เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/111020321564093/

นักสื่อเสียงสุขภาวะ จ.เชียงใหม่, Chiang Mai (2025)

17/08/2025

เส้นทางสู่สุขภาพดี เริ่มต้นได้ง่ายๆ ที่ตัวเรา
#นักสื่อเสียงเชียงใหม่ #นักสื่อเสียงสุขภาวะ

14/08/2025

📆 วันที่ 7 – 9 สิงหาคม 2568
🏨 ณ โรงแรมกาลนาน ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท จังหวัดนนทบุรี
📍กลุ่มคนตัวD สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมเวทีถอดบทเรียนการดำเนินงานร่วมกับนักสื่อเสียงสุขภาวะ 6 พื้นที่ปฏิบัติการ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดน่าน จังหวัดชัยนาท จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดกระบี่ และ จังหวัดพังงา ภายใต้โครงการสานพลังเครือข่ายนักสื่อเสียงร่วมสร้างสังคมสุขภาวะ ปี 2568 ✨
🎯 เวทีครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย ดังนี้
👉🏼 1) ทบทวนและเรียนรู้บทเรียนจากการดำเนินงานเครือข่ายนักสื่อเสียงในพื้นที่ปฏิบัติการ 6 จังหวัด
👉🏼 2) เสริมสร้างองค์ความรู้และเสริมพลังนักสื่อเสียง
👉🏼 3) วางแผนกลยุทธ์เพื่อพัฒนาศักยภาพและขยายผลสู่อนาคต
🎙️กระบวนการภายในเวที
✅ การตระหนักรู้และทบทวนพื้นที่ปฏิบัติการ: ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อสะท้อนบริบท ความท้าทาย และศักยภาพของพื้นที่
✅ การถอดบทเรียนโมเดลการทำงาน (5O : On Top, On Network, On Air, On Line, On Ground) วิเคราะห์องค์ประกอบความสำเร็จ ปัจจัยสนับสนุน และข้อจำกัดของการขับเคลื่อนงาน
✅ การแลกเปลี่ยนผลลัพธ์ (“ต้นไม้แห่งความสำเร็จ”): นำเสนอความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม ความภาคภูมิใจ และข้อเรียนรู้จากแต่ละพื้นที่
✅ การเสริมพลังและสร้างความตระหนักเชิงบทบาท: เน้นบทบาทและเป้าหมายของนักสื่อเสียงในฐานะกลไกสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสุขภาวะ
✅ การออกแบบชีวิต (Life Melody): เชื่อมโยงการทำงานกับความหมายในชีวิต เพื่อเพิ่มพลังใจและแรงบันดาลใจ
✅ การวางแผนอนาคต (3+1): วางทิศทางพัฒนาเครือข่ายใน 3 มิติหลัก (สถานะเครือข่าย, ความร่วมมือกับภาคีสุขภาพ, การพัฒนาศักยภาพ) และ +1 นวัตกรรมสื่อเสียงสุขภาวะ
🟥 ผลลัพธ์ที่ได้จากเวที
🔶 ปัจจัยความสำเร็จและข้อท้าทายของเครือข่ายนักสื่อเสียง
🔶 มีทิศทางชัดเจนและสอดคล้องกับบริบทจริงของพื้นที่
🔶 เสริมพลัง และแรงบันดาลใจ
🔶 โมเดลต้นแบบ ในการบูรณาการสื่อสุขภาวะกับกลไกภาคีสุขภาพ

#นักสื่อเสียงสุขภาวะ #นักสื่อเสียง #กลุ่มคนตัวD
#พื้นที่ต้นแบบ #สสส #สำนัก11

12/08/2025

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน ตลอดกาล ตลอดไป ด้วยเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
นักสื่อเสียงสุขภาวะจังหวัดเชียงใหม่

11/08/2025

มาร่วมส่งความสุขให้คุณแม่สุขภาพแข็งแรงด้วยการสมัครวิ่ง WRB11 เป็นของขวัญวันแม่กันนะคะ

19/06/2025

📌 ประชุมเวทีการมีส่วนร่วมกับภาคีในหน่วยงานความร่วมมือ ระหว่างนักสื่อเสียงสุขภาวะ จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เทศบาลตำบลสันผักหวาน และเทศบาลตำบลเมืองเล็น

