Brownie teacher by KruKwang

Brownie teacher by KruKwang ครูสังคม แชร์สิ่งดีๆเพื่อสังคม
สร้างภาวะผู้นำแห่งเปลี่ยนแปลงในการเรียนวิชา
ประวัติศาสตร์ไทยใหม่กันเถอะ
(1)

สยามและอินโดจีนของฝรั่งเศษ ราว พ.ศ.2430-2438 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5
13/07/2025

สยามและอินโดจีนของฝรั่งเศษ ราว พ.ศ.2430-2438 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5

11/07/2025

ยินดีด้วยครับคุณได้เป็นหัวแถวแล้ว

07/07/2025
07/07/2025
07/07/2025
01/07/2025

🎓✨ อบรมฟรี! Canva for EDU. ✨🎓
โอกาสดี ๆ ที่คุณครู นักเรียน และสายสร้างสรรค์ไม่ควรพลาด!
📣 มาเปิดโลกการเรียนรู้ยุคใหม่ ด้วยพลังของ Canva + AI ที่จะช่วยให้คุณ
🎯 ยกระดับการเรียนการสอน
🎯 บริหารจัดการห้องเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ
🎯 สร้างสื่อสุดปังได้ในไม่กี่คลิก!

💡 สิ่งที่คุณจะได้เรียนรู้:
🔹 ใช้ Canva สร้างห้องเรียนออนไลน์
🔹 ใช้ Canva สร้าง "โค้ด" สร้างระบบบันทึกข้อมูล
🔹 ใช้ Canva สร้าง “รูปภาพ” และ “วิดีโอ” นำเสนอผลงานอย่างมืออาชีพ

🗓️ อบรมวันที่: 5 กรกฎาคม 2568
🕘 เวลา: 09.00 - 16.00 น.
🌐 เรียนสดออนไลน์ผ่าน: Zoom และ YouTube

🎁 สิทธิพิเศษที่ได้รับ:
✅ เอกสารประกอบการอบรม (ฟรี!)
✅ ชุดคำสั่งตัวอย่างนวัตกรรม (ฟรี!)
✅ รับชมย้อนหลังได้ภายใน 14 วัน
📩 หากต้องการรับใบประกาศนียบัตร (ค่าลงทะเบียนเพียง 160 บาท)
📩 หากต้องการเรียนย้อนหลังแบบไม่จำกัดตลอดชีพและสิทธิพิเศษอีกมากมายสามารถสมัครได้ที่👉: https://educationplatformth.my.canva.site/register-vip-member-group-by

📌 พิเศษ! สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมทีม Canva AI
เข้าร่วม Team ฟรี! เพื่อเปิดสิทธิ์ใช้งาน Canva for EDU และ Canva AI แบบจัดเต็ม! (สงวนสิทธิ์เฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนขอรับวุฒิบัตร จำนวน 160 บาท)

📲 สแกน QR หรือคลิกเพื่อลงทะเบียนตอนนี้เลย!
👉 https://forms.gle/u2NoS4aBKeR47M34A

💬 มีคำถาม? ทักอินบ็อกซ์ได้เลย เรายินดีให้คำแนะนำทุกขั้นตอน

#อบรมออนไลน์ #นวัตกรรมการศึกษา #อบรมฟรี
ื่อการศึกษา #สมาพันธ์เมตสเฟอร์เพื่อการศึกษาและอาชีพแห่งประเทศไทย

30/06/2025

🤩 ตั้งนาฬิกาปลุก ลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่ง พรุ่งนี้แล้ว!

💬 เตรียมลงทะเบียนเลย! ก็พรุ่งนี้โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 68 จะเปิดให้ประชาขนลงทะเบียนแล้ว โดยจะเริ่มเวลา 8 โมงเช้าเป็นต้นไป จำกัด 500,000 สิทธิ์เท่านั้นนะ อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุก

📍 ลงทะเบียนผ่านแอป Amazing Thailand (อย่าลืมโหลดแอป ThaiID ไว้ด้วยนะ
📆 วันที่ 1 ก.ค. 68
⏰ เวลา 8.00 น.

