Atrayongmag ทุกมุมมองของระยองอยู่ในมือคุณ
Rayong's CSR

  Dow ท้าน้องมัธยมทั่วประเทศ ออกแบบหุ่นยนต์พิชิตภารกิจ พร้อมเป็นทีมชาติไทยในการแข่งขัน FIRST® Tech Challenge  #7 ที่สหรั...
01/10/2025



Dow ท้าน้องมัธยมทั่วประเทศ ออกแบบหุ่นยนต์พิชิตภารกิจ พร้อมเป็นทีมชาติไทยในการแข่งขัน FIRST® Tech Challenge #7 ที่สหรัฐฯ

( 1 ต.ค.68 ) กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และพันธมิตร เปิดรับสมัครผู้ท้าชิงที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.1-ม.6 หรือเทียบเท่า ร่วมสร้างทีมจำนวน 4-15 คน (ควรมีสมาชิกผู้หญิงอย่างน้อย 1 คน (inclusive member) เพื่อส่งเสริมความหลากหลาย) เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์ FIRST® Tech Challenge Thailand ครั้งที่ 7 มุ่งสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ STEM Education พัฒนาผู้เรียนด้านทักษะกระบวนการคิด การแก้ปัญหา การออกแบบ และการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพิชิตภารกิจในหัวข้อ “DECODE Presented by RTX” ระหว่างวันที่ 9-11 ธันวาคม 2568 ณ โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษา และได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติที่สหรัฐอเมริกา ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันสามารถสแกน QR Code ในโปสเตอร์รับสมัครภายในวันที่ 17 ตุลาคม 2568 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/FIRSTTechChallengeTHAILAND/

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง

  ผู้ว่าฯ ระยอง ลงเรือสำรวจคลองทับมา จัดทำแผนที่ประกอบและภาพถ่ายในลำคลอง เตรียมเร่งหารือหน่วยงาน และ อปท.ที่เกี่ยวข้อง ร...
30/09/2025



ผู้ว่าฯ ระยอง ลงเรือสำรวจคลองทับมา จัดทำแผนที่ประกอบและภาพถ่ายในลำคลอง เตรียมเร่งหารือหน่วยงาน และ อปท.ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อจากคลองทับมาท่วมในพื้นที่ชั้นในของตัวเมืองระยองที่เกิดขึ้นซ้ำซาก

(30 ก.ย. 68) นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายกัฬชัย เทพวรชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายอนุสรณ์ แสงกล้า นอภ.เมืองระยอง นายประสานต์ พฤกษาชาติ รองนายก อบจ.ระยอง นายจิรพงษ์ ศาสตร์แย้ม ผอ.โครงการชลประทานระยอง นายทวีชัย โชคสมุทร ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยอง พร้อมด้วยนายสุทิน แก้วประถม นายกเทศมนตรีตำบลทับมา นายศุภชัย จิตรดล นายกเทศมนตรีตำบลเนินพระ นายประเชิญ เห่งยี้ นายกเทศมนตรีตำบลเชิงเนิน และผู้แทนเทศบาลนครระยอง ร่วมลงเรือสำรวจสิ่งกีดขวางทางน้ำ และตรวจสอบสภาพประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองทับมาตลอดแนว ทั้งนี้เพื่อดูสภาพจริงของคลอง เพื่อหาแนวแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อจากคลองทับมาท่วมพื้นที่ขัันในของตัวเมืองระยอง ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำซากในข่วงฤดูฝน หรือฝนตกหนักในพื้นที่

นายภาสกร เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ลงสำรวจคลองทับมาตลอดแนวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง อบจ.ระยอง อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบอุปสรรคที่กีดขวางทางน้ำ ทั้งคอสะพาน วัชพืช และมีต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นในลำคลองจำนวนมาก ซึ่งได้มีการทำแผนที่ประกอบ และรูปถ่ายจากการลงสำรวจทั้งหมด เพื่อหารือร่วมกันเพื่อมอบหมายให้ อปท.แต่ละพื้นที่ที่คบองทับมาผ่านทั้งเทศบาบนครระยอง เทศบาลตำบลทับมา เทศบาลตำบลเนินพระ และเทศบาลตำบลเชิงเนิน ในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อให้น้ำสามารถระบายได้สะดวกขึ้น ส่วนปัญหาสะพานบริเวณหมู่บ้านกรุงไทยที่ต่ำกีดขวางทางน้ำ หลังลงพื้นที่กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย เพื่อแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา ก็เห็นพ้องต้องกันที่จะต้องเร่งดำเนินการปรังปรุง ซึ่งจากสะพานข้ามคลอง 4 แห่ง แก้ไขปรับปรุงไปแล้ว 3 แห่ง โดย อบจ.ระยอง เหลือเพียงอีก 1 แห่ง คือสะพานหมู่บ้านกรุงไทยดังกล่าว ได้มีนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งล่วงล้ำลำน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้มีการอนุญาตให้ผู้ยื่นขอมีความประสงค์ยื่นขอให้ทำสะพาน และก็ยกสะพานให้ทางราชการ โดยทาง อบจ.ระยอง ได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมสภา อบจ.อนุมัติงบประมาณในการปรับปรุงยกตัวสะพานให้สูงขึ้นแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งบริเวณสะพานดังกล่าว เป็นสาเหตุที่ทำน้ำท่วมบริเวณหมู่บ้านกรุงไทยที่ผ่านมา ซึ่งหากยกสะพานสูงขึ้นแล้ว จะให้การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ดีขึ้น.
#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง

  📣เชิญเที่ยวงานตลาดในสวน @ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ ปี2568📍พบกันในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม - วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 ตั้...
30/09/2025


