เริ่มซักที

เริ่มซักที ไม่ว่าจะทำอะไร "เริ่มซักที"

ถ้าคุณยังไม่เริ่มเพจนี้จะปลุกให้คุณเริ่มทำสักที

การมีเงินเยอะไม่ได้หมายว่าจะมีความสุขแต่การมีเงินไม่พอใช้มักเป็นสาเหตุให้เรามีทุกข์เสมอแม้ว่า "เงิน" จะไม่ได้อยู่ในปัจจั...
02/09/2025

การมีเงินเยอะ
ไม่ได้หมายว่าจะมีความสุข
แต่การมีเงินไม่พอใช้
มักเป็นสาเหตุให้เรามีทุกข์เสมอ
แม้ว่า "เงิน" จะไม่ได้อยู่ในปัจจัย 4
แต่ปัจจัย 4 ก็ต้องแลกเปลี่ยนได้ด้วยเงิน

20/08/2025

วิธีจัดการความฟุ้งซ่านก่อนนอน
คือ เขียนสิ่งที่คิด
หรือ To do list
ที่จะทำในวันพรุ่งนี้ หรือสัปดาห์หน้าลงกระดาษ

เราทำงานกันทุกวันนี้เพื่ออะไรเพื่อบ้าน เพื่อรถ เพื่อชีวิตที่มั่นคง?ไม่ว่าจะตอบคำถามนี้ด้วยอะไรสุดท้ายมาตกตะกอนได้ว่าเพื่...
19/08/2025

เราทำงานกันทุกวันนี้เพื่ออะไร
เพื่อบ้าน เพื่อรถ เพื่อชีวิตที่มั่นคง?
ไม่ว่าจะตอบคำถามนี้ด้วยอะไร
สุดท้ายมาตกตะกอนได้ว่าเพื่อ "เงิน"
เงินที่เราหาตอนวัยหนุ่มเพื่อที่จะเลี้ยงเราตอนแก่
ถ้าเราไม่จัดการเงิน เงิน(ที่ไม่มากพอ)ก็จะจัดการเรา
แล้วเงินที่หามาได้เราทำอะไรกับมันต่อ
การวางแผนการเงินอาจเป็นคำสวยหรู
ที่ครั้งหนึ่งเคยมองว่ายังไกลตัว
เป็นเรื่องของคนรวยหรือคนที่มีเงินเหลือเก็บเยอะๆ
แต่พอได้คุยกับตัวเองก็พบว่า
ที่เราทำงานทุกวันนี้ก็เพื่อเงินไม่ใช่หรอ

ถ้าเราไม่จัดการเงินที่หามาได้
การวางแผนการเงินเป็นเรื่องของ “ทุกคน”
ไม่ว่าจะมีรายได้มากหรือน้อย
ทำงานหนักแทบตาย แต่สิ้นเดือนเงินก็แทบไม่เหลือ
มีความฝันอยากซื้อบ้าน
อยากพาครอบครัวไปเที่ยว
แต่ไม่รู้จะเริ่มเก็บเงินยังไง
อยู่ดี ๆ เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
เช่น โควิด ตกงาน ไม่มีเงินสำรองรองรับชีวิต

เหตุผลที่เราควรเริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้

-เพราะอนาคตไม่แน่นอน
ไม่มีใครรู้ว่าอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้า
จะเกิดอะไรขึ้น แต่การมีเงินสำรอง การลงทุน
หรือการออม จะช่วยให้เราพร้อมรับมือเสมอ

-เพราะความฝันต้องการเงินเป็นเชื้อเพลิง
ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ การศึกษา
หรืองานแต่งงาน ทุกเป้าหมายในชีวิตล้วนต้องใช้เงิน
การวางแผนคือการสร้างเส้นทางที่ชัดเจน
ให้เราเดินไปถึงความฝันได้จริง

-เพราะการเงินที่ดี คือความสุขทางใจ
ลองนึกถึงตอนที่มีหนี้เยอะ
เทียบกับตอนที่มีเงินเก็บ มันต่างกันมากจริง
การวางแผนทำให้เราไม่ต้องกังวลทุกสิ้นเดือน
และใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ

