watchmekorat.com

08/07/2025

#ชวนมารู้จักยาอิมครานิบ100
"อิมครานิบ 100": ยามะเร็งผลิตในไทย ก้าวสำคัญวงการแพทย์
อิมครานิบ 100 (IMCRANIB 100) คือ ยาอิมาทินิบ 100 มิลลิกรัม ซึ่งจัดเป็น ยามุ่งเป้า (Tyrosine Kinase Inhibitor - TKI) ที่ผลิตได้เองในประเทศไทย
ยาทำงานอย่างไร?
ยาจะ "บล็อก" เอนไซม์ไทโรซีน ไคเนส ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งแบ่งตัว เมื่อถูกบล็อก เซลล์มะเร็งจะหยุดเติบโตและควบคุมได้ดีขึ้น การออกฤทธิ์ที่จำเพาะเจาะจงนี้ช่วยลดผลข้างเคียง เมื่อเทียบกับเคมีบำบัด
ใช้รักษาโรคใดบ้าง?
ยาอิมครานิบ 100 ใช้รักษา:
* มะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง (CML)
* มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดฟิลาเดลเฟียบวก (Ph+ ALL)
* เนื้องอกสโตรมาทางเดินอาหาร (GIST)
* มะเร็งผิวหนังชนิด Dermatofibrosarcoma Protuberans (DFSP)
ทำไมการผลิตยาอิมครานิบ 100 ในเมืองไทย จึงสำคัญขนาดนี้?
ก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยมะเร็งในไทยต้องพึ่งยาอิมาทินิบที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาสูงมากจนเป็นภาระใหญ่สำหรับผู้ป่วยและครอบครัว ทางเลือกอื่นคือเคมีบำบัดที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าและมีผลข้างเคียงรุนแรง
การที่ประเทศไทยสามารถผลิตยาอิมครานิบ 100 ได้เองนั้น ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่ส่งผลดีหลายด้าน:
* ลดภาระค่าใช้จ่ายมหาศาล: ยาที่ผลิตในประเทศมีราคาถูกลง ทำให้ผู้ป่วยสามารถเบิกจ่ายได้ครบทุกข้อบ่งใช้จากกองทุนหลักประกันสุขภาพ ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้อย่างมาก
* เพิ่มการเข้าถึงยาและโอกาสรอดชีวิต: เมื่อยามีราคาถูกลงและหาได้ง่ายขึ้น ผู้ป่วยจะได้รับยาทันเวลา ทำให้สามารถควบคุมโรคได้ดีขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต
* สร้างความมั่นคงทางยาของประเทศ: ไทยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้ายามะเร็งที่จำเป็นจากต่างประเทศ ทำให้มีความมั่นคงทางยามากขึ้นและไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแคลนยา
* ยกระดับงานวิจัยและพัฒนาภายในประเทศ: การผลิตยาอิมครานิบ 100 เป็นการวางรากฐานและสร้างองค์ความรู้สำคัญ ซึ่งจะเป็นรากฐานในการวิจัยและพัฒนายามุ่งเป้าชนิดอื่น ๆ ในอนาคต ส่งเสริมขีดความสามารถด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ของไทย
การใช้ยาและการดูแล
* วิธีใช้: รับประทานพร้อมอาหารและน้ำเต็มแก้ว (ตัวอย่างเช่น สำหรับ GIST อาจรับประทาน 400 มก.ต่อวัน)
* การติดตามผล: ต้องมีการตรวจ CBC, ตรวจการทำงานของตับ/ไต เป็นระยะ และประเมินก้อนมะเร็งด้วย CT/MRI ทุก 12 สัปดาห์ เพื่อติดตามประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ผลข้างเคียงทั่วไป: บวมน้ำ, คลื่นไส้, ปวดกล้ามเนื้อ/ข้อ, ผื่น, เหนื่อย, ปวดหัว, เสี่ยงติดเชื้อ
ผลข้างเคียงรุนแรง (ควรรีบพบแพทย์): เจ็บท้องส่วนบน/ตัวเหลือง (บ่งบอกปัญหาตับ), บวมเท้า/ปัสสาวะลด (บ่งบอกปัญหาไต), หายใจลำบาก/น้ำหนักขึ้นเร็ว (บ่งบอกปัญหาหัวใจ), และภาวะเม็ดเลือดต่ำ
ข้อห้าม: ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
บทบาทของ "นักเทคนิคการแพทย์"
นักเทคนิคการแพทย์มีบทบาทสำคัญในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับยาอิมครานิบ 100 ตลอดการรักษา:
* ก่อนเริ่มยา: ตรวจ CBC และตรวจตับ-ไต
* ระหว่างรักษา: ทำ TDM (วัดระดับยาในเลือด) และติดตาม CBC รวมถึงตับ-ไตอย่างต่อเนื่อง
* ประเมินการตอบสนอง: ตรวจหา BCR-ABL หรือการกลายพันธุ์ที่ดื้อยา
* ธนาคารเลือด: เตรียมเลือดสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
* ประสานงาน: ส่งผลแล็บให้ทีมแพทย์และร่วมประชุมวางแผนการรักษา
สรุป
อิมครานิบ 100 คือความสำเร็จครั้งใหญ่ของวงการแพทย์ไทย ที่ไม่เพียงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสรอดชีวิต แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับการวิจัยและผลิตยามะเร็งคุณภาพสูงได้ด้วยฝีมือคนไทยเอง

