KKCH KKCH ONLINE • KKCH NEWS • KKCH LIVE

“KKBS มข.”❗️จัดพิธีมุทิตาจิต “ก้าวสำคัญ สู่วันที่สำเร็จ” เชิดชูเกียรติ รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช ผู้เกษียณอายุราชการ ปี 2...
23/09/2025

“KKBS มข.”❗️จัดพิธีมุทิตาจิต “ก้าวสำคัญ สู่วันที่สำเร็จ” เชิดชูเกียรติ รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช ผู้เกษียณอายุราชการ ปี 2568

คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (KKBS) จัดพิธีมุทิตาจิต เชิดชูเกียรติผู้เกษียณอายุราชการ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยปีนี้ร่วมสดุดี รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช ผู้สร้างคุณูปการสำคัญต่อวงการศึกษา การวิจัย และการพัฒนาสังคม

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า ที่ห้องประชุมทิพย์นภา (1504) อาคาร B501 คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดพิธีมุทิตาจิตแด่ผู้เกษียณอายุราชการ ภายใต้ชื่องาน “ก้าวสำคัญ สู่วันที่สำเร็จ” เพื่อเชิดชูเกียรติผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำงานด้านการศึกษาและการวิจัยมาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่นและซาบซึ้ง เริ่มด้วยการกล่าวเปิดงานและแสดงมุทิตาจิตโดย ดร.นริสรา พาลุสุข รองคณบดีฝ่ายบริหารและภาพลักษณ์องค์กร ตามด้วยการฉายวีดิทัศน์เชิดชูเกียรติ การแสดงพิธีบายศรีสู่ขวัญ และการแสดงชุดวัฒนธรรม “ญ่ำแญงญ่องยอเฝ้าพ่อพญา” พร้อมทั้งการกล่าวแสดงมุทิตาจิตจากคณาจารย์ ศิษย์เก่า และผู้แทนองค์กรต่าง ๆ ที่เคยร่วมงานกับ รศ.ดร.เพ็ญศรี

ในปีนี้ ผู้เกษียณอายุราชการคือ รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและนวัตวณิชย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และอดีตคณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี (พ.ศ. 2559 – 2567) ผู้มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาการเรียนการสอน งานวิจัย และการบริการวิชาการให้แก่ชุมชนและสังคม ในโอกาสนี้ คณะฯ ยังได้มอบของที่ระลึกและทุนสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพการรักษาพยาบาลแก่ประชาชน

รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช กล่าวตอนหนึ่งว่า การเกษียณไม่ใช่การหยุดทำงาน แต่คือการก้าวออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาแสดงความสามารถ และตนเองยังคงยินดีที่จะทำงานเพื่อมหาวิทยาลัยและสังคมต่อไป หากได้รับโอกาสและความไว้วางใจ พร้อมขอบคุณผู้บริหาร เพื่อนร่วมงาน ศิษย์เก่า และเครือข่ายความร่วมมือที่ให้การสนับสนุนตลอดเส้นทางการทำงาน

ทั้งนี้ คณะบริหารธุรกิจและการบัญชีได้จัดทำ หนังสือและวีดิทัศน์ที่ระลึก เพื่อบันทึกเรื่องราวแห่งคุณูปการของ รศ.ดร.เพ็ญศรี โดยผู้สนใจสามารถอ่าน E-Book ได้ที่ https://kku.world/a2h69d และรับชมวีดิทัศน์ได้ที่ https://youtu.be/iun3CRMV380

หญิงสาววัย 25❗️กระโดดตึกชั้น 5 คณะทันตแพทย์ มข. อาการสาหัสเหตุสะเทือนใจกลางเมืองขอนแก่น หญิงสาววัยเพียง 25 ปี ตัดสินใจกร...
22/09/2025

หญิงสาววัย 25❗️กระโดดตึกชั้น 5 คณะทันตแพทย์ มข. อาการสาหัส

เหตุสะเทือนใจกลางเมืองขอนแก่น หญิงสาววัยเพียง 25 ปี ตัดสินใจกระโดดจากอาคารเรียนคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เจ้าหน้าที่เร่งนำส่ง รพ.ศรีนครินทร์ อาการยังสาหัส อยู่ในความดูแลแพทย์อย่างใกล้ชิด

เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 22 กันยายน 2568 ศูนย์วิทยุแก่นนคร สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลกระโดดตึก ภายในอาคารมหิตลานุสรณ์ คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.อนุภาพ ทุมมณี รอง สวป. พร้อมสายตรวจ 129 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิง ทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.สุวัฒนารักษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาว จ.ขอนแก่น กระโดดลงมาจากชั้น 5 ของอาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งปฐมพยาบาลและนำตัวส่งห้องฉุกเฉิน รพ.ศรีนครินทร์ อาการเบื้องต้นยังรู้สึกตัว สามารถพยักหน้าตอบคำถามได้ แต่ไม่สามารถพูดได้เนื่องจากต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ

จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าของผู้บาดเจ็บ พบใบนัดแพทย์แผนกจิตเวช รพ.ศรีนครินทร์ ตรงกับวันเกิดเหตุพอดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจมีปัญหาด้านสุขภาพจิตเป็นสาเหตุของการตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจจะได้สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุและประสานแพทย์ผู้ดูแล เพื่อหาข้อเท็จจริงที่แน่ชัดต่อไป

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการดูแลความเรียบร้อย พร้อมให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ ขณะนี้แพทย์ยังคงเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดในห้องกู้ชีพ รพ.ศรีนครินทร์

ชายต่างชาติ❗️บุกงัดตู้เอทีเอ็ม กลางดึก ตำรวจบ้านเป็ด รวบทันควันคนร้ายชายต่างชาติสวมชุดดำ ใช้รอกดึงตู้เอทีเอ็มขึ้นท้ายรถก...
22/09/2025

