
28/05/2025
🔥 มหากาพย์ซีรีส์ หุ้น JMART กับการถือครองสินทรัพย์
บริษัท เจ มาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART
เป็นบริษัท Holding Company ที่เข้าไปลงทุนในหลากหลายธุรกิจ
โดยบทความนี้ผมจะโฟกัสไปที่บริษัทในเครือที่มีศักยภาพหลัก ๆ ของJMART
• Jmart Mobile: ธุรกิจค้าปลีกโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม (ธุรกิจหลัก)
• JMT Network Services (JMT): ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ
• Suki Teenoi: ถือหุ้น 30% ในร้านอาหารสุกี้ตี๋น้อย ซึ่งยังไม่เข้าตลาดหลักทรัพย์
• Singer Thailand (SINGER): ธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคผ่อนชำระ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องซักผ้า แอร์ ตู้เติมเงิน ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่ผมจะยังไม่ลงรายละเอียด เช่น JAS Asset, KBJ Capital, รวมถึงการถือหุ้นใน BRR (9.5%), PRTR (15%), และ SGC
⸻
🔍 การประเมินมูลค่า (Valuation): ใช้วิธี Sum of the Parts (SOTP)
1️⃣ JMT
• JMART ถือหุ้น 52.08% หรือ 760.19 ล้านหุ้น
• Market Cap ของ JMT คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 7,260 ล้านบาท
2️⃣ SINGER
• JMART ถือหุ้น 25.20% หรือ 208.87 ล้านหุ้น
• คิดเป็นมูลค่า Market Cap ประมาณ 1,110 ล้านบาท
3️⃣ Suki Teenoi
• JMART ถือหุ้น 30% ในบริษัท BNN Restaurant
• ณ ไตรมาส 1 ปี 2568 JMART รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากตี๋น้อยอยู่ที่ 79 ล้านบาท
หากประเมินกำไรทั้งปีแบบคร่าว ๆ (x4) จะได้ประมาณ 316 ล้านบาท
ผมจะตั้งสมมุติฐานโดยธุรกิจอาหารโดยทั่วไปตลาดให้ค่า P/E ที่ประมาณ 13 เท่า จะได้ Market Capโดยประมาณของตี๋น้อยทีี = 316 x 13 = 4,100 ล้านบาท (จากการถือหุ้นจำนวน 30%)
Key hightlight ✨
ปัจจุบัน ตี๋น้อยมี 82 สาขา และผมเชื่อว่ายังขยายได้อีกมาก ด้วยกลยุทธ์ “ราคาที่เข้าถึงได้ง่าย + คุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยที่เดียว”
กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 1,168 ล้านบาท หากผมลองนั่งกาวๆว่าตี๋น้อยสามารถเติบโตได้ 2 เท่าในอีก 5 ปี
กำไรจะเป็น = 2,336 ล้านบาท
→ ถ้าให้ P/E = 13 เท่า → มูลค่าเท่ากับ 30,368 ล้านบาท
→ ส่วนของ JMART (30%) = ประมาณ 9,110 ล้านบาท
และในอนาคตบริษัทมีแผนนำตี๋น้อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หากตี๋น้อยโตได้ขนาดนี้ผมคิดว่าน่าจะIPOที่ P/E ประมาณ 20 +-
ปัจจุบัน Part ที่สำคัญรวมมูลค่าสินทรัพย์ที่ถืออยู่
- JMT (52.08%) คิดเป็น 7,260 ล้านบาท
- SINGER (25.20%) คิดเป็น 1,110 ล้านบาท
- สุกี้ตี๋น้อย (30%) คิดเป็น 4,100 ล้านบาท
ธุรกิจที่ JMART ถืออยู่มีมูลค่า 12,470 ล้านบาท
โดยจะมีการลดมูลค่าที่20% โดยตั้งสมมุติฐานหากต้องขายหุ้นเพื่อให้ได้รับเงินจริงๆบริษัทจะต้องจ่ายภาษีนิติบุคคลที่20% จะเหลือมูลค่าที่ JMARTถือ = 9,900ล้านบาท
💥 ซึ่งปัจจุบัน Market Cap ของ🌝 JMART อยู่ที่ประมาณ 9,400 ล้านบาท
ซึ่งถือว่าแถมธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์ไปเลยทีเดียว
✨ ผมมองว่า ถ้าจะเข้าซื้อหุ้น JMART อย่างน้อยราคาหุ้น JMART ต้องมี Discount จากมูลค่าทรัพย์สินที่ถืออย่างน้อย 25-30%
สมมุติฐาน ณ วันนี้
เช่น:
• Market cap JMART = 9,400 ล้านบาท
• Market Cap JMART ที่เหมาะสมต่อการลงทุน = ประมาณ 7,000 ล้านบาทหรือต่ำกว่า (จากธุรกิจที่ถือมูลค่า 9,900 ล้านบาท
• คิดเป็นราคาหุ้น JMART = 4.80 – 5.00 บาท/หุ้น ลงไป
หากอีก5 ปีข้างหน้าธุรกิจที่ถืออยู่เช่นตี๋น้อยเติบโต จะทำให้ Value รวมที่ถือ จะสามารถมาช่วยสร้าง UPSIDE ได้เป็นเท่าตัวเลยทีเดียว
⸻
⚠️ ข้อควรระวัง:
• มูลค่าที่ผมประเมินขึ้นอยู่กับราคาหุ้นของบริษัทลูกแต่ละตัว หากราคาหุ้นปรับตัวลง → มูลค่าที่ JMART ถืออยู่ก็จะลดลงตาม
• การตีมูลค่าธุรกิจที่ยังไม่จดทะเบียน (เช่น สุกี้ตี๋น้อย) อาจมีความเคลื่อนขึ้นอยู่กับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ เช่น ค่า PE, การเติบโตของกำไร ฯลฯ ยังมีเรื่องความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นจากภาพเศรษฐกิจ
• หากมีการ “ดันราคา” หุ้นบางตัวในเครือ อาจทำให้ประเมินมูลค่าสูงเกินจริงได้
- ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการชี้นำแต่เป็นการนำเสนอไอเดียในการประเมินมูลค่าและการหาหุ้นนะครับ💙🦈🙏
#การลงทุน