วันที่ 18 มิถุนายน 2568 ณ ห้องมิลาน โรงแรมเมอร์เคียวเชียงใหม่ โครงการนักสื่อเสียงสุขภาวะ จังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดประชุมเวทีการมีส่วนร่วมกับภาคีในหน่วยงานความร่วมมือ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจของนักสื่อเสียงสุขภาวะ รวมถึงเสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นในการขับเคลื่อนงานด้านการสื่อสารสุขภาวะในพื้นที่

ภายในงานมีการแนะนำเครือข่ายนักสื่อเสียงสุขภาวะ การแนะนำบทบาทของหน่วยงานความร่วมมือ และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ รวมถึงการร่วมกันวางแผนกิจกรรมในอนาคต เพื่อส่งเสริมให้เกิดกลไกการสื่อสารสุขภาวะที่มีประสิทธิภาพ เข้าถึงประชาชนในระดับพื้นที่อย่างแท้จริง

ขอขอบคุณทุกภาคีเครือข่ายที่เข้าร่วมประชุมและร่วมวางแนวทางการทำงานอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่

#นักสื่อเสียงสุขภาวะ
#สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
#เทศบาลตำบลสันผักหวาน
#เทศบาลตำบลเมืองเล็น
#เครือข่ายความร่วมมือเพื่อสุขภาวะเชียงใหม่
#ประชุมกลไกนักสื่อเสียงสุขภาวะ

28/05/2025

🎯 เยาวชนแม่ริมรวมพลัง ปรุงน้อย อร่อยได้ ห่างไกลโรคNCDs และรู้เท่าทันภัยบุหรี่ไฟฟ้า
ณ โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
🗓 วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ⏰ เวลา 13.00 - 15.00 น.

เครือข่ายนักสื่อเสียงสุขภาวะ จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ กลุ่มคนตัวD และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่เยาวชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด เสริมทักษะในการตัดสินใจ และส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าที่แฝงมากับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น

🙏 ขอขอบคุณคณะครู นักเรียน โรงเรียนแม่ริมวิทยาคม ที่ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง
👏 ขอบคุณคณะทำงาน และนักสื่อเสียงสุขภาวะทุกท่านที่ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมครั้งนี้ให้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

🌱 เยาวชนคือพลังสำคัญของอนาคต และเราจะไม่หยุดสร้างเสริมสุขภาวะที่ดีให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

#สุขภาวะดีเริ่มที่วัยรุ่น
#ปรุงน้อยอร่อยได้
#ฉลาดรู้สู้ภัยบุหรี่ไฟฟ้า
#เครือข่ายนักสื่อเสียงสุขภาวะเชียงใหม่
#สสส

28/05/2025

#บุหรี่ไฟฟ้าซ่อนร้าย
#รวมพลังสื่อสารเพื่อสุขภาวะ

บุหรี่ไฟฟ้า:
แม้ดูไม่ร้าย แต่ข้างในร้ายกว่าที่คิด เปิดความจริงของ ‘พอด’ ซ่อนร้าย
“อยากลองเพราะเพื่อนชวน”
“เห็นเขาทำกัน เลยอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง”
“แค่ลอง ไม่ติดหรอกมั้ง”
“ก็แค่กลิ่นผลไม้ มันไม่อันตรายหรอก”
“ดูเท่ดี อยากลองสักครั้ง”

นี่คือประโยคคุ้นหูที่เราได้ยินจากเด็กวัยรุ่นจำนวนมากในยุคนี้ และสิ่งที่พวกเขา "ลอง" ก็คือ บุหรี่ไฟฟ้า สินค้ารูปแบบใหม่ที่กำลังล่อลวงเยาวชน ซึ่งเบื้องลึกเบื้องหลังนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของ "เพื่อนชวน" หรือ "อยากลอง" ตามกระแสเท่านั้น แต่คือผลลัพธ์ของกลลวงการตลาดที่ถูกออกแบบมาอย่างแยบยลโดยมุ่งเป้าหมายไปที่ “เด็กและเยาวชน”
รูปลักษณ์ ถูกออกแบบให้คล้ายของใช้ทั่วไป เช่น แฟลชไดร์ฟหรือปากกา สีสันสดใส ดูน่ารัก ชวนใช้ พกพาง่าย จนผู้ใหญ่บางคนยังแยกไม่ออก
กลิ่นรส หวานหอมแบบขนมหรือลูกอม ดึงดูดเด็กและทำให้เข้าใจผิดว่า “ไม่อันตราย”
นิโคติน ถูกใส่ในระดับที่ดูเหมือนน้อย แต่ใช้สูตรดูดซึมไว ทำให้ “ติดเร็วแบบไม่รู้ตัว”
นอกจากนี้ยังมีการให้ข้อมูลบิดเบือนไม่ครบถ้วน นำเสนอแต่ภาพด้านบวก เช่น การโฆษณาว่าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น และปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่เมื่อสำรวจลึกลงไปพบว่าคนที่เลิกบุหรี่ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า กลับไปติดบุหรี่ไฟฟ้าแทน และจากผลทางการแพทย์การเปลี่ยนจากบุหรี่ธรรมดามาติดบุหรี่ไฟฟ้า ก็อาจไม่ใช่ทางออกที่ปลอดภัยอย่างที่โฆษณา เพราะอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้านั้น ส่งผลกระทบต่อปอด หัวใจ และระบบประสาทอย่างชัดเจน

