สังคมศึกษา By Kru Wijitra

สังคมศึกษา By Kru Wijitra เกี่ยวการศึกษาการสอนสังคมศึกษาในโ?

22/08/2025
02/08/2025
31/07/2025

จาก fb.อัครพงษ์ นครแก้ว ผู้สื่อข่าวสายทหาร โพสต์เหตุเขมร💥! ได้น่าสนใจ ทั้งแง่มุม ตปท.กับไทย ว่า..
ระวัง "โดดเดี่ยวไทย" รุมกินโต๊ะ...?!?

กัมพูชาเดินเกมวางหมากเวทีโลกไปแล้ว ดึงทั้งสหรัฐฯ และจีน เข้ามาเล็งปัญหาปมขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา เป้าหมายกัมพูชาชัดเจน ยึดดินแดนอธิปไตยไทยตามแนวชายแดน เพื่อใช้อ้างสิทธิในอนาคตต่อเวทีนานาชาติ ทั้งสหประชาชาติ หรือ UN ที่จะเริ่มเห็นภาพชัดในเดือนกันยายนนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ที่เริ่มไปแล้ว และต่อศาลโลก ที่กัมพูชาอ้างว่ายื่นหนังสือต่อศาลโลกไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2568

ทำไม...ถึงน่ากังวลไทยจะถูก "รุมกินโต๊ะ !?!
ท่าทีของสหรัฐฯ ในการเข้ามาเป็นธงนำในการเจรจา "หยุดยิง" ไร้เงื่อนไข แต่เปิดทางให้เวลา 00:00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 คือเส้นตายหยุดยิง ใครได้ดินแดนจุดไหน เท่ากับจบในหน้าแนว แต่หลังเวลาเส้นตายก็ยังมีบางจุดที่มีรายงานเหตุปะทะ จากกัมพูชาเปิดฉาก เพราะเขายังไม่บรรลุผลเรื่องดินแดน และเสียจุดบางจุดที่เขาเคยวางกำลัง โดยเฉพาะภูมะเขือ เขาพระวิหาร และยังไม่บรรลุผลในพื้นที่เขาอ้างสิทธิในทุกจุดชายแดน

ล่าสุดเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในประเทศไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "การปะทะกันบริเวณชายแดนไทยกับกัมพูชาไม่ได้ชวยอะไรชาวไทยหรือความเป็นพันธมิตรระหว่างรัฐบาลสหรัฐกับรัฐบาลไทยเลย สิ่งแรกที่จะทำคือชี้ให้ไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรสนธิสัญญาเพียงไม่กี่ประเทศในเอเชีย เห็นว่าสงครามหรือความขัดแย้งเช่นนี้ เขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อเสริมสร้างพันธมิตรของเรา พวกเขาไม่ได้ทำอะไร เพื่อแก้ไขปัญหาที่ประเทศของเราทั้งสองกำลังเผชิญอยู่"

เมื่อมาดูคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ใน 5 ชาติสมาชิกถาวร คือ สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน ที่มีอำนาจชี้ขาดสถานการณ์ทั่วทุกมุมโลก

เวลานี้ที่เห็นภาพการเข้ามาเปิดตัวชัดเจนแล้ว คือ สหรัฐฯ และจีน รวมถึงฝรั่งเศส ที่ผู้นำของเขาโพสต์ "ถึงเวลาแล้วที่จะต้องยุติการใช้อาวุธบริเวณพรมแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อเปิดทางสู่การเจรจาอย่างสันติ"

แต่ที่น่ากังวล คือ การเดินเกมแบบเงียบของรัสเซีย แต่จากสมรภูมิตาควาย มีสิ่งที่อาจบ่งชี้ได้ว่า อาจมีทหารรัสเซีย (ทหารรับจ้างหรือจะเป็นชุดช่วยฝึกทหาร BHQ) ช่วยสั่งการหนุนทหารกัมพูชา เป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อไป

ส่วนบทบาทของจีน ถือเป็นชาติที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยยาวนานเช่นเดียวกัน ทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งยังคงต้องจับตาดูท่าทีในการเข้ามาเป็นตัวกลางเจรจาครั้งนี้ แต่ยังเป็นมิตรที่ดีของไทย

ขณะที่ชาติเดียวที่ยังเงียบอยู่เวลานี้ คือ สหราชอาณาจักร ที่มีสัมพันธ์ที่ดีกับไทยมายาวนาน แต่ในบทบาทเวทีโลก เขาจะเคียงข้างสหรัฐฯ ในทุกกรณี แต่สหราชอาณาจักร น่าจะเป็นหนทางสำคัญในการเดินเกมพันธมิตรในเวทีโลกจากการขัดแย้งครั้งนี้

ทำไมนานาชาติต่างเสนอตัวเข้ามา และกัมพูชาเดินเกมดีงมหาอำนาจเข้าร่วมเกมขัดแย้ง "ไทย-กัมพูชา" หนนี้

