Salika พื้นที่ของความรู้และความคิดสร้างสรรค์เพื่อการ
เปลี่ยนแปลง จากการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาศักยภาพของผู้คน สังคม และธุรกิจ

นายวิทัย รัตนากร กล่าวภายหลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนที่ 25 ว่า ถือเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ...
02/10/2025

นายวิทัย รัตนากร กล่าวภายหลังเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนที่ 25 ว่า ถือเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ โดยภารกิจหลักยังคงยึดมั่นในเรื่องของการดูแลรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค และมีความเป็นอิสระทางการเมือง
ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว ธปท.เป็นหน่วยงานมีหน้าที่โดยตรงในการดูแลเศรษฐกิจ ยินดีจะร่วมมือกับกระทรวงการคลัง และทุกหน่วยงานที่จะดูแลประคับประคองเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีสมดุลสู่ศักยภาพที่ควรจะเป็น เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน เพื่อสร้างเสถียรภาพและมีความเป็นอิสระจากการเมือง
https://www.salika.co/2025/10/01/salika-news-vol-274-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

ไม่น่าเชื่อว่า สิ่งที่อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore ได้ออกมารณรงค์เคลื่อนไหวเป็นคนแรกๆ ของโลกเมื่อกว่า 40 ปีก่อนนั่น...
01/10/2025