วันนี้ไม่ใช่แค่เด็กมัธยมเท่านั้นที่เข้าใกล้บุหรี่ไฟฟ้า แต่แม้แต่เด็กประถมก็เริ่มมีโอกาสสัมผัสกับสินค้านี้ผ่านเพื่อน รุ่นพี่ หรือโลกออนไลน์
“พี่เขาให้ลองดู...มันหอมเหมือนลูกอม”
“เพื่อนในห้องมีอันหนึ่ง สีรุ้ง น่ารักมาก”
“หนูเห็นในคลิป TikTok เขาบอกว่าไม่อันตราย”

เด็กๆ อาจยังรู้ไม่เท่าทันว่าเบื้องหลังความสดใสนั้นคือ สารเสพติดตัวร้าย ที่ทำลายสมองและปอดแบบเงียบๆ และรวดเร็ว

นิโคติน: ศัตรูสมองของวัยเรียน ทำลายเซลล์สมอง
หนึ่งในสารอันตรายหลักในบุหรี่ไฟฟ้าคือนิโคติน ซึ่งจะเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะวัยเด็กและวัยรุ่นซึ่งถือเป็น “ช่วงเวลาทอง” ที่สมองกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกวัน
10 วินาทีแรกสมองก็เริ่มเสียหาย นิโคตินจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าหนึ่งครั้ง สามารถพุ่งตรงถึงสมองได้ใน 10 วินาที

ยิ่งทันสมัย ยิ่งอันตราย บุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ จำนวนมากผสมสาร ni****ne salts หรือนิโคตินแบบเกลือ ซึ่งมีความเข้มข้นของนิโคตินสูงเป็นพิเศษ ทำให้ดูดซึมเข้ากระแสเลือดเร็วและแรงกว่าแบบเดิมหลายเท่า ทำลายสารสื่อประสาทที่อยู่ในสมอง นิโคตินก็คือตัวร้ายที่แอบแทรกตัวเข้าไปตัดสายไฟในสมองทีละเส้น จนทำให้สารเคมีในสมองทำงานผิดปกติไป สมาธิสั้นลง ความจำเสื่อมถอย คิดวิเคราะห์แย่ลง อารมณ์แปรปรวน เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า หรือมีพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ ตามมา

ความสุขลวงตา นิโคตินยังหลอกสมองให้หลั่ง “โดพามีน” หรือสารแห่งความสุข แต่เป็นวิธีที่ผิดธรรมชาติ ทำให้สมองเสพติดความรู้สึกดี จนอยากสูบอีกเรื่อยๆ
แค่การสูบเพียงไม่กี่ครั้งจึงอาจทำลายสมองและอนาคตของเด็กคนหนึ่งไปตลอดชีวิต

ไม่ใช่แค่สมอง...แต่ “ปอด” ก็เสียหาย จากสารเคมีอันตราย
นอกจากนิโคตินตัวร้าย ในบุหรี่ไฟฟ้ายังอัดแน่นไปด้วยสารเคมีอันตรายมากมายที่ทั้ง “ตั้งใจใส่” และ “แอบแฝง” มาด้วยกัน ทำให้ปอดเสียหายโดยไม่รู้ตัว:

สารพิษสารหนู และสารโลหะหนักแอบแฝงในน้ำยา อย่างสารหนู เบนซีน และโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว นิกเกิล ดีบุก แคดเมียม โคบอลต์ โครเมียม เหล็ก ทองแดง และสังกะสี โดยถูกถ่ายโอนจากขดลวดความร้อนไปยังน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งหมดนำไปสู่โรคทางเกี่ยวกับทางเดินหายใจ มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้

โพรพิลีนไกลคอล (Propylene Glycol) ถูกเติมในน้ำยาเพื่อสร้างควันและความรู้สึกคล้ายการสูบบุหรี่จริง แต่ทำให้คอแห้ง ไอ แน่นหน้าอก และระคายเคืองผิวหนังและดวงตา

