The Kop HQ-Thailand

  • Home
  • The Kop HQ-Thailand

The Kop HQ-Thailand เพจหลัก The Kop-HQ Thailand
นำเสนอข่าวจริง ข่าววงใน ไม่เล่นข่าวลือ

ถึงเวลามองไปข้างหน้า เดินทางออกไปเยือน Galatasaray คืนวันอังคาร(เช้ามืดวันพุธ)นี้ 02.00น.
29/09/2025

ถึงเวลามองไปข้างหน้า เดินทางออกไปเยือน Galatasaray คืนวันอังคาร(เช้ามืดวันพุธ)นี้ 02.00น.

🗯️  กาลาตาซารายเสี่ยง “ให้กองหน้าฝืนเจ็บ” ก่อนดวลลิเวอร์พูล หลังคว้าชัยสถิติใหม่กาลาตาซาราย เตรียมความพร้อมสำหรับการเจอล...
28/09/2025

🗯️ กาลาตาซารายเสี่ยง “ให้กองหน้าฝืนเจ็บ” ก่อนดวลลิเวอร์พูล หลังคว้าชัยสถิติใหม่

กาลาตาซาราย เตรียมความพร้อมสำหรับการเจอลิเวอร์พูลด้วยการให้ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ลงสนามทั้งที่ยังมีอาการเจ็บ ระหว่างเกมลีกที่เฉือนชนะคู่แข่งแบบหวุดหวิด

ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกจะกลับมาเตะกลางสัปดาห์ โดยลิเวอร์พูลต้องบุกอิสตันบูล เจอกาลาตาซารายเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งแฟนบอลก็ต้องเผชิญกับสภาพสนามและบรรยากาศที่ขึ้นชื่อว่ากดดันที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป

อาร์เน เพิ่งได้ผู้เล่นตัวหลักหลายรายกลับมาลงสนามในเกมแพ้คริสตัล พาเลซเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของฤดูกาล

ขณะที่กาลาตาซารายยังรักษาสถิติชนะ 100% ในซูเปอร์ลีกตุรกีต่อไป ด้วยการชนะอาลันยาสปอร์ 1-0 เมื่อวันศุกร์ กลายเป็นชัยชนะนัดที่ 7 ติดต่อกันตั้งแต่เปิดซีซัน ถือเป็นสถิติใหม่ของสโมสร
เมาโร อิคาร์ดี้ ยิงประตูชัยในนาที 22 จากจังหวะไขว้ยิงระยะเผาขน

11 ตัวจริง กาลาตาซาราย:
ชาคีร์; ซิงโก, ซานเชซ, บาร์ดักชี (ยาโคบส์ 63′), เอลมาลี; ซารา (กุนโดกัน 63′), ตอร์เรย์ร่า (เลอมิน่า 46′); ซัลไล, ซาเน่ (บัลตาซี 77′), ยิลมาซ (โอซิมเฮน 85′); อิคาร์ดี้
ตัวสำรองไม่ได้ใช้: กูเวนช์, อายฮาน, คุทลู, คุทชู, อักกูน

แม้จะใช้ระบบ 4-2-3-1 แต่กาลาตาซารายเสียให้คู่แข่งยิงถึง 22 ครั้ง และพลาดโอกาสทองถึง 6 ครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณที่น่ามั่นใจสำหรับลิเวอร์พูล



การเสี่ยงกับโอซิมเฮน

ประเด็นหลังเกมคือการคัมแบ็กของ โอซิมเฮน ที่เพิ่งหายจากอาการเจ็บข้อเท้าจากช่วงเบรกทีมชาติ โดยถูกส่งลงสนามในนาที 85 ซึ่งเป็นการลงเล่นครั้งแรกตั้งแต่ย้ายมาจากนาโปลีในซัมเมอร์นี้

โอคาน บูรุก กุนซือกาลาตาซาราย ยอมรับว่าทีมตั้งใจให้เขาลงเล่นทั้งที่ยังเจ็บเล็กน้อยเพื่อทดสอบสภาพร่างกาย:

“เราต้องการให้โอซิมเฮนเล่นสัก 10 นาที เพื่อให้เขารับรู้ถึงความเจ็บปวด บางครั้งคุณต้องเล่นทั้งที่ยังเจ็บอยู่ นี่คือสิ่งสำคัญ
เราจะประเมินสภาพร่างกายและอาการเจ็บของเขาก่อนตัดสินใจในเกมถัดไป เราอาจต้องเปลี่ยนแผนการเล่นบ้าง แต่มันคือความเสี่ยงที่ต้องรับเพื่อให้เขาได้ลงสนาม”

แม้โอซิมเฮนแทบไม่พร้อมลงตัวจริงในเกมเจอลิเวอร์พูล แต่ต่างจากฝั่งหงส์แดงที่ อูโก้ เอกิติเก้ จะพ้นโทษแบนกลับมา

ฤดูกาลนี้โอซิมเฮนยิงไปแล้ว 2 ประตูจากเวลาเล่น 214 นาที ส่วนกาลาตาซารายจะยังฝากความหวังหลักไว้ที่ อิคาร์ดี้ ซึ่งยิงไปแล้ว 5 ประตูจาก 7 เกม

🗯️  ทำไมลิเวอร์พูลถึงล้มเหลวกับหลักการพื้นฐานของอาร์เนในเกมพบคริสตัล พาเลซความพ่ายแพ้เกมแรกของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้มาจาก...
28/09/2025

🗯️ ทำไมลิเวอร์พูลถึงล้มเหลวกับหลักการพื้นฐานของอาร์เนในเกมพบคริสตัล พาเลซ

ความพ่ายแพ้เกมแรกของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้มาจากการที่คริสตัล พาเลซใช้โอกาสที่มีได้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่ อาร์เน ถือเป็น “หลักการที่ไม่อาจต่อรองได้” กลับหายไปจากทีมอย่างสิ้นเชิง



ลิเวอร์พูลแพ้ในเกมดวลตัวต่อตัว

แม้ลิเวอร์พูลจะออกสตาร์ทด้วยชัยชนะ 7 เกมติด โดยอาศัยประตูท้ายเกมกู้ชัยชนะ แต่ที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค พวกเขาก็โดนเล่นงานด้วยวิธีเดียวกัน

แม้จะครองบอลได้มากกว่า แต่พาเลซกลับเป็นฝ่ายมีค่า xG (โอกาสยิงประตูคาดหวัง) สูงกว่า มีจำนวนยิงตรงกรอบมากกว่า และสร้างโอกาสจะแจ้งได้มากกว่า

