
31/05/2025
#อย่าให้การทำเพลงทำให้คุณต้อง ✍️
ไม่ว่าคุณจะเป็นศิลปิน นักแต่งเพลง นักดนตรี โปรดิวเซอร์ หรือ อาชีพใดๆในวงการเพลง นอกจากการสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองแล้ว หลายๆครั้งเรายังเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์งานให้ผู้อื่นด้วยเช่นกัน และนั่นทำให้เราต้องพบกับสิ่งที่เรียกว่า “โจทย์”
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า ในความเป็นจริงนั้น โจทย์ หรือ บรีฟที่เราได้รับ อาจไม่ได้ตรงกับความชอบ ความถูกใจ หรือ รสนิยมของเราทั้งหมด จนบางครั้งอาจทำให้เกิดปัญหาในการสื่อสารต่างๆ เช่น ความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน มุมมองที่ต่างกัน ระหว่างตัวเราและผู้ว่าจ้าง และ เมื่อเราต้องทนอยู่กับความเครียดและความกดดันแบบนี้ไปนานๆ ปลายทางอาจนำพาเราไปสู่ภาวะหมดไฟ (Burnout) ในที่สุด
ดังนั้น คำถามแรกที่สำคัญที่เราควรจะถามตัวเอง คือ
“เราจะทำงานนี้ให้มีความสุขทั้งตัวเราและคนอื่นได้อย่างไร”
และนี่คือ 5 ไอเดียเล็กๆน้อยๆที่เราอยากจะมาแชร์ครับ ...
_____
1️⃣ เริ่มต้นจากสิ่งที่คุณชอบ
นี่อาจเป็นสิ่งที่ดูขัดแย้งกับความเข้าใจของใครหลายๆคน ว่า “การทำงานให้คนอื่น ก็ต้องเริ่มจากความชอบของคนอื่นสิ ถึงจะถูกต้อง” ซึ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ครับว่า เราจำเป็นต้องรับฟังความต้องการของคนอื่น หรือ ผู้ว่าจ้างของเรา เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลในการทำงาน
แต่ในขั้นตอนการทำงานจริงๆนั้น หากเราเริ่มต้นจากความต้องการของผู้อื่นทั้งหมดเลยนั้น มันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เราพยายามจะ “ล้มโดมิโนตัวที่ใหญ่ที่สุดก่อน” ซึ่งบางทีอาจจะทำให้เราหมดแรง หมดกำลังใจ หมดความคิดสร้างสรรค์ก่อนเริ่มงานเลยด้วยซ้ำ
เราจึงอยากชวนให้พลิกมุมมองดูในทุกครั้งที่เริ่มงาน โดยการถามตัวเองว่า
“อะไรคือความชอบ อะไรคือรสนิยมของคุณ
ที่คิดว่า น่าจะทำมาแมทซ์กับงานๆนี้ได้”
สิ่งนั้นอาจจะเป็น Reference จากเพลงที่คุณชอบ , Chord , Scale หรือ จังหวะแบบที่คุณชอบ , คำพูด ประโยค คอนเซปท์ หรืออะไรก็ได้ครับที่ตรงกับธรรมชาติของตัวคุณ
ดังที่ประโยคหนึ่งในหนังสือ The Creative Act ของ Rick Rubin ได้เขียนไว้ว่า “เป้าประสงค์ของผลงาน คือ การปลุกบางอย่างในตัวคุณก่อน แล้วจึงปลุกบางอย่างในตัวคนอื่นให้ตื่นขึ้นตาม“
_____
2️⃣ ยอมรับว่าอะไรที่เราทำได้ดี และ อะไรที่คนอื่นทำได้ดีกว่า
ในการทำเพลงๆหนึ่งขึ้นมา เกิดจากหลายขั้นตอนที่ประกอบรวมเข้าด้วยกัน ซึ่งในขั้นตอนเหล่านั้นก็อาจมีบางอย่างที่เราไม่ถนัด หรือ เชี่ยวชาญไปซะทั้งหมด และเมื่อเราต้องฝืนทำในสิ่งที่เราไม่ถนัด นอกจากจะทำให้ผลงานจะออกมาไม่ดีเท่าที่ควรแล้ว อาจเป็นการสะสมความเครียด ความกดดันให้กับตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ดังนั้น การหาเพื่อนร่วมงาน หรือ Partner ที่ดี ที่จะเข้ามาเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ช่วยเติมเต็มงานชิ้นนั้นๆให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้คุณมีความสุขไปตลอด “ขั้นตอนการทำงาน” รวมทั้งมีความสุขกับ “ผลงานที่ออกมา” ด้วยครับ
_____
3️⃣ ทำเท่าที่ไหว มีเวลาปล่อยใจให้พักผ่อน
