Thai PBS Sci & Tech

Thai PBS Sci & Tech "รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก"
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียล

ThaiPBS Sci & Tech (ไซน์ แอนด์ เทค) รายงานความเคลื่อนไหว ทางแวดวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ผู้คนในปัจจุบันไม่อาจปฏิเสธวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ออกจากชีวิตประจำวัน เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตทุกด้าน ทั้งทางตรงและทางอ้อมนั้น การติดตามข้อมูลข่าวสารในแวดวง จึงนับว่าจำเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้

ที่พักพิมพ์ 3 มิติ กลางทะเลทราย ทนสภาพสุดขั้ว รองรับอาสาสมัครฟื้นฟูพื้นที่แห้งแล้งนักวิจัยสร้างที่พักชั่วคราวในทะเลทราย ...
31/10/2025

ที่พักพิมพ์ 3 มิติ กลางทะเลทราย ทนสภาพสุดขั้ว รองรับอาสาสมัครฟื้นฟูพื้นที่แห้งแล้ง
นักวิจัยสร้างที่พักชั่วคราวในทะเลทราย สำหรับอาสาสมัครที่ทำงานในพื้นที่ โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งสามารถทนต่อสภาพอากาศสุดขั้วได้
📌 อ่านบทความเต็มทางเว็บไซต์ : https://thaip.bs/q9Ubiew
นักวิจัยใช้เทคโนโลยีพิมพ์ 3 มิติมาใช้สร้างที่พักขนาดประมาณ 150 ตารางเมตร เพื่อรองรับอาสาสมัครที่ทำงานฟื้นฟูผืนดินและปลูกป่ากันทะเลทราย โครงสร้างนี้ผลิตจากคอนกรีตผสมวัสดุในพื้นที่ มีคุณสมบัติทนลมแรงและแดดจัด พร้อมระบบพลังงานอิสระ เหมาะสำหรับการพักอาศัยชั่วคราวในสภาพแวดล้อมสุดขั้วของทะเลทรายในมองโกเลีย ซึ่งมีอุณหภูมิตั้งแต่ –30 ถึง 45 องศาเซลเซียส
เทคโนโลยีดังกล่าวได้รับการพัฒนาโดยทีมนักออกแบบและสถาปนิกจากประเทศจีน เพื่อใช้งานสภาพภูมิอากาศสุดขั้วในทะเลทรายมองโกเลีย พื้นที่ที่ประสบปัญหาการขยายตัวของทะเลทรายและการสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน โครงสร้างที่พักขนาด 150 ตารางเมตรนี้ถูกพิมพ์ขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน โดยใช้เครื่องพิมพ์คอนกรีต 3 มิติขนาดใหญ่ที่สามารถขึ้นรูปชิ้นส่วนได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยลดเวลาและทรัพยากรในการก่อสร้างได้มากกว่าวิธีเดิมถึงครึ่งหนึ่ง
ผนังของที่พักถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นชั้นโค้งและผิวหยัก เพื่อกระจายแรงลมและลดการพัดพาเม็ดทรายเข้าสู่ตัวอาคาร ขณะเดียวกันยังช่วยเก็บความร้อนได้ดีในฤดูหนาว และระบายอากาศในฤดูร้อนโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ ระบบโครงสร้างแบบนี้อาศัยวัสดุในพื้นที่ เช่น ทรายและหินบดผสมกับซีเมนต์ ทำให้ลดการขนส่งวัสดุจากภายนอก และลดการปล่อยคาร์บอนจากกระบวนการผลิตวัสดุก่อสร้างได้
นอกจากการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติแล้ว ที่พักยังติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์และระบบระบายความร้อนแบบธรรมชาติ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาโครงข่ายพลังงานภายนอก เหมาะสำหรับการพักอาศัยชั่วคราวของอาสาสมัคร นักวิทยาศาสตร์ หรือเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่ต้องทำงานในพื้นที่ห่างไกลนานหลายสัปดาห์ โดยไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
แนวคิดนี้ไม่เพียงใช้ได้กับทะเลทรายมองโกเลีย แต่ยังสามารถประยุกต์กับภูมิภาคแห้งแล้งทั่วโลก เช่น แอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ขาดแคลนทรัพยากรและต้องการที่พักชั่วคราวสำหรับภารกิจอนุรักษ์หรือบรรเทาภัยพิบัติที่ยืดหยุ่น ปลอดภัย และยั่งยืนมากขึ้น
การใช้วัสดุท้องถิ่นร่วมกับเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ สามารถช่วยลดการใช้แรงงาน การขนส่ง และผลกระทบต่อธรรมชาติได้พร้อมกัน จึงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับความยั่งยืน เพื่อให้มนุษย์สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมที่มีสภาพอากาศแบบสุดขั้วได้อย่างสมดุล
เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร
--------------------------
🌏 “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ www.thaipbs.or.th/SciandTech

 #กรมอุตุ แจ้ง  #สภาพอากาศวันนี้ ไทย  #ฝนตก เพิ่ม กทม. ฝน 70% ของพื้นที่📌 อ่านต่อ: www.thaipbs.or.th/news/content/358093...
31/10/2025

