เริ่มซักที

เริ่มซักที ไม่ว่าจะทำอะไร "เริ่มซักที"

ถ้าคุณยังไม่เริ่มเพจนี้จะปลุกให้คุณเริ่มทำสักที

เห็นข้อความนี้ครั้งแรกในแคปชั่นของเพื่อนชาวต่างเมื่อหลายปีก่อนประโยคนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเพจนี้  ได้ลองทำอะไรใหม่...
09/07/2025

เห็นข้อความนี้ครั้งแรกในแคปชั่นของเพื่อนชาวต่างเมื่อหลายปีก่อน
ประโยคนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเพจนี้ ได้ลองทำอะไรใหม่ๆเช่นเปลี่ยนอาชีพ

ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นไหม แต่ส่วนตัวเวลาจะต้องทำอะไรที่ไม่เคยทำ
มันจะมีเสียงในหัวที่ว่า เราจะทำได้ไหม ถ้าไม่สำเร็จจะทำยังไง

หลายครั้งก็ผลัดผ่อนสิ่งนั้นออกไปเรื่อยๆ
จนในที่สุดก็หมดเวลาให้ได้ลงมือ หรือที่แย่สุดคือ
มีคนลงมือทำในสิ่งนั้น จนสำเร็จ

จนในที่สุดมานั่งเคลียร์กับตัวเองพร้อมกับประโยคในภาพ
เพราะเรากลัวผลของการลงมือทำนี่แหละ
กลัวว่ามันจะล้มเหลว แล้วมีผลตามมา
สมองเรามันติดความสำเร็จเกินไป

ลองให้โอกาสมันได้ทำ ออกจากพื้นที่เซฟโซน
ลุยกับมันซักตั้ง แล้วปล่อยใจให้อิสระจากผลลัพธ์
เรื่องบางเรื่อง ของบางอย่างมันต้องพึ่งการเริ่มลงมือทำจริงๆนะ

บางทีแนวคิดนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ถ้าไม่รีบบังคับให้ตัวเองลงมือทำ
ถ้าอยากทำอะไร ลองนับ 1 ถึง 5 ( 1 2 3 4 5)
แล้วเริ่มทำเลย พาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์นั้นให้ไวที่สุด
ไม่งั้นสมองและความคิดเดิมๆจะพาตัวเองออกมาแล้วไม่ได้ทำสักที

ขี้เกียจไม่ผิด แต่ปล่อยให้ขี้เกียจนานเกินไปคือปัญหาทุกคนเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกว่า “ไม่อยากทำอะไรเลย”รู้ว่าต้องทำ แต่มันไ...
03/07/2025

ขี้เกียจไม่ผิด แต่ปล่อยให้ขี้เกียจนานเกินไปคือปัญหา
ทุกคนเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกว่า “ไม่อยากทำอะไรเลย”
รู้ว่าต้องทำ แต่มันไม่ไป มันเฉื่อย มันเบื่อ
มันรู้สึกหมดแรงทั้งที่ไม่ได้เหนื่อยอะไร

วิธีจัดการกับความขี้เกียจแบบตรงไปตรงมา ไม่โลกสวย

1. อย่ารอให้มีแรงค่อยเริ่ม
เริ่มก่อนแล้วแรงจะมาเอง (ถ้ายังลังเลหรือผมบอกตัวเองว่า "เริ่มแ*่งเลย")

ความเข้าใจผิดอันดับ 1 คือ “ต้องมีแรงก่อนถึงจะเริ่มได้”
ความจริงคือ แรงมักจะมาตอนเริ่มไปแล้ว ลองตั้งเป้าแค่ว่า “ทำแค่ 5 นาที” หรือ “ทำแค่เปิดไฟ เปิดคอม” พอทำแล้วจิตใจจะเริ่มลื่นขึ้น

เริ่มเล็ก ๆ เช่น แค่ลุกจากที่นอน แค่หยิบสมุด แค่นั่งหน้าคอม
แล้วมันจะไหลต่อเอง

2. ตัดภารกิจให้เล็กลง
เราขี้เกียจเพราะมองว่า “งานมันเยอะ มันหนัก มันเหนื่อย”
ทางแก้คือ ตัดให้เล็กจนสมองรู้สึกว่า ‘แค่นี้เอง’