📣เชิญเที่ยวงานตลาดในสวน @ สวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ ปี2568
📍พบกันในวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม - วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 07.30 - 13.00 น.
********** กิจกรรมภายในงาน ***********
▶ การแสดง "มาบข่าแดนซ์"ของชุมชนมาบข่าพัฒนา
▶ กิจกรรมสาธิตการทำผลิตภัณฑ์สมุนไพร จากวิทยากรสวนสมุนไพรฯ
▶ พบกับโซนสินค้ามือสอง งานคราฟต์ และโซนกาแฟดริปภายในสวน
▶ สินค้าชุมชน สินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์สมุนไพร งานหัตถกรรม ต้นไม้ และอาหารกว่า 120 ร้านค้า
▶ กิจกรรม “ลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติก” นำถุงผ้ามาใช้ในตลาดทุกเดือน เพื่อสะสมแต้มรับของรางวัลจากทางสวนสมุนไพรฯ
▶ สมุนไพรแจกฟรี (จำนวนจำกัด)
▶ ตัดผมฟรี และมีบริการนวดแผนไทยในสวน
🌿 #มาระยองครั้งใดแวะสวนสมุนไพรสมเด็จพระเทพฯ🌿
📢📢 มาเที่ยวกันเยอะๆนะคะ 📢 📢

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง #พกถุงผ้ามาตลาดรับสติกเกอร์สะสมรับแลกของรางวัลฟรี
#ตลาดในสวน@สวนสมุนไพรสุขภาพสมเด็จพระเทพฯ
#ทุกวันเสาร์และอาทิตย์แรกของเดือน
#ตลาดสวนสมุนไพรระยอง
#พันธุ์ไม้แจกฟรี
#ตลาดระยอง
#ระยอง

  ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย)- อบต.มาบยางพร เปิดสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ต่อยอดโครงการ 'ข.ขวด หมุนเวียน เป็นข...
30/09/2025


ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย)- อบต.มาบยางพร เปิดสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ต่อยอดโครงการ 'ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่' มุ่งลดขยะในชุมชน-สร้างรายได้ให้คนในชุมชน
(29 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุม อบต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายอภิชาติ เงินท้วม นายก อบต.มาบยางพร เป็นประธานเปิดสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ต่อยอดโครงการ 'ข.ขวด หมุนเวียน เป็นขวดใหม่' ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด อบต.มาบยางพร GC Youเทิร์น และThe Green มีนายยศยุต สหวัชรินทร์ รอง ปธ.บริหารอาวุโสฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และบรรษัทสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด และน.ส.วิภาวรรณ ทัศนปรีชาชัย รอง ปธ.บริหารฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด น.ส.ธารทิพย์ โพธิตันติมงคล รอง ผอ.ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัทซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมพิธีเปิดฯ และพาคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล ที่มีการเปิดรับซื้อแล้วทั้งขวดพลาสติก กระดาษ และน้ำมันพืชใช้แล้ว ตั้งอยู่ภายในศูนย์ดับเพลิง ตลาดสะพานสี่ ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง
นายยศยุต เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ ได้จัดตั้งสถานีซื้อขายขยะรีไซเคิลในชุมชนขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ข.ขวดหมุนเวียน เป็นขวดใหม่ ได้ริเริ่มโครงการมาตั้งแต่ปี 2566 เนื่องจากทางบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชั้นนำของไทย และของโลก ซึ่งทางบริษัทต้องการที่จะทำหน้าที่ในฐานะผู้ผลิตอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเน้นที่จะมาทำงานร่วมกับชุมชนซึ่งมีโรงงานผลิตแห่งแรกตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง และต้องการอยากมีส่วนช่วยเหลือชุมชนที่เรียกว่า การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้ให้ความสำคัญกับขวดพลาสติก โดยมีการสำรวจชุมชนที่จะทำการตั้งเป็นสถานีซื้อขายฯ ขึ้น ซึ่งได้พาร์ทเนอร์ทั้ง อบต.มาบยางพร, The Green และ GC YOU เทิร์น ที่มีความเชี่ยวชาญในการรีไซเคิลมาร่วมมือกัน โดยสร้างสถานีซื้อขายฯ เสร็จ เมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว และเริ่มลงมือปฏิบัติจริงโดมีคนในชุมชน 2 คนเป็นจิตอาสาประจำสถานีฯ ซึ่งมีการรับซื้อ 2 ครั้งในเดือน ก.ค.และมิ.ย.68 ที่ผ่านมา มีรายได้ 27,000 บาท ซึ่งได้ขวดพลาสติก และกระดาษ ไปอย่างละ 1,000 กก. ขวดแก้ว 1,300 กก.กระป๋อง 34 กก.และน้ำมันพืช 420 กก. ซึ่งการเกิดของสถานีซื้อขายฯ ดังกล่าว มุ่งหวังให้คนในชุมชนได้มีความรู้เรื่องการเอาขยะมารีไซเคิลมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือสื่อมวลชนได้ช่วยประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้ชาวบ้านได้นำขยะที่บ้าน หรือเริ่มจากการคัดแยกก่อนก็ได้แล้วนำมาขาย ซึ่งทางบริษัทหวังจะได้พาร์ทเนอร์กับทางโรงเรียนด้วยซ้ำ โดยการให้ความรู้กับน้องๆ ในโรงเรียน นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีโครงการเกี่ยวกับน้ำที่ได้ทำร่วมกับชุมชนเช่นเดียวกัน ก็หวังว่าสถานีซื้อขายฯ แห่งนี้ ไปได้ดีหวังว่าจะมีโอกาสนำความรู้ หรือบทเรียนที่ได้จากความผิดพลาดร่วมกับพาร์ทเนอร์ไปขยายโอกาสและส่งเสริมเรื่องของการรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนต่างๆ ต่อไปในอนาคตอีกด้วย
น.ส.วิภาวรรณ เปิดเผยว่าวัตถุประสงค์หลักคือ อยากจะหมุนเสียนขวดกลับเข้ามาเป็นวัตถุดิบในการผลิตของทางบริษัทอีกครั้ง ซึ่งการเกิดของสถานีซื้อขายฯ ดังกล่าว มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ 1.ลดปริมาณขยะที่จะไปลงสู่หลุมฝังกลบ 2.ต้องการเพิ่มคุณภาพตัวของขยะรีไซเคิลไม่ใช่แค่ปริมาณให้กลับเข้าสู่กระบวนการไซเคิลด้วย และ 3.สร้างรายได้ให้กับชุมชนซึ่งอาจจะไม่มากแต่จะมาเป็นขวัญถุงไว้หล่อเลี้ยงจิตอาสาที่ทำงานในสถานีซื้อขายฯ ต่อไปในอนาคต เพราะว่าทางบริษัทมุ่งหวังสร้างเป็นโมเดลให้กับชุมชนให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งบริหารงานโดยชุมชนเขาเอง
ด้านนายอภิชาต เปิดเผยว่า การจัดการขยะเป็นภารกิจหลักที่ อบต.มาบยางพร ดูแลอย่างครอบคลุม ทั้งการเก็บรวบรวม การกำจัด และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน การจัดตั้ง 'สถานีซื้อขายขยะรีไซเคิล' ขึ้นใน ต.มาบยางพรดังกล่าว จะช่วยลดปริมาณขยะในพื้นที่ และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และปลูกฝังจิตสำนึกแนวคิดการคัดแยกขยะ และสร้างมูลค่าจากขยะ รวมทั้งช่วยลดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมด้วย อีกทั้งยังช่วยลดภาระการจัดการขยะของ อบต.มาบยางพรอีกด้วย.