#กรมอุตุ แจ้ง #สภาพอากาศวันนี้ ไทย #ฝนตก เพิ่ม กทม. ฝน 70% ของพื้นที่
📌 อ่านต่อ: www.thaipbs.or.th/news/content/358093
วันนี้ (31 ต.ค. 68) #กรมอุตุนิยมวิทยา #พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมี #ฝนตกหนัก บางแห่ง โดยเฉพาะ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง
แต่ยังคงมี #อากาศเย็น ในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือ เนื่องจากมี #หย่อมความกดอากาศต่ำ กำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับมีแนวพัดของลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือ ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน
#ข่าวไทยพีบีเอส #ข่าวที่คุณวางใจ

🚀🐁 จีนส่ง ​ #หนูทดลอง 4 ตัว ไปเลี้ยงบนสถานีอวกาศเทียนกง เพื่อศึกษาผลกระทบในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงวันนี้ (30 ต.ค. 68) สำนักข...
30/10/2025

🚀🐁 จีนส่ง ​ #หนูทดลอง 4 ตัว ไปเลี้ยงบนสถานีอวกาศเทียนกง เพื่อศึกษาผลกระทบในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง
วันนี้ (30 ต.ค. 68) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า องค์การอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุมแห่งประเทศจีน รายงานภารกิจการปล่อยยานอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุม #เสินโจว17 โดยทีมนักบิน จะดำเนินการทดลองทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ "หนูทดลอง" ระหว่างอยู่บนสถานีอวกาศเทียนกงของจีน
จางจิ้งโป โฆษกของ CMSA ระบุว่า หนูจำนวน 4 ตัว ได้แก่ ตัวผู้ 2 ตัว และตัวเมีย 2 ตัว จะถูกส่งขึ้นไปพร้อมยานอวกาศเสินโจว-21 เพื่อทดลอง "เลี้ยงในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง" บนวงโคจร ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จีนจะทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกสัตว์ฟันแทะในอวกาศ โดยการศึกษาจะเน้นตรวจสอบผลกระทบของสภาพแวดล้อมอวกาศ ที่มีต่อพฤติกรรมของสัตว์เหล่านี้ เช่น สภาวะไร้แรงโน้มถ่วง และการอยู่ในพื้นที่ปิด
ทั้งนี้ หนูทั้ง 4 ตัวได้รับการคัดเลือกหลังจากผ่านการฝึกฝนสมรรถภาพทางกายและความฉลาดของสัตว์อย่างเข้มงวดนานกว่า 60 วัน พวกมันจะเข้าร่วมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในอวกาศเป็นเวลา 5-7 วัน บนสถานีอวกาศเทียนกงของจีน
จากนั้นยานอวกาศจะนำหนูเหล่านี้กลับมายังโลก และจะมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมเพื่อสำรวจการตอบสนองต่อความเครียดและการเปลี่ยนแปลงเชิงปรับตัวของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของหนูในสภาพแวดล้อมบนอวกาศ
สำหรับยานอวกาศที่มีมนุษย์ควบคุมเสินโจว-21 จะถูกปล่อยขึ้นสู่ห้วงอวกาศจากศูนย์ปล่อยดาวเทียมจิ่วเฉวียนทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ตอน 23.44 น. ของวันศุกร์ (31 ต.ค. 68) ตามเวลาปักกิ่ง โดยประกอบด้วยทีมนักบินอวกาศ 3 คน ได้แก่ จางลู่ อู่เฟย และจางหงจาง ซึ่งระหว่างที่อยู่ในวงโคจรทีมลูกเรือจะดำเนินโครงการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และการประยุกต์ใหม่รวมทั้งสิ้น 27 โครงการ
📌 ที่มาข่าวและภาพ โดย Xinhua
--------------------------
🌏 “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ

สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประชาชนกว่า 69 ปีสถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึ...
30/10/2025

สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประชาชนกว่า 69 ปี
สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงดำรงตำแหน่ง “สภานายิกาสภากาชาดไทย” นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2499
📌อ่านบทความเต็มทางเว็บไซต์ : www.thaipbs.or.th/now/content/3314
นับแต่ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงดำรงตำแหน่ง “สภานายิกาสภากาชาดไทย” ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ที่สอดคล้องกับภารกิจขององค์กรกาชาดและ “สภากาชาดไทย” ได้แก่ การรักษาพยาบาลผู้ป่วยไข้ การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย การจัดหาโลหิตให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย การส่งเสริมคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และการสงเคราะห์ประชาชนผู้ทุกข์ยากและผู้ที่เดือดร้อน
ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนากิจการของสภากาชาดไทย ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ พระองค์ได้เสด็จฯ ไปทรงเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการสภากาชาดไทยด้วยพระองค์เอง ณ ห้องประชุมตึกบริพัตร เพื่อทรงติดตามการดำเนินงานของสภากาชาดไทย และพระราชทานแนวพระราชดำริในการดำเนินงานอย่างละเอียด ซึ่งประกอบด้วย ภารกิจของเหล่ากาชาดจังหวัด การให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส การผลิตบุคลากรทางการแพทย์และการพยาบาล การให้สถานที่พักรักษาเมื่อยามเจ็บป่วยและต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามหลักการพื้นฐาน 7 ประการ คือ มนุษยธรรม ความไม่ลำเอียง ความเป็นกลาง ความเป็นอิสระ บริการอาสาสมัคร ความเป็นเอกภาพ และ ความเป็นสากล รวมทั้งการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการหารายได้เพื่อสนับสนุนการดำเนินภารกิจของสภากาชาดไทยด้วย
ขอเชิญพสกนิกรบริจาคโลหิต น้อมถวายความอาลัยแด่ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ปัจจุบันเลือดในคลังสำรองขาดแคลนอย่างมาก จึงขอเชิญพสกนิกรบริจาคโลหิต น้อมถวายความอาลัยแด่ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สภานายิกาสภากาชาดไทย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
“โลหิต” หรือ “เลือด” เป็นสิ่งที่จำเป็นและมีความสำคัญในการใช้รักษาผู้ป่วย ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีผู้ที่สามารถคิดค้นสิ่งใดมาใช้ทดแทนโลหิตได้ จึงจำเป็นต้องมีการรับบริจาคโลหิตจากคน เพื่อให้ได้มาซึ่งโลหิตสำหรับใช้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วย
“การบริจาคโลหิต” คือ การสละโลหิตส่วนเกินที่ร่างกายยังไม่จำเป็นต้องใช้ให้กับผู้ป่วย ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริจาคโลหิต เพราะร่างกายของแต่ละคนมีปริมาณโลหิตประมาณ 17-18 แก้วน้ำ ร่างกายจะใช้เพียง 15-16 แก้วเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นสามารถบริจาคให้ผู้อื่นได้ โดยสามารถบริจาคโลหิตได้ทุก 3 เดือน เมื่อบริจาคโลหิตออกไปแล้ว ไขกระดูกจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดโลหิตขึ้นมาทดแทน ทำให้มีปริมาณโลหิตในร่างกายเท่าเดิม หากไม่ได้บริจาค ร่างกายจะขับเม็ดโลหิตที่สลายตัวเพราะหมดอายุ ทั้งนี้ กระบวนการในการบริจาคโลหิตตั้งแต่เริ่มลงทะเบียนจนบริจาคโลหิตเสร็จสิ้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเลือกเจาะโลหิตที่เส้นโลหิตดำบริเวณแขน แล้วเก็บโลหิตบรรจุในถุงพลาสติก (BLOOD BAG) ประมาณ 350-450 มิลลิลิตร (ซี.ซี.) ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของผู้บริจาค
- การบริจาคโลหิตเป็นเรื่องจำเป็น และยังไม่มีสิ่งใดทดแทนได้
- ผู้ป่วยต้องการโลหิตทุกวินาที
- ได้ทราบข้อมูลสุขภาพของตัวเอง
- ได้ทราบระบบหมู่โลหิต ทั้งระบบ ABO และ Rh
- ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และทำให้มีความสุข ส่งผลให้สุขภาพดี
- บริจาคโลหิต 1 ถุง ช่วยผู้ป่วยได้อย่างน้อย 3 ชีวิต
โลหิต 1 ถุง นำไปช่วยผู้ป่วยได้อย่างไรบ้าง ?
การจัดหาโลหิตบริจาคให้เพียงพอและปลอดภัยต่อทั้งผู้ให้และผู้รับ จากผู้มีจิตศรัทธาที่มีสุขภาพดี แบ่งเป็นสำหรับผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาด้วยการรับโลหิตต่อเนื่องตลอดชีวิตกว่าร้อยละ 23 และอีกร้อยละ 77 สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุเพื่อใช้ในการผ่าตัด ซึ่งมักจะเป็นการใช้โลหิตในปริมาณมากและเร่งด่วน รวมถึงโรคนานาชนิด อีกประการหนึ่ง คือ ในบางช่วงอาจเกิดโรคระบาดที่ต้องการใช้โลหิต เช่น โรคไข้เลือดออก ทำให้ปริมาณการใช้โลหิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง สามารถปั่นแยกเป็นส่วนประกอบโลหิตได้มากกว่า 3 ส่วน ช่วยชีวิตได้มากกว่า 3 ชีวิต และผลิตเป็นผลิตภัณฑ์โลหิตได้อีกมากมาย เพื่อนำไปรักษาผู้ป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
เกล็ดเลือด
นำไปรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โรคไข้เลือดออก มะเร็งเม็ดเลือดขาว
เม็ดเลือดแดง
นำไปรักษาผู้ป่วยโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ไขกระดูกฝ่อ ผู้ป่วยที่สูญเสียเลือดจากการ ผ่าตัดหัวใจ อุบัติเหตุ ตกเลือดจากการคลอดบุตร
พลาสมา
นำไปรักษาผู้ที่มีอาการช็อกจากการขาดน้ำ ผลิตเซรุ่มป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี และเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์โลหิต 3 ชนิด ได้แก่ แฟกเตอร์ 8 (Factor VIII) รักษาโรคฮีโมฟีเลีย เอ อิมมูโนโกลบูลิน (IVIG) รักษาโรคภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง อัลบูมิน (Albumin) รักษาไฟไหม้น้ำร้อนลวก และโรคตับ
❖ แถลงการณ์และประกาศ ชมสารคดีเทิดพระเกียรติฯ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง" ➺ www.thaipbs.or.th/QueenSirikit
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของ ได้ที่ https://www.thaipbs.or.th/news/playlists/SciAndTech
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : สภากาชาดไทย, ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
🌏 “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ www.thaipbs.or.th/SciandTech