📌 ข้อมูลเพิ่มเติมใต้เมนต์

#ชอบโปร #ชอบโปรแชร์ข่าว #เที่ยวไทยคนละครึ่ง

30/06/2025

***** ปราสาทขอมของไทย *****
** สัญลักษณ์เก่าทางอารยธรรม *
** สมบัติของชาติไทยต้องหวง **

***** ***** ***** **** ***** *****

โดย ไกรฤกษ์ นานา
นักสืบประวัติศาสตร์
30 มิถุนายน 2568

ตอน ( 1 ) กำเนิดปราสาทขอม

" ขอม" กับ " เขมร " เป็นชาติพันธุ์คนละกลุ่มกัน มีตัวตนอยู่คนละยุคสมัย ก่อนการมีแผนที่สมัยใหม่ที่กำหนดโดยพวก "ฝรั่ง"

เมื่อ 1,000 ปีมาแล้วนั้น อาณาบริเวณต่างๆ ในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ยังไม่ระบุชื่อประเทศแน่ชัดแบบทุกวันนี้ เป็นชื่อ ประเทศไทย, กัมพูชา, ลาว, พม่า หรือ มลายู

แต่เรียกในแผนที่ทางภูมิศาสตร์ เป็น อาณาจักรพุกาม, อาณาจักรขอม, อาณาจักรน่านเจ้า เป็นต้น ( ดูในแผนที่ )

พื้นที่ของสยามรัฐ (หรือประเทศไทย ) เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรขอม มีศูนย์กลางอยู่ตั้งแต่เมืองละโว้ ( ลพบุรี ) พาดผ่านไปถึงเมืองพระนคร ( นครวัด - นครธม ) ในปัจจุบัน อยู่ที่เมืองเสียมราฐในกัมพูชา

และไม่เคยมีพรมแดน หรือเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน แต่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่ราบลุ่ม ที่เหมาะทำการการเกษตร ต้องอยู่ใกล้แม่น้ำ เพื่อการยังชีพและเลี้ยงสัตว์ ผู้คนเคลื่อนย้ายชุมชนและถิ่นฐานไปมา โดยไม่จำแนกเผ่าพันธุ์ ที่ใดอุดมสมบูรณ์ก็ตั้งรกรากอยู่กินกันที่นั่น

พร้อมกับการนำ " อารยธรรม" ศาสนา และวิถีชีวิต ไปไว้ ณ ที่นั้นด้วย

" ขอม " กับ " เขมร " จึงเป็นคนละชาติพันธ์ และคนละยุคกัน

อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าชาวกัมพูชาตั้งแต่อดีตไม่เคยเรียกตนเองว่า " ขอม " เลย คำว่าขอมนี้ปรากฏเฉพาะก็แต่ในเอกสารของไทยเท่านั้น

โดยอาจจะแผลงมาจากคำว่า " ขแมร์กรอม " ซึ่งหมายถึงเขมรต่ำ ส่วนคำว่าเขมรนั้นเป็นคำที่ชาวเขมรใช้เรียกตัวเอง ซึ่งเห็นได้จากจารึกโบราณหลายหลัก

ชื่อศิลปะเขมร หรือศิลปะขอม จึงเกิดขึ้นจากการใช้ " เชื้อชาติ " มาเป็นชื่อเรียกศิลปกรรม

การเรียกศิลปะกลุ่มนี้ว่าศิลปะเขมร หรือศิลปะขอมนั้น นอกจากกระแสการแบ่งศิลปกรรมออกตามเชื้อชาติแล้ว ยังคำนึงถึงความไม่เหมาะสมของชื่อ ถ้าจะเรียกว่าศิลปะลพบุรี

และตามข้อเท็จจริงแล้ว อาณาจักรขอมโบราณ ที่เคยอยู่ในดินแดนของประเทศไทยนั้น กษัตริย์ของอาณาจักรขอม ได้เป็นผู้อุปถัมภ์ ให้สร้างโบราณสถานวัตถุต่างๆ ที่เรียกว่า " ปราสาท " เหล่านี้ขึ้น

ติดตามตอน ( 2 ) ร่องรอยปราสาทขอมในไทย

[ ภาพประกอบ : ภาพแผนที่อาณาจักรขอม ก่อนจะตั้งประเทศไทย ภาพโดยอาจารย์ทองใบ แตงน้อย ]

