ความรู้

22/08/2025

🛵 ดิสก์เบรกมอเตอร์ไซค์ ทำไมต้องอยู่ที่ "ล้อหน้า"? 🤔
หลายคนอาจเคยสงสัย ทำไมมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ ถึงเลือกติด ดิสก์เบรกที่ล้อหน้า ก่อนเสมอ

จริง ๆ แล้วเวลาเบรก น้ำหนักรถกับแรงกด จะถ่ายไปที่ล้อหน้ามากที่สุด ✅
การมีดิสก์เบรกที่ล้อหน้าเลยช่วยให้หยุดรถได้สั้น ควบคุมง่าย และปลอดภัยขึ้น

แต่ก็มีคนบอกว่า… ถ้าเบรกหน้ามากไป อาจมีสิทธิ์ "หัวทิ่ม" ได้เหมือนกัน 😅

👉 แล้วคุณล่ะ คิดว่า ดิสก์เบรกควรอยู่ที่ล้อหน้า หรือล้อหลังสำคัญกว่ากัน?
แอดมิน เพจ ความรู้ ชวนมาคอมเมนต์แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันหน่อยครับ 👇

#เบรครถจักรยานยนต์ #ดิสเบรค #ความรู้

22/08/2025

🔥 เตาไฟฟ้า 🔥 ดีไหม... บ้านไหนใช้บ้างครับ แล้วดีหรือเปล่า..

ทำความร้อนไว ประหยัดพื้นที่ แถมยังทำความสะอาดง่ายเพียงเช็ดเบา ๆ ✨
ปลอดภัยด้วยระบบล็อกปุ่ม ปิดอัตโนมัติ และไม่มีเปลวไฟ ลดความเสี่ยงอันตรายได้เยอะ 👍

👉 แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ คิดว่า “เตาไฟฟ้าเซรามิค” เหมาะกับครัวบ้านเรามากแค่ไหน?

🔥 เลือกเตาอะไรดี? 🔥

✨ เตาไฟฟ้าเซรามิค

ใช้ได้กับหม้อกระทะแทบทุกชนิด 🍳

ความร้อนสม่ำเสมอ ทำอาหารได้ต่อเนื่อง

หน้าตาเรียบหรู ทำความสะอาดง่าย
⚠️ แต่หลังปิดแล้ว ผิวยังร้อนอยู่ ต้องระวัง

⚡ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (Induction)

ร้อนเร็วมาก ประหยัดไฟกว่า

ผิวไม่ร้อนเมื่อไม่มีภาชนะ วางมือก็ไม่ลวก 🙌

ปลอดภัยสูงสุด

⚠️ แต่เลือกใช้ได้เฉพาะหม้อ/กระทะที่มีแม่เหล็กเท่านั้น

👉 แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ ถ้าเลือกได้ จะเอาเตาไฟฟ้าเซรามิค หรือ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า มาเข้าครัวบ้านเรา?

โดย เพจ ความรู้

#เตาไฟฟ้า #เตาแม่เหล็กไฟฟ้า #เตาไฟฟ้าอเนกประสงค์

19/08/2025

ความรู้ : ไฟตัดหมอก ต้องเป็นไฟสีอะไร จึงจะถูกต้อง
💡 เหลือง หรือ 💡 ขาว 🤔

วันนี้ จะมาพูดถึงเรื่องของ ไฟตัดหมอกครับ รู้ไหมครับว่า ตามกฎหมายจราจรของไทยและมาตรฐานสากลทั่วไป ไฟตัดหมอก (Fog Lamp) ที่ถูกต้อง มีข้อกำหนดเรื่องสีดังนี้ครับ:

💡 ด้านหน้า (Front Fog Lamp) 👉 ต้องเป็น แสงสีขาว หรือ แสงสีเหลืองอำพัน เท่านั้น

💡 ด้านหลัง (Rear Fog Lamp) 👉 ต้องเป็น แสงสีแดง เพื่อให้รถคันหลังมองเห็นได้ชัดเจนในสภาพอากาศหมอกหรือฝนหนัก