ผลประโยชน์ทางทะเลอ่าวไทยมูลค่ามหาศาล ที่ผ่านการสำรวจก๊าซธรรมชาติ และรอวัน "ไฟเขียว" ขุดเจาะ แต่ด้วยความไม่ชัดเจนเรื่องเขตแดน และการอ้างสิทธิในพื้นที่ผลประโยชน์ทางทะเล ระหว่างไทยและกัมพูชา

ไทยยืนยันถ้ายังไม่มีความชัดเจน ก็ไม่สามารถทำอะไรในพื้นที่สำรวจขุดเจาะได้

แต่กัมพูชาไม่มีอะไรจะเสีย เพราะเขาต้องการให้เริ่มการขุดเจาะ และเขาต้องการที่จะขอแบ่งส่วนแบ่งรายได้คนละครึ่งกับไทย หากมีการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย บริเวณที่มีการอ้างสิทธิ

นี่คือผลประโยชน์มหาศาลที่น่ากังวัลว่า ทำไมนานาชาติถึงเข้ามาขอมีเอี่ยวกับเหตุปะทะระหว่างไทยและกัมพูชาอย่างเต็มที่ ไม่ใช่แค่เรื่องภาษีที่เป็นสถานการณ์เฉพาะหน้า
..แต่เพราะรัสเซียและกัมพูชาเขาแอบคุยอะไรกันไว้แล้วหรือไม่...

เมื่อเช่นเช่นนั้น สหรัฐฯ ไม่มีทางยอมเสียโอกาส ที่จะได้เข้ามามีส่วนในผลประโยชน์ที่กำลังจะถูกรุมเข้ามาในผลประโยชน์ทางทะเลจุดที่รอวันขุดเจาะนี้อย่างแน่นอน

แล้วไทยเราจะเดินเกมในเวทีโลก การเมืองระหว่างประเทศได้อย่างไร เป็นเรื่องที่เราต้องเร่งเดินเกมได้แล้ว เพราะเวลานี้กัมพูชาเดินเกมทางทหาร ได้ภาพปะทะ ได้ดึงนานาชาติเข้ามาแล้ว และอนาคตเขาจะให้บรรดาชาติมหาอำนาจเข้าช่วยแน่ สิ่งที่กัมพูชาต้องแลก คือ ถ้าชนะต้องมีส่วนแบ่งผลประโยชน์ทางทะเลที่มหาอำนาจจ้องเข้ามาแสวงประโยชน์
...กัมพูชาเดินเกมไปอีกขั้นแล้ว ทั้งการทหารและการเมือง ทำไปควบคู่กัน ฝ่ายไทย ปฏิบัติการทางทหาร ถือว่าน่าจะจบแล้ว ต่อไปคือด้านการเมืองระหว่างประเทศ เราต้องเร่งมือและเร่งแก้เกมกัมพูชา...

มาเลเซีย เขาได้อะไร ล่าสุดอินโดนีเซ๊ย เสนอตัวมาเป็นตัวกลางอีกชาติ ประเทศไทยต้องเร่งหาพันธมิตรชาติมหาอำนาจ โดยเฉพาะชาติที่ยังเงียบ และชาติที่ยังมีสัมพํนธ์ลึกซึ้ง เพราะทั้งอังกฤษ และจีน ก็สามารถต่อรอง สหรัฐฯ และรัสเซียได้ รวมไปถึงฝรั่งเศสชาติที่อาจจะเป็นประโยชน์กับไทยได้ในอนาคต
...เกมการรบจบแล้ว ต่อไปคือเกมการเมือง กันยายนนี้ เริ่มเวทีประชุมสหประชาชาติ UN....

Cr. อัครพงษ์ นครแก้ว (30 กค.68)

26/07/2025
14/06/2025
25/02/2025

BIZ: คนรวยด้วยฝีมือตัวเองแนะ
ถ้าอยากให้ลูกมีทัศนคติการเงินที่ดี
อย่าบอกลูกว่า “เราไม่มีเงินซื้อ”
แต่ให้สอนว่า “ทำไมเราไม่ควรซื้อ”