อาร์เนเลือกใช้แผน บ็อกซ์มิดฟิลด์ในระบบ 4-2-2-2 ในครึ่งแรก แต่การทดลองนั้นล้มเหลว และไม่แปลกที่เมื่อกลับไปใช้แผนที่คุ้นเคยในครึ่งหลัง ทีมจึงดูดีขึ้นทันตาเห็น

FotMob เผยว่าลิเวอร์พูลแพ้การดวลรวม 48-45 และโดยเฉพาะ การดวลภาคพื้นดิน (ground duels) ลิเวอร์พูลแพ้ชัดเจน 36-23

นักเตะตัวจริง 5 คนแพ้การดวลมากกว่าชนะ:
• โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (14.28%)
• อเล็กซานเดอร์ อิซัค (33.3%)
• มีลอส เคอร์เคซ (33.3%)
• โดมินิก โซบอสซ์ไล (37.5%)
• ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (42.85%)

ตัวสำรองก็เจอปัญหาเช่นกัน:
• ริโอ งูโมฮา (33.3%)
• เฌเรมี ฟริมปง (20%)
• เฟเดริโก้ เคียซ่า (0%)
• เคอร์ติส โจนส์ (0%)

โดย ซาลาห์ แพ้การดวลมากที่สุดในทีม แพ้ 6 จาก 7 ครั้งที่ลงดวล (แพ้ภาคพื้นดิน 5 และลูกกลางอากาศ 1) ซึ่งสะท้อนถึงวันที่ฟอร์มตกหนัก

ในทางกลับกัน ไรอัน กราเวนเบิร์ช เป็นเพียงคนเดียวในทีมที่ชนะการดวลทุกครั้ง (7/7) และเป็นผู้เล่นที่ชนะมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในสนาม



การกลับไปใช้ระบบเดิมช่วยพลิกฟอร์ม

ความพยายามเปลี่ยนแท็กติกในครึ่งแรกทำให้ลิเวอร์พูลเสียเปรียบอย่างหนัก พาเลซยิงได้ถึง 10 ครั้ง สร้างโอกาสจะแจ้ง 4 ครั้ง และมีค่า xG สูงถึง 2.07

หงส์แดงแพ้การดวลครึ่งแรก 23-14 (โดยภาคพื้นดินแพ้ 18-6) เพราะการบีบกดดันไม่ทำงานเลย

แต่เมื่ออาร์เนปรับทีมให้กลับมามีมิติด้านกว้างและใช้แผนที่คุ้นเคย ครึ่งหลังทีมก็ดีขึ้นทันตา:
• ลิเวอร์พูลสร้างโอกาสยิง 14 ครั้ง
• มีโอกาสจะแจ้ง 5 ครั้ง
• ค่า xG 1.75

มากพอที่จะควรพลิกผลการแข่งขันได้



บทสรุป

ท้ายที่สุด อาร์เนต้องผิดหวังกับ “การทดลองครึ่งแรก” และการที่ทีมไม่สามารถรักษาหลักการพื้นฐานเรื่อง การชนะการดวล ได้ตลอดทั้ง 90 นาที

🗯️  เชลซีเจอปัญหาเพิ่ม อดใช้งานแข้งอีกหนึ่งรายเกมพบลิเวอร์พูล หลังโคล พาลเมอร์ต้องพักเชลซีเริ่มนับจำนวนผู้เล่นที่หายไปก่...
28/09/2025

🗯️ เชลซีเจอปัญหาเพิ่ม อดใช้งานแข้งอีกหนึ่งรายเกมพบลิเวอร์พูล หลังโคล พาลเมอร์ต้องพัก

เชลซีเริ่มนับจำนวนผู้เล่นที่หายไปก่อนเกมเปิดบ้านพบลิเวอร์พูลวันเสาร์นี้ หลังจากโดนใบแดงในเกมแพ้ไบรท์ตัน 3-1 ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

ทีมของเอนโซ่ มาเรสก้านำก่อนจากประตูของเอนโซ่ เฟร์นานเดซในครึ่งแรก แต่ช่วงทดเจ็บสุดดราม่าทำให้แต้มหลุดลอย เมื่อแดนนี่ เวลเบ็ค และแม็กซิม เดอ คอยเปอร์ ยิงคนละประตูในช่วง 11 นาทีทดเวลา ส่งผลให้ไบรท์ตันคว้าชัยกลับบ้าน

เชลซีเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่นาที 53 เมื่อ เทรโวห์ ชาโลบาห์ โดนใบแดงหลังทำฟาวล์ใส่จอร์จินโญ รูตเทอร์ในจังหวะโอกาสยิงประตูชัดเจน VAR เข้ามาเช็กก่อนยืนยันโทษไล่ออก ส่งผลให้กองหลังรายนี้โดนแบน 1 นัด และจะ หมดสิทธิ์เจอลิเวอร์พูลในวันเสาร์



ตัวเลือกกองหลังเหลือน้อย

ชาโลบาห์ลงเล่นตัวจริงทุกนัดในลีกฤดูกาลนี้ แต่ตอนนี้เชลซีน่าจะเหลือกองหลังตัวกลางซีเนียร์เพียง 3 คน เนื่องจาก ลีวาย โคลวิลล์ และ โทซิน อดาราบิโอยอ บาดเจ็บ ขณะที่ เวสลีย์ โฟฟานา ยังต้องรอลุ้นหลังศีรษะกระทบกระเทือน

ดังนั้น อาร์เน จะเตรียมทีมเจอกับแนวรับที่น่าจะประกอบไปด้วย 2 คนจาก จอร์เรล ฮาโต, จอช อาเชมปง และบัวโนต์ บาเดียชิล ในสุดสัปดาห์หน้า ส่วนฝั่งลิเวอร์พูล อูโก้ เอกิติเก้ จะพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามได้



ปัญหาของโคล พาลเมอร์ และผู้เล่นที่ขาดหาย

การแบนของชาโลบาห์เกิดขึ้นหลังจากที่มาเรสกาเพิ่งเผยว่า โคล พาลเมอร์ จะถูกพักยาวจนถึงช่วงเบรกทีมชาติ เพราะมีอาการเจ็บโคนขาหนีบที่รบกวนต่อเนื่อง โดยหวังว่าการพัก 2–3 สัปดาห์จะช่วยให้หายขาดและเลี่ยงการผ่าตัด

มาเรสกากล่าวว่า:
“เราตัดสินใจพักเขาไว้จนถึงช่วงเบรกทีมชาติ เพื่อดูว่าการพักครั้งนี้จะช่วยให้เขาฟื้นตัว 100% และกลับมาฟิตหลังเบรกได้หรือไม่”

