
06/08/2025
นาม “มนตรี ตราโมท” มักจะถูกจารึกไว้กับความเป็นบรมครูด้านดนตรีไทย แต่ในความเป็นจริงแล้วท่านได้เคยประพันธ์เพลงสากลไว้ไม่น้อย โดยจำนวนหนึ่งเกี่ยวพันกับอุดมการณ์คณะราษฎร ซึ่งถูกทำให้เลือนหายไปตามกาลเวลา
นาม “มนตรี ตราโมท” มักจะถูกจารึกไว้กับความเป็นบรมครูด้านดนตรีไทย แต่ในความเป็นจริงแล้วท่านได้เคยประพันธ์เพลงสากลไว้ไม่น้อย โดยจำนวนหนึ่งเกี่ยวพันกับอุดมการณ์คณะราษฎร ซึ่งถูกทำให้เลือนหายไปตามกาลเวลา
“ทั่วราษฎรไทย ได้สิทธิเสรี สำราญ สำเริง รื่นเริง เต็มที่ เพราะชาติเรามีเอกราชสมบูรณ์”
เป็นส่วนหนึ่งของบทเพลงวันชาติ 24 มิถุนา ที่ครูมนตรี ตราโมท ประพันธ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ.2482 แทรกบริบทที่ไทยได้รับเอกราชทางการศาลกลับคืนมาในสมัยรัฐบาลคณะราษฎร ภายหลังจากถูกอิทธิพลเรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตเข้าครอบงำจนมีผลให้ไทยต้องสูญเสียเอกราชทางการศาล ตั้งแต่ พ.ศ.2398 ถึง 2481 นับเป็นเวลาร่วม 83 ปี
ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้า ครูมนตรี ได้แต่งเพลงนี้เข้าประกวดเป็นเพลง “วันรัฐธรรมนูญ” ได้รับรางวัลที่ 1 ของสโมสรคณะราษฎร์ เมื่อครั้งมีการจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญขึ้นใน พ.ศ.2479
ท่านได้อธิบายแนวคิดว่า วันชาติของไทย เป็น “ปฐมฤกษ์ของรัฐธรรมนูญไทยอีกด้วย” โดยแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งของเนื้อหาเพลงในท่อนนี้ยังประสานไปกับทำนองเพลง “ปฐม” เพลงไทยเดิมซึ่งเป็นต้นแบบของทำนองเพลงวันชาติ ในที่สุด
ครั้นต่อมาในยุคสมัยที่ละครอิงประวัติศาสตร์ของหลวงวิจิตรวาทการกำลังเติบโต ครูมนตรี ตราโมท ยังเป็นกำลังสำคัญในการประพันธ์ทำนองประกอบเพลงร้องละครอิงประวัติศาสตร์จำนวนมาก โดยมีหลวงวิจิตรวาทการ เป็นผู้ประพันธ์เนื้อเพลงขึ้นมาประกอบอีกส่วนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น เพลง “อานุภาพแห่งความเสียสละ” ซึ่งมีเนื้อหาพูดถึงความเสียสละของชาวไทย และยังกล่าวถึงบรรพกษัตริย์ไทยนับตั้งแต่ขุนบรมจวบจนถึงพ่อขุนรามคำแหง
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2538 ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายมนตรี ตราโมท ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงดนตรีไทย วัย 95 ปี ได้ถึงแก่กรรมแล้วที่โรงพยาบาลนนทเวช จ.นนทบุรี หลังจากล้มป่วยและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนนทเวชมาตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยกำหนดการพระราชทานน้ำอาบศพแก่นายมนตรี ณ ศาลากลางน้ำ วัดเทพศิรินทราวาสในวันที่ 7 สิงหาคม เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป
ด้านประวัติของนายมนตรี ตราโมท ท่านเป็นชาวสุพรรณบุรีโดยกำเนิด เมื่อเติบใหญ่ได้เข้ารับราชการในกรมมหรสพตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 และได้ตามเสด็จแปรพระราชฐานหลายครั้ง ครั้นต่อมาได้เข้ารับราชการในสังกัดกรมศิลปากร เป็นที่เคารพนับถือของนักดนตรีไทย ได้รับการยกย่องว่าเป็นเอกอุที่มีความรู้ความสามารถในทางดนตรีเป็นเจนจัด ด้วยได้รับเชิญเป็นครูใหญ่ในพิธีไหว้ครูทั้งงานหลวงและราษฎร์ และยังเป็นครูสอนวิชาการดนตรีไทยในสถาบันอุดมศึกษาอีกหลายต่อหลายแห่ง
ความสามารถของครูมนตรี ตราโมท เป็นที่ประจักษ์ชัดผ่านผลงาน เพราะท่านเป็นนักแต่งเพลงไทยที่มีผลงานเพลงเป็นจำนวนมาก นอกเหนือไปจากการประพันธ์เพลงในยุคสมัยคณะราษฎรดังที่กล่าวข้างต้น ท่านยังมีส่วนในการประพันธ์เพลงไทยเดิมอีกหลายต่อหลาย จำพวกเพลง “ระบำรำฟ้อน” ท่านได้ประพันธ์ไว้เป็นจำนวนมาก จนได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งประเภทนี้ เพราะได้แต่งไว้เป็นจำนวนมากเกินกว่าผู้ใดทั้งสิ้นในวงการดนตรีไทย ทั้งยังมีเพลงระบำโบราณคดีชุดต่างๆ ระบำประกอบการแสดงโขน จนท่านได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ดนตรีไทยเป็นคนแรกและรุ่นแรก
ทั้งนี้ ครูมนตรี ตราโมทเอง ยังคงมีโอกาสถวายการสอนดนตรีและคำแนะนำให้แก่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขณะดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีมาระยะเวลาอันยาวนาน ทั้งยังเคยร่วมแต่งเพลงกับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ด้วย การสูญเสียครูมนตรี ตราโมทไปในวันที่ 6 สิงหาคม 2538 นอกจากจะเป็นการสูญเสียผู้ประพันธ์เพลงวันชาติ “24 มิถุนา” จึงเป็นการสูญเสียอัจฉริยบุคคลผู้มีคุณุปการต่อวงการดนตรีไทยไปอีกคนหนึ่ง
กระนั้น ชีวิตที่โลดแล่นของท่านจากการเป็นนักดนตรีในสังกัดกรมมหรสพครั้งสมบูรณาสิทธิราชย์ การประพันธ์เพลงสมัยคณะราษฎรและประพันธ์ทำนองเพลงร่วมกับการประพันธ์เนื้อร้องของหลวงวิจิตรวาทการ จวบจนถึงการเป็นอาจารย์ทางดนตรีของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังคงเป็นที่จดจำของผู้ใฝ่รู้หรือสนใจทางดนตรีไทยอยู่เสมอ