The trap news "ดีทุกประเด็น เด่นทุกข่าว"

ข่าว : กรมศุลกากร จัดพิธีทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุด มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 60 ล้านบาท     วันนี้ (วันพุธที่ 1...
10/09/2025

ข่าว : กรมศุลกากร จัดพิธีทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุด มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 60 ล้านบาท

วันนี้ (วันพุธที่ 10 กันยายน 2568) นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานในพิธีทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุด พร้อมด้วย นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายนิติ วิทยาเต็ม รองอธิบดีกรมศุลกากร นายคณิต มีปิด รองอธิบดีกรมศุลกากร นายภาคภูมิ เลิศวัฒนารักษ์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม นางสาวเขมะศิริ นิชชากร ผู้อำนวยการกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร้อยตำรวจโทภลลภ เพ็ชรรุ่ง รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งของกลางที่จะนำไปทำลาย ประกอบด้วย วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (กัญชา) สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า เลื่อยโซ่ยนต์ รวมของกลางทั้งสิ้น จำนวน 758,021 ชิ้น และของกลางประเภทกัญชา 234,800 กรัม มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 60 ล้านบาท ณ ห้องโถง อาคาร 1 กรมศุลกากร

นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่ รัฐบาลและกระทรวงการคลัง มีนโยบาย ให้กรมศุลกากรเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าที่บิดเบือนกลไกทางการค้า รวมถึงสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคม โดยของกลางทั้งหมด เป็นของกลางในคดีที่กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจยึด - จับกุมตามกฎหมายศุลกากร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (กัญชา) สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า เลื่อยโซ่ยนต์ รวมของกลางทั้งสิ้น จำนวน 758,021 ชิ้น และของกลางประเภทกัญชา 234,800 กรัม มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 60 ล้านบาท

ขณะนี้ การดำเนินการทางคดีได้ถึงที่สุดและของกลางตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายแล้ว กรมศุลกากร มีกำหนดการนำของกลางดังกล่าวไปทำลายโดยวิธีการเผาทำลาย ณ โรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม
ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยหนองแขม ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของบริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และเหยียบ ทับ พร้อมกำจัดซากด้วยการฝังกลบและการเผาโดยใช้เตาเผาอุตสาหกรรม ณ บริษัท โกลเด้นดีพ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 10 – 11 กันยายน 2568 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะเข้าสังเกตการณ์ในการทำลายของกลางดังกล่าว เพื่อมิให้ของกลางดังกล่าว ซึ่งผิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนกลับคืนสู่สังคมได้อีก
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวอีกว่า กรมศุลกากรขอเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่น รวมถึงปกป้องสังคมจากสินค้าที่เป็นอันตรายต่อประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีระบบการค้าที่เป็นธรรม สังคมน่าอยู่ปลอดจากสินค้าที่อันตรายต่อสุขภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีสืบไป

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมพิธีสดุดีวีรกรรมนักรบกล้าและอาลัยประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย -...
06/09/2025