❌ ไฟตัดหมอกหน้าห้ามใช้สีฟ้า ม่วง เขียว หรือสีอื่น ๆ ที่แปลกไป เพราะผิดกฎหมายและอาจรบกวนสายตาผู้ขับขี่คนอื่น

✅ สรุปง่าย ๆ

หน้า = ขาว / เหลืองอำพัน

หลัง = แดง

แต่ในทางปฏิบัติ หรือการใช้งาน ไฟตัดหมอกจริงๆ ส่วนตัว แอดฯ เองแล้ว ไฟสีเหลือง น่าจะเหมาะสมที่สุดครับ ซึ่ง คำว่า ไฟตัดหมอก ก็คือ ไฟที่สามารถ ส่องไปแล้ว ตัดแสง จากหมอก ที่มีสีขาว นั่นก็คือ ไฟสีเหลือง ทั้งนี้ เพื่อ ความปลอดภัยในการขับขี่ ที่ให้รถที่ขับขี่สวนทางมา ได้สังเกตุเห็นรถของเรานั่นเองครับ ส่วน หากเรา ใช้แสงไฟสีขาว มันก็ เท่ากับว่า แสง สีขาว กับ หมอกสีขาว อยู่ด้วยกัน มันก็ กลมกลืนกันไป จะไม่เห็น ความแตกต่างครับ

หรือ ท่านผู้ขับขี่ท่านใด มีข้อคิดเห็นืที่แตกต่าง สามารถ ออกความคิดเห็น และความรู้แนะนำเพิ่มเติมมาได้ครับ

โดย เพจ ความรู้

18/08/2025

การเช็กน้ำมันเบรก และการสังเกตว่าผ้าเบรกถึงเวลาเปลี่ยนหรือยัง สามารถทำเองได้ไม่ยากครับ 🚗🛠️

✅ วิธีเช็กน้ำมันเบรก

เปิดฝากระโปรงหน้า → มองหากระปุกน้ำมันเบรก (มักอยู่แถว ๆ ฝั่งคนขับ ด้านหลังห้องเครื่อง ใกล้พวงมาลัย)

ดูระดับน้ำมันเบรก → ที่กระปุกจะมีขีด MIN และ MAX ให้สังเกตว่าน้ำมันเบรกต้องอยู่ใกล้ MAX

ถ้าใกล้ MIN → อาจเกิดจาก ผ้าเบรกสึก หรือน้ำมันเบรกรั่ว

ดูสีของน้ำมันเบรก

สีใส–เหลืองอ่อน = ยังดี

สีคล้ำ–น้ำตาล–ดำ = ควรเปลี่ยน

แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเบรกทุก 2 ปี หรือ 40,000 กม. (ขึ้นกับคู่มือรถ)

✅ วิธีสังเกตว่าผ้าเบรกถึงเวลาเปลี่ยนหรือยัง

เสียงผิดปกติ → ได้ยินเสียงแหลม “เอี๊ยด ๆ” หรือเสียงโลหะเสียดสีกันตอนเบรก = ผ้าเบรกบางมาก

ระยะเบรกยาวขึ้น → ต้องกดเบรกแรงกว่าเดิม รถถึงจะหยุด

แรงสั่นที่แป้นเบรกหรือพวงมาลัย → อาจเกิดจากจานเบรกหรือผ้าเบรกสึกไม่สม่ำเสมอ

ตรวจด้วยสายตา → มองลอดล้อแม็ก/ก้านล้อ ถ้าเนื้อผ้าเบรกเหลือน้อยกว่า 3 มม. = ควรเปลี่ยนทันที

ไฟเตือนเบรกโชว์ (สำหรับรถบางรุ่น) → มีเซนเซอร์แจ้งเตือนเมื่อผ้าเบรกหมด

👉 สรุปสั้น ๆ:

