เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/110778668246888/

บ้านนาสาระ

แนะนำสมุนไพร บำรุงร่างกาย รักษาสุขภาพ
บ้านสวน ชุมชน บ้านนา บ้านทุ่ง รักสุขภาพ

17/05/2025

กระดุมใบเล็ก เพื่อขับปัสสาวะและล้างไต นิยมใช้ในรูปแบบชาสมุนไพร หรือการต้มดื่ม โดยมีวิธีการดังนี้:

---

วิธีต้มกระดุมใบเล็กเพื่อขับปัสสาวะ – ล้างไต

ส่วนผสม:

กระดุมใบเล็กแห้ง 1 กำมือ (หรือประมาณ 10–15 กรัม)

น้ำเปล่า 1 ลิตร

วิธีต้ม:

1. ล้างสมุนไพรให้สะอาด

2. ต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่กระดุมใบเล็กลงไป

3. ต้มต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 15–20 นาที

4. กรองเอาแต่น้ำ ดื่มอุ่น ๆ หรือเก็บในตู้เย็นไว้ดื่มระหว่างวัน

คำแนะนำ:

ดื่มวันละ 1–2 แก้ว (เช้า–เย็น)

ไม่ควรดื่มติดต่อกันเกิน 7 วันโดยไม่หยุดพัก

หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

#กระดุมใบเล็ก #สมุนไพรไทย #ขับปัสสาวะ #ล้างไตธรรมชาติ #ลดไขมันในเลือด #ลดน้ำตาลในเลือด #สมุนไพรบำรุงไต #สุขภาพดีด้วยธรรมชาติ #ชาสมุนไพร #กระดุมใบเล็กต้มดื่ม #ดูแลไต #ของดีบ้านๆ #สมุนไพรพื้นบ้าน #ยาสมุนไพร #สายสุขภาพ

17/05/2025

ใครเคยลองน้ำนมราชสีห์บ้าง? แชร์ประสบการณ์หน่อย!
หรือใครยังไม่เคยลอง อยากรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง คอมเมนต์ "อยากลอง" มาเลย!

"เคล็ดลับสมุนไพรที่คนโบราณรู้...แต่คนยุคนี้เพิ่งรู้!"
น้ำนมราชสีห์ สมุนไพรบ้านๆ แต่คุณประโยชน์ไม่ธรรมดา!

วิธีใช้เพื่อดีต่อตับและล้างสารพิษ

1. ใช้ต้นสด

นำต้นน้ำนมราชสีห์สด (ทั้งต้นรวมราก) ล้างให้สะอาด

ใช้ประมาณ 1 กำมือ (หรือประมาณ 30 กรัม)

ต้มกับน้ำ 2 แก้ว (500 มล.)

เคี่ยวจนเหลือ 1 แก้ว

ดื่มตอนอุ่นๆ วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเช้าหรือก่อนนอน

2. แบบแห้ง

หากใช้ต้นแห้ง ใช้ประมาณ 10-15 กรัม

ต้มเช่นเดียวกันกับแบบสด

3. ต่อเนื่อง

ควรดื่มติดต่อกัน 5–7 วัน แล้วเว้นช่วง 1–2 สัปดาห์

หากมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ก่อน

#สมุนไพรไทย #น้ำนมราชสีห์ #ของดีบอกต่อ #สายรักสุขภาพต้องลอง

17/05/2025

สวัสดีวันใหม่
ขอให้เป็นวันที่ดีนะครับ

16/05/2025

สรรพคุณผักเชียงดา ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

สารสำคัญในผักเชียงดา เช่น กรดยิมนีมิก (Gymnemic acid) ช่วยยับยั้งการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้ และลดความอยากของหวาน จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานหรือผู้ที่ควบคุมระดับน้ำตาล

วิธีใช้ ➡️ ผักเชียงดาเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือด
เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 หรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาล สามารถใช้ได้หลากหลายวิธีดังนี้:

---

ชงชาใบผักเชียงดา

วิธีทำ:

1. ใช้ใบแห้ง 1-2 ช้อนชา (หรือซองชาพร้อมชง 1 ซอง)

ชงกับน้ำร้อน 1 แก้ว (200 มล.)

แช่ไว้ 5-10 นาที แล้วดื่มก่อนมื้ออาหาร 15-30 นาที

ดื่มวันละ 2-3 ครั้ง เช้า กลางวัน และเย็น (ก่อนอาหาร)

---

2. แคปซูลผงผักเชียงดา (แบบอาหารเสริม)

วิธีใช้:

ขนาดทั่วไป 300-500 มก. / เม็ด

รับประทานวันละ 2-3 เม็ด ก่อนอาหาร 15-30 นาที

ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน GMP / อย.

