What Hi-Fi? Thailand

What Hi-Fi? Thailand The Perfect Sound And The Perfect Vision

นิตยสาร What Hi-Fi? เป็นนิตยสารที่ให้ความรู้ด้านเครื่องเสียงและ Home Theater ที่มียอดผู้อ่านสูงสุดเพราะการตีแผ่ข้อมูลอย่างเป็นกลางจึงทำให้ What Hi-Fi? เป็นนิตยสารที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุดในกลุ่มนิตยสารเครื่องเสียง. "What Hi-Fi? ไม่เพียงเป็นแค่แค็ตตาล็อกแหล่งรวมซื้อขายสินค้า แต่เราเป็นนิตยสารที่เน้นเนื่อหาสาระอย่างแท้จริงเพื่อให้ความรู้และคุณประโยชน์แก่กลุ่มคนที่รักเครื่องเสียง"

Esoteric Grandioso K1X SE SACD/CD Player            Grandioso K1X SE มีความโดดเด่นหลายอย่างซ่อนอยู่ในตัว นับตั้งแต่ "VRD...
10/08/2025

Esoteric
Grandioso K1X SE
SACD/CD Player

Grandioso K1X SE มีความโดดเด่นหลายอย่างซ่อนอยู่ในตัว นับตั้งแต่ "VRDS-ATLAS" Super Audio CD Transport Mechanism (VRDS = Vibration-Free Rigid Disc-Clamping System) คือเทคโนโลยี CD/Super Audio CD Transport Mechanism โดยเฉพาะของ Esoteric ซึ่งได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อยึดแผ่นเข้ากับเครื่องเล่นแผ่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเท่ากัน เพื่อขจัดการสั่นสะเทือนจากการหมุนของแผ่น รวมถึงการสั่นสะเทือนจากภายนอกที่แผ่ออกมาจากกลไกนั้นเอง นอกจากนี้ ยังช่วยแก้ไขการบิดเบี้ยวของแผ่น ทำให้ความแม่นยำของทั้งตัวรับสัญญาณออปติคัลและแกนออปติคัลที่สอดคล้องกันของชั้นพิตแผ่นดีขึ้นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็ลดกระแสเซอร์โวให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งหมดนี้ช่วยลดข้อผิดพลาดในการอ่านแผ่นได้อย่างมากเพื่อคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม

ทั้งนี้ VRDS-ATLAS นับเป็น CD/Super Audio CD Transport Mechanism ที่น่าประทับใจที่สุด เงียบที่สุดและสง่างามที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Esoteric ด้วยกลไกที่สมบูรณ์แบบ 'Wide, Low Center-of-Gravity Design' ซึ่งมีความแข็งแกร่งและน้ำหนักสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ VRDS โดยมีโครงสร้างแบบเฮฟวีเวทที่หนักกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 127% (เฉพาะกลไก 6.6 กก. และรวมฐาน 13.5 กก.) ซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่เคยมีมาก่อน

แหล่งจ่ายไฟที่ทรงพลังของ Grandioso K1X SE เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เสียงสามมิติทรงพลังและล้ำลึก ตัวแปลง D/A ในตัวมีหม้อแปลงไฟฟ้าอิสระสำหรับช่องสัญญาณซ้ายและขวา และ K1X SE มีหม้อแปลงแหล่งจ่ายไฟแบบวงแหวนอิสระทั้งหมด 4 ตัวด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในการพัฒนา Grandioso P1X/D1X มาใช้ด้วย ซึ่งรวมถึงตัวควบคุมแหล่งจ่ายไฟ DC ที่มีฟีดแบ็กต่ำซึ่งมีโครงร่างวงจรแยกส่วนซึ่งมีส่วนช่วยให้เสียงเปิดที่ทรงพลัง นอกจากนี้ K1X SE ยังมีซูเปอร์คาปาซิเตอร์ EDLC (Electric Double-Layer Capacitor) ทั้งหมด 76 ตัว (มีความจุรวม 2,050,000µF หรือ 2.05F) ความจุของแหล่งจ่ายไฟที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้ทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นอย่างมากสำหรับความละเอียดที่ยอดเยี่ยมในช่วงความถี่ต่ำ

K1X SE ยังใช้ Master Sound Discrete DAC ที่ทีมวิศวกรรมระดับสูงของ Esoteric ทุ่มเทอย่างเต็มที่นำเสนอพลังและไดนามิกทั้งหมดของดนตรี "Master Sound Discrete DAC" ของ K1X SE เป็นวงจร DAC สเตริโอสองช่องสัญญาณที่ปฏิวัติวงการมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Esoteric และอิงจากวงจรดั้งเดิมที่พัฒนาขึ้นสำหรับตัวแปลงโมโน D/A Grandioso D1X SE ควบคู่กับ Advanced Digital Processing ที่พัฒนา Delta-Sigma (Δ∑) Modulator ขึ้นเอง ซึ่งรองรับ 64 บิต/512Fs และรูปแบบดิจิทัลระดับไฮเอนด์ล่าสุด รวมถึงสัญญาณ DSD 22.5 MHz และ PCM 768 kHz อัลกอริทึมการประมวลผลดิจิทัลเฉพาะของ FPGA (Field-Programmable Gate Array) ได้รับการพัฒนาโดยเฉพาะสำหรับ Master Sound Discrete DAC และได้รับการปรับให้เหมาะสมอย่างเต็มที่ เพื่อการเล่นข้อมูลเสียงดิจิทัลทั้ง DSD และ PCM ที่ยอดเยี่ยม

