เชียงใหม่เพรส

25/09/2025

“กินเหนือ” เทศกาลอาหารและดนตรี Food Soft Power ครั้งที่ 5

งาน “กินเหนือ” เทศกาลอาหารและดนตรี Food Soft Power ครั้งที่ 5 งานรวมความอร่อย บันเทิง และความสุขสนุกสนาน กลับมาพบกันอีกครั้งในวันที่ 8 – 13 ตุลาคม 2568 ณ ลานกิจกรรมด้านหน้า เซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟสฯ) เข้าฟรี!!!ชมฟรี!!! ทั้ง 6 วัน ไม่มีค่าบัตรผ่านประตู จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่ และชมรมภัตตาคารและร้านอาหารจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการจัดแถลงข่าวขึ้นในวันที่ 24 กันยายน 2568 ณ ร้านอาหารเดอะวิวออลเดย์

มีนายวัชรายุธ์ กัววงศ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวถึง การให้การสนับสนุนการจัดงาน และ การส่งเสริมการท่องเที่ยวทางด้านอาหาร

นายนพดล ศรีโพธิ์ทอง ผู้จัดการส่วนกิจกรรมพิเศษ 1 บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือ และการให้การสนับสนุน ในการจัดงาน

นายพรเทพ อรรถกิจไพศาล ผู้อำนวยการกลุ่มงานปฏิบัติการสาขาภาคเหนือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง ความพร้อมของสถานที่ ในการจัดงาน

นางสาวนบชุลี ทองเหลืองดี ประธานการจัดงาน กินเหนือ เทศกาลอาหารและดนตรี ครั้งที่ 5 กล่าวถึง รายละเอียดของการจัดงานกินเหนือ ครั้งที่ 5

และนางสาวสุปรียา ปัญญารักษา ผู้แทนพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง กิจกรรมธงฟ้าราคาประหยัด

การจัดงานกินเหนือในปีนี้ มีแนวคิดการจัด คือ “กินเหนือ เหนื้อ เหนือ” ซึ่งไม่ได้มีแค่อาหารทั่วไป แต่จะมีการคัดสรรอาหารในรูปแบบพิเศษที่เหนือกว่า ยกระดับประสบการณ์การกินให้กลายเป็นงานเทศกาลที่ "เหนือ" ความคาดหมาย จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 8-13 ตุลาคม 2568 (จำนวน 6 วัน) ตั้งแต่เวลา 16.00 – 23.00 น. ณ ลานกิจกรรม หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการบริโภคและการท่องเที่ยวในประเทศ โดยใช้พลังของอาหารเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้สู่ผู้ประกอบการ และชุมชนในพื้นที่ ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และร่วมขับเคลื่อนการดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วย Soft Power วัฒนธรรมด้านอาหารไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นเมืองน่าเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก / เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว และผู้ร่วมงาน ในการได้ลิ้มชิมรสอาหารจากร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยอาหารหลากหลายประเภท เนื่องจากผู้จัดงานได้เชิญร้านอาหารชื่อดัง และ Food Truck รวมกว่า 100 ร้าน ครบเครื่องทั้งอาหารคาว หวาน ของทานเล่น และเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมความสนุกสนานกับ ฟรีคอนเสิร์ต จากศิลปินชื่อดัง เช่น วันที่ 8 ตค. เดอะเพอะ / 9 ตค. โอ๊ต ปราโมทย์ / 10 ตค. SL MUSIC / 11 ตค. มนัสวีร์ / 12 ตค. มาลีฮวนน่า และ 13 ตค. จ๊ะ นงผณี พร้อมกันนี้ในแต่ละคืนจะมีความบันเทิงจากวงดนตรีชื่อดังในเชียงใหม่ที่มาจากสถานบันเทิงต่างๆอีกหลายวง พร้อมทั้งสวนสนุกขนาดใหญ่ เพื่อให้ครอบครัว และเด็กๆได้สนุกกันอย่างเต็มที่