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมพิธีสดุดีวีรกรรมนักรบกล้าและอาลัยประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย - กัมพูชา ณ กองบัญชาการกองทัพไทย เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
วันนี้ (วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568)
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายธฤต โอภาสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการ พร้อมด้วย นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่ นายวันชิด ศิรสีห์ รองผู้จัดการใหญ่ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นายยุทธนา ทาโคตร์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกบรรเทาสาธารณภัยฯ ฝ่ายปฏิบัติการ ร่วมสดุดีวีรชนทหารกล้า อาลัยประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อเชิดชูเกียรติและตอบแทนความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของกำลังพลที่พลีชีพเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทย พร้อมแสดงความเสียใจและไว้อาลัยต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่จากไป โดยมี พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธี ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองบัญชาการกองทัพไทย เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
เมื่อเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ได้เร่งมอบหมายให้คณะกรรมการ นำทีมสาธารณภัยลงพื้นที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อมอบสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ให้แก่ผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากนั้นได้เข้ามอบเงินปลอบขวัญนายละ 10,000 บาท พร้อมกระเช้าสุขภาพ ให้แก่ทหารกล้าและประชาชนที่บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่พักรักษาตัวอยู่ ณ โรงพยาบาลในขณะนั้น รวมงบประมาณที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ส่งต่อธารน้ำใจจากผู้มีจิตศรัทธา สู่ทหารกล้าและประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันคิดเป็นมูลค่ากว่า 4.9 ล้านบาท ซึ่งมูลนิธิฯ ยังคงติดตามสถานการณ์เพื่อพิจารณาการให้ความช่วยเหลือตามนโยบายการดำเนินงานของแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต่อไป
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ เครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอบุญบารมีหลวงปู่ไต้ฮง (ไต้ฮงกง) ดลบันดาลให้ท่านและครอบครัว มีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป และขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่-อาสาสมัครทุกท่าน ทุกหน่วย ที่ปฏิบัติภารกิจ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขอให้ทุกท่านปลอดภัย และขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ววัน
ติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก https://xn--www-5kl6e4af9xg.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung.
# # ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต # #
#ป่อเต็กตึ๊ง ยึดมั่นอุดมการณ์ อยู่เคียงข้างทุกวิกฤต
#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

ข่าว : เลขาธิการ ป.ป.ส. หารือผู้แทน UNODC คนใหม่ เสริมแกร่งความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาบ้าระดับภูมิภาค ย้ำชัดเ...
03/09/2025

ข่าว : เลขาธิการ ป.ป.ส. หารือผู้แทน UNODC คนใหม่ เสริมแกร่งความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาบ้าระดับภูมิภาค
ย้ำชัดเดินหน้ามาตรการอย่างสมดุล ปลุกพลังชุมชนเข้มแข็ง แก้ปัญหายาเสพติดยั่งยืน

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดให้ นางสาวเดลฟีน ช้านท์ซ (Ms. Delphine Schantz) ผู้แทนสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (ROSEAP) และคณะฯ เข้าพบเพื่อหารือข้อราชการในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ และหารือแนวทาง การเสริมสร้างความร่วมมือในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีนายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เข้าร่วม ณ ห้องรับรองเภา สารสิน สำนักงาน ป.ป.ส.

เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของ UNODC ในการดำเนินงานของประเทศไทย ที่คืบหน้าก้าวกระโดดในหลายมิติ ทั้งด้านวิชาการ ด้านปฏิบัติการ และการผลักดันประเด็นสำคัญในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งการสนับสนุนการผลักดันข้อมติของประเทศไทยร่วมกับนอร์เวย์ ซึ่งต่อยอดการวิจัยด้านวิธีการรักษาผู้ใช้ยาบ้าที่มีอาการทางจิตในการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND) สมัยที่ 68 รวมถึงสนับสนุนการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความรุนแรงของปัญหายาบ้าผ่านการจัดนิทรรศการในเวทีสหประชาชาติ ตลอดจนการสนับสนุนการเข้าร่วมการประชุมวิชาการนานาชาติ “International Conference on Yaba, Methamphetamine and Synthetic Drugs 2025” ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเครือข่ายนักวิชาการยาเสพติด เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เชิงวิชาการและแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อขยายผลข้อมติของไทยในเวทีโลก

นอกจากนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหายาเสพติด ทั้งปัญหายาบ้าซึ่งเป็นปัญหาหลักของไทย รวมถึงปัญหาการลักลอบลำเลียงเฮโรอีน ไอซ์ และคีตามีนผ่านประเทศไทย พร้อมเน้นย้ำว่าไม่นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว โดยได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างสมดุลทั้งมิติด้านอุปสงค์อุปทานยาเสพติด ทั้งกิจกรรม BE SMART SAY NO TO DRUGS ปี 2 และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนผ่านการเปิดโอกาสให้ไปสังเกตการณ์การประชุม CND ณ กรุงเวียนนา รวมถึงการจัดตั้งกลไกพิเศษสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” และปฏิบัติการ “No Drug No Dealers” เพื่อสร้างชุมชนปลอดยาเสพติด ตลอดจนในมิติความร่วมมือกับต่างประเทศ ทั้งการติดตามจับกุมนักค้ารายสำคัญร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการหารือกับจีนและอินเดีย เพื่อสกัดกั้นเคมีภัณฑ์ไม่ให้เข้าสู่แหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ การเสริมประสิทธิภาพหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการติดตามและยึดทรัพย์สินที่เปลี่ยนไป พร้อมย้ำชัดจุดสำคัญการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน คือ การใช้สาธารณสุขนำและการปลุกพลังสร้างชุมชนเข้มแข็ง