สำหรับความเป็นรุ่น SE ใหม่ ชิ้นส่วนแยกของวงจรอะนาลอกบนบอร์ด DAC ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อคุณภาพเสียงที่ดียิ่งขึ้น องค์ประกอบของเครื่องขยายเสียงคือ Integrated Discrete-Amplifier Module "IDM-01" ที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้เสียงสดที่สดใสยิ่งขึ้น ไดนามิกของเสียงที่ดีขึ้น และพื้นผิวที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ ยังใช้ Esoteric-HCLD Output Buffer Circuit (HCLD : High Current Line Driver) พร้อมด้วย Enhanced Current Transmission ทั้งนี้ Esoteric-HCLD มีค่า Slew Rate (Response Speed) สูงอย่างน่าทึ่งที่ 2,000V/µs ทั้งนี้ความเร็วในการส่งและกระแสซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับวงจรเอาต์พุตอะนาลอกได้รับการผลักดันจนถึงขีดสุดเพื่อสร้างความสมจริงของดนตรีด้วยช่วงไดนามิกที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง

นอกเหนือจากการเชื่อมต่อสายขยายสัญญาณ XLR และ RCA แล้ว "K1X SE" ยังมีคุณสมบัติการส่งสัญญาณแบบอะนาลอก ES-Link อีกด้วย เป็นการใช้ประโยชน์จากแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้าที่ทรงพลังของวงจรบัฟเฟอร์ HCLD อย่างเต็มที่ "K1X SE"ยังสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดนาฬิกาหลักภายนอก Grandioso G1X เพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงโดยการซิงโครไนซ์วงจรภายในกับนาฬิกา 10 MHz ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากอินพุตแบบโคแอกเซียลและออปติคัลแล้ว "K1X SE" ยังมีพอร์ต USB Type-B ที่รองรับทั้ง DSD 22.5MHz และ PCM อะซิงโครนัส 768kHz/32-bit จึงสามารถใช้เป็นตัวแปลง D/A แบบสแตนด์อโลนได้ด้วย มีฟังก์ชันสำหรับการอัปแซมปลิงสัญญาณดิจิทัล PCM เป็น 2/4/8/16× (สูงสุด 768kHz) และการแปลง PCM เป็น DSD

INVENTIVE AV โทร. 02 238 4078-9
Line :

Arcam SA45 Streaming Integrated Amplifierโดดเด่นสำคัญอยู่ที่ความเป็น all-in-one เบ็ดเสร็จทุกอย่างไว้ในหนึ่งเดียว สมรรถนะ...
10/08/2025

Arcam
SA45
Streaming Integrated Amplifier
โดดเด่นสำคัญอยู่ที่ความเป็น all-in-one เบ็ดเสร็จทุกอย่างไว้ในหนึ่งเดียว สมรรถนะสูง - ใช้งานง่าย

รวมภาคขยายกำลังขับสูงถึง 180 วัตต์/ข้าง ระบบ class-G amp พร้อมด้วยภาคถอดรหัสข้อมูลดิจิตอล 32/768 DAC มีหน้าจอดิสเพลย์ใหญ่ถึง 8.8 นิ้ว แบบ high-res display
นอกจากนี้ SA45 ยังใช้วงจร fully balanced digital ควบคู่กับ analog audio path การันตีแนวเสียงแบบฉบับ Arcam innovation ส่งมอบคุณภาพเสียงได้เต็มที่ทั้งจาก streaming, vinyl และ HDMI eARC สำหรับรองรับกับ TV

SA45 พร้อมรองรับกับ Apple Airplay, Google Cast, Spotify Connect, Tidal Connect และอื่นๆ เพื่อความเป็น versatile streaming options และยังมี Dirac Live Room Correction รวมถึง Roon Ready ในตัว สะดวกสบายด้วยแอป ARCAM Radia App ไร้กังวลใจในอนาคต

คุณลักษณ์เด่น:
- Ultra-high-resolution streaming platform
- Dirac Live Room Correction for customized acoustic performance
- Balanced analog and digital audio paths
- Built-in MM and MC phono inputs
- Streaming support: Apple Airplay, Chromecast, Spotify Connect, and Tidal Connect
- ARCAM Radia App: Manage presets, internet radio, and podcasts
- High-resolution display showcasing album artwork and metadata
- Future-proof with Roon Ready support after launch
- Inputs: 1 x HDMI eARC, 1 x RCA MM/MC, 2 x TOSLink, 1 x coaxial RCA, 1 x USB Type A
- ขนาดตัวเครื่อง (กว้างxสูงxลึก): 17.05 x 4.13 x 13.78นิ้ว (433 x 105 x 350มม.)
-น้ำหนัก: 13.2กก.