พิเศษสำหรับในปีนี้ ผู้จัดงานได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมธงฟ้าราคาประหยัดขึ้นภายในงาน เพื่อเป็นการลดภาระของผู้บริโภคและร่วมกันขับเคลื่อน นโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ของกระทรวงพาณิชย์ ในการให้ความสำคัญกับการบริโภคสินค้าของไทย สร้างรายได้ให้เกษตรกร แก้ปัญหาปากท้องประชาชน พร้อมส่งเสริมมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอีกทางหนึ่ง

สนใจมาร่วมงานกันได้ “กินเหนือ เหนื้อ เหนือ” เทศกาลอาหารและดนตรี Food Soft Power ครั้งที่ 5 8-13 ตุลาคม 2568 ณ ลานกิจกรรมด้านหน้า เซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟสฯ) เข้าฟรีชมฟรีไม่มีค่าบัตรผ่านประตู

22/09/2025

เข้าฟรี ชมคอนเสิร์ตฟรี งาน "กินเหนือ ครั้งที่ 5" เหนื้อ เหนือ เทศกาลอาหารและดนตรี 8 - 13 ตุลาคม 2568 ณ ลานกิจกรรมด้านหน้า เซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟสฯ)

กลับมาอีกครั้ง!! สมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่ จับมือ ชมรมภัตตาคารและร้านอาหารเชียงใหม่ จัดให้ในงาน "กินเหนือ เหนื้อ เหนือ เทศกาลอาหารและดนตรี ที่ 5" ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 - 13 ตุลาคม 2568ณ ลานกิจกรรมด้านหน้า เซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟสฯ)
ตลอดทั้ง 6 วันของงาน เพียบพร้อมไปด้วยอาหารการกินมากมาย ฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง พร้อมด้วยสวนสนุกสำหรับเด็กๆ และกิจกรรมมากมาย การออกกิจกรรมธงฟ้าราคาประหยัดขึ้นภายในงาน เพื่อเป็นการลดภาระของผู้บริโภคไปพร้อมกันและร่วมกันขับเคลื่อน นโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ของกระทรวงพาณิชย์ในการให้ความสำคัญการบริโภคสินค้าของไทย สร้างรายได้ให้เกษตรกร แก้ปัญหาปากท้องประชาชน พร้อมส่งเสริมมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอีกทางหนึ่ง

ด้านอาหารการกิน จัดให้อิ่มแบบจุกๆ กับความอร่อยจากร้านอาหารชื่อดัง และ Food Truck รวมกว่า 100 ร้าน ครบเครื่องทั้งอาหารคาว-หวาน ของทานเล่น และเครื่องดื่มเย็นๆ

ส่วนฟรีคอนเสิร์ต พร้อมเติมความสุขให้ทุกท่านด้วยศิลปินชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น 8 ตค. เดอะเพอะ 9 ตค. โอ๊ต ปราโมทย์ 10 ตค. SL MUSIC 11 ตค. มนัสวีร์ 12 ตค. มาลีฮวนน่า 13 ตค .จ๊ะ นงผณี
ครบครันครบรสทั้งความอร่อยและความบันเทิงเช่นนี้ ไม่ควรพลาดสุดๆ ย้ำอีกครั้งงานจัดตั้งแต่ วันที่ 8 - 13 ตุลาคม 2568 ณ ลานกิจกรรมด้านหน้า เซ็นทรัล เชียงใหม่ (เซ็นเฟสฯ)
#กินเหนือ #กินเหนือครั้งที่4 #งานเข้าฟรี #ชมคอนเสิร์ตฟรี #เชียงใหม่ #อาหาร #เหนื้อเหนือ #ธงฟ้าราคาประหยัดใน

19/09/2025

ดวงตะวันสร้างโอกาสทางการเรียนรู้ ต้อนรับนักเรียนทัศนศึกษาดูงาน

โรงแรมดวงตะวันเชียงใหม่ ให้การต้อนรับคณาจารย์และนักเรียน ชั้น ม.6 แผนการเรียนภาษาอังกฤษและภาษาจีน จากโรงเรียนรังษีวิทยา อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ในโอกาสที่เข้าทัศนศึกษา ในโครงการ “ทัศนศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับมารยาทในการรับประทานอาหารและการบริการอาหารและเครื่องดื่ม” เพื่อเพิ่มพูนทักษะการเรียนรู้และประสบการณ์ตรงกับโรงแรมสำหรับการทำงานในอนาคต โดยมีทีมงานฝ่ายสื่อสารการตลาด ฝ่ายขาย และฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม บรรยายให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ณ โรงแรมดวงตะวันเชียงใหม่ ย่านไนท์บาซ่าร์
Manner
#ทัศนศึกษาเชียงใหม่
#ศึกษาดูงานโรงแรมฟรี
Hotel

