailand) เพื่อให้บริการลานรับฝากตู้สินค้า และบริการขนส่งพัสดุด่วนระหว่างประเทศอีกด้วย (Courier & Express Service)

ตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา LEO Global Logistics ได้เผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญในธุรกิจโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ หรือโรคระบาด แต่บริษัทฯ ก็สามารถผ่านพ้นทุกวิกฤตมาได้อย่างแข็งแกร่งและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่ย่อท้อ รวมถึงความสามารถในการปรับตัวและยืดหยุ่น (Resilience) ขององค์กรให้สามารถรองรับได้ทุกสถานการณ์ และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงและขยายขีดความสามารถในการแข่งขัน บริษัทฯ จึงได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อปี 2563 (2020) พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ LEO COLDBOTIC และบริการห้องเก็บของส่วนตัว LEO Self-storage & Wine Storage ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 3 สาขาหลัก ได้แก่ สาขาพระราม 3 สาขาไชน่าทาวน์ และสาขาพระราม 4

นอกจากนี้ LEO ยังขยายบริการสู่การขนส่งทางราง (Rail Transport) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการยกระดับเครือข่ายโลจิสติกส์ให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการขนส่งภายในประเทศและระหว่างประเทศ (Cross-border Transport) โดยเฉพาะเส้นทางไทย–จีนที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทในเครืออย่าง ‘ล้านช้าง เอ็กซ์เพรส (LaneXang Express)‘ และ ‘ศรีตรัง ลีโอ มัลติโมเดล โลจิสติกส์ (Sri Trang Leo Multimodal Logistic)’ ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วงปีที่ผ่านมา

อีกทั้งยังได้จัดตั้งบริษัท LEO Sourcing & Supply Chain เพื่อดำเนินธุรกิจตัวแทนจัดซื้อ/คัดสรรสินค้า (buying & sourcing agent) จากประเทศไทย เพื่อส่งออกไปยังตลาดจีนอย่างมืออาชีพ ตั้งแต่การจัดหาสินค้า การตรวจสอบคุณภาพ ไปจนถึงการจัดส่งถึงปลายทาง นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศกัมพูชา ได้ก่อตั้งบริษัท Logicam LEO (Cambodia) Co.,Ltd. เพื่อพัฒนาธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ต่อยอดธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้าแบบครบวงจร ยกระดับโครงข่ายการขนส่งและการกระจายสินค้าในภูมิภาคให้ครบถ้วนยิ่งขึ้น

ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง LEO Global Logistics ยังได้รับรางวัลเกียรติยศมากมายที่สะท้อนถึงความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์และการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน อาทิ รางวัล Excellent Logistics Management Award หรือ ELMA Awards จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ถึง 2 ครั้ง ในปี 2016 ได้รับรางวัลในสาขาผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร และปี 2019 ได้รับรางวัลในสาขาผู้ให้บริการตัวแทนในการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รวมถึง รางวัล Prime Minister’s Export Award (PM Award) ประจำปี 2019 จากสำนักนายกรัฐมนตรี ในประเภทธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award) สาขาโลจิสติกส์การค้า (Trade Logistics) ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถของบริษัทไทยในการยกระดับมาตรฐานโลจิสติกส์สู่ระดับสากล อีกทั้งในปี 2023 คุณเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LEO ยังได้รับรางวัล Best CEO Award จากตลาดหลักทรัพย์ mai ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยวิสัยทัศน์และความเป็นมืออาชีพ นำพา LEO สู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว

People who Power Progress

เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทฯ นอกเหนือจากความยึดมั่นในการบริหารเชิงกลยุทธ์และการใช้แนวคิดทางการตลาดเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนองค์กรแล้ว ความสำเร็จขององค์กรยังมาจากทีมผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่นและพนักงานที่มีความเป็นมืออาชีพ...

