ปอร์ฐกร TK

11/09/2025

อัปเดตข่าววงการแพทย์ / ความงาม / คลินิก / โรงพยาบาล ในประเทศไทย และทั่วทั้งเอเชีย รวมถึงเป็นศูนย์สุขภาพใจ ที่จะเป็นกำลังใจ คอยเคียงข้างทุกคนในยามที่เหนื่อยกับสิ่งใดๆ ก็ตาม

11/09/2025

สุขภาพ

ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ คงดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ไม่ผลักภาระสุขภาพไปให้อนาคต เพราะทุกสิ่งที่ละเลยในวันนั้น กลับมาตอบสนองผมอย่างหนักในวันนี้
วันหนึ่งผมตรวจเจอโรคไต เป็นหนักจนหมอบอกว่าถ้าไม่รีบรักษา อาจไม่มีโอกาสได้กลับบ้าน
ช่วงที่นอนอยู่โรงพยาบาล ลูกสาวโทรหาผมทุกวัน คำพูดสั้นๆ ว่า…
“ป๊ะป๊ากลับบ้านได้แล้ว” ตอนนั้นมันมีแต่ความรู้สึกผิดต่อลูก คิดว่าถ้าเราไม่ได้กลับบ้านจริงๆ ลูกจะต้องเติบโตโดยไม่มีพ่อ ใครจะคอยกอด คอยให้กำลังใจ เวลาที่เขาร้องไห้หรือท้อแท้
ความรู้สึกผิดในตอนนั้น สอนผมว่า สุขภาพไม่ใช่เรื่องของเราเพียงคนเดียว ถ้าเราไม่ดูแลตัวเอง คนที่เสียใจที่สุดอาจไม่ใช่แค่เรา แต่คือคนที่ยังอยากมีเราอยู่ข้างๆ

06/09/2025

ครั้งนี้...คุณหมอเดินทางไกลเกินกว่าจะหวนกลับ

แม้ตัวคุณหมอเองจะเจ็บป่วย ก็ยังมาดูแลคนไข้ ทั้งเสาน้ำเกลือ เดินแทบจะไม่ไหว แต่หมอโอมก็เลือกมาตรวจคนไข้เสมอ

คุณหมอโอม นพ.ทรงฤทธิ์ ป้องปาน หมอมะเร็งแห่ง รพ.เลย ได้จากไปอย่างสงบ ท่ามกลางความอาลัยของผู้ป่วยและเพื่อนร่วมงานที่รักเขาเสมือนครอบครัว

คุณหมอคือความหวังของผู้ป่วยโรคมะเร็งหลายคน

แม้วันนี้หมอไม่อยู่แล้ว แต่ความเสียสละจะยังคงอยู่ในใจทุกคน ถึงเวลาที่คุณหมอได้พักอย่างสงบ... ขอบคุณที่เคยเป็นความหวังให้โลกใบนี้

05/09/2025

เชื่อเถอะว่าแมวรักเราจริงๆนะ 😹
ถึงแม้น้องจะไม่ค่อยแสดงออกก็เถอะ 55 ❤️‍🩹
ผลงานวิจัยจาก Oregon State University
มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ที่ตีพิมพ์ในวารสาร
บอกชัดว่า แมวมีความผูกพันกับเจ้าของ
ไม่ต่างจากเด็กกับพ่อแม่ หรือสุนัขกับเจ้าของ 🤗
โดยนักวิจัยทดลองกับแมว 100ตัว ผ่านบททดสอบ
1) ให้แมวอยู่กับเจ้าของ
2) ให้เจ้าของออกจากห้องสักพัก
3) ให้เจ้าของกลับเข้ามาใหม่
65% ของแมวแสดงความผูกพัน พอเจ้าของกลับเข้ามา
แมวจะค่อนข้างสงบ และลงท้ายด้วยการเข้าไปนั่งใกล้ๆ ❤️
35% ของน้องบางตัว จะแสดงอาการงงๆ
ไม่ยอมเข้าใกล้ หรืออาจจะไม่ได้สนใจทาสเท่าไหร่ 😅
สิ่งที่บอกกับทาสแมวอย่างเราๆได้อย่างมั่นใจคือ
น้องไม่ได้มองเราเป็นแค่เครื่องให้อาหาร 😻😹
แต่เราเป็นเหมือนฐาน/บ้านที่พัก
ที่ทำให้ตัวน้องเองอุ่นใจ เมื่อมีเราอยู่ข้างๆ
แต่ก็นั่นละ หลายๆครั้งน้องก็แสดงออกได้แปลกๆ
แถมจะดูรักเรามากขึ้น ก็ต่อเมื่อในมือเรามีขนม 555 😅
ิดมาแล้วให้แมวLove
📍 หน้าแมว เครดิต หน้าแมว
🏡 โรงแรมแมว หน้าแมว Nhamaew Cat Hotel