น้ำมันเบรกต่ำ = เช็กผ้าเบรกก่อนเติม

น้ำมันเบรกดำคล้ำ = ควรเปลี่ยน

ผ้าเบรกบาง

17/08/2025

🚘 วิธีใช้ไฟตัดหมอกที่ถูกต้อง 🌫️
1️⃣ เปิดเฉพาะเวลามี "หมอกหนา" หรือ "ฝนตกหนัก" มองถนนไม่ชัด
2️⃣ ห้ามเปิดตอนถนนโล่ง ๆ หรือในเมือง เพราะแสงจ้าแยงตาคันอื่น
3️⃣ ปิดทันทีเมื่อสภาพอากาศกลับมาปกติ
4️⃣ ใช้คู่กับไฟต่ำ เพื่อช่วยให้มองพื้นถนนได้ชัดเจน
5️⃣ อย่าใช้แทนไฟหน้า หรือเปิดโชว์ เพราะอาจถูกรถคันอื่นด่าได้ 😅

👉 ใช้ถูกที่ถูกเวลา = ปลอดภัยทั้งเราและเพื่อนร่วมทาง

โดย เพจ ความรู้

17/08/2025

รีโมทไม่ทำงาน = โทษทีวี
ของเล่นไม่วิ่ง = โทษลูก
ที่แท้… ถ่านหมด! 🥲

หยุดเดาสุ่มได้แล้วพี่ๆ 🔋
เอาเครื่องเช็คถ่านไปเลย หนีบปุ๊บ รู้ปั๊บ ถ่านลูกไหนยังไฟแรง ถ่านลูกไหนหมดแรง

👉 บ้านไหนมีเด็ก บ้านไหนใช้รีโมทเยอะๆ ต้องมีนะ 👇

อย่าเลื่อนผ่านไปครับ 🔋 เคยมั้ย… ถ่านเต็มกล่อง แต่ไม่รู้ลูกไหนหมดไฟ ลูกไหนยังใช้ได้ ❓

จะทิ้งก็เสียดาย จะใช้ก็ไม่มั่นใจ 😅

เครื่องนี้เอาอยู่ 👉 “Battery Checker”
✅ เช็คถ่านไฟฉายได้ทุกขนาด AA / AAA / C / D / 9V / ถ่านกระดุม
✅ บอกระดับไฟ เหลือ-หมด แบบง่ายๆ แค่หนีบก็รู้เลย
✅ ประหยัดเงิน ไม่ต้องเสียเวลาซื้อถ่านใหม่ทั้งแผง

ของมันต้องมี! 🤩
คนใช้รีโมท ของเล่นเด็ก ไมค์ไร้สาย กล้อง ฯลฯ ขาดไม่ได้เลยนะ

#เช็คถ่านง่ายๆ #ไอเทมเด็ดที่บ้านต้องมี

โดย เพจ Maxtime รีวิวทุกเรื่อง

17/08/2025

🙌 สำหรับมือใหม่ที่ขับรถยนต์เกียร์ออโต้ การเข้าใจตำแหน่งเกียร์แต่ละตัวเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่แตกต่างกันไป 🚗💨

วันนี้ผมเองจึงอยากมาแนะนำ วิธีการเข้าเกียร์ตำแหน่งต่างๆ และการใช้งานอย่างถูกต้อง ของเกียร์อัตโนมัติ ในที่นี้จะพูดถึง รถที่มีตำแหน่งเกียร์
👉 P-R-N-D-S ✅

