เชียงใหม่ออนไลน์นิวส์

เชียงใหม่ออนไลน์นิวส์ ข่าวสารของคนเชียงใหม่​

เชียงใหม่ - ๔ ธันวาคม ๒๕๖๘: "อุตสาหกรรมแฟร์ มาเหนือ" งานใหญ่ส่งท้ายปี ส่งมอบสินค้าดี มีมาตรฐาน ราคาโรงงาน จากผู้ผลิต สู่...
04/12/2025

เชียงใหม่ - ๔ ธันวาคม ๒๕๖๘: "อุตสาหกรรมแฟร์ มาเหนือ" งานใหญ่ส่งท้ายปี ส่งมอบสินค้าดี มีมาตรฐาน ราคาโรงงาน จากผู้ผลิต สู่ผู้บริโภค วันที่ ๓-๗ ธันวาคมนี้ ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ ๑ ถนนทุ่งโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
http://www.chiangmai-onlinenews.com ข่าวกิจกรรม

ญาติกา บูทิก เชียงดาว รีสอร์ท จัดกิจกรรม“Life & Soul Doi Luang Chiang Dao by YATIKA”  บวงสรวงเจ้าหลวงคําแดง พร้อมจําหน่า...
03/11/2025

ญาติกา บูทิก เชียงดาว รีสอร์ท จัดกิจกรรม“Life & Soul Doi Luang Chiang Dao by YATIKA” บวงสรวงเจ้าหลวงคําแดง พร้อมจําหน่าย “T-Shirt ชีวิต จิตวิญญาณ” โดยรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับ ’วิสาหกิจชุมชนถิ่นนิยมเชียงดาว’ และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เพิ่มจุดชมดอยหลวงที่สวยอีกที่หนึ่งของเชียงดาว

เชียงใหม่- วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2568ที่ผ่านมา เวลา 16.30-20.30 น. ณ สนามหญ้าริมน้ำ ญาติกา บูทิก เชียงดาว เชียงใหม่จัดกิจกรรมบวงสรวงเจ้าหลวงคําแดง นาฏยะคีตะ ศิลปะบูชาแห่งศรัทธา“Life & Soul Doi Luang Chiang Dao by YATIKA”
โดย ญาติกา บูทิก เชียงดาว รีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่ ใจกลางเมืองเชียงดาว เป็นที่พักที่เหมาะสําหรับการพักผ่อนและสัมผัสกับความเป็นธรรมชาติที่งดงามของภูเขา โดยอยู่ทางด้านตะวันออกของดอยหลวง ห่างจากเชียงดาวเพียง 5นาที พร้อมทิวทัศน์อันงดงามของดอยหลวงเชียงดาว ที่ให้ความสําคัญและเคารพดอยหลวงเชียงดาวเป็นอย่างสูง ได้จัดกิจกรรม“Life & Soul Doi Luang Chiang Dao by YATIKA”ขึ้นเพื่อเป็นการสักการะและบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าหลวงคําแดงของชาวเชียงดาว
ในการนี้ ญาติกา บูทิก เชียงดาว ได้จัดงานบวงสรวงเจ้าหลวงคําแดง นาฏยะคีตะ ศิลปะบูชาแห่งศรัทธา ประจําปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ เพื่อเป็นการสักการะเจ้าหลวงคําแดงซึ่งท่านมีฐานะเป็นอารักษ์เมืองและเก๊าผี (ต้นตระกูลผี) ของชาว
ล้านนา ซึ่งมีผีบริวารสําคัญคือเจ้าพ่อข้อมือเหล็กและเจ้าพ่อวีวอ โดยเล่าเรื่องความสําคัญของอารักษ์เมืองเชียงใหม่ นามว่า ”เจ้าหลวงคําแดงและนางอินเหลา“ ที่ชาวล้านนาศรัทธาและยังคงสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน มีจุดเน้นที่การสร้างเสริมจุดเด่น เพิ่มจุดขายของเมืองเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยการจัดกิจกรรมนี้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจากทุนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมตามอัตลักษณ์เมือง กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้เพิ่มจากนักเดินทางคุณภาพสูง โดย
เฉพาะการเปิดมิติเศรษฐกิจยามค่ำคืน รวมถึงพัฒนาเส้นทางสร้างสรรค์ใหม่ ตามนโยบาย Soft Power (Festival) ของ รัฐบาลและประเด็นการพัฒนาพื่นที่ภาคเหนือด้วยเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Lanna)
คุณวิชนิกุล จิรสิทธิธํารง Sales & Marketing Manager , Yatika Boutique Resort กล่าวว่า
โดยสําหรับในปีนี้ ทาง ญาติกา บูทิก เชียงดาวได้มองเห็นโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยการนําเสนอกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมนําร่อง และจะต่อเนื่องตลอดปีด้วยกิจกรรมที่จะเชื่อมโยงโครงข่ายในพื้นที่ระหว่างผู้ประกอบการ และชุมชน เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ โดยมีการรวบรวมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ควบคู่กับการส่งเสริมกิจกรรม ของชุมชน ทั้งนี้ยังส่งเสริมด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ท่องเที่ยวและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารในกิจกรรมต่อๆไปที่จะจัดขึ้นโดย ญาติกา บูทิก เชียงดาว
สําหรับปีนี้ได้มีกิจกรรมไฮไลท์ คืองานบวงสรวงเจ้าหลวงคําแดง นาฏยะคีตะ ศิลปะบูชาแห่งศรัทธา ประจําปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ ภายใต้ชื่องาน“Life & Soul Doi Luang Chiang Dao by YATIKA” ในครั้งนี้ยังมีการจําหน่าย “T-Shirt ชีวิต จิตวิญญาณ” โดยรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับ ’วิสาหกิจชุมชนถิ่นนิยมเชียงดาว’ ซึ่งเป็นชุมชนที่ดูแลศาลเจ้าหลวงคําแดงที่นําออกฮูดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งทุกท่านสามารถร่วมสมทบทุนด้วยการซื้อเสื้อT-Shirt ผ่านทางเฟสบุคเพจ Yatikaboutique ซึ่งจัดจําหน่ายในราคาตัวละ 599 บาท
ก่อนจบกิจกรรม คุณพิมพ์สุภัค จิรสิทธิธํารง ผู้บริหาร Yatika Boutique Resort ได้มอบรายได้จากการจัดจําหน่าย “T-Shirt ชีวิต จิตวิญญาณ” ให้กับ’วิสาหกิจชุมชนถิ่นนิยมเชียงดาว’เพื่อนำไปดูแลศาลเจ้าหลวงคําแดงที่นําออกฮูดอยหลวงเชียงดาวต่อไป
ญาติกา บูทีค เชียงดาว Yatika Boutique Resort
24/1 Moo 7, Baan D**g, Chiang Dao, Chiang Mai 50170