DECO 2000 โทร. 089 870 8987

J.Sikora Initial Line (Base Model)J.Sikora เริ่มผลิตและขายเครื่องเล่นแผ่นเสียงในปี 2007 ด้วยฝีมือการออกแบบของ Janusz Sik...
10/08/2025

J.Sikora
Initial Line
(Base Model)

J.Sikora เริ่มผลิตและขายเครื่องเล่นแผ่นเสียงในปี 2007 ด้วยฝีมือการออกแบบของ Janusz Sikora จุดเด่นสุดอยู่ที่การผลิตเครื่องเล่นแผ่นเสียงครั้งละเพียง 1 เครื่อง ด้วยมือล้วนๆ เพื่อความเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงอะนาลอกขั้นสูง สำหรับผู้ที่รักเสียงเพลงชั้นยอดโดยเฉพาะ พร้อมนำเสนอเครื่องเล่นแผ่นเสียง 3 ไลน์ด้วยกัน อันได้แก่ รุ่น Initial ; รุ่น Standard และรุ่น Reference ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด

สำหรับความเป็น นั้นเป็นรุ่นเล็กสุดของ J.Sikora ที่เหมาะสำหรับใช้งานบนพื้นที่ตั้งวางขนาดเล็ก มีน้ำหนักรวม 28 กก. โดยที่แพลเตอร์ซึ่งเป็นวัสดุ Delrin® มีน้ำหนัก 4 กก. ซึ่งใช้ระบบขับหมุนแพลตเตอร์ด้วย สายพานยาง (Rubber Belt) มอเตอร์ขับหมุนเป็น DC Motor จำนวน 1 ตัว รองรับความเร็วรอบได้ 2 สปีด : 33 ; 45 rpm ฐานแท่นเครื่องเป็นวัสดุ Aluminium, Inox, Cast Iron มีมิติขนาด 440×330×160 มม. พร้อมด้วยระบบลูกปืน Ceramic Ball แบบ Inverted
ทั้งนี้รุ่น Initial Line "Base Mode" จะเป็นรุ่นพื้นฐาน ที่มี Clamp, Glass mat และ Power Supply เป็นตัวเลือกแยกเพิ่มเติมต่างหาก (Optional) โดยมี 2 สีสวยงามให้เลือก Silver / Black

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย
Audio House Thailand 0944614152

Krell Audio Illusion Preamplifierในงาน Luxury Technology Show ที่นิวยอร์ก ปี 2014, Krell ได้เปิดตัวปรีแอมป์รุ่น Illusion...
10/08/2025

Krell Audio Illusion Preamplifier

ในงาน Luxury Technology Show ที่นิวยอร์ก ปี 2014, Krell ได้เปิดตัวปรีแอมป์รุ่น Illusion และ Illusion II ปรีแอมป์รุ่น Illusion ถือเป็นการขยายประเพณีของ Krell ในการแยกแหล่งจ่ายไฟออกจากวงจรเสียงในปรีแอมป์ระดับเรือธง ปรีแอมป์รุ่น Illusion มีลักษณะเด่นที่เครื่องขยายเสียง Class A iBias รุ่นใหม่ และเทคโนโลยี Krell CAST จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเครื่องขยายเสียง Solo 375 และ Solo 575 รุ่นใหม่ “Illusion II” คือ โซลูชันที่มีคุณค่าสูงของ Krell ที่เพิ่มดิจิทัลอินพุต และแหล่งจ่ายไฟแบบแยกกัน

Bill McKiegan ประธานบริษัท Krell Industries กล่าวว่า “Krell นำเสนอแหล่งจ่ายไฟแยก สำหรับปรีแอมป์ชั้นนำเสมอมา ตอนนี้ได้สร้างปรีแอมป์คู่หนึ่งสำหรับนักเล่นเครื่องเสียงทุกคนที่รองรับสุนทรียศาสตร์ใหม่ที่สร้างขึ้นโดยโปรเซสเซอร์ปรีแอมป์ Foundation และแอมป์ iBias ใหม่ของ Krell”

ฟังก์ชั่นครอสโอเวอร์ที่เป็นตัวเลือกช่วยให้สามารถใช้ซับวูฟเฟอร์/ลำโพงบริวารได้ (subwoofer/satellite speaker) และยังคงรักษาคุณภาพเสียงสูงสุดไว้ได้ ก่อนหน้าปรีแอมป์ Illusion การกำหนดค่าระบบนี้ต้องใช้สัญญาณผ่านวงจรครอสโอเวอร์คุณภาพต่ำกว่าของซับวูฟเฟอร์ ทั้งนี้ปรีแอมป์ Illusion ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบเสียงระดับโลก

จุดเด่นของครอสโอเวอร์ - เนื่องจากผลงานของ Krell ในลำโพง Modulari Duo Reference คุณสมบัติครอสโอเวอร์ที่ไม่เหมือนใคร จึงเป็นตัวเลือกที่ซับซ้อนอย่างมาก เมื่อมีบอร์ดตัวเลือกครอสโอเวอร์จะพร้อมใช้งาน พารามิเตอร์ที่กำหนดได้รวมถึงความถี่ครอสโอเวอร์ที่กำหนดได้อย่างอิสระ และประเภทของตัวกรองสำหรับส่วนไฮพาสและโลว์พาส ตัวเลือกได้แก่ จุดครอสโอเวอร์ 40Hz, 55Hz, 75Hz และ 100Hz พร้อมตัวกรองสไตล์ Butterworth หรือ Linkwitz-Riley 12dB, 24dB และ 48dB ส่วนไฮพาสของครอสโอเวอร์ใช้วงจรปรีแอมป์ Illusion เต็มรูปแบบสำหรับขั้นตอนเอาต์พุต