ไม่น่าเชื่อว่า สิ่งที่อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore ได้ออกมารณรงค์เคลื่อนไหวเป็นคนแรกๆ ของโลกเมื่อกว่า 40 ปีก่อน
นั่นคือ ประเด็นเกี่ยวกับ “สภาวะโลกร้อน” จะกลายเป็นกระแสที่ผู้คนในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกันเป็นอย่างมาก
ไม่ต้องเอ่ยถึงประเทศไหนให้ไกลตัว เอาแค่ในบ้านเรานี่แหละ ที่ปีที่แล้ว เราได้สัมผัสได้ถึง “ความร้อน” ที่เกิดขึ้นมากกว่าในอดีตที่ผ่านมาเป็นเวลานับ 100 ปีเลยทีเดียว!
แน่นอน ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า “สภาวะโลกร้อน”
ดังนั้น ทั้งโลก และไทย มันถึงได้ร้อนตับแตกแบบนี้ และไม่ว่าจะ “สภาวะโลกร้อน” หรือ Global Warming
หรือจะ Climate Change หรือจะ Greenhouse Effect หรือจะ Greenhouse Gas ก็ล้วนเป็นคำที่สื่อความหมายไปในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ “หายนะของโลก”
ทั้งหมดนี้ นำมาสู่ ศัพท์ใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Carbon Neutrality หรือ “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” หรือ Decarbonization (การลดปริมาณคาร์บอน)
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมองย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1981 ที่อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore ได้ออกมารณรงค์เรื่องนี้เป็นคนแรกๆ ของโลก
กับบทบาทนักการเมืองแถวหน้า ซึ่งเป็นผู้นำการเคลื่อนไหว และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาวิกฤตสภาพอากาศในฐานะมือวางอันดับ 1
โดยเพิ่งจะไม่นานมานี้ ที่มีการเกิดขึ้นของศัพท์ใหม่ในแวดวงนักบริหาร นั่นคือ Climate Leadership หรือ “ภาวะผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศ”
ดังที่กล่าวไป ว่าเป็นเวลากว่า 40 ปี ที่อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore เป็นแนวหน้าในการเคลื่อนไหวเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติสภาพภูมิอากาศโลก
ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่มี “ภาวะผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศ” หรือ Climate Leadership เจ้าของฉายา “อัศวินโลกร้อน” ผู้มาก่อนกาล
ทั้งนี้เนื่องเพราะ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore เป็นผู้ที่ให้ความสำคัญกับวิกฤติสภาพอากาศ และเป็นผู้นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา
ตลอดอาชีพการทำงานของเขา ทั้งในฐานะสมาชิกสภาคองเกรส วุฒิสมาชิก และรองประธานาธิบดี ในสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Al Gore ได้เป็นผู้ที่จัดให้มีการไต่สวนครั้งแรกเกี่ยวกับ “ภาวะโลกร้อน” ที่มนุษย์สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1981 ในวุฒิสภา
ซึ่ง Al Gore ได้จัดให้มีการพิจารณาคดีหลายครั้งเกี่ยวกับวิกฤติสภาพภูมิอากาศ และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม “โลกร้อน” ในระดับนานาชาติ
เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอของเขา สำหรับแผน Global Marshall ที่มุ่งเน้น “การตอบสนองระดับโลกที่เป็นหนึ่งเดียวต่อวิกฤติสิ่งแวดล้อม”
ในฐานะรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore ได้มุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาวิกฤติสภาพภูมิอากาศ และสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีลดคาร์บอน
ผ่านโครงการริเริ่มให้มีนวัตกรรมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความร่วมมือในการสร้างสรรค์ยานยนต์รุ่นใหม่เพื่อทดแทนเครื่องยนต์สันดาปภายใน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความพยายามที่จะปรับปรุงการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และ Al Gore เป็นผู้กระตุ้นให้เกิดการดำเนินโครงการ GLOBE
ที่ส่งเสริม และสนับสนุน ให้เกิดความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมของเยาวชนในโรงเรียนหลายหมื่นแห่งทั่วโลก นับจากในปี ค.ศ. 1998 เป็นต้นมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Al Gore ได้ท้าทาย NASA ให้สร้างดาวเทียมสำรวจโลกจากจุด La Grangian 1 ที่ช่วยให้มนุษยชาติเข้าใจวิกฤตสภาพอากาศจากมุมมองใหม่
โดยเฉพาะอย่าง โครงการ DSCOVR ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก นับจากการเปิดตัวเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2015
และนับตั้งแต่หมดวาระรองประธานาธิบดี Al Gore ยังคงความพยายามอย่างต่อเนื่อง และเข้มข้นขึ้น เพื่อกระตุ้นการดำเนินการเกี่ยวกับสภาพอากาศ
ในเวทีระหว่างประเทศ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore มีบทบาทสำคัญในสนับสนุน และส่งเสริมการดำเนินการระดับโลกเกี่ยวกับวิกฤติสภาพภูมิอากาศ
เช่นปี ค.ศ. 1992 ที่เขาได้นำคณะผู้แทนวุฒิสภาสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดของสหประชาชาติ ว่าด้วยสิ่งแวดล้อมโลก หรือ Earth Summit
ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นเวทีสำหรับการกำหนดกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
และในฐานะรองประธานาธิบดีฯ ในขณะนั้น เขาเป็นด่านหน้าของ “พิธีสารเกียวโต” 1997 ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศฉบับแรกที่ว่าด้วยวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
Al Gore ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอดระหว่างประเทศหลายครั้ง รวมถึงการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบาหลี (COP13) ในปี ค.ศ. 2007
การประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติในเดือนกันยายน 2014 การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกรุงลิมา (COP20) ในเดือนธันวาคม 2014
การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกรุงปารีส (COP21) ในปี 2015 การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลาสโกว์ (COP26) ในปี 2021
และการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศชาร์ม เอล-เชค (COP27) ในปี 2022 เพื่อสร้างความตระหนักรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิกฤติสภาพอากาศ
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 2007 ที่ Al Gore ได้ร่วมก่อตั้ง Live Earth คอนเสิร์ตใหญ่ ซึ่งรวบรวมนักดนตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลก 150 คน เปิดการแสดงใน 7 ทวีป
ซึ่งเข้าถึงผู้คนกว่า 2 พันล้านคนใน 30 ประเทศ และในปีเดียวกัน เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จากคณะกรรมการรางวัลโนเบล ประเทศสวีเดน
ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ “การแจ้งให้โลกทราบถึงอันตรายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”
ในวันนี้ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore ยังคงทำงาน ในฐานะผู้นำการเคลื่อนไหวระดับโลก เพื่อแก้ไขวิกฤติสภาพอากาศ
ในฐานะประธาน Climate Reality Project ซึ่งเป็นองค์กรที่เขาก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2005 โดยได้ฝึกอบรมนักเคลื่อนไหวหลายหมื่นคนเกี่ยวกับวิกฤติสภาพภูมิอากาศ
และในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Climate TRACE อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore กำลังทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์
และนักวิเคราะห์อุตสาหกรรม มุ่งสร้างบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทุกประเทศทั่วโลก โดยรวบรวมข้อมูลเพื่อแก้ไขสภาพอากาศให้ดีขึ้น
อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore ได้ตีพิมพ์หนังสือ 5 เล่มเกี่ยวกับวิกฤติสภาพภูมิอากาศ และทั้งหมดเป็นหนังสือระดับ Best Sellers ทั้งสิ้น ซึ่งได้แก่
Earth in the Balance, An Inconvenient Truth, The Assault on Reason, Our Choice: A Plan to Solve the Climate Crisis และ The Future: Six Drivers of Global Change
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดัดแปลงหนังสือ An Inconvenient Truth ของเขาเอง เป็นบทภาพยนตร์สารคดีที่โด่งดังก้องโลก และขึ้นชั้นหนัง Classic ตลอดกาลไปแล้ว
An Inconvenient Truth นำเสนอข้อมูล รูปถ่าย วิดีโอคลิป เหตุการณ์ และผลกระทบทั้งหมด ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิกฤติสภาพแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญอยู่
อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ Al Gore เป็นผู้สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมที่จริงจังมาก เขาเดินทางไปทั่วโลกเพื่อนำเสนอเรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
บอกข้อมูลที่ชี้ว่า มนุษยชาติกำลังเผชิญหน้ากับอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ และต้องเผชิญกับภัยพิบัติใหญ่ที่กำลังจะตามมาในอีกไม่นานนี้
An Inconvenient Truth จึงเป็นบทเรียนว่าด้วยหายนะของโลก และสิ่งแวดล้อม มันคือความจริงที่จะช็อคทุกคน ด้วยหลักฐาน และข้อมูลจริงทั้งหมด
ถือเป็นภาพยนตร์สารคดีเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์ถึง 2 สาขาในปีเดียวกัน นั่นคือ สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม และสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
An Inconvenient Truth ทำรายได้รวมทั่วโลกมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ครับ..................................................................................
เรื่อง : ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน
https://www.salika.co/2025/09/30/al-gore-climate-leadership/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#สภาวะโลกร้อน