19/09/2025

สังสรรค์เกษียณเกษม ตำรวจ ภาค 5
พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ให้เกียรติมาเป็นประธานในงานเลี้ยงแด่ตำรวจที่เกษียณอายุราชการ ในงาน “เกษียณด้วยเกียรติ อำลาด้วยความภาคภูมิใจ” โดยจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้กับข้าราชการตำรวจที่เกษียญอายุราชการและงานเลี้ยงอำลาผู้เกษียณ กองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 บรรยากาศงานเลี้ยงเต็มไปด้วยอบอุ่น ความประทับใจ และเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งมิตรภาพ โดยจีดขึ้น ณ ห้องเชียงแสน โรงแรมดวงตะวันเชียงใหม่ ย่านไนท์บาซ่าร์

16/09/2025

อิ่มไม่อั้น "คุณเปิ้นหมูกระทะ" สันติธรรม

บุฟเฟ่ต์ชาบูหมูกระทะ - กุ้งแม่น้ำ ราคา 239 บาท / คน ราคารวมเครื่องดื่ม มีของเติมให้ไม่อั้น นั่งกินได้ไม่จำกัดเวลา สามารถเลือกเตาหมูกระทะหรือหม้อชาบูได้ตามชอบ

ในไลน์บุฟเฟ่ต์มากกว่า 30 รายการ ทั้งกุ้งแม่น้ำ กุ้งขาว หมูสไลด์ หมูหมัก เนื้อสไลด์ เนื้อหมัก หอยหวาน ของทานเล่น ยำหมูยอ ข้าวผัด ไส้กรอกแดงทอด หมูยอทอด ของหวาน ไอศครีมคละรส แตงโมฉ่ำๆ เครื่องดื่ม น้ำอัดลม และน้ำผลไม้ มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์จำหน่าย (เหล้าเอาเข้าได้ ไม่มีค่าเปิด)

✅ ทานคนเดียว ไม่บวกเพิ่ม
✅ เพิ่มเตาที่สอง +39 บาท/เตา
✅ ที่จอดรถของโครงการเอกชนด้านหลังร้าน

เปิดทุกวัน เวลา 🕗 16:00 - 04:00 น.
☎️ สอบถามเพิ่มเติมโทร. 095 136 3737
พิกัดทางเข้าโครงการโชตนามอลล์ สันติธรรม : 📍 https://goo.gl/maps/zcSmXt12gVcc4qjV8

