Salika พื้นที่ของความรู้และความคิดสร้างสรรค์เพื่อการ
เปลี่ยนแปลง จากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาศักยภาพของผู้คน สังคม และธุรกิจ

อุตสาหกรรมการผลิตของไทย กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งการแข่งขันระดับโลก มาตรฐานสิ่งแวดล้อมใหม่ และการเปลี่ยนแปลงทาง...
05/09/2025

อุตสาหกรรมการผลิตของไทย กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งการแข่งขันระดับโลก มาตรฐานสิ่งแวดล้อมใหม่ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ดังนั้น เพื่อผลักดันภาคการผลิตไทยสู่ Smart & Sustainable Manufacturing หรือการผลิตอัจฉริยะที่ยั่งยืน ให้เกิดขึ้นและขับเคลื่อนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทยอย่างมีประสิทธิภาพ
สถาบันไทย-เยอรมัน (TGI) ได้จัดงาน TGI Smart Manufacturing Summit 2025 ขึ้นในวันที่ 18-19 กันยายน 2568 ณ สถาบันไทย-เยอรมัน นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ชลบุรี ซึ่งเวทีนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเชื่อมสำคัญที่มาเชื่อมโยงองค์ความรู้ เทคโนโลยี และเครือข่ายธุรกิจ สู่ความร่วมมือในทุกมิติ
โดยผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมงาน TGI Smart Manufacturing Summit 2025 วันที่ 18–19 กันยายนนี้ ณ สถาบันไทย–เยอรมัน จังหวัดชลบุรี เข้าร่วมงานฟรี! และลงทะเบียนเข้างานได้ที่ : https://tgisms.tgi.or.th/ (ติดต่อสอบถาม: เพิ่มเติม [email protected] หรือ โทร 038-215033-39 ต่อ 1607 (คุณสุพัตรา แผนกการตลาด) มาร่วมเปิดมุมมองใหม่ทางเทคโนโลยี แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ก้าวสู่อนาคตอุตสาหกรรมไทยไปด้วยกัน........................................................................................
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.salika.co/2025/09/04/tgi-smart-manufacturing-summit-2025/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#สถาบันไทยเยอรมัน #อุตสาหกรรมการผลิต

อุตสาหกรรมการผลิตของไทย กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ ทั้งการแข่งขันระดับโลก มาตรฐานสิ่งแวดล้อมใหม่ แล.....

การ์ทเนอร์เผยว่าภายในสิ้นปีนี้ (2568) คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI PCs จะครองส่วนแบ่งตลาดพ...
05/09/2025

การ์ทเนอร์เผยว่าภายในสิ้นปีนี้ (2568) คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI PCs จะครองส่วนแบ่งตลาดพีซีทั้งหมดทั่วโลก 31% โดยมียอดจัดส่ง AI PCs ทั่วโลกอยู่ที่ 77.8 ล้านยูนิตในปีนี้
Ranjit Atwal ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนักวิเคราะห์ของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “AI PCs กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาด แต่การนำมาใช้งานในปีนี้เกิดการชะลอตัวเนื่องจากมาตรการด้านภาษีและการหยุดชะงักของการซื้อ อันเนื่องมาจากเหตุความไม่แน่นอนของตลาด อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จะลงทุนซื้อ AI PCs เพื่อความมั่นใจว่าพวกเขาพร้อมรับมือกับการนำ AI มาใช้งานมากขึ้นในยุคนี้”
นักวิเคราะห์การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าในปีหน้า (2569) ยอดจัดส่ง AI PC จะอยู่ที่ 143 ล้านยูนิต และจะครองส่วนแบ่งตลาดพีซีทั้งหมดถึง 55% โดยอีกสี่ปีข้างหน้า (2572) AI PC จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการใช้งานเครื่องพีซี
https://www.salika.co/2025/09/04/salika-news-vol-247-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

บนเวทีเสวนา Revitalize & Resonate: The Tech & Tradition of Future Wellness ภายในงาน อว.แฟร์ 2025 แสงไฟจับจ้องไปยังสองนัก...
05/09/2025

