
15/07/2025
เพราะโลกวันนี้ ผู้ที่ได้เปรียบในการแข่งขันบนเวทีการค้าโลกไม่ใช่แค่ “ใครผลิตได้ถูกกว่า” แต่คือ “ใครเชื่อมโยงซัพพลายเชนได้แข็งแรง ยืดหยุ่น และทันโลกกว่ามากกว่า ถึงจะมีโอกาสกำชัยชนะมนการแข่งขันนี้ ยิ่งในอุตสาหกรรม EV และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ใครที่เร็วกว่า เข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยได้เร็วกว่า บริหารต้นทุนได้คุ้มค่ากว่าด้วย การใช้ Local Content หรือชิ้นส่วนในประเทศ บริษัทนั้นย่อมมีแต้มต่อเหนือคู่แข่ง เนื่องจากผู้ผลิตทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญกับ “ประสิทธิภาพการผลิต” ควบคู่กับ “ความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน” นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ เราจึงเดินทางมาถึงจุดที่การพัฒนา “Local Content ไทย” ไม่ใช่แค่ทางเลือกด้านต้นทุนอีกต่อไปแล้ว
แต่กลายเป็น “แต้มต่อเชิงกลยุทธ์” ที่ช่วยเชื่อมโยงผู้ผลิตไทยเข้าสู่ซัพพลายเชนโลก เสริมความยืดหยุ่น ลดความเสี่ยง และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาว
และล่าสุด ยังมีข่าวดีจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่ได้มีมติเห็นชอบ “มาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content)” เพื่อกระตุ้นให้นักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าซื้อวัตถุดิบในประเทศมากขึ้นเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและผลักดันผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ Supply Chain ระดับโลก
โดยมาตรการนี้ ถือเป็นหนึ่งในชุดมาตรการส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยเพื่อรองรับโลกยุคใหม่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ควบคู่กับการปกป้องอุตสาหกรรมที่มีความเปราะบาง รักษาระดับการแข่งขันให้เหมาะสม พร้อมลดความเสี่ยงจากมาตรการการค้าของสหรัฐฯ...............................................................................................
โดยในการประชุมบอร์ดบีโอไอครั้งก่อน ได้ออกมาตรการต่างๆ แล้ว ดังนี้
1. ส่งเสริมให้ SMEs ไทย ปรับปรุงประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
2. งดส่งเสริมกิจการที่มีภาวะสินค้าล้นตลาด (Oversupply) เช่น เหล็กทรงยาว เหล็กแผ่นรีดร้อน ท่อเหล็ก และกิจการที่มีความเสี่ยงต่อมาตรการการค้าของสหรัฐฯ เช่น การผลิตแผงโซลาร์
3. เพิ่มความเข้มข้นในการพิจารณากระบวนการผลิตที่เป็นสาระสำคัญของโครงการที่จะขอรับการส่งเสริม เพื่อป้องกันการสวมสิทธิและให้มีมูลค่าเพิ่มจากการผลิตในประเทศไทยมากขึ้น
4. กำหนดสัดส่วนการจ้างงานบุคลากรไทยมากกว่าร้อยละ 70 ในกิจการผลิต และกำหนดเงื่อนไขเงินเดือนขั้นต่ำ 50,000-150,000 บาท สำหรับบุคลากรต่างชาติ เพื่อคัดกรองเฉพาะต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญสูง................................................................................................
และล่าสุดบีโอไอได้ออก “มาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content)” เพื่อปลดล็อกโอกาสใหม่ให้ผู้ผลิตไทยก้าวสู่แถวหน้าในห่วงโซ่โลกโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่าง EV และเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติม คือ
1. ลดการพึ่งพาการนำเข้า ได้แต้มภาษีเพิ่มอีก 2 ปี
จูงใจผู้ประกอบการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ โดยส่งเสริมให้เลือกใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในไทยแทน หากใช้ชิ้นส่วนในประเทศตามสัดส่วนที่กำหนด และได้การรับรอง MiT (Made in Thailand) จะได้สิทธิ ลดหย่อนภาษีนิติบุคคล 50% เพิ่มเติมอีก 2 ปี
2. เปิดทางผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ Global Supply Chain อย่างแท้จริง
ผลักดัน การใช้ Local Content มาต่อเนื่องผ่านกิจกรรมอย่าง เช่น Subcon Thailand และ Sourcing Day ทำให้วันนี้ผู้ผลิตต่างชาติจำนวนมากเริ่มหันมาใช้ชิ้นส่วนจากไทย สร้างโอกาสใหม่ให้ผู้ผลิตไทย โดยเฉพาะ SMEs ที่มีศักยภาพในการผลิตวัตถุดิบและชิ้นส่วนคุณภาพสูง
3. ยกระดับความร่วมมือในประเทศ สู่การพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกัน
เมื่อมีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากขึ้น โอกาสในการร่วมพัฒนา (Co-develop) ระหว่างผู้ผลิตไทยกับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ก็จะมากขึ้น ทำให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ ยกระดับมาตรฐาน และพัฒนาแรงงานไทยไปพร้อมกัน
4. กระจายเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ เสริมเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง
นโยบาย Local Content คือ การสร้าง “การเติบโตแบบหมุนเวียนในประเทศ” เป็นการยกระดับมาตรฐานการผลิตและความยั่งยืนในระยะยาว...............................................................................................
โดยในประเด็นการสนับสนุนการใช้วัตถุดิบในประเทศ MiT ใน “มาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทย” (Local Content) ที่บอร์ดบีโอไอ ได้เห็นชอบเพิ่มเติมในครั้งนี้ จะใช้สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า BEV, PHEV, ชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะกำหนดสัดส่วน ดังนี้ หากโครงการยานยนต์ไฟฟ้า BEV และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่าร้อยละ 40, PHEV ที่มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่าร้อยละ 45 และชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าที่มีการใช้วัตถุดิบในประเทศมากกว่าร้อยละ 15 ของมูลค่าวัตถุดิบทั้งหมด และได้รับการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย (Made in Thailand: MiT) จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 50 เพิ่มเติมอีก 2 ปี
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บีโอไอได้สนับสนุนให้บริษัทที่เข้ามาลงทุนใช้ชิ้นส่วนจากผู้ประกอบการในประเทศผ่านการจัดกิจกรรม Subcon Thailand และ Sourcing Day อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปัจจุบันผู้ผลิตจากต่างประเทศเริ่มมีการใช้วัตถุดิบในประเทศมากขึ้น แต่เพื่อเร่งรัดให้เกิดการใช้ Local Content สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อย่างยานยนต์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า
โดยบีโอไอจึงได้หารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมฯ สถาบันยานยนต์ และสถาบันไฟฟ้าฯ เพื่อเสนอมาตรการส่งเสริมการใช้ Local Content ที่จะช่วยกระตุ้นให้เพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศตามที่บอร์ดบีโอไอกำหนด จึงจะสามารถขอรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมได้ ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศ กระตุ้นให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี และเสริมสร้าง Supply Chain ในประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า ถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทั้งด้านเม็ดเงินลงทุน การจ้างงาน การส่งออก การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนในประเทศ โดยที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2565 ถึงเดือนพฤษภาคม 2568 มีโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน รวมทั้งสิ้น 65 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 96,000 ล้านบาท และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า มีจำนวน 68 โครงการ เงินลงทุนรวมกว่า 96,800 ล้านบาท...............................................................................................
https://www.salika.co/2025/07/14/local_content_industry_thailand_investment_policy/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#ผู้ประกอบการไทย #มาตรการส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ #อุตสาหกรรม #เครื่องใช้ไฟฟ้า