30/06/2025

#อีเว้นท์พาสอัปเดต 📣 พรุ่งนี้เตรียมปลุก! โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เริ่มลงทะเบียน 8 โมงเช้า จำนวน 5 แสนสิทธิ์ โดยรัฐจะออกค่าที่พักในเมืองท่องเที่ยวหลัก วันธรรมดา 50% ไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือคืน และในวันหยุด 40% สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องหรือคืนเช่นกัน ใครสายเที่ยวห้ามพลาด!
⭐️ ใครที่สนใจเข้าโครงการนี้แนะนำให้ลงทะเบียน ThaID ล่วงหน้าน้า จะได้ลดขั้นตอนลงทะเบียน ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง’ รวดเร็วขึ้นไม่ต้องเสียเวลาในวันเปิดรับสมัครจริง
📍 เว็บลงทะเบียน >> evpss.in/il4NN
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บ เที่ยวไทยคนละครึ่ง >> evpss.in/il4NN , evpss.in/QoyuB
อัปเดตอีเว้นท์ก่อนใคร ออกไปใช้ชีวิตในแบบคุณ
โหลดแอป Eventpass ฟรี! ไม่พลาดทุกอีเว้นท์แน่นอน
IOS : https://evpss.in/evpappios
Android : https://evpss.in/evpappandroid
#อีเว้นท์พาส

28/06/2025

ต้นกำเนิดและการกระจายตัวของภาษาตระกูลไท-กะได (Tai–Kadai หรือ ขร้า–ไท)

ภาษาตระกูลไท–กะได (Tai–Kadai หรือ Kra–Dai) เป็นตระกูลภาษาที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีนตอนใต้ มีพัฒนาการทางภาษาที่ซับซ้อนและมีการแพร่กระจายของผู้พูดในลักษณะที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนย้ายของกลุ่มชนในอดีต บทความนี้มุ่งศึกษาแหล่งกำเนิดทางภาษาศาสตร์ของตระกูลไท–กะได การจำแนกสาขาภาษาภายในตระกูลนี้ รวมถึงกระบวนการแพร่กระจายจากจีนตอนใต้ลงสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอาศัยหลักฐานจากภาษาศาสตร์ประวัติศาสตร์ มานุษยวิทยา และพันธุศาสตร์สมัยใหม่

1. บทนำ
ภาษาตระกูลไท–กะได (Tai–Kadai หรือที่รู้จักในชื่อ Kra–Dai) เป็นกลุ่มภาษาที่มีผู้พูดมากกว่า 100 ล้านคนในหลายประเทศ เช่น ไทย ลาว จีน เมียนมา เวียดนาม และบางส่วนของอินเดีย ภาษาหลักในตระกูลนี้ ได้แก่ ภาษาไทย ลาว จ้วง และไทใหญ่ เป็นต้น นักวิชาการได้เสนอทฤษฎีต่างๆ เกี่ยวกับต้นกำเนิดของภาษาตระกูลนี้ และความสัมพันธ์ของภาษากับกลุ่มชาติพันธุ์ผู้พูด ซึ่งบทความนี้จะอภิปรายอย่างเป็นระบบ

2. ต้นกำเนิดของภาษาตระกูลไท–กะได
นักภาษาศาสตร์เชื่อว่าภาษาตระกูลไท–กะไดมีต้นกำเนิดจากบริเวณทางตอนใต้ของประเทศจีน โดยเฉพาะในมณฑลยูนนานและกวางสี (Edmondson & Solnit, 1997) บางทฤษฎี เช่น Sagart (2005) และ Ostapirat (2005) เสนอว่าภาษานี้มีความเชื่อมโยงกับภาษาตระกูลออสโตรนีเชียน (Austronesian) และอาจมีต้นกำเนิดร่วมกันในแถบชายฝั่งทะเลจีนตอนใต้
การศึกษาทางพันธุกรรมสมัยใหม่ (Kutanan et al., 2017; Kutanan et al., 2018) สนับสนุนแนวคิดที่ว่าการกระจายตัวของภาษาตระกูลไท–กะไดมาจากการเคลื่อนย้ายของประชากรจากจีนตอนใต้ลงมาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเรียกว่า “demic diffusion” มากกว่าการรับภาษาผ่านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเพียงอย่างเดียว

