WA-Japan รู้จริง เที่ยวจัง อัปเดตทุกเทรนด์ประเด็นร้อนในญี่ปุ่นกับพวกเรา WA-Japan

ติดต่องานได้ที่ [email protected]

อ่านเล่มเก่าebook ๆของเราได้ที่ https://www.celenavi.asia/backno.php
แอปเรียนภาษาและท่องเที่ยวญี่ปุ่น
สำหรับไอโฟน ดาวน์โหลดได้ที่ http://bit.ly/WAtranslation_IOS
สำหรับแอนดรอยด์ ดาวน์โหลดได้ที่ http://bit.ly/WAtranslation_Android

แนะนำตั๋วสุดคุ้ม เที่ยวเมืองเก่าใกล้โตเกียว【SEIBU KAWAGOE PASS (Digital)】ตั๋วดิจิทัลใช้ง่าย ซื้อออนไลน์ สแกน QR Code ในม...
23/08/2025

แนะนำตั๋วสุดคุ้ม เที่ยวเมืองเก่าใกล้โตเกียว
【SEIBU KAWAGOE PASS (Digital)】
ตั๋วดิจิทัลใช้ง่าย ซื้อออนไลน์ สแกน QR Code ในมือถือ จบ!

SEIBU KAWAGOE PASS เป็นตั๋วราคาพิเศษสำหรับคนต่างชาติ เหมาะกับคนที่อยากเที่ยว 1 Day Trip ใกล้โตเกียว โดยสามารถนั่งจากโตเกียวไป-กลับสถานี Hon-Kawagoe ซึ่งเป็นย่านเมืองเก่า Little Edo ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย นั่งรถไฟแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง

🌟SEIBU KAWAGOE PASS
- ราคา 700 เยน
- รวมไป-กลับ โตเกียว↔สถานี Hon-Kawagoe
- นั่งตรงไม่ต้องเปลี่ยนขบวน ได้จากย่านชินจูกุ (สถานี Seibu-Shinjuku / สถานี Takadanobaba)
- จากโตเกียวสามารถเลือกขึ้น-ลงได้ที่ 3 สถานี คือ Seibu-Shinjuku / สถานี Takadanobaba / สถานี Ikebukuro
(ตั๋วรถไฟปกติเที่ยวละ 520 เยน ไป-กลับก็ 1,040 เยน)

🌟สถานที่เที่ยวห้ามพลาดย่านเมืองเก่า Little Edo
📍เมืองเก่าคุระโนะมาจิ - เมืองเก่าบรรยากาศดี สถาปัตยกรรมเอกลักษณ์ ถ่ายรูปสวย ของกินเยอะ มีหอระฆังโทคิโนะคาเนะเป็น landmark
📍Kashiya Yokocho - ตรอกขนมหวาน ขนมโบราณเยอะมาก กลิ่นหอมหวานสุดๆ
📍Kawagoe Hikawa Shrine - ศาลเจ้าที่ทำให้สมหวังเรื่องความรัก เครื่องรางและโอมิคุจิน่ารัก
📍Taisho Roman Yume dori - ถนนตึกสไตล์ย้อนยุค เรโทร ถ่ายรูปชิคๆ
📍Kita-in Temple - วัดเก่าชื่อดัง ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ไฮไลท์ คือ "รูปปั้นพระอรหันต์ 500 องค์"

🌟ซื้อ SEIBU KAWAGOE PASS ได้ที่
- สถานี Seibu-Shinjuku / สถานี Takadanobaba / สถานี Ikebukuro
- ซื้อตั๋วแบบดิจิทัลได้ทาง Klook เท่านั้น (แนะนำอันนี้ ใช้ง่าย แค่สแกน QR Code)
ลิงก์นี้เลย เลือกแบบดิจิทัล https://shorturl.asia/XyTb4

ชิโอะปัง หรือ ขนมปังเกลือของญี่ปุ่น ตอนนี้บูมมากๆ ในไทย จนไปเป็นข่าวที่ญี่ปุ่นเลยว่า "อะไรที่ทำให้คนไทยชอบชิโอะปังขนาดนี...
22/08/2025

ชิโอะปัง หรือ ขนมปังเกลือของญี่ปุ่น ตอนนี้บูมมากๆ ในไทย จนไปเป็นข่าวที่ญี่ปุ่นเลยว่า "อะไรที่ทำให้คนไทยชอบชิโอะปังขนาดนี้?"
-------------------------------

🍞ในข่าวบอกว่า ร้านเบเกอรี่แทบทุกร้านในกรุงเทพล้วนขายชิโอะปัง ที่คนไทยชอบอาจจะเพราะเนื้อสัมผัสภายนอกกรอบ ข้างในนุ่มหนึบ เค็มหวานลงตัว

แถมประเทศไทยอากาศร้อนตลอดทั้งปี เกลือในชิโอะปังช่วยเติมเกลือแร่ที่สูญเสียไปกับเหงื่อ เป็นขนมปังที่เหมาะกับประเทศไทย

โดยจุดเริ่มต้นมาจาก มีอินฟลูเอนเซอร์แนะนำชิโอะปังจากร้านเบเกอรี่ชื่อดังของเกาหลี ทำให้เป็นกระแส และในช่วงต้นปีนี้ ร้านเบเกอรี่และคาเฟ่ในไทยก็เริ่มวางขาย

นักข่าวยังไปสัมภาษณ์เจ้าของร้าน Koji Bakery House ด้วย
เจ้าของร้านบอกว่า วางแผนจะเปิดร้านเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่นโดยใช้แป้งสาลีที่นำเข้าจากญี่ปุ่นอยู่แล้ว พอเห็นกระแสชิโอะปัง จึงตัดสินใจใช้ชิโอะปังเป็นสินค้าหลัก และสร้างสรรค์เมนูต่างๆ เช่น ไส้สลัดไข่ ไส้ทงคัตสึ ไส้เนยถั่วแดง ไส้เครมบรูเล่