-เพราะเงินสามารถทำงานแทนเราได้
ถ้าเริ่มลงทุนหรือบริหารการเงินตั้งแต่วันนี้
อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจไม่ต้องทำงานหนักเหมือนเดิม
แต่ปล่อยให้ดอกเบี้ยและผลตอบแทนช่วยสร้างรายได้แทน

-เพราะร่างกายเราทุกคนมีวันโรยรา
เป็นสิ่งที่โดนมองข้ามมาเสมอ เพราะมันยังไม่ถึงเวลา
แต่เคยรู้สึกไหมว่าเวลาป่วยแล้วไม่กล้าไปโรงบาล
ไม่ใช่อะไรเลย เพราะกลัวแพง กลัวค่าใช้จ่าย
ซึ่งความกังวลนี้ป้องกันได้ด้วยประกันที่เหมาะสม

ได้เวลาทบทวนแล้วว่า
ที่เราทำกันทุกวันนี้ ทำไปเพื่ออะไร
ไม่ได้ทำให้ท้อแต่ทำให้เป้าหมายชัดเจนยิ่งขึ้น
ชีวิตที่ใช้ได้คือชีวิตที่ได้ใช้
แต่จะใช้ได้อย่างมั่นคงไม่ต้องรอให้รวย
แต่ยังไงก็ต้องจัดการเงิน

#เริ่มซักที

เรียนมหา‘ลัยมา 4 ปี เพื่อรับเงินเดือน 15000?ถ้ามองในแง่ของ “ตัวเงิน” ก็รู้สึกว่ามันไม่คุ้มเรียนหนักมาตั้ง 4 ปี แต่พอทำงา...
18/08/2025

เรียนมหา‘ลัยมา 4 ปี เพื่อรับเงินเดือน 15000?

ถ้ามองในแง่ของ “ตัวเงิน” ก็รู้สึกว่ามันไม่คุ้ม
เรียนหนักมาตั้ง 4 ปี แต่พอทำงานจริงกลับได้แค่ 15,000 บาทต่อเดือน
ใช่แหละ ถ้ามองแต่แง่เงิน มันน้อยจริงๆ
ยิ่งทุกวันนี้ค่าครองชีพสูงปรี๊ดขนาดนี้
แทบจะไม่พอใช้
แต่
ถึงจะเป็นปัจจัยหลัก
ตอนอายุน้อยๆ เงินเดือนก็ไม่ใช่ “คุณค่าที่แท้จริง” ในการเลือกองค์กรที่จะทำงานด้วย
ลองมองในแง่ โอกาสที่จะได้เรียนรู้ ได้ลองผิดลองถูก และได้สร้างทักษะที่ต่อยอดได้
แต่ก็มีคำถามอีกว่าแล้วเราต้องการทักษะอะไรที่จะเอาไปต่อยอดล่ะ
เรื่องนี้จะให้ตอบแบบเป็นแพทเทิร์นก็คงยาก เพราะแต่ละคนเป้าหมายไม่เหมือนกัน
จะขอเล่าเรื่องของตัวเองแล้วกัน
ผมเรียนจบพาณิชยนาวีแล้วทำงานในอาชีพวิศวกร
จุดประสงค์ของการเลือกเรียนสายนี้คือ จบมาไม่ต้องแย่งงานกับใคร ได้เงินเดือนเยอะ
เอาเข้าจริงพอไปทำแล้วดันรู้สึกว่าไม่ใช่ทาง เพราะได้สัมผัสงานเห็นโลกภายนอก เลยรู้ว่าเราดันอยากเทรดหุ้นมากกว่า
พอได้เทรดหุ้นจริง ก็พบว่ากว่าจะได้กำไรสุทธิแต่ละบาท มันยากจริงๆ เสียสุขภาพร่างกาย เสียสุขภาพจิต ความสัมพันธ์กับคนรอบตัว
จนพบว่า แม่ค้าน้ำเต้าหู้ได้กำไรจากการขายแต่ละถุงมากกว่า 20%
ตั้งแต่นั้นมาผมก็สนใจการเงินและธุรกิจ จนตัดสินใจสมัครงานเข้าไปในสายงานธุรกิจอย่างจริงจัง
ถ้าไม่ได้เข้าเรียนพาณิชยนาวีและได้ทำงานเรือก็คงไม่มีทางรู้ว่าผมชอบเส้นทางธุรกิจและการเงิน
เพราะการทำงานจริง ไม่ได้ให้แค่เงินเดือน
แต่มันคือ "สนามซ้อมชีวิต"
เราได้ลองทำธุรกิจคนอื่นอย่างมากทำพลาดก็โดนไล่ออก ไม่ถึงกับเจ๊ง
จะได้ลองสื่อสารกับคนต่างวัย
ได้ฝึกตัดสินใจในสถานการณ์กดดัน
ได้เห็นภาพจริงว่า ทฤษฎีในห้องเรียนต่างจากโลกการทำงานแค่ไหน
ทั้งหมดนี้คือ ประสบการณ์ที่เงินซื้อไม่ได้
คำถามคือ เราจะมองเงินเดือนแรกเป็น “ค่าตอบแทนสุดท้าย” หรือจะมองมันเป็น “ค่าแรกเข้า” เพื่อให้เราได้เข้าไปเก็บเกี่ยวสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงิน?
เพราะท้ายที่สุดแล้ว เงินเดือน 15,000 อาจจะไม่คุ้มในมุมตัวเลข
มันคือการซื้อประสบการณ์ที่จะไม่มีวันเข้าใจ
จนกว่าจะได้เอาตัวเองลงไปอยู่ในสนาม
จบจือ