28/08/2025

การดูแลตนเอง

ในวัย 53
-ผมต้องเล่นเวทรักษามวลกล้ามเนื้อ อาทิตย์ละสองครั้งเป็นอย่างต่ำ
- ต้องงดของทอดซึ่งเป็นของโปรด😭
-ต้องลดหวานซึ่งอันนี้ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะผมไม่ค่อยกินหวานยุแล้วครับ(ที่จริงควรบอกว่าเพราะผมหวานด้วยตัวเองได้ครับ😁)
-ต้องคาดิโออาทิตย์ละสองครั้ง -ต้องนอนให้ครบแปดชั่วโมงและควรนอนไม่เกินสี่ทุ่ม อันนี้ยากที่สุดเพราะงานบางทีเลิกดึกครับ
-ต้องเข้าคลีนิคดูแลผิวหน้าและผมอย่างสม่ำเสมอ อันนี้ขอให้เครดิตคุณหมอหนุ่มที่ดูแลผมมาตลอดเกือบสิบปี โดยข้อแม้ของผมคือ ไม่ฉีด ไม่โบ ไม่ร้อยไหม😅 สนใจติดต่อตามลิงค์นะครับ
https://www.facebook.com/share/1C29p8XxDD/
-ต้องกินอาหารหลักและเสริมให้ครบตามที่ร่างกายในวัยนี้ต้องการ แป้งน้อย น้ำตาลน้อย อะโวคาโด เพิ่งมาอร่อยก็ตอนนี้แหละ
-แอลกอฮอล์จากเคยดื่มหนักทุกวันนี้แค่ดมก็เมาแล้ว😂
ทั้งหมดที่ทำไปเนี่ย เพื่อจะได้ร้องเพลงให้คุณฟังได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
ติดต่องานจ้าง 084-5444445 ครับ😁

28/08/2025

ผู้ป่วยอายุ 50
ถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการหมดสติ
ผลการตรวจละเอียดพบว่า
เส้นเลือดในสมองแตก เลือดออกปริมาณมาก

หมอผ่าตัดประเมินว่า
หากผ่าตัดมีโอกาสรอดแค่ 10%
และถ้ารอดก็อยู่ในสภาพเป็นผัก
ติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

คืนนั้น หมอผ่าตัดคุยกับลูกของผู้ป่วย
เป็นคนเดียวที่ตัดสินใจได้
(อายุ 28)

ได้ตัดสินใจว่าไม่ผ่า

2 วันต่อมา อาการคนไข้ ทรุดลงตามลำดับ
ผมจึงโทรแจ้งลูกอีกครั้งว่า
คงไม่เกิน 24-48 ชม.

ลูกถาม
"ผ่าตอนนี้ยังทันไหม"
"ญาติพี่น้องของคนไข้ที่ต่างจังหวัด
บอกว่า รับได้ ถึงจะเป็นผักก็รับได้"

ผมชี้แจงไปว่า ตอนนี้ความดันเริ่มตกแล้ว
คงผ่าตัดไม่ไหว

"หนูตัดสินใจผิดใช่ไหมหมอ
วันนั้นหนูตัดสินใจผิดใช่ไหม
ถ้าผ่าตั้งแต่วันนั้นก็ผ่าได้ใช่ไหม"


หมอไม่คิดอย่างนั้นนะครับ
ถ้าผ่าวันนั้นก็มีโอกาสรอดแค่ 10%
และคนไข้อยู่ในสภาพติดเตียง

แต่ละครอบครัว อาจจะคิดไม่เหมือนกัน
บางครอบครัวอาจดูแลได้จริง ๆ
แต่หมออยากให้เราคิดดูดี ๆ ว่า
ถ้าเป็นเราเอง เราอยากเป็นแบบนั้น
อยากมีชีวิตแบบนั้นจริงๆ เหรอ
แบบที่ช่วยตัวเองไม่ได้
กินเองไม่ได้ พูดไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้

หมอไม่รู้ว่า คนอื่นคิดยังไง
แต่ถ้าเป็นหมอ หมอคงไม่อยากกินในสภาพนั้น
และหมอคิดว่า เราตัดสินใจดีที่สุดแล้วครับ
อีกสองวัน คนไข้ก็จากไป


ผมเชื่อว่า คำถาม ฉันตัดสินใจถูกไหม
จะยังอยู่ในใจลูกไปอีกนาน
อาจจะไม่มีวันหายไปเลยก็ได้
ไม่มีปลดล็อกสิ่งเหล่านี้ ออกไปได้
นอกจากตัวเขาเอง