#เชียงใหม่ออนไลน์นิวส์
&SoulDoiLuangChiangDaobyYATIKA
#ญาติกาบูทิกเชียงดาว

เปิดซุ้มประดับไฟ “ทิพยรัศมีเวียงพิงค์ สู่ดินแดนวิจิตรแห่งล้านนา” บนถนนท่าแพ ต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงประเพณีเดือนยี่เป็...
02/11/2025

เปิดซุ้มประดับไฟ “ทิพยรัศมีเวียงพิงค์ สู่ดินแดนวิจิตรแห่งล้านนา” บนถนนท่าแพ ต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่​ ยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดซุ้มประดับไฟ ทิพยรัศมีเวียงพิงค์ สู่ดินแดนวิจิตรแห่งล้านนา” ต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ 2568 ซึ่งก่อนพิธีเปิดได้มีการทำพิธีจุดผางประทีปถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมี คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล รองปลัดเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมพิธี ณ ถนนท่าแพ

ซุ้มประดับไฟแห่งนี้ออกแบบภายใต้แนวคิด “ทิพยรัศมีเวียงพิงค์ สู่ดินแดนวิจิตรแห่งล้านนา” สื่อถึงแสงทิพย์อันศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งประกายจากเวียงพิงค์ หรือเมืองเชียงใหม่ นำพาผู้มาเยือนเข้าสู่ดินแดนล้านนาอันวิจิตรตระการตา ทั้งในด้านศิลปะ วัฒนธรรม และความศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมายาวนาน การออกแบบผสมผสานศิลปะล้านนาเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผ่านระบบแสง สี เสียง เลเซอร์ และเอฟเฟกต์พิเศษตามจังหวะดนตรี เติมความคึกคักและร่วมสมัยให้กับบรรยากาศ

ฐานของซุ้มประดับด้วยลวดลายประยุกต์จาก “ดอกทองกวาว” ดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ สื่อถึงความรุ่งเรืองและความภาคภูมิใจของชาวเชียงใหม่

ส่วนด้านบนของซุ้มออกแบบเป็นรูป “นางฟ้า” ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของงาน เพราะจะมีการแสดงแสงเหนือจำลอง (Northern Lights Show) ปล่อยแสงสีที่สื่อถึงพลังแห่งแสงสว่าง ความดี ความหวัง และการส่องนำทางชีวิต เสมือนแสงจากกระทงที่ลอยไปพร้อมคำอธิษฐานให้ชีวิตสว่างไสวตลอดปีใหม่ที่กำลังมาถึง