30/10/2025

ยาดมปนเปื้อน อันตรายที่ “สูดดม” ไม่เห็น | รู้ทันกันได้ | 30 ต.ค. 68
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เชื่อว่าข่าวที่สร้างความตกใจและสะเทือนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวไทยที่สุดข่าวหนึ่ง ก็คือการที่ อย. ออกมาประกาศเตือนและสั่งระงับการจำหน่าย #ยาดมสมุนไพร #หงส์ไทย สูตร 2 ในรุ่นการผลิตหนึ่ง เพราะตรวจพบการปนเปื้อนของ #เชื้อจุลินทรีย์ เกินมาตรฐาน โดยเฉพาะการพบเชื้อ ที่ตามมาตรฐาน #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร กำหนดว่าต้องไม่พบเลย เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญในสังคมว่าเชื้อเหล่านี้มันปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้สูดดมเข้าร่างกายโดยตรงได้อย่างไร มีอันตรายแค่ไหน และกระบวนการผลิตที่เราเชื่อมั่นนั้นปลอดภัยจริงหรือไม่
🎬 ชมย้อนหลังรายการ #วันใหม่วาไรตี้ ในช่วง #รู้ทันกันได้ ได้ที่ www.thaipbs.or.th/RuTanKanDai

เปลี่ยน "เสาไฟฟ้าริมถนน" เป็นจุดชาร์จรถไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกให้คนเมืองนักวิจัยเปลี่ยนเสาไฟฟ้าริมถนนในเมือง ให้กลายเป็นจุด...
30/10/2025

เปลี่ยน "เสาไฟฟ้าริมถนน" เป็นจุดชาร์จรถไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกให้คนเมือง
นักวิจัยเปลี่ยนเสาไฟฟ้าริมถนนในเมือง ให้กลายเป็นจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ในเมืองที่ไม่มีที่จอดส่วนตัวให้เข้าถึงแหล่งพลังงานได้ง่ายขึ้น
📌 อ่านบทความเต็มทางเว็บไซต์ : https://thaip.bs/P1gCfFi
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต (Penn State University) พัฒนาเทคโนโลยีด้วยการเปลี่ยนเสาไฟฟ้าริมถนนให้เป็นจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ขับขี่ในเมืองใหญ่ที่ไม่มีที่จอดรถส่วนตัวสามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ได้สะดวกขึ้น โดยสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานเดิมให้เกิดประโยชน์กับคนเมืองมากที่สุด
งานวิจัยนี้จัดทำโดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต (Penn State University) ซึ่งพัฒนาแนวคิดในการนำเสาไฟฟ้าริมถนนที่มีอยู่แล้วในเมืองมาดัดแปลงเป็นจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยใช้ระบบสายไฟฟ้าและแหล่งพลังงานเดิมในการจ่ายไฟ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบให้สามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานมากนัก ลดทั้งต้นทุนและเวลาในการดำเนินการเมื่อเทียบกับการสร้างสถานีชาร์จแบบใหม่
แนวคิดนี้ตอบโจทย์ปัญหาการใช้งานของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมหรืออาคารชุดซึ่งไม่มีพื้นที่จอดรถส่วนตัว หรือไม่มีจุดชาร์จพลังงานในอาคาร การติดตั้งจุดชาร์จบนเสาไฟฟ้าช่วยให้สามารถชาร์จรถยนต์ได้ในขณะที่จอดริมถนน หรืออยู่ใกล้เสาไฟฟ้าริมถนนที่สะดวกต่อการหยุดจอด เช่น บริเวณที่พักอาศัยหรือสถานที่ทำงาน นักวิจัยระบุถึงการเข้าถึงจุดชาร์จในที่สาธารณะคือปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างมากขึ้น
ต้นแบบของระบบนี้ใช้ตู้ควบคุมไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดติดตั้งบนเสาไฟ โดยมีช่องเสียบสำหรับหัวชาร์จมาตรฐาน การออกแบบให้มีขนาดเล็กช่วยลดผลกระทบต่อทัศนียภาพของเมือง และยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบจัดการพลังงานกลางเพื่อควบคุมการใช้งานแบบอัจฉริยะ เช่น การจำกัดเวลา การคิดค่าใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน หรือการบริหารพลังงานตามความต้องการของแต่ละพื้นที่
การจำลองใช้งานในเมืองจริง พบว่าการใช้เสาไฟฟ้าเป็นจุดชาร์จสามารถรองรับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายคันต่อวันโดยไม่กระทบต่อระบบจ่ายไฟหลัก การใช้โครงข่ายไฟฟ้าเดิมยังช่วยลดความซับซ้อนของการติดตั้งและบำรุงรักษา ทั้งยังเปิดโอกาสให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเพิ่มจำนวนจุดชาร์จได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการของชุมชน
เทคโนโลยีนี้ยังสอดคล้องกับแนวโน้มของเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่มุ่งใช้โครงสร้างพื้นฐานให้เกิดประโยชน์หลายรูปแบบในเวลาเดียวกัน เสาไฟฟ้าริมถนนซึ่งเดิมใช้เฉพาะให้แสงสว่าง สามารถทำหน้าที่ทั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ติดตามการใช้พลังงานได้ในอนาคต แนวทางดังกล่าวช่วยลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่ง และเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร
--------------------------
🌏 “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ www.thaipbs.or.th/SciandTech