บนเวทีเสวนา Revitalize & Resonate: The Tech & Tradition of Future Wellness ภายในงาน อว.แฟร์ 2025 แสงไฟจับจ้องไปยังสองนักวิชาการผู้คร่ำหวอดในแวดวงสมุนไพรและนวัตกรรมสุขภาพ คือ ศ.ดร.ภญ.กรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม และ รศ.ดร.ภก.เนติ วระนุช ผู้อำนวยการสถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ร่วมบรรยายในหัวข้อ “มรดกอายุรเวทผสานกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่” (Brahmi: Ayurvedic heritage meets cutting-edge science)
เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของ “พรมมิ” สมุนไพรที่ถูกยกระดับจากภูมิปัญญาโบราณ สู่วิถีใหม่แห่งสุขภาวะที่ีดี ภายใต้การสนับสนุนของ บพข. ทั้งในแง่ของทุนวิจัย ส่งเสริมมาตรฐานการผลิต และการเชื่อมโยงนักวิจัยกับภาคอุตสาหกรรม ทำให้ผลงานวิจัยสามารถพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตอบสนองต่อความต้องการเชิงพาณิชย์ได้..........................................................................................
:: “อายุรเวท” มรดกภูมิปัญญาสู่วิทยาศาสตร์ ::
“ภูมิปัญญาอายุรเวทไม่ได้เป็นเพียงศาสตร์การรักษาโรค หากแต่คือระบบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่อยู่คู่ผู้คนมานับพันปี” ศ.ดร.ภญ.กรกนก กล่าวอย่างชัดเจน
ศาสตร์การแพทย์อายุรเวทจากอินเดีย เน้นการป้องกันมากกว่าการรักษา ใช้สมุนไพรและธรรมชาติเป็นเครื่องมือสำคัญ หลักการนี้สอดคล้องกับแนวคิดการแพทย์เชิงป้องกัน (Preventive Medicine) ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างยิ่งในศตวรรษปัจจุบัน แต่การจะทำให้ภูมิปัญญาเหล่านี้ได้รับการยอมรับในระดับสากล ต้องอาศัย “การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์” เพื่อยืนยันทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และคุณภาพที่ควบคุมได้
ทั้งนี้การแพทย์เชิงป้องกัน คือแนวทางการดูแลสุขภาพที่เน้น “ป้องกันก่อนเกิดโรค” มากกว่าการรักษาเมื่อเจ็บป่วยแล้ว เป้าหมายคือการลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ ตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดับสังคม ผ่านการสร้างเสริมสุขภาพ การตรวจคัดกรอง และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคระบาด การตรวจสุขภาพประจำปีและการคัดกรองโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น การส่งเสริมโภชนาการที่ดี การออกกำลังกาย และการจัดการความเครียด รวมถึงการใช้สมุนไพรหรือวิถีธรรมชาติอย่างเหมาะสม เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและปรับสมดุลร่างกาย
แนวคิดนี้สะท้อนชัดเจนว่าการลงทุนลงแรงเพื่อ “ป้องกัน” มักคุ้มค่ากว่าการรักษาโรคเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ทั้งในแง่คุณภาพชีวิตและค่าใช้จ่ายทางเศรษฐกิจ
เมื่อเชื่อมโยงกับอายุรเวท จะเห็นว่าเป็นศาสตร์ที่ยึดแนวคิดเดียวกัน คือการรักษาสมดุลของร่างกาย จิตใจ และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คนมีสุขภาพดีตั้งแต่ต้น ไม่ใช่เพียงรอรักษาเมื่อเกิดโรค ซึ่งนี่เองทำให้ภูมิปัญญาโบราณสามารถสอดรับกับการแพทย์สมัยใหม่ได้อย่างน่าสนใจ..........................................................................................
:: “พรมมิ” สมุนไพรแห่งความทรงจำ ชะลออัลไซเมอร์ ::
พรมมิ หรือ Brahmi ไม้ล้มลุกขนาดเล็ก มีดอกสีขาวหรือสีม่วงอ่อน พบทั่วไปในเขตร้อนและทุกภาคของประเทศไทย และมักพบตามที่ชื้นแฉะหรือริมตลิ่งของแหล่งน้ำต่างๆ เช่น แม่น้ำ หนอง คลอง บึง เพราะเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีความชื้นสูง ในตำรายาไทย พรมมิถูกยกให้เป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ ใช้เป็นยาช่วยขับโลหิต แก้อาการไข้ ถอนพิษร้อน ขับเสมหะ อีกทั้งยังเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ และประสาทให้ทำงานอย่างสมดุล ขณะที่ในคัมภีร์อายุรเวทของอินเดียมีการบันทึกการใช้พืชชนิดนี้มาเนิ่นนานกว่า 3,000 ปี โดยเฉพาะในฐานะยาสำหรับเสริมสร้างความจำและฟื้นฟูสมรรถภาพของสมอง
พรมมิได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะสุดยอดสมุนไพรบำรุงสมอง โดยมีสรรพคุณที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ด้วยสารสำคัญอย่างบาโคไซด์ที่ช่วยฟื้นฟูและปกป้องเซลล์ประสาท ส่งผลให้ความสามารถในการเรียนรู้และความจำดีขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว นอกจากนี้ พรมมิยังมีส่วนช่วยให้จิตใจสงบและจดจ่อได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มสมาธิและอาจช่วยบรรเทาอาการของภาวะสมาธิสั้นได้อีกด้วย
คุณสมบัติเด่นของพรมมิยังครอบคลุมไปถึงการดูแลสภาวะอารมณ์ โดยทำหน้าที่เป็นสารปรับสมดุลที่ช่วยให้ร่างกายปรับตัวต่อความเครียดได้ดีขึ้น พร้อมลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและคลายความวิตกกังวล ที่สำคัญ สารบาโคไซด์ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงที่คอยปกป้องเซลล์สมองจากการถูกทำลาย ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคความจำเสื่อมอย่างอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน และด้วยคุณสมบัติที่ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลายนี้เอง จึงส่งผลต่อเนื่องไปถึงการปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับให้ดีขึ้นอีกด้วย...........................................................................................
:: จากต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ม.นเรศวร สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการสมุนไพรไทยด้วย “พรมมิ” โมเดล ::
ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับวงการสมุนไพรไทย มหาวิทยาลัยนเรศวรได้สร้างปรากฏการณ์สำคัญผ่านความสำเร็จในการพัฒนาระบบวิจัยพรมมิอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อสร้างหลักประกันด้านคุณภาพและความปลอดภัยทัดเทียมมาตรฐานสากล พร้อมแปรองค์ความรู้จากหิ้งวิจัยสู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นของความสำเร็จนี้อยู่ที่กระบวนการต้นน้ำ ซึ่งเป็นการวางรากฐานอันแข็งแกร่งให้แก่วัตถุดิบ โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ส่งเสริมการเพาะปลูกต้นพรหมมิภายใต้มาตรฐานการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices – GAP) ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่รับรองว่าพรมมิที่ปลูกมีคุณภาพสม่ำเสมอ ปลอดภัยต่อการบริโภค และเหมาะสมสำหรับการสกัดสารออกฤทธิ์