กลีเซอรีน (Glycerin) คือเบื้องหลังควันขาวหนาทึบที่ดูเหมือนไม่อันตราย แต่ เมื่อสูดเข้าไปจะเคลือบผิวปอด ทำให้ระคายเคือง และเสี่ยงปอดอักเสบเฉียบพลัน

ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) สารดองศพที่เกิดจากกระบวนการให้ความร้อนกับน้ำยา กลายเป็นสารระเหยรุนแรง ทำลายเยื่อบุทางเดินหายใจโดยตรง และเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งโพรงจมูก ลำคอ และปอด

ฝุ่นพิษขนาดเล็กจิ๋วระดับ PM1.0 แฝงมากับควันบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแทรกทะลุปอดเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยตรง อาจส่งผลร้ายแรง เช่น ปอดอักเสบ หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง พังผืดในปอด และก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

เมื่อผู้ปกครองไม่ทันระวัง...ภัยร้ายก็เข้ามาใกล้ตัว
แค่ลองไม่กี่ครั้งปอดอาจจะพังได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มันคือความเสี่ยงที่เด็กๆ หลายคนไม่เคยรู้ และผู้ปกครองจำนวนมากก็ยังไม่ทันระวัง
ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยยังไม่ทันระวังหรือไม่รู้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบันมีหน้าตาอย่างไร กลิ่นเป็นแบบไหน หรือแม้แต่วิธีการใช้งาน หลายคนยังคิดว่า “ลูกเราไม่น่าไปยุ่งกับของพวกนี้หรอก” หรือ “ของแบบนี้คงไม่เข้ามาถึงโรงเรียน” ความเข้าใจเช่นนี้อาจทำให้เรามองไม่เห็นภัยที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด เพราะบุหรี่ไฟฟ้าอาจอยู่ในกระเป๋า ในห้องนอนของลูก โดยที่ผู้ใหญ่ไม่เคยสังเกตเห็น

31 พ.ค. ของทุกปี องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยสาระสำคัญหรือประเด็นหลักในปีนี้ คือ

“กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติด จน ตาย”

สสส. และภาคีเครือข่ายเพื่อลดการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในไทย อยากเชิญชวนประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายตระหนักถึงความอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้การออกแบบ การตลาดที่เชิญชวน ซึ่งเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ให้มีภูมิคุ้มกันทางความรู้ และไม่ตกเป็นเหยื่อของกับดักล่อลวง

สำหรับผู้ที่กำลังสูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือผู้ปกครองที่มีบุตรหลานใกล้ชิดกับบุหรี่ไฟฟ้า สามารถดาวน์โหลด "คู่มือบุหรี่ไฟฟ้า ภัยร้ายซ่อนลึก" เพื่อเข้าใจอันตรายที่แท้จริง และเริ่มต้นการปกป้องตัวเองและคนที่คุณรักตั้งแต่วันนี้ Link https://www.thaihealth.or.th/?p=368031

09/03/2025

เชียงใหม่เดินหน้าสร้างเครือข่าย “นักสื่อเสียงสุขภาวะ” รณรงค์ปรับพฤติกรรมการกิน ลดเสี่ยงโรค NCDs
วันที่ 8 มีนาคม 2568 โครงการ “นักสื่อเสียงสุขภาวะ จ.เชียงใหม่” จัดอบรมพัฒนาศักยภาพเครือข่ายนักสื่อเสียงสุขภาวะ ณ ร้านฮาโกะเนะ คาเฟ่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วม 20 คน จากหลากหลายสาขาอาชีพ เพื่อร่วมกันเผยแพร่ความรู้และเชิญชวนประชาชนปรับพฤติกรรมการกิน ลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ภายใต้แนวคิด “ปรุงน้อย อร่อยได้ ห่างไกลโรค”

การอบรมครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการสื่อสาร และการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่เข้าถึงประชาชนในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเครือข่ายนักสื่อเสียงสุขภาวะจะนำความรู้ไปถ่ายทอดต่อในพื้นที่ของตน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดการปรุงรสจัด ลดน้ำตาล ลดโซเดียม และเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพ

ทีมบริหารโครงการกล่าวว่า “เราเชื่อว่า เสียงของคุณเปลี่ยนชีวิตคนได้ การสร้างเครือข่ายนักสื่อเสียงสุขภาวะในระดับชุมชน จะช่วยให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว”