การตกแต่งเลือกใช้แสงสีแทนการประดับโคมไฟ เพื่อให้สามารถใช้ซุ้มนี้ได้ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเทศกาลแห่งความสุขปลายปี ถ่ายทอดแนวคิด “ส่งต่อความสุขและพลังบวก” ให้กับชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว โดยใช้สัญลักษณ์ที่เข้าใจได้ในระดับสากล แทนการใช้ตัวละครจากวรรณคดีไทย เพื่อให้เข้าถึงและสื่อสารได้กับผู้คนทุกเชื้อชาติ
การแสดงแสงเหนือจำลองครั้งนี้ ผสมผสานเสียงเพลงและดนตรีพื้นเมืองล้านนา มีแสงสี เลเซอร์ และเอฟเฟกต์พิเศษของไฟ เคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรี มีเสียงบรรยายประกอบ โดยคุณอ้อม ไม้เมือง หรือ ธีราพร ศรีกิจรัตน์ ศิลปินล้านนาชื่อดัง ซึ่งใช้เป็นเสียงเปิดการแสดง ถ่ายทอดเสน่ห์ศิลปวัฒนธรรมล้านนา และยังเป็นการอนุรักษ์คำเมือง ซึ่งเป็นภาษาถิ่นของคนล้านนา โดยถือเป็นอัตลักษณ์สำคัญของเชียงใหม่และชาวล้านนา ที่ควรสืบสานให้คงอยู่คู่เมืองตลอดไป

การแสดงจะมีขึ้นทุกวันเสาร์–อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 2 รอบ เวลา 19.30 น. และ 21.00 น. แต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยจะทำการแสดงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2568 ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569 ท่ามกลางบรรยากาศแสงสีเสียงสุดตระการตาบริเวณถนนท่าแพ

ซุ้มไฟ “ทิพยรัศมีเวียงพิงค์” จึงไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์แห่งประเพณียี่เป็งเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่สะท้อนเสน่ห์เมืองเชียงใหม่ในฐานะ “ดินแดนวิจิตรแห่งล้านนา” ที่งดงามและเปล่งประกายตลอดฤดูกาลท่องเที่ยว
#เชียงใหม่ออนไลน์นิวส์​
#เทศบาลนครเชียงใหม่

ปักหมุดไว้เลย 3 กันยายน 2568  รำลึก ๒๔ ปี จรัล มโนเพ็ชรชมรมสื่อออนไลน์เชียงใหม่ร่วมกับกลุ่มศิลปินล้านนาจัดกิจกรรมสืบสานต...
12/08/2025

ปักหมุดไว้เลย 3 กันยายน 2568 รำลึก ๒๔ ปี จรัล มโนเพ็ชร
ชมรมสื่อออนไลน์เชียงใหม่ร่วมกับกลุ่มศิลปินล้านนา
จัดกิจกรรมสืบสานตำนานเพลงคำเมืองและอนุรักษ์​วัฒนธรรม​ล้านนา
มาร่วมรำลึกถึงบทเพลงของราชาโฟล์คซองคำเมืองจากเหล่าศิลปินล้านนากว่า​ 20 วง​ ในบรรยากาศกาดหมั่วคัวฮอม
เริ่มตั้งเเต่เวลา12.00 น.- 22.30 น. สถานที่โครงการLANDIN เชียงใหม่ ถนนหลังวัดร่ำเปิง​ ต.สุเทพ​ อ.เมือง​ เชียงใหม่​ ชมฟรี

ร่วมปันน้ำใจให้กัน
“ส่งฝันให้เธอสานต่อ”
กับกิจกรรมดีๆในการเป็นผู้​ให้
บริจาคกีตาร์เก่า ที่ไม่ได้ใช้ในสภาพดีจากทางบ้าน มอบให้ นักเรียน นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีใจรักดนตรีได้มีกีตาร์ไว้ฝึกฝนต่อยอดต่อไป

อนึ่งมีการประมูลกีตาร์พร้อมลายเซ็นของศิลปินล้านนา เพื่อนำรายได้นำไปจัดซื้อกีตาร์และส่งให้น้องที่อยู่ห่างไกลอีกด้วย

กิจกรรมภายในงาน นิทรรศการ​จรัลรำลึก เรื่องราวของ จรัล มโนเพ็ชร ตั้งแต่เกิดทำงานจนเสียชีวิต
ร่วมทำบุญผ้าป่าเพื่อซื้อถุงเท้า รองเท้าและสิ่งของคลายหนาวให้น้องๆที่อยู่ห่างไกลหรือช่วยเหลือภัยพิบัติทางธรรมชาติ

