เกษตรสัญจร

  • Home
  • เกษตรสัญจร

เกษตรสัญจร เกษตรสัญจร สื่อเกษตรยุคใหม่ แหล่งข้อมูลสาระที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง

23/07/2025

เปิดฉากวันแรกอย่างยิ่งใหญ่! กับบรรยากาศงาน “CIAME ASIA 2025” มหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรระดับเอเชีย ที่จัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย
.
รวมสุดยอดนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรจากจีน มาให้คนไทยได้สัมผัสแบบใกล้ชิด จัดเต็มทั้งเทคโนโลยี เครื่องมือ และโซลูชันสำหรับภาคเกษตรยุคใหม่
.
งานนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง สมาคม CAMDA จากจีน และ สมาคมวิศวกรรมเกษตรแห่งประเทศไทย พร้อมพันธมิตรที่ตั้งใจผลักดันภาคเกษตรไทยสู่อนาคต
.
โดย Mr. Fan Jianhua ประธานสมาคม CAMDA กล่าวไว้ชัดเจนว่า
✅ งานนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน
✅ เปิดโอกาสให้เกษตรกรไทยเข้าถึงเทคโนโลยีจากจีน
✅ พัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรของทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืน
.
ใครที่อยากอัปเดตเทคโนโลยีเกษตรล้ำ ๆ แบบไม่ต้องบินไปไกลถึงจีน ต้องมาให้ได้!
📍 งานจัดระหว่างวันที่ 23-25 กรกฎาคม 2025
ที่ HALL 8 อิมแพค เมืองทองธานี
สามารถลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้าได้เลย
.
#เทคโนโลยีการเกษตร #เกษตรทันสมัย #เครื่องจักรเกษตร #เกษตรยุคใหม่ #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
…………………………………….
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

“น้ำฝน” เพื่อนแท้ของดินและพืช ถ้ารู้จักจัดการให้ถูกวิธีหน้าฝน ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเกษตรกร เพราะน้ำฝนเป็นแหล่งน้...
23/07/2025

“น้ำฝน” เพื่อนแท้ของดินและพืช
ถ้ารู้จักจัดการให้ถูกวิธี
หน้าฝน ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเกษตรกร เพราะน้ำฝนเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ช่วยฟื้นฟูดินและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างยั่งยืน แต่การจัดการน้ำฝนให้ถูกวิธีนั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อป้องกันปัญหาน้ำขัง น้ำท่วม และรักษาคุณภาพของดิน การรู้วิธีจัดการน้ำฝนอย่างเหมาะสม จึงช่วยให้เราใช้ประโยชน์จากฝนได้เต็มที่ และป้องกันความเสียหายไปพร้อมกัน
น้ำฝนช่วยฟื้นฟูดินอย่างไร?
1. เติมน้ำและความชื้นในดิน
น้ำฝนซึมเข้าสู่ดิน ช่วยเพิ่มความชื้นที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของรากพืช น้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ดินมีชีวิตชีวาและพืชสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น

2. ช่วยกระจายธาตุอาหารในดิน
น้ำฝนช่วยละลายแร่ธาตุต่าง ๆ ในดิน ทำให้ธาตุอาหารอย่างไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมเคลื่อนที่เข้าสู่ระบบรากพืชได้ง่ายขึ้น

3. กระตุ้นจุลินทรีย์ในดิน
ความชื้นจากฝนช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดีในดิน เช่น แบคทีเรียและเชื้อราที่ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น

