เกษตรสัญจร

เกษตรสัญจร เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

21/11/2025

“ธรรมนัส" ลั่น! ใช้ "ไม้แข็ง" ฟันพ่อค้า-ล้ง กดราคามะพร้าวน้ำหอม ท่ามกลางวิกฤติราคาดิ่งเหว

ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางถึงจังหวัดราชบุรี ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤติ ราคามะพร้าวน้ำหอมดิ่งเหว เหลือเพียง 2-4 บาทต่อผล ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรต้องเผชิญภาวะขาดทุนอย่างหนัก
ร.อ. ธรรมนัส ได้ส่งสัญญาณเตือนขั้นสูงสุดไปยัง ล้งรับซื้อและผู้ประกอบการ ว่า "ขอให้ยุติการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกรและกดราคารับซื้อโดยเด็ดขาด"
รมว. เกษตรฯ ย้ำว่า หากมีการตรวจพบการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือการกดราคาอย่างไม่เป็นธรรม จะใช้ "ไม้แข็ง" และดำเนินมาตรการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดเข้าจัดการทันที เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวน้ำหอมโดยเร็วที่สุด
#มะพร้าวน้ำหอม
#ราคาตกต่ำ

5 ประโยชน์เด่นของปุ๋ยมูลไส้เดือนพร้อมเทคนิคง่าย ๆ ให้ฟาร์มยั่งยืนเกษตรกรหลายฟาร์มเริ่มให้ความสนใจกับปุ๋ยมูลไส้เดือน (Ver...
21/11/2025

5 ประโยชน์เด่นของปุ๋ยมูลไส้เดือน
พร้อมเทคนิคง่าย ๆ ให้ฟาร์มยั่งยืน
เกษตรกรหลายฟาร์มเริ่มให้ความสนใจกับปุ๋ยมูลไส้เดือน (Vermicompost) มากขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะไม่ใช่แค่ช่วยเพิ่มผลผลิตให้พืชโตไวและแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังช่วย บำรุงดินให้สมบูรณ์ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกด้วย สำหรับใครที่อยากเริ่มใช้ปุ๋ยมูลไส้เดือน แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันดีจริงหรือไม่ วันนี้ เกษตรสัญจร จะพาไปรู้จักกับ 5 ประโยชน์เด่นของปุ๋ยมูลไส้เดือนต่อพืช พร้อม เทคนิคง่าย ๆ ในการใช้ ที่ทำให้พืชโตดี ดินดี และได้ผลผลิตสูงแบบยั่งยืน
ประโยชน์เด่นของปุ๋ยมูลไส้เดือนที่มีต่อพืช

1. เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน
ปุ๋ยมูลไส้เดือนอุดมไปด้วยธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองรอง เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมที่พืชสามารถดูดซึมได้ง่าย ทำให้ดินร่วนซุยและมีความสมบูรณ์สูง ช่วยให้พืชเติบโตอย่างแข็งแรง
2. กระตุ้นการเจริญเติบโตของราก
จุลินทรีย์ในปุ๋ยมูลไส้เดือนช่วยให้รากพืชแข็งแรงและขยายตัวได้ดี ทำให้พืชดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่ ส่งผลให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและพืชทนทานต่อสภาพแวดล้อม
3. เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหารของพืช
ปุ๋ยมูลไส้เดือนช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย น้ำซึมดี รากพืชจึงสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้พืชโตเร็วและแข็งแรง
4. ลดโรคพืชจากดิน
จุลินทรีย์ที่อยู่ในปุ๋ยมูลไส้เดือนช่วยยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรียที่ก่อโรคในดิน ทำให้พืชมีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค และช่วยลดการใช้สารเคมี
5. ปรับปรุงโครงสร้างดินให้ร่วนซุย
การใส่ปุ๋ยมูลไส้เดือนลงดินช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุและความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน ทำให้พืชทนแล้งได้ดีและเจริญเติบโตเร็วขึ้น เหมาะกับสวนผัก ไม้ผล หรือพืชทุกชนิด
วิธีการใช้ปุ๋ยมูลไส้เดือนให้ได้ผลสูงสุด
1. ใช้เป็นปุ๋ยรองพื้นก่อนปลูก โดยผสมปุ๋ยมูลไส้เดือนกับดินในสัดส่วน 1 ต่อ 3-4 แล้วหว่านลงแปลงหรือร่องปลูก จะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ทำให้ต้นกล้าเติบโตแข็งแรงตั้งแต่เริ่มต้น
2. ใช้คลุมโคนต้นหรือรอบแถวปลูก โดยโรยปุ๋ยมูลไส้เดือนรอบโคนต้นไม้หรือรอบแถวผัก จะช่วยกระตุ้นรากให้ขยายตัว เพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร และปรับปรุงโครงสร้างดินให้ร่วนซุย
3. ผสมน้ำรดต้นแบบน้ำหมัก โดยผสมปุ๋ยมูลไส้เดือนกับน้ำแล้วรดลงโคนต้นหรือรอบแถว จะช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้เร็วขึ้น
4. ใช้ร่วมกับวัสดุเหลือใช้จากฟาร์ม โดยผสมปุ๋ยมูลไส้เดือนกับเศษใบไม้ เศษผัก หรือฟางหมัก จะช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ดีในดิน ลดโรคพืช และทำให้ดินร่วนซุยมากขึ้น
5. ใส่เป็นปุ๋ยเสริมระหว่างฤดูการเจริญเติบโต โดยโรยปุ๋ยมูลไส้เดือนบาง ๆ รอบต้นไม้หรือแถวผักทุก 15-20 วัน จะช่วยเสริมธาตุอาหารให้พืชเติบโตต่อเนื่อง เพิ่มผลผลิต และปรับปรุงโครงสร้างดินอย่างยั่งยืน
ปุ๋ยมูลไส้เดือนไม่ใช่แค่ปุ๋ยธรรมดา แต่เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ฟาร์มเติบโตอย่างยั่งยืน รากพืชแข็งแรง ดินร่วนซุย และช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร ทำให้พืชมีสุขภาพดีตลอดฤดูกาล การใช้ปุ๋ยมูลไส้เดือนอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงช่วยเพิ่มผลผลิต แต่ยังบำรุงดินให้สมบูรณ์ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี และทำให้ระบบเกษตรยั่งยืนมากยิ่งขึ้นครับ เหมาะกับสวนผัก ไม้ผล หรือพืชทุกชนิดที่ต้องการความสมบูรณ์ของดินและรากพืชครับ
#ปุ๋ยมูลไส้เดือน #ปุ๋ยอินทรีย์ #ฟาร์มยั่งยืน #เทคนิคเกษตร #พืชผักสวนครัว #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
……………………………………
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