โซนของกิ๋นคนเมือง ในบรรยากาศเเบบกาดหมั่วคัวฮอม
ลานแสดงดนตรี ของเหล่าศิลปินล้านนาที่รักและคิดถึงอ้ายจรัล กว่า20วง มาร่วม มาฮอมปอยกัน ร่วมขับขาน คาราวะรำลึกถึงครูใหญ่แห่งวงการโฟล์คซองคำเมือง โดยเริ่มแสดงตั้งแต่เวลา 12.00 น.-22.30 น.เป็นต้น
อาทิ
1.ไม้เมือง
2.เดอะเพอะ
3.ครูแอ๊ด เดอะสะล้อ
4.น้องอ้อม รัตนัง
5.อ้ายน้องปฏิญญา
6.อ.บุญรัตน์ ล้านนาอคลูสติค
7.วงเอื้อนคำทิพย์
8.วงดอกไม้เพลง
9.วงจอมทองบลูกราส
10.วงลุกต้าว
11.san Rusicchon
12.เก็ตตี้
13น้องใหม่ จรรยาภรณ์
14.ขลุ่ยลมเหนือ
15.โฟล์คซองสวัสดีล้านนา
16.วงจินต์จล
17.วงทุ่งไผ่
19.เอ็มมี่
20.ลุงลังแบนด์

โดยกิจกรรมวันที่ 3 กันยายน 2568 ท่านที่อยู่ห่างไกลสามารถรับชมทางออนไลน์ โดยจะมีการถ่ายทอดสดจากแม่ค่าย จากเพจ วิทยุอ.ส.ม.ท เชียงใหม่และเพจ CM 108 และกระจายเผยแพร่ทางพันธมิตรและสมาชิกของสมาคมสื่อออนไลน์เชียงใหม่ ให้รับชมทั่วประเทศ

รำลึก ๒๔ ปี จรัล มโนเพ็ชร 3 กันยายน 2568
เป็นกิจกรรมเพื่อสังคม ที่ไม่แสวงหาผลกำไรทางธุรกิจ เป็นงานปอยหลวง ฮอมแฮงกั๋น คือการร่วมมือร่วมแรงกันโดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งศิลปินและผู้จัด เพื่อเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการรำลึกถึงจรัล มโนเพ็ชร ครูเพลงและศิลปินผู้ยิ่งใหญ่และเป็นต้นแบบของศิลปินล้านา รวมไปถึงเป็นส่งเสริมศิลปะวัฒนธรรมและภาษาท้องถิ่น ดนตรีล้านนาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ต้องการสนับสนุนฮอมปอยกิจกรรมดีๆดังกล่าวสามารถติดต่อได้ที่ สมาคมสื่ออนไลน์เชียงใหม่ ผู้ประสานงาน
คุณ สรวิชญ์ กันธิตระกูล
083 8889011 หรือไลน์ไอดี 88889011

งดบินโดรนทั่วประเทศ30 ก.ค.-15 ส.ค.68 ผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเท...
30/07/2025

งดบินโดรนทั่วประเทศ30 ก.ค.-15 ส.ค.68 ผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกประกาศห้ามบินโดรนทุกประเภท ทั่วประเทศ เพื่อความมั่นคงจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศด่วน ห้ามทำการบินหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภทในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม 2568 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
การประกาศครั้งนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ต่าง ๆ
พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การห้ามบินโดรนในครั้งนี้สอดคล้องกับกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งให้อำนาจ กพท. ในการระงับการใช้งานอากาศยานไร้คนขับในช่วงเวลาที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ พร้อมย้ำว่า ผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจทำลายอากาศยานได้ หากมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
หากผู้ใดพบเห็นหรือทราบว่ามีการบังคับหรือปล่อยโดรนที่ฝ่าฝืนประกาศนี้ ให้แจ้งข้อมูล ได้แก่ วัน เวลา สถานที่ที่พบเห็น ลักษณะของโดรน และภาพถ่ายหรือคลิปวิติโอ (ถ้ามี) ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็วผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ดังนี้
1. กองพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีระบบอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ฝ่ายมาตรฐานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 02-568-8851 หรืออีเมล [email protected]
2. ศูนย์ต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (สตอ.น.) โทรศัพท์ 02-126-7846 หรืออีเมล [email protected]
3. ศูนย์แจ้งเหตุใกล้พื้นที่ เช่น สถานีตำรวจท้องที่ หน่วยทหาร หรือหน่วยความมั่นคงที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ๆ
กพท. ขอความร่วมมือประชาชน งดใช้โดรนทุกประเภทในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อร่วมกันรักษาความปลอดภัยของประเทศ และสนับสนุนภารกิจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่