เวลาพูดถึงทักษะด้านการเงินการลงทุน คนจำนวนไม่น้อยก็มักจะไม่ค่อยรู้วิธีการลงทุนที่เหมาะสม และคนอีกไม่น้อยก็มักจะบอกว่านี่เป็นสิ่งที่ 'ควรจะมีสอนในโรงเรียน' อย่างไรก็ดี ถ้าขุดลงไปอีก หลายคนก็จะพบว่าบางทีสิ่งเหล่านี้มันมีพื้นฐานมาจากการเลี้ยงดูในครอบครัว
และหลายคนมักจะคิดว่าคนที่บริหารเงินเก่งนั้น 'พ่อแม่สอนมาดี' ในเชิงเทคนิค ทั้งที่จริงๆ บางทีมันอาจเป็นเรื่องของทัศนคติเสียมากกว่า โดยรามิต เซติ ผู้เป็นเศรษฐีจากน้ำพักน้ำแรงตัวเองนั้น ได้พูดถึงประเด็นนี้ไว้ในหนังสือเล่มใหม่ของเขาชื่อ ‘Money for Couples’ ได้อย่างน่าสนใจ
เซติบอกว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่จะไม่สอนลูกเรื่องเงิน และเวลาพูดกับลูกเรื่องเงิน ก็จะพูดกับลูกในประเด็นว่า 'เราไม่มีเงินซื้อ' อะไรต่างๆ ที่ลูกอยากได้ ซึ่งสำหรับเด็ก ถ้าเขาได้รับการตอกย้ำสิ่งเหล่านี้บ่อยๆ เขาก็จะมีทัศนคติที่ 'ไม่ดี' ต่อเงิน คือเขาจะไม่กล้าใช้เงินไปกับสิ่งที่ชอบ ทั้งๆ ที่บางทีเขาอาจมีเงินมากเพียงพอแล้ว
กลับกัน เซติยังบอกอีกว่านั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องซื้อทุกอย่างที่ลูกอยากได้ ประเด็นคือ เราต้องทำให้ลูกเข้าใจว่าทำไมเราถึงจ่ายเงินกับสิ่งหนึ่ง แทนที่จะเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เช่น ถ้าลูกอยากกินขนมแพงๆ แทนที่จะบอกว่าเราไม่มีเงินซื้อ เราก็ต้องอธิบายว่า 'บ้านเรา' ไม่จับจ่ายกับอะไรที่ไม่มีประโยชน์อย่างขนม แต่บ้านเราพร้อมจะจับจ่ายกับผักผลไม้แทน เป็นต้น
ประเด็นคือเราต้องไม่สร้างความเข้าใจกับลูกว่าเราไม่ซื้อสิ่งต่างๆ เพราะเรา 'ไม่มีเงิน' แต่เราเลือกจะใช้เงินกับสิ่งต่างๆ เพราะมัน 'มีประโยชน์' มัน 'เป็นวิธีของบ้านเรา' หรือกระทั่งเพราะ มัน 'จะสร้างรายได้ให้กับเราต่อไปในอนาคต' เป็นต้น
หรือพูดสั้นๆ ก็คือ อย่าเน้นสอนเหตุผลในการไม่ใช้เงินกับลูก เท่ากับสอนเหตุผลในการใช้เงินกับสิ่งต่างๆ
ในทางปฏิบัตินี่หมายถึงการไม่พยายามให้ลูกรู้สึกว่าอะไรมัน 'แพงเกินกว่าจะซื้อ' แต่ให้ลูกมีความรู้สึกว่า 'ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อ' กับสิ่งต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ไปพร้อมๆ กับให้ลูกมีความเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งจำเป็นที่ต้องจ่ายเงินซื้อ ไม่ว่ามันจะแพงแค่ไหน เช่น เราต้องไม่ทำให้ลูกรู้สึกว่าค่าเงินผ่อนบ้าน รวมถึงค่าน้ำค่าไฟมันแพง (แม้ว่ามันจะแพงจริงๆ) แต่ให้ลูกมีความเข้าใจว่า ถ้าเราไม่จ่ายเงินไปกับสิ่งเหล่านี้ เราก็จะไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ ลูกก็จะไม่มีที่เล่นวิดีโอเกม เป็นต้น
ทั้งนี้ การสอนลูกเรื่องการเงินก็ไม่ใช่แค่สอนในภาคทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติการให้ลูกมีส่วนร่วมในการคิดคำนวณเรื่องเงินภายในบ้านก็เป็น 'บทเรียน' ที่ดี เช่นเราอาจตั้งงบสำหรับทริปครอบครัวไว้ และให้ลูกมีส่วนร่วมในการบริหารงบส่วนนี้ ให้ลูกเห็นว่าถ้าเราอยากได้สิ่งหนึ่ง เราก็จะเสียอีกสิ่งไป และให้ลูกรู้จักเรียนรู้การบริหารงบ เพราะสุดท้าย ไม่ว่าคนจะรวยแค่ไหน ไม่มีใครมีเงิน 'ไม่จำกัด' ทั้งนั้น
ทั้งหมดนี้เป็นการปลูกฝังทัศนคติทางการเงินที่ดีให้กับเด็กในระยะยาว และมันจำเป็นอย่างยิ่งแน่ๆ สำหรับสังคมที่ไม่มีระบบ 'ประกันรายได้' ยามแก่ชราที่ดีอย่างอเมริกา และประเทศส่วนใหญ่ในโลก

19/02/2025

ยุโรป ผลิตช็อกโกแลต ให้คนครึ่งโลก ทั้งที่ตัวเอง ปลูกไม่ได้ /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า ช็อกโกแลตที่ถูกส่งออกทุก 100 บาท ไปทั่วโลก มาจากประเทศในยุโรป มากถึง 60 บาท

แต่เรื่องแปลกคือ ยุโรปแทบไม่มีวัตถุดิบหลัก ที่ใช้ทำ
ช็อกโกแลตอย่างโกโก้และน้ำตาล เลยด้วยซ้ำ

อะไรที่ทำให้ยุโรปมาถึงจุดนี้ได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ถ้าให้สรุปสั้น ๆ ว่า ยุโรปผลิตและส่งออกช็อกโกแลตได้อย่างไร
ทั้ง ๆ ที่ตัวเองปลูกไม่ได้