🙌🏻👨🏻‍🌾 กยท. พร้อมเคียงข้างชาวสวนยาง ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ เตรียมสำรวจความเสียหายสวนยางหลังน้ำลดทันท...
21/11/2025

🙌🏻👨🏻‍🌾 กยท. พร้อมเคียงข้างชาวสวนยาง ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ เตรียมสำรวจความเสียหายสวนยางหลังน้ำลดทันที 🌊✨
📍การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เปิดศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย เตรียมแจกถุงยังชีพ พร้อมช่วยเหลือชาวสวนยางที่ได้รับผลกระทบเต็มกำลัง
นายดิษฐเดช วัฒนาพร รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้ ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.ตรัง จ.สงขลา และ จ.สตูล ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากเข้าพื้นที่การเกษตรอย่างรุนแรง โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกยางพารา
กยท. คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตยางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องทั้ง 7 จังหวัด รวมกว่า 10,296.93 ตันในส่วนจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อย่างรุนแรง ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.พัทลุง ครอบคลุมในหลายอำเภอ อาทิ อ.ร่อนพิบูลย์ อ.ทุ่งสง และ อ.ฉวาง ใน จ.นครศรีธรรมราช และ อ.ควนขนุน อ.ป่าพะยอม และ อ.ศรีบรรพต ใน จ.พัทลุง สร้างความเดือดร้อนต่อชาวสวนยางและประชาชนหลายพื้นที่และมีต่อปริมาณผลผลิตยาง โดยเบื้องต้น กยท. คาดการณ์ว่าจะมีพื้นที่สวนยางใน 2 จังหวัดดังกล่าวได้รับผลกระทบ เป็นพื้นที่รวมกว่า 83,580 ไร่ และมีเกษตรกรชาวสวนยางได้รับผลกระทบ รวมกว่า 14,800 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ย. 68)
นายดิษฐเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า กยท. ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดย กยท. ได้เปิดศูนย์พักพิงและจุดบริการจอดรถแก่ผู้ประสบภัย ซึ่งสามารถเข้ามารับความช่วยเหลือได้ ณ ที่ทำการ กยท. ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้แก่ กยท. เขตภาคใต้ตอนกลาง และ กยท. สาขาทุ่งสง (โทร. 0-7541-1032), กยท. สาขาร่อนพิบูลย์ (โทร. 0-7544-1212) และ กยท. สาขาฉวาง (โทร. 0-7548-1130) ในพื้นที่ จ.พัทลุง ได้แก่ กยท.จ.พัทลุง และ กยท. สาขาเมืองพัทลุง (โทร. 0-746-1248), กยท. สาขาบางแก้ว (โทร. 0-7461-0490), กยท. สาขาควนขนุน (โทร. 0-7468-1623), กยท. สาขาป่าบอน (โทร. 0-7484-1540) และศูนย์เรียนรู้ยางพารา จ.พัทลุง (โทร 0-7460-1533)
ทั้งนี้ กยท. เตรียมเปิดศูนย์พักพิง ณ ที่ทำการ กยท. อื่นๆ ในพื้นที่ประสบภัยเพิ่มเติมต่อไป นอกจากนี้ กยท. ได้จัดถุงยังชีพบรรจุน้ำดื่ม อาหาร และของใช้จำเป็น เพื่อมอบแก่ชาวสวนยางผู้ที่ประสบภัยภายใต้งบประมาณโครงการสนับสนุนปัจจัยยังชีพกรณีครัวเรือนเกษตรกรชาวสวนยางประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมทั้งสิ้น 1,410,000 บาท
อย่างไรก็ตาม หลังสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ กยท. จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจความเสียหายสวนยางที่ประสบภัยและประเมินระดับความเสียหายของต้นยาง พร้อมให้คำแนะนำแก่เกษตรกรชาวสวนยางอย่างใกล้ชิดเพื่อฟื้นฟูสภาพสวนยางหลังน้ำลด ลดความเสียหายในระยะยาว ตลอดจนมาตรการเยียวยาตามสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง มาตรา 49 (5) แห่งพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 โดยกรณีที่สวนยางของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ประสบภัยจนเสียสภาพสวน หรือต้นยางได้รับความเสียหายเกิน 20 ต้น/แปลง จะได้รับเงินช่วยเหลือรายละไม่เกิน 3,000 บาท
นอกจากนี้ กยท. ยังมีเงินทุนกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง รายละไม่เกิน 50,000 บาท สำหรับนำไปใช้ปรับปรุงสวนยาง ที่อยู่อาศัย เครื่องมือ รักษาพยาบาลตนเอง ตลอดจนเป็นทุนในการประกอบอาชีพเสริมต่อไป
ภาพ/ข่าว: ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ กยท.
#กยท #การยางแห่งประเทศไทย #กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ #ถุงยังชีพ #ช่วยเหลือน้ําท่วม #ชาวสวนยาง #ผู้ประสบภัย #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
……………………………………
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