ด้าน นางสาวเดลฟีน ช้านท์ซ ผู้แทน UNODC ประจำภูมิภาคฯ ได้ขอบคุณสำนักงาน ป.ป.ส. และแสดงความชื่นชมต่อบทบาทนำของประเทศไทยในการผลักดันประเด็นสำคัญในเวทีระหว่างประเทศ ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างสมดุล รวมถึงการพัฒนานโยบายด้านการบำบัดฟื้นฟูที่อิงหลักฐานเชิงประจักษ์ และการดำเนินงานเชิงปฏิบัติในระดับพื้นที่ โดยยืนยันว่า UNODC พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของประเทศไทยในทุกมิติเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาคและนานาชาติอย่างต่อเนื่องต่อไป

----------------

 #ทีมข่าวSpecialfocusข่าว : สมุทรปราการ "เทศบาลตำบลบางเมืองเปิดโต๊ะ"ประชุมสภาเทศบาลตำบลบางเมือง สมัยสามัญ สมัยที่ 3 ครั้...
03/09/2025

#ทีมข่าวSpecialfocus
ข่าว : สมุทรปราการ "เทศบาลตำบลบางเมืองเปิดโต๊ะ"ประชุมสภาเทศบาลตำบลบางเมือง สมัยสามัญ สมัยที่ 3 ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2568

วันพุธที่ 3 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น. นายพิพัฒน์ อัศวเหม ประธานสภาเทศบาลตำบลบางเมือง เป็นประธานเปิดการประชุมสภาเทศบาลตำบลบางเมือง สมัยสามัญ สมัยที่ 3 ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมสภาเทศบาลตำบลบางเมือง ชั้น 3 สำนักงานเทศบาลตำบลบางเมือง นาวาเอก อนุศักดิ์ นาคทิม นายกเทศมนตรีตำบลบางเมือง ได้เสนอญัตติด้วยวาจา พิจารณาเรื่องเร่งด่วน การโอนเงินงบประมาณเพื่อใช้จ่ายในโครงการห้องเรียนอัจฉริยะโรงเรียนอนุบาลเทศบาลบางเมือง และเสนอญัตติจ่ายเงินสะสม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
สำหรับโครงการก่อสร้างถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีตเปลี่ยนฝาบ่อพักเหล็กและวางท่อระบายน้ำ ค.ส.ล. พร้อมบ่อพัก ค.ส.ล. ซอยอัศวนนท์ 6, 6/2 และ 6/4 (หมู่ 5 ตำบลบางเมือง) หลังจากนั้น นางพัชรี แก้วน้อย ประธานกรรมการแปรญัตติ รายงานผลการพิจารณาร่างเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ต่อสภาเทศบาลฯ เพื่อให้สภาเทศบาลตำบลบางเมือง พิจารณาเห็นชอบร่างเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ต่อไป

ข่าว : ป.ป.ส. ขับเคลื่อน Best Practice พลิกสถานการณ์ยาเสพติด ต่อยอดต้นแบบสู่ก้าวใหม่ที่ยั่งยืน    วันที่ 3 กันยายน 2568 ...
03/09/2025

ข่าว : ป.ป.ส. ขับเคลื่อน Best Practice พลิกสถานการณ์ยาเสพติด ต่อยอดต้นแบบสู่ก้าวใหม่ที่ยั่งยืน