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง

  GC ดันภารกิจ “Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” ปลุกพลังเด็กไทย โชว์ไอเดียธุรกิจรักษ์โลก-ลดขยะ E-Waste พร...
29/09/2025


GC ดันภารกิจ “Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” ปลุกพลังเด็กไทย โชว์ไอเดียธุรกิจรักษ์โลก-ลดขยะ E-Waste พร้อมสานต่อเครือข่ายมหาวิทยาลัยสีเขียว

ก้าวสู่ปีที่ 3 ของความร่วมมือระหว่าง AIS และ GC ในการสานต่อพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนกับโครงการ “Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อร่วมกันสร้างการตระหนักรู้ถึงปัญหาขยะที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งสร้างเครือข่ายมหาวิทยาลัยสีเขียวผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบที่กระตุ้นการมีส่วนร่วมของนิสิต-นักศึกษา บุคลากร รวมถึงชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง ให้สามารถบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) และขยะพลาสติกอย่างถูกวิธี โดยปีนี้ได้ขยายความร่วมมือสู่ 50 มหาวิทยาลัย พร้อมเปิดเวทีให้นิสิตและนักศึกษาได้แสดงพลังความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ชิงทุนการศึกษาและถ้วยรางวัล มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจสื่อสารองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “AIS รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ GC ในการสานต่อโครงการ ‘Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นพลังของสถาบันการศึกษาและเยาวชนทั่วประเทศ ที่ทำให้สามารถรวบรวม E-Waste และพลาสติกใช้แล้วรวมกว่า 1.6 ล้านชิ้น เข้าสู่กระบวนการจัดการได้อย่างถูกต้อง ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 35 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 3,700 ต้นเลย ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้และสร้างแรงบันดาลใจให้เราสานต่อโครงการ อย่างต่อเนื่อง

สำหรับปีนี้ เราได้ยกระดับความเข้มข้นของโครงการ ทั้งภารกิจเก็บขยะเพื่อโลกที่ขยายพื้นที่การจัดการขยะครอบคลุมทั่วประเทศ ร่วมกับ 50 มหาวิทยาลัย พร้อมเพิ่มกิจกรรมใหม่ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ นำเสนอโมเดลธุรกิจจากขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะพลาสติก โดยเราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้
จะเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนในอนาคต”
คุณกิจชัย เฉลิมสุขสันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาดและการขาย กลุ่มลูกค้าแพลตฟอร์มอุตสาหกรรม บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC กล่าวว่า “ความสำเร็จของโครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ” ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เราสามารถลดขยะพลาสติกและขยะอิเล็กทรอนิกส์สู่หลุ่มฝังกลบได้มากกว่า 1 ล้านชิ้น และปีนี้เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้ต่อยอดและขยายความร่วมมือเป็นปีที่ 3 กับ 50 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” โดยนอกจากการแข่งขันเก็บขยะแล้ว เรายังเปิดเวทีกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ให้น้องๆ คนรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพ สร้างเครือข่าย และเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ผมขอเชิญชวนเยาวชนทั่วประเทศ มาร่วม ‘อัปเวลความคิด’ เปลี่ยนขยะให้เป็นคุณค่า และร่วมสร้างโลกที่ดีขึ้นไปด้วยกันตั้งแต่ในรั้วมหาวิทยาลัย”
โครงการ “Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” ร่วมปลุกพลังคนรุ่นใหม่ผ่าน 3 ภารกิจ ได้แก่
• ภารกิจที่ 1 ภารกิจเฟ้นหามหาวิทยาลัยสีเขียวกับการแข่งขันเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะพลาสติก โดยขยายพื้นที่การจัดการขยะครอบคลุมทั่วประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยกว่า 50 มหาวิทยาลัย ชวนนิสิต นักศึกษา บุคลากร ร่วมกันนำขยะอิเล็กทรอนิกส์และขยะพลาสติกมาทิ้งที่จุดรับทิ้งขยะภายในมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยที่รวบรวมได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะรับเงินสนับสนุนมูลค่า 30,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล Upcycle
• ภารกิจที่ 2 ประกวดแข่งขันคลิป TikTok “Green Creator "ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ” ประกวดรายบุคคลและทีม โดยนิสิตนักศึกษาสามารถรวมกลุ่มคณะหรือมหาวิทยาลัย จำนวนทีมละ 3 คน ออกแบบการเล่าเรื่องผ่านคลิปวีดีโอในหัวข้อ “Green Creator ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ” เพื่อรณรงค์การทิ้ง E-Waste และขยะพลาสติกใช้แล้วอย่างถูกวิธี
ชิงทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
• ภารกิจที่ 3 “Waste to Wealth: Business Model Pitching Contest 2025” อัปเวลด้วยกิจกรรมใหม่ เปิดโอกาสให้นักศึกษาจากทุกคณะในมหาวิทยาลัยรวมทีมละ 1–5 คน (ไม่จำเป็นต้องอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน) นำเสนอไอเดียธุรกิจสร้างสรรค์ที่สามารถนำไปต่อยอดได้จริง โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อปัญหาขยะ
ชิงทุนการศึกษามูลค่าสูงสุด 10,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร
โครงการ Green University “ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” ไม่ได้เป็นเพียงแค่กิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมทั่วไป แต่คือเวทีเปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ ลงมือทำ และสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย ชุมชน เพื่ออนาคตของโลก โดยผสานทั้งเทคโนโลยี นวัตกรรม และไอเดียสร้างสรรค์ เพื่อสร้างพลังบวกในการจัดการขยะ โดย AIS และ GC เชื่อว่า “ความยั่งยืน” จะเกิดขึ้นจริงได้ เมื่อทุกคนมีส่วนร่วม และ “ความแตกต่าง” จะเป็นพลังสร้างอนาคตได้ เมื่อเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้
สำหรับนิสิต นักศึกษา บุคลากร และประชาชนที่สนใจโครงการ “Green University ทิ้ง เทิร์น ให้โลกจำ Upvel 3” สามารถติดตามรายละเอียด กติกา และระยะเวลาของแต่ละกิจกรรม ได้ที่ https://www.facebook.com/ais.sustainability/ และ https://www.facebook.com/YOUTURNPLATFORM