“ธรรมนัส” เข้ม! ยกระดับปฏิบัติการยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก. ผิดกฎหมาย 28 จังหวัด พื้นที่กว่า 70,000 ไร่ พร้อมเร่งแจก "โฉนดเกษตร...
21/11/2025

“ธรรมนัส” เข้ม! ยกระดับปฏิบัติการยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก. ผิดกฎหมาย 28 จังหวัด พื้นที่กว่า 70,000 ไร่ พร้อมเร่งแจก "โฉนดเกษตร" สู้ปัญหานายทุน
ราชบุรี – เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำเปิดปฏิบัติการ "Kick off ขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหาผู้ครอบครองในเขตปฏิรูปที่ดินที่ไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม" ณ แปลง ราชบุรีโมเดล
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการ ประกาศสงครามอย่างจริงจัง ต่อการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ผืนใหญ่โดยมิชอบ พร้อมสั่งการให้ ส.ป.ก. ปิดป้ายประกาศเตือนและดำเนินการยึดคืนที่ดินเป้าหมายพร้อมกันใน 28 จังหวัด ทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นพื้นที่ที่ถูกบุกรุกหรือถือครองผิดกฎหมายรวมกว่า 70,000 ไร่
📌 เน้นย้ำเป้าหมายและมาตรการเด็ดขาด

ร.อ. ธรรมนัส ย้ำว่า นโยบายนี้มีเป้าหมายสูงสุดคือ ยึดคืนที่ดินจากกลุ่มนายทุน และนำมา จัดสรรเป็น "โฉนดเพื่อการเกษตร" ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม

การตรวจสอบเข้มข้น: ส.ป.ก. จะตรวจสอบการถือครองและใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินอย่างละเอียด หากพบผู้ครอบครองที่ดินแปลงใหญ่โดยมิชอบ หรือไม่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปฯ จะถูก เพิกถอนสิทธิและยึดคืนทันที

ขอบเขตพื้นที่: การดำเนินการ Kick off ครอบคลุม 28 จังหวัด ที่มีปัญหาการถือครองที่ดินแปลงใหญ่และยังไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปฯ
🚜 ราชบุรีโมเดล: ต้นแบบการทวงคืนและจัดสรร

ยึดคืน: ที่ จ.ราชบุรี ส.ป.ก. ตรวจพบพื้นที่ที่มีการถือครองโดยมิชอบใน อ.จอมบึง รวม 166 แปลง เนื้อที่ประมาณ 6,500 ไร่ ซึ่งได้ดำเนินการเพิกถอนสิทธิแล้ว

มอบที่ทำกิน: ร.อ. ธรรมนัส ได้ขับรถแม็คโคร ล้มปาล์ม ในพื้นที่ที่ยึดคืน เพื่อปรับปรุงและเตรียมจัดสรรที่ดิน 1,520 ไร่ ให้เกษตรกร 152 ราย โดยสิทธิการเช่าอยู่ที่อัตรา 100 บาทต่อไร่ต่อปี
มอบโฉนดเกษตร: พร้อมกันนี้ ได้มอบ "โฉนดเพื่อการเกษตร" ให้แก่เกษตรกรในจังหวัดราชบุรี รวมทั้งสิ้น 800 ราย

🗣️ เลขาฯ ส.ป.ก. เผย ที่ดินถูกเปลี่ยนมือไปทำเกษตรเชิงเดี่ยว

นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ดินเหล่านี้ถูกปล่อยปละละเลยมานานกว่า 50 ปี ทำให้มีการ ซื้อขายสิทธิและเปลี่ยนมือ ไปยังบุคคลที่ไม่มีสิทธิเพื่อถือครองเป็นแปลงขนาดใหญ่และใช้ ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั้งการจัดสรรที่ดินให้คนยากจนและระบบนิเวศน์อย่างรุนแรง