📌 ตำแหน่งเกียร์ออโต้และวิธีใช้งาน

1. P (Park) – เกียร์จอด

ใช้เมื่อ: จอดรถสนิทและดับเครื่อง

ล็อคเกียร์ไม่ให้รถเคลื่อนที่

✅ เทคนิค: ควรดึงเบรกมือก่อน แล้วค่อยเข้าเกียร์ P จะช่วยลดแรงกดบนเกียร์

---

2. R (Reverse) – เกียร์ถอยหลัง

ใช้เมื่อ: ต้องการถอยรถ

ต้องเหยียบเบรกก่อน แล้วค่อยเลื่อนเกียร์มาที่ R

⚠️ ห้ามเปลี่ยนจาก D → R ขณะรถยังวิ่งอยู่เด็ดขาด อาจทำให้เกียร์พัง

---

3. N (Neutral) – เกียร์ว่าง

ใช้เมื่อ: ต้องการหยุดชั่วคราว แต่ยังไม่อยากดับเครื่อง เช่น รอสัญญาณไฟแดง

ล้อสามารถหมุนอิสระได้ แต่รถอาจไหล ถ้าอยู่ทางลาด ต้องเหยียบเบรกหรือดึงเบรกมือช่วย

---

4. D (Drive) – เกียร์เดินหน้า

ใช้เมื่อ: ขับรถปกติทั่วไป

เกียร์จะปรับอัตโนมัติตามความเร็วที่วิ่ง

✅ เทคนิค: กดเบรกค้างไว้ก่อนใส่ D แล้วค่อยปล่อยเบรก รถจะเริ่มเคลื่อนเองช้า ๆ

---

5. S (Sport) – เกียร์สปอร์ต หรือบางคันเป็น (L = Low Gear)

ใช้เมื่อ: ต้องการเร่งแซง หรือขึ้นเขา-ลงเขา

เกียร์จะลากรอบสูงขึ้น ทำให้มีกำลังมากกว่าโหมด D

⚠️ ไม่ควรใช้ตลอดเวลา เพราะสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ

---

✅ เคล็ดลับสำหรับมือใหม่ 🚗

👉เหยียบเบรกทุกครั้งก่อนเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์
👉ใช้เกียร์ P เฉพาะตอนจอดสนิทและดับเครื่อง
👉อย่าเล่นเกียร์ไปมา เช่น D ↔ R ขณะรถยังเคลื่อนอยู่

จำให้ขึ้นใจ "เกียร์ออโต้ขับง่าย แต่ต้องใจเย็น"

เขียนโดย เพจ ความรู้
(ห้ามก็อบเนื้อหาและรูปภาพ)

#รถเกียร์ออโต้ #การขับรถเกียร์ออโต้ #ขับรถให้ปลอดภัย

16/08/2025

5 เทคนิค ขับรถเกียร์ออโต้ให้ประหยัดน้ำมัน

1. ค่อยๆ ออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง – ช่วงขณะเพิ่มความเร็วของรถยนต์ เป็นช่วงที่เครื่องยนต์จะกินน้ำมันมากที่สุด จึงควรเพิ่มความเร็วแบบไม่ต้องรีบร้อน ประคองคันเร่งให้เกียร์เปลี่ยนที่รอบเครื่องยนต์ประมาณ 2,000 – 2,500 รอบต่อนาทีไม่เกินนี้ จะช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองลงได้ แถมยังเป็นการถนอมเครื่องยนต์และเกียร์ไปในตัวอีกด้วย

2. รักษาความเร็วคงที่ – เมื่อได้ความเร็วที่ต้องการแล้ว ควรประคองคันเร่งให้นิ่งเพื่อรักษาความเร็วคงที่อย่างต่อเนื่อง หลีกเลี่ยงการเร่งแซงที่ไม่จำเป็น และลดการเหยียบเบรกให้น้อยลงบนพื้นฐานของความปลอดภัย จะช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมันได้ โดยความเร็วที่ประหยัดน้ำมันที่สุดจะอยู่ช่วงระหว่าง 90 – 110 กม./ชม.