นอกจากนี้ เชลซียังจะไม่มี เลียม เดลาป กองหน้าที่บาดเจ็บ ขณะที่ทีมยังไม่ชนะเกมพรีเมียร์ลีกเลยนับตั้งแต่เบรกทีมชาติ ปัจจุบันมีเพียง 8 คะแนน



โปรแกรมก่อนเบรกทีมชาติ

ทั้งสองทีมจะมีเวลา 4 วันเตรียมตัวก่อนลงเล่นเกมสุดท้ายก่อนพักเบรกตุลาคม โดยทั้งคู่ต่างต้องลงเล่น ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกกลางสัปดาห์
• เชลซี เปิดบ้านพบ เบนฟิก้า
• ลิเวอร์พูลต้องเดินทางไปเยือน กาลาตาซาราย วันอังคารที่ 30 กันยายน เวลา 20:00 น. (BST) / 02:00 น. ตามเวลาไทย)

🗯️  เฟเดริโก้ เคียซ่า กลายเป็น “ตัวเลือกจริงจัง” หลังแฟนบอลยืนยันว่า “คู่ควรกับการออกสตาร์ท”เฟเดริโก้ เคียซ่า คือหนึ่งใน...
28/09/2025

🗯️ เฟเดริโก้ เคียซ่า กลายเป็น “ตัวเลือกจริงจัง” หลังแฟนบอลยืนยันว่า “คู่ควรกับการออกสตาร์ท”

เฟเดริโก้ เคียซ่า คือหนึ่งในไม่กี่เรื่องดี ๆ ที่ลิเวอร์พูลได้จากความพ่ายแพ้ต่อคริสตัล พาเลซ แข้งอิตาลีรายนี้ยังคงโชว์ผลงานจนแฟน ๆ เรียกร้องให้เขามีบทบาทมากขึ้นในทีม

ฤดูกาลที่แล้ว เคียซ่าใช้เวลาจนถึงวันที่ 18 มกราคมกว่าจะลงเล่นครบ 6 นัด แต่ปีนี้เขาทำได้ก่อนสิ้นเดือนกันยายน แถมยิงไปแล้ว 2 ประตูและแอสซิสต์อีก 2 ครั้ง

แม้อาร์เนจะเคยให้โอกาสตัวรุกคนอื่นมากกว่า แต่ตอนนี้เคียซ่าเริ่มพิสูจน์ว่าเขาสามารถเปลี่ยนเกมให้ลิเวอร์พูลได้จริง ๆ เกมที่เซลเฮิร์สท์ พาร์คก็เช่นกัน หากไม่ใช่เพราะการป้องกันลูกทุ่มที่ย่ำแย่อีกครั้ง ลิเวอร์พูลคงเก็บผลการแข่งขันจากผลงานของเขาได้

ดาวเตะวัย 27 ปีนำพลังงานที่แพร่กระจายได้มาสู่ทีม และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แฟน ๆ เรียกร้องให้อาร์เนใช้เขาให้มากขึ้น:
• “ถึงเวลาต้องกล้ากับการเลือก 11 ตัวจริงแล้ว ควรจัดผู้เล่นที่ฟอร์มดีที่สุด ไม่ใช่ยึดติดกับชื่อเสียงในอดีต ตอนนี้เคียซ่าชัดเจนว่าคู่ควรกับการเป็นตัวจริง และซาลาห์ก็ไม่ควรจะอยู่ยงคงกระพันไม่ถูกเปลี่ยนออก” – ความเห็นจาก TIA
• “เคียซ่าต้องทำอะไรอีกถึงจะได้ออกสตาร์ท? โมเล่นแย่มาทั้งฤดูกาล, กัคโปก็มีแต่ท่าเดิม ๆ ส่วนเวิร์ตซ์ก็หายเงียบเวลาเล่นริมเส้น” – ความเห็นจาก TIA
• “หวังว่าเคียซ่าจะพิสูจน์ให้อาร์เนเห็นแล้วว่าเขาควรได้เวลาเล่นมากกว่านี้ เขาทำอะไรได้มากกว่าใน 15–20 นาที มากกว่าที่กัคโปทำได้ใน 45 นาที” – ความเห็นจาก TIA



ตัวเลือกสำคัญในแชมเปียนส์ลีก

เคียซ่าได้สิทธิ์ถูกใส่ชื่อในทีมชุดแชมเปียนส์ลีกแทนที่ โจวานนี เลโอนี และนั่นทำให้เขามีลุ้นลงเล่นในเกมวันอังคารนี้

แข้งอิตาลีพูดหลังเกมชนะเซาแธมป์ตันกลางสัปดาห์ว่า เขา “อยากมีการแข่งขันแย่งตำแหน่ง” และตอนนี้รู้สึก “ทั้งร่างกายและจิตใจดีกว่าฤดูกาลก่อน”

อาร์เนแสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่กลัวที่จะโรเตชันนักเตะในฤดูกาลนี้ ดังนั้นทำไมไม่ให้เคียซ่ามากกว่าบทบาทตัวสำรอง ทั้งในพรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีก?

🗯️  ลิเวอร์พูล U18 ยิงครบ 20 ประตูจาก 5 เกม หลังถล่มลีดส์ลีดส์ U18 0-3 ลิเวอร์พูล U18พรีเมียร์ลีก U18 | ธอร์ป อาร์ช27 กั...
28/09/2025

🗯️ ลิเวอร์พูล U18 ยิงครบ 20 ประตูจาก 5 เกม หลังถล่มลีดส์

ลีดส์ U18 0-3 ลิเวอร์พูล U18
พรีเมียร์ลีก U18 | ธอร์ป อาร์ช
27 กันยายน 2025

ผู้ทำประตู: คลาร์ก 58′, ฟอร์เรสเตอร์ 72′, อิงเกิลธอร์ป 86′



ลิเวอร์พูล U18 แก้ตัวจากเกมแพ้แบบสุดช็อก 8-3 นัดก่อนหน้า ด้วยการบุกชนะลีดส์ 3-0 เมื่อเช้าวันเสาร์ และทำให้ยอดรวมประตูยิงได้ในลีกซีซันนี้เพิ่มเป็น 20 ลูกจากเพียง 5 เกม

น่าเหลือเชื่อที่ชัยชนะ 3-0 นัดนี้ถือเป็นเกมที่ยิงได้น้อยที่สุดของทีมในฤดูกาลปัจจุบัน ก่อนหน้านี้พวกเขาชนะสโต๊ก 5-1, ชนะเบิร์นลีย์ 6-1, แพ้นิวคาสเซิลแบบสูสี 4-3 และแพ้แบล็กเบิร์น 8-3

