Korat Daily เริ่มต้นจาก นสพ.โคราชรายวัน สู่ "โคราชคนอีสาน" ยืนหยัด 50 ปี มีทั้ง www.koratdaily.com และเพจ Koratdaily

07/08/2025

😁ฮุนมาเนตเสนอชื่อทรัมป์รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ👇

📌สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ที่โคราช🚄 สถานีรถไฟนครราชสีมา (แห่งใหม่) จะเป็นทั้งสถานีรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ ...
07/08/2025

📌สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ที่โคราช

🚄 สถานีรถไฟนครราชสีมา (แห่งใหม่) จะเป็นทั้งสถานีรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ ขนาดใหญ่ ทันสมัยที่สุดในภาคอีสาน

🚇สถานีนี้จะมีทั้งหมด 3 ชั้น ได้แก่
✨️ชั้นที่ 1 ทางเข้าและที่พักคอย
✨️ชั้นที่ 2 จำหน่ายตั๋วและชานชาลารถไฟทางคู่
✨️ชั้นที่ 3 เป็นชานชาลารถไฟความเร็วสูง โดยในส่วนของสถานีฯ อยู่ในสัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา มีความคืบหน้าโดยรวมแล้ว 13.35% และคาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2572

#รถไฟความเร็วสูง #รถไฟทางคู่
#โคราชคนอีสาน #โคราชรายวัน

07/08/2025

โคราชเกิดเหตุในโรงเรียนอีกแล้ว
นร.หญิงมัธยมดังตกตึก โชคดีแค่บาดเจ็บ

เจ็ท ฟิตเนส โคราช ขึ้นรูปธงชาติไทย บนลู่วิ่ง ออกกำลังกาย สุดๆ ไปเลย สาขาอื่นเป็นกันมั้ย
07/08/2025

เจ็ท ฟิตเนส โคราช ขึ้นรูปธงชาติไทย บนลู่วิ่ง ออกกำลังกาย สุดๆ ไปเลย สาขาอื่นเป็นกันมั้ย

07/08/2025

มีชื่อเจ้าสัวโคราชครอบครองที่ดินเขากระโดง 62-3-0ไร่ ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว เป็นเจ้าของกิจการขนส่งสินค้า โรงแรมร้าง เป็นคนเดียวกันกับที่ซื้อที่ดินโรงแรมถล่ม

📌การรถไฟฯ รื้ออาคารพาณิชย์ห้าแยกนิ๊งหน่องโคราช เตรียมพื้นที่สร้างย่านสถานีรถไฟความเร็วสูง: ข่าวในคอมเมนต์     #รถไฟความเ...
07/08/2025

📌การรถไฟฯ รื้ออาคารพาณิชย์
ห้าแยกนิ๊งหน่องโคราช
เตรียมพื้นที่สร้างย่านสถานีรถไฟความเร็วสูง

: ข่าวในคอมเมนต์

#รถไฟความเร็วสูงโคราช #หัวรถไฟ
#โคราชคนอีสาน #โคราชรายวัน

 #กัมพูชาต้องหยุดยิงจริงๆ📌เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ เสร็จสิ้นไปแล้ว สำหรับการประชุมคณะกรร...
07/08/2025

#กัมพูชาต้องหยุดยิงจริงๆ

📌เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

เสร็จสิ้นไปแล้ว สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพร้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน

โดยมี สาระสำคัญ ดังนี้
1. ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี
2. รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย
3. ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา
4. ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน
เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน
5. ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี
6. การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ
7. กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์
8. เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้
8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่
8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์นับจากการประชุม GBC ใน 7 ส.ค. 68
8.3 ดำรงช่องทางการติดต่อสื่อสารโดยตรงระดับรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสองประเทศ
9. งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข่าวปลอม

ส่วนที่ 2 กลไกตรวจสอบการหยุดยิง
10. ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการตามผลหารือเมื่อ 28 ก.ค. 68 ซึ่งรวมถึงการหยุดยิงและการมีคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียน นำโดยมาเลเซีย
11. เห็นชอบให้ RBC ในแต่ละพื้นที่ ดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง โดยมีโดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ซึ่งนำโดยมาเลเซียเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ โดย RBC จะพบกันเป็นประจำ และส่งรายงานให้ GBC ตามสายการบังคับบัญชาของแต่ละฝ่าย
12. ในระหว่างการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนที่มีมาเลเซีย เป็นผู้นำ จะใช้กลไกคณะผู้สังเกตการณชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประเทศสมาชิกอาเซียน ประจำประเทศไทย และกัมพูชา ทำหน้าที่แทนเป็นการชั่วคราว

ส่วนที่ 3 การประชุม GBC
13. ให้จัดการประชุม GBC ในหนึ่งเดือนหลัง 7 ส.ค.68 (สถานที่จะตกลงกันภายหลัง) หรือมิเช่นนั้นการประชุม GBC วิสามัญ จะถูกจัดขึ้นเพื่อเจรจาการหยุดยิง

cr.ตามภาพ

#ทีมประเทศไทย #รวมใจไทยเป็นหนึ่ง

07/08/2025

ฝนตกแล้ว
และตกหนัก
#โคราช

✨️เจ้าสัวเมืองไทยร่วมดูแลเยียวยาทหารชายแดนไทย🇹🇭✨️เจ้าสัวสารัชถ์ แห่งกัลป์ [Gulf] ตั้งกองทุน 100 ล้านบาท ดูแลทหารที่เสียช...
07/08/2025