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง ิ้งเทิร์นให้โลกจำUpvel3
#ทิ้งเทิร์นให้เท่สไตล์กรีนยู


ิร์น #พลาสติกเทิร์นเมือง

  จากการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน… สู่ไอเดียผลงานที่ส่งเสริมความยั่งยืน 🌱✨  อีกหนึ่งความสำเร็จและก้าวสำคัญของความร่ว...
26/09/2025


จากการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน… สู่ไอเดียผลงานที่ส่งเสริมความยั่งยืน 🌱✨

อีกหนึ่งความสำเร็จและก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่าง โคเวสโตร ประเทศไทย และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ หรือ SoA+D มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่ร่วมกันสร้างเส้นทางการเรียนรู้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องในปี 2025 นี้ 🎓🤝

โคเวสโตร เล็งเห็นถึงความสำคัญในการจุดประกายความรู้และความเข้าใจเรื่องความยั่งยืนในการออกแบบ จึงร่วมสนับสนุนการศึกษาในวิชา Creative Solutions for Circularity Awareness ที่ได้ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายของโครงการแล้ว ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นักศึกษาได้เรียนรู้แนวคิดด้านความยั่งยืนผ่านประสบการณ์หลากหลายมิติ ที่ถูกถ่ายทอดทั้งในห้องเรียน เวิร์กช็อปเชิงปฏิบัติ และการศึกษาดูงานนอกสถานที่ จากคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเรื่อง รวมถึงจากโคเวสโตรด้วยเช่นกัน

และเรายังได้เปิดโอกาสให้ทั้งนักศึกษาในวิชาเรียน รวมถึงนักศึกษาที่สนใจ ได้ร่วมแสดงไอเดียสุดสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์ด้าน circularity หรือ เศรษฐกิจหมุนเวียนผ่านการประกวดไอเดีย “Creative Design for Sustainability Contest 2025” ซึ่งน้องๆ ได้นำความรู้และประสบการณ์มาสร้างสรรค์เป็นผลงานที่น่าประทับใจทั้งด้านไอเดียการออกแบบ ไปจนถึงการสะท้อนจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และการสร้างคุณค่าต่อสังคม 🌎💚

โคเวสโตร ขอแสดงความยินดีกับผลงานที่ได้รับรางวัลทุกๆ ผลงาน ซึ่งมาจากไอเดียที่ส่งเข้ามากว่า 50 ชิ้นงาน เราภูมิใจในพลังความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาทุกคน และยืนยันในปณิธานที่ว่า "ความยั่งยืนต้องเริ่มตั้งแต่ต้นทาง" เพราะการปลูกฝังความตระหนักรู้ให้เยาวชนวันนี้ คือการเตรียมผู้นำที่จะส่งมอบโลกที่ดีกว่าให้กับวันพรุ่งนี้

มารอติดตามฟังกันว่า น้องๆ นักศึกษาที่ได้รางวัลเหล่านั้น มีแรงบันดาลใจและได้ประสบการณ์อะไรบ้าง 💭👩‍🎓👨‍🎓

KMUTT - SoA+D School of Architecture and Design

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง

  คนตัวเล็กรวมพลังพลิกวิกฤตขยะ สร้าง “ธุรกิจชุมชน”ศูนย์ MRF บ้านฉาง เพิ่มรายได้บนเส้นทางความยั่งยืนย้อนกลับไปเมื่อวันที่...
26/09/2025