แม้ผลงานโดยรวมจะขึ้น ๆ ลง ๆ แต่สิ่งที่ทีมของ ไซมอน ไวลส์ ไม่เคยขาดเลยคือ “ประตู”



เกมนี้ลิเวอร์พูล U18 ทำได้อย่างไร
• ครึ่งแรกยังเจาะไม่ได้ ต้องรอจนถึงนาที 58 กองหลัง ลูคัส คลาร์ก โหม่งจากลูกเตะมุมของ โจ อัพตัน ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง
• จากนั้นความสร้างสรรค์ของ เอเจ เยกัว มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 16 ปีชาวโปแลนด์ ก็ช่วยให้ ลา’มอร์ ฟอร์เรสเตอร์ ยิงประตูที่สองติดต่อกันในนาที 72
• ตัวสำรอง ฟินน์ อิงเกิลธอร์ป มีส่วนร่วมกับประตูที่สอง และมาซัดเองในนาที 86 จากการแอสซิสต์ของเยกัวอีกครั้ง ปิดเกม 3-0

นอกจากนี้ โอลลี โอ’คอนเนอร์ แข้งสารพัดประโยชน์วัย 17 ปีที่เพิ่งหายเจ็บยาว ก็ได้ลงเล่นนัดแรกของฤดูกาลนี้



โปรแกรมถัดไป
• ลิเวอร์พูล U18 จะบุกไปเยือนเลสเตอร์ในเกมถ้วย
• และก่อนหน้านั้น บางคนจากทีมชุดนี้จะเดินทางไปอิสตันบูล เพื่อเจอกาลาตาซาราย U19 ในศึก ยูฟ่า ยูธลีก วันอังคารที่ 30 กันยายน เวลา 13:00 น. (BST) / 19:00 น. ตามเวลาไทย



รายชื่อตัวจริง ลิเวอร์พูล U18:
ฮอลล์; คอนเด้ (ลอนเมนี 77′), คลาร์ก, โอเวน, ซิสเซ่; เมอร์เรย์-โฮล์ม (อัพตัน 58′), ฟาร์กัส (โอ’คอนเนอร์ 64′); อาเบะ, เยกัว, ฟอร์เรสเตอร์; ซอนนี-แลมบี (อิงเกิลธอร์ป 57′)
ตัวสำรองไม่ได้ใช้: เบอร์นาร์ด

🗯️  อาร์เน อธิบายการตัดสินใจให้เวลาอิซัคลงสนามยาวนานขึ้นในการออกสตาร์ทลีกครั้งแรกอเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้ลงเล่นมากที่สุดต...
28/09/2025

🗯️ อาร์เน อธิบายการตัดสินใจให้เวลาอิซัคลงสนามยาวนานขึ้นในการออกสตาร์ทลีกครั้งแรก

อเล็กซานเดอร์ อิซัค ได้ลงเล่นมากที่สุดตั้งแต่ย้ายมาลิเวอร์พูลในเกมพบคริสตัล พาเลซ และ อาร์เน ก็อธิบายว่าทำไมถึงเลือกให้กองหน้ารายนี้เล่นนานขึ้น

ก่อนเกมที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค อาร์เนเคยบอกชัดว่า “เบอร์ 9” ของเขายังไม่พร้อมเล่นเต็ม 90 นาที แต่ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของเกมว่าจะอยู่ในสนามได้นานแค่ไหน

ในเกมกับพาเลซ อิซัคได้ลงเล่น 84 นาที ก่อนถูกเปลี่ยนออกให้ริโอ งูโมฮาลงมาแทน ขณะทีมพยายามหาประตู ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นแค่การไล่ตีเสมอไม่สำเร็จ

นี่คือการออกสตาร์ทครั้งที่ 3 จาก 4 เกมของอิซัค เขาจบเกมด้วยการสัมผัสบอล 19 ครั้ง ยิง 3 ครั้ง และพลาดโอกาสทอง 2 ครั้ง แต่โดยรวมอาร์เนก็ยังพอใจกับผลงานของนักเตะที่กำลังเรียกความฟิตกลับมา



เหตุผลที่ให้เล่น 84 นาที

อาร์เนอธิบายว่า:
“ทั้งหมดเกี่ยวกับความเข้มข้นที่ต่ำของเกมนี้
ถ้าคุณเจอทีมที่ตั้งรับต่ำ มีผู้เล่น 10 คนปักหลักแถวกรอบเขตโทษ เวลาเล่นบอลขึ้นไป ผู้รักษาประตูก็ใช้เวลานานกว่าจะเตะยาว เกมมันแทบไม่มีความเข้มข้นเลย
แต่ถ้าเป็นเกมที่เปิดแลก ทั้งสองทีมบีบสูงและต่อบอล คุณในฐานะกองหน้าเบอร์ 9 ต้องวิ่งเยอะมากเพื่อไล่เพรสฝั่งตรงข้าม แบบนั้นผมคงไม่ให้เขาเล่นถึง 84 นาที
แต่เกมนี้เป็นเกมที่จังหวะช้ามาก มีแค่บางช่วงที่พวกเขาได้สวนกลับ ดังนั้นกองหน้าหมายเลข 9 ไม่ได้มีส่วนร่วมมากนัก”



เกือบได้ประตู

“เขาเกือบยิงได้แล้ว เขาพยายามเล่นซื่อสัตย์ ไม่ล้มง่าย ๆ เขาโดนดึงเสื้อเล็กน้อยเลยเสียจังหวะตอนยิง แค่ผลักเล็ก ๆ ก็ทำให้เสียบาลานซ์ไป
แต่เขาเข้าใกล้ประตูมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้สุดท้ายไม่ได้ยิงเข้า แต่ก็ถือเป็นผลงานที่ดีทีเดียว”



การปรับตัวของอิซัค

ลิเวอร์พูลยังคงค่อย ๆ ปรับให้อิซัคมีเวลาลงสนามเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่าสโมสรพร้อมจะอดทนกับการปรับตัวของกองหน้าชาวสวีเดนรายนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อ อูโก้ เอกิติเก้ พ้นโทษแบนและพร้อมกลับมาลงเล่นเกมเจอกาลาตาซารายวันอังคารนี้ จึงมีโอกาสสูงที่อาร์เนจะใช้ให้อิซัคเป็นตัวสำรอง ก่อนต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ในการเจอเชลซีสุดสัปดาห์หน้า

🗯️ ลิเวอร์พูลเล่นผิดพลาดจนถูกลงโทษ หลังจาก “อยู่บนเส้นด้ายมาตลอดทั้งฤดูกาล”สื่อแทบไม่เจอข้อดีจากฟอร์มการเล่นของลิเวอร์พู...
28/09/2025