เครือข่ายนักสื่อเสียงสุขภาวะพร้อมเดินหน้ารณรงค์ให้คนเชียงใหม่หันมาดูแลสุขภาพผ่านพฤติกรรมการบริโภคที่ดีขึ้น โดยจะใช้ทั้งสื่อวิทยุ สื่อออนไลน์ และกิจกรรมภาคสนามในการสื่อสารกับประชาชน

#ปรุงน้อยอร่อยได้ห่างไกลโรค #นักสื่อเสียงสุขภาวะ #สุขภาพดีเริ่มที่ชุมชน

06/03/2025

🤢ไขข้อสงสัย โรค NCDs คืออะไร ? การนับคาร์บช่วยลดโรคได้อย่างไร ?
โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” (NCDs : Non-communicable disease) คือกลุ่มโรคที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค และไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ซึ่งจะมีการดำเนินโรคอย่างช้าๆ ค่อย ๆ สะสมอาการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น
• การกินอาหารรสจัด
• การกินอาหารแปรรูป ไขมันสูง ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
• นอนดึก ออกกำลังกายน้อย
• ความเครียด และการนอนหลับไม่เพียงพอ
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา ได้แก่ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง น้ำตาลในเลือดสูง ภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน ซึ่งทำให้เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็ง

👍🏻การนับคาร์บช่วยป้องกันโรค NCDs ได้อย่างไร?
การนับคาร์บ หรือการกินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยลดและป้องกันโรค NCDs ได้ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การกินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ และไม่ทำให้ร่างกายต้องหลั่งอินซูลินมากเกินไป และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2

2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด การกินคาร์โบไฮเดรตที่ดีช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) และคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

3. ลดการสะสมไขมันในร่างกาย (Preventing Fat Accumulation) การกินคาร์โบไฮเดรตแปรรูปในปริมาณมากทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้พลังงานได้หมด ส่งผลให้มีการเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินในรูปของไขมัน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ดังนั้นการนับคาร์บ ลดคาร์โบไฮเดรตจึงสามารถช่วยลดการสะสมไขมันในร่างกายได้

4. ลดการอักเสบในร่างกาย (Reducing Inflammation) คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ธัญพืชที่ไม่ขัดสี มีใยอาหารสูง จะช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและโรคเรื้อรังอื่น ๆ

5. สนับสนุนระบบเผาผลาญ (Enhancing Metabolism) การบริโภคคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสมช่วยให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล โดยไม่ต้องดึงพลังงานจากโปรตีนหรือไขมันมาใช้ ซึ่งช่วยปกป้องมวลกล้ามเนื้อและลดความเสี่ยงต่อภาวะคีโตซิส (Ketosis)
🍚วิธีการนับคาร์บง่าย ๆ:
1.คำนวณปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสมต่อวัน ควบคุมพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตไม่ให้เกิด 20% (แคลอรี่/วัน) โดยใช้สุตร Harris Benedict Equation ในการคำนวณ

2.แบ่งสัดส่วนคาร์โบไฮเดรตในแต่ละมื้อ
มื้อเช้า: เลือกคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานยาวนาน เช่น ข้าวโอ๊ต ธัญพืช
มื้อกลางวัน: เลือกคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยช้า เช่น ข้าวกล้อง มันหวาน
มื้อเย็น: ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตและเพิ่มผักใบเขียว

3.เพิ่มการบริโภคใยอาหาร (Fiber) โดยใยอาหารช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลในเลือดและช่วยควบคุมน้ำหนัก การนับคาร์บอย่างเหมาะสมไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือในการควบคุมน้ำหนัก แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรค NCDs และส่งเสริมสุขภาพในระยะยาว เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมวันนี้ เพื่อป้องกันโรค NCDs กันค่ะ
สแกน QR Code หรือเช็กง่ายๆที่
http://www.nubcarb.com?cx_trackid=c7tzz076KYJo9qEvpQNW&utm_source=website
ที่มา : เรื่องโรค NCDs : สำนักโภชนาการ กรมอนามัย
#สสส #สื่อสารสุข #กระทรวงสาธารณสุข #นับคาร์บลดโรคNCDs

นักสื่อเสียงสุขภาวะ จ.เชียงใหม่

17/08/2025

14/08/2025

12/08/2025

11/08/2025

19/06/2025

28/05/2025

28/05/2025

09/03/2025

06/03/2025

ที่อยู่

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ทางลัด

แชร์

ประเภท