อ่านบทความเต็ม:ลิ้งก์ในคอมเมนท์

งาน tlacSEA 2025 ผนึกกำลังภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคง...
05/11/2025

งาน tlacSEA 2025 ผนึกกำลังภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค

งาน transport logistic Southeast Asia and air cargo Southeast Asia (tlacSEA) 2025 จัดขึ้นโดยองค์กร MMI Asia ณ ศูนย์นิทรรศการ Sands Expo & Convention Centre ประเทศสิงคโปร์ วันที่ 29-31 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยเป้าหมายในการผลักดันความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค โดยภายในงานได้รวบรวมบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์มากกว่า 10,000 คน ผู้จัดแสดงโซลูชันกว่า 120 ราย และวิทยากรผู้คร่ำหวอดในวงการอีกกว่า 160 ท่านจากทั่วโลก เพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และระบบนิเวศซัพพลายเชนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตทางการค้าในอาเซียน การค้าทางดิจิทัล และการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยตลาดการค้าในภูมิภาคคาดว่าจะมีการเติบโตถึง 390 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2030 ขยายตัว 6.2 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้น

ด้วยเหตุนี้ งาน tlacSEA 2025 จึงเป็นพื้นที่จัดแสดงโซลูชันและความร่วมมือที่จะเสริมสร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัล ความยั่งยืน และความยืดหยุ่นทั่วภาคอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“tlacSEA 2025 ไม่ได้เป็นเพียงงานนิทรรศการทั่วไป แต่เป็นงานที่จะช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงในระดับภูมิภาค” Mr. Michael Wilton ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการผู้บริหาร องค์กร MMI Asia กล่าว “งานนี้จัดขึ้นเพื่อตอบรับเรื่องสำคัญระดับชาติของแต่ละประเทศด้วยกลยุทธ์ระดับภูมิภาค พร้อมส่งมอบโซลูชันที่ใช้ได้จริงสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานได้เยี่ยมชมพาวิลเลียนชั้นนำของประเทศจากสิงคโปร์ เยอรมนี จีน และไต้หวัน พร้อมด้วยบริษัทในซัพพลายเชนและโลจิสติกส์ระดับโลก อาทิ Turkish Cargo, Cathay Cargo, Emirates SkyCargo, Etihad Cargo, OSP, Siemens และอีกมากมาย โดยผู้จัดแสดงในงานได้นำเสนอบริการขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ในทุกแง่มุม ตั้งแต่การรับจัดการขนส่งสินค้าระดับโลกและการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบไปจนถึงการจัดการคลังสินค้า การยกขนสินค้า และการจัดการซัพพลายเชน ตลอดจนโซลูชันพิเศษอื่นๆ

“การให้ความสำคัญกับการปรับใช้ระบบดิจิทัลและความยั่งยืน ผนวกกับผู้จัดแสดงภายในงานที่หนาแน่น ทำให้งาน tlacSEA 2025 ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” Mr. Michael กล่าว “เราช่วยให้ธุรกิจได้พลิกความท้าทายระดับโลกเป็นโอกาสในการเติบโต เสริมสร้างความร่วมมือ และเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ซัพพลายเชนที่ดียิ่งขึ้น”

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการประชุมหารือกว่า 90 หัวข้อ อาทิ LOGTech Day, Project Cargo, Future Leaders’ Day, Workplace Safety & Health (WSH) Awards 2025 for the Transportation & Storage Sector และ Networking Highlights ซึ่งครอบคลุมภาคส่วนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ในทุกมิติ

tlacSEA 2025 มุ่งมั่นสร้างการมีส่วนร่วมในระดับภูมิภาคที่มากกว่าเดิม ผ่านการต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงานทั้งสองครั้งที่ผ่านมา โดยจะยังคงเดินหน้าตอกย้ำสถานะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะศูนย์กลางการค้าระดับภูมิภาค ศูนย์กลางการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ และนวัตกรรมดิจิทัล พร้อมส่งมอบข้อมูลเชิงลึกที่ปฏิบัติได้จริงและผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคนต่อไป

Maersk จับมือ Saudi Post Company สู่พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ สนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซในซาอุดิอาระเบียMaersk Saudi Arabia (Ma...
04/11/2025

Maersk จับมือ Saudi Post Company สู่พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ สนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซในซาอุดิอาระเบีย

Maersk Saudi Arabia (Maersk) และ Saudi Post Company (SPL) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) จับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ มุ่งมั่นเสริมสร้างบริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนให้แก่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังเข้าสู่ตลาดหรือปฏิบัติการอยู่ในซาอุดิอาระเบียและครอบคลุมทั้งตลาดกลุ่มความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC)

การเป็นพันธมิตรในครั้งนี้เป็นการผสานความเชี่ยวชาญของบริการภายในประเทศของ Saudi Post กับความสามารถด้านโลจิสติกส์ระดับโลกของ Maersk เพื่อมอบโซลูชันครบวงจรที่ครอบคลุมให้แก่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซระดับโลก โดยเครือข่ายระดับโลกที่ครอบคลุมของ Saudi Post ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนเป้าหมาย Vision 2030 ของซาอุดิอาระเบีย จะผสานเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ระดับโลกของ Maersk เพื่อส่งมอบบริการที่มีคุณภาพเป็นเลิศให้แก่ลูกค้า

“เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Saudi Post ซึ่งปฏิบัติการเครือข่ายกระจายสินค้าในซาอุดิอาระเบียอย่างยอดเยี่ยมในการสร้างโซลูชันโลจิสติกส์ครบวงจร เพื่อตอบสนองการเติบโตของธุรกิจการจัดการสินค้าอีคอมเมิร์ซพร้อมจัดส่งที่มีประสิทธิภาพภายในประเทศ ด้วยเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางทะเลระดับโลกที่ครอบคลุมของเรา พร้อมกับศูนย์กลาง Integrated Logistics Park ที่เปิดใหม่ล่าสุด ผสานกับเครือข่ายขนส่งสินค้าภายในประเทศของ Saudi Post จะทำให้เราสามารถมอบบริการโลจิสติกส์ด้วยคุณภาพระดับโลก ที่สนับสนุนธุรกิจที่กำลังจะขยายเข้ามาในตลาดประเทศซาอุดิอาระเบียได้” Mr. Ahmed Al Olaby ผู้อำนวยการ บริษัท Maersk Saudi Arabia กล่าว

ภายใต้กรอบความร่วมมือดังกล่าว Saudi Post จะบริหารจัดการปฏิบัติการภายในประเทศทั้งหมด ทั้งการดำเนินพิธีการศุลกากรแบบเร่งด่วนและบริการขนส่งสินค้าถึงปลายทาง ขณะที่ Maersk จะดูแลขั้นตอนในต้นทาง การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และโซลูชันคลังสินค้าภายใต้เขตปลอดภาษี โดย Maersk จะใช้ศูนย์โลจิสติกส์ครบวงจรแห่งใหม่ใน Jeddah ประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการสำหรับการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของซาอุดิอาระเบียในฐานะศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับภูมิภาค

Hellmann ขยายความร่วมมือ บริหารคลังสินค้าระดับโลกแก่ Siemens Smart Infrastructure ใน Nurembergบริษัท Hellmann Worldwide ...
01/11/2025

Hellmann ขยายความร่วมมือ บริหารคลังสินค้าระดับโลกแก่ Siemens Smart Infrastructure ใน Nuremberg

บริษัท Hellmann Worldwide Logistics ขยายความร่วมมือในฐานะผู้บริหารคลังสินค้ากลางระดับโลกของบริษัท Siemens Smart Infrastructure ใน Nuremberg นับเป็นหมุดหมายใหม่ที่มั่นคงยิ่งขึ้นสำหรับความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัท

คลังสินค้าใน Nuremberg ถือเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับโลกสำหรับบริษัท Siemens Smart Infrastructure ซึ่งจัดเก็บวัสดุการผลิตและสินค้าเพื่อการจัดจำหน่าย และกระจายสินค้าไปยังปลายทางทั่วโลก ด้วยที่ตั้งซึ่งอยู่ใกล้กับฐานปฏิบัติการของ Hellmann การปฏิบัติการของทั้งสองบริษัทจึงสามารถดำเนินการได้อย่างสอดประสาน เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้บุคลากร และเพิ่มความรวดเร็วในซัพพลายเชน อีกทั้งอาคารหลังนี้ยังได้รับการพัฒนาขึ้นตามข้อกำหนดสำหรับการจัดการสินค้าที่ขนส่งทางอากาศและมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางอากาศ

การรับหน้าที่ในการบริหารอาคาร Nuremberg แสดงถึงความก้าวหน้าของความร่วมมืออันยาวนานของทั้งสองบริษัท โดย Hellmann ได้บริหารจัดการโลจิสติกส์คลังสินค้าให้กับ Siemens Smart Infrastructure ใน Bor สาธารณรัฐเช็กมามากกว่าสิบปี และเพิ่งได้รับการขยายระยะสัญญาเพิ่มอีกห้าปีเมื่อไม่นานมานี้

“Hellmann เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สามารถดำเนินการตามมาตรฐานระดับสูงของเราได้อย่างสม่ำเสมอ ทั้งในแง่ของคุณภาพ ความยืดหยุ่น และความน่าเชื่อถือ” Mr. Sven Markert หัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ซัพพลายเชน บริษัท Siemens Smart Infrastructure กล่าว

COSCO SHIPPING เปิดตัวบริการเส้นทางใหม่ จีน-อ่าวเปอร์เซีย เร่งการส่งออกยานยนต์ของบริษัทใน Fuzhouเมื่อเร็วๆ นี้ สายการเดิ...
31/10/2025

COSCO SHIPPING เปิดตัวบริการเส้นทางใหม่ จีน-อ่าวเปอร์เซีย เร่งการส่งออกยานยนต์ของบริษัทใน Fuzhou

เมื่อเร็วๆ นี้ สายการเดินเรือ Guangzhou Yuanhai Auto Carrier ในเครือ COSCO SHIPPING Specialized ได้ปฏิบัติการเรือขนส่งยานยนต์ ORCHID LEADER เข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือ Jiangyin Port ในท่าเรือ Fuzhou Port โดยการเทียบท่าครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวเส้นทางการเดินเรือเชื่อมต่อตรงระหว่าง Fuzhou ประเทศจีน และอ่าวเปอร์เซีย อย่างเป็นทางการด้วย

โดยเรือ ORCHID LEADER ได้บรรทุกยานยนต์ที่ผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตใน Fuzhou อาทิ บริษัท Chery และ Jetour จำนวน 1,697 คัน เพื่อขนส่งบนเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 ไปยังปลายทางในประเทศต่างๆ ตามโครงการ Belt and Road Initiative อาทิ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิรัก และคูเวต

ทั้งนี้ เรือ ORCHID LEADER เป็นเรือขนส่งยานยนต์แบบเชื้อเพลิงคู่ที่มีความสามารถในการรองรับการขนส่งยานพาหนะประเภทต่างๆ และสินค้าขนาดใหญ่และน้ำหนักมากเป็นพิเศษ (MAFI) ได้ถึง 7,000 ซีอียู และเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดที่เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือ Fuzhou Port นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการขนส่งสินค้าแบบ Ro-Ro นอกจากนี้ เรือระบบเชื้อเพลิงคู่พลังงาน LNG ยังสร้างความได้เปรียบด้านการปฏิบัติการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำ ทั้งยังสอดคล้องกับภาพลักษณ์ด้านความยั่งยืนของยานยนต์แบรนด์ Jetour Auto ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ Guangzhou Yuanhai Auto Carrier ยังให้บริการขนส่งสินค้าแบบ door-to-door เพื่อขนส่งยานพาหนะที่ผลิตขึ้นใน Fuzhou ตั้งแต่โรงงานผลิตไปยังท่าเรือ ไปจนถึงท่าเรือปลายทางอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งสามารถลดระยะเวลาของกระบวนการโลจิสติกส์ลงได้เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ พร้อมด้วยบริการอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ อาทิ บริการผ่านพิธีการศุลกากรตลอด 24 ชั่วโมง และการยกขนสินค้าทันทีที่เรือเข้าเทียบท่า

ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งยานยนต์และเรือระหว่างประเทศรายใหญ่ของจีน บริษัทฯ Guangzhou Yuanhai Auto Carrier ยังเพิ่มความถี่บนเส้นทางจาก Fuzhou ไปยังอ่าวเปอร์เซียอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ มุ่งใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบด้านสิ่งแวดล้อมของเรือขนส่งสินค้าเชื้อเพลิงคู่ รวมถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีในการโหลดสินค้า เพื่อมอบบริการโซลูชันโลจิสติกส์แบบครบวงจรตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางสำหรับยานยนต์ที่ผลิตในท้องถิ่น Fujian ให้เข้าสู่ตลาดโลกได้มากยิ่งขึ้น