จุดเด่นของวงจร - ปรีแอมป์ Illusion เป็นแบบ dual monaural circuit design ที่ออกแบบโดยมีช่องสัญญาณซ้ายและขวาที่ควบคุมแหล่งจ่ายไฟได้เอง และแผงวงจรขนาดเต็มแชสซีแยกกัน ด้วยระบบ Krell ที่สมบูรณ์ (แหล่งสัญญาณ, ปรีแอมป์ และแอมปลิฟายเออร์) เชื่อมต่อโดยใช้อินเตอร์คอนเนคต์ CAST ช่วยลดจำนวนสเตจของอัตราขยายแรงดันไฟฟ้าให้เหลือน้อยที่สุด “เพียงแค่สเตจเดียว” ระดับเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นจะเข้าใกล้ขีดจำกัดทางทฤษฎีของเทคโนโลยี ไม่มีการใช้ฟีดแบ็กเชิงลบในปรีแอมป์ทุกจุด ความผิดเพี้ยนของวงจรเปิดโดยทั่วไปจะน้อยกว่า 0.003% การควบคุมระดับเสียงทำได้ด้วย balanced resistor ladder โดยแบนด์วิดท์และการตอบสนองชั่วขณะของวงจรปรีแอมป์แทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากการตั้งค่าระดับเสียง
จุดเด่นของแหล่งจ่ายไฟ - วงจรเสียงของ Illusion รับพลังงานจากแหล่งจ่ายไฟอนาล็อก ‘Krell Current Mode’ ที่บรรจุอยู่ในแชสซีเฉพาะของมันเอง แหล่งจ่ายไฟนี้หลีกเลี่ยงโครงสร้างวงจรรวมทั่วไปที่ใช้ในปรีแอมป์หลายตัว และเลียนแบบโครงสร้างการออกแบบของแอมป์ Krell Evolution Series ที่แยกส่วนอย่างสมบูรณ์ ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการกระแสไฟได้อย่างรวดเร็ว และไม่ถูกกระทบกระเทือนจากความผันผวนของแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับที่รุนแรงที่สุด

แหล่งจ่ายไฟนี้มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษสำหรับปรีแอมป์ โดยมีหม้อแปลง 290 VA และความจุ 41,600µF การวางแหล่งจ่ายไฟไว้ในแชสซีเฉพาะทำให้มีการกำหนดค่าที่เหมาะสำหรับการแยกสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าและการเหนี่ยวสภาวะแม่เหล็กจากเส้นทางสัญญาณปรีแอมป์ที่สำคัญ การออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใหม่ช่วยลดการใช้พลังงานในโหมดสแตนด์บายเหลือเพียง 2W

Illusion II นับเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สมบูรณ์แบบสำหรับระบบเสียงดิจิทัลและแอนะล็อกระดับโลก นอกจากอินพุตแบบ balanced inputs และ single-ended inputs ยังมีดิจิทัลอินพุตอีก 5 ชุด โมดูลดิจิทัลมีอินพุตดิจิทัล AES/EBU โคแอกเซียล และออปติคัลสำหรับใช้กับอุปกรณ์สตรีมมิ่งหรือแหล่งสัญญาณดิจิทัลอื่นๆ โมดูลดิจิทัลรองรับ LPCM สูงสุด 24 บิต/192kHz สัญญาณดิจิทัลทั้งหมดจะถูกส่งไปยัง ESS Sabre DAC จากนั้นจึงส่งไปยังวงจรแอนะล็อกแบบสมดุลแบบแยกส่วนของ Krell Current Mode

สอบถามข้อมูลได้ที่
ร้าน Image music&Film
1421/35 ซ.รัชดาท่าพระ 13 ถ.ริมทางรถไฟ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม 10600, Bangkok, Thailand, Bangkok
โทร 02 297 0890

McIntosh MA352 2-Channel Hybrid Integrated Amplifier            นี่คือ Integrated Amplifier ที่เป็นแบบ Hybrid Design ด้ว...
10/08/2025

McIntosh
MA352
2-Channel Hybrid Integrated Amplifier

นี่คือ Integrated Amplifier ที่เป็นแบบ Hybrid Design ด้วยการออกแบบผสมผสานหลักการออกแบบเสียงของหลอดสุญญากาศและโซลิดสเตทเข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ MA352 เป็นเครื่องขยายเสียงที่สะดุดตา ซึ่งใช้ประโยชน์จากปรัชญาเสียงที่แตกต่างกันของทั้ง 2 ระบบมาควบรวมไว้ด้วยกัน เหมาะสำหรับการรับฟังเสียงเพลงในระดับคุณภาพสูงสุด

MA352 มาพร้อมเทคโนโลยี Hybrid Drive™ ที่ใช้หลอดสุญญากาศและโซลิดสเตทคุณภาพดีที่สุดเพื่อมอบประสิทธิภาพเสียงที่ดีที่สุด "MA352" ได้รับการออกแบบแบบอะนาลอกล้วน โดยมีภาคปรีแอมป์ที่เป็นแบบ หลอดสุญญากาศ ซึ่งขับด้วยหลอดสุญญากาศเบอร์ 12AX7A จำนวน 1 คู่และหลอดสุญญากาศ 12AT7 อีกหนึ่งคู่ ส่วนภาคเอาต์พุตเป็นเครื่องขยายเสียงโซลิด-สเตตแบบ Direct Coupled ที่ส่งมอบกำลังขับ 200 วัตต์ต่อช่องสัญญาณไปยังลำโพง 8 โอห์ม หรือ 320 วัตต์ต่อช่องสัญญาณไปยังลำโพง 4 โอห์ม ซึ่งเพียงพอต่อการขับลำโพงเกือบทุกชุดอย่างเหมาะสม มิเตอร์แบบสเกลคู่สีน้ำเงินสด แสดงกำลังขับขาออกของแต่ละข้าง ให้การอ่านค่าเอาต์พุตที่จ่ายออกอย่างแม่นยำ สำหรับลำโพงแต่ละตัว