🗯️ ลิเวอร์พูลเล่นผิดพลาดจนถูกลงโทษ หลังจาก “อยู่บนเส้นด้ายมาตลอดทั้งฤดูกาล”

สื่อแทบไม่เจอข้อดีจากฟอร์มการเล่นของลิเวอร์พูลในเกมบุกแพ้คริสตัล พาเลซ 2-1 เพราะนี่คือผลงานที่ย่ำแย่ และสุดท้ายก็ถูกลงโทษจนได้

หงส์แดงเล่นต่ำกว่ามาตรฐานเกือบตลอดทั้งเกมวันเสาร์ และพูดตามตรง หากจบเสมอคงเป็นการตัดสินที่ไม่ยุติธรรมกับพาเลซ

แม้ก่อนหน้านี้ลิเวอร์พูลจะชนะรวดทั้ง 7 นัด แต่ก็มีสัญญาณมาตลอดว่าความพ่ายแพ้กำลังมาเยือน



“ผลลัพธ์ที่พอคาดเดาได้”

James Pearce จาก The Athletic แสดงความคิดเห็นบน X ว่า พาเลซสมควรชนะ:

“อาร์เนยังคงไปโวยผู้ตัดสินคริส คาวานาห์หลังจบเกม แต่ลิเวอร์พูลควรโทษตัวเองกับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ ครึ่งหลังดีขึ้น แต่ก็ยังห่างไกลจากระดับที่ควรเป็น ความผิดพลาดเลอะเทอะมากมาย พาเลซสมควรได้รับชัยชนะ”

Phil McNulty จาก BBC Sport พูดถึงความจริงที่ว่าลิเวอร์พูลไม่สามารถชนะไปเรื่อย ๆ ด้วยฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานได้:

“ลิเวอร์พูลอยู่บนเส้นด้ายมาตลอดฤดูกาล ใช้ประตูท้ายเกมกู้ชัยชนะ แต่ครั้งนี้ไม่มีทางรอด และพวกเขาก็ไม่สมควรได้มันด้วย
มันเหมือนจะเป็นอีกครั้งที่ประตูท้ายเกม (จากเคียซ่า) จะช่วยทีมได้ แต่นักเตะเกมรับไม่เคลียร์บอลจากลูกทุ่มยาว และเอ็นเคเทียห์ลงโทษทันที…
นี่คือความพ่ายแพ้ที่เหมือนจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว จากการเล่นเสี่ยงมาตลอดฤดูกาล แต่สำหรับอาร์เน มันก็ยังผิดหวังอยู่ดีในวิธีที่ทีมพ่าย”

Ian Doyle จาก Liverpool Echo ก็คิดไปในทางเดียวกัน:

“ลิเวอร์พูลเกือบรอดอีกแล้ว แต่คุณไม่สามารถหวังพึ่งแต่ประตูท้ายเกมได้ โดยเฉพาะเมื่อผู้เล่นหลายคนเล่นแย่มากเป็นเวลานาน”

ขณะที่ David Lynch มองว่าเสมอคงยุติธรรมกว่า โดยดูจากฟอร์มครึ่งหลังที่ครองเกมได้:

“คิดว่าลิเวอร์พูลน่าจะได้ 1 แต้มที่สมควรแล้ว จากครึ่งหลังที่ดีขึ้นมาก แต่สุดท้ายก็เสียประตูจากการป้องกันห่วย ๆ ถ้าคุณเล่นแย่ถึง 45 นาทีเต็ม คุณก็เปิดโอกาสให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”



“ไม่ใช่หายนะ แต่พาเลซสมควรได้”

Tim Wigmore จาก Telegraph มองว่าผลนี้ไม่ใช่หายนะ เพราะพาเลซฟอร์มดีมาก:

“บางที Marc Guehi อาจดีใจที่ไม่ได้ย้ายทีมในวันปิดตลาด สี่สัปดาห์หลังจากลิเวอร์พูลพลาดคว้าตัว เขาก็นำทีมพาเลซชนะอย่างยิ่งใหญ่ 2-1 ด้วยประตูแทบจะนาทีสุดท้าย…
ลิเวอร์พูลต้องยอมรับว่า ไม่เพียงแค่สถิติชนะ 100% จบลง แต่ยังกลับจากลอนดอนโดยไม่ได้แม้แต่แต้มเดียว
จริง ๆ ก็ไม่ควรแปลกใจ เพราะชัยชนะนี้ทำให้พาเลซขึ้นไปอยู่รองจ่าฝูงตอนจบเกม”



ปัญหาลูกตั้งเตะและความผิดพลาดรายบุคคล

Andy Jones จาก The Athletic ตั้งข้อสังเกตว่าลิเวอร์พูลมีปัญหาจริงจังกับลูกตั้งเตะ:

“สำหรับลิเวอร์พูล พวกเขาเสียสองประตูจากการเล่นต่อเนื่องของลูกตั้งเตะ…
การยิงประตูท้ายเกมคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาชนะรวด แต่มันก็มีคำถามว่าเส้นทางแบบนี้จะยั่งยืนได้หรือไม่
การเสียสองประตูจากลูกตั้งเตะในเกมเดียว — ซึ่งเป็นสิ่งที่กังวลตั้งแต่ก่อนเปิดฤดูกาล — มันไม่ใช่สิ่งที่ทีมแชมป์ควรทำ และทิ้งโจทย์ใหญ่ให้อาร์เนต้องแก้”

ผู้เล่นบางคนของลิเวอร์พูลก็เจอวันที่ย่ำแย่

นักเขียน Paul Grech แสดงความคิดเห็นบน X ว่านี่คือ “สัปดาห์แห่งการเรียนรู้” โดยเฉพาะนักเตะใหม่:

“สัปดาห์แห่งบทเรียน เอกิติเกห้ามโอเวอร์ และเคอร์เคซต้องรู้ว่าถือบอลนาทีสุดท้ายคือเตะทิ้งให้ไกลที่สุด”

ผู้สื่อข่าว Keith Costigan ก็ผิดหวังกับโกนาเต้อีกครั้ง เช่นเดียวกับซาลาห์:

“โกนาเต้น่ากังวลจริง ๆ ในเกมแบบนี้ การป้องกันห่วยและเล่นบอลไม่แน่นอนเลย
ซาลาห์ก็แทบไม่อยู่ในเกมอีกครั้ง แต่ก็ไม่เคยถูกเปลี่ยนออก มีหลายเรื่องให้วิเคราะห์จากแมตช์นี้”