สาเหตุหลักมาจาก 2 เรื่องด้วยกัน นั่นคือ

“วิทยาการเดินเรือ” และ “นวัตกรรมแปรรูป”

การเดินเรือ เพื่อสำรวจทางทะเลในช่วงศตวรรษที่ 15 ทำให้ชาวยุโรป เจอดินแดนใหม่ ทั้งทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ เอเชีย และแอฟริกา

ดินแดนใหม่ที่ว่านี้ ก็เปิดโลกให้ชาวยุโรป ได้รู้จักพืชอาหารที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมากมาย

หนึ่งในนั้นคือ เมล็ดเรียว ๆ สีน้ำตาลที่มีชื่อว่า “โกโก้”

โกโก้ เป็นพืชพื้นเมืองของทวีปอเมริกาใต้ ที่ใช้เป็นเงินตราแลกเปลี่ยนในอาณาจักรโบราณอินคา

แต่ผู้ปกครองของอาณาจักรนี้ ก็นำเอาโกโก้ไปแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม เพื่อแสดงฐานะความร่ำรวย ความมีอำนาจที่เหนือกว่า

และอีกสิ่งหนึ่งที่ชาวยุโรปรู้จักครั้งแรก นั่นคือ อ้อย พืชเขตร้อน ที่มีต้นกำเนิดจากทวีปเอเชีย ซึ่งสามารถนำไปผลิตเป็นน้ำตาลได้

การรู้จักทั้งโกโก้และน้ำตาล ก็ทำให้ชาวสเปน ชาติมหาอำนาจทางทะเลในศตวรรษที่ 15 นำสองสิ่งนี้
มาผสมกัน จนกลายเป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า “ช็อกโกแลต”

ซึ่งต่อมา ก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในยุโรป
โดยเฉพาะในหมู่คนรวย ทำให้ความต้องการวัตถุดิบอย่างโกโก้และน้ำตาล เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ชาวยุโรป จึงเริ่มนำโกโก้ ไปปลูกที่ดินแดนแอฟริกา ที่มีอากาศใกล้เคียงกับถิ่นกำเนิดอย่างทวีปอเมริกาใต้

และนำต้นอ้อย จากทวีปเอเชีย เข้าไปปลูกในทวีปอเมริกาใต้ เพื่อผลิตน้ำตาลออกมา

เมล็ดพันธ์ุที่ชาวยุโรปเพาะปลูก ก็ได้เจริญเติบโตตามกาลเวลา จนส่งผลให้ปัจจุบัน ประเทศบราซิลจากทวีปอเมริกาใต้ เป็นผู้ส่งออกน้ำตาล กว่า 40% ของมูลค่าการส่งออกน้ำตาลทั่วโลก

ส่วนเมล็ดโกโก้กว่า 53% ของมูลค่าการส่งออกทั่วโลก
ก็มาจาก 3 ประเทศหลักในแอฟริกา นั่นคือ ไอวอรีโคสต์ กานา และแคเมอรูน

แต่เรื่องราวก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด เพราะการทำฟาร์มโกโก้
และอ้อย ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก

โดยเฉพาะการใช้แรงงานทาสผิวสีจากทวีปแอฟริกา
ในการทดแทนแรงงานชาวพื้นเมืองอเมริกาใต้ ที่ล้มตายเพราะโรคระบาดจากชาวยุโรป จนกลายเป็นการค้าทาสระหว่างทวีปแอฟริกาและอเมริกาที่นานกว่า 300 ปี

ทั้งหมดนี้ เพียงเพราะรองรับอุตสาหกรรมช็อกโกแลตในยุโรปที่กำลังเติบโต ที่แม้เบื้องหลังความอร่อยหอมหวานนี้ มาจากหยาดเหงื่อและเลือดของบรรดาทาสแอฟริกันก็ตาม..

อย่างไรก็ตาม ช็อกโกแลตที่มีราคาแพงมาก จนมีแค่คนรวยที่ลิ้มลองได้เท่านั้น บรรดาธุรกิจช็อกโกแลต
จึงเริ่มเกิดไอเดีย อยากเจาะกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น

จนในปี ค.ศ. 1850 บริษัท J. S. Fry & Sons จากอังกฤษ
ได้ปฏิวัติวงการช็อกโกแลตยุโรป ด้วยการขายช็อกโกแลตแบบแท่ง แทนที่จะขายเป็นเครื่องดื่มที่มีราคาแพง

การทำช็อกโกแลตแบบแท่ง ทำให้ราคาถูกลง
เพราะต้นทุนการผลิตต่ำลงจากการผลิตจำนวนมาก เกิดเป็น Economies of Scale จนคนทั่วไป เริ่มเข้าถึงช็อกโกแลตได้มากขึ้น

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับ J. S. Fry & Sons
ทำให้ธุรกิจอื่นเริ่มขยับตัวตาม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคู่แข่งของ
J. S. Fry & Sons ที่ชื่อว่า Cadbury