MA352 มีอินพุตแบบบาลานซ์ 2 ชุด และแบบไม่บาลานซ์ 3 ชุด รวมถึงอินพุตโฟโนแม่เหล็กเคลื่อนที่ 1 ตัว พร้อมโหลดที่ปรับได้สำหรับเชื่อมต่อเครื่องเล่นแผ่นเสียง มีขั้วยึดลำโพงชุบทองเพื่อช่วยป้องกันการกัดกร่อนและรับรองว่า สัญญาณคุณภาพจะถูกส่งไปยังลำโพงผ่านสายลำโพงของคุณ มีเอาต์พุตปรีแอมป์สเตอริโอสำหรับเชื่อมต่อเครื่องขยายเสียงกำลังสูง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เชื่อมต่อซับวูฟเฟอร์ได้ 1 หรือ 2 ตัว เพื่อประสิทธิภาพความถี่ต่ำที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ MA352 มาพร้อมเทคโนโลยี McIntosh มากมาย อาทิเช่น เทคโนโลยี Power Guard® ที่ได้รับสิทธิบัตรของ McIntosh ซึ่งตรวจสอบสัญญาณเอาต์พุตว่า มีการทำงานเกินกำลังหรือไม่ และปรับสัญญาณอินพุตแบบเรียลไทม์ เพื่อป้องกันการตัดเสียงรบกวนที่อาจสร้างความเสียหายให้กับลำโพงของคุณได้ วงจรป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร Sentry Monitor™ ที่ไม่มีฟิวส์ของ McIntosh ซึ่งจะตัดการทำงานของขั้นตอนเอาต์พุตก่อนที่กระแสไฟจะเกินระดับการทำงานที่ปลอดภัย จากนั้นจะรีเซตโดยอัตโนมัติเมื่อสภาวะการทำงานกลับสู่ปกติ เครื่องขยายเสียงสำหรับหูฟังแบบ High Drive พร้อม Headphone Crossfeed Director (HXD®) ปุ่มปรับสำหรับควบคุมโทนเสียงอะนาลอก 5 แบนด์ ช่วยให้การปรับเพื่อรับฟังได้รับตามที่คุณชื่นชอบด้วยตนเอง (แต่ละแบนด์ปรับได้ ± 12dB) Home Theater Pass Through ช่วยให้ผสานรวมเข้ากับระบบโฮมเธียเตอร์ได้อย่างราบรื่น Power Control เพื่อส่งสัญญาณเปิด/ปิดเครื่องไปยังส่วนประกอบอุปกรณ์ต่างๆ ของ McIntosh ที่เชื่อมต่ออยู่ เพื่อให้เปิดและปิดระบบได้ง่าย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

KS Home Entertainment
089-764-9999, 083-712-4448
Line ID: krisks

Jeff RowlandDaemon Integrated AmplifierDaemon ถือเป็นสุดยอดของ Jeff Rowland ในฐานะ integrated amplifier สมรรถนะสูงสุดที่...
09/08/2025

Jeff Rowland
Daemon
Integrated Amplifier

Daemon ถือเป็นสุดยอดของ Jeff Rowland ในฐานะ integrated amplifier สมรรถนะสูงสุดที่ให้กำลังขับได้มากถึง 1,500 วัตต์ต่อแชนแนล รองรับอินพุตครบครันทั้งดิจิทัลและแอนาล็อกเต็มรูปแบบ (รวมถึง DSD) สามารถควบคุมการทำงานผ่านรีโมท

ทั้งนี้ Jeff Rowland ร่วมมือกับ Thomas Holm ผู้ออกแบบวงจรดิจิทัล “Aeris DAC” และ Continuum S2 ได้พัฒนาทั้งวงจรแอนาล็อกและดิจิทัลในรูปแบบของแอมปลิฟายเออร์แบบ โมโนคู่ (dual mono integrated amplifier) ภาคจ่ายไฟดิจิทัลและแอนาล็อกแยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง โดยใช้แผงวงจร 6-layer Rogers ceramic circuit boards ตลอดทั้งเครื่อง
อินพุตดิจิทัลประกอบด้วย 2 x RCA (SPDIF), 2 x BNC (SPDIF), 1 x AES/EBU, 1 x USB (DSD) and 3 x TOSLINK อัตราสุ่มสร้างชุดตัวอย่างข้อมูลรองรับตั้งแต่ 44.1 kHz – 192 kHz (DSD compatibility) ผ่านทาง USB อินพุตแบบแอนาล็อกประกอบด้วย RCA Unbalanced x 3 และ XLR Balanced x 2 อินพุตเสียงทั้งหมดเป็นหม้อแปลงควบคู่กับหม้อแปลง Lundahl แบบกำหนดเองที่ออกแบบมาสำหรับ Daemon