---

3. น้ำต้มผักเชียงดา

วิธีทำ:

ใช้ใบสด 1 กำมือ หรือใบแห้ง 1 หยิบมือ

ต้มกับน้ำสะอาด 1 ลิตร 10-15 นาที

ดื่มก่อนอาหารหรือหลังอาหารทันที วันละ 1-2 แก้ว

---

4. ผัดหรือใส่ในอาหาร (ลดหวาน/มันร่วมด้วย)

ใส่ในเมนูผัด แกง หรือซุป

รับประทานร่วมกับอาหารควบคุมน้ำตาลอื่น เช่น ข้าวกล้อง ถั่ว ไข่ต้ม

---

⚠️ข้อแนะนำเพิ่มเติม:

ควบคุมอาหาร ลดแป้ง-น้ำตาลร่วมด้วย

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ควรวัดน้ำตาลก่อน-หลังใช้ เพื่อดูผลชัดเจน

ห้ามหยุดยาหรือปรับยาด้วยตนเอง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

#ผักเชียงดา
#สมุนไพรไทย
#ลดน้ำตาลในเลือด
#เบาหวานดูแลได้
#บำรุงตับ
#บำรุงไต
#ขับสารพิษ
#สุขภาพดีด้วยธรรมชาติ
#ลดเบาหวาน
#สมุนไพรลดน้ำตาล
#สุขภาพดี
#วิถีธรรมชาติ
#ยาสมุนไพร
#ดูแลสุขภาพ

16/05/2025

ยางของลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Carissa carandas) มีการกล่าวถึงในภูมิปัญญาพื้นบ้านว่าอาจมีสรรพคุณทางสมุนไพร

สรรพคุณที่มีการกล่าวถึงในภูมิปัญญาชาวบ้าน (ยังไม่ยืนยันทางวิทยาศาสตร์แน่ชัด)

1. ใช้ในการสมานแผล – ยางสีขาวข้นที่ไหลออกมาเมื่อตัดผลดิบหรือส่วนของลำต้น มีการใช้ทาแผลสดหรือแผลพุพองในบางท้องถิ่น เชื่อว่าช่วยฆ่าเชื้อและเร่งการหายของแผล

2. ใช้กำจัดหูด/ตาปลา – บางตำราใช้ยางสดแต้มบริเวณที่เป็นหูดหรือตาปลา แต่ต้องระวังการระคายเคือง

3. คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ – ยางมีสารที่อาจต้านเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ในระดับหนึ่ง (ต้องการงานวิจัยรองรับเพิ่มเติม)

⚠️ข้อควรระวัง

ยางมีฤทธิ์ระคายเคืองผิวหนังและเยื่อบุในร่างกาย หากใช้โดยไม่เจือจางอาจทำให้เกิดผื่นหรือแผลไหม้ได้

ไม่ควรรับประทานยาง เนื่องจากอาจมีสารพิษหรือทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยางในเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ และผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

#มะม่วงหาวมะนาวโห่

#ยางสมุนไพร

#สมุนไพรไทย

#รักษาแผลธรรมชาติ

#พืชสมุนไพร

#สมุนไพรพื้นบ้าน

#สมุนไพรเพื่อสุขภาพ

#ของดีวิถีไทย

#ภูมิปัญญาชาวบ้าน

#ยาสมุนไพรไทย

16/05/2025

ยุคสมัยนี้อยู่ยากจริงๆ

15/05/2025

อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน
ขอให้วันนี้เป็นวันที่
"ถูกหวย"

15/05/2025

ย้อนประวัติศาสตร์ ยายทวดวัย 133 ปี คนไทยที่อายุยืนที่สุดชาวปัตตานี ใช้ชีวิตบ้านๆ กินดื่มแบบง่ายๆ แต่ร่างกายแข็งแรง

15/05/2025

ผักชี ช่วยให้นอนหลับได้อย่างไร?

ผักชีเป็นสมุนไพรไทยที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ซึ่งมาจากน้ำมันหอมระเหยตามธรรมชาติ เช่น linalool และ borneol ซึ่งสารเหล่านี้มีฤทธิ์ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล และทำให้สมองสงบลง จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท

---

วิธีใช้ผักชีแก้อาการนอนไม่หลับ:

1. น้ำต้มผักชีดื่มก่อนนอน

นำผักชีสด (ทั้งราก ลำต้น และใบ) ประมาณ 1 กำมือ

ล้างให้สะอาด แล้วต้มกับน้ำประมาณ 2 แก้ว

ต้มจนเดือด แล้วกรองเอาแต่น้ำ

ดื่มอุ่น ๆ ก่อนนอน 30 นาที ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย หลับง่ายขึ้น

#ผักชี #สมุนไพรไทย #หลับสบาย #นอนไม่หลับ #สุขภาพดี #วิถีธรรมชาติ #ยาสมุนไพร #ผ่อนคลายก่อนนอน #สุขภาพแบบไทยๆ #นอนหลับลึก #วิธีธรรมชาติ #สมุนไพรบำบัด

15/05/2025

ใบพริกช่วยบำรุงสายตาได้อย่างไร?