และเจ้าของร้านบอกด้วยว่า ในอนาคตกระแสอาจจะซาลง แต่คิดว่าชิโอะปังจะกลายเป็นสินค้าหลักของร้านเบเกอรี่ต่างๆ เหมือนอย่างครัวซองต์
-------------------------------

🍞ข่าวนี้มีคนญี่ปุ่นคอมเมนต์ประหลาดใจกันมากมาย แต่ละความเห็นน่าสนใจมาก อยากให้ลองอ่านกัน

👤ขนมปังที่เรียบง่าย เนยกับเกลือ แต่กลับทำให้รู้สึกถึงความแปลกใหม่สินะ
ประหลาดใจที่ชิโอะปังบูมในไทย เพราะคนไทยชอบรสจัดจ้านชัดเจน
แต่พออ่านเนื้อหาข่าว ก็เข้าใจ มีการนำมาทำเป็นไส้ต่างๆ แล้วได้รับความนิยม และยังมีประโยชน์ในแง่ของการช่วยทดแทนเกลือแร่ที่ร่างกายสูญเสียไปจากอากาศร้อนด้วย

👤ไม่ใช่แค่กระแสชิโอะปัง แต่น่าจะเป็นกระแส "Japanese Style" ที่มาแรงอยู่เรื่อยๆ ตามเบเกอรี่ในกรุงเทพ มีขนมปังญี่ปุ่นหลากหลายชนิดวางขายอยู่เต็มไปหมด รวมถึงชีสเค้กสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากกว่าชีสเค้กแบบนิวยอร์ก
แต่ค่าครองชีพในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นมาก สินค้าทุกอย่างมีราคาแพงกว่าร้านเบเกอรี่แถวบ้านที่ญี่ปุ่นเสียอีก ตอนอยู่ไทยเลยกินแต่โรตี

👤วัฒนธรรมขนมปังของประเทศไทยพัฒนาช้ากว่าประเทศอย่างเวียดนามและลาวที่เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ตอนนี้อยู่ที่ลาว รสชาติขนมปังที่นี่อร่อยมาก
ขนมปังในไทยยังถูกมองเป็นเพียง "ขนม" หรือของหวาน และยังไม่ได้กลายเป็นวัฒนธรรมอาหารหลักอย่างเต็มตัว
"กระแสชิโอะปัง" ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นผลมาจากคนรุ่นใหม่ที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีหรือญี่ปุ่น แล้วได้สัมผัสกับ "รสชาติที่แท้จริง" จึงอยากทานในไทยด้วย
มีข้อสังเกตว่าในร้านเบเกอรี่ที่กรุงเทพฯ ชิโอะปังไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่กำลังกลายเป็นเมนูใหม่ที่เป็นที่นิยม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลดีต่อการพัฒนาตลาดขนมปังในไทย

👤คนไทยปกติจะชอบขนมปังรสหวานและเครื่องดื่มประเภทชาหวานๆ เลยตกใจที่ชิโอะปังฮิตในไทย

👤คิดว่ารสชาติของชิโอะปังที่อบเสร็จใหม่ๆ มีความคล้ายปาท่องโก๋อยู่นะ ซึ่งปาท่องโก๋เป็นอาหารเช้าของคนไทย พอคิดแบบนี้แล้วก็เข้าใจเลยว่าทำไมคนไทยถึงชอบชิโอะปัง

👤ประเทศที่อากาศร้อน เสียเหงื่อ สูญเสียเกลือแร่ ขนมปังแบบนี้ก็น่าจะเป็นที่ชื่นชอบนะ พอมีรสหวานด้วย ก็ยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก

👤เข้าใจเลยว่าทำไมคนไทยถึงติดใจชิโอะปัง การที่คนเราจะชื่นชอบรสชาติแบบนั้นได้เป็นเครื่องยืนยันว่าวัฒนธรรมอาหารของประเทศนั้นมีความหลากหลาย การที่คนในประเทศนั้นๆ ชอบชิโอะปังหรือไม่ ตัดสินได้เลยว่าประเทศนั้นมีวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลายหรือเปล่า ในเอเชียก็น่าจะมีไต้หวันด้วยอีกประเทศหนึ่งที่วัฒนธรรมอาหารหลากหลาย

👤คิดว่ารสเค็มของเกลือและกลิ่นหอมของเนยน่าจะถูกใจคนทั่วโลกนะ แต่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเรียบๆ อาจทำให้คนไม่ค่อยอยากลอง ถ้ามีการโปรโมทให้มากขึ้น เชื่อว่าชิโอะปังจะกลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก
ในทางกลับกัน อยากให้ ชาตรามือ ของไทยไปเปิดสาขาที่ญี่ปุ่นบ้าง ถ้าลดความหวานลงเล็กน้อยแล้ววางขายในร้านสะดวกซื้อได้ก็น่าจะดีมากเลย
-------------------------------

เหมือนว่า "ชิโอะปัง" อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนาวัฒนธรรมขนมปังในไทยเลยก็ได้นะ ได้เห็นร้านขนมปังอร่อยๆ เพิ่มขึ้นเยอะมาก และได้เห็นความสร้างสรรค์และฝีมือของคนไทยที่ไม่แพ้ร้านต่างชาติ

ทุกคนล่ะคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ชอบกินชิโอะปังเพราะอะไร ใครมีร้านไหนเด็ดๆ ป้ายยากันได้นะ
ที่มา https://news.yahoo.co.jp/articles/ce0b5efeb2589b2beb047438d3134db9bcc06a59

ฤดูดอกไม้มรณะ ใกล้เข้ามาแล้วดอกพลับพลึงสีแดงสวยงามนี้ชื่อว่า "ฮิกังบานะ" หรือ "มันจูชาเกะ" ที่แปลว่า ดอกไม้แห่งสวรรค์ บ้...
21/08/2025