3. การจำแนกสาขาภาษาภายในตระกูลไท–กะได

ตระกูลภาษานี้สามารถจำแนกออกเป็น 5 สาขาหลัก ได้แก่ (ตาม Ostapirat, 2005 และ Pittayaporn, 2009):
1. สาขาไท (Tai) – ภาษาไทย ลาว ไทใหญ่ ไทลื้อ ฯลฯ
2. สาขากะได (Kam–Sui) – ภาษากัม สุย ต้ง ฯลฯ
3. สาขาขร้า (Kra) – ภาษาขร้า เช่น ลาฮา ฯลฯ
4. สาขาไหล (Li) – ภาษาที่พูดบนเกาะไหหลำ
5. สาขาเบ (Be) – ภาษาเบที่พูดในบริเวณชายฝั่งไหหลำ

4. การแพร่กระจายทางภูมิศาสตร์และชาติพันธุ์

หลังจากที่ภาษาตระกูลไท–กะไดเกิดขึ้นในจีนตอนใต้ กลุ่มผู้พูดได้อพยพลงมาสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงประมาณ 1,000 ปีที่ผ่านมา การอพยพดังกล่าวนำไปสู่การตั้งถิ่นฐานของกลุ่มชนไทในพื้นที่ต่าง ๆ ได้แก่
• ประเทศไทย: ภาษาไทยทุกภาค และกลุ่มชาติพันธุ์ไทอื่นๆ เช่น ไทลื้อ ไทเขิน
• ลาว: ภาษาลาว และกลุ่มไทอื่นๆ
• เมียนมา: ไทใหญ่ (Shan)
• เวียดนาม: ไทดำ ไทขาว
• จีนตอนใต้: จ้วง กัม สุย ฯลฯ
งานวิจัยทางพันธุกรรม (Srithawong et al., 2015) พบว่ากลุ่มที่พูดภาษาไทในไทยตอนกลางมีพันธุกรรมใกล้เคียงกับกลุ่มในจีนตอนใต้มากกว่ากลุ่มชาวมอญ-เขมรในบริเวณเดียวกัน สะท้อนถึงการอพยพจริงของประชากรไทเข้าสู่ภูมิภาคนี้

5. สรุป
ภาษาตระกูลไท–กะไดเป็นภาษาที่มีรากฐานมาจากจีนตอนใต้และมีการกระจายสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านกระบวนการอพยพของประชากร ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษานี้มีพัฒนาการจากงานด้านภาษาศาสตร์ มานุษยวิทยา และพันธุศาสตร์ร่วมกัน ซึ่งสามารถช่วยอธิบายที่มาของภาษาและวัฒนธรรมในภูมิภาคนี้ได้อย่างครอบคลุม

The Origin and Spread of the Tai–Kadai (Kra–Dai) Language Family

Abstract

The Tai–Kadai (also known as Kra–Dai) language family is one of the major language families of Southeast Asia and southern China. It exhibits complex linguistic developments and patterns of dispersion linked to historical population movements. This article explores the linguistic homeland, internal classification, and geographical diffusion of the Tai–Kadai languages. The analysis draws from historical linguistics, anthropology, and modern genetic studies to provide a comprehensive overview of the origins and spread of this language family.

1. Introduction

The Tai–Kadai language family comprises over 90 distinct languages spoken by more than 100 million people across Thailand, Laos, China, Myanmar, Vietnam, and parts of northeastern India. Major languages in this family include Thai, Lao, Zhuang, and Shan. Scholars have long debated the origins and genetic relationships of these languages and the migration history of their speakers. This article presents a structured review of their proposed homeland and spread.

2. Origins of the Tai–Kadai Language Family

Linguistic evidence suggests that the Tai–Kadai languages originated in southern China, particularly in the modern provinces of Guangxi and Yunnan (Edmondson & Solnit, 1997). Some hypotheses, such as those by Sagart (2005) and Ostapirat (2005), propose that Tai–Kadai may be historically related to the Austronesian language family and might have diverged from a common ancestor in the southern coastal regions of China.