"ส.ป.ก. จะเดินหน้าตรวจสอบฐานข้อมูลที่ดินแปลงใหญ่ทั่วประเทศ และเร่ง พัฒนาสิทธิในที่ดินรัฐ โดยการปรับปรุง ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ให้สอดคล้องกับกฎหมายที่แก้ไข เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและยุติธรรมสำหรับเกษตรกรอย่างแท้จริง" เลขาธิการ ส.ป.ก. ย้ำ
#ยึดคืนที่ดินสปก #ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม #โฉนดเพื่อการเกษตร #สปก #ที่ดินทำกินของชาวบ้าน #ทวงคืนผืนดิน #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
……………………………………
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

21/11/2025

เทคนิคปลูกอ้อยแบบมืออาชีพ ฟื้นฟูดินเสื่อม เสริมรากแข็งแรง พร้อมลดต้นทุน | เกษตรสัญจร
ทำสวนอ้อยให้ประสบความสำเร็จ ต้องเริ่มจาก ดินดี เพราะดินดีช่วยให้รากอ้อยแข็งแรง ใบเขียว และผลผลิตสูง
เอ็กซ์เกษตรสัญจรพาไปบุกสวนอ้อยของ พี่กล้วย อดิเทพ อันทานุวัฒน์ ที่เคยเจอปัญหาดินเสื่อม ปลูกอ้อยไม่โต ทำให้ผลผลิตลดลงต่อเนื่องหลายปี
พี่กล้วยได้ทดลองใช้ จุลินทรีย์ฟื้นฟูดิน ทำให้ดินเริ่มคืนความอุดมสมบูรณ์ รากอ้อยแข็งแรง ใบเขียวกว้างขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมเรียนรู้เทคนิคการดูแลโรคในอ้อยและการเตรียมดินก่อนปลูก ทำให้สวนอ้อยกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และยังช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใครที่อยากได้เคล็ดลับ ปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิตสูง ฟื้นฟูดินเสื่อม และจัดการสวนอ้อยอย่างมืออาชีพ มาเรียนรู้เทคนิคตรงจากเกษตรกรมืออาชีพได้ในคลิปนี้ครับ
#ปลูกอ้อย #ฟื้นฟูดิน #จุลินทรีย์เกษตร #เทคนิคเกษตรมืออาชีพ #สวนอ้อยไทย #ลดต้นทุนเกษตร #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
……………………………………
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

3 จังหวัดใต้จมน้ำ! เกษตรกรสวนยางเดือดร้อนกว่า 2 หมื่นราย สวนยางเสียหายกว่า 1.11 แสนไร่ คาดผลผลิตยางแห้งกระทบ 2.79 แสน กก...
21/11/2025

3 จังหวัดใต้จมน้ำ! เกษตรกรสวนยางเดือดร้อนกว่า 2 หมื่นราย สวนยางเสียหายกว่า 1.11 แสนไร่ คาดผลผลิตยางแห้งกระทบ 2.79 แสน กก.
จากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตอนกลางและตอนล่าง เกษตรกรชาวสวนยางได้รับผลกระทบจำนวนมาก ล่าสุดข้อมูล ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 มีดังนี้
เขตภาคใต้ตอนกลาง ได้แก่

นครศรีธรรมราช 18 อำเภอ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 6,300 ราย เนื้อที่สวนยาง 35,600 ไร่ ปริมาณผลผลิตยางแห้งคาดได้รับผลกระทบ 106,800 กก.
👉 กยท. อนุมัติสนับสนุนปัจจัยยังชีพ 1,290,000 บาท
พัทลุง 11 อำเภอ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 8,500 ราย เนื้อที่สวนยาง 47,980 ไร่ ปริมาณผลผลิตยางแห้งคาดได้รับผลกระทบ 143,940 กก.
👉 กยท. อนุมัติสนับสนุนปัจจัยยังชีพ 120,000 บาท
เขตภาคใต้ตอนล่าง

ปัตตานี 4 อำเภอ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 5,520 ราย เนื้อที่สวนยาง 27,595 ไร่ ปริมาณผลผลิตยางแห้งคาดได้รับผลกระทบ 28,699 กก.
กยท. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้การสนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกรทุกท่านอย่างเต็มที่ ทั้งการจัดส่งปัจจัยยังชีพ การให้คำปรึกษา และแนวทางฟื้นฟูสวนยางหลังน้ำลด เพื่อให้เกษตรกรสามารถกลับมาดูแลสวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสียหาย และฟื้นฟูรายได้ให้กลับมาสู่ครอบครัวอย่างมั่นคง
เกษตรสัญจรขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวสวนยางทุกท่าน ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้ พร้อมสู้ต่อไปด้วยความเข้มแข็ง
#สวนยาง #อุทกภัยภาคใต้ #เกษตรกรไทย #ช่วยเกษตรกร #กยท #ฟื้นฟูสวนยาง #เกษตรยั่งยืน #ภัยแล้งน้ำท่วม #ชาวสวนยาง #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
……………………………………
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

อยากทำฟาร์มสเตย์ ต้องเริ่มยังไง?พร้อมเทคนิคจัดพื้นที่และขออนุญาตแบบมือใหม่สำหรับเกษตรกรหรือเจ้าของฟาร์มที่กำลังมองหาโอกา...
21/11/2025