ฤดูดอกไม้มรณะ ใกล้เข้ามาแล้ว

ดอกพลับพลึงสีแดงสวยงามนี้ชื่อว่า "ฮิกังบานะ" หรือ "มันจูชาเกะ" ที่แปลว่า ดอกไม้แห่งสวรรค์ บ้างก็เรียกว่า "ดอกไม้มรณะ" เพราะมีพิษ ถ้ากินเข้าไปจะเป็นอันตราย
⚠️หากไปชมก็ควรระวังกันด้วยนะ ไม่ไปสัมผัส ระวังไม่ให้เด็กเอาเข้าปาก

แนะนำสถานที่ชมดอกฮิกังบานะที่สวยและใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น คือ สวน Kinchakuda จ.ไซตามะ

มีดอกฮิกังบานะมากถึง 5 ล้านต้น เบ่งบานเป็นพรมสีแดงสด

🌿🍂ฮิกังบานะจะบานสะพรั่งช่วงปลายฤดูร้อนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง ประมาณกลางเดือน ก.ย. ถึงต้นเดือน ต.ค. เหมือนเป็นสัญลักษณ์เปลี่ยนสู่ฤดูใบไม้ร่วง นั่นเอง

สวน Kinchakuda จะมีการจัดงานเทศกาลดอกฮิกังบานะด้วย
วันที่ 19 ก.ย. - 5 ต.ค. 2025
ไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็เข้าชมได้ปกตินะ

สวนเปิดเวลา 8:00 - 17:00
ค่าเข้าชม 500 เยน
นั่งรถไฟ Seibu จากสถานี Ikebukuro ลงสถานี Koma เดิน 15 นาที
📍https://maps.app.goo.gl/6hoXJKXdWigfFNAm7

ที่มา https://www.enjoytokyo.jp/event/360314/

คนญี่ปุ่นคงจะเครียดหนักจริง บอกว่านี่คือ "การระบายความเครียด ทำเพราะสนุก"ชายญี่ปุ่นอายุ 30 แอบใช้อีเมลเพื่อนร่วมงาน แกล้...
20/08/2025

คนญี่ปุ่นคงจะเครียดหนักจริง บอกว่านี่คือ "การระบายความเครียด ทำเพราะสนุก"

ชายญี่ปุ่นอายุ 30 แอบใช้อีเมลเพื่อนร่วมงาน แกล้งสั่งสินค้าบนเว็บไซต์ช้อปปิ้ง 7,000 กว่าอย่าง เช่น เครื่องดื่ม 999 ลัง ตู้เย็น โทรทัศน์อีกจำนวนมาก แล้วสั่งของซ้ำๆ กันแบบรัวๆ รวมมูลค่ามากกว่า 26 ล้านเยน!

แต่โชคดีที่บริษัทเว็บไซต์ช้อปปิ้งไม่บ้าจี้ สังเกตเห็นการสั่งเยอะผิดปกติ เลยไม่ส่งสินค้าให้ (ถ้าส่งนี่เรื่องใหญ่เลย)

แล้วต่อมาชายที่ก่อเหตุก็ถูกบริษัทจับได้ ว่าเอาข้อมูลเพื่อนร่วมงานไปใช้ในทางที่ผิด

ถูกจับกุมแล้วเมื่อวานนี้ ในข้อหาปลอมแปลงและใช้ข้อมูลส่วนตัวโดยมิชอบ เขาสารภาพว่า "เวลาเห็นความวุ่นวายแล้วรู้สึกสนุกดี คลายเครียด ก็เลยทำแบบนี้"

สรุป ไม่ได้เห็นความวุ่นวายนะ เพราะเว็บช้อปปิ้งไม่ส่งของให้...
แต่ตอนนี้ถูกจับ น่าจะหายเครียดละ😅
ที่มา https://news.livedoor.com/article/detail/29401953/

ใครมีไอเดียมั้ยว่าจะเอาต้มหอมยักษ์นี้ไปทำอะไรดี🤔ในงาน Osaka Expo มีการจัดแสดงศิลปะต้นหอมยักษ์ขนาด 4 เมตรชิ้นนี้ ที่พาวิล...
19/08/2025

ใครมีไอเดียมั้ยว่าจะเอาต้มหอมยักษ์นี้ไปทำอะไรดี🤔

ในงาน Osaka Expo มีการจัดแสดงศิลปะต้นหอมยักษ์ขนาด 4 เมตรชิ้นนี้ ที่พาวิลเลียน "Yoshimoto waraii myraii-kan" พาวิลเลียนของบริษัทธุรกิจบันเทิงสร้างเสียงหัวเราะ เป็นชิ้นงานเพื่อกระตุ้นความสงสัยของคน ว่าทำไมต้นหอมยักษ์มาตั้งตรงนี้ กระตุ้นให้เกิดการตั้งคำถาม

ซึ่งเป็นชิ้นงานที่สร้างขึ้นมาเพื่อ Osaka Expo โดยเฉพาะ หลังจบงานก็จะมอบให้กับเจ้าของใหม่

ตอนนี้เลยกำลังประกาศรับสมัครคนที่จะรับชิ้นงานนี้ไปดูแลต่อ หรือไปทำประโยชน์ต่างๆ โดยผู้สมัครจะเสนอราคาเท่าไรก็ได้ หรือจะขอฟรี เหมือนเป็นของบริจาคก็ได้ แต่ต้องเสนอความคิดเกี่ยวกับชิ้นงานนี้และเสนอแผนว่าจะนำไปใช้อย่างไร แล้วทางบริษัทจะเลือกจากแผนที่น่าสนใจที่สุด
ที่มา https://www.oricon.co.jp/news/2401918/full/

ในปี 2050 ปริมาณการจับปลาในญี่ปุ่นอาจจะเท่ากับ 0❗️เพราะในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นจับปลาได้ลดลงเหลือแค่ 1 ใน 3【เกิดอะไ...
18/08/2025

ในปี 2050 ปริมาณการจับปลาในญี่ปุ่นอาจจะเท่ากับ 0❗️
เพราะในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นจับปลาได้ลดลงเหลือแค่ 1 ใน 3

【เกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมการประมงที่เคยเป็นอันดับ 1 ของโลก?】
ไม่น่าเชื่อเลย แต่ตอนนี้เรียกได้ว่าญี่ปุ่นกำลังเผชิญวิกฤตด้านการประมง ขณะที่ประเทศอื่นๆ มีการพัฒนาด้านประมง แต่ญี่ปุ่นกำลังถดถอย ตกอันดับลงเรื่อยๆ และปริมาณการจับปลาอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

จุดพีคสุดคือเมื่อปี 1984 เป็นยุคที่ญี่ปุ่นจับปลาได้เป็นอันดับ 1 ของโลก 12 ล้านตัน ส่วนปัจจุบันจับได้เพียง 3.6 ล้านตัน...