สำหรับผู้ใช้หูฟัง Daemon จะมีแอมปลิฟายเออร์สำหรับหูฟังแบบแยกส่วน และแจ็คเอาต์พุตขนาด 1/4 นิ้วที่ติดตั้งบนฐาน Delrin (Delrin base) ที่แยกตัวออกมาเป็นพิเศษ อินเทอร์เฟซหน้าจอสัมผัสขนาด 7” x 5” (178 x 127 มม.) ได้รับการออกแบบโดยความร่วมมือกับบริษัทออกแบบอินเทอร์เฟซสัญชาติเดนมาร์ก “Mjölner” ตัวเรือนรีโมทขึ้นรูปจากอะลูมิเนียมกลึงประกอบด้วย BTLE (BlueTooth Low Energy) ใหม่ล่าสุด ซึ่งให้การควบคุมฟังก์ชันอุปกรณ์ทั่วไป และช่วยให้สามารถนำทางอินเทอร์เฟซหน้าจอสัมผัสได้เต็มรูปแบบ

ตัวแทนจำหน่าย
Inventive AV โทร. 02 238 4078
Line:

ลำโพงติดเพดานไร้สาย พร้อม WI-FI ในตัวด้วยคุณลักษณ์ All-In-One ติดตั้งใช้งานง่าย ในทุกสถานที่ที่ต้องการยกระดับคุณภาพเสียง...
09/08/2025

ลำโพงติดเพดานไร้สาย พร้อม WI-FI ในตัว

ด้วยคุณลักษณ์ All-In-One ติดตั้งใช้งานง่าย ในทุกสถานที่ที่ต้องการยกระดับคุณภาพเสียง * สตรีมเพลงโดยตรงจากแอพโปรดของคุณ AIRPLAT 2, Google Chromecast รวมถึง Spotify, Apple Music และอีกมากมาย * ไม่ต้องเดินสายไฟที่ซับซ้อน หรือ อุปกรณ์เพิ่มเติม * เชื่อมต่อลำโพงหลายตัว เพื่อประสบการณ์เสียงที่ซิงโครไนซ์ในทุกห้อง สร้างสภาพแวดล้อมเสียงที่ดื่มด่ำเต็มรูปแบบทั่วทั้งบ้านของคุณ

👍 ของแท้ การันตี รับประกันศูนย์อัศวโสภณ
📌โปรดระวังสินค้าลอกเลียนแบบ กรุณาตรวจสอบรายละเอียดก่อนการสั่งซื้อทุกครั้ง
📌 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ได้ที่
โชว์รูมอัศวโสภณทุกสาขา: https://www.asavasopon.co.th/contact/
โทรศัพท์: 02-266-8136 ถึง 8
ทดลองสินค้าได้ที่ สำนักงานใหญ่ (รามคำแหง 24)
อีเมล์: [email protected]
LINE: http://bit.ly/Asavasopon

McIntosh MC2.1KW 75th Anniversary Edition1-CHANNEL SOLID STATE AMPLIFIERนี่คือ reference level 2,000 Watt Quad Balanced ...
09/08/2025

McIntosh
MC2.1KW 75th Anniversary Edition
1-CHANNEL SOLID STATE AMPLIFIER

นี่คือ reference level 2,000 Watt Quad Balanced Monoblock Power Amplifier ระดับท้อปสุดแห่งสุดยอดของ McIntosh “MC2.1KW” ประกอบด้วยโมดูลแยกอิสระ 3 โมดูลด้วยกัน รวมเป็น 3 ตัวเครื่องต่อชุด ได้แก่ Output Module - 1 โมดูล และ Power Module - 2 โมดูล ซึ่งแต่ละโมดูลมีกำลังขยายสัญญาณเสียง 1,000 วัตต์ โดยที่สัญญาณเสียงขาเข้าจะเข้าสู่ Output Module จากปรีแอมป์ สัญญาณ in-phase จะถูกส่งจาก Output Module ไปยัง Power Module ตัวที่หนึ่ง และขยายสัญญาณ ในเวลาเดียวกัน, สัญญาณ out-of-phase จะถูกส่งไปยัง Power Module ตัวที่สอง และขยายสัญญาณ สัญญาณที่ได้รับการขยายทั้งสองค่าเฟสสัญญาณจะออกจาก Power Module ทั้งสองตัว และเข้าสู่ Output Module อีกครั้ง โดยจะขับเคลื่อนปลายทั้งสองของขดลวด bi-filar ของ McIntosh Autoformer

วิธีนี้จะทำให้สัญญาณเสียงทั้งสองเฟสสัญญาณกลับมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ในขณะที่เสียงรบกวนทั้งหมดลดลง หรือ ถูกหักล้างไปโดยสิ้นเชิง ด้วยวิศวกรรมอันชาญฉลาดนี้ สัญญาณเสียงที่มีความผิดเพี้ยนต่ำจะออกจากโมดูลเอาต์พุตเพื่อส่งเสียงที่บริสุทธิ์ส่งผ่านสู่ลำโพง “MC2.1KW” มีอินพุตแบบ balanced และ unbalanced อย่างละ 2 ชุด เพื่อให้คุณเชื่อมต่อปรีแอมป์ได้มากกว่าหนึ่งเครื่องอย่างสะดวก สามารถเลือกรับระหว่างสัญญาณหลอดสุญญากาศ และ สัญญาณโซลิด-สเตทได้อย่างง่ายดาย

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
KS Home Entertainment
089-764-9999, 083-712-4448
Line ID: krisks