ย้อนรอยโครงการ    #สำรวจดาวอังคาร ของยุโรปที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกย้อนอดีตเมื่อปี 2016 ที่โครงการ ExoMars ของยุโรปได้ส่งยา...
30/10/2025

ย้อนรอยโครงการ #สำรวจดาวอังคาร ของยุโรปที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีก
ย้อนอดีตเมื่อปี 2016 ที่โครงการ ExoMars ของยุโรปได้ส่งยาน Schiaparelli EDM ไปลงจอดบน #ดาวอังคาร แต่ภารกิจกลับล้มเหลว ส่งผลให้ทีมปฏิบัติงานเลื่อนภารกิจในขั้นตอนถัดไปครั้งแล้วครั้งเล่า การส่งยานอวกาศลำแรกของสหภาพยุโรปจึงยังไม่ถึงไหนแม้จะผ่านไปนับสิบปีแล้วก็ตาม
📌อ่านบทความเต็มทางเว็บไซต์ : www.thaipbs.or.th/now/content/3312
ExoMars เป็นโครงการค้นหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตโบราณบนดาวอังคารขององค์การอวกาศยุโรปร่วมกับ Roscosmos ของรัสเซีย แรกเริ่มเดิมทีจะมียานอวกาศทั้งหมดสามลำ คือ Trace Gas Orbiter (TGO) ยานลงจอด Schiaparelli EDM และหุ่นยนต์โรเวอร์ Rosalind Franklin โครงการจะมีการแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรก ยาน Trace Gas Orbiter จะเดินทางไปยังดาวอังคารพร้อมกับ Schiaparelli EDM ในปี 2015 เพื่อศึกษาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตจากหมู่ก๊าซภายในชั้นบรรยากาศของดาวอังคารและระบุตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการลงจอดของ Rosalind Franklin ส่วนต่อมา ยาน Schiaparelli EDM ที่ติดไปด้วยจะใช้ในการทดสอบระบบการลงจอดแบบใหม่ของยุโรปเพื่อใช้งานกับการ Rosalind Franklin ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
คณะทำงานแบ่งความรับผิดชอบให้ทาง ESA ดูแลยานอวกาศทั้งสามลำ ส่วน Roscosmos จะดูแลเกี่ยวกับจรวด Proton ที่จะถูกใช้ในการส่งยานอวกาศทั้งสองเที่ยวบิน ตัวยาน Trace Gas Orbiter นั้นถูกส่งขึ้นไปเมื่อ 14 มีนาคม 2016 และ Rosalind Franklin จะมีการส่งไปตามหลังในช่วงปี 2018
ในส่วนของภารกิจ Trace Gas Orbiter ยานสามารถเดินทางไปถึงดาวอังคารได้ในช่วงเดือนตุลาคม 2016 และได้ปล่อยยานลงจอด Schiaparelli EDM เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร ซึ่งใช้เวลาชะลอความเร็วเข้าสู่วงโคจรของดาวอังคารนานสามวัน ตำแหน่งที่ยาน Schiaparelli EDM เลือกลงจอดในเวลานั้นคือบริเวณ Meridiani Planum ซึ่งเป็นบริเวณที่หุ่นยนต์ Opportunity ของ NASA กำลังสำรวจอยู่พอดี ทาง NASA จึงได้ควบคุมให้ตัวหุ่นยนต์หันขึ้นไปมองบนท้องฟ้าในทิศทางที่ยาน Schiaparelli EDM จะลงจอด นับเป็นครั้งแรกที่มียานอวกาศบนพื้นผิวของดาวเคราะห์ที่ไม่ใช่โลก พยายามถ่ายภาพยานอวกาศที่กำลังทำการลงจอด
แต่สุดท้ายยาน Schiaparelli EDM ก็ลงจอดล้มเหลว และตัวหุ่นยนต์ Opportunity ก็ไม่สามารถถ่ายภาพการลงจอดของยาน Schiaparelli EDM ได้ด้วยเช่นกัน ทาง ESA คาดว่าเมื่อตัวยานเข้าสู่ชั้นบรรยากาศและกางร่มชะลอความเร็ว ตัวยานอาจจะเกิดการหมุนอย่างรวดเร็วจนเซนเซอร์ที่ทำหน้าที่ในการตรวจวัดระดับความสูงไม่ทำงาน ทำให้ช่วงในการออกคำสั่งจุดเครื่องยนต์ชะลอความเร็วผิดพลาด และผลจากการตรวจสอบทางภาพถ่ายจากกล้องถ่ายภาพ HiRISE ของยาน Mars Reconnaissance Orbiter ด้วยเทคนิคการสร้างภาพความละเอียดสูง (Super-resolution reconstruction) พบว่าตัวยานน่าจะตกด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงมากจนทำให้ถังเชื้อเพลิงของยาน Schiaparelli EDM ระเบิด
ความล้มเหลวในการลงจอดของยาน Schiaparelli EDM ส่งผลกระทบอย่างมากต่อภารกิจถัดไปของโครงการ และต่อมาทาง ESA ได้เลื่อนช่วงที่จะส่ง Rosalind Franklin ออกไปเป็นภายในปี 2020 แทน แต่ด้วยการระบาดของโควิด-19 ภารกิจได้เลื่อนออกไปเป็นปี 2022 ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ องค์การอวกาศทั้งสองประเทศฉีกสัญญาความร่วมมือระหว่างกันจนโครงการดังกล่าวค่อย ๆ ลืมเลือนไป
ในปี 2024 ESA ได้ชุบชีวิตโครงการนี้ขึ้นมาอีกครั้งโดยอาศัยบริษัท Thales Alenia Space สร้างหุ่นยนต์ Rosalind Franklin ต่อจากของเดิม รวมทั้งการส่งขึ้นไปยังดาวอังคารในปี 2028 ซึ่งจะเดินทางถึงดาวอังคารในปี 2029 หุ่นยนต์ตัวนี้จะเดินสำรวจหาร่องรอยของสิ่งมีชีวิตบนพื้นผิวจากข้อมูลตำแหน่งที่น่าสนใจจากยาน Trace Gas Orbiter นั้นเอง
หากว่ากันตามตรง ตัวยาน Trace Gas Orbiter ที่ขึ้นไปอยู่ในวงโคจรของดาวอังคารก่อนหน้านี้ กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 10 แล้ว ถือเป็นหนึ่งในยานอวกาศที่ล้ำสมัยและสามารถใช้ในการทวนสัญญาณระหว่างหุ่นยนต์สำรวจบนพื้นผิวของดาวอังคารกับโลกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่เคยมีมา ด้วยความเร็วในการส่งข้อมูลมากถึง 1,562 เมกะไบต์ต่อวัน เร็วกว่ายาน Mars Reconnaissance Orbiter ถึง 3 เท่า
นอกจากนี้แล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยาน Trace Gas Orbiter ยังได้สร้างองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมโดยตลอด กล้องถ่ายภาพพื้นผิวของยานเป็นหนึ่งในกล้องถ่ายภาพที่คมชัดที่สุดตัวหนึ่งบนดาวอังคาร และมีการใช้งานเพื่อค้นหาสัญญาณสิ่งมีชีวิต แม้ตัวภาพรวมของโครงการจะดูกร่อยลงไป แต่โดยรวมแล้วนี่นับว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่น่าสนใจและต่อยอดองค์ความรู้เกี่ยวกับดาวอังคารได้เพิ่มขึ้นอีกมาก
เรียบเรียงโดย จิรสิน อัศวกุล
พิสูจน์อักษร ศุภกิจ พัฒนพิฑูรย์
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของ ได้ที่ https://www.thaipbs.or.th/news/playlists/SciAndTech
--------------------------
🌏 “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ www.thaipbs.or.th/SciandTech