ยิ่งไปกว่านั้น ยังสะท้อนความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดการเพาะปลูกอย่างเป็นระบบเพื่อป้องกันไม่ให้พรหมมิกลายเป็นพืชรุกรานที่กระทบต่อระบบนิเวศ
ศ.ดร.ภญ.กรกนก และทีมวิจัยได้ดำเนินการศึกษาการปลูกพรมมิอย่างเป็นระบบในหลายสภาพแวดล้อม ทั้งในเรือนเพาะชำเพื่อควบคุมปัจจัยพื้นฐาน เช่น แสง ความชื้น และอุณหภูมิ ในแปลงทดลองที่มีการปรับสภาพดินและปุ๋ยอย่างแม่นยำ และในแปลงเกษตรจริงเพื่อประเมินความสามารถในการปลูกเชิงพาณิชย์
จากแปลงปลูกคุณภาพ วัตถุดิบจะถูกส่งต่อเข้าสู่กระบวนการกลางน้ำ ณ คณะเภสัชศาสตร์และสถานวิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ซึ่งทีมนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญจะนำมาผ่านกระบวนการสกัดด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้ได้สารสำคัญทางยาที่บริสุทธิ์และเข้มข้น ก่อนจะนำไปทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพอย่างละเอียด ตั้งแต่ระดับห้องปฏิบัติการ สัตว์ทดลอง ไปจนถึงการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพในการบำรุงสมองและความจำ และยืนยันความปลอดภัยสูงสุด
“งานวิจัยยืนยันว่าพรมมิช่วยปกป้องสมองจากภาวะความจำเสื่อมหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ภาวะเลือดไหลเวียนสมองลดลง หรืออาการคล้ายอัลไซเมอร์ โดยในสัตว์ทดลอง พรมมิช่วยปกป้องหนูจากการถูกเหนี่ยวนำให้ความจำเสื่อม ส่วนในมนุษย์ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัดพรมมิในรูปแบบยาเม็ดเคลือบ ขนาด 300 มิลลิกรัม ซึ่งมีคุณสมบัติทางกายภาพที่เหมาะสมและมีความคงตัวดี พร้อมทั้งทำการศึกษาผลลัพธ์ในกลุ่มอาสาสมัครวัยกลางคนและผู้สูงอายุ อายุ 55 ปีขึ้นไป จำนวน 60 คน ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ได้รับยาหลอก และกลุ่มที่ได้รับสารสกัดพรมมิในขนาด 300 และ 600 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน ผลการทดลองพบว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดจริงมีพัฒนาการด้านความจำ สมาธิ และการตอบสนองต่อสิ่งเร้า รวมถึงการทรงตัวที่ดีกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอก โดยผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ชัดหลังรับประทานต่อเนื่องตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป ที่สำคัญไม่พบผลข้างเคียงใดๆ ขณะเดียวกันก็มีการทดสอบความเป็นพิษในทุกระยะตามแนวทาง อย. ยืนยันได้ว่าปลอดภัย” ศ.ดร.ภญ.กรกนก บอกเล่าถึงความสำเร็จของการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพรมมิ
ด้าน รศ.ดร.ภก.เนติ กล่าวว่า “ความท้าทายของสมุนไพรไม่ใช่แค่เรื่องสรรพคุณ แต่คือการควบคุมคุณภาพและปริมาณสารสำคัญให้แน่นอน เพื่อให้มั่นใจว่าได้ผลจริงทุกครั้งที่ใช้”
ดังนั้น เมื่อผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นแล้ว จึงเข้าสู่ขั้นตอนปลายน้ำ ซึ่งเป็นกระบวนการแปรผลงานวิจัยให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ ผ่านโรงงานนำร่องมาตรฐาน GMP ที่ทำหน้าที่ควบคุมเสถียรภาพของสารออกฤทธิ์ และเป็นศูนย์กลางถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิจัยตระหนักดีว่าผลิตภัณฑ์ยาเม็ดแบบดั้งเดิมอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีภาวะกลืนลำบาก จึงได้ทุ่มเทพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่สะดวกและน่าสนใจยิ่งขึ้น
รศ.ดร.ภก.เนติ วระนุช ผู้อำนวยการสถานวิจัยฯ ได้กล่าวถึงพัฒนาการของการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์นี้ว่า “จากเม็ดยาเม็ดใหญ่ที่ผู้สูงอายุรับประทานลำบาก เราได้พัฒนาเป็น Brahmi Essence ผลิตภัณฑ์พร้อมดื่ม และ Brahmi Sphere ที่รับประทานง่าย ซึ่งสะท้อนถึงความเข้าใจในความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และเปลี่ยนภาพลักษณ์การดูแลสุขภาพด้วยสมุนไพรให้กลายเป็นเรื่องง่ายและรื่นรมย์”
ปัจจุบัน ผลงานวิจัยพรหมมิของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้นำไปสู่การวางจำหน่ายสารสกัดมาตรฐานโดยองค์การเภสัชกรรม สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในวงกว้าง และทีมวิจัยยังคงเดินหน้าต่อยอดองค์ความรู้สู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ Functional Food และวัตถุดิบคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมในอนาคต พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการหรือภาคอุตสาหกรรมเพื่อต่อยอดสู่เชิงพาณชิย์ นับเป็นก้าวสำคัญที่ยกระดับสมุนไพรไทยให้ก้าวไกลในเวทีโลกอย่างสง่างามและยั่งยืน..........................................................................................
:: บพข. พลังขับเคลื่อนงานวิจัยจากหิ้งสู่ห้าง ::
งานวิจัยจำนวนมากมักหยุดอยู่แค่บนหน้ากระดาษวิชาการ หากปราศจากกลไกสนับสนุนที่ช่วยให้ความรู้หรือผลิตภัณฑ์เหล่านั้นสามารถนำไปใช้จริงในเชิงพาณิชย์ น่าชื่นชมที่หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำคัญที่เติมเต็มช่องว่างนี้ โดยช่วยให้นักวิจัยสามารถต่อยอดผลงานไปสู่ตลาดและผู้บริโภคได้
“การสนับสนุนของ บพข. เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างนักวิจัยและภาคอุตสาหกรรม ทำให้สมุนไพรไทยที่ศึกษาในห้องแล็บสามารถก้าวสู่ตลาดอย่างมั่นคงและมีศักยภาพ” ศ.ดร.ภญ.กรกนก กล่าว
เบื้องหลังความสำเร็จนี้จึงเป็นความร่วมมือที่เกิดจากการศักยภาพของทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวร และการสนับสนุนเชิงระบบจาก บพข. ที่ร่วมกันสร้างห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทำให้พรมมิไม่ใช่เพียงสมุนไพรในตำรายาโบราณ แต่สามารถผสานเทคโนโลยีเข้ากับมรดกแห่งภูมิปัญญาได้อย่างน่าทึ่ง..........................................................................................
https://www.salika.co/2025/09/04/brahmi-ayurvedic-heritage-meets-cutting-edge-science/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#บพข #พรมมิ #ภูมิปัญญาโบราณ #วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ #สมุนไพร ์2025