อยากทำฟาร์มสเตย์ ต้องเริ่มยังไง?
พร้อมเทคนิคจัดพื้นที่และขออนุญาตแบบมือใหม่
สำหรับเกษตรกรหรือเจ้าของฟาร์มที่กำลังมองหาโอกาสต่อยอดรายได้และเปิดฟาร์มให้ผู้คนได้เข้ามาสัมผัสวิถีเกษตร วันนี้เรามี คู่มือเริ่มต้นทำฟาร์มสเตย์ พร้อมเทคนิคการจัดการพื้นที่ให้สะดวกและปลอดภัย ตลอดจนขั้นตอนการขออนุญาตแบบละเอียด เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับโพสต์ลงเฟซบุ๊กและแชร์ให้เพื่อนเกษตรกร เริ่มต้นได้แบบไม่สับสน และสามารถต่อยอดสร้างรายได้จากฟาร์มได้อย่างยั่งยืน
ทำความเข้าใจกับแนวคิด Farm Stay
Farm Stay คือการเปิดฟาร์มให้ผู้คนเข้ามาเรียนรู้และสัมผัสวิถีชีวิตเกษตร พร้อมทั้งสามารถพักค้างคืนได้ การทำฟาร์มสเตย์ช่วยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้ขายผลผลิตจากฟาร์ม และส่งเสริมการเกษตรเชิงนิเวศ
ขั้นตอนการขออนุญาต
1. ตรวจสอบโซนพื้นที่ ก่อนเริ่มทำ Farm Stay ต้องตรวจสอบว่าพื้นที่อนุญาตให้จัดกิจกรรมท่องเที่ยวได้หรือไม่ โดยติดต่อสำนักงานเทศบาล อบต. หรือกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อตรวจสอบข้อกฎหมายอย่างรอบคอบ
2. ขออนุญาตโรงแรมหรือที่พักขนาดเล็ก Farm Stay จัดอยู่ในประเภทที่พักขนาดเล็ก จึงต้องยื่นขออนุญาตประเภทโรงแรมขนาดเล็กหรือโฮมสเตย์ พร้อมเตรียมเอกสาร เช่น แผนผังพื้นที่ หลักฐานความปลอดภัย และระบบสาธารณูปโภค
3. ประกันและมาตรฐานความปลอดภัย ควรทำประกันภัยสำหรับนักท่องเที่ยว และตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยทั้งหมด เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำประปา และเส้นทางหนีภัย เพื่อให้ผู้เข้าพักมั่นใจและปลอดภัยตลอดเวลา
การจัดการพื้นที่ต้อนรับนักท่องเที่ยว
1. พื้นที่พักผ่อนควรจัดโซนห้องพักหรือเต็นท์ให้สะอาด ปลอดภัย และเหมาะสมสำหรับการพักค้างคืนของนักท่องเที่ยว
2. พื้นที่กิจกรรม ควรสร้างมุมเกษตรสำหรับเรียนรู้และสัมผัสวิถีเกษตร เช่น การปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ หรือทำปุ๋ยหมัก ให้ผู้เข้าพักมีส่วนร่วมและเข้าใจวิถีเกษตรอย่างแท้จริง
3. สิ่งอำนวยความสะดวก ควรจัดให้มีห้องน้ำสะอาด ที่จอดรถเพียงพอ และป้ายแนะนำฟาร์ม เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัย
4. ประสบการณ์ผู้เข้าพัก ควรออกแบบกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การทำอาหารจากวัตถุดิบในฟาร์ม หรือการเก็บผลผลิตเอง เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ประสบการณ์สนุกและจดจำฟาร์มได้ยาวนาน
เทคนิคเพิ่มความน่าสนใจ
1. สร้าง Story ของฟาร์ม โดยออกแบบเรื่องราวของฟาร์มให้ผู้เข้าพักรู้สึกใกล้ชิดกับวิถีเกษตร และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความทรงจำที่ดี
2. การถ่ายภาพและวิดีโอ ควรถ่ายรูปและทำวิดีโอสั้นสำหรับโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เพื่อสื่อสารบรรยากาศของฟาร์มและดึงดูดผู้สนใจเข้าพัก
3. จัดทำคู่มือหรือแผนที่ฟาร์มให้ผู้เข้าพักสามารถเดินชมพื้นที่ได้สะดวก เข้าใจง่าย และไม่พลาดกิจกรรมสำคัญของฟาร์ม
การเริ่มทำ Farm Stay ไม่ใช่เรื่องยาก หากเริ่มจากการตรวจสอบกฎหมายและขออนุญาตอย่างถูกต้อง จากนั้นจัดการพื้นที่ให้เหมาะสม ปลอดภัย และสะดวกสบายสำหรับผู้เข้าพัก พร้อมทั้งออกแบบกิจกรรมและประสบการณ์ที่น่าสนใจ ทำให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้และสัมผัสวิถีเกษตรอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังช่วยต่อยอดรายได้จากฟาร์มได้อย่างยั่งยืน ทำให้ทั้งฟาร์มและนักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดีไปพร้อมกันครับ
#ฟาร์มสเตย์ #ฟาร์มท่องเที่ยว #ท่องเที่ยวเชิงเกษตร #เที่ยวฟาร์ม #วิถีเกษตร #ฟาร์มเพื่อการเรียนรู้ #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
……………………………………
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

เปิด 10 จังหวัดต้นแบบ! ต่อยอด 'ไบโอชาร์' ช่วยเกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ดินดีขึ้น สู้ภัยแล้ง ลดต้นทุนสืบเนื่องจากกรมส่งเสริมกา...
21/11/2025