พาณิชย์จังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด แถลงข่าวการจัดงาน "GI สินค้าอัตลักษณ์ สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาภาคเหนือ" เชี...
23/05/2025

พาณิชย์จังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด แถลงข่าวการจัดงาน "GI สินค้าอัตลักษณ์ สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาภาคเหนือ"

เชียงใหม่, เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2568 - สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด จัดแถลงข่าวการจัดงาน "GI สินค้าอัตลักษณ์ สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาภาคเหนือ" โดยมี นางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย เป็นประธานร่วมแถลงข่าว ท่ามกลางแกบุคคลสำคัญและสื่อมวลชนที่เข้าร่วมงานมากมายในครั้งนี้ ณ ห้องประชุม ibis 4 โรงแรมไอบิส สไตล์ เชียงใหม่
โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด มุ่งหวังเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนยกระดับสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้าผลิตภัณฑ์จังหวัด PB (Provincial Brand) และ สินค้าอัตลักษณ์เด่นของจังหวัดภาคเหนือสู่ต่างจังหวัดในงาน "GI สินค้าอัตลักษณ์ สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาภาคเหนือ" โดยนำสินค้า GI สินค้าผลิจภัณฑ์จังหวัด PB และสินค้าอัตลักษณ์เด่น จากแหล่งผลิตส่งตรงถึงมือผู้บริโภคทั้งภาคกลาง และภาคใต้มากกว่า 35 คูหา สำหรับสินค้าที่นำมาจำหน่าย เช่น ศิลาดลเชียงใหม่ ชามไก่ลำปาง สับปะรดภูแล เกลือภูเขาบ่อเกลือน่าน กาแฟเทพเสด็จ ผ้าหม้อห้อมแพร่ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย กระเป๋าจากผักตบชวา เป็นต้น
ซึ่งจัดขึ้นจำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 11 - 15 มิถุนายน 2568 ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นหรัลชลบุรี จังหวัดชลบุรี และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 13 - 17 สิงหาคม 2568 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
นางกนกรัตน์ ยุกติรัตน์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการที่ภาคเหนือมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม มีศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป และหัตถกรรมพื้นถิ่นที่
สะท้อนถึงอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน มีสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริมการตลาตในระดับพื้นที่ให้มุ่งสู่การพัฒนาไปสู่การเป็น "ฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ"
จึงส่งเสริมและขยายตลาดสินค้าอัตลักษณ์ของ 17 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมยกระดับคุณภาพและสินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ให้เข้าถึงตลาดเชิงพาณิชย์ทั้งในและต่างประเทศ สร้างรายได้ให้ชุมชน และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
นางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย กล่าวเสริมถึงแนวทางความร่วมมือ สนับสนุนการจัดงานฯ ของกลุ่มภาคเหนือว่า มีกลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพมีความพร้อมในการเชื่อมโยงสินค้าและบริการกับพื้นที่เศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นในการส่งสินค้าหรือรองรับการบริการจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องส่งเสริมและผลักดันสินค้าเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์กลุ่มจังหวัดภาคเหนือที่มีอย่างมากมาย และสามารถช่วยขยายตลาดการค้าหรือการลงทุนไปสู่ระดับสากลให้ได้
สำหรับผู้ประกอบการสินค้า GI "ศิลาดลเชียงไหม่" และ "กาแฟเทพเสด็จ" กล่าวเสริมว่า การจัดงานดังกล่าว สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ และเป็นการส่งเสริมช่องทางด้านการตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้ารับรู้ถึงคุณค่าและความเป็นเอกลักษณ์ และเพิ่มโอกาสทางการค้าเนื่องจากได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สามารถกระจายรายได้สู่ชุมชน รายได้จะไหลกลับไปยังผู้ผลิตตั้งเดิม ซึ่งเป็นเกษตรกรหรือช่างฝีมือในท้องถิ่น ด้วยคุณภาพและความโดดเด่น สินค้า GI หลายรายการส่งออกได้ และได้รับการ
ยอมรับในต่างประเทศ "ภูมิใจที่ได้ใช้ของไทย" ซึ่งยืนหยัดในเวทีสากล
นางกนกรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า งาน "GI สินค้าอัตลักษณ์ สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาภาคเหนือ" ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่ขยายช่องทางการตลาดให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ GI สินค้าผลิตภัณฑ์จังหวัด PB (Provincial Brand) และ สินค้าอัตลักษณ์เด่น และสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค อันสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานกระทรวงพาณิชย์ "เศรษฐกิจการค้าไทยเข้มแข็ง เป็นธรรม เติบโตอย่างยั่งยืน"