Recent genetic studies (Kutanan et al., 2017; 2018) support the demic diffusion model, indicating that Tai–Kadai-speaking populations migrated from southern China into mainland Southeast Asia rather than merely adopting the language through cultural diffusion.

3. Internal Classification of Tai–Kadai Languages

Following Ostapirat (2005) and Pittayaporn (2009), the Tai–Kadai language family is typically divided into five major branches:
1. Tai Branch – includes Thai, Lao, Shan, Tai Lue, and other regional Tai dialects.
2. Kam–Sui Branch – includes Kam, Sui, and related languages.
3. Kra Branch – includes lesser-known languages such as Laha and Paha.
4. Hlai Branch – spoken mainly on Hainan Island.
5. Be Branch – includes the Be language, also on Hainan.

4. Geographical Dispersion and Ethnolinguistic Patterns

Following their emergence in southern China, Tai–Kadai-speaking populations gradually migrated into mainland Southeast Asia over the past millennium. This migration led to the formation of various ethnic groups speaking Tai–Kadai languages in the following regions:
• Thailand: Thai (Central, Northern, Northeastern dialects), Tai Lue, Tai Yuan, etc.
• Laos: Lao and other Tai-speaking minorities.
• Myanmar: Shan (Tai Yai).
• Vietnam: Black Tai, White Tai, and other Tai groups.
• Southern China: Zhuang, Kam, Sui, and others.

Genetic evidence from Srithawong et al. (2015) indicates that central Thai speakers share closer genetic ties with populations in southern China than with other ethnolinguistic groups (e.g., Mon–Khmer) in the same geographic area, supporting the demic migration model.

5. Conclusion

The Tai–Kadai language family likely originated in southern China and dispersed into Southeast Asia through historical migration. Insights from linguistics, archaeology, and modern genetics converge to explain the formation and spread of the Tai–Kadai languages and their speakers across the region. Continued interdisciplinary research will further clarify the deeper connections between language, migration, and population history in East and Southeast Asia.

บรรณานุกรม (References)
Blench, R. (2013). The prehistory of the Daic- or Kra-Dai-speaking peoples and the hypothesis of an Austronesian connection. Retrieved from https://rune.une.edu.au

Edmondson, J. A., & Solnit, D. B. (Eds.). (1997). Comparative Kadai: Linguistic studies beyond Tai. Dallas, TX: SIL International.

Kutanan, W., Kampuansai, J., Srithawong, S., Ghirotto, S., Pittayaporn, P., & Stoneking, M. (2017). Contrasting maternal and paternal genetic variation of the Tai–Kadai-speaking people in Thailand. Scientific Reports, 7, 4305. https://doi.org/10.1038/s41598-017-04464-2

Kutanan, W., Kampuansai, J., Brunelli, A., Ghirotto, S., Arias, L., Macholdt, E., … & Stoneking, M. (2018). Complete mitochondrial genomes of Thai and Lao populations indicate an origin from southern China. BMC Genomics, 19, 932. https://doi.org/10.1186/s12864-018-5294-0

Ostapirat, W. (2005). The Austro-Tai hypothesis revisited. In Sagart, L., Blench, R., & Sanchez-Mazas, A. (Eds.), The peopling of East Asia: Putting together archaeology, linguistics and genetics (pp. 127–140). London: Routledge Curzon.

Pittayaporn, P. (2009). The phonology of Proto-Tai (Doctoral dissertation, Cornell University). ProQuest Dissertations Publishing.

Sagart, L. (2005). Sino-Tibetan–Austronesian: An updated and improved argument. In Sagart, L., Blench, R., & Sanchez-Mazas, A. (Eds.), The peopling of East Asia: Putting together archaeology, linguistics and genetics (pp. 161–176). London: Routledge Curzon.

Srithawong, S., Kampuansai, J., Inta, A., et al. (2015). Genetic evidence supports demic diffusion of Tai-Kadai-speaking people from southern China. Journal of Human Genetics, 60(6), 403–410. https://doi.org/10.1038/jhg.2015.43

ที่อยู่

Khon Kaen

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Brownie teacher by KruKwangผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Brownie teacher by KruKwang:

แชร์

theBrownieTeacher@ครูกวาง

ครูสายสังคม แชร์สิ่งดีๆเพื่อสังคม