ไม่ต้อง “ออกกำลังกาย 1 ชม.” แต่ให้ “แค่วิดพื้น 10 ที”

ไม่ต้อง “อ่านหนังสือทั้งเล่ม” แต่ “แค่อ่าน 2 หน้า”

ยิ่งงานเล็ก สมองยิ่งยอมเริ่ม

3. ทำทันที ก่อนที่ความขี้เกียจจะพูด
เวลาความคิดว่า "ทำเลยดีกว่า" โผล่มารีบทำทันที
อย่าปล่อยให้ “เสียงขี้เกียจ” เข้ามาพูดว่า “ไว้ก่อน พรุ่งนี้ก็ได้”
ความขี้เกียจแพ้การกระทำทันทีเสมอ

4. ตัดสิ่งล่อใจออกชั่วคราว
มือถือ, โซเชียล, เตียงนุ่มๆ
คือกับดักของความขี้เกียจ
ก่อนจะเริ่มงาน ลอง ปิดแจ้งเตือน วางมือถือให้ไกล ลุกออกจากเตียง

5. ให้รางวัลกับตัวเอง
สมองชอบความสุข ถ้าฝึกให้มันรู้ว่า
“พอทำเสร็จแล้วได้รางวัล” มันจะยิ่งอยากทำ
ทำงานเสร็จ = ได้กินของชอบ

อ่านครบ 10 หน้า = เล่นมือถือ 10 นาที

การให้รางวัลจะเปลี่ยนความรู้สึกว่า
“งาน = น่าเบื่อ” เป็น “งาน = ทางไปสู่ของดี”

6. ให้อภัยตัวเอง ถ้าวันนี้ยังขี้เกียจอยู่ (แต่อย่าบ่อยเกิน)
อย่าโทษตัวเองแรงเกินไป เพราะยิ่งรู้สึกผิด ยิ่งหมดแรง
ให้พูดกับตัวเองว่า “พรุ่งนี้เริ่มใหม่ได้”
แล้วเตรียมแผนให้พร้อมสำหรับวันถัดไป

03/07/2025

คำแนะนำในคอมเมนท์ดีมาก
มะเร็งหายได้ถ้าเรามีเงินมากพอที่จะรักษา
สุดท้ายมันจะวนมาอยู่ที่การวางแผน
ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้ามันเกิดจริงๆเราได้เตรียมแผนตรงนั้นไว้หรือยัง
มันเหมือนกับเราวางแผนขับรถทางไกล เรายังต้องเตรียมเช็คลมยาง
เช็คเบรค น้ำมันเครื่อง เช็คประกันรถว่าขาดไหม
ชีวิตจริงเราได้เตรียมอะไรไว้บ้าง

"ฝึกมองโลกตามความเป็นจริง"เมื่อก่อนผมมีความเชื่อที่ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงมองโลกในแง่ดี ไว้ก่อนเสมอเพราะจิตใจและความค...
03/07/2025

"ฝึกมองโลกตามความเป็นจริง"
เมื่อก่อนผมมีความเชื่อที่ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
จงมองโลกในแง่ดี ไว้ก่อนเสมอ
เพราะจิตใจและความคิดเราต้องพร้อมรับมือกับสิ่งต่างๆ
แต่พอมองโลกในแง่ดี ก็เจอข้อเสียที่ว่า โดนเอาเปรียบ
หรืออย่างแย่กว่านั้นคือ มองแง่ดีแบบหลอกตัวเอง
พอกลับมามองโลกในแง่ร้าย ใจก็ไม่เป็นสุขอีก
จะทำอะไรก็ระแวงไปหมด จะเริ่มทำโปรเจคใหม่ๆก็เห็นแต่ปัญหา
สรุปมองโลกในแง่ร้ายทำให้หวาดระแวงไปอีก
จึงได้เริ่มมองหลายๆสิ่งด้วยการวิเคราะห์
นั่นก็คือมองโลกตามความเป็นจริง
เริ่มจากไม่ตัดสินว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดีก่อนที่จะได้คิดอย่างละเอียด
ด้วยการมองโลกแบบนี้ทำให้ผมรู้จักตัวเองมากขึ้น
มีสติที่ยาวนานขึ้น เพราะได้ใช้เวลาคิดมากขึ้น
จากที่เมื่อก่อนพูดโพล่งออกมาเลย
โลกน่าอยู่ขึ้นเยอะ เพราะเห็นเหตุผลของสิ่งต่างๆมากขึ้น