วันที่ 3 กันยายน 2568 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย Ms. Delphine Schantz (เดลฟีน ช้านท์ซ) ผู้แทนสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก คณะเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดต่างประเทศประจำประเทศไทย (Foreign Anti-Narcotics Community-FANC) และประชาชน ร่วมกิจกรรม “Best Practices: The Next Chapter ต่อยอดต้นแบบ สู่ก้าวใหม่ที่ยั่งยืน” ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ สำนักงาน ป.ป.ส. โดยงานในวันนี้จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ผลการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดในรอบปีงบประมาณ 2568 ชูต้นแบบโมเดลแห่งความสำเร็จของชุมชนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด พร้อมแนวทางการต่อยอดไปสู่ความยั่งยืน

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า Best Practice ที่ยกเป็นต้นแบบในวันนี้เป็นการนำรูปแบบการทำงานที่พิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง มาต่อยอดสู่ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน โดยมีผลงานเด่นที่ควรขยายต่อ อาทิ การสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังประชาชน การพัฒนางานวิจัยยาทดแทนยาบ้า การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน “Seal Stop Safe” ปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลม” ทำลายเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ และปฏิบัติการ “เด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย” ลดระดับความรุนแรงของปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เพื่อคืนความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทั้งหมดได้กลายเป็นต้นแบบที่สามารถต่อยอดต่อไปได้อย่างยั่งยืน แต่พลังของชุมชน ถือเป็นจุดสำคัญในการพลิกสถานการณ์แก้ไขปัญหายาเสพติด

Ms. Delphine Schantz กล่าวชื่นชมสำนักงาน ป.ป.ส. ที่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยยึดหลัก “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” ซึ่งเป็นหลักสากล และครอบคลุมทุกมิติ จนส่งผลให้ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น และชื่นชมความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบที่สามารถพิสูจน์แล้วว่าเป็นแนวทางที่ใช้ได้จริง เช่น ธวัชบุรีโมเดล โรงเรียนแสงแห่งความหวังโมเดล ท่าอิฐโมเดล เป็นต้น พร้อมย้ำว่า ความสำเร็จเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนในประเทศ แต่ยังสามารถต่อยอดและแบ่งปันประสบการณ์กับภูมิภาคและนานาชาติได้

นอกจากนี้ ยังมีเสวนาพิเศษในหัวข้อ “Best Practices Showcase” แลกเปลี่ยนมุมมองจากพื้นที่ต้นแบบโรงเรียนแสงแห่งความหวังโมเดล จังหวัดชัยภูมิ และท่าอิฐโมเดล จังหวัดนนทบุรี โดยนางสาวอัจฉรา อาษาสู้ นายอำเภอภักดีชุมพล นายสมศักดิ์ สวามีชัย ผู้ใหญ่บ้านพัฒนาสามัคคี จ.ชัยภูมิ นายกษมา ท่าอิฐ ผู้ใหญ่บ้านชุมชนมัสยิดท่าอิฐ จ.นนทบุรี และผู้ผ่านการบำบัด ร่วมเสวนา และช่วงท้ายของกิจกรรมเป็นการส่งต่อกำลังใจจากต้นแบบผู้ที่สามารถเลิกยาเสพติดได้ด้วยพลังใจของตนเอง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและการกล้าเปลี่ยนชีวิต ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. ได้สนับสนุนทุนประกอบอาชีพให้ได้สร้างชีวิตใหม่ แสดงให้เห็นว่า “เมื่อพลังใจของผู้เลิกยา เชื่อมต่อกับการสนับสนุนจากภาครัฐ การกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณค่า จึงเป็นจริงได้และยั่งยืน”

เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวช่วงท้ายว่า “ปัจจัยที่จะทำให้การขับเคลื่อนเหล่านี้ยั่งยืน คือ การที่ชุมชนเป็นเจ้าของปัญหาและร่วมกันแก้ไข การบูรณาการของทุกภาคส่วน และการผูกโยงกิจกรรมเข้ากับวิถีชีวิตประจำวัน จนเกิดเป็นความภูมิใจร่วมกันของคนในชุมชน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของความยั่งยืนอย่างแท้จริง” กิจกรรมในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอความสำเร็จ หากแต่ยังเป็นเวทีในการสะท้อนพลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคีเครือข่ายในระดับนานาชาติ อันจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่สังคมว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง รอบด้าน และบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อมุ่งสู่อนาคต
ที่ปลอดภัยและยั่งยืน