30/10/2025

🌠 ข้อเท็จจริงของดาวหาง 3I/ATLAS วัตถุจากนอกระบบสุริยะ | ทันโลก กับ Thai PBS
ในสื่อสังคมออนไลน์มีภาพหนึ่งถูกระบุว่าอาจเป็นยานของสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่แท้จริงแล้วคือ #ดาวหาง ที่กำลังผ่านระบบสุริยะ ดาวหางดวงนี้มีความน่าสนใจอย่างมาก เนื่องจากอายุเก่าแก่กว่าระบบสุริยะถึง 3,000 ล้านปี
🎬 ชมข่าวอื่น ๆ ใน #ทันโลกกับThaiPBS ได้ที่ www.thaipbs.or.th/program/Tanloke/episodes/111266

กินอิ่มแล้วง่วง อาจเป็นสัญญาณ  #ดื้ออินซูลิน หมอเผย 5 อาการที่อาจไม่ใช่แค่อิ่มชวนหาคำตอบทำไมหลังมื้ออาหาร หลายคนกิน  #อิ...
30/10/2025

กินอิ่มแล้วง่วง อาจเป็นสัญญาณ #ดื้ออินซูลิน หมอเผย 5 อาการที่อาจไม่ใช่แค่อิ่ม
ชวนหาคำตอบทำไมหลังมื้ออาหาร หลายคนกิน #อิ่มแล้วง่วง โดยเฉพาะมื้อเที่ยงที่มักทำให้รู้สึกตาปรือ อยากเอนหลัง บางคนเข้าใจว่าอาจเป็นเรื่องปกติของการอิ่มท้อง แล้วหากไม่เป็นอย่างนั้นล่ะ
อิ่มมาก ง่วงมาก อยากนอนสักงีบ อาการที่เกิดกับใครหลายคน โดยเฉพาะมื้อเที่ยงที่มักทำให้รู้สึกมากเป็นพิเศษ บางคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติของการอิ่มท้อง แต่หากง่วงจนอึดอัด หนักหัว มึนเหมือนพลังถูกดูด นั่นอาจไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะอาจหมายถึง ระดับ #น้ำตาลในเลือด กำลังพุ่ง ตกเร็วผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณของ #ภาวะดื้ออินซูลิน และ #เบาหวาน ระยะเริ่มต้น
นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เจ้าของเพจ “หมอเจด” ชวนสังเกต 5 อาการ “ง่วงแบบไหนไม่ใช่ง่วงเพราะอิ่มเฉย ๆ”
📌อ่านต่อ : www.thaipbs.or.th/news/content/358030
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ #ข่าวไทยพีบีเอส #ข่าวที่คุณวางใจ