วันไหนเจอเรื่องเครียดๆ เจออะไรที่ไม่ค่อยเป็นใจผมจะถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร?เพื่อมีความสุข มีบ้าน มีรถ หรือมีอิสระ...
15/08/2025

วันไหนเจอเรื่องเครียดๆ เจออะไรที่ไม่ค่อยเป็นใจ
ผมจะถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร?
เพื่อมีความสุข มีบ้าน มีรถ หรือมีอิสระ
แก่มาเราจะเป็นคนแบบไหน
แล้วที่เราทำกันทุกวันนี้มันเพื่ออะไร
ถ้าสุดท้ายแล้วปลายทางเพื่อ มีความสุข มีความสงบ
ลองถามตัวเองอีกนิดว่า แล้วตอนนี้มันมีไม่ได้เลยหรอ
อะไรที่ทำให้เรายังไม่มีความสุขไม่ได้
พอถามคำตอบนี้แล้วตอบได้
ปัญหาที่เจออยู่มักจะเล็กลงไปทันที
แล้วตอนนี้ทำไมเราถึงยังมีความสุขไม่ได้
เพราะปัญหาที่เจออยู่หรอ
แปลว่าเราต้องรอสิ่งภายนอกมาทำให้เรามีความสุขทุกครั้งใช่ไหม
แบบนี้ต่อให้ได้สิ่งที่ต้องการความสุขก็จะอยู่ไม่นานหรอก
ผมเคยตั้งใจเก็บเงินซื้อโทรศัพท์ใช้เวลาหลายเดือน
ช่วงเวลานั้นตื่นเต้นมาก ตั้งใจทำแผนเก็บเงิน
จนในที่สุดก็ซื้อได้
แต่ไม่น่าจะเกินเดือนความสุขที่ได้โทรศัพท์มาก็หายไป
แล้วก็อยากได้สิ่งอื่นใหม่อีก เรื่อยๆ
เท่าที่ใช้ชีวิตมาถึงวันนี้
พบว่าปัญหามันมาเรื่อยๆ ถ้าเรายังไม่เข้าใจเกมที่เราเล่น
เราจะไม่มีทางมีความสุขได้เลย เพราะที่จริงความสุขความสงบความทุกข์มันเกิดจากภายใน
ก็อยู่ที่มุมมองว่า เรามองยังไงกับสิ่งนั้นๆ
จริงๆแล้วเรามีความสุขกับสิ่งต่างๆได้ทันที
ถ้ายังไม่มี ลองมองยาวๆว่าปัญหานี้กำลังทำให้เราเรียนรู้อะไร
ว่าสุดท้ายแล้วเราจะเป็นคนแบบไหน
ผมอยากเป็นคนที่มีความสุข ความสงบ
พอเจอสิ่งที่คิดว่าผ่านไปได้ยาก มันก็เกิดความเครียดเป็นธรรมดา
แต่หลังจากนั้นก็ทำให้ได้คิดว่า สุดท้ายแล้ว
เราอยากมีความสุข สิ่งที่เราเจออยู่นี้ก็จะเป็นปัจจัยที่จะทำให้เรามีความสุข
แล้วเราจะมีความสุขกับปัญหานี้ได้ยังไง
เลยคิดง่ายๆว่า สุดท้ายถ้าเราหาทางแก้ได้มันจะเพิ่มความสามารถให้เรา
แค่เบี่ยงเบนความคิดไม่ให้ใช้เวลากับปัญหามากเกินไป
มันก็เริ่มเปลี่ยนฉากการมอง แล้วเริ่มลงมือทำได้อีกครั้ง
ไม่ว่าจะเจออะไรอยู่ ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร?

สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอผมได้หยิบเอาหนังสือที่เคยอ่าน มาอ่านอีกครั้งความรู้สึกตอนแรกคิดว่าเนื้อหาต้องเก่าไปแล้ว...
11/08/2025

สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ
ผมได้หยิบเอาหนังสือที่เคยอ่าน มาอ่านอีกครั้ง
ความรู้สึกตอนแรกคิดว่าเนื้อหาต้องเก่าไปแล้วแน่ๆ
ด้วยความที่
ตอนอ่านได้ 1 บท รู้สึกว่า เห้ย ทำไมเหมือนไม่เคยอ่านเลย
ทั้งที่อ่านเล่มนี้ไปแล้วหลายครั้ง
พบว่าเนื้อที่ได้อ่าน มันยังเอามาใช้ได้ในตอนนี้
ยิ่งอ่านก็ยิ่งอยากอ่านต่อเรื่อยๆ
โดยเฉพาะบทนี้
"ยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต"
ประโยคง่ายๆ ที่ทำไม่ง่ายในชีวิตจริง
ลองสังเกตเรื่องที่เป็นปัญหาของเราในตอนนี้ดู
ว่าอะไรกันคือสาเหตุ บางทีคำตอบง่ายๆ
อาจจะเป็นแค่เพราะเราไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
ปัญหามันเลยไม่ถูกแก้
พอปัญหามันไม่ถูกแก้ มันก็คาราคาซังอยู่แบบนั้นเรื่อยๆ
สิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว มันย้อนกลับไปทำให้มันไม่เกิดไม่ได้
แต่สิ่งที่เราทำได้คือ แก้ไข ปรับปรุงมัน
แต่ก่อนจะไปแก้ไขอะไร
เริ่มยอมรับก่อน

ใครนอนไม่หลับ กำลังไถฟีดให้ง่วงอยู่ลองเปิดคลิปเสียงนี้ฟังดูครับบางวันที่วางงานลงหรือนอนไม่หลับคลิปนี้หรือจากช่องนี้ช่วยไ...
10/08/2025

ใครนอนไม่หลับ กำลังไถฟีดให้ง่วงอยู่
ลองเปิดคลิปเสียงนี้ฟังดูครับ

บางวันที่วางงานลงหรือนอนไม่หลับ
คลิปนี้หรือจากช่องนี้ช่วยได้เยอะเลย

ใครหลับๆตื่นๆหลับไม่สนิทแนะนำให้ลองฟังครับกดเข้ากลุ่มฟรี! เก่งขึ้นวันละ 1%!https://www.facebook.com/groups/350505719845935แจกฟรี! อีบุ๊ก 1...

