Propholic Propholic aims to assist consumers with their decision making such as buying property and implementing suitable real estate marketing plan.
(225)

www.propholic.com is a real estate & business web publication
**ทุกกำลังใจมีความหมาย ร่วมสนับสนุนให้เราทำ Content ดีๆต่อไปได้ด้วยการสมัครสมาชิก หรือกดส่งดาวได้ในทุกคอมเมนท์ครับ** Propholic is a real estate & business web publication providing current trends analysis, real estate branding article and insight information to interested consumers as well as real estate marketers. Our contributors hav

e long experiences in the field of real estate and business branding. The readers will ensure that they have up to date data to make informed decision via variety of articles & real time news feed on topics ranging from real estate, investment, business branding to daily lifestyle and travel destination.

โอกาสของใคร? เมื่อ “ไฮโซเมียนมา” แห่ย้ายฐาน ไทยกลายเป็นบ้านหลังที่สอง Thailand: Myanmar’s second home"...หลังการรัฐประหา...
28/09/2025

โอกาสของใคร? เมื่อ “ไฮโซเมียนมา” แห่ย้ายฐาน ไทยกลายเป็นบ้านหลังที่สอง Thailand: Myanmar’s second home
"...หลังการรัฐประหารปี 2021 ประเทศเมียนมาเผชิญความไม่แน่นอนทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ค่าเงินจ๊าตผันผวน เงินเฟ้อพุ่ง และมาตรการควบคุมเงินตราที่เข้มงวดขึ้น ทำให้กลุ่มชนชั้นกลางและคนมีฐานะจำนวนมากในเมียนมาเริ่มมองหาที่พึ่งใหม่เพื่อความมั่นคงของครอบครัวและทรัพย์สิน ไทยกลายเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์ “Thailand is Myanmar’s second home” ทั้งด้วยระยะทางใกล้ ระบบกฎหมายที่มั่นคงกว่า โรงเรียนและโรงพยาบาลมาตรฐานสูง รวมถึงตลาดอสังหาที่เปิดให้นักลงทุนต่างชาติซื้อคอนโดได้
สถิติที่สะท้อนเทรนด์ใหม่
ขอพาไปดูตัวเลขภาพรวมของชาวเมียนมาทุกเซ็กเมนต์กันก่อน
ในปี 2024 มีชาวเมียนมาประมาณ 1.3 ล้านคนเข้าประเทศไทย โดยเฉลี่ย 27,000 รายต่อเดือน การเข้าเมืองระยะยาวเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปี 2023 โดยส่วนใหญ่เข้าผ่านเชียงราย ตาก ระนอง และกาญจนบุรี ประมาณ 44% ไม่มีเอกสาร และ 12% อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัย ส่วนใหญ่เข้ามาเพื่อโอกาสทางเศรษฐกิจการค้าหรือค่าครองชีพที่ดีกว่า โดยเฉพาะช่วงมีการบังคับเกณฑ์ทหาร การเข้าเมืองมาไทยเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าในเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2024 เทียบกับปีก่อนหน้า
ข้อมูล ณ วันที่ 1 มกราคม ปี 2025 คาดว่ามีชาวเมียนมาอาศัยอยู่ในไทยทั้งหมดประมาณ 4.1 ล้านคน โดย 2,270,382 คนเป็นแรงงานข้ามชาติที่ลงทะเบียนถูกกฎหมาย คิดเป็น 68% ของแรงงานต่างชาติทั้งหมด ส่วนใหญ่ (88%) ได้การขึ้นทะเบียนภายในประเทศ ตามมาตรการของคณะรัฐมนตรี และ 11% ลงทะเบียนผ่านข้อตกลง MOU มีผู้ถือใบอนุญาตทำงานชั่วคราวน้อยกว่า 1% ของทั้งหมด
จากการประเมินขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration หรือ IOM) เกี่ยวกับจำนวนชาวเมียนมาที่อาศัยอยู่ในไทย พบว่าปริมาณผู้ที่เข้ามาระหว่างปี 2012–2022 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีจุดสูงสุดในปี 2018 ขณะที่ 29% เข้ามาหลังการยึดอำนาจของกองทัพในปี 2021 และมีข้อสังเกตว่าในปี 2023–2024 จำนวนผู้เข้ามาไทยอาจถูกรายงานต่ำกว่าความเป็นจริง
ส่วนตัวเลขจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) และสำนักข่าวต่างประเทศยืนยันแนวโน้มการไหลเข้าของทุนเมียนมาอย่างชัดเจน
ปี 2021 คนเมียนมาโอนกรรมสิทธิ์คอนโดเพียง 30 หน่วย มูลค่า 274 ล้านบาท
ปี 2022 ตัวเลขพุ่งเป็น 349 หน่วย มูลค่า 2.55 พันล้านบาท
ปี 2023 เพิ่มขึ้นอีกเป็น 564 หน่วย มูลค่า 3.7 พันล้านบาท
ครึ่งแรกของปี 2024 มีการโอนแล้ว 638 หน่วย มูลค่า 3.24 พันล้านบาท มากกว่าทั้งปี 2023 ไปแล้ว
ในกรุงเทพฯ ช่วงไตรมาสแรกปี 2024 มีการโอนถึง 366 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
รายงานจาก Reuters ยังระบุว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 มูลค่าการซื้อคอนโดโดยชาวเมียนมาสูงถึง 5.46 พันล้านบาท ซึ่งทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ซื้ออสังหาต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของไทย รองเพียงจีน
คนเมียนมามองอสังหาไทยอย่างไร
สำหรับคนเมียนมา อสังหาไทยไม่ใช่เพียงการลงทุนเพื่อเก็งกำไร แต่คือ ทรัพย์สินปลอดภัย (safe haven asset) ที่ช่วยรักษามูลค่าทรัพย์สินและสร้างทางเลือกให้ครอบครัว หลายครอบครัวเลือกคอนโดใกล้โรงเรียนนานาชาติและโรงพยาบาลเอกชน ขณะที่นักธุรกิจบางกลุ่มใช้คอนโดเป็นฐานพักอาศัยกึ่งถาวรเพื่อเชื่อมต่อธุรกิจในภูมิภาค มุมมองนี้สะท้อนว่าอสังหาไทยมีคุณค่ามากกว่า “ที่อยู่” แต่เป็นการซื้อความมั่นใจในอนาคต
จากไฮโซสู่ชนชั้นกลาง
แม้ปรากฏการณ์นี้มักถูกอธิบายว่าเป็นการย้ายทุนของ “เมียนมาไฮโซ” แต่จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่ได้สำรวจตลาดคอนโดระดับ economy–middle (ราคาราว 1–4 ล้านบาท) ในกรุงเทพและเชียงใหม่ ก็เริ่มเห็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และผู้เช่าที่เป็นคนเมียนมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในย่านที่ใกล้มหาวิทยาลัยและแหล่งงานเมืองใหญ่ และมากกว่านั้นเราเริ่มเห็นคนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาสูงจากเมียนมาเข้ามาสมัครงานในประเทศไทยมากขึ้นด้วย ถ้าเป็นคนที่อยู่ในวงการทรัพยากรบุคคลจะมองเห็นเทรนด์นี้ได้ชัดเจน
นั่นหมายความว่า คลื่นใหม่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงกลุ่มมหาเศรษฐี แต่ยังรวมถึงชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อพอสมควร และพร้อมใช้ไทยเป็นจุดพักพิงชีวิตหรือสะพานสู่อนาคตของลูกหลาน
โอกาสของใครในวงการอสังหาไทย
1. โอกาสของผู้พัฒนาโครงการคอนโดระดับล่าง-กลาง-บน
คอนโดมิเนียมสามารถขายให้คนต่างชาติได้ ดังนั้นชาวเมียนมามีสิทธิ์ซื้อได้แน่นอน โครงการที่มีคุณภาพ ใกล้แหล่งเรียน แหล่งงาน ใกล้โรงพยาบาล และเดินทางสะดวก จะตอบโจทย์ทั้งครอบครัวชนชั้นกลางและคนมีฐานะได้ นักขายและนักการตลาดของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ควรทำการตลาดกับชาวเมียนมาด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสการขาย
2. โอกาสของตัวแทนขายและที่ปรึกษาด้านอสังหา
ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการบริการครบวงจรที่ไว้วางใจได้ ตั้งแต่กฎหมายการถือครอง การโอนเงิน ไปจนถึงการจัดการทรัพย์สิน การสร้าง “แพ็กเกจบริการ” จะทำให้งานขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น บางครั้งอาจต้องร่วมมือกับชาวเมียนมาเพื่อเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ ทลายกำแพงภาษาลง..."
**ทุกกำลังใจมีความหมาย ร่วมสนับสนุนให้เราทำ Content ดีๆต่อไปได้ ด้วยการสมัครสมาชิก หรือกดส่งดาวได้ในทุกคอมเมนท์ครับ**
อ่านบทความต่อทั้งหมดได้ที่นี่ https://shorturl.at/mNB34