เตือน! นำสิทธิ  #คนละครึ่งพลัส  #แลกเงินสด โดยไม่มีการซื้อขายจริง เข้าข่าย  #ฉ้อโกง มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาทจากกร...
30/10/2025

เตือน! นำสิทธิ #คนละครึ่งพลัส #แลกเงินสด โดยไม่มีการซื้อขายจริง เข้าข่าย #ฉ้อโกง มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท
จากกรณีมีการนำสิทธิในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ , และ #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอย้ำเตือนว่า การนำสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ไปแลกเงินสด โดยไม่มีการซื้อขายจริง เข้าข่ายฉ้อโกง มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้โพสต์โซเชียลมีเดียเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมแลกวงเงินตามสิทธิ เป็นเงินสดแทนการใช้จ่ายจริง มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
📌อ่านบทความเต็มทางเว็บไซต์ : www.thaipbs.or.th/now/content/3311
พล.ต.ต. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ที่อาจกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากการนำสิทธิในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เนื่องด้วยในห้วงวันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 68 รัฐบาลได้จัดให้มีโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาภาระค่าครองชีพ ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว ผ่านวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
โดยโครงการคนละครึ่งในอดีตที่ผ่านมา (ระหว่างปี 63 - 64) ได้พบพฤติการณ์ของประชาชนและร้านค้าบางส่วน ใช้สิทธิอย่างไม่ถูกต้อง
❌นำสิทธิไปแลกเงินสด
❌สมรู้ร่วมคิดในการใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง
📍ถือเป็น “การแสดงข้อความอันเป็นเท็จ” และเข้าข่ายความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อาจถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐ และยังต้องชดใช้คืนเงินให้รัฐอีกด้วย
ขณะที่ผู้โพสต์โซเชียลมีเดียเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมแลกวงเงินตามสิทธิ เป็นเงินสดแทนการใช้จ่ายจริง โดยหักส่วนต่างและแบ่งผลประโยชน์กัน หรือเรียกเก็บค่าดำเนินการ พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามกระทำความเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
Thai PBS, Thai PBS Sci & Tech และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนพี่น้องประชาชนที่ได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัส ห้ามนำสิทธิดังกล่าวไปขายต่อให้กับบุคคลอื่น หรือใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อ-ขายสินค้าจริง เนื่องจากเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย
หากพี่น้องประชาชนพบเห็นพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสการทุจริตได้ที่ สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
📌อ่าน : จับผู้ค้า "รับแลกเงินสด" คนละครึ่งพลัส ปชช. เสี่ยงผิดร่วมฉ้อโกง www.thaipbs.or.th/news/content/358061
Thai PBS Sci & Tech เตือนภัย !
📌อ่าน : หลอกว่าญาติป่วย! มิจฉาชีพอ้างเป็นโรงพยาบาล ก่อนเร่งให้โอนเงิน www.thaipbs.or.th/now/content/3302
📌อ่าน : เตือนภัยวัยเกษียณ! มิจฯ โทร. แอบอ้างกรมบัญชีกลาง ลวงว่ามีเงินตกค้าง www.thaipbs.or.th/now/content/3254
📌อ่าน : ระวัง! มิจฉาชีพหลอกสแกน QR Code โอนเงินข้ามประเทศ www.thaipbs.or.th/now/content/3245
📌อ่าน : ทริกสังเกต “เว็บไซต์” ที่จะคลิก ปลอดภัยจากมิจฉาชีพหรือเปล่า? www.thaipbs.or.th/now/content/3240
📌อ่าน : เตือน! ผู้ใช้สมาร์ตโฟนและ ผู้ใช้งาน Browser สาย Extensions เสริมต้องระวัง www.thaipbs.or.th/now/content/3198
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
--------------------------
🌏 “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ www.thaipbs.or.th/SciandTech

หุ่นยนต์แบบนิ่มขนาดจิ๋ว เคลื่อนผ่านที่แคบเหมือนเถาวัลย์ ใช้กับการผ่าตัดและซ่อมเครื่องยนต์นักวิจัยพัฒนาหุ่นยนต์แบบนิ่มขนา...
30/10/2025

