05/03/2025
"จังหวัดเชียงใหม่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม และเริ่มลดลงในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม จากในประเทศไทยเองถึง 83% อีก 17% ที่เหลือมาจากประเทศพม่า และ ที่สำคัญ ภายในประเทศเอง แหล่งกำเนิดในทุกๆ ความเข้มข้น PM2.5 พบว่าแหล่งกำเนิด มาจากจังหวัดเชียงใหม่เองเพียง 34% และมาจากจังหวัดอื่น 66% "
จากบทความด้านล่าง
จะเห็นได้ว่า.....
เกิดจากการกระทำของ กลุ่มคนโบราญที่ อ่อนด้อยปัญญา + การศึกษาต่ำ
ที่ยังมักง่าย โดยการใช้ไฟแก้ปัญหาทุกอย่าง ด้วยปัญญาอันน้อยนิด โดยอาจจะ หงายตั๋วโง่, ตั๋วจน ,ตั๋วรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ,ตั๋วชิงเผา หรือ อ้างปลับพื้นที่เพื่อเตรียมเพาะปลูก.....ใดๆก็ตาม
คนพวกนี้ก็ยังไม่ต่ยไปจากสังคม ทุกวันนี้
จากข้อมูลการวิจัยฝุ้น PM2.5 ที่ ปฐมเหตุจากการมี ไนเตรด มากไปในอากาศ ใช้เคมีในการเพาะปลูกมากเกินไป ไม่ไถกลบ ไม่ปลูกพืชคลุมดิน
แต่ใช้การเผาหน้าดินให้ทุกอย่างตาย และเมื่อจบการเผา ดินก็ตาย
ทำยังไงเพื่อแก้ เกษตรกรส่วนใหญ่ก็เติมปุ๋ย ที่ต้องซื้อ วนเวียนเป็นวัฏจักรที่ไม่รู้จบ
ซื้อพันธ์ุ -> เพาะปลูก -> ซื้อปุ๋ย -> ผลิตตกต่ำ -> ขาดทุน -> ขยายพื้นที่
ความรู้ของเกษตรอินทรีย์ คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ปัญหา
Admin
"จีนเทา" ยังไม่น่ากลัวเท่า......
"ไทยเทา" ที่เป็น ข้าราชการเทา, ทหารเทา, ตำรวจเทา,
และสุดท้าย **นักการเมืองเทา**
มันใช่ฝุ่นข้ามแดนรึป่าว??
หรือบ้านเราจัดกันเอง??
#ไม่มีการรับผิดชอบจากนายทุน
#ป่าไม้สำคัญกว่าเขื่อน
#สาเหตุจากอะไรก็รู้ๆกันอยู่
#ไร่หมุนเวียนจริงหรา
#ต้องทนไปอีกนานเท่าไหร่
#พรบอากาศสะอาด
#ประเทศไทยหัวใจอินทรีย์
เดือนมีนา ฝุ่นควันในเชียงใหม่ มาจากไหน?