BLACK CAT HIFI ตระหนักดีว่า เสียงที่ดีสุดในระบบ ย่อมเกิดจากความเข้ากันได้อย่างลงตัว (Matched) ระหว่างแต่ละอุปกรณ์ที่ต่อพ...
09/08/2025

BLACK CAT HIFI ตระหนักดีว่า เสียงที่ดีสุดในระบบ ย่อมเกิดจากความเข้ากันได้อย่างลงตัว (Matched) ระหว่างแต่ละอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกัน ทำการส่งต่อสัญญาณได้อย่างครบถ้วน จากต้นทางจรดสู่ปลายทาง

'Heart of Gold Series' เป็นสายสัญญาณที่ผ่านการค้นคว้าทดลองโดยใช้ตัวนำหลัก Graphene ทั้งที่เป็นเส้นใยและวัสดุเคลือบผิวบนตัวนำ ผสานร่วมกับตัวนำ Single Crystal Silver เพื่อให้เกิดเสียงที่มีความใสกังวาน เสียงร้องที่คมชัด มิติทางดนตรีที่ชัดเจน 'Heart of Gold Series' เป็นสายรุ่นล่าสุดจาก BLACK CAT HIFI ที่ทำให้ท่านได้พบกับประสบการณ์ใหม่ที่ไม่อาจพบได้จากสายตัวนำชนิดอื่น ด้วยความครบชัดในรายละเอียดของทุกๆ เสียง, ครบถ้วนในฮาร์โมนิกของทุกๆ ช่วงย่านความถี่ และครบสมบูรณ์ทั้งความสด สะอาด แจ่มชัด พร้อมด้วยความละเมียดละไม ให้ความฉ่ำชุมมีความกังวานสมจริงของชิ้นดนตรี
..คุณจะรับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน...คุณจะได้ประจักษ์ในบางสิ่งบางอย่างที่เคยถูกซ่อนอยู่...คุณจะถึงกับอึ้งในโฟกัสชิ้นดนตรีที่มีรายละเอียดของมวลอากาศส่งคลื่นกระทบปะทะมาจนรู้สึกได้ รวมถึงเสียงกลางที่มีทรวดทรง และเรี่ยวแรงพลังอันสมจริงเป็นธรรมชาติ ทั้งเนื้อเสียงและหางเสียง ไร้ซึ่งความสาก-กระด้าง-บาดหู เสียงร้องที่พร้อมให้คุณแยกแยะลักษณะจำเพาะของน้ำเสียงได้เป็นธรรมชาติ ที่สำคัญ ในด้านของซาวด์สเตจนั้น แจ่มชัดยิ่งนักในการระบุตำแหน่งและปริมณฑลเสียง แยกแยะแถวชั้น (Layered) อย่างน่าทึ่ง ตราตรึงใจในมวลบรรยากาศรายรอบ ราวกับว่า You're there กระนั้น

Heart of Gold Series ของ BLACK CAT HIFI มี 2 รุ่น ให้คุณได้เลือกใช้ "Heart of Gold" และ "Heart of Gold Faraday's Cage"
*สายสัญญาณ RCA รุ่น Heart Of Gold ตัวนำกราฟีน (Graphene) ความยาวมาตรฐาน 1.50 ม. ราคาคู่ละ 45,000 บาท / สายสัญญาณ XLR ราคาคู่ละ 50,000 บาท
**สายสัญญาณ RCA รุ่น Heart Of Gold "Faraday's Cage" ตัวนำกราฟีน (Graphene) ความยาวมาตรฐาน 1.50 ม. ราคาคู่ละ 55,000 บาท

***ลูกค้าจาก What Hi-Fi? Thailand ได้ส่วนลดพิเศษ 10% ทุกรุ่น
BLACK CAT HIFI
โทร.081-342-1086

NORDOSTQKORE GROUND UNITสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าในระบบไฮ-ไฟ อันมีสาเหตุมาจากความไม่สมบูรณ์ของระบบพลังงาน ความไม่สมบูรณ์เหล่าน...
09/08/2025

NORDOST
QKORE GROUND UNIT

สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้าในระบบไฮ-ไฟ อันมีสาเหตุมาจากความไม่สมบูรณ์ของระบบพลังงาน ความไม่สมบูรณ์เหล่านี้อาจเกิดจากมลภาวะในอากาศบนสายไฟ AC ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการรบกวนทางสัญญาณ Bluetooth, Wi-Fi และโทรศัพท์มือถือ มลภาวะในอากาศอาจอยู่ในรูปแบบของการรบกวนความถี่สูง เสียง และสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งนำไปสู่การปนเปื้อนในสายไฟฟ้า AC ความ “ไม่สะอาด” ทำให้เกิดข้อบกพร่องด้านประสิทธิภาพมากกว่าที่คนส่วนใหญ่คาดคิด ซึ่งหากไม่มีจุดกราวด์ที่มีประสิทธิภาพ รากฐานทั้งหมดของระบบเสียงก็จะตกอยู่ในอันตราย และน่าเสียดายที่ห้องฟังส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงสายที่กำหนดซึ่งอ้างอิงอยู่กับสายกราวด์ได้ ในกรณีเหล่านี้ จำเป็นต้องมีตัวกลางที่เข้าถึงได้ง่าย และมีประสิทธิภาพ นั่นคือ QKORE ของ Nordost