มหาวิทยาลัยเคอร์ตินของออสเตรเลียเผยการค้นพบหินคาร์บอนาไทต์ (carbonatite) หายากที่อุดมไปด้วยแร่นีโอเบียม (niobium) ซึ่งเป...
05/09/2025

มหาวิทยาลัยเคอร์ตินของออสเตรเลียเผยการค้นพบหินคาร์บอนาไทต์ (carbonatite) หายากที่อุดมไปด้วยแร่นีโอเบียม (niobium) ซึ่งเป็นแร่โลหะสำคัญต่อพลังงานสะอาดและการผลิตเหล็กขั้นสูง ฝังลึกอยู่ทางตอนกลางของออสเตรเลียและช่วยเปิดเผยถึงต้นกำเนิดของแหล่งแร่ดังกล่าว
การศึกษาพบว่าแร่ดังกล่าวก่อตัวขึ้นเมื่อกว่า 800 ล้านปีก่อน โดยผุดขึ้นมาจากส่วนลึกของโลกผ่านแนวรอยเลื่อนที่มีอยู่เดิมระหว่างเหตุการณ์แยกตัวของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งนำสู่การแยกตัวของมหาทวีปโรดิเนีย (Rodinia)
การวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารจีโอโลจิคัล แมกาซีน (Geological Magazine) ในสหราชอาณาจักร ระบุว่าหินคาร์บอนาไทต์เหล่านี้มีปริมาณแร่นีโอเบียมเข้มข้น ซึ่งแร่นีโอเบียมเป็นโลหะเชิงยุทธศาสตร์ที่ใช้ในการผลิตเหล็กที่เบาและแข็งแรงขึ้นสำหรับเครื่องบิน ท่อลำเลียง และยานยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่และระบบตัวนำยวดยิ่งบางประเภท
แมกซีมีเลียน ดรอลล์เนอร์ หนึ่งในผู้เขียนงานวิจัย กล่าวว่าผลการค้นพบดังกล่าวเผยให้เห็นว่าแมกมาหายากที่อุดมไปด้วยโลหะเคลื่อนตัวขึ้นมาบนพื้นผิวโลกได้อย่างไร และเหตุใดแหล่งสะสมแร่ชนิดนี้จึงน่าสนใจมาก
ทีมวิจัยได้ใช้เทคนิคการหาอายุด้วยไอโซโทปหลายวิธีกับตัวอย่างแกนเจาะ และพบว่าหินคาร์บอนาไทต์เหล่านี้ปรากฏขึ้นระหว่าง 830-820 ล้านปีก่อน ในช่วงแยกตัวของแผ่นเปลือกโลกก่อนการแยกตัวของมหาทวีปโรดิเนีย
ดรอลล์เนอร์กล่าวว่าสภาวะทางธรณีแปรสัณฐานนี้ทำให้แมกมาคาร์บอนาไทต์สามารถเคลื่อนตัวผ่านเขตรอยเลื่อนที่ยังคงเปิดและเคลื่อนตัวอยู่เป็นเวลาหลายร้อยล้านปี ส่งผลให้แมกมาที่อุดมด้วยโลหะจากส่วนลึกของชั้นแมนเทิลเคลื่อนตัวขึ้นสู่เปลือกโลก (ที่มา : ซินหัว)
https://www.xinhuathai.com/inter/531976_20250904
https://www.salika.co/2025/09/04/salika-news-vol-247-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

การประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ SCO ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน 2025 กำลังแบกรับความรับ...
04/09/2025

การประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ SCO ครั้งที่ 25 ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน 2025 กำลังแบกรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ในการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพ รวมถึงผลักดันการพัฒนาของนานาประเทศ ในโลกยุคผันผวน
องค์การ SCO ก่อตั้งขึ้น ณ เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2001 ด้วยสมาชิกผู้ก่อตั้ง 6 ราย ก่อนขยายเป็นครอบครัวใหญ่ ประกอบด้วยสมาชิก 10 ประเทศ คือ จีน อินเดีย รัสเซีย เบลารุส อิหร่าน คาซัคสถาน คีร์กิซสถาน ปากีสถาน ทาจิกิสถาน อุซเบกิสถาน ผู้สังเกตการณ์ 2 ประเทศ และคู่เจรจา 14 ประเทศ ครอบคลุมเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ถือเป็นประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ และประเทศกำลังพัฒนาสำคัญ เนื่องจากมีสมาชิกอย่าง จีน รัสเซีย และอินเดีย เป็นแกนนำ ทำให้มีขนาดเศรษฐกิจ 1 ใน 4 ของโลก
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวสุนทรพจน์ แสดงความมุ่งมั่นนำพาโลกสู่ระบบ “ธรรมาภิบาล” โดยจะสร้าง SCO ให้เป็นต้นแบบการเปลี่ยนพรมแดนอันกว้างใหญ่ ให้กลายเป็นสายใยแห่งมิตรภาพ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ด้วยการจัดตั้งกลไกสร้างความเชื่อมั่นทางทหารในพื้นที่ชายแดน และเป็นกลุ่มแรกที่ลงนามสนธิสัญญา เกี่ยวกับการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ด้วยมิตรภาพและความร่วมมือในระยะยาว สร้างความยั่งยืน หลีกเลี่ยงการเป็นศัตรูคู่แข่ง
สีจิ้นผิง ย้ำวิสัยทัศน์การก้าวไปสู่แผนริเริ่มธรรมาภิบาลโลก (Global Governance Initiative – GGI) คือการทำงานร่วมกันกับนานาประเทศที่มีแนวคิดเดียวกัน เพื่อคุ้มครองเป้าประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเด็ดขาด และสร้างระบบธรรมาภิบาลโลกที่ยุติธรรมและเท่าเทียม
สีจิ้นผิง ยังได้หารือกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งเดินทางเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วยว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียกลายเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ ซึ่งมุ่งเน้นมิตรภาพการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและยั่งยืน การประสานงานเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ซึ่งกันและกัน
สีจิ้นผิง ระบุว่า จีนพร้อมเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระดับสูงกับรัสเซีย สนับสนุนการพัฒนาและการฟื้นฟูของกันและกัน ประสานจุดยืนในประเด็นที่เกี่ยวกับผลประโยชน์หลักและข้อวิตกกังวลสำคัญของทั้งสองประเทศอย่างทันท่วงที ขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อการพัฒนาอันยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น
ทั้งสองฝ่ายจะใช้ประโยชน์จากโครงการสำคัญต่างๆ ในการขับเคลื่อนความร่วมมือ พัฒนาโครงการความร่วมมืออันเป็นแบบอย่าง ส่งเสริมการบูรณาการผลประโยชน์ในเชิงลึก พร้อมเรียกร้องการเพิ่มความแข็งแกร่งและความเข้าใจในความร่วมมือ ทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือโดยรวม
อีกหนึ่งไฮไลท์ทำให้การประชุมสุดยอด SCO ที่เซี่ยงไฮ กลายเป็นเวทีสุดร้อนแรงแห่งปี 2025 คือ นายกรัฐมนตรีของอินเดีย เป็นหนึ่งในผู้นำเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ และเป็นการเยือนจีนครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี ของ นเรนทรา โมดี ท่ามกลางการถูกกดดันจาก “สงครามภาษี” ของอเมริกา
นักวิเคราะห์มองว่า การพบกันของ 3 ผู้นำ จีน รัสเซีย และ อินเดีย แสดงให้เห็นว่า ระเบียบโลกหลังยุคอเมริกาเป็นผู้นำ จะมีลักษณะอย่างไร และความพยายามทั้งหมดของสหรัฐฯในการต่อต้านจีน รัสเซีย รวมถึงถึงอินเดีย ไม่ได้ผลอย่างที่ตั้งใจ
โลกใบใหม่จะไม่ใช่ “อำนาจขั้วเดียว” จีนประกาศประกาศมาตรการและข้อริเริ่มใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่มีคุณภาพของ SCO รวมถึงเสนอวิธีการและแนวทางใหม่ ในการปกป้องระเบียบระหว่างประเทศอย่างสร้างสรรค์ และพัฒนาระบบธรรมาภิบาลโลกให้ดียิ่งขึ้น
องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หรือ SCO เป็นองค์การการเมือง เศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างประเทศ มี 2 หน่วยงานถาวร ได้แก่ สำนักเลขาธิการ ในกรุงปักกิ่งของจีน และ คณะกรรมการบริหารโครงสร้างต่อต้านการก่อการร้ายภูมิภาค หรือ RATS ในกรุงทาชเคนต์ อุซเบกิสถาน
หนึ่งในเหตุผลสำคัญของการก่อตั้ง SCO เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย การแบ่งแยกดินแดน เสริมสร้างความไว้วางใจ มิตรภาพ และความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีระหว่างประเทศสมาชิก ส่งเสริมความร่วมมือด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา พลังงาน สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ร่วมกันรักษาสันติภาพ ความมั่นคงในภูมิภาค และ ส่งเสริมระเบียบการเมืองรูปแบบใหม่ ให้เป็นประชาธิปไตยและยุติธรรม
สีจิ้นผิง ย้ำว่า ข้อเสนอจากเวที SCO จะถูกต่อยอดสู่เวทีพหุภาคี อาทิ สหประชาชาติ บริกส์ (BRICS) และกลุ่มจี20 (G20) เพื่อสร้างประชาคมภูมิรัฐศาสตร์ยุคใหม่ที่มีอนาคตร่วมกัน...........................................................................................
https://www.salika.co/2025/09/03/shanghai-cooperation-organisation-25th-meeting/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#ธรรมาภิบาลโลก #นเรนทราโมดี #วลาดิเมียร์ปูติน #สีจิ้นผิง #องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ได้เปิดเผยผลคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย ไว้ในช่วงต...
04/09/2025