ชายต่างชาติ❗️บุกงัดตู้เอทีเอ็ม กลางดึก ตำรวจบ้านเป็ด รวบทันควัน

คนร้ายชายต่างชาติสวมชุดดำ ใช้รอกดึงตู้เอทีเอ็มขึ้นท้ายรถกระบะ หวังหลบหนี ตำรวจสายตรวจบ้านเป็ดบุกสกัดทัน รวบตัวได้คาที่เกิดเหตุ พร้อมของกลางทั้งตู้เอทีเอ็ม รถกระบะ และอุปกรณ์งัดแงะ

เมื่อเวลา 02.05 น. วันที่ 21 กันยายน 2568 ร.ต.อ.อนุพงษ์ บำรุงภักดี รอง สว.(ป) สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น พร้อมกำลังฝ่ายป้องกันปราบปราม ได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 ว่ามีคนร้ายกำลังงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าร้านไทยไซโย สาขาบ้านทุ่ม ต.บ้านทุ่ม อ.เมืองขอนแก่น จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดริมถนนมะลิวัลย์ฝั่งคู่ขนานมุ่งหน้าแยกบ้านทุ่ม โดยหันหัวรถย้อนศรเข้าเมืองขอนแก่น ภายในบริเวณดังกล่าวพบคนร้ายสวมชุดดำ กำลังใช้รอกดึงตู้เอทีเอ็มขึ้นท้ายกระบะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวได้ทันที

จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ ไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ และยังไม่ทราบชื่อ-สัญชาติ ตรวจยึดของกลางได้ทั้งหมด 3 รายการ ได้แก่ ตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ 1 ตู้ รถยนต์กระบะมาสด้าสีดำ ทะเบียน ขษ 654 ขอนแก่น และรอกพร้อมโซ่ 1 ตัว

พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.บ้านเป็ด เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ และใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมมอบหมายให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และติดตามเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวมาสอบสวนขยายผลต่อไป

ตร.สืบขอนแก่น❗️รวบชายเร่ร่อนพยายามอนาจารนักเรียนกลางเมือง เยื้องแฟรี่พลาซ่าตำรวจชุดสืบสวนเมืองขอนแก่นเข้ารวบชายเร่ร่อนวั...
20/09/2025

ตร.สืบขอนแก่น❗️รวบชายเร่ร่อนพยายามอนาจารนักเรียนกลางเมือง เยื้องแฟรี่พลาซ่า

ตำรวจชุดสืบสวนเมืองขอนแก่นเข้ารวบชายเร่ร่อนวัย 50 ปี หลังได้รับแจ้งพยายามยื่นมือจับร่างกายนักเรียนหญิงที่เดินผ่านริมถนนกลางเมือง โชคดีเด็กหลบทัน เบื้องต้นดำเนินคดีข้อหา “พยายามกระทำอนาจาร”

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีชายเร่ร่อนก่อเหตุพยายามอนาจารนักเรียน บริเวณริมถนนกลางเมือง เยื้องห้างแฟรี่พลาซ่า ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังได้รับแจ้ง รีบลงพื้นที่ตรวจสอบ พบชายเร่ร่อนภายหลังทราบชื่อคือ นายสมศักดิ์ แสงทอง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329/1 ถนนประชาสำราญ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น นั่งอยู่บริเวณดังกล่าว จากการเฝ้าสังเกตพฤติกรรม พบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์พยายามยื่นมือไปจับร่างกายเด็กนักเรียนที่เดินผ่าน หากเด็กไม่ทันระวังอาจถูกสัมผัสที่ต้นขาหรือใกล้อวัยวะเพ. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวและดำเนินการจับกุมในข้อหา “พยายามกระทำอนาจาร” ทันที โดยมี ว่าที่ พ.ต.ต.ธัชกรัณย์พงษ์ กุลตังวัฒนา พร้อมชุดสืบสวน ชป.2 นำกำลังปฏิบัติการ

ทั้งนี้ การจับกุมอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของ พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ ดาระภา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่

ขอนแก่นจัดงานยิ่งใหญ่❗️ฉลองวันชาติจีนครบรอบ 76 ปี กระชับสัมพันธ์ไทย–จีนแน่นแฟ้นจังหวัดขอนแก่นร่วมกับสถานกงสุลใหญ่สาธารณร...
20/09/2025

ขอนแก่นจัดงานยิ่งใหญ่❗️ฉลองวันชาติจีนครบรอบ 76 ปี กระชับสัมพันธ์ไทย–จีนแน่นแฟ้น

จังหวัดขอนแก่นร่วมกับสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน จัดงานเฉลิมฉลองวันชาติครบรอบ 76 ปี ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่น ผู้แทนรัฐบาลไทย–จีน และแขกผู้มีเกียรติหลากหลายวงการร่วมแสดงความยินดี สะท้อนมิตรภาพสองชาติที่เติบโตอย่างมั่นคง

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 เวลา 18.00 น. ที่ห้องคอนเวนชั่น โรงแรมอวานี ขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่นร่วมกับสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น จัดงานเฉลิมฉลองวันชาติจีนครบรอบ 76 ปี แห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน (ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี) ในโอกาสนี้ นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวแสดงความยินดีและอวยพรให้สาธารณรัฐประชาชนจีนมีความเจริญก้าวหน้า มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน พร้อมเดินหน้าพัฒนาภูมิภาคด้วยความสัมพันธ์อันดีเพื่อประโยชน์สุขของทั้งสองประเทศ ขณะที่ ฯพณฯ หลิว หงเหม่ย กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวสุนทรพจน์เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของไทยและจีน

ภายในงานยังมีแขกผู้มีเกียรติร่วมแสดงความยินดี อาทิ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น, พล.ต.กิตติพงษ์ เนื่องชมภู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23, นายคารม คำพิทูรย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น, นายสมสัก วิไลทอน กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำจังหวัดขอนแก่น ,นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จ.ขอนแก่น,นายจักรกฤษณ์ ศิริพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น,ดร.ทวีสันต์ วิชัยวงษ์ ปธ.สภาอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น, ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม และองค์กรต่าง ๆ

ทั้งนี้ ไทยและจีนได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี พ.ศ.2518 นับแต่นั้นทั้งสองประเทศมีความร่วมมืออย่างกว้างขวาง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2555 ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการประสานงาน ช่วยเหลือชาวจีนในภาคอีสาน อำนวยความสะดวกด้านการขอวีซ่า และส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีการลงนามความร่วมมือเมืองพี่เมืองน้องกับมณฑลต่าง ๆ ของจีน รวมทั้งการเชื่อมโยงธุรกิจไทย–จีน เพื่อสร้างโอกาสการพัฒนาร่วมกัน ส่งผลให้ภาคอีสานของไทยและจีนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้น และสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืน

“สช.” ติวเข้ม❗️สื่อสุขภาวะรุ่นใหม่ 35 สถาบันการศึกษาอีสานตอนบน ร่วมรณรงค์ลดพยาธิใบไม้ตับ–มะเร็งท่อน้ำดีสำนักงานคณะกรรมกา...
19/09/2025

“สช.” ติวเข้ม❗️สื่อสุขภาวะรุ่นใหม่ 35 สถาบันการศึกษาอีสานตอนบน ร่วมรณรงค์ลดพยาธิใบไม้ตับ–มะเร็งท่อน้ำดี

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) จับมือ สสส., สถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มข. และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการสื่อสุขภาวะรุ่นใหม่กว่า 100 คน จาก 35 สถาบันการศึกษาในอีสานตอนบน หวังสร้างแกนนำเยาวชนขับเคลื่อนการสื่อสาร ลดพฤติกรรมเสี่ยงการติดพยาธิใบไม้ตับและโรคมะเร็งท่อน้ำดี

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า ที่ห้องประชุมเรือนนภาลัย โรงแรมราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล จังหวัดขอนแก่น นายสุทธินันท์ บุญมี คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “สื่อสุขภาวะรุ่นใหม่ในสถาบันการศึกษาภาคอีสานตอนบน กับนวัตกรรมการสื่อสารรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลง” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18–20 กันยายน 2568 โดยมีนพ.วรัญญู สัตยวงศ์ทิพย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ, รศ.ดร.วัชรินทร์ ลอยลม รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น,นายดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส.,นายจักรรินทร์ สีมา / ผู้ชำนาญการ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สย.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ,น.ส.ยุวลักษณ์ เหมะวิบูลย์ หัวหน้ากลุ่มงานสื่อสารสังคม สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สช.,นายชูชาติ ตรีรัถยานนท์ชูชาติ ตรีรัถยานนท์ ผู้ชำนาญการด้านสื่อสารสังคม สช. คณะวิทยากรจาก สช.และนักเรียนสายสามัญ สายวิชาชีพ และนักเรียน นักศึกษากว่า 100 คน จาก 35 สถาบันการศึกษาเข้าร่วม

นายสุทธินันท์ บุญมี คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ในฐานะประธานจัดอบรมครั้งนี้ กล่าวว่า เรื่องของพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี เราพบว่าเป็นปัญหามานานแล้วและยังไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งในฐานะ สช.มีหน้าที่ร่วมงาน ประสานงานหรือสานพลัง วันนี้จึงได้ร่วมกันจัดงานขึ้นโดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเยาวชน ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี การป้องกัน การตัดวงจรพยาธิ สร้างความรู้ด้านเครื่องมือการสื่อสารต่างๆ สำหรับออกไปเผยแพร่ให้กับตัวเอง ครอบครัว เพื่อนๆในสถานศึกษา รวมถึงพี่น้องในชุมชน เพื่อตัดวงจรพยาธิใบไม้ตับให้ได้

“เมื่อลูกหลานเรามีความรู้แล้ว มีการพัฒนาด้านการสื่อสารสมัยใหม่ เชื่อว่าลูกหลานเราก็จะไปบอกครอบครัว ไปบอกเพื่อน ไปบอกชุมชน ทำให้พฤติกรรมการกินของเด็กรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้สามารถควบคุมพยาธิใบไม้ตับได้” นายสุทธินันท์ กล่าว

ด้าน นพ.วรัญญู สัตยวงศ์ทิพย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานสุขภาพแห่งชาติได้ร่วมกับแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. เพื่อให้ความรู้ด้านวิชาการในการผลิตสื่อและกลยุทธ์ในการทำสื่อเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้กับกลุ่มเยาวชน ครู นักเรียน

“ภาคอีสานตอนบน ขอนแก่น อุดรฯ และหลายจังหวัดปัญหาใหญ่ก็คือพยาธิใบไม้ตับที่มักเกิดจากการทานอาหารสุกๆดิบๆ ที่ชัดเจนมากคือปลาดิบ ดังนั้นทำอย่างไรให้โรคนี้หมดไปเพราะมันจะกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในอนาคต การสร้างสื่อจึงสำคัญมากที่จะรณรงค์ให้ความรู้สำหรับประชาชน วันนี้ดีใจที่เยาวชนมากันคับคั่งก็หวังว่าจะได้ผลในการกระจายความรู้ให้กับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องในอนาคตต่อไป” นพ.วรัญญู กล่าว