12/09/2025

นวดหินร้อน น้ำมันมะพร้าว ศาสตร์แห่งการบำบัดช่วงอากาศเปลี่ยน

วารีสปา ขอนำเสนอแพ็คเก็จรับฤดูที่อากาศเย็น เพิ่มความอบอุ่น เพื่อปรับเลือดลมในร่างกาย และบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื่นในฤดูที่อากาศแห้ง ขอแนะนำแพ็คเกจ
“ นวดหินร้อน น้ำมันมะพร้าว ”
“ การนวดหินร้อน ” คือการใช้หินเป็นตัวกระจายความร้อน นวดไปยังจุดต่างๆ ของร่างกายแทนการลงน้ำหนักด้วยฝ่ามือ ซึ่งการนวดด้วยหินนั้นจะทำให้ได้การลงน้ำหนักไปยังกล้ามเนื้อได้อย่างสม่ำเสมอ และความร้อนของหินยังสามารถกระจายเข้าสู่ผิวหนังชั้นในได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จึงลดอาการปวด ตึง เกร็ง ของกล้ามเนื้อได้ดี อีกทั้งเมื่อความร้อนเข้าสู่ร่างกาย ยังเป็นการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต หลังจากการนวดด้วยหินร้อนแล้วจะรู้สึกสบายตัวขึ้นทันที ถ้านวดเป็นประจำก็จะทำให้ผิวพรรณสดใสอีกด้วย
หินที่นำมานวดหินร้อนนั้นคือ “หินบะซอลต์” เป็นหินที่เกิดจากการที่ ลาวา เย็นตัวอย่างรวดเร็วบนเปลือกโลก โดยคุณลักษณะของหินนี้ก็คือ มีเนื้อที่ละเอียด เป็นหินที่สามารถเก็บความร้อนไว้ภายในได้อย่างดีมาก และด้วยความที่เกิดจาก ลาวา จึงทำให้อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิด เมื่อจะนำมาใช้ในการนวดจะต้องเจียระไนให้ผิวสัมผัสของหินนั้นมีความเรียบลื่น และมีขนาดที่เหมาะสมต่อการนวดกล้ามเนื้อแต่ละจุด ซึ่งขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้ความร้อนส่งไปถึงกล้ามเนื้อด้านในได้อย่างเต็มที่ และการลงน้ำมันมะพร้าวร่วมไปกับการนวดนั้น ยิ่งเพิ่มการบำรุงให้ผิวพรรณชุ่มชื้น ลดรอยแห้งกร้าน จุดด่างดำ เผยผิวกระจ่างใส สัมผัสได้ถึงความเนียนนุ่ม สุขภาพดี
แพ็คเกจ “นวดหินร้อน น้ำมันมะพร้าว” 90 นาที เพียง 1,500 บาทสุทธิ เริ่ม 15 กันยายน 68 – 28 กุมภาพันธ์ 69 ที่วารีสปา บนชั้น 4 ในโรงแรมดวงตะวันเชียงใหม่ ย่านไนท์บาซ่าร์ สอบถามและสำรองการบริการล่วงหน้า โทร 053-905000 / 081-2882826

12/09/2025

CSE รวมพลังคนเชียงใหม่ แก้ปัญหาหมอกควัน พร้อมต่อยอดธุรกิจเพื่อสังคม

บริษัท เชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (CSE) จัดการประชุมคณะกรรมการบริษัท นำโดย คุณองอาจ กิตติคุณชัย ประธานกรรมการ พร้อมด้วยคณะกรรมการและผู้ถือหุ้น เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน

โครงการหมู่บ้านปลอดการเผา
ปี 2568 CSE ได้ดำเนินโครงการหมู่บ้านปลอดการเผา ครั้งที่ 3 ครอบคลุมระยะเวลา 13 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2568 มีหมู่บ้านเข้าร่วมทั้งสิ้น 172 หมู่บ้าน โดยผลการประเมินพบว่า 152 หมู่บ้านผ่านเกณฑ์ จากการตรวจสอบจุดความร้อน (Hotspot) และพื้นที่เผาไหม้ (Burn Scar) อย่างเป็นรูปธรรม โครงการได้รับเงินสนับสนุนรวม 1,725,000 บาท คณะกรรมการจึงได้พิจารณาตัดสินจากลำดับในการลงทะเบียนสมัครในระบบ และสามารถกระจายรางวัลใน 14 อำเภอ 38 ตำบล รวม 69 หมู่บ้าน แม้จะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ยังคงสะท้อนถึงพลังความร่วมมือของชุมชนท้องถิ่น โดย CSE จะจัดพิธีมอบรางวัลภายในเดือนกันยายน นี้

ธุรกิจเพื่อสังคม “น้ำแร่ฟ้าใส”
CSE ได้พัฒนา ธุรกิจน้ำแร่ “ฟ้าใส” ด้วยแนวคิดนำ “กำไร 100%” ไปใช้เพื่อช่วยเหลือสังคมและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของ CSE โดยมีการปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ให้สะท้อนเอกลักษณ์เชียงใหม่ วางจำหน่ายในราคาที่เข้าถึงได้ โดยนำร่องที่ ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต และช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างโมเดลธุรกิจเพื่อสังคมอย่างแท้จริง