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ได้เปิดเผยผลคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจและอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย ไว้ในช่วงต้นปี 2025 ว่ายังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องท่ามกลางความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้นจากแรงกดดันของเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวชะลอลง และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่มาพร้อมกับการกีดกันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น
นอกจากนั้น ยังชี้ชัดว่าเทรนด์ Green Logistics จะเป็นเรื่องที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ ซึ่งในปีที่ผ่านมาผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในไทยก็เริ่มเปิดให้บริการ Green Logistics กันมากขึ้น ส่วนเทรนด์ Logistics Technology (LogTech) จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยยกระดับการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น พร้อมทั้งลดต้นทุนการบริหารจัดการอย่างมีนัยสำคัญ
จากการคาดการณ์และทิศทางการเติบโตของ ‘อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย’ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้เอง ที่แสดงให้ทุกภาคส่วนเห็นถึงโอกาสและความท้าทายในการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการโลจิสติกส์และขนส่งของไทย ให้เติบโตได้ท่ามกลางปัจจัยความท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการขับเคลื่อนให้อีโคซิสเตมของภาคอุตสาหกรรมนี้โตได้อย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้งานวิจัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงพาณิชย์ จึงได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “ติดปีกโลจิสติกส์ไทย เชื่อมวิจัยสู่ธุรกิจด้วยทุน บพข.” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน TILOG-LOGISTIX 2025 ที่จัดขึ้น ณ ไบเทค บางนา โดยเวทีนี้จะแสดงให้เห็นถึงพลังของนวัตกรรมและงานวิจัย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนและยกระดับภาค อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม.........................................................................................
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.salika.co/2025/09/03/updated-strategy-plan-logistics-and-railway-system-pmuc/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#บพข #ระบบราง #แผนงานกลุ่มโลจิสติกส์

ผลคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจและ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย ไว้ในช่วงต้นปี 2025 ว่ายังมีแนวโน้มเติบโตต....

ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยว่า กรม สบส. โดยกองสุขศึกษา ได้ร่วมกับเครือข่ายเฝ้าระวังพฤ...
04/09/2025

ดร.นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยว่า กรม สบส. โดยกองสุขศึกษา ได้ร่วมกับเครือข่ายเฝ้าระวังพฤติกรรมระดับพื้นที่สำรวจเฝ้าระวังพฤติกรรมสุขภาพ การสูบบุหรี่ไฟฟ้า/พอต ของเยาวชนไทย ปี 2568 ผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 40,344 คน โดยเป็นเพศหญิง ร้อยละ 51.40 เพศชาย ร้อยละ 45.47 LGBTQ+ ร้อยละ 3.13
พบกลุ่มอายุ ผู้ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามากที่สุด คือ 19–25 ปี ร้อยละ 37.62 รองลงมาคืออายุ 16–18 ปี ร้อยละ 29.26 และอายุ 13–15 ปี ร้อยละ 22.39 และยังพบว่ากลุ่มอายุ 7–12 ปี ก็ยังพบการสูบ ร้อยละ 5.65
และเมื่อวิเคราะห์ตามภูมิภาค พบว่า ภาคเหนือมีผู้สูบสูงสุด ร้อยละ 23.87 รองลงมาคือ ภาคกลาง ร้อยละ 19.63 ภาคอีสาน ร้อยละ 16.38 และภาคใต้ ร้อยละ 11.21
โดยพบพฤติกรรมการเกิดของนักสูบรายใหม่ เฉลี่ยอยู่ที่อายุ 13.34 ปี โดยมีอายุน้อยที่สุด 6 ปี ซึ่งยังอยู่ในช่วงวัยชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และสูงสุดอายุ 24 ปี
ผลการสำรวจพบว่าบุคคลรอบข้าง และสื่อถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชน โดยได้รับการชักชวนจากเพื่อนให้ลองสูบ สูงถึง ร้อยละ 45.56 และมีการเข้าถึงโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้าผ่านเฟซบุ๊กมากที่สุด ร้อยละ 27.88 รองลงมาคือ ติ๊กต็อก ร้อยละ 27.60
ขณะที่การรับรู้เกี่ยวกับโทษและอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้าเกินครึ่งคือ ร้อยละ 52.2 มีความรู้ในระดับไม่ดี–พอใช้ สะท้อนถึงปัญหา ที่น่าห่วงด้านการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า และสื่อที่มีโอกาสชักจูงให้เด็กและเยาวชนเกิดค่านิยมที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน
https://www.salika.co/2025/09/03/salika-news-vol-246-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวประกาศอันดับจุดหมายปลายทางชนบทยอดนิยมในเอเชีย ที่มีประชากรไม่เกิน 50,000 คน จาก ...
04/09/2025

อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยวประกาศอันดับจุดหมายปลายทางชนบทยอดนิยมในเอเชีย ที่มีประชากรไม่เกิน 50,000 คน จาก 8 ประเทศในเอเชีย เปิดประสบการณ์ใหม่ให้นักเดินทางที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ โดยอ้างอิงจากการค้นหาที่พักบนแพลตฟอร์มระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 15 สิงหาคม 2568
พบว่าพื้นที่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาและเนินเขา กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่นักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นและความงดงามของธรรมชาติ ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าในการทำงาน และหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่
คาเมรอน ไฮแลนด์ (มาเลเซีย) คว้าอันดับหนึ่งในฐานะจุดหมายปลายทางชนบทที่ได้รับความนิยมสูงสุดในภูมิภาค ตามด้วยเขาใหญ่ (ไทย) และปุนจัก (อินโดนีเซีย) ในอันดับสองและสามตามลำดับ ขณะที่เมืองฟูจิคาวากุจิโกะ (ญี่ปุ่น), เขิ่นติง (ไต้หวัน), ซาปา (เวียดนาม), มุนนาร์ (อินเดีย) และพย็องชัง (เกาหลีใต้) ต่างติดอันดับจุดหมายปลายทางชนบทยอดนิยมของเอเชียในปีนี้ด้วย
https://www.salika.co/2025/09/03/salika-news-vol-246-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

ปัจจุบันการแพทย์ใช้ยามอร์ฟีนรักษาอาการปวดรุนแรง ซึ่งยาดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่มยาแก้ปวดชนิดเสพติด (Narcotic Analgesics) ล่า...
04/09/2025