ในขณะที่ รศ.ดร.วัชรินทร์ ลอยลม รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี กล่าวถึงสถานการณ์พยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีว่า สถานการณ์ของผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีในภาคอีสานถือว่ายังไม่ดีขึ้น ซึ่งมีผู้ป่วยใหม่ของโรคนี้ในภาคอีสานประมาณปีละ 10,000 คน จากจำนวน 20,000 รายในทั่วประเทศ เขตที่มีจำนวนคนไข้สะสมเป็นอันดับ 1 คือเขต 8 รองลงมาคือเขต 7 , 9 และ 10 ตามลำดับ ถ้าดูจากสถิติแล้วถ้าผู้ป่วยไม่ได้เข้ารับการรักษาเลยก็จะเสียชีวิตภายในเวลา 1 ปี ดังนั้นในทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งท่อน้ำดีปีละ 20,000 ราย

“ถ้าเราลดอัตราผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีให้น้อยกว่า 30 หรือ 25 % ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณะสุขคือ 1 % จนไม่เป็นปัญหา เราก็คาดหวังว่าอีก 10 – 20 ปีข้างหน้าก็จะเห็นตัวเลขผู้ป่วยมะเร็งท่องน้ำดีลดลง” รศ.ดร.วัชรินทร์ กล่าว

ทางด้าน ดร.ดนัย หวังบุญชัย ผู้จัดการแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สสส. และคณะทำงานด้านการสื่อสาร สช. กล่าวถึงแผนการจัดอบรมครั้งนี้ว่า เราจะติดตั้งชุดความรู้ ความเข้าใจในเรื่องสถานการณ์และปัจจัยเสี่ยงของพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งน้องๆเองที่เป็นเยาวชนนั้นก็มีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราอยากจะทำให้น้องๆเยาวชนเป็นแกนนำที่จะออกแบบเรื่องการสื่อสารที่ตระหนักรู้และเฝ้าระวังถึงความเสี่ยงและพิษภัยของมะเร็งท่อน้ำดีและพยาธิใบไม้ตับ น้องๆควรต้องเริ่มต้นจากตัวเอง ขณะเดียวกันเราจะติดตั้งชุดความรู้ด้านการทำสื่อรณรงค์

“จะทำอย่างไรเพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยง ความเสี่ยงทั้งตัวเองและกลุ่มเป้าหมายที่พวกเขาจะสื่อสารด้วยนั้นเขาควรต้องวางแผนอย่างไร สื่อไหนที่เข้าถึง ลักษณะเนื้อหาสารแบบไหนถึงจะเข้าถึง ต้องทำต่อเนื่องไหมเป็นรูปแบบอย่างไรที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง เพราะว่าการทำแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ขาดความต่อเนื่องหรือไม่ทำร่วมกัน บางทีก็จะทำให้ประเด็นเนื้อหาสื่อนั้นคลาดเคลื่อนและหายไป” ดร.ดนัย กล่าว

สำหรับการจัดอบรมสร้างสื่อสุขภาวะรุ่นใหม่ภาคอีสานตอนบนในครั้งนี้ มีทั้งนักเรียนสายสามัญ สายวิชาชีพ และนักศึกษาจากหลายสถาบันศึกษาเข้าร่วมมากว่า 100 คน ซึ่งมีทั้งการอบรมการสร้างสรรค์นวัตกรรมการสื่อสารรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลงจากบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อ รวมทั้งกิจกรรม work shop เพื่อออกแบบและพัฒนานวัตกรรมการสื่อสารรณรงค์เพื่อการเปลี่ยนแปลง เรื่องการกำจัดปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 และ 8

คณะนิติฯ มข.❗️จับมือสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC)  ลงนาม MOU สร้างกลไกความร่วมมือ ยกระดับการเข้าถึงความยุติธรรมของประชาชนค...
19/09/2025

คณะนิติฯ มข.❗️จับมือสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) ลงนาม MOU สร้างกลไกความร่วมมือ ยกระดับการเข้าถึงความยุติธรรมของประชาชน

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการร่วมกับสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) เสริมสร้างองค์ความรู้และศักยภาพบุคลากรกฎหมาย เปิดพื้นที่การเรียนรู้จากสถานการณ์จริง สู่การเป็นศูนย์กลางการระงับข้อพิพาททางเลือกเพื่อประชาชนในภาคอีสาน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 19 กันยายน 2568 ที่ ห้องประดิษฐ์มนูธรรม 2 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการร่วม กับสถาบันอนุญาโตตุลาการ (Thailand Arbitration Center: THAC) เพื่อร่วมกันพัฒนากระบวนการเรียนรู้ การบริการวิชาการ และการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรด้านกฎหมาย โดยมีเป้าหมายสำคัญในการยกระดับการจัดการข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืน ตลอดจนการสร้างพื้นที่การเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง เพื่อเพิ่มพูนทักษะและศักยภาพแก่นักศึกษา โดยมี รศ.วนิดา แสงสารพันธ์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ มข. ผู้รับมอบอำนาจจาก รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข. พร้อมด้วยนายสุริยพงศ์ ทับทิมแท้ ผอ.สถาบันอนุญาโตตุลาการ เป็นผู้ร่วมลงนาม ในการนี้นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และอาจารย์วรวิทย์ ไชยตา รองคณบดีฝ่ายแผน การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและความยั่งยืนฯ ร่วมลงนามในการเป็นสักขีพยาน ตลอดจนอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มข. และนักศึกษา ร่วมในการลงนามบันทึกความเข้าใจทางวิชาการในครั้งนี้