SC asset ประกาศร่วมทุนกับ TOKYO TATEMONO ในโครงการ สุขุมวิท 20 ต่อเนื่องจาก Reference เอกมัย และ เกษตร ดิสทริค ปล.คาดว่า...
28/09/2025

SC asset ประกาศร่วมทุนกับ TOKYO TATEMONO ในโครงการ สุขุมวิท 20

ต่อเนื่องจาก Reference เอกมัย และ เกษตร ดิสทริค



ปล.คาดว่าราคาขายตัวสุขุมวิท 20 จะมากกว่าตารางเมตรละ 300k

The Hilltop Offices อาคารสำนักงาน 10 ชั้น 23,000 ตารางเมตร ด้านบนของ The Hapitat ( Forestias) ประเดิมได้ผู้เช่าบริษัทระด...
27/09/2025

The Hilltop Offices อาคารสำนักงาน 10 ชั้น 23,000 ตารางเมตร ด้านบนของ The Hapitat ( Forestias) ประเดิมได้ผู้เช่าบริษัทระดับโลกจากญี่ปุ่น พร้อมเปิดให้บริการต้นปีหน้า



อ่านเนื้อข่าวได้ที่ลิ๊งในเมนท์

รปภ.ตึกคอนโดมีสิทธิ์โบกรถบนถนนสาธารณะหรือไม่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุใครจะโดนฟ้องข้อหาอะไรบ้าง"...ในปัจจุบันเรามักพบเห็นภาพพฤติ...
26/09/2025

รปภ.ตึกคอนโดมีสิทธิ์โบกรถบนถนนสาธารณะหรือไม่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุใครจะโดนฟ้องข้อหาอะไรบ้าง
"...ในปัจจุบันเรามักพบเห็นภาพพฤติกรรมที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ห้าง เดินออกมา “โบกรถ โบกธงบนถนนสาธารณะ” เพื่อหยุดรถที่กำลังแล่นอยู่และเปิดทางให้รถจากภายในพื้นที่เอกชนเคลื่อนออกมา
ปรากฏการณ์นี้ดูเหมือนเป็นการบริการลูกบ้านและผู้ใช้อาคาร แต่ในความเป็นจริงกลับแฝงด้วยปัญหาหลายด้าน ทั้งความปลอดภัยของตัวรปภ.เองที่เสี่ยงจะถูกรถเฉี่ยวชน ตลอดจนการสร้างความสับสนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และท้ายที่สุดยังอาจกลายเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกด้วย
กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 28 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า การทำให้ปรากฏสัญญาณจราจรหรือเครื่องหมายจราจรบนทางสาธารณะเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานจราจรหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น บุคคลทั่วไปไม่มีสิทธิ์จะออกคำสั่งหรือทำท่าทางบังคับให้รถบนถนนหยุดหรือเคลื่อน เพราะนั่นถือเป็นการแสดงสัญญาณจราจรโดยมิชอบตามกฎหมาย อีกทั้งผู้กระทำยังอาจถูกลงโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามบทกำหนดโทษในมาตรา 158 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน
หากการกระทำนั้นก่อให้เกิดการกีดขวางหรืออันตรายแก่การจราจร ผู้กระทำอาจถูกพิจารณาดำเนินคดีในข้อหากีดขวางทางจราจร ซึ่งมีโทษปรับสูงขึ้นไปอีก
ที่สำคัญไม่เพียงแต่รปภ.ในฐานะบุคคลปฏิบัติหน้าที่เท่านั้นที่ต้องรับผิด หากการสั่งการให้รปภ.ออกไปทำหน้าที่ดังกล่าวเกิดจากนโยบายหรือคำสั่งของนิติบุคคลอาคารชุด บริษัทเจ้าของอาคาร หรือบริษัทที่ว่าจ้างรปภ. หน่วยงานเหล่านั้นอาจถูกมองว่ามีส่วนร่วมในการฝ่าฝืนกฎหมายจราจรด้วย และหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น เช่น รถชนรปภ.หรือรถชนกันเพราะการหยุดรถโดยไม่มีเหตุ เจ้าของอาคารหรือนิติบุคคลอาจถูกเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งในฐานะผู้ว่าจ้างซึ่งละเลยไม่จัดให้มีมาตรการที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ด้วยเหตุนี้ วิธีการที่เหมาะสมจึงไม่ใช่การส่งรปภ.ลงไปโบกรถบนถนนสาธารณะ แต่ควรดำเนินการภายในเขตพื้นที่เอกชนเท่านั้น เช่น การยืนโบกสัญญาณภายในทางออกโดยไม่ก้าวล้ำเข้าไปในผิวจราจร หรือจัดการปรับปรุงพื้นที่ทางเข้า-ออกให้มีความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น กระจกโค้งหรือสัญญาณไฟที่อยู่ในเขตเอกชน ไม่ใช่บนถนนสาธารณะ
หากจำเป็นที่จะต้องให้มีบริการโบกรถอำนวยความสะดวก นิติบุคคลหรือฝ่ายบริหารอาคารควรประสานกับตำรวจท้องที่เพื่อขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำอย่างถูกต้องตามขั้นตอน ในบางพื้นที่ตำรวจสามารถแต่งตั้งผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นผู้สนับสนุนงานจราจร (อาสาจราจร) ในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกระบวนการที่ตำรวจกำหนด
ไม่ใช่อาศัยรปภ.ทำหน้าที่แทนเจ้าพนักงาน เพราะนั่นไม่เพียงเสี่ยงต่อชีวิต แต่ยังเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีทั้งตัวบุคคลและนิติบุคคลอาคารที่อยู่เบื้องหลังอีกด้วย..."
อ่านต่อทั้งบทความได้ที่นี่ https://shorturl.at/pLXlZ

ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก เปิดฉากการก่อสร้าง พร้อมเปิด Sale Gallery อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคั...
26/09/2025

ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก เปิดฉากการก่อสร้าง พร้อมเปิด Sale Gallery อย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้
ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของวงการอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักชัวรีในเอเชีย โดยมีผู้บริหารระดับสูงร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเปิดงานก่อสร้างโครงการ นำโดย สเตฟาน บุชเชอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปอร์เช่ ไลฟ์สไตล์ กรุ๊ป, พร้อมด้วย ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ โครงการนี้มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2571 โดยเตรียมขึ้นแท่นเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งที่สามของปอร์เช่ ดีไซน์ ในระดับโลกและแห่งแรกในเอเชีย ตั้งอยู่ใจกลางย่านที่มีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ อย่างทองหล่อ ภายในโครงการนี้ยังมีไฮไลท์เป็นนวัตกรรมสุดล้ำอย่าง 'แพสชัน สเปซ' ที่เตรียมเปิดตัวให้โลกได้ยลโฉมเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวห้องตัวอย่างที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันในวันเดียวกันนี้
สามารถนัดหมายเข้าชมห้องตัวอย่างแบบไพรเวทหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปอร์เช่ ดีไซน์ ทาวเวอร์ แบงคอก ได้ที่ [email protected]

Dog Park สวนลุมพินี โดยหอการค้าญี่ปุ่น ก่อสร้างแล้วครับ  ผู้รับเหมายังญี่ปุ่นเลย อยู่ฝั่งสารสิน ติดกับที่จะทำสวนเชื่อมสะ...
25/09/2025

Dog Park สวนลุมพินี โดยหอการค้าญี่ปุ่น ก่อสร้างแล้วครับ



ผู้รับเหมายังญี่ปุ่นเลย

อยู่ฝั่งสารสิน ติดกับที่จะทำสวนเชื่อมสะพานเขียว ซึ่งด้านในจะมีทั้ง Dog Park , Dog Playground และ อาคาร Pavilion

** เพจไหนจะเอาภาพไปใช้ ใส่ชื่อผมนิดนึงนะครับ ผมไม่ใช่ชื่อ ”เจ้าของภาพ“ **

เอพี ไทยแลนด์ ย้ำจุดยืนแบรนด์ที่เข้าใจคุณภาพชีวิตจริง กับแนวคิด ‘ที่สุดของ LIVING QUALITY ในแบบคุณ’                     ...
25/09/2025