SeaLead จัดพิธีฉลองการเดินเรือ M.V. LIANG XIANG 85 เที่ยวปฐมฤกษ์ ณ ท่าเทียบเรือ LCIT C3เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา บร...
31/10/2025

SeaLead จัดพิธีฉลองการเดินเรือ M.V. LIANG XIANG 85 เที่ยวปฐมฤกษ์ ณ ท่าเทียบเรือ LCIT C3

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท SeaLead Shipping (Thailand) ได้จัดพิธีฉลองการเดินเรือเที่ยวปฐมฤกษ์ของเรือ M.V. LIANG XIANG 85 ร่วมกับบริษัท Laem Chabang International Terminal (LCIT) ภายใต้บริษัท DP World ณ ท่าเทียบเรือ C3 ท่าเรือแหลมฉบัง สะท้อนความมุ่งมั่นในการขยายขีดความสามารถด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ

เรือ M.V. LIANG XIANG 85 เป็นเรือขนส่งตู้สินค้าขนาด 4,626 ทีอียู ซึ่งนับเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของ SeaLead Shipping ที่เข้าเทียบท่า ณ ท่าเรือแหลมฉบัง โดยเรือลำนี้มีความยาวตลอดลำ 228 เมตร กว้าง 40 เมตร และมาพร้อมเทคโนโลยีการพาณิชยนาวีอันทันสมัยมากมาย

พิธีฉลองในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก Mr. Yann Wickers ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท LCIT คุณภูมิสิทธิ์ ชิตามระ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคุณพันศักดิ์ มณีเสถียรรัตนา ผู้จัดการทั่วไป บริษัท SeaLead Thailand พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและพนักงานจากทั้งสองบริษัทฯ เข้าร่วมงานเพื่อฉลองความสำเร็จและหมุดหมายใหม่ในการยกระดับการให้บริการในประเทศไทย

MSC จัดบูธในงาน SS Rice News Convention 2025 นำเสนอความเชี่ยวชาญในการขนส่งข้าวสายการเดินเรือ MSC Mediterranean Shipping ...
30/10/2025

MSC จัดบูธในงาน SS Rice News Convention 2025 นำเสนอความเชี่ยวชาญในการขนส่งข้าว

สายการเดินเรือ MSC Mediterranean Shipping Company เตรียมจัดบูธในงาน SS Rice News Convention 2025 ซึ่งสามารถพบกับทีมงาน MSC ได้ที่ บูธหมายเลข 31 ระหว่างวันที่ 12–14 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์ประชุม Pattaya Exhibition And Convention Hall (PEACH) เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี

ในฐานะอาหารที่มีปริมาณการบริโภคมากที่สุดในโลก กว่า 500 ล้านเมตริกตันต่อปี ข้าวถือเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับประชากรกว่าครึ่งโลก อย่างไรก็ดี การขนส่งเมล็ดพืชอันล้ำค่าแต่เปราะบางเช่นนี้ต้องอาศัยความใส่ใจและความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเพื่อรับมือกับความไวต่ออุณหภูมิและความชื้น

ด้วยประสบการณ์นานหลายทศวรรษในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ข้าวทั่วทุกเส้นทางการค้าหลักของโลก MSC ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญในการส่งมอบสินค้าที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพตลอดซัพพลายเชนทั่วโลก โดยเฉพาะภูมิภาคที่ผลิตและบริโภคข้าวเป็นหลักอย่างเอเชีย

Reliable Services and Solutions Connecting Major Rice Markets

MSC นำเสนอบริการทางการค้าและโซลูชันที่ครอบคลุมเพื่อตอบรับความท้าทายในการขนส่งข้าว ตั้งแต่การส่งมอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ต่อเนื่อง ไปจนถึงการจัดการตารางขนส่งในตลาดที่แตกต่างกัน