รศ.วนิดา กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นไปตามพันธกิจหลักของคณะนิติศาสตร์ ที่มุ่งผลิตบัณฑิตกฎหมายคุณภาพและมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมตอกย้ำบทบาทคณะในฐานะ “ศูนย์กลางการระงับข้อพิพาททางเลือกเพื่อประชาชน” ผ่านการจัดตั้งศูนย์การประนอมข้อพิพาทชุมชน การให้บริการอนุญาโตตุลาการ การอบรมผู้ประนอมข้อพิพาท รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ

รศ.วนิดา กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ความร่วมมือยังมุ่งเน้นการอบรมและพัฒนาบุคลากรทั้งอาจารย์ นักศึกษา และเจ้าหน้าที่ เพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ด้านการอนุญาโตตุลาการและการจัดการข้อพิพาทในระดับสากล อันจะช่วยสร้างบุคลากรกฎหมายที่พร้อมทำงานในยุคใหม่ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไปสู่ความยุติธรรมที่ยั่งยืน

รศ.วนิดา ย้ำว่า ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างคณะนิติศาสตร์ มข. และ THAC ครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนบทบาทของคณะในฐานะกลไกหลักด้านความยุติธรรม แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการสร้างพื้นที่เรียนรู้และพัฒนาบุคลากรกฎหมายระดับประเทศและนานาชาติ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการก้าวสู่การเป็น “สถาบันทางกฎหมายชั้นนำเพื่อการพัฒนาและสร้างความยุติธรรมทางสังคมอย่างยั่งยืน”

รศ.วนิดา กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการทำงานร่วมกับภาคเอกชนด้านการระงับข้อพิพาททางเลือก โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 2 ประการ ได้แก่ 1) เปิดพื้นที่การเรียนรู้เชิงวิชาการให้นักศึกษาได้เห็นสถานการณ์จริงของการประนอมข้อพิพาทและการใช้อนุญาโตตุลาการ ซึ่งจะช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในอนาคต และ 2) เพิ่มพื้นที่ทางวิชาการและสร้างช่องทางปลอดภัยในการระงับข้อพิพาทแก่ประชาชนและภาคธุรกิจในภาคอีสาน โดยไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นช่องทางฝึกอบรมและพัฒนานักประนอมในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของคณะนิติศาสตร์ในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เพื่อสังคม

ด้านนายสุริยพงศ์ ทับทิมแท้ ผู้อำนวยการ THAC กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้าง “มหาวิทยาลัยขอนแก่น” ให้เป็นศูนย์ต้นแบบของการระงับข้อพิพาททางเลือก โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบกระบวนการจัดการข้อพิพาท และเชื่อมั่นว่าอนุญาโตตุลาการจะเป็นหนึ่งในกลไกยุติธรรมหลักในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทในอนาคต

ขณะที่นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมมุ่งอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนในทุกมิติ โดยสถาบันอนุญาโตตุลาการถือเป็นอีกกลไกสำคัญในการระงับข้อพิพาท โดยเฉพาะในคดีทางพาณิชย์ การลงนามครั้งนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ลดขั้นตอนการดำเนินคดี และยังคงไว้ซึ่งความลับของคู่กรณี อีกทั้งยังถือเป็นครั้งแรกที่กระทรวงได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยภูมิภาค ซึ่งหวังว่าจะเป็นต้นแบบและขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

“กฟผ.”❗️หนุนวิสาหกิจชุมชน ภาคอีสาน ยกระดับแปรรูปเกษตร เข้าสู่ตลาด สร้างความยั่งยืนกฟผ. ยกระดับศักยภาพวิสาหกิจชุมชนภาคอีส...
18/09/2025

“กฟผ.”❗️หนุนวิสาหกิจชุมชน ภาคอีสาน ยกระดับแปรรูปเกษตร เข้าสู่ตลาด สร้างความยั่งยืน

กฟผ. ยกระดับศักยภาพวิสาหกิจชุมชนภาคอีสาน มอบเครื่องสีข้าว และเครื่องแปรรูปเกษตรครบชุด พร้อมส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนเข้าสู่ตลาด หวังสร้างรายได้มั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน ร่วมกับฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้จัดพิธีส่งมอบเครื่องสีข้าว และเครื่องมือแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตร ได้แก่ เครื่องบดอัดเม็ดอาหาร และเครื่องสับต้นกล้วยและวัชพืช ให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน บ้านโนนสำราญ หมู่ 12 ตำบลสว่าง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร เพื่อยกระดับกระบวนการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าวและพืชเกษตรอินทรีย์ให้มีคุณภาพและมีมูลค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น

พิธีดังกล่าวได้รับเกียรติจากนายวีรรัตน์ ธีรมิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธาน พร้อมด้วยนายนำพล โพธิวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน กฟผ. ในฐานะผู้แทน กฟผ. หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กฟผ. ผู้บริหารท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วม ณ โรงเรือนสีข้าว “กฟผ.พัฒนา” ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ซึ่งเกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของคนในชุมชนในการก่อสร้างเพื่อใช้ประโยชน์จากเครื่องจักรชุดใหม่ที่ได้รับมอบ

ภายหลังพิธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยมโรงเรือนสีข้าว เยี่ยมชมกระบวนการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงปลูกต้นมะม่วงเบาเป็นที่ระลึก เพื่อส่งเสริมเป็นพืชเศรษฐกิจอนาคตที่สามารถสร้างรายได้ตามความต้องการของตลาด พร้อมทั้งเยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้าชุมชนที่กลุ่มนำมาจัดแสดงและจำหน่ายภายในงาน

นายนำพล โพธิวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ความยั่งยืน กฟผ. เปิดเผยว่า กฟผ. มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนรอบพื้นที่ กฟผ. ให้ดำรงชีพได้อย่างมีความสุข ปลอดภัยจากสารเคมี และมีรายได้ที่มั่นคง โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโนนสำราญ ถือเป็นต้นแบบที่เข้มแข็ง เข้าร่วมโครงการ “ชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตั้งแต่ปี 2559 ร่วมกับวิทยาลัยการอาชีพพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ส่งเสริมเกษตรปลอดภัยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศในปี 2560