ข่าว : ป.ป.ส. ยกระดับความร่วมมือ จับมือ 3 สถาบัน นำไทยก้าวสู่การใช้ AI Nose เพื่อการตรวจค้นยาเสพติด    วันที่ 2 กันยายน ...
02/09/2025

ข่าว : ป.ป.ส. ยกระดับความร่วมมือ จับมือ 3 สถาบัน นำไทยก้าวสู่การใช้ AI Nose เพื่อการตรวจค้นยาเสพติด

วันที่ 2 กันยายน 2568 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุมพิจารณาความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา AI Nose ในการตรวจค้นยาเสพติด พร้อมด้วย นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นางสาวกัญญนันทน์ คงภัสนิธิโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เข้าร่วม ณ ห้องประชุม Command Centre สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง)

ประเทศไทยกำลังพัฒนาเทคโนโลยี AI Nose (จมูกอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ) เพื่อนำมาใช้ในภารกิจตรวจค้นและระบุสารเสพติดที่สำคัญ ได้แก่ ยาบ้า ไอซ์ คีตามีน และเฮโรอีน ซึ่งเป็นปัญหายาเสพติดที่กระทบต่อความมั่นคงและความปลอดภัยของสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้เป็นการบูรณาการองค์ความรู้จาก 3 สถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ

โดยใข้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ขั้นสูงร่วมกับ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อแยกแยะลักษณะของสารเสพติด ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ซึ่งเป้าหมายคือการยกระดับประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ เพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ที่มีข้อจำกัดต่างๆ ในการตรวจค้นยาเสพติด และลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของยาเสพติดในประเทศ มุ่งหวังให้ประเทศไทยพร้อมก้าวสู่การใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อความมั่นคง และสร้างสังคมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

 #ทีมข่าวSpecialfocusข่าว : สมุทรปราการ "เทศบาลตำบลบางเมือง"ส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านศิลปะ ฝึกนักเรียนให้มีความคิดสร้างสรรค...
02/09/2025

#ทีมข่าวSpecialfocus
ข่าว : สมุทรปราการ "เทศบาลตำบลบางเมือง"ส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านศิลปะ ฝึกนักเรียนให้มีความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ.2568 นาวาเอก อนุศักดิ์ นาคทิม นายกเทศมนตรีตำบลบางเมือง มอบหมายให้ นายเลิศชาย ยั่งยืน รองนายกเทศมนตรี เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านศิลปะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ณ อาคารอเนกประสงค์ ชั้น 2 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลบางเมือง โดยมี นายรุ่งลักสม์ ไทยครองธรรม รองปลัดเทศบาลตำบลบางเมือง กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ เพื่อให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาศักยภาพในการเรียนรู้ที่มีอยู่ สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างนักเรียน ครู และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลยาเสพติด ให้นักเรียนมีความรักและผูกพันธ์กับโรงเรียน
โดยการสร้างสรรค์ให้โรงเรียนสะอาดสวยงาม น่าอยู่ และพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถ พัฒนาตน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มีจิตสาธารณะ เทศบาลตำบลบางเมือง ได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะด้านศิลปะของนักเรียน ซึ่งเทศบาลตำบลบางเมืองได้เล็งเห็นความสำคัญของนักเรียน เด็ก และเยาวชน เพื่อการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็กและเยาวชนในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม อันเป็นการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับสังคมใหม่ได้อย่างสร้างสรรค์และมีความสุข
จึงได้จัดกิจกรรมสตรีทอาร์ทในโรงเรียน ภายใต้โครงการส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านศิลปะขึ้น เพื่อให้นักเรียน เด็กและเยาวชนได้แสดงออก ได้เรียนรู้ สร้างเสริมประสบการณ์และเกิดการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับตนเอง ซึ่งสอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของเทศบาลตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2469 มาตรา 50 (6) ให้ราษฎรได้รับการศึกษาอบรม มาตรา 50 (7) ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยการจัดโครงการส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านศิลปะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
โดยการจัดโครงการส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านศิลปะ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นคณะครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนของสถานศึกษา ในสังกัดเทศบาลตำบลบางเมือง ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจาก นางสาวเนตรนารี คล้ามมีทรัพย์ และคณะในการนี้พันจ่าอากาศตรี ณรงค์ ไชยสลี ผู้อำนวยการกองการศึกษา นางธีรนันท์ จันทรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเทศบาลบางเมือง เข้าร่วมในโครงการนี้ด้วย