ผลวิจัย OpenAI และ NBER ชี้ ผู้ใช้กว่า 700 ล้านคนทั่วโลกหันมาใช้ ChatGPT เป็น “ผู้ช่วยคิดและตรวจแก้” มากกว่าผู้ผลิตเนื้อ...
01/10/2025

ผลวิจัย OpenAI และ NBER ชี้ ผู้ใช้กว่า 700 ล้านคนทั่วโลกหันมาใช้ ChatGPT เป็น “ผู้ช่วยคิดและตรวจแก้” มากกว่าผู้ผลิตเนื้อหา นักสื่อสารควรพัฒนา Prompt Engineering และกลยุทธ์ AEO เพื่อตอบโจทย์ยุค AI โดยการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในแทบทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะงานสื่อสารและการตลาดองค์กร ที่ต้องเผชิญกับความคาดหวังที่สูงขึ้นจากผู้บริโภคและสังคม บทบาทของนักสื่อสารจึงไม่ได้หยุดอยู่เพียงการผลิตเนื้อหา แต่ต้องพัฒนาไปสู่การวางกลยุทธ์ วิเคราะห์ข้อมูล และถ่ายทอดสารอย่างแม่นยำ
นายสราวุธ บูรพาพัธ ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เพื่อการสื่อสารองค์กร กล่าวว่า ผลวิจัยพบว่า 40% ของข้อความไม่ได้เน้นการผลิตเนื้อหาใหม่ หากแต่ใช้เพื่อแก้ไข วิจารณ์ ปรับโทนเสียง สรุป หรือแปลข้อความ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการใช้งานทั้งหมด สะท้อนว่า ChatGPT ไม่ใช่แค่ “เครื่องมือผลิตเนื้อหา” แต่เป็น “ผู้ช่วยปรับแต่งเนื้อหา” อย่างมีประสิทธิภาพ สรุปว่า ยุค AI นักสื่อสารควรปรับวิธีนำเสนอให้ตอบโจทย์การค้นหาข้อมูลแบบตอบทันที (instant answers) ผลิตเนื้อหาแนว How-to และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการทำ AEO (Answer Engine Optimization) หากรู้จักใช้ AI อย่างเหมาะสม ไม่เพียงได้ผู้ช่วยอัจฉริยะ แต่ยังสามารถเพิ่มคุณค่าของบทบาทนักสื่อสารในระดับองค์กรและสังคมได้อย่างชัดเจน
https://www.salika.co/2025/09/30/salika-news-vol-273-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

เสียงที่ดังก้องจากโน้ตของหมอลำและท่วงทำนองพื้นบ้านอีสานซ่อนพลังแห่งการเยียวยาที่ลึกซึ้ง งาน “สุนทรียภาพเสียงเพื่อสุขภาวะ...
01/10/2025

เสียงที่ดังก้องจากโน้ตของหมอลำและท่วงทำนองพื้นบ้านอีสานซ่อนพลังแห่งการเยียวยาที่ลึกซึ้ง งาน “สุนทรียภาพเสียงเพื่อสุขภาวะแบบอีสาน” (Isan Wellness Soundscape) ภายใต้การสนับสนุนของ บพข. ได้เน้นย้ำให้เห็นว่าเสียงดนตรีไม่ใช่เพียงความบันเทิง แต่คือเครื่องมือสร้างสมดุลทั้งกาย ใจ และสังคม งานวิจัยนี้รวบรวมบทเพลงท้องถิ่นและเสียงพิธีกรรมของชุมชนอีสาน นำมาประยุกต์ในบริบทสมัยใหม่ เพื่อสร้างสุขภาวะแบบองค์รวมแก่ผู้คน ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
บพข. ทำหน้าที่เสมือนผู้ผลักดันให้เสียงเหล่านี้เติบโตจาก “ทุนทางวัฒนธรรม” สู่ “นวัตกรรมสุขภาวะ” ที่เข้าถึงและสร้างคุณค่าได้อย่างยั่งยืน ดนตรีพื้นบ้านอีสานกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอดีตและปัจจุบัน ระหว่างท้องถิ่นและสากล และระหว่างวิทยาศาสตร์สุขภาวะกับภูมิปัญญาไทย บพข. จึงไม่ได้เป็นเพียงผู้สนับสนุนทุน แต่คือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ความงดงามและคุณค่าของเสียงท้องถิ่นสามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้ในโลกยุคใหม่................................................................................
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.salika.co/2025/09/30/pmuc-isan-wellness-soundscape/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#ความคิดสร้างสรรค์ #บพข #เสียงดนตรี #โลกที่มีสุขภาวะ

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ (29 ก.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่าจะเรียกเก็บภาษีร้อยละ 100 กับ...
01/10/2025