4. ลดการสะสมของสารพิษและเค็มในดิน
น้ำฝนช่วยล้างเกลือและสารพิษที่อาจสะสมในดิน ลดปัญหาดินเค็ม และทำให้สภาพแวดล้อมของรากพืชดีขึ้น
เทคนิคการจัดการน้ำฝนในแปลงเกษตร
1. สร้างระบบระบายน้ำและร่องน้ำ ควรออกแบบร่องน้ำให้มีความลาดเอียงพอดี เพื่อให้น้ำฝนไหลระบายออกจากแปลงได้เร็วและไม่เกิดน้ำขัง
2. ใช้ระบบเก็บกักน้ำฝน โดยเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง เช่น ทำบ่อพักน้ำ ฝนช่วยประหยัดน้ำและเสริมแหล่งน้ำธรรมชาติ
3. ปลูกพืชคลุมดิน เพื่อช่วยป้องกันการชะล้างหน้าดิน ลดการสูญเสียดินอันมีค่าขณะฝนตกหนัก และช่วยเก็บความชื้นในดิน
4. ใช้วัสดุคลุมดิน โดยคลุมหน้าดินด้วยฟาง หญ้า หรือวัสดุอินทรีย์ เพื่อลดการระเหยน้ำจากดิน และรักษาความชื้นให้ดินอยู่ได้นานขึ้น
5. การจัดการดินเพื่อเพิ่มการซึมน้ำ โดยปรับโครงสร้างดินให้ร่วนซุยด้วยการเติมอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยหมัก หรือวัสดุปรับสภาพดิน เพื่อให้น้ำฝนซึมลงสู่ดินได้ดีขึ้น
น้ำฝนมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช แต่การจัดการน้ำฝนอย่างมีประสิทธิภาพก็ช่วยป้องกันปัญหาน้ำท่วมและรักษาคุณภาพดิน การนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้จะช่วยเพิ่มผลผลิตและความยั่งยืนให้กับการทำเกษตรของได้อย่างมั่นคงมากขึ้นครับ
#หน้าฝน #จัดการน้ำฝน #ฝนกับเกษตร #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
…………………………………….
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

23/07/2025

CIAME ASIA 2025 งานแสดงสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรนานาชาติ
#เกษตรสัญจร

23/07/2025

CIAME ASIA 2025 งานแสดงสินค้าเครื่องจักรกลการเกษตรนานาชาติ
#เกษตรสัญจร

ฝนตกไม่หยุด แปลงผักชื้นแฉะ! เกษตรกรควรรับมืออย่างไร?ในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน ความชื้นสะสมในแปลงผักอ...
23/07/2025

ฝนตกไม่หยุด แปลงผักชื้นแฉะ!
เกษตรกรควรรับมืออย่างไร?
ในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกต่อเนื่องหลายวันติดต่อกัน ความชื้นสะสมในแปลงผักอาจก่อให้เกิดปัญหาหนัก ทั้ง โรครากเน่า โคนเน่า ใบจุด ใบไหม้ และยังทำให้พืชเจริญเติบโตได้ช้าลงอีกด้วย วันนี้เกษตรสัญจรมี 5 วิธีลดความชื้นในแปลงผัก ที่ได้ผลดี ช่วยให้ผักรอด ปลอดโรค และเติบโตแข็งแรง มาฝากครับ
1. ปรับหน้าดินให้ระบายน้ำดีขึ้น
การยกแปลงผักให้สูงกว่าระดับพื้นดินจะช่วยให้น้ำสามารถไหลออกได้เร็วขึ้น พร้อมทั้งปรับสภาพดินด้วยการพรวนลึกและเติมวัสดุอย่างทรายหยาบหรือแกลบดำลงไปในหน้าดิน เพื่อเพิ่มช่องว่างระบายน้ำและลดการสะสมความชื้น