เอพี ไทยแลนด์ ย้ำจุดยืนแบรนด์ที่เข้าใจคุณภาพชีวิตจริง กับแนวคิด ‘ที่สุดของ LIVING QUALITY ในแบบคุณ’
นางสาวกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “ชีวิตดีๆ ที่เลือกเองได้” ถึงแม้ปีนี้จะต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้านก็ตาม แต่บริษัทฯ สามารถสร้างอัตราการเติบโตได้ในอันดับต้นของอุตสาหกรรม โดยสามารถสร้างยอดขายรวมสุทธิ (Net Presale) ได้มากกว่า 30,250 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนได้อย่างชัดเจนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์เอพี โดยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีกจำนวน 25 โครงการ มูลค่ารวม 32,400 ล้านบาท ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ที่มาพร้อมแนวคิด ‘ที่สุดของ Living Quality ในแบบคุณ’ เพราะคุณภาพชีวิตที่ดีเริ่มต้นจาก ‘ความเข้าใจชีวิต’
“จุดเริ่มต้นของคุณภาพในแบบของเอพี คือ ความเข้าใจ ซึ่งนอกจากการให้ความสำคัญในเรื่องงานออกแบบพื้นที่และการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน การเลือกใช้วัสดุคุณภาพที่แข็งแรงคงทน หรือการดูแลลูกค้าตลอด 24 ชม.แล้ว ความเข้าใจถึงคุณภาพชีวิตจริง (Living Quality) ที่เจาะลึกไปถึง Unspoken Needs – ความต้องการและความรู้สึกที่ไม่เคยสื่อออกมา เข้าใจทุกความต้องการที่หลากหลายที่ไม่ใช่แค่เรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน แต่คือการเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึก ความสบายใจ ความภูมิใจ ความรัก ความผูกพัน การได้เติบโต และการได้ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง เพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการเอพี มีคุณภาพชีวิตที่ดีในแบบของตัวเอง”
วันนี้ผู้คนไม่ได้มองหาที่อยู่อาศัยเพียงเพื่อฟังก์ชันการใช้งานหรือความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับคุณค่า (Value) และความจริงใจ (Authenticity) จากแบรนด์ที่สามารถสะท้อนความเข้าใจใน ‘ชีวิตจริง’ ได้อย่างแท้จริง ซึ่ง Living Quality อาจไม่ได้อยู่ที่การมีบ้านหลังใหญ่ แต่คือ ‘โมเมนต์เล็กๆ ที่ได้อยู่ด้วยกัน ภายในพื้นที่ที่เชื่อมต่อทุกความผูกพันของคำว่าครอบครัวให้เกิดขึ้น Connecting Space, Connecting Family หรือ จังหวะที่สามารถเรียกข้างบ้านว่า เพื่อนบ้านในทุกครั้งที่ออกวิ่งท่ามกลางพื้นที่สีเขียวแวดล้อม Better Facilities, Better Community หรือ ความรู้สึกของ We Time - Me Time ที่ตามหาท่ามกลางเมืองใหญ่’ ซึ่งทุกความเข้าใจที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาโครงการ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนมี ‘ที่สุดของ Living Quality ในแบบของตัวเอง’
สำหรับเอพี Living Quality ไม่ใช่แค่แนวคิด แต่คือการลงมือทำจริงในทุกขั้นตอนของการพัฒนาโครงการ โดยมี Unspoken Needs คือ What และ Empathy คือ How เมื่อผสานหลักการทั้งสองเข้าด้วยกัน ผ่าน Empathy Design ในการค้นหา Unspoken Needs ก็จะนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมพื้นที่ชีวิต ที่ตอบโจทย์ทั้งกายและใจ เพื่อให้ลูกค้าสามารถออกแบบ ‘คุณภาพชีวิตที่ดี’ ได้ในแบบของตัวเอง และนี่คือเหตุผลที่เอพีเชื่อมั่นว่า…ที่สุดของ Living Quality ในแบบคุณ สามารถเกิดขึ้นได้จริง
ทั้งนี้ เพื่อทำให้แนวคิด ‘ที่สุดของ Living Quality ในแบบคุณ’ เกิดขึ้นจริง ไม่ได้หยุดอยู่ที่คำสัญญา แต่สะท้อนผ่านโครงการที่จับต้องได้จริง กับ 25 โครงการใหม่จากเอพี
กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว จำนวน 8 โครงการ มูลค่ารวม 9,950 ล้านบาท กับแบบบ้านโมเดลใหม่ในทุกซับแบรนด์ THE CITY - CENTRO - MODEN และพร้อมเตรียมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ BEON ที่สุดของการออกแบบ Ultra Volume ที่เชื่อมต่อพื้นที่ทุกชั้นภายในบ้านให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างลงตัว พิเศษด้วยดีไซน์ชั้นลอย Vertiplex ที่เพิ่มมิติของพื้นที่ส่วนตัวให้มากกว่าที่เคย
กลุ่มธุรกิจบ้านแฝดและทาวน์โฮม จำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 9,850 ล้านบาท กับบ้านแฝดและทาวน์โฮมโมเดลใหม่ บ้านกลางเมือง THE EDITION - บ้านกลางเมือง - GRANDE PLENO - PLENO - PLENO TOWN เช่น Mirth Model ทาวน์โฮม 2.5 ชั้นที่มาพร้อมกับ Duplex Space พื้นที่พิเศษที่เพิ่มมากขึ้น หรือ CoLive Model ทาวน์โฮมแรกที่ลูกค้าสามารถปล่อยเช่าแยกชั้นได้ ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม Solo Living ที่ชอบใช้ชีวิตคนเดียว หรือ Asher Model บ้านแฝดหน้ากว้างสุด 16.4 เมตร
กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 10,300 ล้านบาท โครงการใหม่ที่มาพร้อมวิธีคิดในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางและสเปซภายในห้องชุดที่ทลายข้อจำกัดเดิมๆ ในการใช้ชีวิตแนวตั้ง เพื่อสร้างความรู้สึกใหม่ให้ทุกพื้นที่สะท้อนตัวตน และล่าสุดกับการเปิดขาย LIFE อุดมสุข-สเตชั่น กับยอดขายที่มากกว่า 60% สะท้อนได้ถึงความเชื่อมั่นที่กลับมาของผู้บริโภคกับการอยู่อาศัยในแนวสูง
กลุ่มธุรกิจต่างจังหวัด เตรียมเปิดโครงการใหม่ใน 2 จังหวัด มูลค่ารวม 2,300 ล้านบาท
อภิทาวน์ ราชบุรี และอภิทาวน์ ขอนแก่น 2 เข้าใจในทุกความต้องการส่งมอบมาตรฐานเหนือระดับ เพื่อการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด
#ที่สุดของLivingQualityในแบบคุณ
#ชีวิตดีๆที่เลือกเองได้ ิษัทอสังหาอันดับ1
#บ้านแฝดAP

ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่ คอนโดภายใต้แบรนด์ Premier ที่มีราคาดีที่สุดของศุภาลัย เฉลี่ยแค่ตรม.ละ 77,000 บ. เริ...
24/09/2025

ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่ คอนโดภายใต้แบรนด์ Premier ที่มีราคาดีที่สุดของศุภาลัย เฉลี่ยแค่ตรม.ละ 77,000 บ. เริ่ม 2.19 ลบ.
ขึ้นชื่อว่าเป็นคอนโดจากค่ายศุภาลัย แน่นอนว่าจุดดึงดูดที่สำคัญที่สุดคงไม่ใช่เรื่องของงานดีไซน์ที่ดูหวือหวาโฉบเฉี่ยวทันสมัย หรือทำเลที่ตั้งโครงการในแบบประชิดสถานีรถไฟฟ้า แต่เป็นในด้านของราคาขายที่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ กับเลย์เอาท์ห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าคอนโดในระดับเซกเมนท์ราคาเดียวกัน จนส่งผลให้ทุกแบรนด์ของศุภาลัย มี Top of Mind ในกลุ่มผู้ซื้อว่าเป็นคอนโดที่จับต้องเป็นเจ้าของได้ง่ายมากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาในอดีตหลายๆคนอาจมองว่าการทำ Cost Leadership ขนาดนี้จำเป็นต้อง trade off กับสเปคห้อง และทำเล แต่ในระยะ 7 - 8 ปีที่ผ่านมา ศุภาลัยได้ค่อยๆพิสูจน์ให้คนทั่วไปที่ยังคงมี Brand Perception ในแบบเดิมๆเห็นแล้วว่า สเปคของที่ได้คือดีกว่าคอนโดอื่นในราคาเดียวกัน ในขณะที่ทำเลก็ไม่ได้แย่แบบอยู่ในซอยลึกแต่อย่างใด...ด้วยกลยุทธ์การบริหารจัดการในแบบ Supalai's Post Modern Management ที่ได้ดร.ประทีป วางรากฐาน กำหนด Blueprint ไว้ โดยมีคุณไตรเตชะ มาสานต่อให้เป็นรูปธรรม จึงทำให้ศุภาลัยเดินหน้าพัฒนาโครงการเพื่อแข่งขันกันตัวเอง ในการที่จะ set standard ของราคาขายใหม่ ให้คุ้มค่ามากกว่าเดิมยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งเปิด ยิ่งทำราคาได้ถูกลง ในแบบที่หากคู่แข่งรอบข้างจะขายได้ก็คงต้องรอให้ทางศุภาลัยขายให้หมดก่อน เพราะในชั่วโมงนี้ความคุ้มค่าที่จับต้องได้กับราคาที่โดนใจคือ Purchasing Trigger ลำดับแรกของสินค้าในทุก Category ที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นการการันตีถึง Quick Win ในแบบที่ไม่ต้องยึดเยื้อ โดยเฉพาะบนทำเลปราบเซียนอย่างฝั่งธนฯ ช่วงตากสิน - วงเวียนใหญ่ - โพธิ์นิมิตร - ตลาดพลู ที่มียอดขายค่อนข้างช้า จนหลายดีเวลลอปเปอร์ถอดใจล้มพับโครงการไปหลายรายแล้ว
เอาเฉพาะสเปคห้องก่อนที่ ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่ เราจะได้ห้องที่มีขนาดกว้างขวาง ต่างจาก City Condo ในย่านฝั่งธนฯที่เน้นจับกลุ่มคนทำงานในย่าน CBD สาทร - สีลม แค่ห้องไซส์เล็กสุดของที่นี่ก็ถือว่าใหญ่กว่าห้องขนาดเริ่มต้นของคอนโดเพื่อนบ้านรอบข้างไปแล้ว สเปคต่างๆ ที่ให้มาก็ถือว่าพรีเมี่ยม แอร์แบบ Cassette Type 1 ทิศทาง พร้อม PM 1.0 Filter ที่ดูดี เสียงไม่ดัง ง่ายต่อการบำรุงรักษามากกว่าแอร์ฝังฝ้าซะอีก เครื่องทำน้ำร้อน และ Rain Shower ก็มีให้พร้อม สุขภัณฑ์แบบ Confort Clean ชุดครัวที่ดูสวยงามและฟังก์ชั่นใช้งานได้เยี่ยมมีระบบ Pull Down บนตู้ด้านบน สวิตซ์ไฟแบรนด์ ArtDna เพดานห้องที่สูงในระดับที่ให้ความรู้สบายกายและยังอยู่ในความสูงที่ดูแลรักษาด้วยตัวเองได้ง่ายที่ประมาณ 2.7 เมตร ทั้งหมดนี้ทำให้ห้องของ ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่ ดูมีความสวยหรูดูดีและ practical ใช้งานได้จริง บวกกับปัจจัยราคาที่ถือว่าถูกกว่าคู่แข่งแต่สเปคไม่เป็นรองใครเลย เริ่ม 61,500 บาทต่อตรม.เฉลี่ย 77,000 บาทต่อตรม. ใช้เงินแค่ไม่ถึง 7.5 ลบ.ก็เป็นเจ้าของห้อง 3 นอนขนาด 92 ตรม.ได้แล้ว ทำให้ตัดสินใจได้ว่าเลือกที่นี่ก็จะคุ้มค่าดีครับ ซึ่งเหตุผลแบบนี้นี่แหละที่ให้ศุภาลัยประสบความสำเร็จในการขายตลอดมา ทำของออกมาดี ใหญ่ ในราคาที่ถูกกว่า นอกจากนี้ยังนับว่าเป็นคอนโดภายใต้แบรนด์ Premier ที่มีราคาดีที่สุดของศุภาลัย (ขนาดแบรนด์พรีเมียร์ยังกดราคาลงมาได้ขนาดนี้ ไม่อยากคิดเลยว่าแบรนด์ระดับรองลงมาอย่าง Loft ที่กำลังจะจ่อคิวเปิดตามมาติดๆจะทำราคาออกมาได้สะเทือนตลาดขนาดไหน)
ในแง่ของทำเลตากสิน – วงเวียนใหญ่ ทำเลนี้เรียกได้ว่าเป็นทำเลดาวรุ่งแห่งแรกๆของฝั่งธนฯ เลยก็ว่าได้ เพราะจากการมาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายสีลมจากสถานีสะพานตากสิน ถึงสถานีวงเวียนใหญ่ตั้งแต่เมื่อปี 2552 ที่ส่งผลให้มีคอนโดใหม่มาเปิดมากมาย เนื่องจากเป็นย่านที่อยู่ใกล้สาทร – สีลม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระยะทาง หรือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า โดยในรอบหลายปีให้หลังย่านนี้แทบจะไม่มีโครงการใหม่เปิดตัวเลยด้วย 2 สาเหตุหลัก คือ ที่ดินหายากมากขึ้น รวมให้เป็นแปลงเดียวในการพัฒนายาก หรือหากทำได้ก็จะต้องขายในราคาต่อตรม.ที่ค่อนข้างสูง เกินกว่าตรม.แสน ซึ่งอาจจะไม่ตอบโจทย์กับกำลังซื้อส่วนใหญ่ในปัจจุบันเท่าไหร่นัก อีกทั้งดีเวลลอปเปอร์ส่วนใหญ่เลือกไปพัฒนาบนทำเลใกล้เคียงเพื่อทำให้ราคาขายถูกกว่าไม่ว่าจะเป็นตลาดพูล วุฒากาศ หรือจะเป็นทำเลตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอย่างย่านท่าพระ และเพชรเกษม แต่ยังไงทำเลนี้ก็ยังถือว่ามีแต้มต่อในด้านใกล้ทั้งแหล่งงานสาทร – สีลม และแหล่งไลฟ์สไตล์ที่สำคัญดึงดูดมากที่สุดของฝั่งธนฯ และเป็นที่รู้จักของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ อย่าง ICONSIAM
นอกจากนี้ย่านตากสิน - วงเวียนใหญ่ยังมีจุดเด่นอีกอย่างที่เป็นผลพลอยได้มาจากการพัฒนารถไฟฟ้าสายใหม่อีก 2 สายในอนาคต ก็คือสายสีม่วงใต้ ที่เชื่อมจากเตาปูน ถึงครุใน โดยมีจุดตัดการเปลี่ยนถ่ายของสายรถไฟฟ้าอยู่ที่สถานีวงเวียนใหญ่ และรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงวงเวียนใหญ่ – มหาชัย ที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างเดือน ม.ค. 2572 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี กำหนดแล้วเสร็จเดือน ธ.ค. 2575 และเปิดให้บริการเดือนม.ค. 2576 รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีทองที่เปิดให้บริการแล้ว ซึ่งเชื่อมจากสถานีกรุงธนบุรี ซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียง 1 สถานี และเชื่อมเข้าสู่ห้าง ICONSIAM และสามารถเปลี่ยนไปใช้บริการเรือข้ามฟาก เรือด่วนสำหรับท่องเที่ยว นั่งกินลมชมวิว หรือเปลี่ยนบรรยากาศสู่พื้นที่บางรัก เยาวราช และพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สำคัญๆได้อีกด้วย
โดยศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่ ประกอบด้วยห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 2 ยูนิต และห้องชุดเพื่อพักอาศัย 828 ยูนิต รูปแบบ 1 ถึง 4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 35–190 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้น 2.19-18 ล้านบาท ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่สมเด็จพระเจ้าตากสิน ใกล้ CBD สาทร–สีลม เพียงไม่กี่นาที และในความเป็นจริงก็คือเดินทางได้สะดวกไม่แพ้โครงการที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าบนเส้นสาทร - ตากสินเลยครับ ด้วยความใกล้ MRT สายสีม่วงใต้ สถานีรพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้าเพียง 300 เมตร และ BTS สถานีวงเวียนใหญ่ 900 เมตร ใกล้สถานี Interchange ของสายสีม่วงถึง 3 สาย ทั้งสีแดง สีน้ำเงิน และสีส้ม ใกล้ ICONSIAM และห่างจากสถานีกรุงธนบุรีที่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีทองเพียง 1 สถานีโดดเด่นด้วยอัตลักษณ์ที่แตกต่างกับสไตล์ Modern Classic พร้อมอัตลักษณ์สำคัญอย่าง ARCHWAY Design และสวนคลาสสิค ให้มุมมองใหม่ไม่เหมือนใคร ด้วยส่วนกลางวิวแม่น้ำเจ้าพระยาบนชั้น 38 และ Rooftop
โครงการผ่านการพิจารณาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นที่เรียบร้อย สะท้อนถึงความใส่ใจในคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในระยะยาว ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและบริบทของชุมชนโดยรอบ กำหนดเปิดตัว Pre-Sales วันที่ 18-19 ตุลาคม 2568 นี้ และสามารถชมห้องตัวอย่างได้แล้ว ณ สำนักงานขายโครงการ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน

The Temple View Advantage คอนโดวิววัด มูลค่าที่ซ่อนอยู่ของทำเลที่หลายคนมองข้ามเมื่อเอ่ยถึงการซื้อคอนโด หลายคนจะนึกถึงทำเ...
24/09/2025

The Temple View Advantage คอนโดวิววัด มูลค่าที่ซ่อนอยู่ของทำเลที่หลายคนมองข้าม
เมื่อเอ่ยถึงการซื้อคอนโด หลายคนจะนึกถึงทำเลทองใกล้รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งงาน หรือวิวที่หลายคนใฝ่หา เช่น วิวแม่น้ำ วิวสวนสาธารณะ หรือวิวเมืองที่เต็มไปด้วยไฟระยิบระยับ แต่มีอีกหนึ่ง “วิว” ที่คนไทยจำนวนไม่น้อยมักจะหลีกเลี่ยง ทั้งที่ในความเป็นจริงกลับเต็มไปด้วยศักยภาพทั้งเชิงการอยู่อาศัยและการลงทุน นั่นคือ “คอนโดวิววัด”
แม้บางคนจะมีความกังวลเรื่องความเชื่อหรือสิ่งแวดล้อมอยู่บ้าง แต่บางคนก็มองแตกต่าง หากมองลึกลงไปในเชิงข้อมูล วิววัดกลับเป็นหนึ่งในทำเลที่มีความมั่นคงทางมูลค่ามากที่สุดในระยะยาว และยังมีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่สามารถดึงดูดตลาดผู้ซื้อและผู้เช่าต่างชาติได้อีกด้วย
1. วิวโล่งตลอดกาล เพราะโอกาสถูกบังน้อยกว่าคอนโดติดที่ดินเชิงพาณิชย์
หนึ่งในปัญหาที่เจ้าของคอนโดในเมืองใหญ่เผชิญคือ “วิวโล่งที่เคยซื้อมา อาจไม่อยู่กับเราตลอดไป” หลายคนซื้อห้องเพราะชอบวิวโล่ง แต่ไม่นานก็มีตึกสูง high-rise มาบังทัศนียภาพจนห้องเสียมูลค่า อย่างไรก็ตาม หากคอนโดตั้งอยู่ติดที่ดินวัดหรือหันหน้าไปทางวัด โอกาสที่ตึกสูงจะขึ้นมาบดบังนั้นมีค่อนข้างต่ำ
งานวิจัยของ Chantana Boonjubun (2017) ที่ศึกษาเรื่อง “Monastic Landlordism” พบว่า วัดในประเทศไทยซึ่งถือครองที่ดินจำนวนมากมักไม่มุ่งพัฒนาเชิงพาณิชย์แบบ high-rise
งานวิจัยศึกษาว่า ในเมืองใหญ่ๆ ส่วนใหญ่แล้วที่ดินจะถูกซื้อขายและเปลี่ยนมือเพื่อทำกำไร จนทำให้คนจนหรือคนธรรมดาเข้าไม่ถึง แต่งานวิจัยนี้บอกว่ายังมีที่ดินอีกแบบหนึ่งที่ไม่เป็นแบบนั้น คือ “ที่ดินของวัด”
โดยที่ดินของวัดในประเทศไทยก็เหมือนพื้นที่ส่วนกลางในเมืองแบบหนึ่ง เพราะวัดไม่ได้ใช้ที่ดินเพื่อเก็งกำไรเหมือนเอกชนคนทั่วไป แต่ให้คนเช่าในราคาถูกๆ เพื่อใช้ทำมาหากิน หรือใช้เพื่อทำกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมชุมชน ดังนั้น วัดก็เหมือนเป็น “พื้นที่ส่วนกลาง” ที่ช่วยให้คนในเมืองที่อาจจะไม่มีที่ดินเป็นของตัวเองได้มีที่ทำกินหรือที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้ถ้าจะมองจากมุมการเงิน โครงการสร้างอาคารสูง high-rise มักมีภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูงและไม่สอดคล้องกับบทบาทขององค์กรศาสนาอย่างวัดพุทธ
นั่นหมายความว่า หากคุณซื้อคอนโดที่ติดกับวัด วิวที่เห็นวัดในวันนี้มีโอกาสสูงที่จะยังคงอยู่ในอีก 20–30 ปีข้างหน้า ต่างจากวิวติดที่ดินเอกชนที่อาจถูกเปลี่ยนมือและพัฒนาได้ตลอดเวลา
2. ราคาตลาดจริงของทำเลใกล้วัดไม่ได้ด้อยค่าอย่างที่คิด
หลายคนอาจคิดว่าทำเลใกล้วัดราคาต้องต่ำหรือราคาไม่เติบโต แต่ข้อมูลจริงจากเว็บไซต์ประกาศอสังหาริมทรัพย์กลับสะท้อนอีกภาพหนึ่ง ขอยกตัวอย่างคอนโดติดวัดอย่าง Rye Talat Phlu คอนโดที่ได้วิววัดแบบใกล้ชิดสุดๆ แบบชนิดที่ว่ารั้วติดกัน เปิดม่านคอนโดเจอวัดทั้งวัดเลย
ราคาแรกปี 2022 คือ 1.2 ล้านบาท ปัจจุบัน 2025 มีการซื้อขายคอนโดในรัศมีใกล้วัดแห่งนี้โดยมีราคาขายเริ่มต้นขั้นต่ำที่ 1.55 ล้านบาท ซึ่งถือว่าราคาเติบโตไม่น้อย ใน 3 ปี ราคาโตปีละ 100,000 บาท
มาดูอีกกรณี ที่คอนโดใกล้วัดไทรพระราม 3 นั่นคือ StarView Rama3 ถ้าดูราคาปัจจุบันของคอนโดมิเนียม Star View พระราม 3 พบว่าสูงกว่าราคาเมื่อตอนเปิดตัวอยู่พอสมควร ราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรประมาณ 63,100 บาทต่อตารางเมตรในปี 2012 และปัจจุบัน 2025 เฉลี่ยขายอยู่ที่ 134,210 บาทต่อตารางเมตร หมายความว่าในเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ราคาคอนโดวิววัดแห่งนี้มีการเติบโตประมาณ 112% เลยทีเดียว
จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า “ความใกล้วัด” ไม่ได้เป็นปัจจัยลบด้านราคา ราคาคอนโดก็ยังคงเติบโตขึ้น
อีกกรณีที่น่าสนใจติดตามดูราคาในอนาคตคือคอนโด Regent Home Bangna ซึ่งบางอาคารจะได้รับวิววัดบางนาในซึ่งเป็นพระอารามหลวง ราคาคอนโดเริ่มต้นที่ปล่อยขายครั้งแรกจากโครงการคือ 1.2 ล้านบาท ต้องรอติดตามดูว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าราคาคอนโดวิววัดแห่งนี้จะมีพัฒนาการเป็นอย่างไร
3. คอนโดวิววัด เสน่ห์เชิงวัฒนธรรม เพราะคนจีนมองว่าวิววัดคือเอกลักษณ์
สิ่งที่น่าสนใจคือทัศนคติของผู้ซื้อจากต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาลงทุนในตลาดคอนโดไทย งานวิจัยด้านการท่องเที่ยวเรื่อง Tourist Perceived Value, Tourist Satisfaction, and Life Satisfaction: Evidence From Chinese Buddhist Temple Tours รายงานว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ค่าทางวัฒนธรรมและสุนทรียะกับการเยี่ยมชมวัดสูงมาก และสิ่งนี้ส่งผลต่อความพึงพอใจในการท่องเที่ยวโดยรวม