หุ่นยนต์แบบนิ่มขนาดจิ๋ว เคลื่อนผ่านที่แคบเหมือนเถาวัลย์ ใช้กับการผ่าตัดและซ่อมเครื่องยนต์
นักวิจัยพัฒนาหุ่นยนต์แบบนิ่มขนาดจิ๋ว สามารถเคลื่อนผ่านช่องแคบได้เหมือนเถาวัลย์ ช่วยให้เข้าถึงพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง ช่วยงานผ่าตัด หรือซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ที่ซับซ้อนได้
📌 อ่านบทความเต็มทางเว็บไซต์ : https://thaip.bs/IaI0p4o
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก (University of California, San Diego) พัฒนา หุ่นยนต์แบบนิ่มขนาดจิ๋ว ที่สามารถเคลื่อนผ่านช่องแคบที่ซับซ้อน โดยอาศัยการควบคุมแรงดันและอุณหภูมิในโครงสร้างผิวหุ่นยนต์ เพื่อเปลี่ยนรูปร่างและทิศทางได้อย่างแม่นยำ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการผ่าตัดแผลเล็ก และใช้ตรวจสอบหรือซ่อมบำรุงภายในเครื่องยนต์ที่มีพื้นที่จำกัดโดยไม่ต้องรื้อชิ้นส่วนขนาดใหญ่
นักวิจัยเผยว่าหุ่นยนต์แบบนิ่มนี้ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุซิลิโคนอ่อนตัวคล้ายท่อขนาดเล็ก ซึ่งภายในสามารถควบคุมแรงดันลมหรือของเหลวเพื่อให้ขยายตัวเฉพาะส่วนที่ต้องการเคลื่อนไหวคล้ายการยืดตัวของพืชเถา การออกแบบในลักษณะนี้ทำให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหวได้แม้ในพื้นที่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงไม่กี่มิลลิเมตร และยังสามารถโค้งงอได้ในมุมแคบถึง 100 องศา โดยไม่ทำให้พื้นผิวหรือโครงสร้างรอบข้างเสียหาย
จุดเด่นของเทคโนโลยีอยู่ที่ความสามารถในการควบคุมหุ่นยนต์ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกล้ามเนื้อที่ตอบสนองต่อแรงดันและอุณหภูมิ เมื่อถูกกระตุ้นด้วยพลังงาน หุ่นยนต์สามารถบิดตัว ยืดหรือหดเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวาง และเปลี่ยนทิศทางได้เองโดยไม่ต้องใช้ชิ้นส่วนกลไกแข็ง ทำให้สามารถเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวลและแม่นยำในพื้นที่เปราะบาง เช่น ภายในหลอดเลือด หลอดลม หรือช่องท่อของเครื่องจักร เทคโนโลยีนี้จึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการใช้งานที่ต้องการความละเอียดสูงและความปลอดภัยของโครงสร้างรอบข้าง
ในทางการแพทย์ นักวิจัยคาดว่าหุ่นยนต์แบบนิ่มจะมีบทบาทสำคัญในการผ่าตัดผ่านกล้องและการรักษาภายในร่างกายโดยไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนผ่านเข้าไปยังอวัยวะภายในเพื่อเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ หรือช่วยส่งยาเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บของอวัยวะใกล้เคียง และช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการผ่าตัดสมองหรือหัวใจในอนาคต ที่ต้องอาศัยการเคลื่อนไหวละเอียดและปลอดภัยในพื้นที่จำกัดมากเป็นพิเศษ
ขณะเดียวกัน ภาคอุตสาหกรรมก็สามารถนำแนวคิดเดียวกันนี้มาประยุกต์ใช้ในการตรวจสอบภายในเครื่องยนต์ไอพ่น ท่อส่งน้ำมัน หรือระบบระบายอากาศที่เข้าถึงยาก หุ่นยนต์แบบนิ่มสามารถเลื้อยผ่านช่องแคบเพื่อตรวจหารอยรั่วหรือการสึกหรอของวัสดุได้โดยไม่ต้องถอดเครื่องจักรออกจากระบบ ลดทั้งเวลาและต้นทุนการบำรุงรักษา อีกทั้งยังลดความเสี่ยงที่มนุษย์จะต้องเข้าไปทำงานในสภาพแวดล้อมอันตราย เช่น พื้นที่ร้อนจัดหรือมีแรงดันสูง
ทีมนักวิจัยกำลังพัฒนาเพื่อเพิ่มระบบควบคุมอัตโนมัติและติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับ เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถนำทางได้ด้วยตัวเอง รวมถึงส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์กลับไปยังผู้ควบคุม ซึ่งจะช่วยขยายขอบเขตการใช้งานไปถึงภารกิจในอวกาศ การสำรวจใต้ดิน หรือการค้นหาผู้ประสบภัยในพื้นที่ซับซ้อน เทคโนโลยีหุ่นยนต์แบบนิ่มจึงไม่เพียงเป็นเครื่องมือสำหรับงานเฉพาะทาง แต่ยังเชื่อมโยงความยืดหยุ่นของธรรมชาติกับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างลงตัว ทั้งในวงการแพทย์และภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการทำงาน
เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร
--------------------------
🌏 “รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ www.thaipbs.or.th/SciandTech

 #กรมอุตุ แจ้ง  #สภาพอากาศวันนี้ ฝนเพิ่มทั่วไทย ยอดดอยอุณหภูมิต่ำสุด 8 องศาฯ📌 อ่านต่อ: www.thaipbs.or.th/news/content/35...
30/10/2025

#กรมอุตุ แจ้ง #สภาพอากาศวันนี้ ฝนเพิ่มทั่วไทย ยอดดอยอุณหภูมิต่ำสุด 8 องศาฯ
📌 อ่านต่อ: www.thaipbs.or.th/news/content/358053
วันนี้ (30 ต.ค. 68) #กรมอุตุนิยมวิทยา #พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมี #ฝนตกหนัก บางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.ร้อยเอ็ด มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต
แต่ยังคงมี #อากาศเย็น ในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณปลายแหลมญวณ ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือ ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน
#ข่าวไทยพีบีเอส #ข่าวที่คุณวางใจ

ที่อยู่

Bangkok
10210

เบอร์โทรศัพท์

+6627902338

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Thai PBS Sci & Techผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Thai PBS Sci & Tech:

แชร์

ประเภท