20/06/2025

มทส. ติดอันดับ 9 ร่วม ของประเทศไทย
จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก โดย QS World University Rankings 2026

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ติดอันดับ 9 ร่วม มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย และอยู่ในกลุ่มอันดับ 1201-1400 ของโลก จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก “QS World University Rankings 2026” โดยเป็นอันดับที่ 3 ในกลุ่มมหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีของไทย และได้คะแนนของตัวชี้วัด Citations per faculty อยู่ในอันดับ 2 ของประเทศ

สำหรับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับในปี ค.ศ. 2026 มีทั้งสิ้น 15 แห่ง มหาวิทยาลัยที่ครอง 3 อันดับแรก ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตามลำดับ โดย มทส. อยู่ในอันดับที่ 9 ร่วมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งอยู่ในกลุ่มอันดับที่ 1201-1400 ของโลกเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ หากพิจารณาในกลุ่มมหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยี มทส. จัดอยู่ในอันดับที่ 3 ของประเทศไทย

20/06/2025

#คนรุ่นใหม่ เล็ง! โคราช เป็นจุดหมาย เลือกปักหมุดอยู่อาศัย-ทำงาน
นครราชสีมา หรือ โคราช กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในการการอยู่อาศัยสำหรับคนรุ่นใหม่ ด้วยความเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของภาคอีสาน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ยังคงมีเสน่ห์เรื่องค่าครองชีพที่ไม่สูงเกินไป จึงทำให้โคราชน่าอยู่ด้วยหลายเหตุผล แบ่งเป็น
1.เนื่องจากโคราชตั้งอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าเป็นประตูสู่ภาคอีสาน ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 259 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือรถไฟระหว่างเมืองเพียง 4 ชั่วโมง ถนนมิตรภาพเชื่อมต่อโคราชกับกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ ยังมีรถไฟทางคู่และโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางในอนาคต ทำให้สามารถอาศัยอยู่ในโคราชและเดินทางไปทำงานหรือท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายและค่าครองชีพที่สูงในเมืองหลวง
2.โคราชเป็นเมืองที่มีความสมดุลระหว่างความเป็นเมืองและค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล ราคาอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคต่ำกว่ากรุงเทพฯ ประมาณ 20-30% ขณะที่ค่าเช่าที่อยู่อาศัยถูกกว่าถึง 50% แต่สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โรงพยาบาลมาตรฐานสูง สถาบันการศึกษาชั้นนำ รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ ทำให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพโดยไม่ต้องใช้จ่ายสูงเกินไป ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังเริ่มต้นชีวิตการทำงาน
3.โคราชเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีนิคมอุตสาหกรรมและบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งตั้งอยู่ ทำให้มีตำแหน่งงานที่หลากหลายรองรับผู้จบการศึกษาใหม่และผู้มีประสบการณ์ นอกจากนี้ การเติบโตของเมืองยังสร้างโอกาสในการลงทุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในโคราชยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ในระดับที่เข้าถึงได้ เมื่อเทียบกับเมืองหลักอื่น ๆ ทำให้การซื้อคอนโดโคราชเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับอนาคต
4.โคราชมีข้อได้เปรียบ จากการเป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสวยงาม ทั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เขื่อนลำตะคอง และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทำให้สามารถใช้ชีวิตในเมืองที่มีความสะดวกสบาย และยังเข้าถึงธรรมชาติได้ง่ายในวันหยุด คุณภาพอากาศดีกว่าเมืองหลวง มลภาวะน้อยกว่า และการจราจรที่ไม่หนาแน่นเกินไป ทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมดีขึ้น
5.ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โคราชเริ่มเห็นการขยายตัวของชุมชนคนรุ่นใหม่มากขึ้น มีร้านอาหาร คาเฟ่ และสถานบันเทิงสไตล์ทันสมัยเปิดให้บริการหลายแห่ง รวมถึงพื้นที่สร้างสรรค์และศิลปะที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้มาอยู่อาศัย ทั้งเทศกาลดนตรีและงานศิลปะ สร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาให้กับเมือง คอนโดโคราชหลายโครงการได้ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ เช่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ และพื้นที่ทำงานร่วม
ทั้งนี้ หากจะให้สรุปง่ายๆ นั้น โคราชน่าอยู่ด้วยทำเลที่เดินทางสะดวก ค่าครองชีพที่สบายกระเป๋า โอกาสการเติบโตทางอาชีพ ความใกล้ชิดธรรมชาติ และการขยายตัวของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้คอนโดโคราชเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมืองนี้จึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ แต่ยังคงความสะดวกสบายและโอกาสในการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยหรือการลงทุนในอนาคต

------------------------------------------------
เครดิต : PPTV

18/06/2025

#ถูกมาก เฮลั่น! AIS #เปิดราคาแพกเกจ #ศึกพรีเมียร์ลีก เพียง 199 บาท/เดือน และ 1,999 บาท/ปี ยิงสดครบทุกแมตช์ ตลอดฤดูกาล สมัครได้แล้ววันนี้
สิ้นสุดการรอคอย! AIS เปิดศักราชใหม่ศึกพรีเมียร์ลีก ส่งโปรแรงสะท้านแข้ง แพ็กเกจ “PLAY MONOMAX Standard” ช่วง Early Bird ในราคาที่คุ้มที่สุดเท่าที่เคยมีมา ประกอบด้วย แพ็กเกจรายเดือน ราคา 199 บาท (จากปกติ 299 บาท) สมัครกด *899 โทรออก, แพ็กเกจรายปี ราคา 1,999 บาท (จากปกติ 2,999 บาท) สมัครกด *899*1 โทรออก ระยะเวลาโปรโมชั่น ตั้งแต่วันนี้ – 9 สิงหาคม 2568 สำหรับลูกค้า AIS ทั้งมือถือระบบรายเดือนและเติมเงิน รวมถึงลูกค้าเน็ตบ้าน AIS 3BB FIBRE3 ทั้งลูกค้าปัจจุบัน/ลูกค้าใหม่/ลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิม
โดยลูกค้าแฟนบอลจะได้รับชมถ่ายทอดสดครบทั้งฤดูกาลที่ AIS PLAY ทั้งพรีเมียร์ลีกครบ 380 แมตช์ และเอฟเอ คัพ 63 แมตช์ ชมสดมากถึง 11 ช่อง ภาพคมชัดระดับ Full HD พร้อมทีมพากย์มืออาชีพระดับแถวหน้าของเมืองไทย อาทิ บิ๊กจ๊ะ, คุณฉุย, แมวเพชร, ตูเต้, ต้องซุย พร้อมรีรันและไฮไลต์ ไม่พลาดทุกความมันส์ ภายใต้ความร่วมมือกับ JAS ผู้คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเอฟเอคัพ อังกฤษ ในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
พร้อมรับสิทธิ์ชมคอนเทนต์ ทั้งหนัง ซีรีส์ดัง รายการวาไรตี้ รวมถึง รับชมการถ่ายทอดสด FIFA Club World Cup 2025 จำนวน 51 แมตซ์ เริ่มประเดิมวันที่ 18 มิถุนายน นี้ เวลา 23.00 น. ทันที!!!, SUMMER SERIES และ The FA Community Shield ที่จะแข่งขันก่อนพรีเมียร์ลีกเปิดฤดูกาล
สำหรับลูกค้าที่สมัครด้วยเบอร์มือถือ รับชมผ่าน แอป AIS PLAY, Android TV และ Smart TV โดยรับชมพร้อมกันได้ 1 อุปกรณ์ ส่วนลูกค้าที่สมัครด้วยเบอร์เน็ตบ้าน รับชมผ่าน แอป AIS PLAY, กล่อง AIS PLAYBOX, Android TV และ Smart TV โดยรับชมพร้อมกันได้ 1 อุปกรณ์
#รายละเอียดสมัคร 👉 ในคอมเมนต์