ในสายตาคนจีน วัดไทยไม่ใช่สถานที่น่ากลัว แต่กลับเป็น “สัญลักษณ์ความงดงามทางจิตวิญญาณ” ดังนั้น คอนโดที่มองเห็นพระอุโบสถหรือเจดีย์ จึงอาจมีมูลค่าเชิงภาพลักษณ์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการปล่อยเช่าระยะสั้น ระยะยาวที่เจาะตลาดต่างชาติ
ความคิดเห็นนี้ผู้เขียนเคยได้ยินจากปากนักลงทุนจีนจาก Shanghai เขาบอกว่าชอบวิววัดเพราะสวยดี สงบ และถ้าวัดเปิดไฟตอนกลางคืนให้เห็นเจดีย์จะยิ่งชอบ มองตอนกลางคืนแล้วรู้สึกดี ซึ่งเป็นมุมมองที่น่าสนใจ เพราะตลาดคนต่างชาติกลับมองวิววัดเป็น “คุณค่าพิเศษ” ที่สร้างความแตกต่างจากคอนโดวิวทั่วไป
การโฆษณาคอนโดมิเนียมให้กลุ่มคนจีนบอกว่าห้องของเราเป็นคอนโดวิววัดจะสามารถสร้างมูลค่าทางใจต่อลูกค้าจีนเพิ่มขึ้นได้ด้วย
4. ประเด็นสิ่งแวดล้อม มาตรฐานเตาเผาศพในปัจจุบัน
หนึ่งในข้อกังวลที่คนไทยมักพูดถึงคือ “ถ้าวัดมีเมรุ ควันเผาศพจะกระทบสุขภาพหรือไม่” แต่ปัจจุบันปัญหานี้ถูกจัดการด้วยมาตรฐานสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นอย่างมาก
กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกประกาศควบคุม มาตรฐานค่าความทึบแสงของเขม่าควันจากเตาเผาศพ พ.ศ. 2565 รวมถึงแนวทางการปรับปรุงเตาเผาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หากมีการปล่อยควันเกินมาตรฐาน ประชาชนสามารถร้องเรียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและจัดการได้ทันที ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่จำเป็นต้องกังวลเหมือนในอดีต
5. วิววัดเป็นวิวสิริมงคลและเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกทางจิตวิญญาณ (Spiritual Facility)
นอกจากเหตุผลทางการลงทุนและสิ่งแวดล้อมแล้ว การอยู่อาศัยใกล้วัดยังมีมิติทางจิตใจที่ไม่ควรมองข้าม หลายคนมองว่าการมองเห็นพระธาตุหรือโบสถ์ทุกเช้าเปรียบเสมือนการ “เตือนสติ” และทำให้ชีวิตไม่หลงลืมความสงบภายใน นับเป็น “แฟซิลิตี้ทางจิตวิญญาณ” ที่คอนโดวิวอื่นไม่สามารถให้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น วัดส่วนใหญ่ยังมีพื้นที่สีเขียว ต้นไม้ใหญ่ ลานกว้าง หรือสระน้ำ ซึ่งช่วยให้อากาศรอบ ๆ คอนโดโปร่งโล่งและน่าอยู่มากขึ้น ต่างจากวิวที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าที่อาจทำให้รู้สึกอึดอัด เมื่อเวลาว่างก็สามารถไปเดินเล่นในวัดเพื่อผ่อนคลายได้อีก
6. ความจริงเรื่องเสียงจากกิจกรรมในวัดที่มาพร้อมกับวิววัด
อีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนกลัวคือเสียงดังจากงานวัด แต่ในความจริง งานวัดใหญ่ ๆ มักจัดเพียงปีละครั้งหรือสองครั้ง และในเขตเมืองใหญ่หลายวัดมีการจัดการงานอย่างมีมาตรฐาน เสียงจึงไม่ใช่ปัญหาระยะยาวสำหรับการอยู่อาศัย
ส่วนวัดพุทธที่มีกิจกรรมสวดพระอภิธรรมเป็นประจำ ก็มักจะสวดแบบมีห้วงเวลากำหนดชัดเจน ไม่เกิน 30 นาที ดังนั้นจึงอยู่ในวิสัยที่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันได้
หรือบางวัดที่มีการตีระฆังจนลูกบ้านคอนโดร้องเรียน หนทางแก้คือ เข้าใจวัฒนธรรมและโอบล้อมรับประเพณีนั้นเข้าไปในจิตใจ เปลี่ยนมุมมองจากเดิมที่เคยรำคาญเสียงระฆัง เปลี่ยนเป็นตีความว่าเสียงระฆังเสมือนระฆังเตือนสติให้ระลึกถึงสิ่งดีงามอยู่เสมอ
แต่ก็มีกรณีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงปรับตัวของสถานที่สำคัญทางศาสนาที่อยู่ร่วมกับชุมชนคอนโด เช่น มัสยิดบางแห่งตัดสินใจยกเลิกการใช้ลำโพงใหญ่ แต่ใช้เสียงตามสายเพื่อให้ได้ยินเสียงเฉพาะกลุ่ม
ดังนั้นวัดกับชุมชนคอนโดมิเนียมอาจอยู่ร่วมกันโดยการพัฒนาเทคโนโลยีการควบคุมเสียงที่เหมาะสมร่วมกันได้
7. มุมมองการลงทุน โอกาสในการสร้างมูลค่า
ข้อมูลเชิงสถิติจาก Times Property (2024) ระบุว่า พื้นที่รอบศาสนสถานในบางเมืองของอินเดียมีการเพิ่มขึ้นของราคาทรัพย์สินสูงถึง 25–30% ภายในรัศมี 10–15 กิโลเมตรในบางช่วงเวลา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า “ทำเลที่มีวัดสำคัญ” สามารถเป็นแม่เหล็กดึงดูดการเติบโตของมูลค่าที่อยู่อาศัยได้จริง
ที่ใดมีวัด ที่นั่นย่อมมีผู้คน และผู้คนเหล่านั้นคือชุมชนที่จะทำให้ย่านนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลดีกับการลงทุนอสังหา
“คอนโดวิววัด” ไม่ได้เป็นเพียงแค่ทำเลที่มีภาพลักษณ์เกี่ยวกับความเชื่อหรือข้อกังวลในอดีตเท่านั้น แต่ในเชิงข้อมูล มันคือทำเลที่มี ความมั่นคงของวิว โอกาสถูกบังน้อย มีเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดผู้ซื้อและผู้เช่าต่างชาติ และยังมีคุณค่าเชิงจิตวิญญาณที่ทำให้การอยู่อาศัยมีความหมายมากกว่าที่อยู่อาศัยทั่วไป ในแง่การลงทุน หากเราเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยหรือปล่อยเช่าในระยะยาว การมองหาห้องที่มี “วิววัด” อาจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่คุ้มค่าและให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่าที่คิด