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ (29 ก.ย.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เผยว่าจะเรียกเก็บภาษีร้อยละ 100 กับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผลิตนอกสหรัฐฯ โดยอ้างว่าประเทศอื่นๆ ขโมยธุรกิจการสร้างภาพยนตร์ไปจากสหรัฐฯ ราวกับ “ขโมยลูกอมจากเด็กทารก”
สื่อท้องถิ่นรายงานว่าทรัมป์ยังไม่ได้ระบุชัดว่าจะเริ่มเก็บภาษีดังกล่าวเมื่อไหร่ หรือรัฐบาลของเขาจะคำนวณมูลค่าของภาพยนตร์อย่างไร และคำสั่งนี้จะมีผลกับภาพยนตร์ที่ถ่ายทำบางส่วนในต่างประเทศอย่างไร
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม ทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีร้อยละ 100 กับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผลิตในต่างประเทศที่นำเข้ามาฉายในสหรัฐฯ
ทรัมป์ระบุว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในอเมริกากำลังตายอย่างรวดเร็ว และอ้างว่าประเทศอื่นๆ เสนอแรงจูงใจสารพัดเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้สร้างและสตูดิโอภาพยนตร์ให้ถอนตัวออกจากสหรัฐฯ สิ่งนี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งยังเป็นการส่งข้อความและโฆษณาชวนเชื่ออีกด้วย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากพรรคเดโมแครตประจำรัฐแคลิฟอร์เนียเคยวิพากษ์วิจารณ์กรณีทรัมป์ผลักดันให้เรียกเก็บภาษีจากภาคส่วนภาพยนตร์ โดยเตือนว่าอาจส่งผลให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น
https://www.xinhuathai.com/vdo/513116_20250505
https://www.salika.co/2025/09/30/salika-news-vol-273-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

สำนักข่าวซินหัว ระบุ ช่วงเช้าวันอาทิตย์ (28 ก.ย.) มณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้เปิดใช้งานสะพานข้ามโกรกธารฮวาเจ...
30/09/2025

สำนักข่าวซินหัว ระบุ ช่วงเช้าวันอาทิตย์ (28 ก.ย.) มณฑลกุ้ยโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ได้เปิดใช้งานสะพานข้ามโกรกธารฮวาเจียงหรือแกรนด์แคนยอนฮวาเจียง ซึ่งเป็นสะพานที่สูงสุดในโลก ลดเวลาเดินทางข้ามหุบเขาลึกจากเดิม 2 ชั่วโมงเหลือเพียง 2 นาที
รายงานระบุว่าสะพานข้ามโกรกธารฮวาเจียงตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาสูงของกุ้ยโจว มีช่วงสะพานหลักยาว 1,420 เมตร สูงเหนือแม่น้ำเป่ยผานด้านล่าง 625 เมตร ซึ่งสูงกว่าสะพานโกลเดนเกตในนครซานฟรานซิสโกของสหรัฐฯ เกือบ 9 เท่า กลายเป็นสะพานแขวนแบบโครงสร้างเหล็กถักที่มีช่วงสะพานยาวที่สุดในโลกที่สร้างบนพื้นที่ภูเขา
สะพานแห่งนี้ที่มีความยาวรวม 2,890 เมตร ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานแห่งใหม่ล่าสุดของโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของจีน ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างนาน 3 ปี และพาดข้ามโกรกธารฮวาเจียงหรือแกรนด์แคนยอนฮวาเจียง เจ้าของฉายา “รอยแยกของโลก”
อนึ่ง อดีตสะพานที่สูงสุดในโลก ซึ่งข้ามแม่น้ำเป่ยผานเช่นกัน ตั้งอยู่ห่างจากสะพานข้ามโกรกธารฮวาเจียงเพียงกว่า 100 กิโลเมตร เปิดใช้งานเมื่อปี 2016 มีระยะความสูงจากพื้นผิวสะพานถึงพื้นผิวแม่น้ำด้านล่างอยู่ที่ 565.4 เมตร
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา “กุ้ยโจว” หนึ่งในมณฑลที่มีการพัฒนาน้อยที่สุดของจีน ได้ก่อสร้างสะพานในพื้นที่ภูเขาสูงมากกว่า 30,000 แห่ง ซึ่งสามแห่งจัดอยู่ในกลุ่มสะพานที่สูงสุดในโลก โดยสะพานเกือบครึ่งหนึ่งของกุ้ยโจวจัดอยู่ในกลุ่มสะพานที่สูงสุด 100 อันดับแรกของโลก
https://www.xinhuathai.com/vdo/535961_20250928
https://www.salika.co/2025/09/29/salika-news-vol-272-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

จากรายงาน Global Green Skills Report 2024 ระบุว่า แนวโน้มความต้องการในตลาดแรงงานที่เกี่ยวข้องกับทักษะความยั่งยืนและความส...
30/09/2025