ขอพรให้"อยากก้าวหน้าในชีวิต อยากมีโชคดีเข้ามา อยากได้โอกาสดีๆ"หลายครั้งตอนผมขอพรประมาณนี้หลังจากนั้นไม่นานจะมีเรื่องหนัก...
07/08/2025

ขอพรให้
"อยากก้าวหน้าในชีวิต อยากมีโชคดีเข้ามา อยากได้โอกาสดีๆ"
หลายครั้งตอนผมขอพรประมาณนี้หลังจากนั้นไม่นานจะมีเรื่องหนักๆเข้ามาจนบางทีก็สงสัยว่าผมทำอะไรผิดรึเปล่า
ทำไมอะไรๆมันยากไปหมด
แต่พอได้ใช้ใจแก้ปัญหาพวกนั้นจบ
ก็พบว่า ตัวเองเก่งขึ้น และอดทนขึ้น ในเรื่องนั้น
จนได้รู้ว่า
เพราะ “โอกาส” มักไม่ได้มาในรูปแบบที่สวยงาม
แต่มักแฝงตัวมาในรูปของ “ปัญหา”
บางครั้งเราอาจรู้สึกว่า ทำไมช่วงนี้มีแต่เรื่องยุ่งยาก ทำไมเจอแต่ความท้าทายไม่รู้จบ
แต่นั่นแหละ
คือช่วงเวลาที่ชีวิตกำลังโยน “โอกาสในการเติบโต” มาให้เรา
หลายความสำเร็จเริ่มต้นจากการที่เจ้าของมัน
กล้าหันหน้าเข้าหาปัญหาแทนที่จะวิ่งหนี
มองเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่อยากแตะ แล้วลงมือทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ทำ
ใครแก้ปัญหาได้มากกว่า
คนนั้นก็มักได้โอกาสมากกว่า
ไม่ว่าจะในงาน ในความสัมพันธ์ หรือในชีวิตส่วนตัว

เคยได้ยินคำว่า ใครแก้ปัญหาได้มากกว่าก็ได้เงินได้เยอะกว่าไหม
แล้วแบบนี้จะหนีปัญหาไปทำไม ก็สู้กับมันสักทีสิ

คำว่ายังไม่พร้อมมีสองทางเลือกให้เราเสมอ1.ใช้เป็นคำถามต่อยอดเพื่อให้ตระหนักว่าเรายังขาดปัจจัยอะไร2.ใช้เป็นข้ออ้างที่ไม่ต้...
07/08/2025

คำว่ายังไม่พร้อม
มีสองทางเลือกให้เราเสมอ
1.ใช้เป็นคำถามต่อยอด
เพื่อให้ตระหนักว่าเรายังขาดปัจจัยอะไร

2.ใช้เป็นข้ออ้างที่ไม่ต้องลงมือทำ

เรากำลังเป็นข้อไหนอยู่

ลองเล่นๆว่า "ถ้าถูกรางวัลที่ 1"ที่ซื้อมาสองใบได้เงินประมาณ 12 ล้านจะเอาไปทำอะไรกันดีได้คำตอบว่าถ้าถูกหวยรางวัลที่ 1จะหยุ...
02/08/2025

ลองเล่นๆว่า
"ถ้าถูกรางวัลที่ 1"
ที่ซื้อมาสองใบได้เงินประมาณ 12 ล้าน
จะเอาไปทำอะไรกันดี

ได้คำตอบว่าถ้าถูกหวยรางวัลที่ 1
จะหยุดทำงานแล้วเกษียญตัวเองสักที
แล้วไปเดินทางรอบโลก

แต่พอได้ออกไปกินเตี๋ยวแถวบ้าน ยื่นแบงค์ 100 ไป
ได้แบงค์ 20 ทอนมา 2 ใบ ย๊าง!