ปัจจุบันการแพทย์ใช้ยามอร์ฟีนรักษาอาการปวดรุนแรง ซึ่งยาดังกล่าวจัดอยู่ในกลุ่มยาแก้ปวดชนิดเสพติด (Narcotic Analgesics) ล่าสุด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สามารถสกัดสารไมทราไจนีน (Mitragynine) จากใบกระท่อมออกมาในรูปแบบน้ำ ทำออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สเปรย์ใบกระท่อม แทนการรับประทานในรูปแบบยาเม็ดหรือแคปซูล ซึ่งเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านร่วมกับเทคโนโลยีของกรมวิทย์ เพื่อช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อ
โดยที่ผ่านมาได้มีการศึกษาในสัตว์ทดลอง และทำในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่ามีประสิทธิภาพ ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมศึกษาในมนุษย์เรื่องความระคายเคือง และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2569 เป็นต้นไป
https://www.salika.co/2025/09/03/salika-news-vol-246-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เผยแพร่รายงานดัชนีนวัตกรรมโลก ประจำปี 2568 เมื่อวันจันทร์ (1 ก.ย.) ซึ่งระบุว่า กลุ่มน...
03/09/2025

องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เผยแพร่รายงานดัชนีนวัตกรรมโลก ประจำปี 2568 เมื่อวันจันทร์ (1 ก.ย.) ซึ่งระบุว่า กลุ่มนวัตกรรมเซินเจิ้น-ฮ่องกง-กว่างโจวในเขตเศรษฐกิจอ่าวกว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า ทางตอนใต้ของจีน ครองอันดับหนึ่งใน 100 กลุ่มนวัตกรรมชั้นนำของโลก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เป็นครั้งแรกที่กลุ่มนวัตกรรมเซินเจิ้น-ฮ่องกง-กว่างโจว แซงหน้ากลุ่มโตเกียว-โยโกฮามะของญี่ปุ่นขึ้นเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมชั้นนำของโลก สะท้อนถึงพลังด้านนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในเขตเศรษฐกิจอ่าวกว่างตง-ฮ่องกง-มาเก๊า ตลอดจนความก้าวหน้าที่ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีนานาชาติได้บรรลุอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กลุ่มนวัตกรรมเซินเจิ้น-ฮ่องกง-กวางโจว ครองอันดับสองของโลกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563
สำหรับปี 2568 กลุ่มนวัตกรรมชั้นนำ 100 อันดับแรกของโลกกระจายอยู่ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ 33 แห่ง โดยจีนมีจำนวนมากที่สุดที่ 24 กลุ่ม รองลงมาคือสหรัฐฯ 22 กลุ่ม และเยอรมนี 7 กลุ่ม
https://www.xinhuathai.com/china/531424_20250902
https://www.salika.co/2025/09/02/salika-news-vol-245-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ ช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในไทยลดลง 35%YoY มาที่ 2.7 ล้านคน ขณะที่จำนวน...
03/09/2025

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ ช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในไทยลดลง 35%YoY มาที่ 2.7 ล้านคน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในเวียดนามเพิ่มขึ้น 46%YoY มาที่ 3.1 ล้านคนแต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมของไทย ยังคงมากกว่าของเวียดนาม ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม คาดเวียดนามจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมแซงไทยภายใน 10 ปีข้างหน้า
https://www.salika.co/2025/09/02/salika-news-vol-245-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

หากจะเอ่ยถึงสิ่งของสักชิ้นในโลกของการออกแบบผลิตภัณฑ์แล้ว คงจะมีสินค้าเพียงไม่กี่ชิ้นที่สามารถทั้งครองใจ และทั้งครองพื้นท...
03/09/2025