คนตัวเล็กรวมพลังพลิกวิกฤตขยะ สร้าง “ธุรกิจชุมชน”
ศูนย์ MRF บ้านฉาง เพิ่มรายได้บนเส้นทางความยั่งยืน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ระยอง มีพิธีเปิดศูนย์นวัตกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อจัดการและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลครบวงจร หรือ MRF อย่างเป็นทางการ โดยเป็นแห่งแรกของไทยที่ดำเนินการในรูปแบบ Community Enterprise หรือ “ธุรกิจชุมชน” งานนี้มีบุคคลสำคัญระดับจังหวัดมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดระยองมาเป็นประธานในพิธีเปิด
ศูนย์ MRF บ้านฉางแห่งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความหวังของจังหวัดระยองในการแก้ไขปัญหาขยะในชุมชนอย่างยั่งยืน โดยทำหน้าที่เก็บขยะรีไซเคิลจากชุมชนเพื่อคัดแยกประเภทและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลด้วยนวัตกรรมฝีมือคนไทย ได้รับทุนในการก่อตั้งจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) โดยใช้เทคโนโลยีที่คิดค้นโดยนักวิจัยไทยจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
เพราะเป็นกิจกรรมเพื่อชุมชน ดังนั้นคนที่จะเข้ามาทำงานที่ศูนย์นี้จึงเป็นคนในชุมชนด้วยเช่นกัน ปุ๊ - นันท์นภัส โคตรวิชา หนิง - บุณณดา ดิษยาลภัส และ ติ๊ก - ดวงพร บุญค้ำ สามแม่บ้านในชุมชนประชุมมิตร จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
“ตอนแรก ผอ.กองสาธารณสุข มาชวนพวกเราทำเรื่องคัดแยกขยะ แล้วส่งไปอบรมเรื่องการจัดการและการคัดแยกขยะ ที่ศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชนตาลเดี่ยว จังหวัดสระบุรี ทีแรกพวกเราก็มองไม่ออกว่าคืองานอะไร แต่ก็ไปเพราะคิดว่าดูงานก็เหมือนไปเที่ยว” 3 สาวเริ่มบทสนทนา
“สถานที่ที่เราไปดูงานเป็นบ่อขยะของเทศบาลส่งกลิ่นเหม็นมาก จากนั้นก็มีการสอนเรื่องประเภทของขยะพลาสติก พูดถึงขวด PET HDPE Hi-Density ศัพท์แสงยาก ฟังแล้วก็งงไปหมด พอเข้าวันที่สองกับวันที่สาม ก็เป็นภาคปฎิบัติแยกขยะรีไซเคิล กระป๋องอลูมิเนียม กระป๋องสังกะสี สอนให้กรีดฉลาก แยกสีฝา คือรายละเอียดเยอะมาก จำได้หน้าลืมหลัง เราเป็นแค่แม่บ้าน มาเจอแบบนี้เครียดสุด ๆ” นันท์นภัส กล่าว
เพราะไม่ได้เตรียมใจจะต้องมาเจอกับสิ่งยากเช่นนี้ ดังนั้นทุกวันหลังอบรมเสร็จ ก็จะเกิดคำถามว่า “พวกเราจะไปต่อหรือพอแค่นี้” แต่ในที่สุดเมื่ออบรมหลักสูตรครบ 5 วัน ทั้ง 3 คนที่เห็นความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ที่มาสอนจึงตัดสินใจที่จะลองสู้สักครั้ง
ภารกิจแรกของศูนย์ MRF คือต้องลดจำนวนขยะในชุมชน เริ่มจากการประชาสัมพันธ์ไปตามชุมชนให้รู้ว่าอำเภอบ้านฉางของเรามีศูนย์รับซื้อวัสดุรีไซเคิลตั้งขึ้นแล้ว จากนั้นต้องสอนให้ชาวบ้านรู้จักวิธีการคัดแยกขยะเพื่อเพิ่มมูลค่า แล้วนำขยะที่คัดแยกเพื่อนำไปรีไซเคิลต่อไป ดังนั้น 3 สาวจึงเริ่มงานด้วยการตระเวนออกไปตามบ้านในชุมชนเพื่อชักชวนให้นำขยะในครัวเรือนที่สามารถรีไซเคิลได้มาขาย โดยใช้เครือข่ายจิตอาสาตามหมู่บ้านที่พวกเธอเคยทำอยู่
“ช่วงแรกเราไม่รู้อะไรเลย ความรู้ที่ไปอบรมเอามาใช้กับที่นี่ไม่ได้ทุกเรื่อง เราต้องโทรถามพี่ที่ วว.ตลอด เขาก็สอนวิธีรับซื้อ ต้องเช็คราคา แล้วก็สอนเราว่าต้องไปสอนชาวบ้านแยกขยะรีไซเคิลมาตั้งแต่ต้นทาง เราจะได้ไม่ยุ่ง สรุปคือพวกเราก็ต้องทำไปเรียนรู้ไปด้วย”
แต่เวทีนี้ยังมี ”พี่เลี้ยง” ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่คอยซัพพอร์ตให้ภารกิจสำคัญนี้สามารถเดินไปถึงฝั่งให้ได้ โดย วว. มีหน้าที่มาช่วยวางระบบในการคัดแยกขยะ รวมถึงให้คำปรึกษาทุกปัญหา และยังมีทีมงานจากกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) คอยสนับสนุนการบริหารงานและการประชาสัมพันธ์
แต่เดิมคนในชุมชนไม่รู้จักเรื่องการแยกขยะรีไซเคิลมาก่อน ซึ่งปกติจะมี “ซาเล้ง” เข้ามารับซื้อขยะรีไซเคิลตามบ้านโดยให้ราคาไม่สูง แต่ชาวบ้านก็พอใจเพราะไม่อยากเก็บให้รกบ้าน “ชาวบ้านบางคนบอกว่าเก็บกองท่วมบ้านขายให้ซาเล้งได้เงินแค่ 20 บาท พอได้เงินน้อยพวกเขาเลยไม่สนใจ”
พวกเธอคอยสอนให้ชาวบ้านรู้จักแยกขยะตามประเภท โดยใช้ราคาเป็นสิ่งจูงใจ “จากเดิมชาวบ้านเอาขยะรวม ๆ กันมาให้เราเหมือนตอนขายให้ซาเล้ง แต่เราจะให้ความรู้ชาวบ้านว่าเรารับซื้ออะไรบ้าง ให้ราคาเท่าไหร่แล้วเอาไปทำอะไร คือเราสอนชาวบ้านว่าถ้าแยกประเภทมา อันนี้จาก 2 บาท จะได้เป็น 4 บาท อันนี้ได้ 7 บาท ชาวบ้านก็รีบกลับบ้านไปตั้งใจแยกขยะกันใหญ่เลย”