ประเทศญี่ปุ่น เกาะกลางทะเลที่ใครๆ ก็นึกถึงว่าเป็นแดนปลาดิบ แต่จริงๆ แล้วการประมงที่ทำกันมายาวนานอาจซุกซ่อนปัญหาอย่างไม่คาดคิด
-------------------------

จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญ ปัญหาหลักๆ เลยก็คือ การทำประมงเกินขนาด (Overfishing)

ซึ่งมีสาเหตุมาจากประเด็นเหล่านี้

● ขาดการจัดการทรัพยากรเพื่อความยั่งยืน
ญี่ปุ่นไม่เคยควบคุมปริมาณการจับปลาอย่างเข้มงวดเลย และยังขาดการจัดการ ในขณะที่ประเทศอื่นอย่างนอร์เวย์หรืออเมริกาเหนือ มีการควบคุมปริมาณการจับปลาให้น้อยกว่าทรัพยากรในธรรมชาติ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยกำหนดโควต้าอย่างชัดเจน เมื่อครบโควต้าแล้ว ก็จะหยุดจับปลา

● การผูกขาดสิทธิ
สิทธิในการใช้พื้นที่ทะเลสำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำนั้นเป็นของชาวประมงท้องถิ่นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ และก็สืบทอดต่อกันมา ทำให้บริษัทหรือผู้ประกอบการรายใหญ่ยากจะเข้าไปลงทุน หากเข้าไปก็จะสร้างความกังวลให้ชาวประมง ว่าจะถูกแย่งชิงสิทธิการทำประมงไป แต่การที่ชาวประมงท้องถิ่นทำประมงกันเอง ก็ทำให้ขาดเงินทุนและเทคโนโลยีที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตนั่นเอง

● ไม่กล้าขัดขวางชาวประมง
เนื่องจากอาชีพชาวประมงเป็นอาชีพสำคัญในญี่ปุ่นมายาวนาน เลยเรียกได้ว่ารัฐบาลก็เกรงใจชาวประมง ไม่กล้าไปขัดขวาง กลัวจะเกิดความขัดแย้ง อย่างเช่นการตั้งเพดานปริมาณการจับปลา รัฐบาลก็ตั้งเพดานไว้สูงเกินความจริง ทำให้ชาวประมงยังคงจับปลาได้ปริมาณเท่าเดิม ซึ่งเป็นปริมาณที่มากเกินกว่าที่ธรรมชาติจะฟื้นตัว
-------------------------

เป็นปัญหาที่ท้าทายมากสำหรับญี่ปุ่น ชาวประมงที่ทำอาชีพนี้มายาวนานก็ไม่อยากจะเสียรายได้ หรือต้องหันไปทำอย่างอื่น แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องคำนึงถึงความยั่งยืน ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งรัฐบาลก็อาจจะสามารถช่วยสนับสนุนชาวประมงเพื่อให้ทุกคนก้าวผ่านไปได้ด้วยกัน

หวังว่าหลังปี 2050 เราจะยังได้กินปลาอร่อยๆ ในแดนปลาดิบแห่งนี้
ที่มา https://news.livedoor.com/article/detail/29384766/

 #ข่าวด่วน เมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว เกิดไฟไหม้ที่ย่านโดทงโบริ จ.โอซาก้า ใกล้ๆ ตึกดองกี้ ใกล้ๆ ป้ายกูลิโกะ ตอนนี้เจ้า...
18/08/2025

#ข่าวด่วน เมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว เกิดไฟไหม้ที่ย่านโดทงโบริ จ.โอซาก้า ใกล้ๆ ตึกดองกี้ ใกล้ๆ ป้ายกูลิโกะ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว กำลังตรวจดูว่ามีใครติดอยู่ข้างในมั้ย

ล่าสุดได้รับบาดเจ็บ 1 ราย
สำลักควัน 2 ราย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

ดูเหมือนจะเกิดไฟไหม้จากร้านปิ้งย่าง แล้วลามไปร้านอิจิรันราเมง ไฟค่อนข้างแรงเลย ต้องใช้รถดับเพลิงประมาณ 30 คัน และเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ

ใครไปเที่ยวแถวนั้นระวังกันด้วยน้า ถนนแคบ ตอนนี้การสัญจรน่าจะติดขัด

 #คืนอาทิตย์จิตต้องแข็ง ที่ญี่ปุ่นตอนนี้กำลังมีการแข่งขันเบสบอลมัธยมปลายระดับประเทศที่เรียกว่า "โคชิเอ็ง" ฤดูร้อนประจำปี...
17/08/2025

#คืนอาทิตย์จิตต้องแข็ง
ที่ญี่ปุ่นตอนนี้กำลังมีการแข่งขันเบสบอลมัธยมปลายระดับประเทศที่เรียกว่า "โคชิเอ็ง" ฤดูร้อนประจำปี 2025 โคชิเอ็งเป็นการแข่งขันเบสบอลชิงแชมป์ระดับมัธยมปลายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเป็นความฝันของใครหลายคน

