อากาศบ้านเฮา

อากาศบ้านเฮา รายงานสถานการณ์หมอกควัน ภาคเหนือ

23/11/2025

หน้าหนาวต้องมีคนกอด เช็กฝุ่นได้ตลอดที่ Air4thai 😣❄️

ทำไมต้องใช้ Air4Thai?
เพราะแอปนี้ให้ข้อมูลครบและเชื่อถือได้ที่สุด👇

✔ รายงานค่าคุณภาพอากาศ (AQI) ครอบคลุมทั่วประเทศ
✔ ดูค่าฝุ่น PM2.5 และมลพิษอื่น ๆ ได้ทันที
✔ ข้อมูล “real-time”
✔ มีรายงานรายชั่วโมง + รายวัน
✔ ใช้ข้อมูลจากสถานีตรวจวัดมาตรฐานกรมควบคุมมลพิษและกทม.
✔ มีคำแนะนำสุขภาพในช่วงค่าฝุ่นสูง
✔ มีการคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า 7 วัน ช่วยวางแผนได้ดีขึ้น

Air4Thai โหลดไว้…อุ่นใจกว่า 💙💨
พร้อมให้ดาวน์โหลดทั้ง iOS / Android / Huawei 📱✨

#ฝุ่นPM25 #ฝุ่นพิษ #ฝุ่นจิ๋วอันตราย #ฝุ่นไทย
#สภาพอากาศวันนี้ #เช็กฝุ่น #คุณภาพอากาศ💙❄️