หลังจากที่ตระเวนให้ความรู้เรื่องการแยกขยะรีไซเคิลมาได้ระยะหนึ่งก็ได้รับความสนใจจากชุมชนอย่างมาก ถึงขนาดบางคนนำสมุดปากกามาจดวิธีการแยกขยะรีไซเคิลที่ถูกต้องกันเลย ทุกวันนี้ชุมชนหลาย ๆ แห่งสามารถแยกขยะตามประเภทได้ถูกต้องตั้งแต่ต้นทางก่อนนำมาขายที่ศูนย์ MRF
นอกจากนี้ศูนย์ MRF ยังได้จับมือกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เข้าไปตั้งจุดรับซื้อขยะรีไซเคิลผ่านกิจกรรมที่ตลาดบ้านฉัน@อำเภอบ้านฉาง เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ชักชวนให้คนที่มาเดินซื้อของในตลาดนำขยะรีไซเคิลมาขาย มีโปรโมชั่น มีระบบจัดการสมาชิก พร้อมสะสมแต้มจากยอดขายและแลกเป็นของใช้ได้อีกด้วย
“เรามีจัดโปรโมชั่นด้วยการแถมไข่ไก่ให้กับสมาชิก ทุก 50 บาทที่ขายขยะรีไซเคิลได้ รับไข่ไก่ไป 1 ฟอง โปรนี้ทุกคนชอบมาก นอกจากนี้ก็มีของใช้และของกินให้แลก เช่น มาม่า ปลากระป๋อง น้ำมันพืช”
หลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่งทุกคนที่มาช้อปปิ้งที่ตลาดแห่งนี้จะนำขยะที่แยกแล้วติดมาด้วยเพื่อนำมาขาย ซึ่งเป็นผลดีที่ทำพวกเธอเลยไม่ต้องตระเวนไปรับซื้อตามบ้านอีกแล้ว เพราะมีการพูดปากต่อปากจึงขยายผลออกไปอย่างรวดเร็ว
“ครั้งแรกที่พอรู้ว่าเราต้องทำอาชีพรับซื้อขยะก็รู้สึกอายมาก แต่ทุกวันนี้เราไม่เรียกว่าขยะแล้ว เราเรียกมันว่าวัสดุรีไซเคิล เวลาเราออกไปรับซื้อก็จะมีคนทักทายต้อนรับเรา ชวนกินข้าว ปฏิบัติกับเราเหมือนญาติ ได้มิตรภาพใหม่ ๆ”
เมื่อกิจกรรมนี้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างแท้จริงจึงมีการพูดปากต่อปาก แต่ภารกิจยังไม่หมดตราบใดที่ขยะยังเก็บไม่หมด แผนขั้นต่อไปจึงขยายจากบ้านไปสู่ โรงเรียน วัด และออกไปสู่ชุนชนใกล้เคียง
“กลยุทธ์ที่ใช้ก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อจูงใจให้เขาเอาขยะรีไซเคิลมาให้เรา จากเดิมที่รับขยะตามชุมชนใกล้ ๆ ศูนย์ ตอนนี้ขยายพื้นที่ออกไปไกลขึ้น จากเขตตำบลบ้านฉางของเรา ตอนนี้เราเริ่มข้ามเขตไปเทศบาลนครมาบตาพุดแล้ว อีกกลยุทธ์คือเปิดเฟซบุ๊กชื่อ “ศูนย์ต้นแบบคัดแยกและแปรรูปวัสดุรีไซเคิลบ้านฉาง MRF” และ LINE ชื่อ “MRF บ้านฉาง ระยอง” ทำให้ได้สมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาก”
หลังการรณรงค์ของศูนย์ MRF ไปได้สักระยะหนึ่งผลที่เห็นได้ชัดคือ “ชาวบ้านตั้งใจนำวัสดุรีไซเคิลมาขายให้ศูนย์มากขึ้น เพราะเขาคิดว่าศูนย์นี้มีบริษัท Dow ให้การสนับสนุน จึงเชื่อมั่นว่าขยะรีไซเคิลที่ขายให้กับเราจะได้รับการนำไปรีไซเคิลที่ถูกต้อง ทำให้ทุกคนเริ่มตื่นรู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น เป็นความภาคภูมิใจของเขาด้วย”
ปัจจุบันศูนย์ MRF ดำเนินการก้าวสู่ปีที่ 3 เพื่อเดินหน้าสู่ภารกิจใหม่ “ตอนนี้เราไม่ได้ทำแค่ซื้อมาขายไปแล้ว แต่เรากำลังทำเรื่อง upcycling เพื่อเพิ่มมูลค่าขยะ นอกจากนี้ยังต้องทำหน้าที่เป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับหน่วยงานและชุมชนอื่น ๆ และสุดท้ายศูนย์นี้จะต้องก้าวสู่ Community Enterprise (วิสาหกิจชุมชน) ซึ่งเป็นงานยากขึ้น เพราะเราต้องบริหารจัดการในเชิงธุรกิจเพื่อให้สามารถเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดและยั่งยืน”
งานจากนี้ไปคงยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะใคร ๆ ก็ตั้งความหวังกับศูนย์ MRF ที่จะมาเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการขยะรีไซเคิลในชุมชน เมื่อถามพวกเธอว่าจะสู้ต่อหรือพอแค่นี้
“เมื่อก่อนพวกเราเป็นแม่บ้าน แต่ตอนนี้เราเดินไปที่ไหนก็มีคนรู้จักทักทายเรา มีลูกค้าหลายคนบอกกับเราว่าอย่าเพิ่งหยุดนะ ต้องไปต่อนะ เพราะเขาเห็นว่าศูนย์ฯ เราทำเพื่อสิ่งแวดล้อมจริง ๆ ดูสิว่าคนเหล่านี้ยังอยากให้เราทำอยู่เลย เกิดเป็นพลังบวกให้กับเราสามคนในการสร้างทุก ๆ วันที่ดียิ่งขึ้นต่อไป” นันท์นภัส กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องราวของศูนย์ MRF บ้านฉาง จึงไม่ใช่เพียงโมเดลจัดการขยะรีไซเคิล แต่คือพลังของคนเล็ก ๆ ที่ลุกขึ้นสู้กับกองขยะมหาศาล จนสามารถเปลี่ยนสิ่งไร้ค่าให้กลายเป็นโอกาส สร้างทั้งรายได้ ความภาคภูมิใจ และอนาคตที่ยั่งยืนให้กับชุมชนและโลกใบนี้