เปิด 10 จังหวัดต้นแบบ! ต่อยอด 'ไบโอชาร์' ช่วยเกษตรกรมีรายได้เพิ่ม ดินดีขึ้น สู้ภัยแล้ง ลดต้นทุน
สืบเนื่องจากกรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินโครงการศึกษาการจัดการดิน ปุ๋ย และน้ำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อปี 2564 ในพื้นที่ 10 จังหวัด เป็นการศึกษาการใช้ไบโอชาร์หรือถ่านชีวภาพจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดิน พบว่า
การผลิตไบโอชาร์สามารถลดปริมาณวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และนำไปใช้ประโยชน์ในการบำรุงดิน เกษตรกรสามารถวางแผนจัดการดิน ปุ๋ย และน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เกิดเป็นต้นแบบเกษตรกรและยังได้ขยายผลการใช้ถ่านชีวภาพดังกล่าวแก่เกษตรกรรายอื่น
นายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ส่งเสริมให้เกษตรกรจัดการเศษวัสดุการเกษตรอย่างเหมาะสม โดยถ่ายทอดความรู้และสร้างทางเลือกในการจัดการเศษวัสดุการเกษตรให้เกิดมูลค่าเพิ่มและเป็นประโยชน์แก่เกษตรกร ซึ่งการผลิตและใช้ถ่านชีวภาพเป็นทางเลือกที่ช่วยจัดการพื้นที่เกษตรทั้งด้านดิน ปุ๋ย และน้ำให้แก่เกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดต้นทุน และเพิ่มรายได้จากผลผลิตการเกษตร ตัวอย่างกลุ่มเกษตรกรที่ผลิตและใช้ถ่านชีวภาพหรือไบโอชาร์ สามารถลดต้นทุนค่าปุ๋ยลงได้ประมาณ 500 – 1800 บ./ไร่/ปี และลดความถี่ในการให้น้ำทำให้ประหยัดรายจ่ายค่าสูบน้ำรวมประมาณ 300 – 400 บ./เดือน ปัจจุบันได้ขยายผลการผลิตและใช้ถ่านชีวภาพโดยเกษตรกรจาก 10 จังหวัดต้นแบบเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรเครือข่ายศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) และสมาชิกเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมการใช้ถ่านชีวภาพกับพืชมูลค่าสูงอย่างทุเรียนในจังหวัดชุมพรและบุรีรัมย์ด้วย
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงประโยชน์ของถ่านชีวภาพว่า ถ่านชีวภาพหรือไบโอชาร์ช่วยลดต้นทุนการเกษตรในการใส่ปุ๋ย บำรุงดิน และการให้น้ำแก่พืช เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นรูพรุนตามธรรมชาติ เมื่อบดใส่ลงดิน จะช่วยเพิ่มการระบายอากาศ เป็นที่อยู่และเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ ลดความเป็นกรด กักเก็บน้ำและดูดยึดธาตุอาหารจากปุ๋ยได้นานขึ้น จึงช่วยประหยัดรายจ่าย ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้จากผลผลิต ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถผลิตถ่านชีวภาพหรือไบโอชาร์ได้ด้วยตนเอง
ขั้นตอนการผลิตถ่านชีวภาพ
1) นำวัสดุที่ต้องการจะเผาเป็นถ่านชีวภาพมาตากแดดให้แห้งหรือมีความชื้นน้อยที่สุด
2) ตัดให้มีขนาดความยาวไม่เกินขนาดความสูงของถัง กรณีที่วัสดุเป็นเนื้อไม้ เช่น ยูคาลิปตัส ไม้กระถิน ควรตัดไม้ให้มีความยาวไม่เกิน 20 - 30 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับขนาดของไม้ถ้าไม้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 2 นิ้ว ควรผ่าไม้ให้มีขนาดเล็กลง เช่น ผ่าไม้ให้เป็น 4 ส่วน หรือ 6 ส่วน โดยให้มีขนาดใกล้เคียงกัน นำไม้มาบรรจุในถังวางเรียงในแนวตั้งควรวางให้เต็มถังแล้วปิดฝาล็อกให้แน่น
3) ใช้ก้อนอิฐ หรือขาเหล็ก วางรองด้านล่างของตัวถัง ให้อยู่สูงจากพื้นประมาณ 3 เซนติเมตร เพื่อให้ความร้อนผ่านได้ซึ่งจะทำให้ถังที่บรรจุวัสดุได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง
4) นำวัสดุบรรจุใส่ด้านในถังที่เป็นเตาเผาถ่านชีวภาพ
5) นำวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงมาใส่ให้รอบและพยายามเรียงไม้เชื้อเพลิงในแนวนอน ให้แน่น เพื่อให้ความร้อนกระจายในเตาเผาได้อย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ อัตราส่วนของเชื้อเพลิง กับน้ำหนักของวัสดุที่ใช้ผลิตถ่านชีวภาพอัตราส่วน 1:1
6) จุดไฟในเตาด้านบนของวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงให้รอบจนไฟติดเชื้อเพลิงหลักเสียก่อน ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
7) ปิดฝาถังเตาเผา ขณะทำการเผาจะต้องสังเกตควันไฟที่ออกจากปล่อง ถ้าไม่มีควันลอยขึ้นหรือมีน้อยต้องแก้ไขโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไฟดับ โดยสังเกตที่ช่องอากาศด้านล่าง ถ้ามีเศษไม้ปิดช่องอากาศ ต้องทำให้อากาศเข้าได้
8) โดยปกติการเผาถ่านชีวภาพ ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุที่ใช้ เพื่อความปลอดภัยในการทำงานควรปล่อยให้เตาเผาเย็นในสภาพอากาศปกติก่อนที่จะเปิดฝาเตา
9) นำถังที่อยู่ด้านในออก จะได้ถ่านชีวภาพน้ำหนัก ประมาณ 1 ต่อ 3 ของน้ำหนักวัสดุก่อนทำการเผา
10) เนื่องจากถ่านชีวภาพมีน้ำหนักเบา การนำไปใช้ในพื้นที่การเกษตร ต้องทำให้ มีขนาดเล็กลง โดยการบดหรือย่อย
ให้มีขนาด ประมาณ 3 - 5 มิลลิเมตร เมื่อผสมคลุกเคล้ากับดินจะกระทำได้ง่ายและทำหน้าที่ดูดซับน้ำและธาตุอาหารได้เร็วขึ้น
กรมส่งเสริมการเกษตร จึงแนะนำให้พี่น้องเกษตรกรจัดการเศษวัสดุการเกษตรโดยการผลิตและใช้ถ่านชีวภาพหรือไบโอชาร์ ซึ่งมีขั้นตอนการผลิตได้เองในพื้นที่เพาะปลูก และเมื่อผลิตได้แล้วเกษตรกรสามารถนำถ่านดังกล่าวใส่กระสอบเพื่อบดและใส่ลงในแปลงปลูกพืชได้ในอัตราส่วนที่เหมาะสมที่ปริมาณ 2 ตัน/ไร่ ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน
#ไบโอชาร์ #ถ่านชีวภาพ #ลดต้นทุนการเกษตร #เกษตรยั่งยืน #จัดการเศษวัสดุเกษตร #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
……………………………………
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