QKORE เป็นอุปกรณ์ต่อสายดินแบบขนาน ซึ่งให้ประสิทธิภาพเสมือนสายดินเทียมที่ "สะอาด" สำหรับระบบเสียงไฮ-ไฟโดยเฉพาะ ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี Mono-Filament ที่ได้รับสิทธิบัตรของ Nordost เข้ากับเพลตดึงดูดแรงดันต่ำ (LVAP) ที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยโลหะผสมที่เป็นเอกสิทธิ์และวงจรอิเล็กทรอนิกส์แบบพาสซีฟ เพื่อดึงสัญญาณรบกวนความถี่สูงและสนามแม่เหล็กที่เกิดขึ้นจากแรงดันไฟฟ้า ตรงไปยังจุดต่อสายดินที่สร้างขึ้น เพื่อการอ้างอิงที่สะอาด ระบบพาสซีฟนี้มีการติดตั้งขั้วเสียบต่อ WBT เคลือบทอง ซึ่งเชื่อมต่อแต่ละส่วนประกอบกับสายดินเทียมได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวงจรเสียงคุณภาพสูงได้อย่างมาก

Deco2000
โทร. 089-870-8987

08/08/2025

การเติมซับวูฟเฟอร์ เข้าไปช่วยเสริมศักยภาพชุดโปรดที่มีลำโพงตัวโปรด 'เป็นตัวชูโรง' สามารถทำได้อย่างไรบ้าง? ระบบ 2.1 หรือ 2.2 กับการฟังเพลงช่วยเรื่องอะไรบ้าง? ติดตามรายละเอียดทั้งหมดได้ในคลิปนี้

Martin Logan Monolith (1983) : จุดเริ่มต้นลำโพง Electrostatic ที่เปลี่ยนวงการเสียงด้วยดีไซน์โค้งสุดล้ำ พร้อมเบสที่ทรงพลั...
08/08/2025

Martin Logan Monolith (1983) : จุดเริ่มต้นลำโพง Electrostatic ที่เปลี่ยนวงการเสียงด้วยดีไซน์โค้งสุดล้ำ พร้อมเบสที่ทรงพลัง

เมื่อย้อนกลับไปต้นยุค 1980s ช่วงเวลาที่เทคโนโลยีลำโพง Electrostatic กำลังถูกท้าทายด้วยข้อจำกัดเรื่อง “เสียงเบส” และ “ความเหมาะกับเพลงร็อก” สองนักออกแบบ Gayle Martin Sanders และ Ron Logan Sutherland มั่นใจว่าพวกเขาสามารถสร้างลำโพง Electrostatic ที่ทรงพลังและตอบโจทย์นี้ได้

ล้มเหลวแต่ไม่ถอย: เมื่อแผงอะลูมิเนียมระเบิดในต้นแบบแรก
ในปี 1980 ทั้งสองได้สร้างต้นแบบลำโพง Electrostatic ที่ใช้แผงอะลูมิเนียมแบนราบ แต่เมื่อทดลองเปิดเสียงดังๆ แผงลำโพงกลับเกิดการระเบิดจนล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง แต่เรื่องนี้ไม่อาจหยุดยั้งความมุ่งมั่นของพวกเขาได้

Monolith (1983) ลำโพง Electrostatic รุ่นแรกที่พร้อมวางจำหน่าย
ในปี 1983 ความพยายามครั้งใหม่ทำให้เกิด Martin Logan Monolith ลำโพง Electrostatic รุ่นแรกที่พร้อมวางจำหน่ายจริง

การปรับปรุงสำคัญคือการใช้ไดอะแฟรมแบบ Mylar ที่ใสสะอาดถูกประกบระหว่างสเตเตอร์เหล็กเจาะรูสองแผ่น รวมถึงการออกแบบแผงลำโพงให้โค้งในแนวนอน ช่วยกระจายเสียงได้อย่างกว้างและสม่ำเสมอ ซึ่งกลายเป็นดีไซน์หลักที่ใช้ในลำโพง Electrostatic ของ Martin Logan ทุกตัวจนถึงปัจจุบัน

ทำไม Monolith ถึงสำคัญ?
Monolith ไม่เพียงแต่พิสูจน์ว่า Electrostatic สามารถมีเบสที่ดีและเหมาะกับเพลงร็อกได้ แต่ยังนำเสนอการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยแผงโค้ง ซึ่งช่วยให้เสียงกระจายตัวได้ดีขึ้นและลดการสูญเสียความชัดเจนในย่านสูงและกลาง

นี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Martin Logan ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบรนด์ Electrostatic ชั้นนำของโลก

🔊 Martin Logan Monolith (1983) : ลำโพง Electrostatic รุ่นแรกที่โค้งรับอนาคต พร้อมพลังเบสขั้นเทพที่ร็อกเกอร์ต้องหลงรัก
จากความล้มเหลวในปี 1980 สู่ตำนานแห่งเสียงที่ไม่เคยหยุดนิ่ง — เรื่องราวของ Monolith คือบทพิสูจน์ว่า “ความอดทนและนวัตกรรม” คือกุญแจสู่ความสำเร็จในโลกเครื่องเสียง!

ที่อยู่

Din Daeng

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เบอร์โทรศัพท์

+6625121243

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ What Hi-Fi? Thailandผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง What Hi-Fi? Thailand:

แชร์

ประเภท