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง

  📣แจ้งประชาสัมพันธ์ ย้ายที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยองแห่งใหม่ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป NEW OFFICE RAYONG I...
26/09/2025



📣แจ้งประชาสัมพันธ์

ย้ายที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยองแห่งใหม่ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

NEW OFFICE RAYONG IMMIGRATION
Starts service on October 1, 2025.

📮ที่ตั้งสถานที่ทำการ(แห่งใหม่)
ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยอง
28 ถนนไอ-หนึ่ง ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จว.ระยอง 21150
Rayong Immigration
28 I-One rd. Tambon Map Ta Phut, Ampher Muang, Rayong 21150

📍Location สถานที่ทำการแห่งใหม่:
https://maps.google.com/maps?q=12.724098,101.140226

ส่วนที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยอง(แห่งเดิม)
—เปิดให้บริการเฉพาะกลุ่มแรงงานคนต่างด้าว 4 สัญชาติ (เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม) 🇲🇲🇱🇦🇰🇭🇻🇳
—งานสืบสวน แจ้งเบาะแส และการผลักดันส่งกลับ

📱ติดต่อสอบถาม
(+66)38-684 544
Lind ID:
www.rayongimmigration.go.th

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง

  ผู้ว่าฯระยอง เป็นประธานลงนาม MOU บันทึกความเข้าใจระหว่าง อบจ.ระยอง และ อปท. 3 แห่ง ในการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณชายหาด...
25/09/2025



ผู้ว่าฯระยอง เป็นประธานลงนาม MOU บันทึกความเข้าใจระหว่าง อบจ.ระยอง และ อปท. 3 แห่ง ในการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณชายหาดแม่รำพึงกับอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มุ่งหนุนการท่องเที่ยวสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการและประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

(25 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุม อบจ.ระยอง ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานในการลงนาม MOU บันทึกความเข้าใจการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณชายหาดแม่รำพึง ระหว่าง อบจ.ระยอง และอบต.ตะพง อบต.เพ เทศบาลตำบลบ้านเพ กับอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยอง และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง ร่วมกันรวม 7 หน่วยงาน มีนายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง และนายพิทยา สะศรีสังข์ หัวหน้าอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด ร่วมลงนาม ท่ามกลางสักขีพยานส่วนราชการ และผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่พัก โรงแรมริมชายหาดแม่รำพึงจำนวนมาก

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการลงนามดังกว่า เพื่อกำหนดกรอบแนวทางในการแบ่งหน้าที่งานที่รับผิดชอบในบริเวณชายหาดแม่รำพึง ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด ให้สอดคล้องกับหน่วยงานแต่ละหน่วยงาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสนับสนุนการประกอบกิจการของประชาชนในพื้นที่ให้เกิดรายเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับนัท่องเที่ยว โดยการลงนามดังกล่าว จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการจัดพื้นที่บริเวณชายหาดแม่รำพึง และเป็นแบบอย่างให้กับพื้นที่อุทยานฯ อื่นๆ ต่อไป

นายภาสกร เปิดเผยว่า บริเวณหาดแม่รำพึงมีความเจริญอยู่ช่วงหนึ่ง ต่อมาเกิดซบเซาด้วยลักษณะที่ อปท.ไม่สามารถเข้าไปพัฒนาบริหารจัดการได้ ซึ่งอยากให้เรื่องของพื้นที่อุทยานฯ และเรื่องการท่องเที่ยว เป็นเรื่องเดียวกันที่จะต้องทำงานประสานสอดคล้องกัน เพื่อให้ชัดเจนในเรื่องของการเข้าไปพัฒนาในส่วที่ทำได้หรือไม่ได้ เช่น การบริหารจัดการขยะ การตัดแต่งกิ่งไม้ การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญโดยเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ที่ดำเนินการอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งทาง อปท. จะมีการเสริมเข้าไปในส่วนที่ทำได้ตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ ซึ่งการลงนามครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นยืนยันที่ชัดเจนในส่วนของพื้นที่อุทยานฯ กับท้องถิ่น โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวจะร่วมกันทำงานเดินด้วยกัน.

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง

  BLCP คว้ารางวัล "องค์กรสิทธิมนุษยชนต้นแบบ 2568" ตอกย้ำแนวคิด ESG( 25 ก.ย. 68) บีแอลซีพี (BLCP) ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตไฟฟ้า แ...
25/09/2025



BLCP คว้ารางวัล "องค์กรสิทธิมนุษยชนต้นแบบ 2568" ตอกย้ำแนวคิด ESG

( 25 ก.ย. 68) บีแอลซีพี (BLCP) ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตไฟฟ้า แต่คือผู้สร้างความมั่นคงทางพลังงานควบคู่กับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน บริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) ได้รับการยกย่องจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ให้เป็น “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2568 ระดับ ดีเด่น” รางวัลนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องหมายแห่งเกียรติยศ แต่คือบทพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) ที่มี "สิทธิมนุษยชน" เป็นหัวใจ สามารถสร้างการเติบโตที่มั่นคงและส่งมอบคุณค่ากลับคืนสู่สังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม

พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ โดยมี พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้มอบโล่เกียรติคุณแก่ คุณอดิศร วังมูล ผู้อำนวยการสายงานบริหารและองค์กรสัมพันธ์ โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ผู้แทนเข้ารับรางวัล ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชัน กรุงเทพฯ รางวัลนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นขององค์กรที่บูรณาการหลักสิทธิมนุษยชนเข้ากับการบริหารจัดการในทุกมิติ