22/11/2025

ไฟจากพื้นที่ป่า สู่เวทีนโยบาย: 10 สาระสำคัญจาก Pre-Forum ครั้งที่ 2 เตรียมความพร้อมสู่ Thailand National PM2.5 Forum
ทุกปีเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูแล้ง ‘ไฟป่า’ กลายเป็นประเด็นที่ปรากฏบนแผนที่ดาวเทียมและสื่อบ่อยครั้ง เพราะสร้างความเสียหายกระจายไปไกลกว่าขอบเขตป่า ทั้งก่อควันลอยข้ามจังหวัด ข้ามภาค ไปจนกระทบเมืองใหญ่ สร้างฝุ่น PM2.5 สูงต่อเนื่องหลายวัน ทำลายระบบนิเวศ สัตว์ป่า และทำให้เจ้าหน้าที่และอาสาดับไฟ ต้องทำงานท่ามกลางความเสี่ยงปีแล้วปีเล่า
ผลกระทบที่เป็นที่ประจักษ์ ทำให้ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด มาตรการในพื้นที่ป่า เป็นหมวดที่มีข้อถกเถียงกันน้อยที่สุด ทั้งนี้ปัญหาไฟป่าไม่ได้เกิดจากปัจจัยด้านอากาศหรือภูมิประเทศเพียงอย่างเดียว แต่มีความเกี่ยวข้องกับโครงสร้างการจัดการป่า การบังคับใช้กฎหมาย ความเป็นอยู่ของชุมชน และเครื่องมือที่รัฐมีอยู่ในมือ
เวที Pre-Forum ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ ‘พ.ร.บ. อากาศสะอาด: เครื่องมือสู้ฝุ่น PM2.5 - ฝุ่นจากไฟในพื้นที่ป่า’ จึงเป็นการสรุปภาพใหญ่เพื่อสร้างความเข้าใจว่าการจัดการไฟป่าต้องอาศัยอะไรบ้าง ทั้งในเชิงพื้นที่ เทคโนโลยี คน กฎหมาย และกลไกเศรษฐศาสตร์ ก่อนที่จะถูกยกระดับเข้าสู่เวทีนโยบายระดับประเทศ Thailand National PM2.5 Forum ครั้งที่ 2 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20-21 เดือนมกราคม 2569
1. ระบบ ‘ตามไฟ’ ช่วยวางแผนปฏิบัติการ
แอปพลิเคชั่นตามไฟ (tamfire.net) ช่วยให้เห็นจุดความร้อนแบบ near real-time สามารถตรวจสอบการลุกลามของไฟย้อนหลังหลายปี และระบุพื้นที่ที่มีความร้อนสะสมผิดปกติได้อย่างละเอียด ช่วยแยกไฟธรรมชาติและไฟที่มนุษย์จุด ทำให้หาต้นตอไฟได้แม่นยำขึ้น ทุกหน่วยงานเข้าถึงข้อมูลเดียวกัน และเป็นฐานข้อมูลสำคัญสำหรับวางแผนปฏิบัติการอย่างทันสถานการณ์และลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่
2. กรณีศึกษาไฟป่า ไฟลาม 70,000 ไร่จากการล่าสัตว์
พื้นที่เหนือเขื่อนภูมิพล เป็นจุดที่มีไฟป่ามากที่สุดรวมแล้วกว่า 300,000 ไร่ ตัวอย่างการใช้ระบบตามไฟ ได้ระบุจุดกำเนิดไฟจุดหนึ่ง ที่ทำให้ไฟป่าลามกว่า 70,000 ไร่ นำไปสู่การจับนายพรานล่าสัตว์ส่งขายพ่อค้าเนื้อสัตว์ป่า ที่ใช้เวลาในการควบคุม 2 สัปดาห์ สะท้อนถึงความท้าทายของภูมิประเทศ กำลังคน ความซับซ้อนของการสั่งการในพื้นที่กันชน ซึ่งต้องนำไปสู่การจัดลำดับพื้นที่เสี่ยงใหม่ ไม่ใช่ยึดตามความเคยชินหรือขีดจำกัดภายในแต่ละกรมอีกต่อไป
3. วางเป้าหมายลดพื้นที่เผา 40% ต่อปี
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยืนยันความพร้อมในการรับมือไฟป่า โดยมีการตั้งวอร์รูมระดับกรม ผสานเทคโนโลยีกับกำลังคนในพื้นที่เพื่อให้การดับและควบคุมไฟป่ามีความแม่นยำขึ้น เช่น ใช้เฮลิคอปเตอร์ โดรน อุปกรณ์ดับไฟ จัดทำแนวกันไฟ บริหารจัดการเพลิง จัดตั้งจุดตรวจและชุดลาดตระเวน และวางเป้าหมายลดพื้นที่เผาไหม้ให้ลงร้อยละ 40 ในปี 2569
4. 8 มาตรการ 4 ยุทธศาสตร์ ใน 14 กลุ่มป่าเสี่ยง
ปีที่ผ่านมา กรมป่าไม้ต้องเผชิญจุดความร้อนหลายหมื่นจุด และไฟป่าที่ลุกลามถึงระดับล้านไร่ ขณะที่กำลังคนมีจำกัด เจ้าหน้าที่ 1 คนต้องดูแลพื้นที่เฉลี่ยถึง 30,000 ไร่ ซึ่งทำได้ยากมาก จึงต้องเดินหน้า 8 มาตรการ และ 4 ยุทธศาสตร์ ใน 14 กลุ่มป่าเสี่ยง เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ ลดความสูญเสียของป่า และรับมือไฟป่าอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยป้องกันรักษาป่า ชุมชน และเครือข่ายท้องถิ่น
5. รวมศูนย์แผน กระจายภารกิจ
เชื้อเพลิงสะสมในป่าเป็นหนึ่งในตัวแปรการปะทุไฟ การจัดการต้องมีทั้งแนวกันไฟ เก็บใบไม้แห้ง และกำกับกิจกรรมหาของป่าอย่างเป็นระบบ แต่ที่ผ่านมามักขาดผู้รับผิดชอบชัดเจน การบูรณาการระหว่างพื้นที่ป่าจึงจำเป็น เพื่อไม่ให้พื้นที่หนึ่งกลายเป็นต้นตอที่ส่งผลต่อพื้นที่อื่น อีกทั้งอบต. ซึ่งเป็นกำลังหลักในพื้นที่ยังขาดงบประมาณและอุปกรณ์ กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ต้องเป็นพี่เลี้ยงเชิงวิชาการและทรัพยากร เพื่อให้การทำงานเกิดผลจริง ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างนโยบายและการปฏิบัติ
6. เปลี่ยนมือเผามาเป็นผู้ดูแลป่า
ผลการศึกษาในพื้นที่อุทยานแม่ปิง พบว่ากลุ่มคนเผาป่าจำนวนหนึ่งมีปัญหาสุขภาพจิตหรือใช้สารเสพติด โครงการ ‘ชายชุดดำจิตเวช’ มีแนวทางนำผู้เผาป่าเข้าสู่ระบบคนพิการทางจิตเพื่อรับการจ้างงาน โดยการจัดการจะมีระบบคัดกรอง รักษา และให้การสนับสนุนในระยะยาว ให้มีอาชีพดูแลป่าผ่านการจ้างงานของบริษัทเอกชน เป็นการแก้ปัญหาเชิงสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
7. บังคับใช้กฎหมายแบบบูรณาการ
ในร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด (ที่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นสว.) เน้นย้ำให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด ต้องเข้ามามีบทบาทและทำงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรฯ และหน่วยงานป่าไม้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นแผนงานแล้วไม่ขยับ อาจถูกดำเนินคดีตามมาตรา 157 และทั้ง 3 ป่า คือป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน และป่าชุมชน ต้องมีเป้าหมายที่สอดคล้อง ส่งเสริมและสนับสนุนกัน เพื่อให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการ
8. ประชาชนต้องเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบได้
พ.ร.บ. อากาศสะอาด กำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องจัดทำระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ที่ระบุข้อมูลพื้นที่ป่าชนิดต่าง ๆ, พื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและแนวกันไฟ, พื้นที่ป่าชุมชน, ข้อมูลชุมชนที่อยู่ในป่า, จุดความร้อน/ พื้นที่ไฟไหม้ซ้ำซาก รวมถึงจำนวนเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ งบประมาณ เปิดเผยให้ประชาชนเข้าถึงและตรวจสอบได้โดยง่าย และต้องจัดทำบัญชีการระบายสารมลพิษทางอากาศภาคป่าไม้ พร้อมข้อมูลอุตุนิยมวิทยาเพื่อเชื่อมโยงกับ Big Data ในอนาคต
9. ป่าต่างกัน จัดการต่างกัน
พ.ร.บ. อากาศสะอาด กำหนดแนวทางการจัดการที่แตกต่างกันตามประเภทของพื้นที่ป่า