3. ปรับอุณหภูมิแอร์สูงขึ้นเล็กน้อย – การปรับอุณหภูมิแอร์สูงขึ้นเพียงเล็กน้อยประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส จะช่วยลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ลง และเพิ่มอัตราการประหยัดน้ำมันได้

4. เข้าเกียร์ N ขณะหยุดติดไฟแดง – รถเกียร์ออโต้ควรเข้าเกียร์ว่าง หรือ N ขณะหยุดติดไฟแดงเกิน 10 วินาทีขึ้นไป จะช่วยลดโหลดของเครื่องยนต์ ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองลดลงไปด้วย แต่หากกังวลว่ารถจะไหลโดยไม่ตั้งใจควรใส่เบรกมือหรือเหยียบเบรกค้างไว้

5. เติมลมยางแข็งกว่าปกติเล็กน้อย – รถยนต์ทุกคันควรเติมแรงดันลมยางให้ได้ตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้เสมอ แต่หากต้องการความประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น ให้เติมลมยางเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3-5 PSI จากที่ผู้ผลิตระบุ จะช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างหน้ายางและพื้นถนน ทำให้รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น

#ขับรถเกียร์ออโต้ #เกียร์ออโต้ #การขับรถ

16/08/2025

ใครรู้จักสิ่งนี้... อายุไม่น้อยแล้วนะครับ ^^

16/08/2025

🚗 มือใหม่ขับเกียร์ออโต้ ต้องรู้! หน้าที่ของตำแหน่งเกียร์

สวัสดีครับ สำหรับความรู้วันนี้ ผมเอง แอดมิน เพข ความรู้ ขอนำเสนอ ตำแหน่งเกียร์ รถยนต์ ออโต้ แบบในภาพครับ หากใครผ่านมาเห็นเรื่องนี้ และขับรถที่มีตำแหน่งเกียร์แบบนี้อยู่ ก็ดีใจด้วยครับ คุณหลงมาถูกที่แล้ว ^^ 555+

ตำแหน่งเกียร์ ได้แก่

🔹 P (Parking)
จอดรถสนิท ใช้ตอนดับเครื่องหรือจอดบนที่ราบ ห้ามเข้า P ตอนรถยังเคลื่อนที่ เพราะจะทำให้เกียร์พังได้

🔹 R (Reverse)
ถอยหลัง ใช้ตอนรถหยุดนิ่งเท่านั้น ก่อนเข้า R ควรเหยียบเบรกให้มั่นใจเสมอ

🔹 N (Neutral)
เกียร์ว่าง เหมือนปลดการทำงานของเครื่องกับล้อ ใช้ตอนจอดติดไฟแดงไม่นาน หรือเข็นรถสั้น ๆ แต่ไม่เหมาะกับการปล่อยไหลลงเขา

🔹 D (Drive)
ขับเดินหน้า ใช้ในชีวิตประจำวัน เกียร์จะปรับให้อัตโนมัติตามความเร็ว

🔹 S (Sport Mode) หรือ +/-
ใช้ตอนต้องการแรงบิดมากขึ้น เช่น แซง หรือขึ้นเขา ผู้ขับสามารถปรับเปลี่ยนเกียร์เองแบบกึ่งออโต้ได้ ( + = เพิ่มเกียร์ , - = ลดเกียร์ )

✨ เทคนิคเล็ก ๆ สำหรับขับเกียร์ออโต้ให้ปลอดภัยทุกสภาวะ
✅ เหยียบเบรกก่อนสตาร์ทรถและก่อนเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ทุกครั้ง
✅ อย่าค้างเท้าไว้บนเบรกหรือคันเร่งโดยไม่จำเป็น
✅ เวลาเจอทางชัน ควรใช้เกียร์ S หรือต่ำกว่า D เพื่อช่วยประคองรถ ไม่ใช้เบรกอย่างเดียว
✅ ห้ามเข้าเกียร์ N ปล่อยไหลลงเขา อันตรายและเปลืองเบรก
✅ จอดรถบนทางลาด ควรดึงเบรกมือก่อนเข้าเกียร์ P เพื่อป้องกันแรงกดบนเกียร์