คุณอดิศร กล่าวว่า "รางวัลนี้เป็นภาพสะท้อนความเชื่อของเราที่ว่า ธุรกิจจะยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเติบโตไปพร้อมกัน ที่ BLCP เราไม่ได้มองสิทธิมนุษยชนเป็นเพียงนโยบายบนหน้ากระดาษ แต่คือ DNA ในการทำงาน ตั้งแต่การดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียม ไปจนถึงการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่ชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ความสำเร็จของเราไม่ได้วัดกันที่เมกะวัตต์ไฟฟ้าที่ผลิตได้เท่านั้น แต่วัดจากคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คนและสิ่งแวดล้อมด้วย"
นอกจากนี้ ภายในงานมอบรางวัล BLCP ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลปากน้ำ จังหวัดระยอง ได้นำเสนอบูธโครงการ SEACRAFTY ซึ่งเป็นมากกว่าโครงการรักษ์โลก แต่คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของการนำหลักสิทธิมนุษยชนมาแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม
โครงการ SEACRAFTY โดยวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลปากน้ำ จังหวัดระยอง ได้รับการสนับสนุนจากโรงไฟฟ้า BLCP คือการเปลี่ยนเศษอวนประมงที่ไร้ค่าในทะเลให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า เช่น กระเป๋าและของใช้ต่างๆ โครงการนี้ตอบโจทย์ด้านสิทธิมนุษยชน
ไม่ว่าจะเป็น สิทธิในการมีมาตรฐานการครองชีพที่ดี (Right to an Adequate Standard of Living) โครงการได้สร้างอาชีพและกระจายรายได้ให้แก่คนในชุมชนท้องถิ่นโดยตรง ช่วยให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน หรือ สิทธิในการอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี (Right to a Healthy Environment) การเก็บขยะทะเลมาแปรรูปไม่เพียงช่วยลดปัญหามลพิษ แต่ยังเป็นการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนชายฝั่ง และ การส่งเสริมความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งโครงการเปิดโอกาสให้ทุกคนในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางได้เข้ามามีส่วนร่วม เป็นการใช้ศักยภาพของท้องถิ่นเพื่อแก้ปัญหาของท้องถิ่นอย่างแท้จริง
รางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชนในปีนี้ จึงไม่ใช่แค่การยอมรับในความสำเร็จของ BLCP แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า ภาคธุรกิจสามารถเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมที่เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน สร้างการเติบโตที่มั่นคง และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังได้อย่างแท้จริง

บีแอลซีพี มุ่งมั่นพัฒนาพลังงานที่มั่นคง เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน.

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง #ธุรกิจ

  🚢🚢🚢 ลิ้นติดโปรแฟร์ มาระยองแล้วจ้า พบกับขุมทรัพย์ความอร่อยอีกกว่า 60 ร้านค้า ที่ตั้งใจคัดสรรมาให้ชาวระยองได้ลิ้มลองกันท...
24/09/2025



🚢🚢🚢 ลิ้นติดโปรแฟร์ มาระยองแล้วจ้า พบกับขุมทรัพย์ความอร่อยอีกกว่า 60 ร้านค้า ที่ตั้งใจคัดสรรมาให้ชาวระยองได้ลิ้มลองกันที่ลานกิจกรรม ชั้น 1 เซ็นทรัลระยอง 📍
🐖🍄‍🟫🦆🐥


✨️ทุเรียนทอด by ธงธง Shop
🥤🍉สมูทตี้ดีใจ by ผัดไท ดีใจ
🐂 ร้านหม้อแม่จูน มาหาชาวระยองถึงที่
🚨น้ำพริกคนตื่นธรรม by อาจารย์เบียร์
✅กุยช่าย มหานคร
✅เอกอร่อยพริกแกงใต้😋รสชาติใต้แท้ by เอกชัย

แล้วพบกันที่ลานกิจกรรม ชั้น 1 เซ็นทรัลระยอง 📍
วันที่ 24-30 กันยายนนี้ 🐖🍄‍🟫🦆🐥

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง #ธุรกิจ

  อีสท์ วอเตอร์ (EASTW) รับรางวัล "CSR Award 2025" เชิดชูองค์กร CSR ดีเด่น สร้างพลังขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความยั่งยืนบริษ...
24/09/2025



อีสท์ วอเตอร์ (EASTW) รับรางวัล "CSR Award 2025" เชิดชูองค์กร CSR ดีเด่น สร้างพลังขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ความยั่งยืน

บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ (EASTW) โดย นายวาทิต ประสมทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์ผู้มีส่วนได้เสีย เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ องค์กรที่มีผลงานการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจดีเด่น ระดับจังหวัด (พื้นที่ฉะเชิงเทรา) ในโครงการส่งเสริมและเชิดชูเกียรติรางวัลส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจ ประจำปี 2568 (CSR Award 2025) จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ (ก.ส.ค.) โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ณ ห้องปรินซ์บอลรูม โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพมหานคร

การได้รับรางวัลในครั้งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นของอีสท์ วอเตอร์ (EASTW) ที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) อย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่การสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำครบวงจรของประเทศ แต่ยังมุ่งสร้างประโยชน์แก่ชุมชน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนด้านการศึกษา เช่น กิจกรรมนวัตกรรมเพื่อชุมชน ส่งเสริมผลงานสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมของวิทยาลัยเทคนิค ต้นแบบเครื่องกลเติมอากาศแบบดูดน้ำและอากาศ, ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงอีสท์ วอเตอร์ อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ในปี 2567 ได้รับรางวัลชนะเลิศศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต้นแบบ ระดับจังหวัด, จัดทำโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับคนพิการให้สารมารถพึ่งพาต้นเองได้อย่างยั่งยืน และโครงการโรงเรียนต้นแบบระบบบำบัดน้ำเสียในโรงอาหาร ที่สามารถบูรณาการการบำบัดน้ำเสียร่วมกับชุมชน ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต จัดทำโครงการน้ำดื่มสะอาดในรูปแบบรถบริการเคลื่อนที่ น้ำบรรจุถ้วย น้ำบรรจุขวด รวมทั้งมีจุด จ่ายน้ำสำหรับอุปโภคในชุมชน (ท่อธาร) ให้บริการในจุดต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหากมีสถานการณ์ภัยแล้ง, จัดกิจกรรมอบรมอาชีพ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ตามชุมชนต่างๆ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 1,500 คนในแต่ละปี เป็นต้น โดย อีสท์ วอเตอร์ (EASTW) ยังคงมุ่งมั่นสร้างสังคมที่มั่นคงและยั่งยืน ครอบคลุมมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม เพื่อสะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคม และอยู่เคียงข้างชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

#ถึงคิวเที่ยว #ระยอง #ทททสำนักงานระยอง #ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง #ประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง #ข่าวระยอง #สื่อมวลชนระยอง #ผู้สื่อข่าวระยอง

ที่อยู่

Mueang Rayong District
21000

เบอร์โทรศัพท์

+66625893888

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Atrayongmagผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Atrayongmag:

แชร์

ATRAYONGMAG

ทุกมุมมองของระยอง อยู่ในมือคุณ