ข่าว : มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งกระจายกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ระดมทีมกู้ชีพ กู้ภัย จัดตั้งโรงครัวฯ จัดกำลังช่วยเห...
02/09/2025

ข่าว : มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งกระจายกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ระดมทีมกู้ชีพ กู้ภัย จัดตั้งโรงครัวฯ จัดกำลังช่วยเหลือชาวเพชรบูรณ์ และส่งทีมสังคมสงเคราะห์ แผนกสาธารณภัยฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ชาวเชียงราย พะเยา น่าน สุโขทัย
ตามที่ประเทศไทยได้เกิดอุทกภัยในหลากหลายพื้นที่ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ มอบหมายให้นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ เร่งกระจายทีมบูรณาการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยวานนี้ (วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2568 ) ได้เร่งจัดทีมบรรเทาสาธารณภัย นำโดย นายวรพจน์ จรัสเศรษฐสิริ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ นำทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมเรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รถกู้ภัยและรถพยาบาลขับเคลื่อน 4 ล้อ เสื้อชูชีพ น้ำดื่ม ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว เร่งลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในทันที โดยกองอำนวยการฯ และโรงครัวเคลื่อนที่ จัดตั้ง ณ บริเวณสมาคมกกไทร พ่งไล้ยี่จับเซียวเกาะ อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งในขณะนี้ ทีมบรรเทาฯ กำลังปฏิบัติภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ โดยท่านสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ เฟซบุ๊ก https://xn--www-5kl6e4af9xg.facebook.com/atpohtecktung หรือดูรายละเอียดช่องทางที่สะดวกได้ที่ https://linktr.ee/pohtecktung
พร้อมกันนี้ ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม -1 กันยายน พ.ศ. 2568 แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย นายชุมพล บุญภักดี ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสาธารณภัย จัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 4 จังหวัดเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน และสุโขทัย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมันพืช และน้ำปลา รวมทั้งสิ้น 8,000 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 3,600,000 บาท (สามล้านหกแสนบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมูลนิธิสงเคราะห์ 14 จังหวัดภาคใต้ และ สมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ
เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเรือท้องแบน และ โรงครัวเคลื่อนที่เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ ชุดยาเวชภัณฑ์ และอาหารสุนัขและแมว นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ ในเบื้องต้น พร้อม ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ โดยแผนกสาธารณภัย จะประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท และกรณีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นอกจากนี้ ในปี พ.ศ.2568 ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ โดยแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ริเริ่มโครงการมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยยากไร้ โดยร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดยได้ทำพิธีมอบไปแล้ว 2 จังหวัดภาคเหนือ รวมงบประมาณการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด และมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยยากไร้ในปี 2568 กว่า 20.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ มูลนิธิฯ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

ข่าว : ป.ป.ส. อนุมัติจ่ายเงินกว่า 9 ล้านบาท หนุนกำลังเจ้าหน้าที่ และผู้แจ้งเบาะแสคดียาเสพติด ร่วมสกัดกั้นและปราบปรามยาเส...
02/09/2025

ข่าว : ป.ป.ส. อนุมัติจ่ายเงินกว่า 9 ล้านบาท หนุนกำลังเจ้าหน้าที่ และผู้แจ้งเบาะแสคดียาเสพติด ร่วมสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดอย่างยั่งยืน

วันอังคารที่ 2 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับ เงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ และ เงินช่วยเหลือในการปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ครั้งที่ 5/2568 โดยมีผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมศุลกากร เข้าร่วมประชุมในฐานะอนุกรรมการฯ ณ ห้องประชุมกฤษณะ อาคาร 3 ชั้น 2 สำนักงาน ป.ป.ส. พร้อมการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรม Cisco Webex Meetings