2. ทำระบบระบายน้ำรอบแปลง
การจัดการระบบระบายน้ำรอบแปลงเป็นสิ่งสำคัญในช่วงฝนตกต่อเนื่อง โดยการขุดร่องน้ำลึกบริเวณข้างแปลงผัก และเสริมด้วยการวางท่อ PVC หรือท่อแบบง่ายเพื่อช่วยให้น้ำไหลออกจากพื้นที่ได้สะดวก ลดปัญหาน้ำขังและการสะสมของเชื้อราในหน้าดิน
3. ใช้ฟางข้าวคลุมแปลง
การคลุมแปลงผักด้วยฟางข้าวเป็นวิธีที่ช่วยลดความชื้นในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะฟางข้าวสามารถซับน้ำ ป้องกันการชะล้างหน้าดิน และลดการกระเด็นของหยดน้ำที่อาจพาเชื้อโรคกระจายไปทั่วแปลง ทั้งนี้ควรเลือกใช้ฟางที่แห้งสนิทและไม่มีเชื้อรา เพื่อความปลอดภัยของพืชผักและสุขภาพของผู้บริโภค
4. ปลูกพืชแบบยกแปลงหรือในกระบะปลูก
การปลูกพืชในแปลงยกสูงหรือใช้กระบะปลูกเป็นทางเลือกที่ช่วยควบคุมระดับน้ำและความชื้นในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงฝนตกต่อเนื่อง วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งกับพืชผักกินใบ เช่น ผักกาด คะน้า หรือผักชี เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากน้ำขังและโรครากเน่าได้ดี
5. เลือกช่วงเวลารดน้ำให้เหมาะสม
ในช่วงที่ฝนตกบ่อยควรหลีกเลี่ยงการรดน้ำเพิ่มเติม เพราะอาจทำให้ดินชื้นเกินไปจนเกิดปัญหาโรครากเน่าได้ ควรตรวจสอบความชื้นในดินก่อนตัดสินใจรดน้ำ โดยใช้นิ้วจิ้มลงไปลึกประมาณ 5-10 เซนติเมตร หากยังรู้สึกชื้นอยู่ควรเว้นการรดน้ำไว้ก่อน เพื่อลดความเสี่ยงที่พืชจะได้รับน้ำมากเกินความจำเป็น
การใช้สารชีวภาพอย่างเชื้อไตรโคเดอร์มาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยควบคุมการระบาดของเชื้อราในดินได้ดี โดยไม่กระทบต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยกรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำให้ผสมเชื้อไตรโคเดอร์มากับปุ๋ยหมักหรือราดบริเวณโคนต้นทุก 7 วันในช่วงหน้าฝน เพื่อควบคุมโรคพืชที่มากับความชื้นสะสม
การดูแลแปลงผักในช่วงฝนตกต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องยาก หากมีการวางแผนล่วงหน้าและปรับพื้นที่ให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ก็จะช่วยลดปัญหาโรคพืช รักษาคุณภาพผลผลิต และทำให้ผักเติบโตได้ดีตลอดฤดูฝนอย่างมั่นใจครับ
#ลดความชื้นแปลงผัก #จัดการแปลงผักหน้าฝน #แปลงผักปลอดโรค #ปลูกผักหน้าฝน #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
…………………………………….
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