18/06/2025

15/06/2025

ฟังธรรม สไตล์ PODCAST เข้าใจง่าย ๆ สรุปและเน้นจุดสำคัญของบทความ ให้เข้าใจง่าย ๆ ฟังเป็นสุข จิตสงบ จากทีมงาน Watch Me Kor...

11/06/2025

แบบทางรถไฟความเร็วสูงและทางคู่ในอนาคต ของพี่น้องชาวนครราชสีมา จะเป็นทางยกระดับทั้งสองสาย ข้ามสะพานสีมาธานี

รถไฟทางคู่ทางไกล ข้ามสะพานสีมาธานีสูง 5.5 ม.
รถไฟความเร็วสูง ข้ามสะพานสีมาธานีสูง 11 ม.

08/06/2025

สหรัฐฯ🇺🇸 ลงทุนอีสาน 3.4 พันล้าน โดยเฉพาะภาคการผลิต🤖โดย โคราช, สุรินทร์, ขอนแก่น, อุดรฯ, อุบลฯ มีการลงทุนติด Top5 ของอีสาน
พามาเบิ่ง🇺🇸สหรัฐฯ ทุ่มทุนกว่า 3.4 พันล้านบาท กระจายอยู่จังหวัดไหนบ้าง⁉️💰
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่ากว่า 97% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมดจากสหรัฐฯ🇺🇸มุ่งไปที่ "ภาคการผลิต" 🏭 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "การผลิตอุปกรณ์สื่อสารข้อมูล" ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการย้ายฐานการผลิต หรือการขยายกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม (ICT) มายังประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอีสานที่มีศักยภาพด้านแรงงานและต้นทุนที่แข่งขันได้ การลงทุนที่เหลืออีก 2% อยู่ในภาคบริการ (การให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ) และ 1% ในภาคการค้า (การขายส่งข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการโรงสีข้าว) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการลงทุนจากสหรัฐฯ ครั้งนี้มีเป้าหมายหลักที่การสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคอุตสาหกรรม มากกว่าการค้าและบริการทั่วไป
แชมป์ผู้รับการลงทุน นครราชสีมากับบทบาทประตูสู่อีสาน การที่ จังหวัดนครราชสีมา กวาดเม็ดเงินลงทุนไปสูงถึง 2,890 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากพิจารณาจากศักยภาพและบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของจังหวัด นครราชสีมาเป็นเสมือน "ประตูสู่ภาคอีสาน" ที่มีโครงสร้างพื้นฐานครบครัน ทั้งด้านคมนาคมขนส่ง (ถนนสายหลัก, รถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ที่กำลังพัฒนา) การเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีการลงทุนจากต่างชาติอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตร ความพร้อมของแรงงานที่มีทักษะในระดับหนึ่ง รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมและเขตส่งเสริมการลงทุนที่รองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้โคราชมีความได้เปรียบในการดึงดูดการลงทุนในภาคการผลิตอุปกรณ์สื่อสารข้อมูล ซึ่งต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่เอื้ออำนวย
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : https://isaninsight.kku.ac.th/nod2 🥰💙💛
#ธุรกิจอีสาน #เศรษฐกิจอีสาน #ทุนอเมริกา #ทุนสหรัฐ #นักลงทุนอเมริกัน #สหรัฐ #การลงทุนของสหรัฐ

06/06/2025

🇹🇭🇰🇭 เทียบกำลังรบ ไทย - กัมพูชา

ใครได้เปรียบในสนามรบ? และใครกำลังวางหมากในกระดานเจรจา?