เครือข่ายขนส่งทั่วโลกและโซลูชันการขนส่งแบบ door-to-door MSC นำเสนอการเชื่อมต่ออย่างไร้รอยต่อระหว่างประเทศผู้ผลิตข้าวแห่งสำคัญกับปลายทางทั่วโลก รวมถึงชาติที่บริโภคข้าวเป็นจำนวนมากในเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง

ความเชี่ยวชาญในการขนส่งข้าว กระบวนการจัดการสินค้าที่เชี่ยวชาญจะช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์ข้าวในทุกขั้นตอน รักษาคุณภาพตั้งแต่ขั้นตอนการโหลดสินค้าไปจนถึงการส่งมอบ อีกทั้งทีมผู้เชี่ยวชาญของ MSC ยังคอยให้คำแนะนำด้านแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ เทคโนโลยี และโซลูชันเฉพาะตัวเพื่อคงไว้ซึ่งคุณภาพที่ดีที่สุดของสินค้า

โซลูชัน MSC Extended Protection (EPR) ความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับสินค้าประเภทข้าวเพื่อป้องกันความเสี่ยงขณะขนส่งทั้งทางทะเลและทางบก ซึ่งมีให้พิเศษเฉพาะลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งของ MSC เท่านั้น

นอกจากนี้ ด้วยการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีดิจิทัล MSC ได้นำเสนอโซลูชันดิจิทัลเพื่อยกระดับและเสริมความคล่องตัวให้กับซัพพลายเชนของข้าว

เทคโนโลยี MSC Smart Container ตู้สินค้าแห้งที่มาพร้อมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจะช่วยส่งข้อมูลด้านตำแหน่งที่ตั้ง อุณหภูมิ และการเปิดตู้สินค้าแบบเรียลไทม์ พร้อมปกป้องสินค้าให้ปลอดภัยและอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด

แพลตฟอร์ม myMSC eBusiness แพลตฟอร์มดิจิทัลที่สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชม. จะช่วยให้ผู้ส่งออก-นำเข้าข้าวสามารถจอง ติดตาม และจัดการชิปเมนท์ได้ครบจบในที่เดียว

โซลูชันใบตราส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (eBL) เพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการยื่นเอกสาร ลดการใช้กระดาษและความล่าช้า ช่วยให้ธุรกรรมดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกับการขนส่งสินค้า

Partnering with Rice Logistics Experts Across Asia

ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งข้าวของ MSC จากประเทศไทย กัมพูชา เวียดนาม และฟิลิปปินส์ จะมารวมตัวกันในงาน SS Rice News Convention 2025 ซึ่งสะท้อนถึงฐานปฏิบัติการอันแข็งแกร่งของ MSC ในประเทศผู้ผลิตและผู้ค้าข้าวแห่งสำคัญในเอเชีย ด้วยการผสานความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน นอกจากนี้ ทีมงาน MSC ยังพร้อมร่วมเสวนาถึงแนวโน้มของตลาด กระแสการค้า และกลยุทธ์เพื่อยกระดับความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของซัพพลายเชนของข้าว

ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธ 31 ภายในศูนย์ประชุม Pattaya Exhibition And Convention Hall (PEACH) ระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายนนี้ เพื่อสำรวจโซลูชันและบริการขนส่งสินค้าที่ครอบคลุมของ MSC ที่จะสนับสนุนธุรกิจข้าวในตลาดโลก หรือสามารถติดต่อได้โดยตรงผ่านทาง [email protected]

ที่อยู่

888/119 Mahatun Plaza Building, 11th Floor
Bangkok
10330

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 18:00
อังคาร 09:00 - 18:00
พุธ 09:00 - 18:00
พฤหัสบดี 09:00 - 18:00
ศุกร์ 09:00 - 18:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ LM Thaiผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง LM Thai:

แชร์

LM | Logistics Manager


  • ค้นหาตำแหน่งงานโลจิสติกส์ที่เหมาะกับคุณ http://jobs.logistics-manager.com/

  • ติดต่อลงโฆษณา-ประกาศรับสมัครงานโลจิสติกส์ 02-026-3262

  • ติดตามข่าว บทความ และความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโลจิสติกส์ได้ที่ https://www.logistics-manager.com/th/