สำหรับปี 2568 กฟผ. โดยกองประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ระบบส่ง ได้เข้ามาสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพด้านการแปรรูปสินค้าและการบริหารจัดการ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยเฉพาะการแปรรูปข้าวเกษตรอินทรีย์ที่เป็นสินค้าหลักของพื้นที่ ซึ่งเครื่องสีข้าวและอุปกรณ์ที่มอบในครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพการผลิตให้เข้มแข็ง และต่อยอดไปสู่การสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับพี่น้องประชาชนในชุมชนต่อไป

ม.ศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น เปิดรับสมัคร Dek 69 แล้ว🎉🔥สำหรับน้องน้องที่กำลังศึกษาอยู่  ชั้น ม.6 กศน. ปวช. ปวส. หรือเทียบเท...
17/09/2025

ม.ศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น
เปิดรับสมัคร Dek 69 แล้ว🎉🔥
สำหรับน้องน้องที่กำลังศึกษาอยู่
ชั้น ม.6 กศน. ปวช. ปวส. หรือเทียบเท่า
สมัครและลงทะเบียนเรียน รับทุนการศึกษาสูงสุด 20,000บ.
-ไม่ต้องใช้คะแนนใดๆทั้งสิ้น
-ไม่ต้องรอถึงจบการศึกษา
สามารถสมัครและ ลงทะเบียนเรียนรับทุนการศึกษาสูงสุด ได้ทันที
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม☎️ โทร 043-224-111 หรือ 092-5374400
*เงื่อนไขเป็นไปตามมหาวิทยาลัยกำหนด
#มหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำ ติดอันดับ 1ใน5 มหาวิทยาลัยเอกชนที่ดีที่สุดในประเทศ

“ร.ร.สนามบิน ขอนแก่น”❗️ตื่นตัวด้านภาษา รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตรพิเศษ ของชมรมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสต...
17/09/2025

“ร.ร.สนามบิน ขอนแก่น”❗️ตื่นตัวด้านภาษา รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตรพิเศษ ของชมรมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปราจีนบุรี

ชมรมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปราจีนบุรี มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และเกียรติบัตรพิเศษ ให้กับโรงเรียน คณะครู อาจารย์ และนักเรียน ที่ส่งผลงานเข้าร่วมโครงการยกระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและจีนของเด็กนักเรียนไทย ประจำปีการศึกษา 2565 ถึง 2566 วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริม-สนับสนุน ให้นักเรียนโดยเฉพาะเด็กหลังห้อง ยกระดับตนเอง จนสามารถ เรียน อ่าน-เขียน-พูด-สื่อสาร ภาษาสำคัญทั้งสาม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 กันยายน 2568 ที่ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น (หลังเก่า) นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และเกียรติบัตรพิเศษ ให้กับโรงเรียน คณะครู อาจารย์ และนักเรียน ที่ส่งผลงานเข้าร่วมโครงการยกระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและจีนของเด็กนักเรียนไทย ประจำปีการศึกษา 2565 ถึง 2566 โดยมี นายสมชาย เข็มเศรษฐ ที่ปรึกษาชมรมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปราจีนบุรี เป็นผู้กล่าวรายงาน ในการนี้นายธนวรรธน์ ธะนะคำมา ผู้อำนวยการ (เชี่ยวชาญ)โรงเรียนสนามบินจังหวัดขอนแก่น ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู ตลอดจนนักเรียน ร่วมรับมอบในครั้งนี้

นายสมชาย เข็มเศรษฐ ที่ปรึกษาชมรมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ปราจีนบุรี ผู้ดำเนิน
โครงการยกระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและจีนของเด็กนักเรียนไทย ขออนุญาตเป็นผู้กล่ายงาน ตามที่ โครงการยกระดับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและจีนของเด็กนักเรียนไทย ประกวดคัดลายมือ ภาษาอังกฤษ-ไทย-จีน ครั้งที่ 5/2022-6/2023 (ประจำปีการศึการศึกษา 2565-2566 ตามลำดับ) ได้ทำหนังสือเชิญหน่วยงานทางการศึกษา ทุกระดับ-ทุกสังกัด ให้ส่งผลงานนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม มีวัตถุประสงค์ ส่งเสริม-สนับสนุน ให้นักเรียนโดยเฉพาะเด็กหลังห้อง ยกระดับตนเอง จนสามารถ เรียน อ่าน-เขียน-พูด-สื่อสาร ภาษาสำคัญทั้งสาม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสถานศึกษา มากกว่า 1,000 แห่งใน 70 จังหวัด ส่งผลงานนักเรียนมากกว่า 20,000 ชิ้นงาน เข้าร่วม

ในส่วนของจังหวัดขอนแก่น มีโรงเรียน 15 แห่ง ส่งผลงานนักเรียน รวม 384 ชิ้นงาน เข้าร่วม
ตนได้นำเรื่องขึ้นเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ขออนุญาตท่าน ลงลายมือชื่อ ในโล่ประกาศเกียรติคุณ ที่จัดทำขึ้นเพื่อโรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวนมากตื่นตัวด้านภาษา ในที่นี้ได้แก่ โรงเรียน สนามบิน อ.เมือง จ.ขอนแก่น และ ใน เกียรติบัตรพิเศษ สำหรับนักเรียนที่มีผลงานสมควรยกของชมเชย รวมทั้ง เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่คุณครู และผู้บริหารสถานศึกษาผู้เกี่ยวข้อง การนี้ได้รับการอนุมัติแล้ว ทั้ง โล่ประกาศเกียรติคุณ และ เกียรติบัตรพิเศษ เหล่านี้ จะเป็นรางวัลที่สำคัญ สำหรับความตั้งใจมุ่งมั่น ในการเรียน-การสอน และเป็นส่วนเสริมที่จะส่งผลกระทบเชิงบวก ให้เยาวชนรุ่นหลัง รักเรียน-ประพฤติดี