•ป่าอนุรักษ์: เน้นการป้องกันและบริหารจัดการไฟแปลงใหญ่ที่ข้ามเขตป่า เพื่อขจัดปัญหาจุดเกรงใจระหว่างหน่วยงาน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและอาชีพที่เสี่ยงต่อการก่อให้เกิดไฟป่า และการสร้างความร่วมมือกับชุมชน/ องค์กรท้องถิ่นในการป้องกันไฟ

•ป่าสงวน: บังคับให้กระทรวงทรัพยากรฯ ต้องประสานงานกับกระทรวงเกษตรฯ เพื่อปรับเปลี่ยนระบบการเกษตรที่เสี่ยงต่อมลพิษทางอากาศ และดำเนินการรับรองสิทธิ์และความมั่นคงในการใช้ประโยชน์ที่ดินในรูปแบบแปลงรวม หรือการทำสมุดพกประจำตัวดิจิทัลสำหรับผู้อาศัยในเขตป่า

•ป่าชุมชน: เน้นการสนับสนุนการจัดตั้งป่าชุมชนเพิ่ม เพื่อดำเนินงานด้านอากาศสะอาดโดยเฉพาะ และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐ ชุมชน และเอกชน
10. PES เปิดทางให้เอกชนและชุมชนร่วมดูแลป่า
พ.ร.บ. อากาศสะอาด มีกลไกนำเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ที่เรียกว่า PES (Payment for Ecosystem Services) หรือการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับการให้บริการระบบนิเวศ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการป้องกันและฟื้นฟูระบบนิเวศ เปิดทางให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงานในป่าได้ เช่น การจ้างคน หรือการจัดหาเครื่องมือทางการเกษตร และจูงใจชุมชนมาร่วมป้องกันไฟ ปรับรูปแบบการใช้ประโยชน์ป่า และรับผลตอบแทนเมื่อทำให้ระบบนิเวศดีขึ้น ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันที่ทำให้เกิดไฟจากการหาของป่าและล่าสัตว์
เหล่านี้คือการบ้านชิ้นสำคัญ และข้อเสนอเชิงรุก ที่จะถูกนำไปขับเคลื่อนต่อในเวที Thailand National PM2.5 Forum ครั้งที่ 2 เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม ติดตามความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ที่ www.facebook.com/breathebangkokorg
🔵 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาฝุ่นควันกับเรา
Website: www.breathebangkok.org
Facebook: www.facebook.com/breathebangkokorg

