03/09/2025                                                                            
                                    
                                                                            
                                            ชัดเจนนะ รัฐ เต่าล้านปี ก่อนจะว่าคนอื่นจะมาขโมยข้อมูล
มึงช่วยเก็บรักษาข้อมูลที่มีอยู่ให้ดีก่อนมั้ย
ไม่ใช่ปล่อยให้รั่วให้หลุด แล้วดีแต่ว่าคนอื่น...
กากเอ้ย..                                        
                                    
                                                                        
                                        ตอบทุกปมร้อน World "โครงการสแกนม่านตา" ซื้อ-ขาย-เก็บข้อมูลจริงไหม มั่นใจได้ยังไงว่าไม่รั่วไหล ไม่แจกเงินสดแต่ แจก Token เอาไปใช้ทำอะไร 
สัปดาห์ที่ผ่านมา "World" โครงการสแกนม่านตาเพื่อยืนยันความเป็นมนุษย์ที่ริเริ่มโดย OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะประเด็นถกเถียงสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลและการหลอกลวงผู้ใช้ให้สแกนม่านตาเพื่อแลกกับเงิน
ล่าสุด ทีม World ประเทศไทย นำโดย ภัคพล ตั้งตงฉิน ผู้จัดการ Tools for Humanity ประจำประเทศไทย และนายฟาเบียน โบดันสไตเนอร์ Managing Director จาก World Foundation พร้อมด้วยพันธมิตรร่วมแถลงข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขทุกความเข้าใจผิดของสาธารณชน โดย Thairath Money ได้มัดรวมข้อมูลและคำตอบทุกข้อสงสัย ไว้ดังนี้ 
[World คือใคร?]
 
World คือ เทคโนโลยีจากบริษัท Tools for Humanity (TFH) ที่ก่อตั้งโดย Alex Blania และ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI โดยมีพันธกิจในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ “ปลอดภัยสำหรับมนุษย์” ทั่วโลก ช่วยให้ทุกคนสามารถแสดงสถานะว่าเป็น “บุคคลจริง” ไม่ใช่บอตบนโลกออนไลน์ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลบัตรเครดิต อีเมล หรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ
[World ให้บริการกี่ประเทศ ยอดผู้ใช้ในไทยมีกี่ราย?]
ปัจจุบัน World ให้บริการในกว่า 160 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน โดยมีผู้ที่เข้ามาสร้างบัญชีกับ World ทั่วโลกกว่า 33.7 ล้านคน และมีผู้ที่ยืนยันความเป็นมนุษย์จำนวนกว่า 15 ล้านคน จำนวน Monthly Active User อยู่ที่ประมาณ 9.5 ล้านคนต่อเดือน
สำหรับประเทศไทย World เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2568 และมีผู้ใช้ในไทยที่สร้างบัญชีกับ World แล้วอยู่ที่ 2 ล้านคนและมีผู้ที่ยืนยันความเป็นมนุษย์แล้วกว่า 1 ล้านคน โดยที่ผ่านมาได้ขยายระบบอย่างเป็นทางการ โดยร่วมมือกับ TIDC และ เอ็ม วิชั่น (MVP) 
และได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ 11 พันธมิตรระดับชาติ ได้แก่ COM7 (BaNaNa), JIB, National Telecom, IMPACT, Pantip, Gogolook (Whoscall), Eventpop, Zentry, Bitazza Thailand, BINANCE TH และ Bitkub
โดยมีแผนขยายการดำเนินการในไทย ประกอบด้วย 3 ด้านสำคัญ คือ การขยายจุดสแกน Orb กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ โดยร่วมมือกับ COM7 (BaNaNa), JIB, NT และ IMPACT ติดตั้งอุปกรณ์ Orb ให้ประชาชนเข้าถึงได้สะดวก ผลักดันการใช้ World ID เป็นหลักฐานดิจิทัลยืนยันตัวตนเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มชั้นนำ รวมถึงการทดลองใช้ World Chain ในระบบคริปโตพัฒนาแนวทางใหม่ในการใช้การยืนยันตัวตนในระบบสินทรัพย์ดิจิทัล
[บางประเทศประกาศแบน World จริงหรอ?]
สำหรับประเด็นที่ได้มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า Worldcoin ถูกหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศสั่งระงับการให้บริการชั่วคราวหรือสอบสวนอย่างเข้มข้น ภัคพล กล่าวว่า "ไม่เป็นความจริง" และเป็น "ความเข้าใจผิด" 
พร้อมชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในบางประเทศ Worldcoin อาจมีการ หยุดให้ดำเนินการชั่วคราวแต่การหยุดนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เวลาในการพูดคุยและอธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้กับหน่วยงานกำกับดูแลในท้องถิ่นเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและชัดเจนเสียก่อน ไม่ใช่การถูกสั่งระงับหรือแบนตามที่เป็นข่าว
[ทำไมเข้ามาในไทย ถูกกฎหมายในไทยหรือไม่?]
ภัคพล กล่าวว่า จากข้อมูลปีที่แล้วคนไทยถูกหลอกลวงทางออนไลน์มากกว่า 168 ล้านครั้ง และสร้างความเสียหายกว่า 4 หมื่นล้านบาท มากไปกว่านั้นยังพบว่ามิจฉาชีพเหล่านี้ใช้เทคโนโลยี AI ปลอมแปลงเสียงและใบหน้า ซึ่งเป็นเหตุผลให้ World ตั้งใจเข้ามาในประเทศไทยเพื่อให้บริการระบบที่ดีกว่าเดิมและช่วยให้คนไทยสามารถใช้ชีวิตในยุค AI ได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น
“เทคโนโลยีสแกนม่านตาของ World จะทำให้สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่อยู่เบื้องหลังบัญชีหรือธุรกรรมออนไลน์เป็นมนุษย์จริง (Proof of Personhood) ไม่ใช่บัญชีปลอม จึงช่วยลดปัญหาการหลอกลวงทางดิจิทัลที่อาศัยบอทหรือการสวมรอยได้อย่างมีนัยสำคัญ”
ภัคพล ยืนยันว่า World ดำเนินงานภายใต้กรอบกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การปฏิบัติงานโปร่งใสและถูกต้องตามข้อบังคับ โดยมีการปรึกษาหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งก่อนและหลังเข้ามาดำเนินงานในประเทศไทย และยังคงขอคำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับ ‘สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล’ (Office of the Personal Data Protection Commission หรือ PDPC) ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกำกับดูแลเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
นอกจากนี้ World ยังได้จัดทำ Auditor Report โดยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค เช่น Theori และ Trail of Bits ตรวจสอบระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งทั้งหมดถูกเปิดเผยแบบโอเพนซอร์สบน GitHub ให้ทุกคนทั่วโลกเข้ามาตรวจสอบได้เพื่อยืนยันว่าระบบปลอดภัยและไม่มีช่องโหว่แอบแฝง
คลิกอ่านต่อใน Comment 
     #การเงินดีชีวิตดี 
                      
 #สแกนม่านตา  #ยืนยันความเป็นมนุษย์  #เทคโนโลยีสแกนม่านตา