“เมื่อฟ้าฝนไม่เป็นใจ ก็ต้องใช้ใจสู้แทน” #ใจเกษตรกร  #สู้ไปกับฝน  #เกษตรไม่ยอมแพ้  #สาระความรู้คนทำเกษตร  #เกษตรกรไทย  #เ...
22/07/2025

“เมื่อฟ้าฝนไม่เป็นใจ ก็ต้องใช้ใจสู้แทน”
#ใจเกษตรกร #สู้ไปกับฝน #เกษตรไม่ยอมแพ้ #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
…………………………………….
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

รวมพืชคลุมดินปลูกง่าย โตเร็ว ไม่แย่งอาหารพืชหลักในยุคที่เกษตรกรต้องประหยัดต้นทุน ฟื้นฟูดิน และลดการใช้สารเคมี “พืชคลุมดิ...
22/07/2025

รวมพืชคลุมดินปลูกง่าย โตเร็ว
ไม่แย่งอาหารพืชหลัก
ในยุคที่เกษตรกรต้องประหยัดต้นทุน ฟื้นฟูดิน และลดการใช้สารเคมี “พืชคลุมดิน” จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ควรมีในสวนหรือไร่นา เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันวัชพืช ลดการพังทลายของหน้าดินแล้ว ยังเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้กับดินได้อย่างยั่งยืน แต่จะเลือกปลูกพืชคลุมดินอะไรดี ที่ ปลูกง่าย โตเร็ว และไม่แย่งอาหารพืชหลัก? เกษตรสัญจรได้รวมมาให้แล้วกับ 5 พืชคลุมดินยอดนิยมที่เหมาะสำหรับสวนผสม สวนผลไม้ และไร่นา มาฝากกันครับ
1. ถั่วพร้า
ถั่วพร้าเป็นพืชตระกูลถั่วที่นิยมใช้คลุมดินในสวนไม้ผล เช่น สวนมะม่วง มะนาว หรือทุเรียน เพราะมีคุณสมบัติเหลือเชื่อในการช่วยตรึงไนโตรเจนจากอากาศเข้าสู่ดิน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมาก พืชชนิดนี้โตเร็ว งอกง่าย ทนแล้งได้ดี และสามารถคลุมพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดปัญหาหญ้าวัชพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ถั่วมะแฮะ
อีกหนึ่งพืชตระกูลถั่วที่นิยมปลูกในช่วงพักดิน หรือก่อนเริ่มปลูกพืชหลักรอบใหม่ ถั่วมะแฮะมีลำต้นสูงและช่วยเติมอินทรีย์วัตถุให้ดินได้ดี เมื่อตัดสับคลุกดินจะกลายเป็นปุ๋ยพืชสดที่อุดมไปด้วยอินทรีย์วัตถุ เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างดินให้โปร่ง ร่วนซุย และเก็บความชื้นได้ดี
3. ถั่วพุ่ม
ถั่วพุ่มเป็นพืชอายุสั้น ใช้เวลาไม่นานในการเจริญเติบโต จึงไม่แย่งน้ำหรือสารอาหารจากพืชหลักมากนัก เหมาะสำหรับปลูกแซมระหว่างแถวพืชผัก พืชไร่ หรือในระบบสวนผสม พืชชนิดนี้ช่วยตรึงไนโตรเจน พร้อมทั้งปกคลุมหน้าดินเพื่อลดวัชพืชและเมื่อสิ้นอายุสามารถตัดทิ้งหรือไถกลบได้ทันที
4. สาบแร้งสาบกา
แม้จะเป็นพืชที่หลายคนมองว่าเป็นวัชพืช แต่ในทางเกษตรกรรมยั่งยืน สาบแร้งสาบกา ถูกนำมาใช้เป็นพืชคลุมดินในพื้นที่ที่ต้องการฟื้นฟูดิน เพราะสามารถ เจริญเติบโตได้เร็ว คลุมหน้าดินได้เต็มพื้นที่ เมื่อโตเต็มที่สามารถตัดสับคลุกดินเพื่อเพิ่มอินทรีย์วัตถุ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสื่อมโทรมของดินสูง
5. ปอเทือง
ปอเทืองเป็นพืชที่ปลูกง่ายและนิยมมากในฤดูฝน โตเร็ว ให้ต้นและใบจำนวนมาก เมื่อตัดคลุกดินจะช่วยปรับโครงสร้างดินให้โปร่ง ร่วนซุย และย่อยสลายง่าย และคืนธาตุอาหารโดยเฉพาะไนโตรเจนสู่ดิน มักใช้ปลูกก่อนปลูกพืชหลัก หรือปลูกแซมในช่วงว่างเว้นการผลิต ช่วยลดการพังทลายหน้าดินได้ดีมาก
เทคนิคการปลูกคลุมดินให้ได้ผล
1. ไถเตรียมแปลงเบา ๆ ไม่ต้องลึก เพียงพอให้เมล็ดสัมผัสดิน
2. เลือกพืชคลุมดินให้เหมาะกับฤดูกาลและชนิดพืชหลัก
3. ตัดหรือไถกลบ ก่อนพืชคลุมดินออกดอกเต็มที่ เพื่อไม่ให้แย่งน้ำและธาตุอาหาร
4. หากปลูกแซมในสวนไม้ผล ให้เว้นระยะห่างจากโคนต้นไม้ 1-2 เมตร
การปลูกพืชคลุมดินช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานและการกำจัดวัชพืชได้อย่างมาก พร้อมทั้งช่วยฟื้นฟูดิน เพิ่มอินทรีย์วัตถุ ปรับโครงสร้างดินให้ร่วนซุย และช่วยตรึงธาตุอาหารสำคัญอย่างไนโตรเจนไว้ในดิน นอกจากนี้ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้น ลดอุณหภูมิของหน้าดิน และทำให้สภาพแวดล้อมในแปลงปลูกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากเลือกชนิดให้เหมาะสมและดูแลอย่างถูกวิธี ก็จะกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การทำเกษตรยั่งยืนยิ่งขึ้นครับ
#พืชคลุมดิน #ฟื้นฟูดิน #ปลูกพืชคลุมดิน #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
…………………………………….
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

22/07/2025

เกษตรสัญจรบุกส่วนมะพร้าวฉะเชิงเทราที่หอมและหวานที่สุดในโลกพร้อมพบกับงานวิจัยใหม่ภายใต้การสนับสนุนของ สวก.