มารู้ตอนนี้แหละว่าเมื่อก่อนมันได้ทอนเยอะกว่านี้ นี่หว่า

เลยเอามาเขียนในแผน ตามที่ได้เรียนมาว่า
12 ล้าน (ที่หวังว่าจะได้) ในวันนี้มันพอไหมที่จะเลี้ยงชีวิตแบบไม่ต้องทำงานอีกแล้ว

สมมติวันนี้ได้เงินมาเลย 12 ล้าน
ตอนนี้อายุ 30 คิดคร่าวๆว่าจะอยู่ถึงสัก 80 พอ
(อายุเฉลี่ยปู่ย่าตายาย)
มีเวลา 50 ปี ในการใช้เงินก้อนนี้เป็นหลัก
จะต้องเฉลี่ยเงินไว้ใช้ปีละ 240,000 บาท
หรือเดือนละ 20,000 บาท

ฟังดูก็ไม่แย่นี่ ถ้าแบ่งเงินเป็นสัดส่วนหน่อยเดือนละ 20,000 นี่ อยู่ได้ไม่เดือดร้อนเลย

แต่เงื่อนไขคือ ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ห้ามเที่ยว
ห้ามมีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้น
ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นแน่นอนถึงจะไม่อยากให้มันเกิด
แล้วที่มันมีแน่นอนเลยคือ "เงินเฟ้อ"

หมายความว่า เงิน 20,000 ในวันนี้จะไม่ใช่ 20,000 ในอีก 40-50 ปีข้างหน้า อย่าว่าแต่ 40 ปีเลย
5 ปีข้างหน้า มูลค่าเงินนี้จะซื้อของได้น้อยลง

เท่าที่จำราคาก๋วยเตี๋ยวช่วงปี 2550
ช่วงนั้น 20-30 บาทนี่กินได้หลายอย่างมาก กินจนอิ่ม
แต่ปีนี้ 2568 กลายเป็นถ้วยละราคานี้หาได้ไม่มาก
ทั่วไปเริ่มต้นที่ 40 บาท
นี่พูดถึงแค่เรื่องอาหารอย่างเดียว
ไหนจะเรื่องค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง ค่ารักษาอีก

ตัวเงินเฟ้อนี่แหละที่มันแทรกอยู่ในทุกๆเวลาของเรา
ในแบบที่เราไม่ค่อยรู้ตัว ผมรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ควักแบงค์ 100 ออกมาซื้อของ แล้วพบว่าทำไมซื้อข้าวจานนึงได้เงินทอนแบงค์ 20 แค่ 2 ใบเอง

ยิ่งถ้าเป็นคนที่เกลียดการลงทุน กองก็จะกองในธนาคารแบบนิ่งๆ รอรับดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25% ต่อปีไปชิลล์ๆ
รอเงินเฟ้อ 3% มาสูบมูลค่าเงินให้ลดลงไปอีก

ซึ่งพอคำนวณตามทฤษแล้ว มูลค่าในอนาคตของเงิน 12 ล้านก้อนนี้จะเหลือประมาณ 2.74 ล้านบาท เอ๊งงงง!
หรือตอกย้ำไปอีกว่า เงิน 2 หมื่นบาทที่วางแผนจะใช้ทุกเดือน ในอีก 50 ปี มูลค่าจะเหลือแค่ 4.5 พันบาท เอ๊งง!!

อาจฟังดูไกลตัว แต่ถ้าได้ย้อนกลับมาถามตัวเองว่า
เราทำงาน/ทำสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้เพื่ออะไร
ก็จะได้คำตอบมากขึ้น
ส่วนตัวผมสรุปใจความได้ว่าที่เราทำงานหาเงินกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อ เลี้ยงตัวเราในอนาคต
หรือรวมความว่า
"ให้เราวัยทำงาน เพื่อเลี้ยงเราในวัยชรา" นี่แหละ!!
ถ้ายังไม่ได้วางแผน เดินหน้าหาเงินอยู่
เงินที่หาไว้ สะสมไว้ในวันนี้อาจจะได้ตามเป้าหมาย
แต่ใช้จ่ายได้น้อยลงกว่าเดิม
ถึงเวลานั้น เราจะรู้ตัวว่า ต้องทำอะไรเพิ่มเพื่อให้ได้รายได้เพิ่มขึ้น หรือ ต้องทำยังไงให้เงินมันทำงาน
มันก็แก่เกินกว่าจะมีแรงแล้ว