ด้าน นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า วันนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นมอบหมายให้ตนเป็นประธานในการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และ เกียรติบัตรพิเศษ แก่คณะครูอาจารย์และลูกๆนักเรียนทุกคนที่ได้รับรางวัล ในนามของจังหวัดขอนแก่นก็ขอแสดงความยินดี และขอแสดงความชื่นชม โรงเรียนที่มีผลงานดีและขอชมเชยความตั้งใจ มุ่งมั่นทุ่มเทเสียสละของคุณครูและผู้บริหารสถานศึกษาที่ต้องการให้นักเรียนมีความสามารถทางภาษาสำคัญอันจำเป็นอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเข้าสู่ตลาดแรงงานในอนาคต จังหวัดขอนแก่นยินดีให้การสนับสนุนและชื่นชมที่ได้เห็นความตื่นตัวให้ทราบถึงความก้าวหน้าของภาษาของเด็กนักเรียนบ้านเราขอให้นักเรียนทั้งหลายตั้งใจพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้ายิ่งยิ่งขึ้นไปจนสามารถนำไปใช้งานได้อย่างดีเพื่อประโยชน์ในชีวิตการงานในอนาคต

โดยเฉพาะในการฝึกฝนด้านภาษาอังกฤษ ไทยจีนโดยเฉพาะ ด้านภาษาจีน ซึ่งจะเป็นภาษาสากลอีก 1 ภาษา อย่างเช่น กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำจังหวัดขอนแก่น เวลาท่านมาติดต่อหน่วยงานราชการ ภาษาหลักที่ใช้ก็คือภาษาจีน ต่อมาก็คือภาษาอังกฤษ นั้นคือภาษาที่สำคัญในโลกนี้ ส่วนเกียรติบัตรที่รับไปโดยเฉพาะลูกๆนักเรียนทุกคน สามารถใช้ได้ตั้งแต่ เอาไว้ใช้ในการประกอบ รอบ portfolio ในการเข้าศึกษาต่อในระดับ อุดมศึกษา และภาษาก็ใช้ได้ตลอด แม้แต่ชีวิตประจำวัน เขียนภาษาอังกฤษได้ ภาษาจีนได้ พูดภาษาอังกฤษได้ จะเป็นความสามารถพิเศษกับลูกๆนักเรียนทุกคนตลอดไป ก็ขอแสดงความชื่นชมกับทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนนางสาวภัทรทิรา นิจจอหอ หัวหน้าโครงการห้องเรียนพิเศษภาษาจีน โรงเรียนสนามบิน จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ในหลักการทำงานของพวกเราคือการทำงานเป็นทีม ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ เราก็จะมีการแบ่งหน้าที่ ส่วนคุณครูก็จะมีการแยกย้ายไปตามกลุ่มสาระต่างๆ เพื่อช่วยเหลือกันในโรงเรียน จึงทำให้ผลสำเร็จออกมาเป็นที่น่าภาคภูมิใจ และได้รับรางวัลในครั้งนี้ สุดท้ายก็อยากให้ทุกหน่วยงานช่วยกันสนับสนุนในเรื่องของภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ เพราะว่าภาษาในปัจจุบัน เป็นสิ่งสำคัญมากในการสื่อสาร และมีความสำคัญต่อเด็กๆที่จะมีบทบาทต่อไปในสังคมโลก

สุดท้าย นางสาวไอรดา อินทะคม นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกัลยาณวัตร ศิษย์เก่า โรงเรียนสนามบิน กล่าวว่า ในการเรียนภาษาของตนคือเรียนตามที่คุณครูได้มอบหมายงานให้ เช่นคุณครูปัทมาวดี ก็จะคอยให้เทคนิคในการทำแบบทดสอบกับเด็กๆ ในการจำคำศัพท์ และในบทเรียนตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายให้ และก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวนักเรียนด้วยว่านักเรียนจะใช้เทคนิคอะไรในการจำข้อสอบ ที่ให้มาและจะไปปรับใช้อย่างไร ขึ้นอยู่กับปัจจัยของแต่ละบุคคล เช่นอย่างของตนก็จะจำคำศัพท์ที่คุณครูปัทมวดี เคยสอนมาในบทเรียน และใช้ได้ดีสำหรับตน และในตัวเพื่อนๆได้ดี

“สอน.”❗️ลงพื้นที่ขอนแก่น เดินหน้าขับเคลื่อนอุตฯ อ้อยและน้ำตาลสีเขียว สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ลงพื้นที...
17/09/2025

“สอน.”❗️ลงพื้นที่ขอนแก่น เดินหน้าขับเคลื่อนอุตฯ อ้อยและน้ำตาลสีเขียว

สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ลงพื้นที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายสู่ความยั่งยืน เน้นการลดเผาอ้อย ลด PM 2.5 สอดรับนโยบายรัฐบาล พร้อมผลักดันมาตรการสร้างแรงจูงใจเกษตรกร เดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ปี 2608