ปลูกพืชแบบไม่ไถพรวนได้ผลจริงไหม? เหมาะกับพืชอะไรบ้างในยุคที่ดินเสื่อมโทรมจากการใช้สารเคมีหนักและการพรวนดินซ้ำซาก เกษตรกร...
22/07/2025

ปลูกพืชแบบไม่ไถพรวน
ได้ผลจริงไหม? เหมาะกับพืชอะไรบ้าง
ในยุคที่ดินเสื่อมโทรมจากการใช้สารเคมีหนักและการพรวนดินซ้ำซาก เกษตรกรจำนวนมากเริ่มหันมาสนใจการ ปลูกพืชแบบไม่ไถ ไม่พรวนดินซึ่งถือเป็นแนวทางเกษตรอนุรักษ์ที่ได้รับการส่งเสริมทั้งในไทยและต่างประเทศ คำถามคือ “ใช้ได้ผลจริงหรือ?” และ “พืชแบบไหนที่เหมาะกับวิธีนี้?” เรามาหาคำตอบกันครับ
การปลูกพืชแบบไม่พรวนดินคือ คือการปลูกพืชโดยไม่ไถหรือพรวนหน้าดิน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายโครงสร้างธรรมชาติของดิน ซึ่งในชั้นหน้าดินนั้นเต็มไปด้วยจุลินทรีย์ ไส้เดือน และอินทรียวัตถุที่มีคุณค่า หลักการสำคัญคือการ ลดการรบกวนดิน คลุมดินเพื่อรักษาความชื้น และเติมอินทรียวัตถุแทนการพรวน ทำให้ดินฟื้นตัวและอุ้มน้ำได้ดีขึ้นในระยะยาว
พืชที่เหมาะกับการปลูกแบบไม่ไถพรวน ได้แก่
1. พืชไร่ เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ถั่วเหลือง
2. พืชตระกูลถั่ว ที่ช่วยเติมไนโตรเจนให้ดิน เช่น ถั่วเขียว ถั่วพุ่ม
3. ผักกินใบ เช่น ผักบุ้ง คะน้า ผักสลัด (หากใช้ร่วมกับการคลุมดินอย่างเหมาะสม)
4. พืชสวน อย่างฟักทอง แตงโม ที่ปลูกในแปลงคลุมฟางได้ดี
พืชเหล่านี้สามารถเจาะหลุมหยอดเมล็ดหรือปลูกแบบหว่านบนหน้าดินที่คลุมวัสดุชีวมวลไว้ได้เลย โดยไม่ต้องพรวนดินทั้งแปลง
เทคนิคสำคัญของการปลูกพืชแบบไม่ไถ ไม่พรวนดิน
1. ไม่ไถ ไม่พรวน เทคนิคสำคัญของการปลูกพืชแบบไม่ไถ ไม่พรวนดิน คือการหลีกเลี่ยงการพลิกหน้าดินโดยไม่จำเป็น เพราะจะรบกวนจุลินทรีย์และทำลายอินทรียวัตถุที่มีประโยชน์ในดิน หากมีวัชพืชมากให้ใช้ฟางแห้งหรือหญ้าแห้งคลุมดินแทนการใช้สารเคมี วิธีนี้ช่วยรักษาสภาพดินให้อุดมสมบูรณ์และลดต้นทุนการจัดการแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. คลุมดินด้วยวัสดุธรรมชาติ เช่น ฟาง ใบไม้ แกลบดำ หรือเศษหญ้า ช่วยเก็บความชื้น ลดวัชพืช และเพิ่มอาหารให้จุลินทรีย์ในดิน
3. เจาะหลุมปลูกแบบเฉพาะจุดโดยใช้ไม้หรือเครื่องมือเจาะผ่านวัสดุคลุมดิน แล้วใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือจุลินทรีย์ชีวภาพก่อนหยอดเมล็ดหรือย้ายกล้าลงปลูกทันที
4. เสริมจุลินทรีย์ฟื้นฟูดิน ด้วยน้ำหมักชีวภาพ เช่น EM หรือหัวเชื้อจุลินทรีย์ ช่วยย่อยสลายอินทรียวัตถุ ทำให้ดินร่วนซุย โดยไม่ต้องพรวนดินบ่อยๆ
5. ปลูกพืชหมุนเวียนและคลุมดิน เช่น ปอเทืองหรือถั่วพร้า เพื่อฟื้นฟูดิน เพิ่มอินทรียวัตถุโดยไม่ต้องไถกลบหลังเก็บเกี่ยว ปล่อยให้ต้นพืชแห้งคลุมหน้าดิน ช่วยรักษาความชุ่มชื้นและลดวัชพืชได้ดี
แต่ “ไม่พรวนดิน” ไม่ได้หมายความว่าไม่ใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเลย เพราะในความเป็นจริง การเลือกใช้เครื่องจักรที่เหมาะสม โดยเฉพาะเครื่องมือที่ออกแบบมาสำหรับเกษตรแบบอนุรักษ์ เช่น รถไถที่ติดตั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงเฉพาะจุด เครื่องหยอดเมล็ดแบบแม่นยำ หรือเครื่องสำหรับคลุมฟางและพ่นจุลินทรีย์ชีวภาพ ยังคงมีบทบาทสำคัญ เครื่องจักรเหล่านี้ช่วยให้เกษตรกรทำงานได้รวดเร็วขึ้น ประหยัดแรงงาน และยังสามารถรักษาโครงสร้างของหน้าดินให้คงความอุดมสมบูรณ์ได้ในระยะยาว
แล้วรถไถยังจำเป็นไหม? คำตอบคือยังจำเป็นในหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมดินในขั้นตอนแรกก่อนเข้าสู่ระบบไม่พรวน การไถกลบพืชตอซังหรือพืชคลุมดิน รวมถึงการต่อพ่วงอุปกรณ์ช่วยปลูก พ่น ตัด หรือคลุมต่าง ๆ เครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่จึงไม่ได้มีไว้เพียงแค่การไถพรวนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในทุกขั้นตอนของการปลูกพืชอย่างยั่งยืน ทั้งในระบบเกษตรอนุรักษ์และเกษตรผสมผสานครับ
#ไม่ไถไม่พรวน #ฟื้นฟูดิน #ลดต้นทุน #เกษตรอินทรีย์ #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
…………………………………….
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