ซึ่งการแข่งฤดูร้อน แต่ละทีมต้องแข่ง 5-6 นัด เพื่อชิงแชมป์ แต่เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา โรงเรียนชื่อดังด้านเบสบอลอย่าง "โรงเรียนโคเรียว" จาก จ.ฮิโรชิม่า ได้ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันกลางคัน หลังจากแข่งไปได้เพียง 1 นัด (ชนะเข้ารอบ) และทำให้ทีมคู่แข่งในนัดต่อไป ได้ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติ

สาเหตุนั้นเกิดมาจากกระแสรุนแรงในโซเชียลมีเดียที่เปิดเผยว่า "มีการกลั่นแกล้งที่โหดร้าย" เกิดขึ้นในชมรมเบสบอลของโรงเรียนโคเรียว รุ่นน้องถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย ไปจนถึงการบังคับทางเพศ กระแสในโซเชียลมีเดียรุนแรงอย่างมาก รุ่นพี่ดังกล่าวถูกเปิดเผยใบหน้า ถูกด่าทอ และถึงขั้นมีคนข่มขู่ว่าจะวางระเบิดโรงเรียน

ในที่สุด โรงเรียนออกมายอมรับว่ามีการกลั่นแกล้งจริง และขอถอนตัวจากการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม กระแสในโซเชียลมีเดียที่บอกเล่าถึงการบังคับทางเพศ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจริงหรือไม่
----------------------------------
ขอเล่าถึงประวัติโรงเรียนโคเรียวคร่าวๆ โรงเรียนโคเรียวเป็นหนึ่งในโรงเรียนเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงด้านเบสบอลระดับมัธยมปลาย เป็นหนึ่งในทีมชั้นนำระดับประเทศ เข้าแข่งขันโคชิเอ็ง 53 ครั้ง (จาก 107 ครั้ง) เคยได้แชมป์ฤดูใบไม้ผลิ (Select Tournament) 3 ครั้ง แต่ยังไม่เคยคว้าแชมป์ฤดูร้อน (Championship Tournament) เคยเป็นรองแชมป์ 4 ครั้ง

ทั้งนี้ โรงเรียนโคเรียวได้สร้างนักเบสบอลระดับอาชีพที่มีชื่อเสียงมากมาย เรียกว่าเป็นหนึ่งในตัวเต็งก็ว่าได้

ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง ที่กระแสเรื่องการกลั่นแกล้งในโรงเรียนโคเรียว ลุกโชนและแพร่สะพัดจนเกินควบคุม ผู้คนโพสต์และแชร์ต่อๆ กันโดยอ้างว่า เป็นเรื่องราวที่ผู้เสียหายและเพื่อนๆ ผู้เสียหายได้ออกมาขอความช่วยเหลือ

แต่ตอนนี้มีการโพสต์จำนวนมหาศาลจนอยากจะหาได้ว่าใครคือต้นโพสต์ และเรื่องราวใดที่จริงบ้าง

เหตุการณ์หลักๆ คือ เมื่อเดือนมกราคม นักเรียนในชมรมเบสบอลโรงเรียนโคเรียว ซึ่งอาศัยอยู่ในหอพักชมรม ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย ทั้งถูกชกและเตะเข้าที่ใบหน้าและลำตัว ผู้เสียหายอยู่ชั้น ม.4 ถูกรุ่นพี่ ม.5 จำนวน 4 คน รุมทำร้าย โดยมีจุดเริ่มต้นจากการที่รุ่นน้องกินบะหมี่ถ้วยในหอพักซึ่งเป็น "สิ่งต้องห้าม"

นักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อต้องย้ายโรงเรียนเนื่องจากสภาพจิตใจย่ำแย่ ส่วนรุ่นพี่ถูกตักเตือนอย่างรุนแรงจากสมาคมเบสบอลนักเรียนญี่ปุ่น และเรื่องนี้ก็เงียบไป เพราะโรงเรียนพยายามไม่ให้เป็นข่าว

ต่อมา ในเดือนกรกฎาคม ครอบครัวของนักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อได้ยื่นเรื่องแจ้งตำรวจ

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนนำมาเปิดเผยในโซเชียลมีเดีย ก็เกิดกระแสอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมองว่า การลงโทษรุ่นพี่ดังกล่าวนั้น "เบาเกินไป" และโรงเรียน "ไม่รับผิดชอบ" ในสิ่งที่เกิดขึ้น

เรื่องราวในโซเชียลมีเดียขยายไปใหญ่โตว่า ในชมรมเบสบอลโรงเรียนโคเรียวยังมีการข่มขู่เอาเงินและการบังคับทางเพศจากรุ่นพี่ด้วย

ไม่ใช่แค่นักเรียนที่โดนโจมตี ยังมีกระแสว่า "โค้ช" ได้ขมขู่นักเรียนที่ตกเป็นเหยื่อ ไม่ให้พูดความจริง

จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าเรื่องใดจริงบ้าง...แต่ก็ทำให้ชาวเน็ตลุกเป็นไฟ เรียกร้องให้โรงเรียนโคเรียวถอนตัวจากการแข่งขันโคชิเอ็ง
----------------------------------

เมื่อการแข่งขันโคชิเอ็งเริ่มต้นขึ้น ทีมโรงเรียนโคเรียวยังคงเข้าร่วมแข่งนัดแรกในวันที่ 7 ส.ค. ท่ามกลางกระแสโจมตีอย่างหนัก

และเมื่อการแข่งขันจบด้วยชัยชนะของโรงเรียนโคเรียว ตามปกติไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร นักกีฬาก็จะเข้ามาจับมือกันในตอนท้าย แต่ทีมคู่แข่งบางคนกลับ "ไม่ยอมจับมือ" กับทีมโรงเรียนโคเรียว

และในวันที่ 10 ส.ค. โรงเรียนโคเรียวก็ประกาศขอถอนตัวจากการแข่งขันในที่สุด

ทางโรงเรียนได้ออกมาชี้แจงว่ามีการทำร้ายร่างกายจริง แต่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียก็มีส่วนที่ไม่เป็นความจริง และการกล่าวถึงนักเรียนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าพลังของโซเชียลมีเดียเรียกร้องความยุติธรรมได้ แต่ขณะเดียวกันก็กำลังทำให้ใครบางคนต้องเป็นเหยื่อของความอยุติธรรมด้วยเช่นกัน
------------------------------

แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ก็ทำให้ญี่ปุ่นได้ตระหนักถึงด้านมืดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังกีฬาเบสบอล กีฬาที่เรียกได้ว่าเป็นกีฬาประจำชาติญี่ปุ่น

เด็กๆ ที่เล่นเบสบอลมักมีความฝันที่จะไปถึงจุดสูงสุด ยอมทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนัก ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด และยอมเสียสละเพื่อส่วนรวม

ชมรมเบสบอลในโรงเรียนญี่ปุ่นจะมีระบบรุ่นพี่-รุ่นน้องเข้มงวด ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น รักษาไว้ซึ่งแบบแผนและระเบียบวินัยในการฝึก โดยจุดสำคัญคือการซ้อมแบบ "ระบบปิด"

โรงเรียนญี่ปุ่นหลายๆ โรงเรียนจะมีหอพักเฉพาะสำหรับชมรมเบสบอล เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกอย่างเต็มที่ นักเรียนในชมรมฝึกซ้อมกันยาวนาน ช่วงวันหยุดก็ต้องไปแข่งหรือเข้าค่ายฝึกซ้อมอีก ทำให้สังคมในชมรมคือสิ่งที่สำคัญ บวกกับความฝัน ทุกคนจึงให้ความร่วมมือ เห็นแก่ส่วนรวม ทำตามรุ่นพี่สั่ง ไม่อย่างนั้นก็ต้องโดดเดี่ยว แปลกแยกจากคนอื่น

เด็กในชมรมแทบไม่มีเวลาติดต่อคนภายนอก ทำให้ปัญหาต่างๆ ไม่เคยรั่วไหลออกไป และจัดการกันภายในชมรม

ซึ่งกลับกลายเป็นว่ายิ่งส่งเสริมอำนาจให้เหล่ารุ่นพี่ในการฝึกซ้อม รวมถึงการใช้อำนาจในทางที่ผิด โดยที่คนภายนอกไม่รู้

ขณะเดียวกัน หากเกิดปัญหา โรงเรียนเองก็มักจะพยายามปกปิด เพราะกลัวว่าจะทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนเสียหาย หรือกลัวว่าจะสูญเสียโอกาสในการเข้าร่วมแข่งขันโคชิเอ็ง
------------------------------

การกลั่นแกล้งของรุ่นพี่ในชมรมเบสบอล มีให้เห็นมาหลายต่อหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น

- ปี 2011: โรงเรียนในจังหวัดอาโอโมริ นักเรียน ม.4 ถูกรุ่นพี่ ม.5 ทำร้ายร่างกาย หลังจากแอบทำบาร์บีคิวในหอพักซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม นักเรียนที่ถูกทำร้าย เสียชีวิตในภายหลัง

- ปี 2013: โรงเรียนในจังหวัดโอซาก้า นักเรียน ม.4 ถูกรุ่นพี่ ม.5 จำนวน 3 คน ทำร้ายร่างกายด้วยการชกและเตะ จนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งรุ่นพี่ ม.5 บังคับให้รุ่นน้องล้อเลียนตัวเอง ก่อนจะใช้เป็นเหตุผลในการลงโทษ

- ปี 2014: โรงเรียนในจังหวัดเอฮิเมะ รุ่นพี่ ม.5 จำนวน 6 คน ทำร้ายรุ่นน้อง ม.4 จำนวน 19 คนเป็นประจำ โรงเรียนดังกล่าวถูกสมาคมเบสบอลนักเรียนญี่ปุ่นสั่งห้ามเข้าร่วมการแข่งขันเป็นเวลา 1 ปี

- ปี 2018: โรงเรียนในจังหวัดโคจิ รุ่นพี่ ม.5 จำนวน 3 คน ไม่พอใจพฤติกรรมการใช้ชีวิตของรุ่นน้อง ม.4 จำนวน 7 คน และได้ชกเข้าที่ใบหน้าและท้อง

ยังมีนักเรียนอีกมากมายที่ต้องทนการกลั่นแกล้งจากรุ่นพี่ เพื่อแลกกับความฝันบนเส้นทางของนักเบสบอล และรุ่นพี่ก็ยังคงส่งต่อสู่รุ่นน้อง รุ่นแล้วรุ่นเล่า…

จากสนามบินนาริตะ จะเดินทางเข้าโตเกียวยังไงดี?มีการเดินทางได้หลายวิธีทั้งรถไฟและรถบัส อยากเร็วหรืออยากประหยัดก็สามารถเลือ...
16/08/2025

จากสนามบินนาริตะ จะเดินทางเข้าโตเกียวยังไงดี?

มีการเดินทางได้หลายวิธีทั้งรถไฟและรถบัส อยากเร็วหรืออยากประหยัดก็สามารถเลือกได้เลย

ซึ่งการเข้าโตเกียวก็สามารถไปลงได้หลายสถานีมากๆ ขอยกเอามาเฉพาะสถานียอดฮิต คือ Ueno, Shinjuku, Tokyo

【🚄รถไฟ】

1. N'EX (Narita Express)
🌟เร็ว / นั่งสบาย / เหมาะกับไป Tokyo, Shibuya, Shinjuku ไม่ต้องเปลี่ยนสาย / ใช้ JR Pass ได้
● ใช้เวลา 50 นาที ถึงสถานี Tokyo / 90 นาที ถึงสถานี Shinjuku
● ราคาไป Tokyo 3,070 เยน / ไป Shibuya, Shinjuku 3,250 เยน
● มีตั๋วไป-กลับ 5,000 เยน (ใช้ภายใน 14 วัน)
● ใช้ JR East Pass และ JR Pass ได้
2. Keisei Skyliner
🌟เร็วที่สุด / นั่งสบาย / เหมาะกับไป Ueno
● ใช้เวลา 40 นาที ถึงสถานี Keisei Ueno
● ราคา 2,580 เยน
● มีตั๋วราคาพิเศษ Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket
3. Keisei Narita Sky Access Line
🌟ที่นั่งรถไฟปกติ / ราคาถูกกว่า
● ใช้เวลา 60 นาที ถึงสถานี Keisei Ueno
● ราคา 1,280 เยน
4. Keisei Main Line
🌟ที่นั่งรถไฟปกติ / ราคาถูกที่สุด
● ใช้เวลา 80 นาที ถึงสถานี Keisei Ueno
● ราคา 1,060 เยน