02/07/2025

น้ำไม่เดือด
ต้มอะไรก็ไม่สุก

พยายามไม่สุด
ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ

💪
30/06/2025

💪

สำเร็จ
#อาจารย์เฉลิมชัย #เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์ #อาจารย์เฉลิมชัยโฆษิตพิพัฒน์ #ความสุขของตาแก่ #คําสอน

เดินผ่านเส้นทางแห่งการให้อภัยเส้นทางที่ไม่ได้อะไรเลย เพราะมีสิ่งที่ค้างคาใจอยู่เต็มไปหมดเวลานี้ คำตอบที่ยังไม่ได้ จะไม่ห...
26/06/2025

เดินผ่านเส้นทางแห่งการให้อภัย
เส้นทางที่ไม่ได้อะไรเลย
เพราะมีสิ่งที่ค้างคาใจอยู่เต็มไปหมด
เวลานี้ คำตอบที่ยังไม่ได้ จะไม่หามันอีกแล้ว
ใจมันเบาสบายขึ้นในทันที

ก่อนนี้ ชอบความชัดเจน
อะไรที่คลุมเครือจะต้องถูกเคลียร์ไม่ให้คาใจ
แต่พอเลิกคาดหวังในคำตอบ
สิ่งที่ได้กลับมาคือความสบายใจแบบบอกไม่ถูก
มันรู้สึกใจเบาขึ้นที่ไม่ต้องกลับไปเพื่อถามสิ่งที่คาใจอีกแล้ว

ขอให้ คนที่ฉันเคยทำอะไรให้ไม่สบายใจ
เขาจะให้อภัยฉัน

ในทุกเส้นทางที่เคยผ่านมา ฉันให้อภัยทุกคน.

ถ้าเรารู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองมีไม่ว่าใครก็บูลลี่เราไม่ได้ไม่มีใครทำให้คุณรู้สึกต้อยต่ำได้หรอก ตราบใดที่คุณไม่ยอมรับไม่ว...
24/06/2025

ถ้าเรารู้สึกดีกับสิ่งที่ตัวเองมี
ไม่ว่าใครก็บูลลี่เราไม่ได้
ไม่มีใครทำให้คุณรู้สึกต้อยต่ำได้หรอก ตราบใดที่คุณไม่ยอมรับ

ไม่ว่าจะยุคสมัยใด การเหยียด หรือที่เราเรียกทับศัพท์ว่าบูลลี่
ก็มักจะเกิดขึ้นให้เห็นอยู่เสมอตามโซเชี่ยลมีเดีย
ไม่ว่าจะมีการรณรงค์มากเพียงใดก็ไม่สามารถแก้ได้ 100%
เมื่อเริ่มได้ตระหนักรู้ว่า
เราบังคับสิ่งที่เขาคิดไม่ได้ แต่เราบังคับสิ่งที่เราคิดได้เสมอ
ก็เริ่มปรับมุมมองที่ตัวเรา เริ่มมีแนวคิดที่ว่า
การบูลลี่จะสามารถทำร้ายเราได้ ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่เรามีคือข้อด้อย
การมีใครสักคนบอกว่าเราอ้วนเกินไป ผอมเกินไป
ดำเกินไป เตี้ยเกินไป หรือมีลักษณะที่ผิดไปจากคนทั่วไป
มักทำให้เรารู้สึกน้อยใจ หรือรู้สึกแย่จนเก็บเอาไปคิดมาก
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราไม่ได้มองว่ามันคือข้อด้อย
หรือเป็นจุดที่ทำให้ใครเสียหาย เรามีโอกาสที่จะไม่ใส่ใจ
และคำบูลลี่เหล่านั้นก็ไม่มารบกวนใจ
แน่นอนว่า เราสามารถบอกในสิ่งที่เราไม่ชอบได้
แต่นั้นก็ไม่สามารถจะหยุดการบูลลี่ได้อย่างหมดจด
สิ่งที่คนอื่นคิดกับเรา อาจสำคัญน้อยกว่าการที่เราคิดกับตัวเองยังไง
เมื่อเราไม่ได้มองว่าการบูลลี่ต่างๆคือข้อด้อย
แต่สุดท้ายก็ไม่สนับสนุนให้มีการบูลลี่อยู่ดี