โดยที่ประชุมได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงิน ดังนี้ เงินค่าตอบแทนผู้แจ้งความนำจับและค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ ให้แก่หน่วยงาน 47 หน่วยงาน จำนวน 123 คดี รวมเป็นเงิน 9,694,255.21 บาท และเงินช่วยเหลือเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน ในคดียาเสพติด จำนวน 14 ราย เป็นเงิน 190,000 บาท รวมเป็นเงิน 9,884,255.21 บาท

สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจ่ายเงินค่าตอบแทนผู้แจ้งข้อมูลการค้ายาเสพติด เจ้าหน้าที่ผู้สืบสวนและขยายผลคดี รวมถึงการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจและเสริมสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นและปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน

01/09/2025

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งส่งทีมบรรเทาสาธารณภัยลงพื้นที่เพชรบูรณ์ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สั่งการด่วนระดมกำลังเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย 50 นาย พร้อมอุปกรณ์และยานพาหนะสนับสนุน ได้แก่ เรือ 4 ลำ รถโรงครัวเคลื่อนที่ 2 คัน รถกู้ชีพ 4x4 จำนวน 3 คัน เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง รวมถึงอุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำและเวชภัณฑ์ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ในขณะนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วม

ทั้งนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจะรายงานความคืบหน้าในการปฏิบัติการช่วยเหลือต่อไป
สอบถามเพิ่มเติม โทร. สายด่วน 1418

ข่าว : ตำรวจ กองสืบ ตม.3 หัวใจจิตอาสา! รีบช่วยประชาชนเจ็บจากอุบัติเหตุ    เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกั...
31/08/2025

ข่าว : ตำรวจ กองสืบ ตม.3 หัวใจจิตอาสา! รีบช่วยประชาชนเจ็บจากอุบัติเหตุ

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด กองกำกับการสืบสวนสอบสวน บก.ตม.3 ขณะปฏิบัติหน้าที่ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวในพื้นที่รับผิดชอบ ได้พบประชาชนประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบเข้าช่วยเหลือในทันที

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการ ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใช้ชุดปฐมพยาบาลที่มีประจำตัวเพื่อดูแลบาดแผลให้แก่ผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้ง ประสานหน่วยกู้ภัยและตำรวจท้องที่ เข้าสนับสนุนเพื่อความปลอดภัยและความรวดเร็วในการช่วยเหลือต่อไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ ประกอบด้วย
1. ร.ต.อ.มาตรา จิตรธนภัทร์ รอง สว.กก.สส.บก.ตม.3
2. ร.ต.อ.เมธาวัจน์ ธีระรัตน์สิริ รอง สว.กก.สส.บก.ตม.3
3. ร.ต.อ.กิตติ์ธนทัต อิทธิพัฒน์ปัญญา รอง สว.กก.สส.บก.ตม.3
4. ร.ต.อ.ฐิติยพงศ์ ธาตุศาสตร์ รอง สว.กก.สส.บก.ตม.3

การปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง จิตสำนึกความเสียสละและความมุ่งมั่นในการเป็นที่พึ่งของประชาชน ซึ่งไม่เพียงแต่ปฏิบัติหน้าที่ด้านการสืบสวนสอบสวน แต่ยังพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉิน อันเป็นแบบอย่างที่ดีของตำรวจไทย

ข่าว : ไทยร่วมประชุม ASOD ครั้งที่ 46 ที่สิงคโปร์ เดินหน้าความร่วมมืออาเซียนต้านภัยยาเสพติด พร้อมรับ ไม้ต่อเจ้าภาพปีหน้า...
27/08/2025

ข่าว : ไทยร่วมประชุม ASOD ครั้งที่ 46 ที่สิงคโปร์ เดินหน้าความร่วมมืออาเซียนต้านภัยยาเสพติด พร้อมรับ ไม้ต่อเจ้าภาพปีหน้า

