28/10/2025
☕ธปท.รับ เศรษฐกิจไม่ดี ต้องการเครื่องยนต์ใหม่ขับเคลื่อน | อีสานยังหนัก | "คนละครึ่ง" กระตุ้นจริงแต่แค่แก้ปวดชั่วคราว | เผย เงินไหลเข้าจริง แต่ "เงินเทาไหม?" ต้องให้ ปปง. ตรวจสอบ
🔑Key Points:
•ยอมรับภาวะชะลอตัว: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวดีอย่างที่เคยคาดการณ์ โดยเฉพาะภาคอีสานที่ยังคงต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องจากปัญหาเชิงโครงสร้างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข.
•ภาคอีสานน่าห่วง: เศรษฐกิจอีสานยังคงเปราะบาง จากการพึ่งพาภาคเกษตรเป็นหลัก และยังไม่ฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับปี 2562
•"คนละครึ่ง" แค่กระตุ้นชั่วคราว: มาตรการ "คนละครึ่ง" ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้จริงในระยะสั้น แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะยาวได้
•เงินทุนไหลเข้า: ธปท. ยืนยันว่ามีเงินทุนไหลเข้าประเทศจริงและตรวจสอบได้ แต่เน้นย้ำความจำเป็นที่ ปปง. ต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน เพื่อป้องกันปัญหาการฟอกเงิน.
•หนี้สหกรณ์เป็นระเบิดเวลา: มีการหยิบยกประเด็นหนี้สินในระบบสหกรณ์ ซึ่งอยู่นอกเหนือการรายงานหนี้ครัวเรือน และอาจเป็นความเสี่ยงสำคัญที่ถูกมองข้าม
🔵 ธปท. ยอมรับ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าคาด หลังเจอหลายปัจจัยกดดันครึ่งปีหลัง
ในการเสวนา "สภากาแฟ สื่อมวลชนขอนแก่น" เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ยอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังไม่ดีเท่าที่เคยประเมินไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ซึ่งสอดคล้องกับรายงานข่าวล่าสุดที่ ธปท. ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี 2569 ลงเหลือเพียง 1.6%.
•สาเหตุหลักมาจาก ปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่สะสมมานาน ประเทศไทยยังขาดอุตสาหกรรมหรือเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวใหม่ๆ ยังคงพึ่งพาอุตสาหกรรมเดิม เช่น การท่องเที่ยว, เกษตรกรรม และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างเชื่องช้า
•ภาคอีสานยังน่าห่วง เศรษฐกิจต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด
สำหรับเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน ผู้แทน ธปท. ระบุว่า สถานการณ์ยังคงน่าเป็นห่วงและยัง ไม่สามารถฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับปี 2562 (ก่อนโควิด) ได้ เนื่องจากภาคอีสานพึ่งพิง ภาคเกษตรกรรม เป็นสัดส่วนสูง ซึ่งมีความผันผวนด้านราคาและผลผลิต อย่างไรก็ตาม ภาคอีสานยังมีจุดแข็งด้าน เสถียรภาพทางภูมิศาสตร์ (ไม่มีภัยพิบัติรุนแรง) วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และ ศักยภาพในภาคบริการและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness) ที่สามารถพัฒนาต่อไปได้
•มาตรการ "คนละครึ่ง" ช่วยได้แค่ระยะสั้น
ต่อคำถามเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ "คนละครึ่ง" ธปท. มองว่า เป็นมาตรการที่ช่วย กระตุ้นการใช้จ่ายได้จริงในระยะสั้น ทำให้เกิดบรรยากาศการจับจ่ายที่ดีขึ้น แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะยาวได้ และมีข้อจำกัดในการใช้จ่ายมากกว่าการให้เงินสดโดยตรง
•เงินทุนไหลเข้าประเทศจริง แต่ ปปง. ต้องตรวจสอบที่มา
ธปท. ได้ชี้แจงประเด็นเรื่องเงินทุนไหลเข้าประเทศว่า เป็นเรื่องจริงและสามารถตรวจสอบได้ โดยชี้แจงเพิ่มเติมว่า ตัวเลข "ความคลาดเคลื่อนสุทธิ" (Net Errors and Omissions - NEO) ที่เคยเป็นข่าว ไม่ใช่ตัวแทนของเงินสีเทาเสมอไป แต่อาจเกิดจากความล่าช้าหรือไม่ครบถ้วนของข้อมูล แต่สิ่งที่ ธปท. ให้ความสำคัญคือ การตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นเงินทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือธุรกิจสีเทา
🔵 ประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
•หนี้สหกรณ์ (Sahakorn Debt): มีการกล่าวถึงประเด็นหนี้สินในระบบสหกรณ์ต่างๆ ซึ่งอาจมีมูลค่ามหาศาลและหลายแห่งไม่ได้อยู่ในระบบฐานข้อมูลเครดิตบูโร ทำให้เป็นความเสี่ยงที่ถูกมองข้าม และอาจเป็น "ระเบิดเวลา" ลูกใหม่ นอกเหนือจากหนี้ครัวเรือนที่รายงานกันอยู่
•ราคาทองคำพุ่งสูง: ธปท. อธิบายว่า ไม่ใช่เกิดจากการปั่นราคาหรือเจ้ามือ แต่เป็นผลมาจาก ความไม่เชื่อมั่นในค่าเงินสกุลหลักของโลก (เช่น ดอลลาร์สหรัฐ, เยนญี่ปุ่น) เนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะที่สูงขึ้นของประเทศเหล่านั้น ทำให้คนและธนาคารกลางทั่วโลกหันไปถือ ทองคำ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) มากขึ้น
•รถยนต์ไฟฟ้า (EV): แนวโน้มการใช้ EV เติบโตขึ้นจริง โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่เช่นขอนแก่น แต่สำหรับพื้นที่ชนบท รถยนต์ที่ใช้น้ำมันยังคงตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จยังไม่ครอบคลุม และความคุ้นเคยในการซ่อมบำรุง
•แร่หายาก (Rare Earths): แม้จะมีการลงนาม MOU กับจีน แต่ผลประโยชน์ที่จะตกถึงภาคอีสานยังไม่ชัดเจน และกระบวนการสกัดแร่หายากมีความซับซ้อนและต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
รายการอ้างอิง (References):
[1] การเสวนา "สภากาแฟ สื่อมวลชนขอนแก่น". (28 ตุลาคม 2568).
[เทปบันทึกเสียงและการถอดความ].