=======================================
- จังหวัดเชียงใหม่ เผชิญกับสถานการณ์มลพิษทางอากาศมาเป็นระยะหลายปีมานี้ มักถูกนำเสนอในประเด็นเรื่องคุณภาพอากาศเกินมาตราฐาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน อยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็กขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (หรือ PM2.5)
- PM2.5 ถือเป็นสารมลพิษทางอากาศที่รัฐบาลทั่วโลกใช้ในการวัดหรือเฝ้าระวัง เพื่อปกป้องประชาชนจากผลกระทบที่เป็นผลเสียจากมลพิษทางอากาศ
- หลายปีมานี้ ปริมาณ PM2.5 ของจังหวัดเชียงใหม่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนมีนาคม และเริ่มลดลงในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม โดยปัจจุบันมีการพูดถึงสถานการณ์ PM2.5 ในประเด็นเรื่องหมอกควันข้ามแดนอยู่บ่อยครั้ง บทความนี้จึงอยากชักชวนมาดูว่าสถานการณ์ฝุ่นควันที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่นั้น มีแหล่งกำเนิดมาจากที่ใดกันแน่
-วิธีการ วิเคราะห์เส้นทางการเคลื่อนที่ของมวลอากาศ ย้อนหลัง 24 ชั่วโมง ในทุก ๆ 3 ชั่วโมง ของทุกวันในเดือนมีนาคม ตั้งแต่ ปี 2563 ถึง ปี 2567 ด้วยแบบจำลอง Concentration-weighted trajectories (CWT) ร่วมกับ ค่าความเข้มข้น PM2.5 ณ จุดตรวจวัด เชียงใหม่ จากข้อมูลกรมควบคุมมลพิษ (http://air4thai.pcd.go.th/ ) สามารถหาแหล่งกำเนิดในแต่ละช่วงเวลา ที่พัดเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่
"ผลจากการวิเคราะห์" พบว่า
- เส้นทางการเคลื่อนที่ของมวลอากาศเฉลี่ยในเดือนมีนาคม ของจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงระหว่าง 5 ปีย้อนหลัง (2563 – 2567) มาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นส่วนใหญ่ และบางส่วนมาจากทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
- พื้นที่แหล่งกำเนิดพบว่าส่วนใหญ่มาจากในประเทศไทยเองถึง 83% อีก 17% ที่เหลือมาจากประเทศพม่าทั้งหมด
- ภายในประเทศเอง แหล่งกำเนิดในทุกๆ ความเข้มข้น PM2.5 พบว่าแหล่งกำเนิด มาจากจังหวัดเชียงใหม่เองเพียง 34% และมาจากจังหวัดอื่น 66%
- เมื่อพิจารณาเฉพาะความเข้มข้นของ PM2.5 ที่มีผลต่อสุขภาพ (มากกว่า 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg./m3)) ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดลำพูน ซึ่งอาจเกิดจากการที่แหล่งกำเนิดอยู่ใกล้กับสถานีตรวจวัด และอากาศที่ค่อนข้างนิ่ง ความเข้มข้นจึงสูงกว่าฝุ่นควันที่ถูกพัดพามาจากพื้นที่นอกเขตจังหวัดเชียงใหม่
- เมื่อวิเคราะห์แยกเป็นรายปีจะเห็นได้ว่าความเข้มข้นของ PM2.5 ส่วนใหญ่แหล่งกำเนิดมีผลต่อสุขภาพ-มีผลต่อสุขภาพมาก (อยู่ในช่วง 37.6 - 75.0 µg./m3 (สีส้ม) และมากกว่า 75 µg./m3 (สีแดง))
- มีเพียง ปี 2565 หรือ ปี 2022 เท่านั้นที่ไม่พบความเข้มข้นของ PM2.5 ในระดับมากกว่า 75 µg./m3 (สีแดง) เลย เนื่องจากเป็นปีที่ประเทศไทยเผชิญกับปรากฏลานีญา
- โดยในปีนั้นเดือนมีนาคมประเทศไทยมีฝนตกถึง 96.8 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 40.9 มิลลิเมตร (+73% ของปีปกติ) ครอบคลุมเช่นเดียวกันกับในบริเวณอื่นๆ ของพื้นที่ภาคเหนือที่ (กรมอุตุนิยมวิทยา http://climate.tmd.go.th/gge/R-dev22.pdf) การที่มีฝนตกมากกว่าปกตินี้อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้มีปริมาณจุดความร้อนน้อยลง ส่งผลต่อความเข้มข้นของ PM2.5 ในปี 2565 นั้นมีค่าน้อยกว่าปีอื่น ๆ
- ดังนั้น จากชุดข้อมูลนี้จึงอาจพูดได้ว่าแหล่งกำเนิดฝุ่นควันในจังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งที่มาจากในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งโดยส่วนใหญ่นั้นมาจากในประเทศ หากเราสามารถลดจุดกำเนิดโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดลำพูน ได้ จะส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีผลต่อสุขภาพนั้นลดลง และส่งผลให้ผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงของมลพิษทางอากาศช่วงเดือนมีนาคมนั้นลดน้อยลง
- วิธีการเช่นเดียวกันนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ได้เช่นกัน