เมื่อเรากำลังสร้างสรรค์ผลงานของตัวเอง หลายๆคนอาจจะเคยได้สัมผัสกับสภาวะ Flow ที่ความคิดทุกอย่างดูลื่นไหล ราวกับเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อเราต้องทำงานตาม 'โจทย์' แน่นอนครับว่า บางครั้งเราต้องเผชิญกับจุดที่ไอเดียเริ่มตีบตัน เริ่มคิดอะไรไม่ออก จับต้นชนปลายไม่ถูก ซึ่งนั่นก็เป็นสัญญาณที่บอกว่า "ถึงเวลาแล้วที่เราต้องพัก"
การพักของบางคนอาจะเป็นการเลือกทำกิจกรรมที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เช่น ออกไปเดินเล่น ออกกำลังกาย เล่นเกมส์ อ่านหนังสือ ดูซีรี่ย์ ซึ่งการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมแบบนี้ ก็มักจะช่วยฟื้นฟู พลังความคิด พลังใจ ให้กลับมา Fresh ได้อยู่เสมอ
หรือการพักอีกแบบที่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ
การหยิบโปรเจคส่วนตัวของคุณขึ้นมาทำ
ลองเอาเพลงที่แต่งค้างไว้ขึ้นมาแต่งต่อ
ลองเปิดโปรเจคที่ยังไม่เสร็จขึ้นมาทำ Demo ดู
หรือ แค่ลองหยิบเครื่องดนตรีขึ้นมาเล่น
โดยไม่ต้องสนใจถูกผิด แค่ปล่อยใจไปกับมัน
เพราะ การได้มีเวลาพัก แล้วกลับไปสู่ความเป็นตัวคุณแม้เพียงช่วงสั้นๆ แค่เท่านี้ก็น่าจะช่วยดึง Energy ดีๆของคุณกลับมา และ ทำให้พร้อมที่จะกลับไปลุยงานได้อีกครั้ง
_____
4️⃣ เลือกงานบ้าง อย่าปล่อยให้ งานเลือกเรา
การทำงานตามโจทย์นั้น หลายๆครั้งมักเต็มไปด้วยปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น เวลา , สถานที่ , Budget , ความชัดเจนของบรีฟ , หรือแม้กระทั่ง นิสัย รสนิยม มาตรฐาน ที่ต่างกันระหว่างตัวคุณและลูกค้า
ทำให้การที่คุณเลือกรับทุกงานที่ผ่านเข้ามา โดยไม่กล้าปฏิเสธเลย นั่นอาจกลายเป็นเหมือนดาบสองคมได้เช่นกัน
คุณอาจมี รายได้ , Port งาน หรือ Connection ที่มากขึ้น
แต่บางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็อาจจะต้องแลกมาด้วย สุขภาพกาย สุขภาพใจของคุณ หรือกับบางคนอาจกระทบไปถึงเรื่องของ 'ความสัมพันธ์' ได้เช่นกัน
ดังนั้น ถ้าที่ผ่านมาคุณปล่อยให้ 'งานเลือกคุณ' มาโดยตลอด
ต่อจากนี้ลอง ‘เลือกงาน’ ที่เหมาะกับคุณดูบ้าง เพื่อบาลานซ์จิตใจของตัวเองด้วยนะครับ
_____
5️⃣ จบงาน -> สลายอีโก้ -> Move On
ข้อสุดท้าย อาจจะสรุปได้ด้วยคำง่ายๆว่า "ปล่อยวาง"
ปล่อยวาง ไม่ใช่การ ‘ปล่อยผ่าน’ หรือ ‘ยอมแพ้’
แต่คือ การยอมรับความจริงว่า
"ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ด้วยความสามารถที่เรามี
ในตอนนี้ เราได้ทำดีที่สุดแล้ว"
เพราะหลายๆครั้งเมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องจบงาน
เรามักจมอยู่กับความรู้สึกบางอย่างจากอีโก้ภายในที่ว่า
"เราน่าจะทำได้ดีกว่านี้" "มันควรต้องดีกว่านี้"
ซึ่งเมื่อเกิดความรู้สึกแบบบ่อยๆเข้า มันก็อาจจะค่อยๆสะสมจนทำให้เรารู้สึก Burnout ได้โดยไม่รู้ตัว
สุดท้ายจึงอยากชวนคิดว่า เมื่องานๆหนึ่งจบลงแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างจะจบลง
ยังมีงานใหม่ๆ ยังมีสิ่งใหม่ๆ ยังมีวันใหม่ๆ
รออยู่ข้างหน้าให้เราได้สร้างสรรค์
และ พัฒนาฝีมือของตัวเองต่อไปอยู่เสมอ …
________________________________________
รับชมคอนเทนต์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำเพลง หรือ สมัครร่วมงานกับเราได้ที่ …
📱 : Line OA :
💻 : Website : https://www.mosmilemusic.com
📮 : Youtube : https://www.youtube.com/
#รับผลิตเพลงและดนตรี