ในใบพริกมีสารสำคัญที่ชื่อว่า เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง และเป็นสารตั้งต้นของ วิตามินเอ
เมื่อร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีน จะสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอที่จำเป็นต่อ สุขภาพของดวงตา ได้

ประโยชน์ของเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอต่อสายตา:

ป้องกันอาการ ตาแห้ง

ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดีขึ้น

ลดความเสี่ยงของโรค จอประสาทตาเสื่อม (AMD)

ช่วยชะลอการเสื่อมของเลนส์ตา

วิธีใช้ ➡️ ใบพริกบำรุงสายตา

1. กินสด/ลวกจิ้มน้ำพริก

เด็ดใบพริกอ่อน ๆ มาล้างให้สะอาด

ลวกในน้ำร้อนพอให้สุก แล้วกินคู่กับน้ำพริกหรือข้าวสวย

วิธีนี้ช่วยคงคุณค่าของเบต้าแคโรทีนไว้ได้ดีที่สุด

2. ผัดหรือใส่ในอาหาร

ใบพริกสามารถนำไปผัดกับไข่ ใส่ในแกง หรือผสมในต้มยำ

เป็นวิธีเพิ่มรสชาติและคุณค่าในมื้ออาหาร

3. ต้มดื่มเป็นน้ำสมุนไพร (ดื่มร้อน/เย็นได้)

ใช้ใบพริกประมาณ 1 กำมือ

ต้มกับน้ำ 2–3 แก้ว นาน 5–10 นาที

ดื่มวันละ 1–2 แก้ว ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงสายตา

---

⚠️คำแนะนำเพิ่มเติม

ควรกินควบคู่กับอาหารที่มีไขมันดี (เช่น ไข่ หรือปลานึ่ง) เพราะเบต้าแคโรทีนดูดซึมดีเมื่อมีไขมัน

ไม่ควรต้มใบพริกนานเกินไป เพราะความร้อนสูงจะทำลายวิตามิน

#ใบพริก
#สมุนไพรไทย
#บำรุงสายตา
#เบต้าแคโรทีน
#วิตามินเอ
#สายตาดีไม่มีเบลอ
#สุขภาพดีด้วยธรรมชาติ
#ผักสวนครัวสรรพคุณไม่ธรรมดา
#สมุนไพรใกล้ตัว
#ของดีในครัว

15/05/2025

ถั่วลิสงกับการป้องกันนิ่วในถุงน้ำดี

นิ่วในถุงน้ำดีเกิดจากการตกผลึกของคอเลสเตอรอลหรือสารอื่น ๆ ภายในถุงน้ำดี ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับภาวะคอเลสเตอรอลสูง ไขมันสะสม และระบบย่อยอาหารที่ไม่สมดุล

แล้วถั่วลิสงช่วยอย่างไร?

1. ไขมันไม่อิ่มตัวในถั่วลิสง – ถั่วลิสงมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว (โดยเฉพาะกรดโอเลอิก) ซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในร่างกาย ทำให้ลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในถุงน้ำดี

2. ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำดี – ไขมันดีในถั่วลิสงกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีอย่างสมดุล ช่วยให้ถุงน้ำดีขับน้ำดีออกได้ดี ลดการตกค้างที่นำไปสู่การเกิดนิ่ว

3. ไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระ – ไฟเบอร์ช่วยให้ระบบย่อยทำงานดีขึ้น และสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดการอักเสบของถุงน้ำดี

มีงานวิจัยรองรับ
งานวิจัยจาก Harvard (Nurses’ Health Study) พบว่า ผู้หญิงที่บริโภคถั่วลิสงหรือถั่วเปลือกแข็งอื่น ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง มีความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

วิธีรับประทาน➡️ถั่วลิสงเพื่อสุขภาพ

1. ปริมาณแนะนำ

วันละ 1 กำมือเล็ก (ประมาณ 28-30 กรัม) ก็เพียงพอ

หลีกเลี่ยงการทานในปริมาณมากเกินไป เพราะแม้จะมีประโยชน์ แต่ก็มีแคลอรีสูง

2. รูปแบบที่แนะนำ

ถั่วลิสงอบ/คั่วไม่ใส่เกลือ: ดีต่อสุขภาพที่สุด เพราะไม่มีโซเดียมส่วนเกิน

ถั่วลิสงต้ม: ไขมันน้อยลง รสชาตินุ่ม เหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก

เนยถั่ว (Peanut Butter): เลือกแบบธรรมชาติ (ไม่มีน้ำตาล ไขมันทรานส์ หรือสารกันบูด)

3. ควรหลีกเลี่ยง

ถั่วลิสงทอดในน้ำมันมาก

ถั่วลิสงเคลือบน้ำตาล/เกลือ

ถั่วลิสงในขนมกรุบกรอบแปรรูป เช่น ถั่วกรอบแก้ว หรือเคลือบแป้ง

4. ไอเดียการกินถั่วลิสงในชีวิตประจำวัน

โรยบนสลัดหรือโยเกิร์ต

ผสมในข้าวโอ๊ตตอนเช้า

ทำเป็นซอสถั่วลิสง (น้ำจิ้มสุกี้ หรือน้ำราดยำ)

กินเป็นของว่างระหว่างมื้อ แทนขนมหวาน

#ถั่วลิสงต้านนิ่ว
#ลดคอเลสเตอรอล
#บำรุงสมอง
#บำรุงหัวใจ
#ลดน้ำตาลในเลือด
#ไฟเบอร์สูง
#โปรตีนจากพืช
#กินถั่วทุกวันดีทุกวัน