22/06/2025

SMALL WIN

วิธีเพิ่มความมั่นใจ
ให้ทำอะไรก็สำเร็จ

ตอนทำประกันมาได้ 1 ปี เกิดเหตุที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น เพราะชาวบ้านชาวเมืองเขาเป็นโรคนี้กันหมดแล้ว2023 ผมติดโควิด เนื...
21/06/2025

ตอนทำประกันมาได้ 1 ปี เกิดเหตุที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น เพราะชาวบ้านชาวเมืองเขาเป็นโรคนี้กันหมดแล้ว
2023 ผมติดโควิด เนื่องจากไปกินขนมจีนร้านประจำ 🤣
จำได้ว่าวันนั้นไม่ได้ออกไปไหนเลย มีแค่ช่วงเย็นที่เพื่อนนัดออกไปคุยกันเรื่องงบการเงิน ด้วยความที่หิวจัดเลยนัดกินที่ร้านขนมจีนร้านประจำ
ปรากฏว่าอีกสองวันถัดมา ช่วงเช้าเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวรุมๆ
ช่วงสายเริ่มมีอาการที่รู้เลยว่าฝืนไม่ไหวแล้ว เลยไปโรงพยาบาล
สรุปว่า ติดโควิด แบบคาดไม่ถึง เพราะช่วงนั้นโควิดถูกประกาศว่าเป็นโรคทั่วไปแล้ว ด้วยความที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลยไม่รู้ว่านี่หรอคืออาการของโควิด นึกอะไรไม่ออก แต่นึกได้ว่าเคยทำประกันไว้ เลยโทรหาตัวแทนประกันว่าสามารถใช้สิทธิอะไรได้ไหม
ตัวแทนประกันแนะนำให้นอนโรงพยาบาลนั้นเลย แต่โรงพยาบาลไม่มีห้องสำหรับผู้ป่วยโควิด เลยกลับมาบ้าน ก็ยังอาการทรงๆไม่ได้หนักมาก
แต่พอกินข้าวเที่ยงเสร็จกลับพบว่าแสบตามาก มันแบบลืมตาแล้วรู้สึกแสบ เลยเข้าไปนอนในห้อง สักพักรู้สึกเจ็บกลางอก เหมือนอะไรแหวกอก
จำได้ว่า แทบจะขยับตัวกับลืมตาไม่ได้เลย จังหวะนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน
คิดในใจว่าถ้าเป็นอะไรไปนี่ต้องทำใจไว้เลย เพราะรู้สึกตัวมันหนักๆ ลุกยากมาก ลืมตาก็ไม่สะดวก ด้วยความที่รู้สึกแสบตา
แต่ก็มีสายโทรศัพท์เข้า ยื่นมือไปผิดๆถูกๆ จนรับสายได้
สรุปว่าเป็นตัวแทนประกันโทรเข้ามาว่า มีโรงพยาบาลหนึ่งที่ยังรับผู้ป่วยโควิดอยู่
ตอนนั้นบอกตัวแทนว่าไม่ไหวแล้ว (ปกติผมไม่ชอบไปโรงพยาบาลมากๆถ้าไม่จำเป็น แต่ครั้งนี้รู้สึกหนักจริงๆ)
สุดท้ายก็ได้ตัวแทนนี่แหละครับที่มาแบกตัวผมไปโรงพยาบาล
แล้วก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับหมอบ้าง เพราะรู้สึกเบลอไปหมด
สุดท้ายก็ได้นอนโรงพยาบาล
พอได้ยาอะไรสักอย่างนี่แหละรู้สึกอย่างกับเป็นคนละคน
อาการมันหายดีไวมากหลังจากกินยานั้นไป
สรุปว่าผมนอนโรงพยาบาลไปสามวัน (ใจอยากจะออกตั้งแต่วันแรก)
มีแม่มานอนเฝ้าไข้ และที่สำคัญตัวแทนประกันของผมจัดการให้ทุกอย่าง