เปิด 4 ยุทธศาสตร์ แก้ปัญหาลำไยล้นตลาด เตรียมเสนอช่วยชาวสวนไร่ละ 1400 ไม่เกิน 10 ไร่นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการก...
21/07/2025

เปิด 4 ยุทธศาสตร์ แก้ปัญหาลำไยล้นตลาด เตรียมเสนอช่วยชาวสวนไร่ละ 1400 ไม่เกิน 10 ไร่
นายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดงานรวมพลคนลำไยเพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่การแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมระบุในระยะนี้ลำไยในฤดูของภาคเหนือออกสู่ตลาดแล้ว เริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่ต้นเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา และมีปริมาณการเก็บเกี่ยวรายวันเพิ่มสูงขึ้น โดยมีช่วงพีคในเดือนสิงหาคมนี้
ขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เตรียมการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ได้แก่
1. จัดทำข้อเสนอโครงการพัฒนาสวนลำไยคุณภาพ สนับสนุนเกษตรกรในการทำลำไยคุณภาพ วงเงิน 1,000 ล้านบาท สนับสนุนค่าตัดแต่งทรงพุ่ม ตัดแต่งกิ่ง ช่อดอก ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน และค่าปัจจัยการผลิต วัสดุการเกษตร ไร่ละ 400 บาท เพื่อให้เกษตรกรผลิตลำไย เกรด AA ได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ เพื่อแก้ปัญหาลำไยสู่ความยั่งยืนต่อไป
2. มาตรการสนับสนุนสินเชื่อ โดยจะเสนอโครงการสินเชื่อเพื่อซื้อลำไยเพื่อแปรรูปอบแห้งปลอดดอกเบี้ย ของกรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป้าหมายเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เกษตรกรแปลงใหญ่ ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการจัดทำมาตรการเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการรับซื้อลำไย เช่น การอุดหนุนผู้ประกอบการส่งออก และผู้ประกอบการโรงอบลำไย เพื่อให้ระบบโลจิสติกส์ลำไยเป็นไปด้วยความคล่องตัว สามารถส่งลำไยผลสดไปยังตลาดต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว ไม่กระจุกตัวในพื้นที่ เพราะหากการกระจายลำไยผลสดเกิดการติดขัดไม่สามารถส่งออกได้
3. มาตรการกระจายผลผลิต เสนอโครงการกระจายผลผลิตลำไยสด โดยสหกรณ์การเกษตรกระจายผลผลิต ไปสู่ตลาดต่างๆ ทั้งประสานบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในครั้งนี้ รวมถึงประสานบริษัทขนส่งในการกระจายผลผลิต การเพิ่มจุดจำหน่ายทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงประสานกระทรวงศึกษาธิการ กระจายผลผลิตในโรงเรียน และสนับสนุนมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ในการกระจายผลผลิตลำไยต่อไป
4. มาตรการแก้ไขปัญหาแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิตลำไย โดยจะประสานหน่วยงานความมั่นคง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายแรงงาน ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวลำไย โดยเฉพาะช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมกัน
ด้านนายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่าการจัดงานในครั้งนี้ มีเกษตรกรชาวสวนลำไยร่วมงานกว่า 6,000 คน นับเป็นการปลุกพลังให้กับเกษตรกร เดินหน้าลำไยคุณภาพ เพราะไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการปักธงเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระยะยาว ผ่านการยกระดับคุณภาพ สร้างมูลค่าเพิ่ม และวางระบบการตลาดที่ยั่งยืน
นอกจากนี้กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เดินหน้ายกระดับลำไยคุณภาพ โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบการผลิตที่มีมาตรฐาน GAP เร่งอบรมและลงพื้นที่ให้คำแนะนำเกษตรกร ตลอดจนผลักดันให้สวนลำไยเข้าสู่ระบบการรับรองอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดคุณภาพ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการสนับสนุนการแปรรูปเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและเพิ่มมูลค่า พัฒนากลไกตลาดนำการผลิต กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญกับการวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยเน้นให้เกษตรกรรับรู้แนวโน้มตลาดก่อนการวางแผนปลูกผ่านระบบข้อมูลและการพยากรณ์ล่วงหน้า พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ-พ่อค้าคนกลางในรูปแบบ “เกษตรพันธสัญญา” (Contract Farming)
ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากราคาผันผวน หนุนเกษตรแปลงใหญ่ – เกษตรแม่นยำ ส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรเป็นแปลงใหญ่ เพื่อให้เกิดอำนาจต่อรอง และสามารถบริหารจัดการผลผลิตชอย่างเป็นระบบ โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบแม่นยำ ลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพผลผลิต ส่งเสริมการสร้างแบรนด์ “ลำไยคุณภาพ” เจาะตลาดพรีเมียม กระทรวงเกษตรฯ วางแผนสร้างความแตกต่างให้ลำไยไทยในตลาดโลก ด้วยการพัฒนาแบรนด์สินค้า GI (Geographical Indication) โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพและคุณภาพอาหาร
#รวมพลคนลำไย #ลำไยไทย #เกษตรกรไทย #ราคาลำใย #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
…………………………………….
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

ลำไยตกเกรดอย่าเพิ่งทิ้ง!แปรรูปเป็นปุ๋ย-น้ำหมัก เติมพลังให้สวนลำไยตกเกรดอย่าเพิ่งรีบทิ้ง! ผลแตก ผลลีบ หรือเริ่มเน่า อย่าเ...
21/07/2025

ลำไยตกเกรดอย่าเพิ่งทิ้ง!
แปรรูปเป็นปุ๋ย-น้ำหมัก เติมพลังให้สวน
ลำไยตกเกรดอย่าเพิ่งรีบทิ้ง! ผลแตก ผลลีบ หรือเริ่มเน่า อย่าเพิ่งมองว่าไร้ค่า เอามาหมักทำปุ๋ยหรือน้ำหมักชีวภาพได้ ลดกลิ่นเหม็น ลดแมลง ลดโรคในสวน แถมได้อาหารพืชไว้บำรุงต้นแบบไม่ต้องพึ่งสารเคมี สายเกษตรอินทรีย์ต้องลองครับ
เทคนิคทำ ปุ๋ยหมักจากลำไยตกเกรด

วัสดุที่ต้องเตรียม
1. ลำไยตกเกรด หั่นชิ้นเล็ก 10 กิโลกรัม ไม่จำเป็นต้องแกะเปลือกหรือเอาเมล็ดออก
2. วัสดุเหลือใช้ในสวน เช่น ใบไม้แห้ง, ฟางข้าว, เศษกิ่งไม้ 20 กิโลกรัม
3. ปุ๋ยคอกเก่า 5 กิโลกรัม
4. น้ำสะอาดประมาณ 20 ลิตร