Cadbury เริ่มสกัดไขมันโกโก้ หรือเนยโกโก้ ที่เหลือทิ้งจากการผลิตช็อกโกแลต เอามาทำช็อกโกแลตรูปหัวใจ ใส่ในกล่อง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์

ในช่วงเดียวกัน Nestlé จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่เชี่ยวชาญการผลิตสินค้าจากนมอยู่แล้ว ก็เริ่มต่อยอดการพัฒนาช็อกโกแลต ให้เป็นสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น

จนปัจจุบัน กลายมาเป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่ม
ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

ซึ่ง Nestlé มีแบรนด์ในเครือมากมาย เช่น KitKat, Milo, Smarties, Toll House

นอกจากนี้ ยังมีอีกประเทศหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กัน
นั่นคือ เบลเยียม ที่เป็นชาติยุโรปชาติแรก ๆ ที่มีอิทธิพลกับการปฏิวัติวงการช็อกโกแลตอย่างมาก

จากการที่เบลเยียม เคยเป็นเมืองท่าของสเปน เริ่มนำโกโก้เข้ามาในยุโรป ก่อนจะค่อย ๆ พัฒนาช็อกโกแลตให้มีความหลากหลาย

ซึ่งนวัตกรรมการผลิตช็อกโกแลตของชาวเบลเยียม ก็ได้ตกทอดมาถึงปัจจุบัน เช่น Praline หรือช็อกโกแลตสอดไส้ และ Baton หรือช็อกโกแลตแท่งขนาดเล็กแบบพกพา

ความรู้ด้านการเดินเรือ จนไปเจอโกโก้และน้ำตาล
เมื่อรวมกับนวัตกรรมแปรรูปช็อกโกแลต ทำให้ยุโรปสามารถผลิตช็อกโกแลต จนส่งออกไปทั่วโลกได้

โดยปัจจุบัน ตลาดส่งออกช็อกโกแลตทั่วโลก มีมูลค่าปีละ 1.2 ล้านล้านบาท เท่ากับว่าช็อกโกแลตจากยุโรป 60% คิดเป็นมูลค่าการส่งออกมากถึง 0.7 ล้านล้านบาท

แต่ก็เป็นเรื่องตลกร้ายอยู่เหมือนกัน เพราะมูลค่าการส่งออกเมล็ดโกโก้ทั่วโลก อยู่ที่ 0.3 ล้านล้านบาท ซึ่งประมาณ 0.15 ล้านล้านบาท มาจากประเทศในแอฟริกา

พูดอีกอย่างคือ ยุโรปเอาโกโก้มาแปรรูปเป็นช็อกโกแลต และขายให้คนครึ่งโลก สร้างมูลค่าเพิ่มได้ มากกว่าแอฟริกา ที่ขายแค่โกโก้วัตถุดิบตั้งต้นเพียงอย่างเดียว หลายเท่าตัว..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman

10/12/2024

ข้อคิดดี ๆ จากหนังสือ
ความลับ เรื่องเงินที่แม่อยากบอกลูกก่อนตาย

1. แม่อยากบอกลูกว่า ตอนนี้เราจะออมเงินเดือนอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ด้วยภาวะเงินเฟ้อจากค่าครองชีพและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้มูลค่าเงินในมือลดลง เรากำลังอยู่ในยุคที่ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างก็ต้องกลายเป็นคนจนสถานเดียว วิธีรับมือจากภาวะเงินเฟ้อมี 2 วิธี วิธีแรกคือเพิ่มเงินเดือนให้เท่ากับค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่ถ้าบริษัทบอกว่าทำวิธีนี้ไม่ได้เราก็ทำอะไรไม่ได้ วิธีที่สองคือป้องกันเงินเฟ้อผ่านการลงทุน และนี่คือเหตุผลที่ลูกต้องเรียนรู้เรื่องเงิน

2. อายุ 40 มาไวกว่าที่ลูกคิด ระหว่างคนที่มีสินทรัพย์กับคนที่ไม่มีสินทรัพย์ในวัย 40 จะมีความแตกต่างเยอะมากในทุกด้านของชีวิต ถ้าลูกไม่อยากเสียใจตอน 40 จงเริ่มเขียนสินทรัพย์ที่มีอยู่ตอนนี้ ถ้าไม่ลงมือทำอะไรเลย อนาคตของลูกในอีก 10 ปี ข้างหน้าก็จะไม่มีอะไรแตกต่างออกไป

3. การรักษาความปลอดภัยทางการเงินคือสิ่งสำคัญ การมีรายได้ประจำจะทำให้เราคาดการณ์อนาคตและควบคุมความเสี่ยงได้ เงินเดือนจึงมีอานุภาพมากกว่าที่หลายคนคิด ถ้าอยากลาออกต้องมีเงินเพียงพอในการใช้ชีวิตได้สบายๆ ประมาณ 6 เดือน ไม่อย่างนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่งเราอาจต้องรีบโทรหาบริษัทอะไรก็ไม่รู้เพื่อถามหางาน เพราะเราไม่มีเงินพอใช้ในเดือนหน้า

4. การหาเงินไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อเราจะได้มีอำนาจในการใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ลูกต้องมีเงินให้มากพอที่จะทำตามใจตัวเองโดยไม่มีใครขัดขวาง ลูกจงศึกษาเรื่องเงินก่อนที่จะสายเกินไป

5. ถ้าลูกถามแม่ว่า ระหว่างสิ่งที่ทำเงินแต่ไม่น่าสนใจกับสิ่งที่ไม่ทำเงินแต่น่าสนใจควรเลือกอะไร แม่ขอแนะนำอย่างหลัง มนุษย์จะพยายามเอาชนะเมื่อได้ทำสิ่งที่ชอบแม้ว่ามันจะยาก แต่จะไม่อดทนทำสิ่งที่ไม่ชอบ ดังนั้น ทันทีที่ลูกเลือกงานที่ตัวเองไม่ชอบเพียงเพราะมีแนวโน้มที่ดี ลูกจะยอมแพ้กลางคันตอนยากลำบาก เพียงแต่ต้องคิดว่าจะหาวิธีสร้างรายได้จากสิ่งที่รักนั้นอย่างไร

6. ลงทุนให้เร็วที่สุดโดยไม่มีข้อแม้ คนที่เข้าใจดอกเบี้ยทบต้นจะสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ถ้าตอนนี้ลูกหาวิธีลงทุนโดยได้ผลตอบแทน 10% แทนที่จะออมเงินกับธนาคาร ลูกจะทำเงินได้อย่างน่าประหลาดใจในอีก 10 หรือ 20 ปีต่อมา จงรีบเก็บสะสมเม็ดเงิน ยิ่งเรามีเม็ดเงินมากเท่าไหร่ความมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยทบต้นก็จะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น

7. ถ้าอยากสร้างรายได้จากการลงทุน ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ไม่ควรออกจากตลาดโดยเด็ดขาด สิ่งจำเป็นในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงและความผันผวน คือประสบการณ์ สะสมประสบการณ์ที่หลากหลายด้วยเงินจำนวนไม่มาก ถึงจะล้มเหลวแต่ลูกก็จะประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน ค่อยๆ ทำความเข้าใจตลาด ค่อยๆค้นหาวิธีการลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง

8. ไม่ว่าลูกจะหาเงินมาด้วยวิธีใด ได้เงินนั้นมาง่ายหรือยาก ลูกต้องให้ความสำคัญเท่ากัน เพราะลูกเป็นเจ้าของเงิน อย่าใช้จ่ายทันทีจงเก็บไว้ก่อน กระจายเงินเดือนไปหลายบัญชีตามแต่จุดประสงค์ เป้าหมายของลูกจะเปลี่ยนจากการใช้จ่ายเป็นการสะสม ลูกจะพัฒนาความเป็นนักลงทุนได้มากกว่าเป็นแค่เพียงผู้บริโภค

9. ลูกต้องตัดสินใจเวลาร่างกายอยู่ในสภาพดี ถ้าลูกหิว ง่วง หรือเหนื่อย โอกาสที่ลูกจะเลือกสิ่งดีๆ ให้ตัวเองจะน้อยลง คนรวยจะรักษาสภาพร่างกายและจิตใจให้ดีที่สุดและนานที่สุด พวกเขาเชื่อว่าเมื่อโชคมาถึง เขาพร้อมจะคว้าไว้โดยไม่ลังเล

10. การคิดไปเองว่ารู้ดีนั้นน่ากลัวมาก เพราะทันทีที่ลูกลดความระมัดระวังลง ความชะล่าใจจะดักจับลูกและขโมยเงินไปในทันที น่าเศร้าเพราะลูกจะรู้ความจริงข้อนี้หลังจากเสียเงินทั้งหมดไปแล้ว

11. มนุษย์จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ด้วยการเปลี่ยนการใช้เวลา เปลี่ยนสถานที่อยู่ และเปลี่ยนผู้คบที่พบปะ การจะเป็นคนรวยก็เช่นกัน แม่หวังว่าลูกจะรวบรวมความกล้าลองทำสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปพบปะผู้คนใหม่ๆ ทำงานอดิเรกที่ไม่เคยทำ ไปดื่มกาแฟย่านที่ไม่คุ้นเคย ลาหยุดวันธรรดาเดือนละครั้งเพื่อลองทำอะไรต่างจากเดิม ลูกอย่าไปสงสัยเลยว่าความพยายามเหล่านั้นจะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ อย่างน้อยลูกจะเป็นอิสระจากการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ชีวิตจะน่าสนุกยิ่งขึ้น แล้วโอกาสของความมั่นคั่งที่อยู่ใกล้ตัวแต่มองไม่เห็นจะค่อยๆปรากฏตัวต่อหน้าลูก

12. บางคนหาประโยชน์ จากการถือครองเงินดอลลาร์โดยการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ แม้ราคาหุ้นจะลดลง แต่ถ้าค่าเงินหรืออัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นก็ชดเชยส่วนที่ขาดทุนได้ การลงทุนในหุ้นปันผลของอเมริกาก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี เพราะแต่ละบริษัทจะจ่ายเงินปันผลไม่ตรงกัน เราจึงสร้างแผนที่เรียกว่า “การรับเงินเดือนด้วยเงินปันผลเป็นดอลลาร์” เราจึงจะได้รับเงินปันผลทุกเดือน