จากรายงาน Global Green Skills Report 2024 ระบุว่า แนวโน้มความต้องการในตลาดแรงงานที่เกี่ยวข้องกับทักษะความยั่งยืนและความสำคัญของทักษะสีเขียว ซึ่งจัดทำโดย Linkedin Economy Graph พบว่าระหว่างปี 2023 – 2024 ความต้องการบุคลากรที่มีทักษะสีเขียว (Green Talent Demand) ทั่วโลก เพิ่มขึ้นถึง 11.6% ซึ่งเร็วกว่าการเติบโตของจำนวนบุคลากรทักษะสีเขียว (Green Talent Supply) ที่เพิ่มขึ้นเพียง 5.6%
นอกจากนี้อัตราการจ้างงาน (Hiring rate) บุคลากรในด้านนี้ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของแรงงานทั่วไปถึง 54.6% โดยตัวเลขนี้สูงขึ้นไปอีกในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา 80.3% และไอร์แลนด์ 79.8% สะท้อนถึงความต้องการบุคลากรที่มีทักษะสีเขียว ซึ่งยังมีปริมาณไม่เพียงพอ อีกทั้ง การพัฒนาหลักสูตรจากสถาบันอุดมศึกษาเพียงอย่างเดียวอาจล่าช้าเกินไป จำเป็นจะต้องมีการเสริมทักษะและพัฒนาทักษะด้านนี้อย่างเป็นรูปธรรมให้กับบุคลากรวัยทำงานในปัจจุบันควบคู่ไปด้วย เพื่อสร้างงานสีเขียวที่เป็นงานใหม่และงามเดิมที่เพิ่มเติมทักษะสีเขียว
ด้วยความจำเป็นเร่งด่วนนี้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จึงได้จัดทำข้อมูลศึกษาทักษะและองค์ความรู้ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวที่พึงประสงค์ในบริบทของอุตสาหกรรมไทย เพื่อวางยุทธศาสตร์และนโยบายด้าน อววน. ตอบเป้าหมายประเทศและสามารถปรับตัวประเทศไทยกับแนวโน้มในอนาคตได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งวางกรอบแนวทางให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในหลายมิติ

หนึ่งในผลการศึกษาที่น่าสนใจ คือ 8 ความรู้และทักษะที่มีความจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน ประกอบด้วย
1. การคิดเชิงระบบ : ความสามารถในการเข้าใจว่าปัญหาหรือโอกาสที่เกิดขึ้นมักจะเป็นส่วนหนึ่งขององค์รวมที่ใหญ่กว่า ดังนั้นการจะแก้ไขปัญหาใด ๆ จำเป็นจะต้องเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างแต่ละชิ้นส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นระบบใหญ่
2. การคิดเชิงอนาคต : ความสามารถในการคาดการณ์สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากการดำเนินการในปัจจุบัน แม้จะไม่สามารถคาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็ทำให้มีความพร้อมและสามารถวางแผนการจัดการได้ดีขึ้น
3. การคิดแบบเชิงหมุนเวียน : เห็นว่าของเสียและมลภาวะ ไม่ใช่สิ่งสุดท้ายที่เกิดในกระบวนการผลิต แต่สามารถนำกลับมาผลิตเป็นวัสดุหรือสร้างทรัพยากรขึ้นมาใหม่ได้
4. การคิดเชิงออกแบบ : ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานและแก้ปัญหาโดยมองผู้ใช้เป็นจุดศูนย์กลาง เปิดใจและพร้อมเรียนรู้ หาโอกาสจากความคลุมเครือของปัญหา
5. ศาสตร์แห่งความยั่งยืน : เข้าใจระบบของโลก สิ่งแวดล้อม เศรษฐศาสตร์และสังคม เข้าใจการเปลี่ยนแปลงและการพยากรณ์สภาพอากาศ อุทกวิทยา สิ่งแวดล้อม บัญชีและระบบนิเวศ
6. ทักษะดิจิทัล : สามารถใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศในการสื่อสาร เข้าถึงและจัดการข้อมูล
7. สหสาขาวิชา : ความสามารถในการทำงาน สื่อสารกับบุคลากรหรือหน่วยงานที่ทำงานต่างสาขากัน หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อนำไปใช้ออกแบบและหาทางออกร่วมกัน
8. การจัดการความเปลี่ยนแปลง : ทักษะที่ใช้ในการสร้างและชี้นำความเปลี่ยนแปลงให้เกิดในองค์กร รวมถึงการเตรียมพร้อมต่อเหตุสุดวิสัย ความไม่ย่อท้อ รู้จักสร้างชัยชนะในระยะสั้น และสร้างพันธมิตรเพื่อช่วยในการเปลี่ยนแปลง
โดยทักษะ 8 ข้อข้างต้น เป็นส่วนของ Green Skills หรือทักษะที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืนโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ต้องมีความเข้าใจเนื้องานควบคู่ไปด้วย................................................................................
และตัวอย่างทักษะที่ต้องการเร่งด่วนและสำคัญต่อการลดคาร์บอนในระยะสั้นเฉพาะภาคส่วน (Top 3 Sector-specific) เช่น
1. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า : ต้องการทักษะเกี่ยวกับมอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motors) เชื้อเพลิงทางเลือก (Alternative Fuels) และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (Energy Efficiency)
2. อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต : ต้องการทักษะเกี่ยวกับเกษตรอัจฉริยะเพื่อสภาพภูมิอากาศ (Climate Smart Agriculture) กลยุทธ์การลดขยะอาหาร (Food Waste Reduction Strategies) และระบบพลังงานอาหารแบบบูรณาการ (Integrated Food-energy Systems)
3. อุตสาหกรรมดิจิทัล : ต้องการทักษะเกี่ยวกับการประมวลผลแบบสีเขียว (Green Computing) ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grids Systems) และการติดตามการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Management Monitors)
การเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน และการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Resilience) จำเป็นต้องอาศัยทักษะและองค์ความรู้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียว (Green Skills and Knowledge Concepts) เพื่อก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ ลดการปลดปล่อยคาร์บอน การพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียน และการปกป้องธรรมชาติรวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนอกจากจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนแล้ว ยังตอบโจทย์แนวโน้มอาชีพและทักษะสีเขียวที่เป็นที่ต้องการในอนาคตด้วย................................................................................
ืั้ที่มา
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1146429367587155&set=a.598080692422028fbid=1146429367587155&set=a.598080692422028
https://www.salika.co/2025/09/29/8-green-skills-needed-for-industry/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#ทักษะสีเขียว #อุตสาหกรรมเป้าหมาย

