15/09/2025
ซีรีส์รัก 99 ตอน
ตอนที่ 5 : เพลงผิวปากข้างฟุตปาธ ✨
กลางถนนสายเก่า เต็มไปด้วยเสียงแตรรถ ควันฝุ่น
และอากาศร้อนอบอ้าว
มีรถเข็นเหล็กเก่า ๆ จอดอยู่ตรงฟุตปาธ
มันคือร้านซ่อมรองเท้าเล็ก ๆ ของ “ลุงคำ”
ชายวัยหกสิบกว่า ใบหน้าเข้มคล้ำ
ร่องรอยเหี่ยวย่นเต็มไปหมด
เขานั่งขัดหนังรองเท้าคู่เก่าอย่างใจเย็น
ปากฮัมเพลงผิวปากทำนองเรียบง่ายซ้ำ ๆ
ใครที่เดินผ่าน ต่างเห็นเพียงชายแก่
กับอาชีพเล็ก ๆ ข้างถนน
แต่หากหยุดมองนานขึ้น จะรู้สึกได้ว่า
อากาศร้อน ฝุ่นควัน
และเสียงรบกวนรอบตัว…เหมือนเข้าไม่ถึงหัวใจเขาเลย
ข้างรถเข็น มีแผ่นไม้เขียนด้วยลายมือซีดจางว่า
“เหตุแห่งทุกข์ก็พอเห็นแล้ว
ผลแห่งทุกข์ก็พอเห็นอยู่
แต่ทางดับทุกข์นั้น ใครได้เห็น ย่อมสุขทั้งกายและใจ”
⸻
(ความหลัง)
หลายสิบปีก่อน ลุงคำไม่ใช่คนสงบเช่นนี้
เขาเคยเป็นคนขับรถบรรทุก ที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่
อารมณ์ร้อน ใช้ชีวิตตะลอนถนนเพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัว
จนวันหนึ่ง รถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ
เพื่อนร่วมงานตายในที่เกิดเหตุ
ส่วนเขารอดมาได้โดยแทบไม่มีรอยแผล
แต่เขากลับเป็นคนอารมณ์ร้อนยิ่งกว่าเดิม
จนป้าบัวเมียลุงคำทนไม่ไหว หนีไปไม่ทราบแห่งหนตำบล
ลูกก็ไปอยู่กับญาติ
เขาเคยด่าทอชะตากรรม โทษโชคชะตา
และเกลียดทุกสิ่งบนโลก
จนวันหนึ่ง ขณะเร่ร่อนอยู่ใกล้วัด
เขาได้ยินพระชรากล่าวประโยคหนึ่งในบทสวด
“เหตุแห่งทุกข์ก็พอเห็นแล้ว
ผลแห่งทุกข์ก็พอเห็นอยู่
แต่ทางดับทุกข์นั้น ใครได้เห็น ย่อมสุขทั้งกายและใจ”
คืนนั้นเขานั่งฟังเสียงระฆังวัด
น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ
เพราะเขารู้ว่า
ตลอดเวลาที่ผ่านมา
ความทุกข์ไม่ได้มาจากคนอื่น แต่มาจากใจเขาเอง…
⸻
(ชีวิตปัจจุบัน)
หลายปีต่อมา
ลุงคำเลิกเหล้า เลิกบุหรี่
เริ่มต้นใหม่ด้วยการซ่อมรองเท้าเก่า…ข้างถนน
อาชีพเล็ก ๆ ที่ใครมองว่าไร้ค่า
กลับทำให้เขารู้สึกได้ว่า
ตราบใดที่ยังพอช่วยให้คนเดินต่อไปได้
เขาก็มีประโยชน์แล้ว
ทุกครั้งที่ใช้ค้อนตอกตะปูรองเท้า
เขานับลมหายใจเข้าออก
ทุกครั้งที่ดึงด้าย
เขาฟังเสียงหัวใจตัวเอง ไม่เร่ง ไม่ร้อน
แม้แดดแรงจนเหงื่อหยด
ก็ยังฮัมเพลงเบา ๆ
เหมือนคนอยู่บนทางสายสงบที่คนอื่นมองไม่เห็น
⸻
วันหนึ่ง เด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งรอรองเท้าที่ฝากซ่อม
เขามองลุงคำทำงานด้วยความสงสัย แล้วถามว่า
“ลุง…อยู่ตรงนี้ทั้งวัน ไม่เบื่อเหรอครับ”
ลุงคำยิ้มบาง ๆ พลางเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่น
“เบื่อทำไมล่ะหลาน…
ตอนหนุ่ม ๆ ลุงเคยมีทุกอย่าง
แต่ใจไม่เคยสงบเลย
วันนี้ลุงมีแค่ค้อนคู่เดียว รองเท้าเก่า ๆ แต่ใจมันเบา…แค่นี้ก็พอแล้ว”
เด็กหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่ง
เหมือนได้ยินคำสอนที่ไม่ได้ออกมาจากตำรา
แต่จากชีวิตจริงตรงหน้า
เมื่อรองเท้าซ่อมเสร็จ
ลุงคำวางคู่เก่า ๆ
ที่ซ่อมจนแน่นหนาลงตรงหน้า
พร้อมพูดว่า
“รองเท้ามันก็เหมือนคนแหละ
ถึงพังยังไง ถ้าเย็บดี ๆ มันก็ยังเดินต่อได้”
⸻
(บทส่งท้าย)
ไม่มีใครรู้ว่า ปัจจุบันลุงคำมีครอบครัวใหม่ไหม
หรือหัวใจของเขายังคิดถึงอดีตที่เคยพังหรือเปล่า
แต่ทุกคนที่เดินผ่าน
ต่างรับรู้ตรงกันว่า
ในแววตาของชายแก่ข้างฟุตปาธ มีบางสิ่งที่พิเศษ
บางสิ่งที่ทำให้ฝุ่น ควัน
และความร้อน ไม่อาจแตะต้องได้
นั่นอาจเป็น “รัก” ในอีกรูปแบบหนึ่ง
ไม่ใช่รักใครสักคน
แต่คือรักชีวิตที่ยังเหลืออยู่
รักความสงบที่กว่าจะได้มา ก็ต้องแลกด้วยคราบน้ำตามากมาย
และเสียงผิวปากที่ดังอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น…
คือหลักฐานว่า
เขาพบ “ทางดับทุกข์” ของตัวเองแล้วจริง ๆ