13. มีกฎในการใช้จ่าย เช่น เวลาซื้อรถยนต์ราคารถทั้งหมดต้องไม่เกิน 3 เท่าของเงินเดือน การใช้จ่ายสินค้าพิเศษต้องไม่เกิน 5% ของเงินเดือน สัดส่วนการลงทุนในหุ้น(ไม่รวมกองทุน) ไม่ควรเกิน 5% ของสินทรัพย์รวม และวิธีเก็บเงินที่ชัดเจนที่สุด คือ ใช้บัญชีเงินฝากประจำของธนาคาร โดยคำนวณเงินที่สามารถประหยัดได้โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายประจำจากบัญชีเงินเดือน จากนั้นเราค่อยคำนวณจำนวนเงินที่ต้องการและกำหนดระยะเวลา อย่าวางแผนตึงเครียดมากเกินไปเพราะมีแนวโน้มที่จะยอมแพ้กลางคัน

14. เมื่อตลาดขาลงอย่าวิ่งหนี จงต้อนรับด้วยความยินดี มืออาชีพตัวจริงจะดีใจเมื่อตลาดหุ้นดิ่งลง เพราะเขาสามารถช้อนซื้อหุ้นที่เล็งไว้ในราคาที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนได้

15. ถ้าลูกตัดสินใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ มีบางสิ่งที่ลูกต้องรู้ล่วงหน้า คือ ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมและค่าภาษีค่อนข้างสูง ลูกต้องจำไว้ว่าถ้าตัดสินใจผิดพลาดจะมีเงินก้อนหนึ่งที่เรียกคืนไม่ได้ จึงควรระมัดระวังในการทำสัญญา ถ้าลูกอยากสัมผัสการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ครั้งแรกในชีวิต ลูกควรซื้อบ้านที่จะอยู่อาศัย

16. ไม่ว่าลูกจะไม่พอใจบริษัทมากขนาดไหน แม่หวังว่าลูกจะอดทนทำงานให้ได้อย่างน้อย 1 ปี เพราะปีแรกของพนักงานใหม่เป็นช่วงเวลาสำคัญในการเรียนรู้ทักษะพื้นฐานที่จำเป็นในชีวิตการทำงาน ลูกอาจทำผิดพลาดมากมายตอนที่ยังเป็นพนักงานใหม่ และบริษัทก็ยังไม่คิดมากเรื่องความผิดพลาดของลูกมาก คล้ายเวลาเราเห็นป้ายมือใหม่หัดขับ จงเพลิดเพลินไปกับสิทธิพิเศษของมือใหม่ให้เต็มที่ สิ่งที่มือใหม่ต้องทำไม่ใช่หลีกเลี่ยงความผิดพลาด แต่เป็นการเร่งสร้างทักษะการทำงานและองค์ความรู้

17. ถ้าลูกอยากทำบางสิ่งได้ดีจริงๆ ลูกต้องใช้เวลาและทำงานหนักก่อน ว่ากันว่าไม่มีต้นไม้ใดที่ฟัน 10 ครั้งแล้วไม่ล้ม แต่ถ้าต้นไม้ยังไม่ล้มก็ให้ลองฟัน 11 ครั้ง และ 12 ครั้ง ทำต่อไปจนกว่าจะได้ผล ถึงแม้จะช้าหน่อย แต่เรามักจะมองเห็นลู่ทางอยู่เสมอ

18.ถ้าจะแต่งงาน ควรเปิดอกคุยเรื่องเงินของกันและกัน รวมถึงความสามารถในการหาเงิน เงินมรดก เงินออม และเงินเดือน การมีเงินน้อยในตอนนี้ไม่ใช่ปัญหา จะยากจนก็ไม่ต้องกังวล ขอแค่เขาเป็นคนคุยเรื่องเงินกับลูกอย่างตรงไปตรงมา และสามารถคุยเกี่ยวกับวิธีสร้างรายได้และการใช้จ่ายในอนาคต

19. ถ้าเราพยายามเลียนแบบชีวิตคนอื่น ไม่เพียงแต่จะตามพวกเขาไม่ทัน เรายังจะสูญเสียความเป็นตัวเองไปด้วย ไม่ว่าลูกจะทำอะไรอาจมีคนที่มีอคติและอาจมีคนที่ดูถูก เลือกปฏิบัติ จากวุฒิการศึกษาหรือเพศของลูก แม่หวังว่ามันจะไม่ทำให้ลูกยอมแพ้กับเป้าหมายและความฝัน จงฝึกฝนทักษะและแสดงผลงานให้พวกเขาเห็น เมื่อนั้นแม้แต่คนที่ไม่พอใจก็พยายามจะจับมือลูก