ออกโรงพยาบาลมาไม่เสียค่าใช้จ่ายสักบาท แถมได้ค่าชดเชยรายได้ด้วย
เอาความจริงจากใจ
ตอนที่ตัดสินใจทำประกัน เป้าหมายแรกของผมคือ อยากลดหย่อนภาษี
ทางตัวแทน (ตอนนั้นอยู้คนละจังหวัด) ก็คุยรายละเอียดนานมากเป็นชั่วโมง
แต่ผมดันจำรายละเอียดไม่ได้เลย จ่ายเงินตามรอบผ่านแอพอย่างเดียว 😂
แต่พอได้ใช้ประโยชน์จากประกันจริงๆมันเลยรู้สึกว่า เห้ยมันมีประโยชน์นะ
อย่างที่ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่าควรเลือกสเปคแบบไหนที่เหมาะกับเรา
แต่พอได้ใช้งานจริงมันเลยเซอร์ไพส์มากที่ตัวแทนได้เลือกให้เราได้ตรงจุดมาก แล้วก็แอบดีใจเล็กๆว่าเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้ คุ้มกับเงินที่จ่ายไปแล้ว
เป็นเรื่องที่คิดย้อนไปทีไร ก็ยังขอบคุณตัวแทนประกันเสมอ
เพราะสุดท้ายเราไม่รู้หรอกว่าเราจะเป็นไข้หรือป่วยหนักเมื่อไหร่
ประกันเลยมีความสำคัญกับผมมากตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
จากที่เก็บเงินไปลงทุน มีเงินก็ใช้กับลงทุนอย่างเดียว
วันนี้รู้แล้วว่าเราต้องมีแผนป้องกันความเสี่ยง
เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราจะเป็นอะไรไปเมื่อไหร่
ประกันจะไม่จำเป็นเลยถ้าเรารู้วันที่เราจะป่วย อุบัติเหตุ หรือจากไป
แต่ถามว่าบนโลกนี้มีใครรู้ไหมว่าเรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นวันไหน
ถ้ารู้แล้วก็คงกะเวลาซื้อประกันได้ถูกช่วง
มุมมองของผมกับประกันคือ การซื้อความสบายใจ
เพราะความสบายใจนี่แหละที่เป็นตัวกลางเชื่อมเรากับความสำเร็จ
การทำอะไรแล้วยังค้องพะว้าพะวังนี่บางทีมันก็เป็นอะไรที่ขัดขวางความสำเร็จจริงๆ
และตอนนี้ผมก็ตั้งมาตรฐานให้ได้อย่างตัวแทนที่ดูแลผมอยู่
คงจะเอาปรัชญาการทำงานของเขามาบวกกับความเชี่ยวชาญของผมเพื่อมาดูแลความสบายใจของคนที่ไว้ใจเรา
ด้วยความที่อยู่ในวงการธุรกิจมาก่อน ผมจะไม่สบายใจทุกครั้งถ้าลูกค้าของเราได้รับสินค้าหรือบริการแล้วไม่พึงพอใจ กระบวนการทุกอย่างที่ทำเลยต้องมีเหตุผลและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริงๆ
ตอนซื้อประกัน แค่อยากลดหย่อนภาษี
แต่วันที่ป่วยหนัก ผมรู้เลยว่ามัน ซื้อความสบายใจ
ยินดีเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนบุคคลและการประกันชีวิตให้ทุกท่านครับ

ที่อยู่

Chiang Mai

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เริ่มซักทีผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง เริ่มซักที:

แชร์