30/11/2025
"เมื่อความรักถูกตีค่าด้วย 'เงิน' หลายล้านบาท และการถูกปฏิเสธคือการ 'ถูกหักหน้า'... ความอาฆาตแค้นที่ตามมาจึงไม่ใช่แค่คำขู่ แต่คือแผนการฆ่าที่วางไว้อย่างเลือดเย็น นี่คือโศกนาฏกรรมของ 'ฟอส-สปาย' ที่จบลงด้วยกระสุนปืน ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เขาชีจรรย์"
เรื่องราวเริ่มต้นจากความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเปราะบางระหว่าง นายปัญญา ยิ่งดัง หรือที่รู้จักกันในนาม "เสี่ยอ้วน" เจ้าของร้านเหล้าธุรกิจยามค่ำคืนผู้มั่งคั่งที่หาดป่าตอง ภูเก็ต กับ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ "น้องสปาย" หญิงสาวอายุ 20 ปี
เสี่ยอ้วนทุ่มเททั้งทรัพย์สินเงินทองหลายล้านบาทให้กับน้องสปายและครอบครัวมาตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ด้วยความหวังว่าความรักของเขาจะได้รับการตอบแทน แต่ในความสัมพันธ์ที่ถูกอำพรางด้วยเงินทองนั้น เสี่ยอ้วนได้สืบทราบในภายหลังว่า น้องสปายได้แอบคบหาอยู่กับ นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ "น้องฟอส" วัย 21 ปี ซึ่งเป็นคนรักอย่างลับๆ
การค้นพบความจริงนี้เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงที่จุดไฟแห่งความอาฆาตแค้นในใจของเสี่ยอ้วน เขารู้สึกเหมือนถูกหลอกลวงและต้องการ "ล้างแค้น" คนทั้งคู่ จึงได้วางแผนการอันโหดเหี้ยม
ในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 แผนการอันโหดเหี้ยมได้ถูกนำมาปฏิบัติ "เสี่ยอ้วน" ในฐานะผู้บงการ ได้เดินทางจากภูเก็ตมาบัญชาการแผนการอย่างใกล้ชิด โดยได้รวบรวมทีมสังหารรวม 6 คน ซึ่งประกอบด้วย:
1. นายณรงค์ วรินทรเวช หรือ "บ่าว" มือลั่นไก
2. นายกฤษณะ ศรีสุข หรือ "มด" หนึ่งในทีมสังหาร
3. นายสายันต์ ศรีสุข ผู้ทำหน้าที่ชี้เป้าหรือระบุเป้าหมาย
4. และผู้ร่วมขบวนการอย่าง นายเกียรติศักดิ์ สุรางแสงมีบุญ หรือ "บอนด์" และ นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือ "ป๊อปปี้"
ทีมสังหารได้สะกดรอยตามน้องสปายและน้องฟอสไปจนถึง ลานจอดรถองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ จังหวัดชลบุรี และในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินขึ้นรถ ทีมสังหารได้ลงมือตามคำสั่งของเสี่ยอ้วนอย่างไม่ปราณี ทั้งน้องสปายและน้องฟอสถูกอาวุธปืนจ่อยิงจนเสียชีวิตคาที่
หลังก่อเหตุ "เสี่ยอ้วน" และทีมสังหารพยายามหลบหนีข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดกลับมาดำเนินคดีได้ในที่สุด
ในวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2562 ศาลจังหวัดพัทยาได้มีคำพิพากษาคดีนี้ โดยมีผลคำตัดสินดังนี้
กลุ่มผู้บงการและลงมือฆ่า: ศาลพิพากษาประหารชีวิต นายปัญญา หรือเสี่ยอ้วน, นายกฤษณะ หรือมด, และ นายณรงค์ หรือบ่าว แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสามให้การที่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ศาลจึงมีคำสั่งลดโทษให้เหลือ จำคุกตลอดชีวิต
กลุ่มผู้ชี้เป้า: นายสายันต์ ศรีสุข (ผู้ชี้เป้า) ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต และลดโทษเหลือ จำคุก 50 ปี
กลุ่มผู้ร่วมขบวนการ: นายเกียรติศักดิ์ หรือบอนด์ และ นายจิรศักดิ์ หรือป๊อปปี้ ศาลพิพากษาจำคุก 24 ปี และลดโทษเหลือ จำคุกคนละ 12 ปี
นอกจากโทษทางอาญาแล้ว ศาลยังได้สั่งให้จำเลยทั้ง 6 คน ร่วมกันชดใช้เงินให้กับครอบครัวของผู้เสียหาย พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ (29 ก.ค. 2561) โดยต้องชดใช้แก่
• ครอบครัวน้องสปาย: 7,314,000 บาท
• ครอบครัวน้องฟอส: 7,320,000 บาท
โศกนาฏกรรมครั้งนี้จบลงด้วยการตัดสินโทษทางกฎหมายที่หนักหน่วง เป็นเครื่องเตือนใจถึงจุดจบอันเลวร้ายที่เกิดจากความรักที่แปรเปลี่ยนเป็นความอาฆาตแค้น……
ขอบคุณภาพและเรื่องราวจาก🎬🎥: Sanook, Thairath, MGR Online,Wikipedia’s
เรียบเรียง✍🏻:พี่อัย,เสียงจากอดีต คดีดัง
ฝากนักอ่านทุกท่านกดไลค์กดแชร์กดติดตามคอมเม้นเป็นกำลังใจให้แอดมินหาเรื่องมาเล่าสู่กันฟังอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ
การเรียบเรียงจากหลายแหล่งข่าวอาจจะมีผิดบ้างถูกบ้างสามารถคอมเม้นชี้แนะแก้ไขให้ทราบได้ค่ะน้อมรับทุกคำติชมของผู้อ่านทุกท่าน🙏🏻🥰
#ข่าววันนี้ #เสียงจากอดีตคดีดัง #แฟ้มคดีสยอง #คดีดังในตำนาน #คดีโหด #คดีสะเทือนขวัญ