ขั้นตอนการทำ
1. ผสมลำไยตกเกรดกับวัสดุเหลือใช้ในสวนและปุ๋ยคอกให้เข้ากัน
2. รดน้ำให้พอชื้น ไม่แฉะจนเกินไป
3. กองปุ๋ยในที่ร่ม ระบายอากาศดี และคลุมด้วยฟางหรือผ้าบาง ๆ เพื่อรักษาความชื้น
4. พลิกกองปุ๋ยทุก 7-10 วัน เพื่อให้อากาศเข้าถึงและช่วยการย่อยสลายของจุลินทรีย์
5. ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ปุ๋ยหมักจะพร้อมใช้ เป็นดินร่วนสีดำ มีกลิ่นดินดี

เคล็ดลับ
1. หลีกเลี่ยงการใช้ลำไยที่มีเชื้อราหนัก เพราะอาจทำให้ปุ๋ยหมักไม่สมบูรณ์
2. ระวังความชื้น ต้องไม่แฉะเกินไปเพราะจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็น
วิธีทำน้ำหมักชีวภาพจากลำไยตกเกรด

ส่วนผสม
1. ลำไยตกเกรด 3 กิโลกรัม หั่นชิ้นเล็ก ไม่จำเป็นต้องแกะเปลือกหรือเอาเมล็ดออก
2. น้ำสะอาด 10 ลิตร
3. น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
4. เชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง (EM) 100 มิลลิลิตร

วิธีทำ
1. ใส่ลำไยและน้ำตาลลงในถังหมักขนาด 20 ลิตร
2. เติมน้ำสะอาดจนเต็มถัง
3. เติมเชื้อจุลินทรีย์ EM และคนให้เข้ากัน
4. ปิดฝาให้มิดชิด แต่ต้องมีรูระบายอากาศเล็กน้อย
5. หมักทิ้งไว้ในที่ร่ม 7-10 วัน คนถังทุกวันครั้งละ 1-2 นาที
6. กรองเอาแต่น้ำมาใช้ฉีดพ่นพืช หรือรดโคนต้นลำไย

ประโยชน์ของน้ำหมัก
1. ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ดีในดิน
2. เพิ่มสารอาหารและฮิวมัสให้ดิน
3. ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชและต้านโรค
ใครมีลำไยเหลือเยอะหรือลำไยตกเกรด อย่าปล่อยให้กลายเป็นของเสียในสวน แค่นำมาหมักเป็นปุ๋ยหรือน้ำหมักชีวภาพ ก็ช่วยลดต้นทุน บำรุงดินให้ร่วนซุย พืชก็แข็งแรง ผลผลิตก็ดีขึ้น ทั้งง่าย ทั้งคุ้ม ควรลองทำดูสักครั้งครับ
#ลำไยตกเกรด #ปุ๋ยหมักลำไย #น้ำหมักชีวภาพ #สาระความรู้คนทำเกษตร #เกษตรกรไทย #เกษตรสัญจร
…………………………………….
เกษตรสัญจร ศูนย์รวมความรู้และเทคนิคการทำเกษตร

21/07/2025

ความหวัง สัตว์ เศรษฐกิจตัวใหม่ ครั้งแรกของไทย กับนวัตกรรม ARDA ขยายพันธุ์ “ปะการังอ่อน” ฟื้นระบบนิเวศโลก เตรียมเสนอขยายพันธุ์เชิงพาณิชย์ ชี้ให้เห็นถึงงานวิจัย ที่มีประโยชน์ต่อชุมชน สร้างความประทับใจ ให้กับผู้ที่เข้าเยี่ยมเยียน พร้อม ช่วยกันต่อยอดในการอนุรักษ์ขยายพันธุ์ปะการังอ่อน  เร่งให้เห็นถึงการต่อยอดงานวิจัยสู่ชุมชน

#สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร(องค์การมหาชน) -SmartFarm นวัตกรรมเกษตรจากARDA #นวัตกรรมARDAขยายพันธุ์ปะการังอ่อนฟื้นระบบนิเวศโลกไต้ทะเลปั้นรายได้สู่ชุมชน

Address


Alerts

Be the first to know and let us send you an email when เกษตรสัญจร posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

Contact The Business

Send a message to เกษตรสัญจร:

Shortcuts

  • Address
  • Telephone
  • Alerts
  • Contact The Business
  • Claim ownership or report listing
  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share