#สภาลมหายใจกรุงเทพฯ #สสส

21/11/2025

🌿🌿🌿 “การประชุมการป่าไม้ ครั้งที่ 26” ภายใต้หัวข้อหลัก “ป่าไม้นำไทย ฝ่าวิกฤต สร้างโอกาส สู่ความยั่งยืน”🌿🌿🌿

การบรรยายพิเศษ “ป่าไม้ไทยในศตวรรษที่ 21 พลังขับเคลื่อนการอนุรักษ์ยุคใหม่ด้วยนวัตกรรม” ในวันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.00-14.00 น. โดยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

📌 ณ ห้องประชุมแกรนด์คอนเวนชั่น ชั้น 6
โรงแรมทีเค พาเลส แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร

21/11/2025
20/11/2025
18/11/2025

หลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility: EPR) และหลักการผู้ก่อมลพิษต้องจ่าย (Polluter Pays Principle: PPP)

11/11/2025
02/11/2025

หรือต้องนับหนึ่งใหม่ ? หวั่น ‘พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ’ ถูกดอง ไม่ทันยุบสภา วอน สว.เห็นแก่ประชาชน
กมธ.อากาศสะอาดฯ ภาคประชาชน ขอ กมธ.สว. เพิ่มวันประชุม เร่งเดินหน้าดันกฎหมายแก้ฝุ่นให้คนไทยได้ทันใช้ปีหน้า หลังส่อแววพิจารณาไม่ทันยุบสภา ชี้ หากกฎหมายตกไป ต้องเริ่มต้นใหม่ คนไทยอาจต้องรออีก 1-2 ปี
📌 อ่านเนื้อหาเพิ่มในคอมเมนต์

#กฎหมายอากาศสะอาด #มลพิษทางอากาศ #ฝุ่นพิษ #ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย #กองทุนอากาศสะอาด

7 มาตรการลดฝุ่น PM2.5 จากการเผาอ้อย 🔥🚨จำกัดปริมาณอ้อยเผา🚜 ส่งเสริมเทคโนโลยีและเครื่องจักร♻️สนับสนุนสินเชื่อแก่เกษตรกร แล...
30/10/2025

7 มาตรการลดฝุ่น PM2.5 จากการเผาอ้อย 🔥

🚨จำกัดปริมาณอ้อยเผา
🚜 ส่งเสริมเทคโนโลยีและเครื่องจักร
♻️สนับสนุนสินเชื่อแก่เกษตรกร
และสร้างมูลค่าเพิ่มจากใบอ้อย 🌱

เพราะ “อ้อยดีไม่ต้องเผา อากาศดีไม่ต้องรอ”
🌤️ มาร่วมกันสร้างอากาศสะอาด…เริ่มได้จากไร่อ้อยของเรา

#ลดเผาอ้อยลดฝุ่น #ฝุ่นPM2.5 #อ้อยดีไม่ต้องเผา #กรมควบคุมมลพิษ

29/10/2025

กรมควบคุมมลพิษ ชวนคนไทยร่วม "โปรสู้ฝุ่น ลด PM2.5" ด้วยการดูแลรถไม่ปล่อยควันดำ โดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและตรวจเช็กสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ

✅ เครื่องยนต์ทำงานมีประสิทธิภาพ
✅ ลดการปล่อยควันดำ
✅ ลดฝุ่น PM2.5 สู่บรรยากาศ

ทุกครั้งที่คุณดูแลรถ คุณกำลังดูแลอากาศให้สะอาดขึ้น

"เพราะอากาศสะอาด… เริ่มได้จากเรา”

#ฝุ่นกทม #ฝุ่นpm2.5 #โปรสู้ฝุ่นลดPM2.5 #โปรสู้ฝุ่นลด #รถลดฝุ่น #น้ำมันลดฝุ่น

ที่อยู่

118/4 หมู่ที่ 2 ถนนอนุสาวรีย์สิงห์ ตำบลช้างเผือก
Changwat Chiang Mai
50300

เวลาทำการ

จันทร์ 08:30 - 16:30
อังคาร 08:30 - 16:30
พุธ 08:30 - 16:30
พฤหัสบดี 08:30 - 16:30
ศุกร์ 08:30 - 16:30

เบอร์โทรศัพท์

+532180324

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ อากาศบ้านเฮาผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง อากาศบ้านเฮา:

แชร์