บ้านผมเรียก "กว่าจะฮู้คิง น้ำปิงปอแห้ง"
แต่ แต่ ไม่มีอะไรสายเกินกว่าที่เราจะเริ่มวันนี้
เราจะเก็บเงินยังไงให้ได้ 12 ล้าน
หรือถ้า 12 ล้านจากหวยมันดูยากไป
ลองถามว่าถ้าเก็บเงินได้สัก 1 ล้าน
ณ เวลาเกษียณจะพอไหมดีกว่า
เราได้เตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว
ทำงานกันไปวันๆ ใครก็ทำได้แหละ
แต่เคยถามตัวเองจริงจังไหมว่าทำไปเพื่ออะไร
ทุกสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดทั้งมวล
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร
อาจจะตอบโจทย์ของประโยคที่ว่า
เราทำงานในตอนนี้ เพื่อเลี้ยงตัวเองในตอนแก่!

เราได้เตรียมอะไรไว้ให้ตัวเอง ครอบครัว รึยัง!!!

ความมั่นคงในชีวิต อาจไม่ได้อยู่ที่องค์กรที่คุณร่วมงานด้วยเพียงปัจจัยเดียวแต่ขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถที่คุณมีต่างหาก...
01/08/2025

ความมั่นคงในชีวิต อาจไม่ได้อยู่ที่องค์กรที่คุณร่วมงานด้วยเพียงปัจจัยเดียว
แต่ขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถที่คุณมีต่างหาก
ผมเองเป็นคนที่นับว่าย้ายงานประจำมาหลายงาน
มีทั้งงานที่ตรงสายที่จบมาและงานที่ไม่ตรงสายเลย
และในทุกๆงานที่ตัดสินใจไป
ไม่มีคำว่าความมั่นคงอยู่ในปัจจัยที่ใช้เลือกเลย

ก็ด้วยว่า "จะมั่นคงหรือไม่มั่นคง"
ขึ้นอยู่กับตัวเราเป็นหลัก
เพราะสิ่งที่ผมตั้งเป้าไว้ว่าจะทำงาน
ต้องเป็นงานที่มีรายได้เหมาะสมกับเป้าหมายที่วางไว้
และที่สำคัญต้องได้ความรู้ที่เอามาพัฒนาตัวเองและงานได้
ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ ทั้งเงินและความรู้ ผมก็ไปต่อยอดกับอะไรหลายๆอย่างได้ เช่น ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ
ความมั่นคงทางการเงินไม่ใช่การอยู่ในองค์กรที่ให้ผลตอบแทนสูงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการที่คุณบริหารค่าใช้จ่ายในชีวิตของคุณได้ทั้งในระยะสั้นไปถึงระยะยาว
ความมั่นคงทางการงานก็เช่นกัน หากคุณทำงานได้เต็มที่มีส่วนช่วยให้องค์กรก้าวหน้า ก็คงไม่มีใครอยากให้คุณออกจากองค์กร หรือถึงแม้จะเกิดกรณีจ้างออกหรือบริษัทล้ม
สิ่งที่คุณมีก็ยังคงเป็นความรู้ความสามารถและประสบการณ์ซึ่งจะเอาไปต่อยอดกับองค์กรอื่นหรือเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง
ผมจึงเชื่อว่า ความมั่นคงของตัวเราเองไม่ควรไปฝากไว้กับคนอื่นหรือองค์กรอื่น ในเมื่อนี่คือชีวิตของเรา
ความรับผิดชอบของเรา เราควรที่จะสร้างความมั่นคงให้ตัวเองก่อนเป็นคนแรก

30/07/2025

จริงๆ แล้ว
เราไม่ได้ “ขี้เกียจ” หรอก
เราแค่ไม่ต้องการ
“เป้าหมาย” นั้นมากพอ

ที่อยู่

Chiang Mai

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เริ่มซักทีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง เริ่มซักที:

แชร์