🗯️  อาร์เนเผย “มีนักเตะคิดบุกมากเกินไป” จนเสียประตูชัยให้พาเลซอาร์เน ยอมรับว่าลิเวอร์พูลต้องโทษตัวเอง หลังเสียสถิติชนะ 1...
27/09/2025

🗯️ อาร์เนเผย “มีนักเตะคิดบุกมากเกินไป” จนเสียประตูชัยให้พาเลซ

อาร์เน ยอมรับว่าลิเวอร์พูลต้องโทษตัวเอง หลังเสียสถิติชนะ 100% พ่ายคริสตัล พาเลซ 2-1

หงส์แดงที่เคยทำประตูชัยช่วงท้ายเกมอยู่บ่อย ๆ กลับโดนเล่นงานบ้าง เมื่อ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ยิงประตูชัยในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 97

ความรู้สึกเจ็บปวดยิ่งขึ้นสำหรับอาร์เน เพราะก่อนหน้านั้นแค่ 3 นาที เฟเดริโก้ เคียซ่า เพิ่งยิงตีเสมอให้ทีมหลังจากถูกนำตั้งแต่นาที 7 โดยอิสไมล่า ซาร์ แต่สุดท้ายจากลูกทุ่มไกล เจเรมี ฟริมปง เผลอหลุดโฟกัส ทำให้เอ็นเคเทียห์ยืนโล่งยิงประตูชัยสุดดราม่า



คำพูดของอาร์เน

“เรามีแต่จะโทษตัวเองจากการป้องกันแบบนั้น” อาร์เนกล่าว
“มีผู้เล่นคนหนึ่งวิ่งออกไปเพราะอยากจะเล่นสวนกลับ ซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะเวลาเกือบหมดแล้ว สิ่งที่ต้องทำมีแค่ป้องกัน
นักเตะคนนั้นคิดบุกเกินไปในจังหวะนั้น และมันทำให้เราถูกยิงประตูชัย แพ้เกมนี้ไป”



ครึ่งแรกที่น่าผิดหวัง

ในความเป็นจริง พาเลซควรนำห่างตั้งแต่ครึ่งแรกด้วยซ้ำ เพราะพวกเขาครองเกมไว้หมด และลิเวอร์พูลต้องพึ่งอลิสซงเซฟ 3 ครั้ง รวมถึงจังหวะที่มาเตต้าซัดชนเสา

อาร์เนกล่าวเสริมว่า:
“มันเป็นทั้งครึ่งแรกที่น่าผิดหวัง และตอนจบเกมก็เช่นกัน
ต้องยกเครดิตให้พาเลซ – รวมถึงคอมมิวนิตี้ ชิลด์ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราแพ้พวกเขา
พวกเขาสมควรนำ 2 หรือ 3 ประตูในครึ่งแรก ครึ่งหลังเราดีขึ้น สร้างโอกาสได้มากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่นี่
แต่กว่าจะยิงได้ก็ใช้เวลานานเกินไป และพอทำได้แล้ว กลับมาเสียประตูจากลูกตั้งเตะอีกครั้ง มันน่าผิดหวังพอ ๆ กับครึ่งแรก
ถ้าจะมีทีมไหนสมควรชนะในวันนี้ ก็คือพาเลซ”



ความเห็นของโอลิเวอร์ กลาสเนอร์

ประตูชัยของเอ็นเคเทียห์ทำให้กุนซือพาเลซ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ วิ่งดีใจสุดเหวี่ยงข้างสนาม

กลาสเนอร์กล่าวว่า:
“ผมคิดว่าครึ่งแรกคือฟอร์มที่ดีที่สุดตั้งแต่ผมมาที่นี่
การนำแชมป์เก่าแค่ลูกเดียว คุณย่อมรู้สึกว่าพวกเขาจะกลับมาได้ และเราต้องเจอแรงกดดันมหาศาลในครึ่งหลัง
แต่แม้พวกเขาจะตีเสมอ โมเมนตัมกำลังเปลี่ยน เรายังรักษาสมาธิไว้ได้ มันคือความทุ่มเทของทั้งทีม ผมภูมิใจกับฟอร์มของพวกเรามาก”

ตอนนี้พาเลซคือทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีก แต่กลาสเนอร์กล่าวอย่างถ่อมตัวว่า:
“มันเพิ่งกันยายน ปีที่แล้วช่วงนี้เราอาจเป็นทีมเดียวที่ยังไม่ชนะด้วยซ้ำ แต่การชนะทีมแชมป์ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม”

🗯️  อาร์เน อธิบายการเปลี่ยนแผนที่ล้มเหลว และบทบาทของเวิร์ตซ์อาร์เน อธิบายเหตุผลเบื้องหลังแท็กติกครึ่งแรกที่ไม่เวิร์ก หลั...
27/09/2025

🗯️ อาร์เน อธิบายการเปลี่ยนแผนที่ล้มเหลว และบทบาทของเวิร์ตซ์

อาร์เน อธิบายเหตุผลเบื้องหลังแท็กติกครึ่งแรกที่ไม่เวิร์ก หลังลิเวอร์พูลบุกพ่ายคริสตัล พาเลซ 2-1

ในครึ่งแรก ลิเวอร์พูลจัดผู้เล่นอย่างไรอัน กราเฟนเบิร์ช, โดมินิก โซบอสซ์ไล, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และฟลอเรียน เวิร์ตซ์ ลงพร้อมกัน ทำให้ทีมยืนในระบบใกล้เคียง 4-2-2-2 โดยมี โม ซาลาห์ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค เป็นตัวรุกสูงสุด ขณะที่โซบอสซ์ไลและเวิร์ตซ์เล่นเป็นกองกลางรุกสองคนด้านหลัง ซึ่งทำให้ลิเวอร์พูลมีเพียง คอเนอร์ แบรดลีย์ และ มีลอส เคอร์เคซ เป็นตัวสร้างความกว้างริมเส้น – และนี่กลายเป็นปัญหาสำคัญก่อนพักครึ่ง



ทำไมไม่ส่งกัคโปตั้งแต่แรก?