20. การลงทุนที่ดีที่สุด คือ การลงทุนกับตัวเอง พัฒนาตัวเองให้มีความสามารถโดดเด่นและแตกต่างจากคนอื่น ลูกจะอยู่รอดไม่ว่าตลาดจะขาขึ้นหรือขาลง

📌กิจกรรมการเรียนการสอน📌“การค้าระหว่างประเทศ”📌การเรียนรู้ที่นักเรียนมีความสุข📌📌ได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน📌
03/12/2024

📌กิจกรรมการเรียนการสอน📌
“การค้าระหว่างประเทศ”
📌การเรียนรู้ที่นักเรียนมีความสุข📌
📌ได้แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน📌

02/12/2024

“พม่า ยิงเรือไทย”

พม่าหวงแหนหมู่เกาะบริเวณ ตะนาวศรีมาก

มีเกาะนับร้อยเกาะที่สวยงามระดับ หมู่เกาะสุรินทร์

ตามประวัติศาสตร์ มะริด ตะนาวศรี เป็นของไทยมาหลายร้อยปี

มาพลาดช่วงอังกฤษยึดพม่า เลยรวบตั้งแต่ทวายลงมา เป็นของพม่าเสียเลย

ในช่วงล่าอาณานิคม เราเสียแผ่นดินไปประมาณเท่ากับประเทศไทยในปัจจุบัน

แต่ดินแดนที่เสียดายที่สุด ก็มะริด กับ ตะนาวศรีนี่แหละ

นอกจากเกาะที่สวยงาม ยังมีทรัพยากรทางทะเลมากมาย เรือประมงไทยถึงแอบเข้าไปบ่อยๆ

แล้วก็ยัง มีก๊าซ น้ำมัน อีกปริมาณมหาศาลอยู่ใต้ทะเล ( https://mgronline.com/indochina/detail/9590000007053 )

ถ้าเราได้หมู่เกาะแถบนั้น ไทยจะเป็นมหาอำนาจทางด้านการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลก

>> ประเทศไทย โชคไม่ดี ที่อังกฤษ กับ ฝรั่งเศส มาบรรจบกันตรงที่เราพอดี

ทั้งสองประเทศอยากได้ทั้งคู่

ผู้เขียนเคยเห็นแผนที่ ที่ทั้งสองประเทศตกลงแบ่งกันแล้วหนาว

ประเทศไทย จะเหลือพื้นที่กันชน เหนือสุดแค่นครสวรรค์ ใต้สุดประจวบ อีสานสุดที่ปราจีนบุรี

อังกฤษขอ ภาคเหนือ และทางใต้เลยประจวบลงไป เพื่อเอาไปรวมกับพม่า และมาเลเซีย

ส่วนฝรั่งเศสต้องการภาคอีสาน และภาคตะวันออกทั้งหมด ไปรวมกับลาว เขมร เป็นสหภาพอินโดจีน

สรุป ก็คือ ถ้าไม่ใช่เพราะพระปรีชาสามารถ ปัจจุบันประเทศไทยจะเหลือแค่ภาคกลาง

พม่า ลาว เขมร มาเลเซีย จะมีพื้นที่ใหญ่กว่าตอนนี้มาก

และเขตแดนประเทศที่มหาอำนาจขีดให้แล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้

ดูขนาดเขาพระวิหาร อยู่ฝั่งไทยแท้ๆ ทุกวันนี้ เรายังต้องยอมรับว่าเป็นของเขมรเลย

ตอนยุคล่าอาณานิคม อาวุธเราสู้เขาไม่ได้จริงๆ ยังใช้ดาบ ใช้ม้า กันอยู่
ในขณะที่พวกฝรั่ง มีปืนพกแล้ว ปืนใหญ่ก็ยิงได้ไกลกว่าสองสามเท่า

ถ้าเราสู้ ก็ตายเปล่า แถมจะเสียดินแดน ตามที่อังกฤษ ตกลงกับฝรั่งเศสไว้

คิดว่า เจ้าเมืองล้านนา ก็คงเห็นแผนที่นี้ เลยรีบขอเป็นส่วนหนึ่งของไทยแทนที่จะไปรวมกับพม่า

เคยคิดเหมือนกันนะว่า ตอนที่อังกฤษขอให้เราร่วมรบเพื่อปราบพม่า

ถ้าเราตกลง และรบอย่างสุดฝีมือ พอชนะ อังกฤษจะยกทวาย มะริด ตะนาวศรีคืนให้เราหรือไม่

แต่มุมมองในขณะนั้น พวกล่าอาณานิคม คือปีศาจ

การไปร่วมมือกับปีศาจ เพื่อกำจัดเพื่อนบ้าน
คงไม่ใช่การตัดสินใจที่ดี

เราเลยปฏิเสธไป

>> คิดแล้วเสียดาย ยิ่งมีข่าวเรือพม่าไล่ยิงเรือไทย
ก็ตรงนั้น แต่ก่อน มันเป็นของเรานะ
ยังมีคนไทย ติดอยู่ที่ตะนาวศรี เต็มเลย

ที่อยู่

Hat Yai
90110

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ สังคมศึกษา By Kru Wijitraผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์