ททท.ชม. ชวนเที่ยวเชียงใหม่ ในช่วง Green Seasonการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานเชียงใหม่ เชิญชวนประชาชน ร่วมกิจกร...
21/05/2025

ททท.ชม. ชวนเที่ยวเชียงใหม่ ในช่วง Green Season
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานเชียงใหม่ เชิญชวนประชาชน ร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวในห้วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568
ในการนี้ นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการขับเคลื่อนการท่องเที่ยว ในช่วงพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวในช่วง Green Season หรือเรียกได้ว่าเป็นช่วงหน้าฝน จังหวัดเชียงใหม่ได้เน้นการขับเคลื่อนกิจกรรมสายศาสนาและความศรัทธา หรือสายมู ซึ่งกิจกรรมที่ผ่านมา อาทิ กิจกรรมวันวิสาขบูชา งานเต๋วขึ้นดอย เป็นกิจกรรมที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้นทุกปีและมีพุทธศาสนิกชน ร่วมถึงนักท่องเที่ยว มาเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวอย่างล้นหลาม ซึ่งนอกจากนี้ ในห้วงปลายเดือน จังหวัดเชียงใหม่ ยังมีกิจกรรมและประเพณีอีกมากมาย อาทิ ประเพณีใส่ขันดอกบูชาเสาอินทขีล ประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 23-29 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 24.00 น. ณ วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 24-28 พฤษภาคม 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมนั่งรถรางไหว้สาบูชาอินทขีล ซึ่งจะเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวยามเย็น นั่งรถรางชมเมืองเชียงใหม่ ไหว้สาบูชาเสาอินทขีล พร้อมฟังเรื่องเล่า การใส่ขันดอกอินทขีล (8 เข้า 9 ออก) เชื่อมโยงศรัทธาผ่านเรื่องเล่าและสถานที่อันทรงคุณค่า 4 แจ่ง 5 ประตูเมือง และร่วมพิธีใส่ขันดอกบูชาเสาอินทขีล สักการะเสาหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยกิจกรรมดังกล่าว จะเริ่มในช่วงเวลา 18:00 น. จุดขึ้นรถ ณ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ในการนี้ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและประชาชน ร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้แล้ววันนี้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จำกัดวันละ 40 คนเท่านั้น
นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ยังมีกิจกรรมอีกมากมาย อาทิ งาน Chiang Mai Pride 2025 เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวด้วยพลังแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายและความเท่าเทียมไปด้วยกัน, งานวิจิตร @ เชียงใหม่ สีสันแห่งเส้นแสง น้ำพุร้อนสันกำแพง วันที่ 31 พฤษภาคม - 8 มิถุนายน 2568 เริ่ม 18.00-22:00 น. และ งาน Amazing Norther Green Golf เป็นต้น ทั้งนี้ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาท่องเที่ยวเชียงใหม่ ในช่วงGreen Season เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไปด้วยกัน

ผอ.สคพ.1 เผย คุณภาพน้ำประปาในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่บริโภคได้ แม้ก่อนหน้านี้ตรวจพบสารหนูในแม่น้ำก...
21/05/2025