อาร์เนอธิบายว่า:
“เราต้องการโอเวอร์โหลดแดนกลางด้วยฟลอเรียน เวิร์ตซ์ในครึ่งแรก นั่นคือเหตุผลที่เราไม่ส่งโคดี้ กัคโปเป็นตัวจริง
แต่ถ้าคุณตามหลัง 1-0 และต้องการประตู คุณก็อยากมีเกมริมเส้นทั้งสองฝั่ง และนั่นคือเหตุผลที่เราเปลี่ยนเอาโคดี้ลงมา”

เมื่อกัคโปถูกส่งลงมาครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลกลับมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 แบบคุ้นเคย เวิร์ตซ์เริ่มได้บอลในพื้นที่อันตรายมากขึ้น หลังจากนั้นอาร์เนก็ส่งทั้งเฟเดริโก้ เคียซ่า และริโอ งูโมฮาลงมาเพิ่ม เพื่อเร่งหาประตูตีเสมอ และในที่สุดเคียซ่าก็ยิงได้



การเสี่ยงเพื่อประตู

อาร์เนกล่าวต่อว่า:
“เราส่งผู้เล่นเกมรุกที่มีศักยภาพในการทำประตูลงมาเรื่อย ๆ แม้มันคือการเสี่ยง เพราะเราตามหลังอยู่แล้ว
และเราก็ยิงได้ คำว่า ‘สมควร’ อาจไม่ใช่คำที่ถูกต้อง แต่ถ้าดูเฉพาะครึ่งหลังและโอกาสที่เรามี เราใกล้เคียงมากที่จะได้ประตู โดยเฉพาะโอกาสใหญ่ของเวิร์ตซ์กับอิซัค นั่นคือเหตุผลที่ผมเลือกส่งโคดี้ลงมา เพราะการเล่นในครึ่งแรกไม่เป็นไปตามที่ผมหวังไว้”

สถิติก็ชัดเจนว่า ลิเวอร์พูลสร้างค่า xG ได้ 1.87 ในครึ่งหลัง เทียบกับเพียง 0.37 ก่อนพักครึ่ง



ความผิดพลาดท้ายเกม

ถึงแม้ลิเวอร์พูลจะทำได้ดีกว่ามากในครึ่งหลัง แต่พาเลซก็ยังคงเป็นภัยคุกคาม และลงโทษจากความผิดพลาดช่วงท้ายเกม เมื่อเอ็นเคเทียห์ยิงประตูชัยได้

อาร์เนสรุปหลังเกมว่า:
“ผมคิดว่าครึ่งหลังเราเล่นได้ดีขึ้นมาก เราสร้างโอกาสได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเวลาเจอพาเลซ ไม่ว่าจะเล่นในบ้านหรือเยือน
เราสร้างโอกาสได้มากพอที่จะยิงประตูตีเสมอ และเมื่อเราทำได้ มันก็เหลือเวลาเล่นน้อยเกินไป สุดท้ายต้องมาเสียประตูจากลูกตั้งเตะอีกครั้ง มันน่าผิดหวังพอ ๆ กับฟอร์มครึ่งแรกเลย”

🗯️  5 ประเด็นหลังเกม: อาร์เนพลาดแท็กติก และเวิร์ตซ์ยังไม่เข้าที่อีกครั้งคริสตัล พาเลซ 2-1 ลิเวอร์พูลพรีเมียร์ลีก (นัดที่...
27/09/2025

🗯️ 5 ประเด็นหลังเกม: อาร์เนพลาดแท็กติก และเวิร์ตซ์ยังไม่เข้าที่อีกครั้ง

คริสตัล พาเลซ 2-1 ลิเวอร์พูล
พรีเมียร์ลีก (นัดที่ 6) | เซลเฮิร์สท์ พาร์ค
ผู้ทำประตู: ซาร์ 9′, เอ็นเคเทียห์ 90+7′; เคียซ่า 87′



1. อาร์เนพลาดกับการทดลองระบบใหม่

สถิติไร้พ่าย 17 นัดของพาเลซอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้อาร์เนคิดว่าเขาต้องทำอะไรที่ “ไม่คาดคิด” เพื่อทำลายจังหวะของคู่แข่ง แต่การใช้ระบบมิดฟิลด์แบบ “Box” ในแผน 4-2-2-2 ครึ่งแรกคือความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

พาเลซสร้างค่า xG ได้ 1.6 เทียบกับลิเวอร์พูล 0.38 และยิงมากกว่า 10 ต่อ 6 ในครึ่งแรกที่พวกเขาครองเกมได้ทั้งหมด ไม่แปลกที่อาร์เนรีบกลับไปใช้ระบบที่คุ้นเคยทันทีหลังพักครึ่ง และเห็นผลชัดเจน

เมื่อย้อนกลับมาดูสาเหตุของความพ่ายแพ้ เกมนี้คงถูกจดจำว่าเป็นการทดลองที่ทำให้ทีมเสียเวลาไป 45 นาทีเต็ม ๆ



2. การแก้เกมครึ่งหลังได้ผล

แม้ครึ่งแรกผิดพลาด แต่อาร์เนก็ควรได้รับเครดิตสำหรับการแก้เกมที่เด็ดขาดในช่วงพักครึ่ง ลิเวอร์พูลยิงได้ 14 ครั้ง เทียบกับพาเลซ 6 ครั้ง และสร้าง xG 1.87 เทียบกับ 0.86 (ซึ่ง 0.5 มาจากประตูท้ายเกมของเอ็นเคเทียห์)

หากไม่ใช่เพราะความผิดพลาดเกมรับท้ายเกม ลิเวอร์พูลก็น่าจะได้แต้มกลับบ้าน และนี่คือจุดที่อาร์เนสมควรได้รับคำชมเช่นเดียวกับคำวิจารณ์



3. ลิเวอร์พูลยังไม่เจอ “สมดุลลูกตั้งเตะ”

อาร์เนมักพูดถึงความจำเป็นที่ทีมต้องมีสมดุลในเกมลูกตั้งเตะ อย่างน้อยต้องไม่เสียมากกว่าที่ทำได้ แต่เกมนี้คือปัญหาตรงข้าม

พาเลซได้ทั้งสองประตูจากลูกเตะมุมและลูกทุ่มไกล ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ลิเวอร์พูลรับไม่ได้ หากหวังจะป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก

ปีนี้ลิเวอร์พูลมีทีมโค้ชลูกตั้งเตะชุดใหม่ (แอรอน บริกส์ และลูอิส มาโฮนีย์) ความกดดันตกไปอยู่ที่พวกเขาที่ต้องแก้ไข ก่อนจะกลายเป็นปัญหาซ้ำ ๆ



4. เวิร์ตซ์ยังไม่มาซักที

หลังถูกดร็อปไป 2 เกม มีความหวังว่านัดนี้จะเป็นจังหวะที่ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ฉายแสง แต่เขาก็พลาดโอกาสอีกครั้ง

นอกจากจังหวะทองที่น่าจะตีเสมอได้ เขาแทบไม่มีอิมแพค สถิติในเกมนี้คือยิง 2 ครั้ง สร้างโอกาส 1 ครั้ง และมีค่า xA แค่ 0.04 เท่านั้น