สวยมากกก !!! CAFE AMAZON FLAGSHIP อารีย์ สุดยอดร้านกาแฟสแตนด์อโลน ติดสถานีอารีย์ 0 เมตร งานก่อสร้างโดยอดิศรรังสรรค์ คืบห...
24/09/2025

สวยมากกก !!! CAFE AMAZON FLAGSHIP อารีย์

สุดยอดร้านกาแฟสแตนด์อโลน ติดสถานีอารีย์ 0 เมตร



งานก่อสร้างโดยอดิศรรังสรรค์ คืบหน้าสุดๆๆละครับ

อยากชวนคุณมาแชร์ ไลฟ์สไตล์ มุมมองการเลือกซื้อบ้าน และแบรนด์อสังหาฯ ที่คุณชอบ✨ ร่วมตอบแบบสอบถามนี้ เพื่อช่วยสะท้อนเทรนด์ค...
23/09/2025

อยากชวนคุณมาแชร์ ไลฟ์สไตล์ มุมมองการเลือกซื้อบ้าน และแบรนด์อสังหาฯ ที่คุณชอบ

✨ ร่วมตอบแบบสอบถามนี้ เพื่อช่วยสะท้อนเทรนด์ความต้องการที่อยู่อาศัยของคนยุคใหม่ และลุ้นรับของรางวัลพิเศษจาก TerraBKK🎁

📲 คลิกตอบแบบสอบถาม >>> https://www.research.net/r/CV8FQT9
✨ มีสิทธิ์ลุ้นมากขึ้น! เพียงตอบแบบสอบถามจนครบถ้วน + แชร์โพสต์นี้แบบสาธารณะ

#แบบสอบถาม #แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ #แชร์มุมมองอสังหา #ลุ้นรับของรางวัล

ภาพชัดๆ PHYLL ขอนแก่น คอนโดใหม่จากเซ็นทรัลพัฒนา ข้างๆ CENTRAL ขอนแก่นแคมปัสเมื่อเสร็จจะสูง 111.5 เมตร 33 ชั้น 583 ยูนิต ...
23/09/2025

ภาพชัดๆ PHYLL ขอนแก่น คอนโดใหม่จากเซ็นทรัลพัฒนา ข้างๆ CENTRAL ขอนแก่นแคมปัส

เมื่อเสร็จจะสูง 111.5 เมตร



33 ชั้น 583 ยูนิต เริ่มต้น 21 ตารางเมตร

**ภาพชัดขึ้นจากคุณ เซปัค ตะกร้อ **

ที่อยู่

Bangkok
10110

เวลาทำการ

จันทร์ 10:00 - 17:00
อังคาร 10:00 - 17:00
พุธ 10:00 - 17:00
พฤหัสบดี 10:00 - 17:00
ศุกร์ 10:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+6622582896

เว็บไซต์

https://www.propholicshop.com/

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Propholicผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Propholic:

แชร์

Our Story

Propholic is a real estate & business web publication providing current trends analysis, real estate branding article and insight information to interested consumers as well as real estate marketers. Propholic aims to assist consumers with their decision making such as buying property and implementing suitable real estate marketing plan. Our contributors have long experiences in the field of real estate and business branding. The readers will ensure that they have up to date data to make informed decision via variety of articles & real time news feed on topics ranging from real estate, investment, business branding to daily lifestyle and travel destination.