เมื่อวันอังคารที่ 26 สิงหาคม 2568 นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วย รศ.มานพ คณะโต ประธานคณะกรรมการบริหารเครือข่ายองค์กรวิชาการสารเสพติด นางสาวศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ และผู้แทนจากกอง/สำนักที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านยาเสพติด (ASEAN Senior Officials Meeting on Drug Matters: ASOD) ครั้งที่ 46 โดยมีหน่วยงานกลางด้านยาเสพติดของสาธารณรัฐสิงคโปร์ (Central Narcotics Bureau: CNB) เป็นเจ้าภาพ การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนผลการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมา และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ตลอดจนกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาค

ก่อนเริ่มการประชุม คณะผู้แทนอาเซียนได้เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นาย K. Shanmugam รัฐมนตรีประสานงานด้านความมั่งคงแห่งชาติและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของสิงคโปร์ ซึ่งในพิธีเปิด ฯพณฯ นาย K. Shanmugam ได้กล่าวเปิดการประชุมและเน้นย้ำถึงความสำคัญของปัญหายาเสพติดที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยในระดับโลก โดยส่งผลกระทบต่ออัตราการเสียชีวิตจากยาเสพติด การเพิ่มขึ้นของอาชญากรรม และความรุนแรงที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเน้นย้ำความสำคัญของการประชุม ASOD ว่าเป็นเวทีความร่วมมือที่สำคัญสำหรับการเสริมสร้างความร่วมมือและยกระดับการต่อสู้กับยาเสพติดในอาเซียน นอกจากนี้ ประเทศไทยได้เปิดตัวรายงานเฝ้าระวังสถานการณ์ยาเสพติดอาเซียน ประจำปี พ.ศ. 2567 (ASEAN Drug Monitoring Report 2024) ซึ่งเป็นผลงานที่ประเทศไทยเป็นผู้นำในการจัดทำ เพื่อแจ้งเตือนประเทศสมาชิกให้เฝ้าระวังสถานการณ์ในภูมิภาค และเตรียมการรับมือกับปัญหาดังกล่าว

นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมเกี่ยวกับมุมมองและความพยายามของประเทศไทยในการต่อสู้กับยาเสพติด โดยระบุว่าประเทศไทยได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติและเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลไทย โดยประเทศไทยได้เปิดปฏิบัติการ Seal Stop Safe เพื่อจัดการปัญหายาเสพติดภายในประเทศ และกล่าวถึงผลสำเร็จของการประชุมวิชาการสารเสพติดนานาชาติ ปี พ.ศ. 2568 ในหัวข้อ “ยาบ้า เมทแอมเฟตามีน และสารเสพติดสังเคราะห์” (International Conference: Yaba, Methamphetamine and Synthetic Drug) ที่จัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 6-วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพมหานคร โดยจะมีการนำผลการประชุมดังกล่าวไปจัดทำเป็นเอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND) สมัยที่ 69 ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย ต่อไป

นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยยังได้รายงานผลการประชุมต่าง ๆ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในห้วงที่ผ่านมา อาทิ การประชุมคณะทำงานสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานสากลในอาเซียน (ASEAN Airport Interdiction Task Force: AAITF) ครั้งที่ 14 การประชุมเครือข่ายข้อมูลเฝ้าระวังยาเสพติอาเซียน (ASEAN Drug Monitoring Network: ADMN) ครั้งที่ 19 และการประชุมกลุ่มย่อยด้านปราบปรามยาเสพติด (Law Enforcement Working Group) ครั้งที่ 11

ในส่วนของการประชุมกลุ่มย่อยเมื่อวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม 2568 คณะผู้แทนไทยได้เข้าร่วมใน 4 กลุ่มย่อย ได้แก่ การป้องกันยาเสพติด การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพยาเสพติด การวิจัย และการพัฒนาทางเลือก โดยมีการแบ่งปันประสบการณ์และองค์ความรู้เพื่อร่วมกันพัฒนาการดำเนินงานด้านยาเสพติดในภูมิภาคอาเซียน

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือและการประสานงานระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดที่ทวีความรุนแรงในปัจจุบัน

ที่อยู่

Changwat Rayong

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ The trap newsผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์