--------------------------------

【🚌รถบัส】
1. Airport Limousine Bus
🌟มีปลายทางให้เลือกเยอะ / เหมาะกับคนสัมภาระเยอะ
● ใช้เวลา 80 นาที ถึงสถานี Tokyo / 110 นาทีถึงสถานี Shinjuku
● ราคาไป Tokyo 3,100 เยน / ไป Shinjuku 3,600 เยน
2. Airport Bus TYO-NRT
🌟ราคาถูก *มีข้อจำกัดสัมภาระ 1 ใบ/คน จำกัดขนาดสัมภาระ
● ใช้เวลา 70-80 นาที ถึงสถานี Tokyo
● ราคา 1,500 เยน (ยกเว้นรอบดึก-เช้ามืด 3,000 เยน)

(ตั๋วรถบัสซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ที่สนามบิน)

--------------------------------

【สรุป】
ต้องการเร็ว >> Narita Express, Keisei Skyliner
ต้องการประหยัด ไม่มีปัญหาในการแบกสัมภาระ >> Keisei Narita Sky Access Line, Keisei Main Line
ต้องการความสะดวกสบาย สัมภาระเยอะ >> Airport Limousine Bus
ต้องการประหยัด สะดวกสบาย สัมภาระ 1 ใบ ไป Tokyo >> Airport Bus TYO-NRT

ทุกคนเลือกเดินทางด้วยวิธีไหนกัน?

เริ่ดมาก ปังมาก น่ารักมาก ตัวแทนประเทศไทยสู่ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ มะม่วงจัง มาม่า ช้าง รถไฟคิฮะ  และ...เงาะกระป๋องยี่ห้อพ...
15/08/2025

เริ่ดมาก ปังมาก น่ารักมาก ตัวแทนประเทศไทยสู่ประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ มะม่วงจัง มาม่า ช้าง รถไฟคิฮะ และ...เงาะกระป๋องยี่ห้อพีเจี้ยน😂

น่าจะเลือกจากสิ่งที่คนญี่ปุ่นอยากเห็นอยากลองเมื่อมาเที่ยวประเทศไทย หรือสิ่งที่ดังในหมู่คนญี่ปุ่น

ไม่แน่ใจความเป็นมาของกาชาปองนี้นะ แต่ในรูปภาพเขียนไว้ว่า "ได้รับการรับรองจากกระทรวงพาณิชย์ของรัฐบาลไทย" และเป็นกาชาปองที่ร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับ Kenelephant ซึ่งเป็นบริษัทผลิตกาชาปองในญี่ปุ่น

เห็นคนญี่ปุ่นคอมเมนต์กันว่าอยากได้ ดีใจ

ทุกคนคิดว่าน่าจะมีกาชาปองอะไรอีกที่สื่อถึงประเทศไทย

Harry Potter Shop Harajuku เปิดเมื่อวานวันแรก คนไปเยอะมากกก บางคนต้องรอคิวถึง 7 ชั่วโมง รอเป็น 1,000 คิว แต่อาจจะเป็นเพร...
15/08/2025

Harry Potter Shop Harajuku เปิดเมื่อวานวันแรก คนไปเยอะมากกก บางคนต้องรอคิวถึง 7 ชั่วโมง รอเป็น 1,000 คิว แต่อาจจะเป็นเพราะเพิ่งเปิดวันแรกคนเลยเยอะ แต่ก็มีบางคนไปช่วงดึกๆ บอกว่ารอแค่ 10 นาที ซึ่งถ้าเป็นช่วงมีคนเยอะจะใช้ระบบกดบัตรคิว

สำหรับ Harry Potter Shop มีที่ลอนดอน นิวยอร์ก ชิคาโก และที่ญี่ปุ่นมี 2 สาขา คือ อากาซากะ กับฮาราจูกุที่เพิ่งเปิดล่าสุดนี้ ซึ่งแต่ละร้านก็จะตกแต่งแตกต่างกันไป

งานเปิดตัวที่ฮาราจูกุได้เชิญทอม เฟลตัน (แสดงเป็นเดรโก มัลฟอย) มาด้วย มาถ่ายคลิปโปรโมต มาเปิดงาน และถ่ายภาพร่วมกับผู้โชคดี

🌳Harry Potter Shop Harajuku ตกแต่งในธีม "ป่าต้องห้าม" เต็มไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศลึกลับ มีนกฮูกบิน "บัคบีค" ยืนรอต้อนรับ มีสินค้าของแต่ละบ้าน เมื่อขึ้นไปชั้น 2 ก็จะผ่านบันไดเลื่อนที่อยู่ท่ามกลางป่ามืดมิด

🪄ส่วนชั้น 2 ตกแต่งธีม "ฮอกวอตส์" เป็นห้องโถงกำแพงหิน มีเครื่องประดับ เครื่องเขียน มี Wand Corner ให้เลือกไม้กายสิทธิ์ รวมถึง Butterbeer Bar มีเครื่องดื่ม อาหาร ขนม และยังมีโซนร้าน Honeydukes ด้วย สามารถถ่ายรูปเหมือนอยู่ในการ์ดช็อคโกแลตกบ