ในช่วงที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชากลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง คำถามสำคัญที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยตั้งขึ้นคือ “ไทยควรกังวลหรือไม่?” แม้ดูจากกำลังรบ กัมพูชาอาจยังเทียบไทยไม่ได้ แต่ในเชิงยุทธศาสตร์แล้ว สิ่งที่ไทยควรจับตามองอาจไม่ใช่แค่จำนวนรถถังหรือเครื่องบิน

---

📊 ศักยภาพทางทหาร (ตัวเลขเปรียบเทียบล่าสุด)

🇹🇭 ไทย

กำลังพล: 606,850 นาย

เครื่องบินรบ: 493 ลำ

เฮลิคอปเตอร์: 265 ลำ

รถถัง: 17,596 คัน

ปืนใหญ่: 639 กระบอก

เรือรบ: 68 ลำ

🇰🇭 กัมพูชา

กำลังพล: 231,000 นาย

เครื่องบินรบ: 25 ลำ

เฮลิคอปเตอร์: 7 ลำ

รถถัง: 4,734 คัน

ปืนใหญ่: 460 กระบอก

เรือรบ: 20 ลำ

⚖️ วิเคราะห์สถานการณ์: เหนือกว่าในสนามรบ แต่ประมาทบนโต๊ะไม่ได้

จากข้อมูลตัวเลขอย่างเป็นทางการ ไทยมีศักยภาพทางการทหารเหนือกว่ากัมพูชาอย่างชัดเจน ทั้งด้านจำนวนกำลังพล อาวุธ และระบบขนส่งทางอากาศและทะเล จึงสามารถกล่าวได้ว่า “ในสนามรบ ไทยยังคงได้เปรียบ”

อย่างไรก็ตาม หากมองลึกลงไปกว่านั้น สิ่งที่น่ากังวลกว่าคือ “เกมทางยุทธศาสตร์นอกสนามรบ” ที่กัมพูชาอาจกำลังใช้วิธีการสร้างภาพผู้เสียเปรียบ เพื่อดึงองค์กรระหว่างประเทศเข้ามามีบทบาทในการ “ชี้ขาด” หรือ “วินิจฉัยข้อพิพาท” แทนการเจรจาโดยตรงระหว่างประเทศ

---

🧠 เกมยุทธศาสตร์: ชนะโดยไม่ต้องรบ?

กัมพูชามีประสบการณ์ในอดีตในการยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เช่นกรณี “เขาพระวิหาร” ที่ในที่สุดทำให้ไทยต้องเผชิญแรงกดดันจากคำตัดสินขององค์กรกลาง แม้จะมีข้อโต้แย้งทางประวัติศาสตร์หรือความรู้สึกของประชาชนก็ตาม

ในวันนี้ นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า กัมพูชากำลังวางยุทธศาสตร์ลักษณะเดียวกัน คือ

สร้างประเด็นที่สื่อสารให้ตนดูเสียเปรียบ

เก็บหลักฐานหรือพยานทางการเมือง-ประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง

ใช้กระบวนการทางกฎหมายระหว่างประเทศเป็น “เครื่องมือ” เพื่อเรียกร้องอธิปไตยหรือพื้นที่

นี่จึงไม่ใช่เพียงการเผชิญหน้าเชิงกายภาพ แต่เป็น “กระดานเจรจาที่ซับซ้อน” ซึ่งอาวุธที่สำคัญคือข้อมูล ภาพลักษณ์ และการเคลื่อนไหวทางการทูต

---

🔍 บทสรุป

แม้ไทยจะไม่จำเป็นต้องวิตกในเรื่อง “การเผชิญหน้าโดยตรง” เพราะกำลังรบเหนือกว่าทุกด้าน แต่สิ่งที่ควรระวังคือ “ยุทธศาสตร์ที่ไม่ใช้กำลัง” โดยเฉพาะความพยายามของกัมพูชาในการผลักดันข้อพิพาทเข้าสู่เวทีระหว่างประเทศ เพื่อเปลี่ยนข้อเสียเปรียบในสนามรบให้กลายเป็นชัยชนะบนโต๊ะเจรจา

การตอบสนองของไทยจึงไม่ควรจำกัดอยู่ที่การแสดงแสนยานุภาพ แต่ต้องเน้นการจัดการข้อมูล สร้างความเข้าใจในเวทีโลก และดำเนินนโยบายต่างประเทศอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติในทุกมิติ

04/06/2025