21/11/2025

“เริ่มธุรกิจเกษตรอย่างมั่นคง เคล็ดลับเกษตรยั่งยืน”
อยากเริ่มธุรกิจเกษตรแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? คลิปนี้สรุป แนวทางวางแผน การจัดการ และเทคนิคทำฟาร์มให้ยั่งยืน 🌱 #ธุรกิจเกษตร #เกษตรยั่งยืน #เริ่มฟาร์ม #เกษตรยุคใหม่ #เทคนิคเกษตร #วางแผนฟาร์ม #การจัดการฟาร์ม #เกษตรสัญจร

เปลี่ยนฟางธรรมดาสู่ “อาหารสัตว์คุณภาพสูง” รับมือช่วงหน้าแล้งหน้าแล้งใกล้เข้ามา หลายฟาร์มเริ่มกังวลว่าอาหารหยาบจะพอไหม? ช...
21/11/2025

เปลี่ยนฟางธรรมดาสู่ “อาหารสัตว์คุณภาพสูง” รับมือช่วงหน้าแล้ง
หน้าแล้งใกล้เข้ามา หลายฟาร์มเริ่มกังวลว่าอาหารหยาบจะพอไหม? ช่วงนี้หญ้าเริ่มโตช้า แหล่งอาหารธรรมชาติลดลง ทำให้โค กระบือเสี่ยงได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ แต่รู้ไหมว่า ฟางข้าวที่ถูกกองไว้หลังการเก็บเกี่ยว สามารถเปลี่ยนเป็นอาหารสัตว์คุณภาพสูงได้ เพียงใช้เทคนิคง่าย ๆ ฟางข้าวธรรมดา ๆ ก็กลายเป็นอาหารที่ย่อยง่าย สัตว์กินได้มากขึ้น และช่วยลดต้นทุนในช่วงหน้าแล้งได้อย่างเห็นผล และนี่คือ เทคนิคเพิ่มคุณภาพฟางข้าวให้กลายเป็นอาหารสัตว์ชั้นดี ที่เกษตรกรยุคใหม่ไม่ควรมองข้ามครับ
ทำไมต้องแปรรูปฟางข้าวก่อนใช้เลี้ยงสัตว์?
แม้ฟางข้าวจะหาได้ง่ายในฟาร์ม แต่ตามธรรมชาติแล้วมีโปรตีนต่ำและย่อยได้ยาก ทำให้สัตว์ได้รับประโยชน์ไม่มากหากให้กินแบบดิบ ๆ การแปรรูปฟางข้าวจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการหมักหรือการเติมสารอาหารจะช่วยให้ฟางนุ่มขึ้น ย่อยง่ายขึ้น เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และกระตุ้นให้สัตว์กินได้มากกว่าเดิม ส่งผลให้ฟาร์มสามารถลดต้นทุนอาหารหยาบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังคงคุณภาพการเลี้ยงในช่วงหน้าแล้งได้ดีอีกด้วย
เทคนิคเพิ่มคุณภาพฟางข้าวให้กลายเป็นอาหารสัตว์ชั้นดี