ผอ.สคพ.1 เผย คุณภาพน้ำประปาในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่บริโภคได้ แม้ก่อนหน้านี้ตรวจพบสารหนูในแม่น้ำกก รัฐบาลเร่งส่งเจ้าหน้าที่เจรจาแก้ปัญหาการทำเหมืองแร่ในพม่า
วันนี้ (20 พ.ค. 68) นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ได้เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ ถึงความคืบหน้าในการตรวจหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก และมาตรการควบคุมและดูแลประชาชนจากการใช้น้ำในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จากกรณีที่พบว่าแม่น้ำกกมีความขุ่นผิดปกติและพบสารปนเปื้อน ไม่เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพน้ำและตะกอนดินในแหล่งน้ำผิวดิน โดยก่อนหน้านี้จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการประชุมหารือเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำกกในเขตพื้นที่อำเภอแม่อาย และได้มอบหมายให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ตรวจติดตามผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำผิวดินของแม่น้ำกกและลำน้ำสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำกกอย่างต่อเนื่อง
โดยผลจากการลงพื้นที่ตรวจติดตามและเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินที่มีความเสี่ยง จำนวน 12 จุด ตลอดลำน้ำกกที่ไหลผ่านพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ไปยังเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย ระยะทางประมาณ 157 กิโลเมตร ในช่วงระหว่างวันที่ 21-24 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แล้วนำมาวิเคราะห์คุณภาพน้ำเพื่อหาสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก ผลปรากฏว่า พบสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน คือ สารหนู (As) จำนวน 9 จุด จากทั้งหมด 12 จุด ที่ตรวจสอบ โดยพบในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 3 จุด และพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย จำนวน 6 จุด
สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหานั้น ภายหลังจากการตรวจพบสารปนเปื้อน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจแหล่งน้ำรอบข้างริมน้ำกกว่ามีแหล่งกำเนิดมลพิษทางน้ำเพิ่มเติมหรือไม่ ทั้งจากโรงงานต่างๆ พื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ที่ใช้สารเคมีจำนวนมาก รวมถึงเหมืองแร่และบ่อกำจัดของเสีย ซึ่งปรากฏว่า ในเขตพื้นที่ประเทศไทยที่ติดอยู่กับชายแดนพม่า ทั้งเชียงใหม่และเชียงราย ไม่พบแหล่งที่ปล่อยสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนักลงสู่แหล่งน้ำแต่อย่างใด ดังนั้น จึงสันนิษฐานได้ว่าสารปนเปื้อนเหล่านี้น่าจะมาจากนอกราชอาณาจักรไทย คือ อาจจะมาจากการทำเหมืองแร่ในประเทศพม่า ล่าสุดได้มีการเจรจาแก้ปัญหากันในระดับพื้นที่ร่วมกันของผู้ใช้น้ำ ในขณะที่ระดับประเทศทางรัฐบาลไทยได้เตรียมส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปเจรจาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านให้มีการบริหารจัดการบ่อเหมืองแร่ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการเพื่อลดผลกระทบ
ส่วนกรณีที่ประชาชนมีความกังวลในเรื่องของการใช้น้ำประปา การลงน้ำ รวมถึงการบริโภคสัตว์น้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำกก เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาแล้ว ทั้งในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย พบว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย สามารถใช้ในการอุปโภคและบริโภคได้ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า คนลงไปเล่นน้ำแล้วมีผื่นคัน ทางสำนักงานสาธารณสุขทั้งสองจังหวัด ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว พบว่า เป็นผื่นคันธรรมดา ไม่ได้มาจากสารปนเปื้อนแต่อย่างใด ส่วนประเด็นที่พบปลาตายในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทางสำนักงานประมงจังหวัดเชียงรายได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว พบว่า ปลาที่ตายเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เมื่อนำชิ้นเนื้อมาตรวจหาสารปนเปื้อนแล้วไม่พบโลหะหนัก ไม่ว่าจะเป็นสารหนู หรือสารปรอท จึงสามารถบริโภคสัตว์น้ำได้ปกติ แต่ต้องทำให้สุกก่อนทุกครั้ง

ปภ.เชียงใหม่ เผย ขณะนี้เครื่องจักรและเรือขุดลอกแม่น้ำปิงเริ่มทยอยเข้าพื้นที่แล้ว เตรียมพร้อมขุดลอกอย่างเต็มรูปแบบในเดือน...
21/05/2025