ทิศทางการแก้ปัญหาหมอกควัน
แม้สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือจะมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังคงมีความท้าทายด้านการจัดการท้องถิ่น CSE จึงเสนอแนวคิดในการดำเนินโครงการหมู่บ้านปลอดการเผา ครั้งที่ 4 เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะยาว โดยขอความร่วมมือหน่วยงานภาคเอกชน ในการสนับสนุนให้หมู่บ้านในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีจำนวนรวม 2,066 หมู่บ้าน เข้าร่วมโครงการและมอบรางวัลให้แก่หมู่บ้านที่สามารถดูแลพื้นที่ให้ไม่มีจุด Hotspot ซึ่งเป็นของรางวัลที่ใช้ในการส่งเสริมอาชีพและพัฒนาชุมชน หมู่บ้านละ 25,000 บาท รวม 51,650,000 บาท เพื่อพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาที่รากเหง้า ทั้งด้านเศรษฐกิจและการจัดการพื้นที่ อย่างไรก็ตาม CSE ยืนยันความมุ่งมั่นที่จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างสังคมเชียงใหม่ที่ยั่งยืน โดยผสานพลังธุรกิจและชุมชน เดินหน้าสร้างโครงการเพื่อสังคมที่ตอบโจทย์ทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่นอย่างแท้จริงต่อไป

11/09/2025

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ร่วมส่งเสริมขยายการตลาดต่างประเทศ กับสมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในงาน Amazing Chiang Mai Roadshow to China Hong Kong & Taiwan ณ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงและไต้หวัน ระหว่างวันที่ 8-12 กันยายน 2568

โดยมี พลเอกโกศล ประทุมชาติ กรรมการบริหาร ทำหน้าที่ประธานกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร และฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมเจรจาธุรกิจและส่งเสริมการตลาดเชิงรุกเพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ และขยายฐานตลาดต่างประเทศ สร้างภาพลักษณ์องค์กร ให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในตลาดนักท่องเที่ยวฮ่องกงและไต้หวัน

สำหรับการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้เจรจาธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวชั้นนำจากฮ่องกงและไต้หวันกว่า 80 ราย โดยนำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ (Nature Theme Park) ที่โดดเด่นในด้านธรรมชาติวิทยาชีวิตสัตว์ป่า โดยนักท่องเที่ยวสามารถศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ป่าได้อย่างใกล้ชิด โดยมีกิจกรรมการให้บริการที่หลากหลาย เช่น การนั่งรถชมสัตว์ ชมความน่ารักเสือโคร่งสีทอง “เอวาและลูน่า” และมีการแสดงน้ำพุดนตรีที่ สูงที่สุดในเอเชีย รวมถึงมาตรการด้านการบริการที่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจและตอกย้ำภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพระดับนานาชาติ และเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วง High Season ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ภายใต้แคมเปญ 12 Months 12 Festival (12 เดือน 12 เทศกาล) อันจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งเสริมจุดแข็งด้านความเป็นเมืองท่องเที่ยวคุณภาพ และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือน

11/09/2025

“ดีพร้อม” เปิดบ้าน โชว์ศักยภาพ “DIPROM Center 1 Open House 2025” ยกระดับผู้ประกอบการพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ใช้กลไก 4 ให้ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจพื้นที่กว่า 700 ล้านบาท

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) โชว์ผลสำเร็จ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มุ่งยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการและเปิดโอกาสใหม่ให้สามารถปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเติบโต โดยอาศัยพลังแห่ง “MIND” ใช้หัวและใจสร้างสรรค์และพัฒนา ผสานกับ “MIND AS ONE” บูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ ซอฟต์พาวเวอร์ ความยั่งยืน สังคมผู้สูงอายุ และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ ซึ่งสามารถพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน 647 ราย พร้อมทั้งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้มากกว่า 48,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ได้กว่า 700 ล้านบาท

ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า โลกปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็วและซับซ้อนยิ่งขึ้น อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงฉับพลันทางดิจิทัล (Digital Disruption) ที่พลิกโฉมโมเดลธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่ส่งผลต่อการอยู่รอดและเติบโตของธุรกิจในสภาพแวดล้อมที่ต่างไปจากเดิม ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่สร้างความไม่แน่นอนในห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนนโยบายทางการค้าโลก (Global Trade Policies) ที่เข้มข้นและมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น การปรับตัวและพัฒนาขีดความสามารถการดำเนธุรกิจจึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการอยู่รอดและเติบโต ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนผ่านการบูรณาการทำงานร่วมกันของภาครัฐ-เอกชน สถาบันการศึกษา และชุมชน เพื่อสร้างพลังความร่วมมือที่เข้มแข็ง ตามแนวทาง “MIND AS One” รวมพลังหลอมรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวนำไปสู่การยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมไทยให้สามารถแข่งขันได้บนเวทีโลก

ด้านนางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าว่าว่า ในปี 2568 กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินงานภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” มุ่งปฏิรูปการทำงานในรูปแบบใหม่ที่สามารถตอบสนองต่อประเด็นเชิงมหภาคของภาคอุตสาหกรรมเชื่อมโยงกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเดิมเพื่อรองรับอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ การดึงดูดการลงทุนในสาขาที่มีศักยภาพ ตลอดจนช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้เข้มแข็งสามารถปรับตัวให้อยู่รอดและเติบโตผ่านหน่วยงานทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค จำนวน 11 ศูนย์ทั่วประเทศ ภายใต้กลยุทธ์ “4 ให้ 1 ปฏิรูป”

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ซึ่งมีศักยภาพที่หลากหลาย ทั้งด้านทรัพยากร วัฒนธรรม และการค้าการลงทุน “ดีพร้อม” จึงมุ่งมั่นพัฒนากลไกสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนในภูมิภาคนี้ให้สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับความท้าทายและคว้าโอกาสใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดกิจกรรม “เปิดบ้านศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1” (DIPROM Center 1 Open House 2025) เพื่อสะท้อนบทบาท ภารกิจ ศักยภาพ และผลสำเร็จการดำเนินงานของดีพร้อมในเชิงพื้นที่อย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งมิติภารกิจ (Function) ประเด็นสำคัญ (Agenda) และพื้นที่การดำเนินงาน (Area) โดยกิจกรรมในวันนี้ได้นำเสนอแนวทางที่สอดรับกับกลยุทธ์ “4 ให้” ประกอบด้วย

- “ให้ทักษะใหม่” ผ่านการเสวนาและบรรยายพิเศษ (Panel Discussion & Keynote Speech) เพื่อนำเสนอนโยบายภาครัฐ เทรนด์เศรษฐกิจโลก และโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการรับมือกับความท้าทาย จากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ (Success Case) จำนวน 7 ท่าน
- “ให้เครื่องมือที่ทันสมัย” ผ่านการบริการต่าง ๆ ภายในศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 (Service Hub) ทั้งด้านการให้คำปรึกษาแนะนำ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การทดลองผลิต ตลอดจนการเข้าถึงบริการเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 8 ศูนย์บริการ
- “ให้โอกาสโตไกล” ผ่านกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย (Networking Service) เพื่อสร้างพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้พบกับพันธมิตรทางธุรกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่การขยายโอกาสทางธุรกิจและความร่วมมือระหว่างกัน จำนวน 24 หน่วยงาน
- “ให้ธุรกิจไทยที่ดี คู่ชุมชน” ผ่านนิทรรศการและการจัดแสดงผลสำเร็จการดำเนินงาน (Exhibition & Showcase) ที่สอดคล้องกับกระแสการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ความยั่งยืน (Sustainability) สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ (Northern Economic Corridor : NEC - Creative LANNA)

นางสาวณัฏฐิญา กล่าวต่อว่า จากผลการดำเนินงานในทั้ง 4 ด้าน ดีพร้อมสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนกว่า 700 ล้านบาท พัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน 647 ราย และช่วยลด การปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 48,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ตอกย้ำบทบาทของดีพร้อมที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคและสร้างความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย

“สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นการแสดงผลงานและความสำเร็จของดีพร้อมที่มุ่งมั่นพัฒนาผู้ประกอบการในเชิงพื้นที่ให้สามารถปรับตัวต่อการอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังยังเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และบูรณาการความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ ตลอดจนการสร้างเครือข่าย สร้างแรงบันดาลใจ ต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ เสริมสร้างความแข็งแกร่ง และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ ซึ่งจะนำไปสู่การขยายตลาด กระตุ้นให้เกิดการลงทุน และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจภูมิภาคในระยะยาว อันจะสะท้อนถึงความร่วมมือร่วมใจในการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค และยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการภาคเหนืออย่างแท้จริง” นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย

09/09/2025

SUN ตอกย้ำผู้นำเกษตรและอาหารครบวงจร จัดพิธีบวงสรวงพระพิรุณและเสริมพลังเครือข่ายเกษตรกร ประจำปี 2568

วันที่ 9 กันยายน 2568 บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและส่งออกข้าวโพดหวานและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป ภายใต้แบรนด์ “KC” จัดพิธีบวงสรวงพระพิรุณ เทพแห่งสายฝน ผู้เป็นที่เคารพนับถือของชาวเกษตรกรไทย ณ ไร่ตะวันหวาน (Sun Valley) อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อการดำเนินธุรกิจ การเพาะปลูก และชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรอย่างยั่งยืน

นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “การบวงสรวงพระพิรุณเป็นประเพณีที่ซันสวีทยึดถือมาโดยตลอด เพราะเราตระหนักดีว่าน้ำและธรรมชาติคือรากฐานสำคัญของการเกษตร พิธีนี้ไม่เพียงเสริมสิริมงคลแก่บริษัทและพนักงาน แต่ยังเป็นการส่งกำลังใจและสร้างความมั่นคงให้กับเครือข่ายเกษตรกรของเรา” บริษัทจัดขึ้น เป็นประจำทุกปีในวันที่ 9 เดือน 9 อันเป็นวันมงคล โดยมีคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงาน และเกษตรกรในเครือข่ายเข้าร่วมงาน เพื่อแสดงถึงการขอบคุณและสำนึกในพระคุณของธรรมชาติที่เกื้อหนุนการเพาะปลูก

ภายหลังพิธีบวงสรวง ได้มีกิจกรรมพบปะเกษตรกรและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ รวมถึงการนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิต ลดต้นทุน และรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม SUN ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมเกษตรไทยสู่สากล ภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างคุณค่าแก่ผู้บริโภค เกษตรกร ชุมชน และสังคม” ต่อไป

01/09/2025

“SUN" ร่วมส่งกำลังใจนำทีมจิตอาสา ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย บ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม เชียงใหม่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตร ภายใต้แบรนด์ “KC” ร่วมกับพนักงานจิตอาสา ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยครั้งใหญ่จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นคาจิกิ ซึ่งส่งผลให้เกิดดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่บ้านปางอุ๋ง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ภัยพิบัติครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายรุนแรงต่อบ้านเรือนและวิถีชีวิตของประชาชน เพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน บริษัทฯ และพนักงาน SUN ได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไปมอบให้กับผู้ประสบภัย อาทิ ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องพร้อมทาน ตรา KC และน้ำแร่ ตราฟ้าใส โดย บริษัท เชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และรองเท้าบูท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

การเข้าช่วยเหลือในครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SUN ในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสังคมและชุมชนท้องถิ่น เชื่อมั่นว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชน จะเป็นพลังสำคัญในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับคืนสู่ภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน

27/08/2025

📌📌มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับพิจารณาเป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพหุศาสตร์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและ Download ใบสมัครได้ที่ website กองทรัพยากรทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ https://hr.oop.cmu.ac.th/menu/news/news-1373
ผู้ที่สนใจสามารถยื่นใบสมัครฯ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2568 เวลา 08.30 น. ถึง วันจันทร์ที่ 8 กันยายน 2568 เวลา 16.00 น.
สำหรับการสมัครและยื่นใบสมัคร สามารถสอบถามรายละเอียดได้ในวันและเวลาราชการ ณ กองทรัพยากรทุนมนุษย์ สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร. 0-5394-1119 หรือเว็บไซต์ http://hr.oop.cmu.ac.th

กองทรัพยากรทุนมนุษย์