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือนสิงหาคม 2568 มีม...
30/09/2025

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ เดือนสิงหาคม 2568 มีมูลค่าการค้ารวม 63,938 ล้านบาท (-23.6%) เป็นการส่งออก 33,951 ล้านบาท (-30.1%) การนำเข้า 29,986 ล้านบาท (-14.5%) และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 3,965 ล้านบาท
โดยการค้าชายแดนกับมาเลเซียมีมูลค่าสูงสุด 26,969 ล้านบาท (-5.7%)
รองลงมา คือ สปป.ลาว 23,131 ล้านบาท (-0.1%)
เมียนมา 13,827 ล้านบาท (-20.8%)
และกัมพูชา 10 ล้านบาท (-99.9%)
ซึ่งสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญในเดือนสิงหาคม 2568 ได้แก่ น้ำมันดีเซล 2,051 ล้านบาท เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ 1,350 ล้านบาท และน้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 1,117 ล้านบาท ทำให้ 8 เดือนแรกของปี 2568 การค้าชายแดนมีมูลค่ารวม 636,219 ล้านบาท (-3.6%) เป็นการส่งออก 377,902 ล้านบาท (-6.7%) และการนำเข้า 258,317 ล้านบาท (+1.2%)
https://www.salika.co/2025/09/29/salika-news-vol-272-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ (All Time High) โดยระหว่างวัน ทองรูปพรรณขายออกแตะ ...
30/09/2025

ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศยังคงทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ (All Time High) โดยระหว่างวัน ทองรูปพรรณขายออกแตะ 59,150 ก่อนเจอแรงขายปรับลงมา โดยปิดวันราคาทองทยอยปรับขึ้น-ลง 22 ครั้ง รวมพุ่งขึ้น 800 บาท
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน & ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำวันนี้ (29 ก.ย.) ขยับขึ้นทะลุระดับ 3,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ โดยโดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ อีกทั้งข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังช่วยหนุนราคา ขณะที่เครื่องมือ CME FedWatch Tool ชี้ว่านักลงทุนว่า 89% คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมครั้งถัดไป
https://www.salika.co/2025/09/29/salika-news-vol-272-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เปิดเผยอัตราการว่างงานในกลุ่มแรงงานจบใหม่อายุ 15-24 ปี พุ่งขึ้นแต...
30/09/2025

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เปิดเผยอัตราการว่างงานในกลุ่มแรงงานจบใหม่อายุ 15-24 ปี พุ่งขึ้นแตะ 18.9% ในไตรมาสสองของปีนี้ ถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวลต่อทิศทางตลาดแรงงานไทย
นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน SCB EIC กล่าวว่า ผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา จำเป็นต้องเร่งปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะเอไอกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ภาครัฐควรเร่งออกมาตรการรองรับ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบจับคู่แรงงานกับนายจ้าง (Job-matching) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะแม้บางธุรกิจยังมีความต้องการแรงงาน แต่การขาดกลไกเชื่อมโยงที่เหมาะสมทำให้แรงงานและนายจ้างไม่สามารถพบกันได้ นอกจากนี้ควรเร่งผลักดันการยกระดับทักษะแรงงาน (upskill) และการเรียนรู้ทักษะใหม่ (reskill) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล
https://www.salika.co/2025/09/29/salika-news-vol-272-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกโครงการคนละครึ่ง ได้กลายเป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมและอยู่ในความทรงจำของค...
30/09/2025

นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกโครงการคนละครึ่ง ได้กลายเป็นหนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมและอยู่ในความทรงจำของคนไทย ด้วยรูปแบบที่เข้าใจง่ายและตอบโจทย์การลดภาระค่าครองชีพรายวัน พร้อมๆ กับการอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่เศรษฐกิจฐานรากผ่านร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ
ล่าสุดกระแสของโครงการ “คนละครึ่ง” ได้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากที่ “รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล” ได้ประกาศนำนโยบายนี้กลับมาปัดฝุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ และสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษีมากยิ่งขึ้น
บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ dxt:360 เพื่อฟังเสียงในสื่อสังคมออนไลน์ (Social Listening) ในช่วงวันที่ 4 กันยายน – 21 กันยายน 2568 เพื่อถอดรหัสว่า ประชาชนอยากเห็นโครงการ “คนละครึ่ง” ในรูปแบบใดเมื่อมีการนำกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งจะเผยให้เห็น Insight ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการพูดคุยในสังคมออนไลน์ครั้งนี้....................................................................................
:: เสียงโซเชียลสะท้อน “คนละครึ่ง” ในมุมมองประชาชน ::
จากการรวบรวมข้อมูลบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย พบว่าเสียงส่วนใหญ่แสดงความต้องการให้โครงการกลับมาอย่างชัดเจน โดยมีข้อเสนอและความคาดหวังที่น่าสนใจใน 3 ประเด็นหลัก ดังนี้
1. วงเงินและระยะเวลา (50%)
* ประชาชนจำนวนมากคาดหวังว่าโครงการจะกลับมาพร้อมวงเงินที่เหมาะสม ไม่น้อยไปกว่าเฟสก่อนๆ และมีการปรับเพิ่มวงเงินการใช้จ่ายในแต่ละวัน เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบัน
* นอกจากจำนวนเงินแล้ว ประเด็นเรื่อง ระยะเวลาและความต่อเนื่อง ก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยมีเสียงเรียกร้องให้โครงการมีระยะยาวนานขึ้นหรือแบ่งเป็นหลายเฟสย่อย เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้อย่างต่อเนื่อง
2. เงื่อนไขและการลงทะเบียน (40%)
* ไม่ควรให้สิทธิ์ซ้ำกับผู้ที่เคยได้รับ “เงินหมื่นดิจิทัล” มีเสียงเสนอว่า ผู้ที่เคยได้รับสิทธิโครงการ “เงินหมื่นดิจิทัล” ไปแล้วไม่ควรได้รับสิทธิคนละครึ่งซ้ำอีก โดยให้เหตุผลว่า ควรกระจายความช่วยเหลือให้กับผู้ที่ยังไม่เคยได้รับโอกาส เพื่อไม่ให้งบประมาณของประเทศไปกระจุกตัวอยู่ที่คนกลุ่มเดิม
* ไม่ควรตัดสิทธิ์ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เนื่องจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นการ “แบ่งแยกประชาชน” และ “ซ้ำเติมกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุด” ในสังคม กลุ่มที่มีความเห็นนี้จึงเสนอให้คนไทยทุกคนได้รับสิทธิ์อย่างเท่าเทียมกัน
* ควรใช้แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่มีอยู่แล้ว เป็นข้อเสนอที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นการประหยัดงบประมาณ ไม่ต้องเสียเงินไปกับการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ที่ซ้ำซ้อน และประชาชนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับระบบเดิมอยู่แล้ว
3. ร้านค้าและผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วม (10%)
* ประชาชนส่วนหนึ่งเห็นด้วยกับการจำกัดการใช้จ่ายเฉพาะร้านค้าขนาดเล็ก หรือร้านหาบเร่แผงลอยที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อให้เม็ดเงินกระจายไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างทั่วถึง และไม่กระจุกตัวอยู่กับร้านสะดวกซื้อหรือนายทุนรายใหญ่
* มีเสียงเสนอให้เพิ่มเงื่อนไขเพื่อส่งเสริมการซื้อสินค้าที่ผลิตโดยคนไทย (Made in Thailand) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นน้ำและช่วยเหลือเกษตรกรหรือผู้ผลิตในประเทศโดยตรง....................................................................................
:: ศึกนโยบายเรือธง: คนละครึ่ง vs เงินหมื่น แบบไหนโดนใจโซเชียล ::
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อพูดถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชื่อของ คนละครึ่ง มักจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับ เงินหมื่นดิจิทัล อยู่เสมอ จากการวิเคราะห์บทสนทนาพบว่า สามารถแบ่งกลุ่มประชาชนออกได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ซึ่งเผยให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนว่า นโยบายไหนครองใจคนไทยมากกว่ากัน
1. ทีม “คนละครึ่ง” (60%)
ประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมออนไลน์เห็นว่าโครงการ คนละครึ่ง มีความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพมากกว่าโครงการเงินหมื่นดิจิทัล โดยอิงจากประสบการณ์ตรงที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้ มุมมองของคนกลุ่มนี้เชื่อว่าคนละครึ่งเป็นโครงการที่จับต้องได้และเห็นผลชัดเจน โดยเสียงสะท้อนส่วนใหญ่ชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า “คนละครึ่ง” สามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และทำให้เงินหมุนเวียนไปยังร้านค้ารายย่อยได้จริง
2. ทีม “เงินหมื่นดิจิทัล” (22%)
เป็นกลุ่มประชาชนส่วนหนึ่งที่ยังคงชื่นชอบและต้องการโครงการในรูปแบบ “เงินหมื่นดิจิทัล” มากกว่า “คนละครึ่ง” ความเห็นที่ปรากฏในกลุ่มนี้ยังคงเชื่อว่าการได้รับเงินก้อนจำนวนหนึ่งหมื่นบาทตรงกับความต้องการมากกว่า เพราะสามารถนำไปใช้กับภาระหนี้สินหรือซื้อของชิ้นใหญ่ที่จำเป็น หรือสามารถใช้เป็นทุนหมุนเวียนได้ในยามจำเป็น ขณะที่โครงการคนละครึ่งมีข้อจำกัดในการใช้จ่ายแต่ละครั้ง
ทั้งนี้ มุมมองดังกล่าวสะท้อนความต้องการของประชาชนจำนวนหนึ่งในสังคมออนไลน์ที่มองว่ารูปแบบการได้รับเงินสดจำนวนมากตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ดีกว่า
3. ทีมไม่เชื่อมั่นนโยบายรัฐ (18%)
จากการวิเคราะห์บทสนทนาออนไลน์ พบว่ามีกลุ่มประชาชนส่วนหนึ่งที่แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นโครงการคนละครึ่งหรือเงินหมื่นดิจิทัล
ความเห็นในกลุ่มนี้สะท้อนถึงความผิดหวังและสูญเสียความไว้วางใจต่อนโยบายภาครัฐ โดยอ้างอิงถึงนโยบายหลายอย่างที่เคยประกาศไว้แต่ยังไม่เป็นจริงหรือประสบปัญหาในการดำเนินการ เช่น โครงการเงินหมื่นดิจิทัล โครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นต้น กลุ่มนี้จึงมองว่าไม่ว่าจะเป็นโครงการใดก็ตาม โอกาสที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์จริงยังคงไม่แน่นอน ซึ่งเป็นการแสดงความรู้สึกจากประสบการณ์เกี่ยวกับนโยบายที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง....................................................................................
:: เสียงแตก! ประเด็นสัดส่วนร่วมจ่าย ใครควรได้สิทธิพิเศษ? ::
จากการติดตามบทสนทนาออนไลน์ พบว่าหนึ่งในประเด็นที่มีการถกเถียงกันอย่างร้อนแรง คือแนวคิดการปรับสัดส่วนการร่วมจ่าย โดยมีข้อเสนอให้สิทธิพิเศษแก่ผู้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตรา รัฐ 60 : ประชาชน 40 เทียบกับประชาชนทั่วไปที่เป็น 50:50 ซึ่งความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองฝั่ง
ฝั่งสนับสนุน: การวิเคราะห์บทสนทนาออนไลน์ พบว่ามีกลุ่มหนึ่งที่แสดงความเข้าใจและยอมรับแนวคิดการให้สิทธิพิเศษแก่ผู้เสียภาษี กลุ่มนี้มองว่าการปรับสัดส่วนการร่วมจ่ายนั้น มีความสมเหตุสมผล เป็นการตอบแทนพลเมืองที่ปฏิบัติหน้าที่เสียภาษีอย่างครบถ้วน และอาจเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนเข้าสู่ระบบภาษีมากขึ้น
ฝั่งคัดค้าน: ในการทางกลับกัน มีกลุ่มหนึ่งที่แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน โดยมองว่า หลักการสำคัญของโครงการคนละครึ่งคือ “ความเท่าเทียม” และสิทธิประโยชน์ควรเป็น 50:50 เหมือนเดิมสำหรับทุกคน กลุ่มนี้เห็นว่าการสร้างเงื่อนไขใหม่ที่ให้สิทธิประโยชน์แตกต่างกันนั้นไม่ต่างอะไรกับการ “แบ่งแยกชนชั้น” และสร้างความซับซ้อนโดยไม่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์เสียงสะท้อนบนสื่อสังคมออนไลน์ จะเห็นได้ว่า “คนละครึ่ง” ยังคงเป็นโครงการที่อยู่ในใจและมีความคาดหวังจากประชาชนต่อการกลับมาในปี 2568 โดยบทสนทนาในโลกออนไลน์สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการให้มีการปรับปรุงและพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความเท่าเทียมและเหมาะสมกับทุกกลุ่ม....................................................................................
https://www.salika.co/2025/09/29/50-50-policy-reboot/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co
#ดาต้าเซ็ต #นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ #สื่อสังคมออนไลน์ #เศรษฐกิจฐานราก #โครงการคนละครึ่ง

สำนักข่าวซินหัว ชวนชมทักษะฝีมืออันน่าทึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานภาพวาดแสนวิจิตรบรรจงจากน้ำหมึกสีดำภายในกาน้ำชาสีขาวของ “ว่า...
29/09/2025

สำนักข่าวซินหัว ชวนชมทักษะฝีมืออันน่าทึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานภาพวาดแสนวิจิตรบรรจงจากน้ำหมึกสีดำภายในกาน้ำชาสีขาวของ “ว่านหลี่” จิตรกรจากเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น เจ้าของสมญานาม “เมืองหลวงแห่งเครื่องเคลือบโบราณ” ในมณฑลเจียงซีทางตะวันออกของจีน โดยการวาดภาพภายในวัตถุลักษณะนี้จัดเป็นหนึ่งในศิลปะจีนโบราณ
https://www.xinhuathai.com/vdo/535547_20250925
https://www.salika.co/2025/09/28/salika-news-vol-271-6/
Knowledge Sharing Space | www.salika.co

ที่อยู่

Dusit

เบอร์โทรศัพท์

+66610123210

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Salikaผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Salika:

แชร์