ปภ.เชียงใหม่ เผย ขณะนี้เครื่องจักรและเรือขุดลอกแม่น้ำปิงเริ่มทยอยเข้าพื้นที่แล้ว เตรียมพร้อมขุดลอกอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน นี้
วันที่20 พ.ค. 68 นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ ถึงความคืบหน้าในการดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิง เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เริ่มทยอยขุดลอกไปในเบื้องต้นแล้ว และจะมีการลงพื้นที่ขุดลอกอย่างเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายน นี้
นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า การขุดลอกแม่น้ำปิงได้มีการวางแผนการดำเนินการในหลายระยะ เริ่มต้นจากระยะเร่งด่วน คือ การขุดลอกในเชิงลึกก่อนเป็นระยะทางรวมทั้งสิ้นประมาณ 41 กิโลเมตร ที่ดำเนินการขุดโดยสำนักงานทหารพัฒนา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สำหรับวิธีการขุด จะใช้เรือดูดเข้าไปทำการดูดตะกอนดิน ทราย และกรวดใต้แม่น้ำ แล้วใส่เรือโป๊ะลำเลียงขึ้นมาพักไว้บนจุดที่กำหนดไว้ จากนั้นใช้รถแบคโฮลตักดินใส่รถบรรทุกขนดินไปไว้ยังจุดที่ได้กำหนดไว้อีกครั้ง ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลิ่งและที่ดินบ้านเรือนทั้งสองฝั่งของลำน้ำ โดยเครื่องจักรและเรือดูดตะกอนที่จะใช้ได้เริ่มทยอยมาถึงพื้นที่แล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ ส่วนในสัปดาห์นี้จะเริ่มทยอยติดตั้งเรือดูดริมน้ำปิงตามจุดต่างๆ โดยจะมีเรือกว่า 20 ลำ ที่จะใช้ดำเนินการแบบเต็มรูปแบบ เบื้องต้น ในขณะนี้ได้เริ่มทำการดูดดินขึ้นมาบ้างแล้ว เพื่อดูองค์ประกอบของดินและตะกอนที่อยู่ใต้น้ำปิง และเมื่อเริ่มขุดแบบเต็มรูปแบบจะมีการดำเนินการตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง แม้จะมีปัญหาอุปสรรคจากฝนตกบ้าง ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบด้านการจราจร พื้นผิวถนนอาจมีความสกปรก ซึ่งในส่วนนี้จังหวัดเชียงใหม่ก็มีแผนงบประมาณรองรับสำหรับการฉีดล้างทำความสะอาดไว้แล้ว แต่คาดว่าในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน นี้ ฝนอาจจะตกไม่มาก จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการดำเนินการ
ทั้งนี้ เบื้องต้นจังหวัดเชียงใหม่ได้วางแผนระยะเวลาดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงไว้ 75 วัน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงช่วงเดือนสิงหาคม 2568 แต่หากยังสามารถดำเนินการขุดต่อได้จะทำต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งจะทำให้จังหวัดเชียงใหม่มีความปลอดภัยมากขึ้นก่อนที่จะถึงช่วงน้ำหลากในปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน ในอนาคตจะต้องมีการวางแผนขุดลอกในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยประมาณ 5-10 ปีต่อครั้ง และนอกจากการขุดลอกในเชิงลึกแล้วก็จะต้องมีการขุดขยายลำน้ำให้กว้างขึ้นด้วย ซึ่งได้วางแผนไว้สำหรับปีหน้า และยังต้องมองไปถึงการขุดลอกลำน้ำไปยังพื้นที่ท้ายน้ำและกลุ่มจังหวัดที่อยู่ลุ่มน้ำปิงอีกด้วย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ

เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต พลิกโฉมใหม่ “กาดหลวง” Local Food Market ที่ใหญ่ที่สุด ศูนย์รวมร้านอาหารชั้นนำกว่า 98 ร้าน เ...
01/05/2025

เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต พลิกโฉมใหม่ “กาดหลวง” Local Food Market ที่ใหญ่ที่สุด ศูนย์รวมร้านอาหารชั้นนำกว่า 98 ร้าน เมนูให้เลือกมากกว่า 2,000 รายการ พร้อมสร้างเดสติเนชั่นที่ผู้คนต้องมาเยือน พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลาย ในบรรยากาศที่สะดวกสบายและสะอาด เป็นจุดนัดพบและแหล่งซื้อของกิน ของฝากพื้นเมืองชั้นเยี่ยม อาทิ ร้านโกยีข้าวมันไก่,ร้านข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม,ร้านก๋วยเตี๋ยวอัญชัน,ร้านคั่วไก่นิมมาน, ร้านเฮือนเพ็ญ, ร้านขาหมูช้างเผือก, ร้านบลูสเต๊กเฮ้าส์, ร้านหยกฟ้าโภชนา, ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านดำรงค์, ร้านผัดไทรสชา,ร้านตั๊กกะเพราถาดยักษ์,ตำแซ่บเว่อร์ By พี่แมว, และร้านผัดไทยโบราณ

โดยพิธีเปิดงาน ได้รับเกียรติจาก คุณศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประธานในพิธี พร้อมด้วยคุณเก่ง ชัยวารินทร์ รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่, คุณศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่, คุณภัทรา ทรัพยะประภา ผู้บริหารสายงานธุรกิจศูนย์อาหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), คุณพรเทพ อรรถกิจไพศาล รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มงานปฏิบัติการสาขาภาคเหนือ บ.เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน), คุณศิระ สันติตรานนท์ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต, คุณวีรโชติ ถิรวายามกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเขตภาคเหนือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) พร้อมแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนร่วมงานคับคั่ง ณ ลานกิจกรรม ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต

ที่อยู่

Muang Chieng Mai
50000

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ เชียงใหม่ออนไลน์นิวส์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง เชียงใหม่ออนไลน์นิวส์:

แชร์