หากจะเอ่ยถึงสิ่งของสักชิ้นในโลกของการออกแบบผลิตภัณฑ์แล้ว คงจะมีสินค้าเพียงไม่กี่ชิ้นที่สามารถทั้งครองใจ และทั้งครองพื้นที่ในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกได้ยาวนานอย่างแท้จริง
หนึ่งในนั้นก็คือ “เก้าอี้ Monobloc” เก้าอี้พลาสติกสีขาวที่เราพบเห็นได้ทั่วไปตาม “งานวัด” หรืออีกนัยก็คือ งานเลี้ยง ร้านอาหารริมทาง หรือแม้แต่ในบ้านเรือนทั่วทุกมุมโลก
ที่แม้จะดูเรียบง่าย ไร้ความหรูหรา แต่เบื้องหลังของเก้าอี้ตัวนี้ คือเรื่องราวของนวัตกรรม การทดลอง และความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบชาวแคนาดาที่ชื่อ Douglas C. Simpson ผู้วางรากฐานการผลิตเก้าอี้พลาสติกฉีดขึ้นรูปแบบชิ้นเดียวที่เรียกว่า Monobloc
Douglas Simpson เริ่มต้นร่างแรกของแนวคิด Monobloc ในปี ค.ศ. 1946 โดยร่วมมือกับวิศวกร James Donahue ภายใต้โครงการของ National Research Council ของ Canada
จุดมุ่งหมายของโครงการดังกล่าว คือการนำเทคโนโลยีที่เคยใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น พลาสติก หรือไม้อัดดัดแปลงเพื่อใช้สำหรับอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ของพลเรือน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกแบบ และผลิตสินค้าในจำนวนมากๆ ภายใต้ต้นทุนที่ต่ำ หรือที่เรารู้จักกันภายใต้แนวคิด “การผลิตเชิงอุตสาหกรรม”
โดย Douglas Simpson มีแนวคิดที่จะสร้างเก้าอี้ซึ่งสามารถผลิตได้ในขั้นตอนเดียว ในกระบวนการเดียว โดยใช้วัตถุดิบเดียว และไม่ต้องประกอบชิ้นส่วนหลายชิ้นเข้าด้วยกัน
คำว่า Monobloc มาจากภาษาฝรั่งเศส โดย Mono หมายถึง “หนึ่งเดียว” ส่วน Bloc หมายถึง “ชิ้นเดียว”
ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะของเก้าอี้ที่ถูกฉีดขึ้นรูปจากพลาสติกในกระบวนการเดียว โดยไม่ต้องประกอบเพิ่มเติม
แนวคิดนี้ถือเป็นการปฏิวัติวงการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ในยุคนั้น เพราะช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มความแข็งแรง และทำให้สามารถผลิตได้จำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว
แม้ว่าแบบต้นแบบเก้าอี้ Monobloc ของ Douglas Simpson จะยังไม่สามารถผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ทันที เนื่องจากเทคโนโลยีการฉีดพลาสติกยังไม่พัฒนาเพียงพอ แต่แนวคิดของเขาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบและผู้ผลิตในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษ 1970
ที่บริษัท Allibert Group และ Grosfillex Group ในฝรั่งเศสเริ่มนำแนวคิด Monobloc มาผลิตในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง เก้าอี้พลาสติกแบบ Monobloc จึงเริ่มแพร่หลายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
ในด้านเทคนิค เก้าอี้ Monobloc ผลิตจากพลาสติกประเภทโพลีโพรพิลีน ซึ่งมีคุณสมบัติทนทาน น้ำหนักเบา และสามารถฉีดขึ้นรูปได้ง่าย โดยพลาสติกจะถูกหลอมที่อุณหภูมิประมาณ 220 องศาเซลเซียส แล้วฉีดเข้าไปในแม่พิมพ์ที่ออกแบบมาอย่างแม่นยำ
ซึ่งจุดฉีดมักอยู่บริเวณที่นั่งของเก้าอี้ เพื่อให้พลาสติกไหลไปยังทุกส่วนของแม่พิมพ์อย่างสม่ำเสมอ กระบวนการนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที และสามารถผลิตเก้าอี้ได้หลายร้อยตัวต่อวัน
ความสำเร็จของเก้าอี้ Monobloc ไม่ได้อยู่ที่ความซับซ้อนของการออกแบบ แต่อยู่ที่ความเรียบง่าย และประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Monobloc สามารถวางซ้อนกันได้เป็นชั้นๆ ทำให้ประหยัดที่เก็บ
อีกทั้งยังน้ำหนักเบาทำให้เคลื่อนย้ายสะดวก และทนต่อสภาพอากาศ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในร่ม และกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น “งานวัด” หรืองานเลี้ยงกลางแจ้ง ร้านอาหารริมทาง หรือแม้แต่ในสำนักงาน อาคารบ้านเรือน และโรงเรียน
Monobloc จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของโลกาภิวัตน์ และการผลิตแบบอุตสาหกรรมไปโดยปริยาย
Ethan Zuckerman นักสังคมวิทยา ได้กล่าวว่า Monobloc เป็นตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงผู้คนทุกชนชั้น ทุกวัฒนธรรม และทุกภูมิภาคของโลก ความเรียบง่ายของมันทำให้ไม่มีข้อจำกัดทางวัฒนธรรม หรือเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามารถผลิตได้ในราคาต่ำเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อ Monobloc 1 ตัว
อย่างไรก็ตาม ความแพร่หลายของ Monobloc ก็ทำให้เกิดข้อถกเถียงในแวดวงการออกแบบ บางคนมองว่า Monobloc นี้เป็น “ภัยของความเหมือน” ที่ทำให้โลกสูญเสียความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความงดงาม
ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งยกย่องว่าเป็น “วัตถุที่ออกแบบได้สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก” เพราะสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้
แม้จะมีข้อถกเถียง แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Douglas Simpson คือผู้วางรากฐานให้กับแนวคิด Monobloc ที่เปลี่ยนแปลงโลกของเฟอร์นิเจอร์อย่างสิ้นเชิง จากการทดลองในห้องวิจัยเล็กๆ ใน Canada สู่การผลิตในระดับหมื่นล้านชิ้นทั่วโลก
ทำให้ Monobloc คือบทพิสูจน์ ว่าแนวคิดที่เรียบง่ายแต่ล้ำลึกนั้น สามารถสร้างผลกระทบได้อย่างมหาศาลเพียงไร
ปัจจุบัน Monobloc ยังคงถูกผลิต และใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยมีการพัฒนาให้มีรูปทรง สีสัน และวัสดุที่หลากหลายมากขึ้น แม้จะยังคงรักษาแนวคิด “ชิ้นเดียว” ไว้เป็นหัวใจหลัก แต่ก็มีการปรับปรุงให้เหมาะกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคใหม่ ทั้งในด้านความสวยงาม ความทนทาน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กล่าวอย่างถึงที่สุดแล้ว ชื่อของ Douglas Simpson อาจมิใช่นามที่คนทั่วไปคุ้นเคย ทว่า ผลงานของเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลกอยู่อย่างเงียบๆ
เพราะ Monobloc หาใช่เพียงวัตถุที่เราใช้นั่งเท่านั้น หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์ ความเรียบง่าย และสุดยอดของพลังการออกแบบ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อย่างแท้จริงนั่นเองครับ.......................................................................................
เรี่อง : ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน
https://www.salika.co/2025/09/02/douglas-simpson-monobloc/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#ความคิดสร้างสรรค์ #พลาสติกฉีดขึ้นรูปแบบชิ้นเดียว #เก้าอี้Monobloc #เก้าอี้งานวัด

ที่อยู่

Dusit

เบอร์โทรศัพท์

+66610123210

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Salikaผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Salika:

แชร์