1. หมักฟางข้าวด้วยยูเรีย 3-5%
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะช่วยเพิ่มโปรตีนย่อยให้ฟางข้าวหลายเท่า เพียงผสมยูเรียให้ละลายในน้ำ แล้วราดลงบนฟางให้ชุ่มก่อนอัดแน่นในถุงหรือหลุมหมักและปิดให้สนิทประมาณ 21 วัน ก็จะได้ฟางหมักที่นุ่มขึ้น ย่อยง่ายขึ้น สัตว์กินได้ดีขึ้น และช่วยประหยัดค่าอาหารสัตว์ได้

2. ใช้จุลินทรีย์หมักฟาง
เป็นตัวเลือกสำหรับเกษตรกรที่อยากหลีกเลี่ยงยูเรีย โดยใช้น้ำผสมน้ำตาลและ EM ราดลงบนฟาง จากนั้นหมักจนได้ฟางที่มีกลิ่นหอม ย่อยง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มการกินของสัตว์อย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฟาร์มที่ต้องการลดสารเคมีและเน้นการใช้จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลายเส้นใย

3. ผสมฟางกับอาหารเสริมเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
เป็นวิธีที่ช่วยยกระดับคุณภาพอาหารสำหรับวัวขุน โคแม่พันธุ์ และกระบือ โดยการนำฟางข้าวมาผสมกับวัตถุดิบเสริมอย่างกากถั่วเหลือง กากปาล์ม หรือรำ ทำให้ได้อาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูงขึ้น ช่วยเสริมสภาพร่างกายสัตว์และสนับสนุนการเจริญเติบโตได้ดีในช่วงหน้าแล้งที่แหล่งอาหารธรรมชาติมีจำกัด
เมื่อเตรียมฟางหมักแล้ว ควรเปิดกองทิ้งไว้เล็กน้อยก่อนให้สัตว์กิน ค่อย ๆ ปรับจากฟางปกติเป็นฟางหมักทีละน้อย และเก็บฟางไว้ในที่ร่มเพื่อคงคุณภาพ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้สัตว์กินได้ดีขึ้นและปรับตัวได้ง่าย ทำให้เกษตรกรลดต้นทุนอาหารสัตว์ เพิ่มน้ำหนักได้ดี ป้องกันปัญหาอาหารขาดช่วงหน้าแล้ง และใช้ทรัพยากรในฟาร์มได้อย่างคุ้มค่าครับ
#ฟางข้าว #อาหารสัตว์คุณภาพสูง #เทคนิคเกษตร #หมักฟางข้าว #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
……………………………………
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

21/11/2025

“เคล็ดลับปลูกอะโวคาโดให้ขายดี ตรงใจผู้บริโภค”
อยากปลูกอะโวคาโดให้ผลผลิตดี ขายได้ง่าย และถูกใจตลาด? คลิปนี้สรุป เทคนิคการดูแล ปลูก และจัดการผลผลิต ให้โดนใจผู้บริโภค เหมาะกับเกษตรกรยุคใหม่ 🌱🥑 #ปลูกอะโวคาโด #อะโวคาโด #เคล็ดลับเกษตร #เกษตรยุคใหม่ #เทคนิคเกษตร #ฟาร์มอะโวคาโด #เกษตรสัญจร

21/11/2025

จุดล้มปาล์มแปลงราชบุรีโมเดล
หมู่ที่ 10ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ได้มีนโยบายตรวจสอบการถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย และนำมาจัดสรรที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร ผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส

โดยสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ดำเนินการตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ที่มีการถือครองที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กระทำฝ่าฝืน หรือไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด จำนวน 165 ราย 166 แปลง เนื้อที่ประมาณ 6,500 ไร่ อยู่หมู่ที่ 10 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ตั้งอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน โครงการป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี หมายเลข 85 ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ป่าสวนแห่งชาติ ที่กรมป่าไม้ได้ส่งมอบพื้นที่ให้นำมาปฏิรูปที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2536 สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรี (ส.ป.ก.ราชบุรี) ได้ดำเนินการเพิกถอนการจัดที่ดินหรือให้เกษตรกรสิ้นสิทธิการทำประโยชน์ในที่ดิน

และนำที่ดินมาจัดให้กับเกษตรกรผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ซึ่ง ส.ป.ก.ราชบุรี ได้ประกาศให้เกษตรกรที่มีคุณสมบัติยื่นคำขอรับการจัดที่ดินแล้ว ในระยะแรก เนื้อที่ 2,088 ไร่ มีผู้ยื่นคำขอ จำนวนกว่า 3,300 คำขอ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ และดำเนินการตามขั้นตอนประชาคมหมู่บ้าน และปรับพื้นที่ที่ดินให้เหมะสมกับการเกษตรและล้มปาล์ม คาดว่าจะสามารถจัดที่ดินให้กับเกษตรกรจำนวน 152 ราย เนื้อที่ 1,520 ไร่ และพื้นที่แหล่งน้ำ และพื้นที่กันไว้เป็นพื้นที่ป่ากันชน ทั้งนี้ เกษตรกรจะได้รับสิทธิการเช่าที่ดิน ในอัตราไร่ละ100 บาทต่อปี

ที่อยู่

123/158 หมู่ 4
Bangkok
10230

เบอร์โทรศัพท์

+66814251455

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เกษตรสัญจรผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง เกษตรสัญจร:

แชร์