💫สินค้าและเมนูเอกซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะสาขาฮาราจูกุ
- Buckbeak Bun ซาลาเปารูปบัคบีค ไส้พิซซ่า 800 เยน
- Butterbeer Ice Cream 600 เยน
- เสื้อยืด เสื้อสเวตเตอร์ ลายฮาราจูกุ 2,200-8,000 เยน
- หมวกแก๊ป ลายฮาราจูกุ 3,200 เยน
- ตุ๊กตาหมีใส่เสื้อลายฮาราจูกุ 3,500 เยน
- กระบอกน้ำ/แก้วมัคลายฮาราจูกุ 2,000 เยน

📍Harry Potter Shop Harajuku
เปิด 11:00 - 21:00
จากสถานีฮาราจูกุ เดิน 4 นาที
https://maps.app.goo.gl/1RK652Jey5HsHZ4aA

เลวร้ายมาก แย่มาก ส่วนตัวเคยไปที่นี่ครั้งนึง จะมีคุณลุงจราจรคอยบอกให้นักท่องเที่ยวยืนบนฟุตบาท อย่าลงมาบนถนน แต่ก็ไม่มีใค...
14/08/2025

เลวร้ายมาก แย่มาก ส่วนตัวเคยไปที่นี่ครั้งนึง จะมีคุณลุงจราจรคอยบอกให้นักท่องเที่ยวยืนบนฟุตบาท อย่าลงมาบนถนน แต่ก็ไม่มีใครฟังเลย เหนื่อยแทนคุณลุง นั้นก็ว่าแย่แล้ว แต่นี่ต้องมาเจอการขับถ่ายกลางแจ้ง! ไม่ใช่แค่บริเวณสถานี แต่ขับถ่ายไปทั่วทั้งตามชายหาด หน้าโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ และพื้นที่รอบๆ

ขอเล่าย้อนไปก่อนหน้านี้ ว่านักท่องเที่ยวสร้างเรื่องไว้ขนาดไหน
● หลังจากภาพยนตร์ THE FIRST SLAM DUNK ฉายในประเทศต่างๆ ช่วงปี 2023 ก็ทำให้กระแสการ์ตูนสแลมดังก์กลับมาบูมอย่างมาก คนมาตามรอยฉากฮิตที่สถานี Kamakura Koko-mae จ.คานากาว่า ซึ่งจะมีรถไฟ Enoden แล่นผ่านฉากหลังที่เป็นทะเล

● นักท่องเที่ยวมากันเยอะมาก สร้างความเดือดร้อนให้คนในพื้นที่ เพราะจริงๆ สถานีนี้เป็นสถานีที่เล็กมาก ไม่ได้พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว ผู้ใช้หลักๆ คือนักเรียนโรงเรียนคามาคุระ ซึ่งก็ต้องมาเบียดกับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้การจราจรทางถนนก็เกิดปัญหา เพราะนักท่องเที่ยวเดินบนถนนตามอำเภอใจ

● ห้องน้ำในสถานีสกปรกและอุดตันอยู่ตลอด เพราะนักท่องเที่ยวทิ้งขยะลงในชักโครก และยังขับถ่ายเลอะเทอะไปถึงผนัง

● เจ้าหน้าที่สถานีพยายามแก้ไขและทำความสะอาด แต่สภาพก็เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายจึงตัดสินใจ "ปิดไม่ให้ใช้งานห้องน้ำสถานี"

● หลังจากห้องน้ำสถานีปิด นักท่องเที่ยวไปขอเข้าห้องน้ำที่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ ทางโรงพยาบาลก็ยินดีให้ใช้ แต่สิ่งที่พบคือ ห้องน้ำสกปรกมาก แถมยังมาเสียบปลั๊กชาร์จโทรศัพท์ มาใช้เป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าถ่ายรูป โดยโรงพยาบาลเล่าว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน สุดท้ายทางโรงพยาบาลจึงไม่ให้คนภายนอกมาใช้ห้องน้ำอีก แม้แต่คนญี่ปุ่น

● โรงพยาบาลไม่อนุญาต แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวแอบเข้าไป หรือไม่ก็ขับถ่ายไว้รอบๆ โรงพยาบาล! คือมีกองอุจจาระเป็นก้อนๆ อยู่กลางแจ้งรอบๆ โรงพยาบาลเลย

● แล้วพฤติกรรมขับถ่ายกลางแจ้งก็แพร่ไปทั่ว ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ยืนปัสสาวะ ถ่ายอุจจาระกันในที่สาธารณะอย่างเปิดเผย รอบๆ สถานี รวมถึงชายหาด และตามลานจอดรถต่างๆ
------------------------

ตอนนี้ทางเมืองคามาคุระก็เครียดมาก ว่าจะแก้ปัญหายังไงดี
ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ว่า อาจจะจัดหาห้องน้ำแบบเคลื่อนที่ รวมถึงพยายามการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวให้รู้มารยาทที่ถูกต้อง และอาจถึงขั้นเด็ดขาด คือการสร้างจุดถ่ายภาพโดยเฉพาะ และเก็บค่าธรรมเนียมถ่ายภาพ ห้องน้ำและจุดทิ้งขยะก็เก็บค่าธรรมเนียมให้หมด
ทุกคนล่ะ คิดว่าอย่างไร?
ที่มา https://friday.kodansha.co.jp/article/435298

ที่อยู่

Bangkok
10110

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ WA-Japanผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์

ประเภท

Our Story

ญี่ปุ่นไม่ได้มีแต่กิน-เที่ยว ส่องญี่ปุ่นแบบอินไซด์น่ารู้สไตล์เด็กเนิร์ด พ่วงด้วย Free copy!!

สมัครสมาชิกรับหนังสือฟรีๆไปเลยที่ http://bit.ly/wajapanmember

ใครอยากฝึกสปีคเจแปนนิส หรือไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วพูดไม่เป็น เราทำแอปมาให้แล้วจ้า

สำหรับไอโฟน ดาวน์โหลดได้ที่ http://bit.ly/WAtranslation_IOS สำหรับแอนดรอยด์ ดาวน์โหลดได้ที่ http://bit.ly/WAtranslation_Android