ได้แต่หวังว่า คำบางคำของเรา
จะช่วยบรรเทาเบาบางลงไปได้บ้าง

28/08/2025

รวม 8 นิสัยที่กระตุ้น 'ความเครียด' โดยไม่รู้ตัว 🌪️
ทุกวันนี้ เราเคยชินกับการใช้ชีวิตเร่งรีบ การทำงานหนัก รวมถึงเรื่องราวที่เจอในชีวิตประจำวัน ทำให้เจอกับ ‘ความเครียด’ แทบทุกวันจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว
แต่บางครั้ง…ความเครียดก็มาจากพฤติกรรมที่เราทำจนชินโดยไม่รู้ตัว มาจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ สะสมกันจนเป็นความเครียดที่บ่อนทำลายสุขภาพกายและใจ ลองมาสำรวจตัวเองกัน 💕
🤯 นิสัยที่ 1 : ทำหลายอย่างทีเดียว
แม้ว่าการพยายามทำงานหลายอย่างทีเดียวจะดูประหยัดเวลา แต่ที่จริงแล้ว การทำแบบนี้จะทำให้สมองรู้สึกเหนื่อยล้าขึ้น เพราะต้องแบ่งสมองให้คิดหลายเรื่องพร้อมกัน และเครียดยิ่งขึ้น เมื่อทำไม่ได้ตามแผนที่วางไว้ ควรจัดสรรเวลาและจดจ่อทำทีละอย่างจะดีต่อสมองมากกว่า
🫨 นิสัยที่ 2 : ทำทุกอย่างเร่งด่วนไปหมด
เมื่อเรากำหนดทุกอย่างให้เร่งด่วน ระบบประสาทจะสั่งให้ร่างกายรู้สึกกดดัน วิตกกังวล อยากหลีกหนีตลอดเวลา ที่จริงแล้ว ทุกงานมีความเร่งด่วนและความสำคัญไม่เท่ากัน หากรู้สึกแบบนี้ ลองเริ่มจากใช้เวลาไปกับงานชิ้นเล็กๆ ก่อน
🥹 นิสัยที่ 3 : ตอบรับทุกอย่างไม่กล้าปฏิเสธ
หลายคนมักชินกับการตอบรับทุกอย่าง ไม่อยากปฏิเสธนัด ไม่ปฏิเสธงานทั้งทียุ่งมากอยู่แล้ว หรือยอมทิ้งความต้องการของตัวเองเพื่อเอาใจคนอื่น สิ่งนี้มักมาจากจิตใจเรากลัวการทำให้คนอื่นผิดหวัง จึงเลือกที่จะยอมสละประโยชน์บางอย่างของตัวเองแทน ซึ่งอาจทำให้มีภาระเกินตัวและรู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้น ลองฝึกปฏิเสธอย่างสุภาพและชัดเจนดูบ้าง จำไว้ว่าสุขภาพจิตของเราก็สำคัญเหมือนกัน
😠 นิสัยที่ 4 : คิดลบมองโลกในแง่ร้าย
การให้ความสำคัญกับเรื่องไม่ดีที่อาจเกิดขึ้น หรือการวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองและคนอื่นตลอดเวลา จะทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนความเครียดออกมามากขึ้น ลองฝึกมองหาสิ่งดีๆ รอบตัวจะช่วยให้เพิ่มพลังบวกให้ตัวเองมากขึ้น และคนรอบตัวก็จะรู้สึกได้ด้วย
😪 นิสัยที่ 5 : นอนน้อย ไม่เป็นเวลา
การนอนน้อยจะไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ควบคุมอารมณ์ยากขึ้น ฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) หลั่งออกมามากขึ้น รวมทั้งทำให้หงุดหงิดง่าย อ่อนเพลีย ควรนอนให้เป็นเวลาและมีคุณภาพจะดีกว่า
🍔 นิสัยที่ 6 : ติดทานฟาสต์ฟู้ดอาหารแปรรูป
อาหารดีก็จะยิ่งทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นตามไปด้วย การศึกษาจาก Harvard University School of Public Health พบว่าคนที่รับประทานอาหารแปรรูปมากจะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าถึง 50% แม้ว่าอาหารแปรรูปจะอร่อยและหาทานง่ายกว่า แต่ลองเปลี่ยนมาเป็นอาหารที่มีประโยชน์เช่น ผักสด ผลไม้ โปรตีนต่าง ๆ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงแน่นอน

☕ นิสัยที่ 7 : รับคาเฟอีนมากเกินไป
งานวิจัยจาก General Hospital Psychiatry Journal เผยว่าการดื่มกาแฟอาจมีผลในการกระตุ้นความเครียดและวิตกกังวลได้หากดื่มมากเกินไป จึงมีข้อแนะนำว่าไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้วต่อวัน
📱 นิสัยที่ 8 : ติดโซเชียลมีเดีย
นิสัยไถฟีดไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ เช็กยอดไลก์ของตัวเอง หรือเสพดราม่าในโซเชียล จะทำให้เราสมองรับข้อมูลจำนวนมาก โดยเฉพาะข้อมูลที่ทำให้เกิดอารมณ์เชิงลบ ซึ่งจะสร้างความกดดันและวิตกกังวลโดยไม่รู้ตัว ควรใช้โซเชียลให้เป็นเวลาหรือทำงานอดิเรกอย่างอื่นจะดีต่อจิตใจมากกว่า
โดยธรรมชาติแล้ว แต่ละคนจะมีความสามารถในการรับมือความเครียดได้ไม่เท่ากัน ลองสังเกตตัวเองและค่อยๆ เปลี่ยนพฤติกรรมทีละเล็กน้อย จะช่วยให้สุขภาพกายและจิตใจแข็งแรงขึ้นได้นะ 💙

ที่มา :
http://bit.ly/41le0Kd
http://bit.ly/3JqowKa