📌 มือใหม่เกียร์ออโต้ อ่านแล้วเข้าใจง่ายขึ้นไหม?
ถ้าเคยเจอเหตุการณ์งง ๆ เวลาขับรถ ลองแชร์โพสต์นี้ไว้เตือนเพื่อน ๆ กันครับ 😉

ด้วยความห่วงใย จากใจ แอดมิน เพจ ความรู้

#เกียร์ออโต้ #ขับรถเกียร์ออโต้ #การขับรถ

15/08/2025

5 สัญญาณไฟเตือนนี้โชว์บนหน้าปัด ควรรีบนำรถเข้าศูนย์ทันทีครับ

สวัสดีคับ วันนี้ เรามาพูดถึงเรื่องของสัญญาณไฟแจ้งเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ ซึ่งปกติ จะมีเยอะมากครับ แต่ วันนี้ ขอบอกว่า จะมี 5 ไฟเตือน เมื่อโชว์แล้ว ต้องรีบนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์บริการทันที ต้องบอกก่อนเลยว่า เรื่องนี้ เหมาะกับ คนขับรถที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องช่าง แบบว่า คนขุยรถทั่วไป ทั้งชาย และ หญิง ครับ

💡 5 สัญญาณไฟที่ว่า มีดังนี้นะครับ

1) ไฟรูปเครื่องยนต์ คือ เครื่องยนต์ของคุณกำลังมีปัญหา อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งหากปล่อยไว้อาจส่งผลเสียหายได้ ต้องรีบนำรถเข้าเช็คที่ศูนย์ทันที ต้องค่อยๆ ขับประคองรถ ไม่ควรขับด้วยความเร็วเหมือนปกติที่เคยขับ

2) สัญญาณเครื่องหมายตกใจที่แดงในวงกลม คือ เตือนระบบเบรค ได้แก่ ดึงเบรคมือค้างเอาไว้หรือไม่ ระดับน้ำมันเบรคในกระปุกน้ำมันเบรคต่ำเกินไป เนื่องจากผ้าเบรคหมด หรือ น้ำมันเบรครั่วครับ หรือ สุญญากาศในหม้อลมเบรคต่ำ ก็จะมีไฟ ABS ขึ้นโชว์ที่หน้าปัดด้วยเช่นกันครับ

3) ไฟรูปแบตเตอรี่ คือ แบตเตอรี่กำลัมีปัญหา ระบบชาร์จไฟมัปัญหา ต้องรีบจอดแล้วเรียกช่าง มาเช็กในส่วนของไดชาร์จก่อนเลยครับ

4) ไฟรูปกาน้ำมันเครื่องโชว์ คือ ระบบน้ำมันเครื่องมีปัญหา ห้ามขับต่อเด็ดขาด

5) ไฟรูปปรอท หรือ ไฟอุณหภูมิสีแดงโชว์ตลอด หรือ กระพริบ คือ ระบบระบายความร้อนกำลังมีปัญหา ต้องรีบจอด และดับเครื่องยนต์ทันทีครับ แล้วเปิดฝากระโปงตรวจสอบระบบระบายความร้อน และหม้อน้ำครับ แต่ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์ยังร้อนอยู่ ควรทิ้งไว้ให้เย็นตัวลงก่อน

✍ ปล. หวังว่า เรื่องนี้ จะมีประโยชน์ท่านผู้ใช้รถทุกๆ ท่าน ไม่มากก็น้อยนะครับ ยังไงแล้ว หากท่านใดมีประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องยนต์ การขับรถ สามารถมาแลกเปลี่ยนความรู้ ให้ข้อเสนอแนะกันได้นะครับ เพื่อสังคมแห่งการเรียนรู้ไปด้วยกันครับ

จากใจ แอดมิน เพจ ความรู้ 💋

#ไฟเตือนหน้าปัด #สัญญาณไฟเตือน #ดูแลรักษารถยนต์