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 ที่หอประชุม 100 ปี ที่ว่าการอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น นายประสิทธิ์ วงษาเทียม รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เป็นประธานเปิดโครงการประชาสัมพันธ์ “ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้เติบโตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” โดยมีนายอดิศักดิ์ กิตติปัญญาศิริ ปลัดอาวุโสอำเภอน้ำพอง, นายประสิทธิ์โสริน หน.กลุ่มนโยบายและแผนสำนักงานอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น, นายเลิศลักษณ์ เจนวิทย์ ผอ.การผลิต JSL น้ำพอง,นายชัยรัตน์ กิตติวราพล รองเลขาธิการสมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยน้ำพอง ,นายสมหวัง ก้องกงไกล ผอ.ศูนย์ส่งส่งเสริมอุตสาหกรรมอัอยและน้ำตาลทราย ภาค 4 , นายธวัช หะหมาน ผอ.กองยุทธศาสตร์และแผนงานสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย, นางมิณรญา วัฒนวาทิตกุล เลขานุการกรมฯ, นายวีนัด สำราญวงศ์วิทยากรเกษตรกรต้นแบบในการตัดอ้อยสด หน่วยงานภาครัฐ และเกษตรกรชาวไร่อ้อย เข้าพิธีเปิดและร่วมเสวนา และฟังในครั้งนี้

นายประสิทธิ์ เปิดเผยว่า ภายใต้แนวคิด MIND “อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเติบโต กระจายรายได้ เคียงคู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อมที่ดี” สำนักงานฯ ได้เดินหน้าประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความเข้าใจแก่สาธารณชน และจูงใจให้เกษตรกรปรับพฤติกรรม ลดการเผาอ้อย และทำการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนในฤดูการผลิตปี 2567/68 มีอ้อยสดเข้าหีบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 85.14% ขณะที่อ้อยเผาลดเหลือ 14.86% ซึ่งถือว่าต่ำสุดที่ไม่เคยทำได้มาก่อน

พร้อมกันนี้ สอน. ได้โอนเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสด 100% สำเร็จแล้วกว่า 93% และเร่งดำเนินการอีก 7% ผ่านแอป “ทางรัฐ” ให้ครบถ้วนโดยเร็ว

สำหรับแนวทางการลดการเผาอ้อยเพิ่มเติม ได้แก่ การสร้างมูลค่าเพิ่มจากใบและยอดอ้อย เช่น ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ การสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มจัดหาเครื่องจักรกลทางการเกษตร รวมถึงสินเชื่อสีเขียวเพื่อการจัดการแหล่งน้ำและซื้อเครื่องจักรกลเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเดินหน้าโครงการเฟส 4 ปี 2568–2570 กรอบวงเงินปีละ 2,000 ล้านบาท รวม 6,000 ล้านบาท รัฐชดเชยดอกเบี้ยร่วมกับ ธ.ก.ส. เกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยเพียง 2%

“ผมหวังว่ามาตรการต่าง ๆ จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรและโรงงานน้ำตาลร่วมมือกับภาครัฐ ลดการเผาอ้อย ลด PM 2.5 และทำให้ฤดูการผลิตปีต่อไปมีอ้อยเผาลดลงกว่าเดิม สอดรับเป้าหมายรัฐบาลที่จะให้ไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608” นายประสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

“ตม.ขอนแก่น”❗️สนธิกำลังกวาดล้าง แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกลางเมืองตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่น สนธิกำลังบุกตรวจร้านค้าปลีกใจกลาง...
16/09/2025

“ตม.ขอนแก่น”❗️สนธิกำลังกวาดล้าง แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกลางเมือง

ตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่น สนธิกำลังบุกตรวจร้านค้าปลีกใจกลางเมือง หลังสืบทราบเบาะแส พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว 3 ราย ลักลอบทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในการกวาดล้างจับกุมแรงงานต่างด้าวที่อยู่เกินกำหนดอนุญาต และลักลอบทำงานผิดกฎหมาย ชุดสืบสวนปราบปรามตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดขอนแก่น (ตม.จว.ขอนแก่น) ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบร้านค้าปลีกแห่งหนึ่ง บริเวณถนนหน้าเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่ามีการจ้างแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย

จากการตรวจสอบที่ร้าน “เจ๊แคท” เจ้าหน้าที่พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาว 3 คน กำลังทำงานจัดเรียงสินค้าอยู่ภายในร้าน จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทั้งขอตรวจสอบเอกสาร พบว่าทั้ง 3 ราย มีหนังสือเดินทางถูกต้อง แต่ไม่มีใบอนุญาตทำงานตามกฎหมาย ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย1. นางคองมา อายุ 30 ปี 2. นายศรีสุมัง อายุ 31 ปี และ3. นายไหมไทย อายุ 21 ปี

การสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดเดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว และยังคงอยู่ในราชอาณาจักรโดยถูกต้อง แต่กลับลักลอบทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ถือเป็นความผิดตามมาตรา 8 พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2561 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขอนแก่น จึงได้แจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามราย ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่อยู่

150/5-6 ถ. มิตรภาพ ต. ในเมือง อ. เมือง จ. ขอนแก่น
Khon Kaen
40000

เบอร์โทรศัพท์

+6643239193

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ KKCHผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง KKCH:

แชร์

Outside Broadcasting

ถ่ายทอดสด Live Stream ผ่าน Facebook , Youtube

- บริการถ่ายทอดสดด้วยกล้องระดับ Full HD , 4k ด้วยอุปกรณ์ Blackmagic Design: ATEM Production Studio 4K • งานประชุม • งานสัมมนา • งานเปิดตัวสินค้า • คอนเสิร์ต • งานแต่ง • Event • ฯลฯ

- รับผลิต Presentation บริษัท , สำนักงาน , ร้านค้า - รับผลิต ภาพยนตร์ , โฆษณา , TVC , Clip Video Viral - รับออกแบบป้ายโฆษณา , โบชัวร์ , แคตตาล็อกสินค้า , โลโก้ผลิตภัณ์ ฯลฯ