ที่บ่งบอกชัดคืออาร์เนเลือกถอดเขาออก แม้ลิเวอร์พูลกำลังบุกกดพาเลซช่วงท้าย นี่สะท้อนว่าการปรับตัวของเวิร์ตซ์ไม่ราบรื่น และแฟนบอลอาจต้องรออีกพักใหญ่กว่าจะเห็นฟอร์มที่ดีที่สุดของเขา



5. เกฮีไม่ใช่นักเตะพาเลซคนเดียวที่ลิเวอร์พูลควรจับตา

มีรายงานว่าอดัม วอร์ตัน กองกลางดาวรุ่งของพาเลซตกลงปากเปล่ากับสโมสรหนึ่งในพรีเมียร์ลีกสำหรับการย้ายทีมซัมเมอร์หน้า และแฟนหงส์คงหวังว่าจะเป็นลิเวอร์พูล

เพราะนัดนี้ วอร์ตันโชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้ง:
• เลี้ยงผ่าน 3/3 ครั้ง
• สร้างโอกาส 4 ครั้ง
• ชนะการดวลพื้นดิน 4/5 ครั้ง

เขาไม่ใช่กองกลางเชิงรับธรรมดาอย่างที่หลายคนคิด ตัวเลขสะท้อนว่าเขามีบทบาทเกมรุกมากกว่า และยังต้องรอดูว่าลิเวอร์พูลมีพื้นที่ให้ผู้เล่นสไตล์นี้ในตลาดซัมเมอร์หน้าหรือไม่

🗯️ อาร์เน ผิดหวังเกมรับลูกตั้งเตะของลิเวอร์พูล – “เราต้องทำให้ดีกว่านี้”อาร์เน แสดงความผิดหวังอย่างมากกับการป้องกันลูกตั...
27/09/2025

🗯️ อาร์เน ผิดหวังเกมรับลูกตั้งเตะของลิเวอร์พูล – “เราต้องทำให้ดีกว่านี้”

อาร์เน แสดงความผิดหวังอย่างมากกับการป้องกันลูกตั้งเตะของลิเวอร์พูล หลังจากเสียประตูจากทั้งลูกเตะมุมและลูกทุ่ม จนพ่ายคริสตัล พาเลซ 2-1

ก่อนเกมที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค อาร์เนรู้อยู่แล้วว่าพาเลซแข็งแกร่งด้านเกมรับ และอันตรายอย่างมากในการโจมตีจากลูกเซ็ตพีซ

เขาเริ่มเกมด้วยแผน 4-2-2-2 ที่ถูกตั้งคำถาม ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น 4-2-3-1 ในครึ่งหลัง หลังจากตามหลัง 1-0 และเจาะแนวรับพาเลซไม่เข้า

สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือการป้องกันลูกเซ็ตพีซ — อิสไมล่า ซาร์ยิงประตูแรกจากลูกเตะมุมของไดจา คามาดะ ก่อนที่เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์จะยิงประตูชัยจากลูกทุ่มไกลของคริส ริชาร์ดส์ในช่วงท้ายเกม



คำพูดของอาร์เนหลังเกม

“ถ้าคุณอยากเป็นทีมลุ้นแชมป์ คุณต้องมีสมดุลที่ดีมาก ๆ ในการรับมือลูกตั้งเตะ โดยเฉพาะในลีกนี้” อาร์เนให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports

“ปีที่แล้วนี่คือจุดแข็งของเรา แต่ตอนนี้เราเสียไปแล้ว 2 ลูกจากนิวคาสเซิล และอีก 2 ลูกที่นี่ (พาเลซ)
ลีกนี้มันเน้นลูกตั้งเตะมากขึ้นเรื่อย ๆ”



ประตูชัยของเอ็นเคเทียห์

ลูกยิงของเอ็นเคเทียห์สร้างความผิดหวังเป็นพิเศษ เพราะมันเลี่ยงได้ หาก มีลอส เคอร์เคซ ไม่คืนบอลออกข้างจากเท้าขวาที่ไม่ถนัดจนกลายเป็นลูกทุ่ม

ลิเวอร์พูลรับมือกับความวุ่นวายจากการทุ่มไกลของริชาร์ดส์ไม่ได้ และบอลตกไปถึงอดีตกองหน้าอาร์เซน่อลซัดเข้าไป

อาร์เนอธิบายว่า:
“มันไม่ใช่เรื่องดีเลยที่เสียประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่มีการเปลี่ยนตัว ดังนั้นการทดเพิ่มครึ่งนาทีก็ยุติธรรมแล้ว
ผมต้องกลับไปเช็กว่าเราถูกยิงตอนนาทีไหนพอดี แต่สิ่งที่ชัดเจนคือเราต้องป้องกันลูกทุ่มให้ดีกว่านี้
เราจะเรียนรู้จากทุกเกม และยิ่งจากเกมนี้ เรายิ่งได้บทเรียนมากกว่าเดิม”



ความพ่ายแพ้ที่ส่อเค้าอยู่แล้ว

ในหลาย ๆ ด้าน ความพ่ายแพ้นี้เหมือนเป็นสิ่งที่คาดไว้ เพราะลิเวอร์พูลเองก็อาศัยโชคช่วยอยู่หลายครั้งในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลที่ยังไม่แพ้ใคร

ภารกิจนี้ตกไปอยู่ที่โค้ชลูกตั้งเตะ แอรอน บริกส์ ที่ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อจัดการแท็กติกเกมรับจากสถานการณ์เหล่านี้ให้ดีกว่าเดิม

เพราะพาเลซจะไม่ใช่ทีมสุดท้ายที่ใช้ลูกทุ่มไกลและลูกเตะมุมที่วางแผนมาอย่างดี รวมถึงการเล่นแบบเน้นร่างกายเข้าปะทะ
ครั้งหน้าลิเวอร์พูลต้องเตรียมพร้อมมากกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อมีผู้เล่นสูงใหญ่พร้อมหน้าอย่าง ฟาน ไดจ์ค (195 ซม.), โกนาเต้ (194 ซม.), โซบอสซ์ไล (186 ซม.), กราเฟนเบิร์ช (191 ซม.) และอิซัค (192 ซม.) ลงสนามพร้อมกัน แต่ก็ยังพลาดอยู่ดี

Address


50230

Alerts

Be the first to know and let us send you an email when The Kop HQ-Thailand posts news and promotions. Your email address will not be used for any other purpose, and you can unsubscribe at any time.

  • Want your business to be the top-listed Media Company?

Share