✨️เจ้าสัวเมืองไทยร่วมดูแลเยียวยาทหารชายแดนไทย🇹🇭

✨️เจ้าสัวสารัชถ์ แห่งกัลป์ [Gulf] ตั้งกองทุน 100 ล้านบาท ดูแลทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

✨️เจ้าสัวคีรี แห่ง BTS มอบ 50 ล้านบาท ช่วยเหลือทหารทั้ง 3 เหล่าทัพในเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

โดยมี ผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมรับมอบ

CR. ภาพ Wassana nanuam

#โคราชคนอีสาน #โคราชรายวัน

07/08/2025

#ประเด็นที่ดินเขากระโดง

📌ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.บัวลาย กับพวกเรียกรับประโยชน์ผู้รับเหมา 4 โครงการ: ข่าวในคอมเมนต์ #ปปช  #ปปชโคราช  #อบต  #ผู้ร...
07/08/2025

📌ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.บัวลาย กับพวก
เรียกรับประโยชน์ผู้รับเหมา 4 โครงการ

: ข่าวในคอมเมนต์

#ปปช #ปปชโคราช #อบต #ผู้รับเหมา
#โคราชคนอีสาน #โคราชรายวัน

ที่อยู่

779/21-23 ถ. จอมสุรางค์ยาตร์
Nakhon Ratchasima
30000

เบอร์โทรศัพท์

+66864653388

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Korat Dailyผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Korat Daily:

แชร์

Our Story

14 ตุลาคม 2516 นอกจากเป็นวันสำคัญต่อประวัติศาสตร์การเมืองไทยแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นยังเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจ และเป็นแรงผลักดันให้กลุ่มคนที่มีความคิดก้าวหน้า กล้าวิพากษ์วิจารณ์สถานการณ์บ้านเมือง และที่สุดก็ได้ก้าวเข้าสู่การทำหน้าที่สื่อมวลชน เพื่อนำเสนอข่าว วิพากษ์วิจารณ์การเมืองอย่างตรงไปตรงมา ตามแนวทางของสื่อสารมวลชนที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ลุล่วง ถึงต้นเดือนมีนาคมพ.ศ.2517ยุคสมัยของประชาธิปไตยเบ่งบาน “โคราชสัปดาห์วิจารณ์” ถูกก่อตั้งขึ้น โดยคนรุ่นใหม่ในยุคนั้น นำโดย สุนทร จันทร์รังสี และผองเพื่อนอาทิเช่น อ.ศรีศักดิ์ นพรัตน์ อ.สุขสันต์ เหมือนนิรุธ และวิจิตร สมนึก เป็นต้น โดยว่าจ้างโรงพิมพ์จุรีรัตน์ ถนนโพธิ์กลาง ของอดีตครูรัตน์ ผาสุกมูล ซึ่งรับพิมพ์ด้วยความคิดที่สอดคล้องกัน แต่ผู้ก่อการทั้งหมดไม่มีใครคิดถึงอนาคตเลย หลังจากโคราชสัปดาห์ วิจารณ์ออกมาสร้างความแปลกใหม่แก่สังคมโคราชเพียง ๔ เดือน “ครูรัตน์” ใช้สายตาของผู้อาวุโสวางแผนก้าวกระโดดเงียบๆ แล้วเย็นวันหนึ่งก็กล่าวกับ สุนทร จันทร์รังสีว่า “เราจะทำหนังสือพิมพ์โคราชรายวันนะ ติดป้ายในสวนรักแล้ว จะวางตลาดในวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๑๗ มีคำถามจากคนฟังว่าใครจะเป็นคนทำ? ครูรัตน์ตอบดื้อๆว่า “นายนั่นแหละเป็นคนทำ เราเชื่อมือแล้วว่านายทำได้" เรารับผิดชอบค่าพิมพ์ “สุนทร จันทร์รังสี” ไม่มีโอกาสปฎิเสธภารกิจที่ท้าทายได้ จึงวางมือจากการทำโคราชสัปดาห์วิจารณ์ ผันตัวเองและคณะโดดเข้าสู่เวทีที่เข้มข้นและตรากตรำขึ้น ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากนักหนังสือพิมพ์รุ่นพี่ว่า”ไม่เกิน๗วันก็หมอบ จะมีข่าวอะไรมาลงทุกวัน” แต่ก็ผิดคาด โคราชรายวัน กลับวิ่งฉิวปลิวลมด้วยความแรงที่ไม่สิ่งใดมาหยุดยั้งกระทั่งปลายปี ครูรัตน์ก็ขีดชะตาชีวิตของตัวเองใหม่ ด้วยจิตใจที่ต้องการรับใช้บ้านเมืองอีกระดับหนึ่ง จึงลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พร้อมกับยกโคราชรายวันให้“สุนทร จันทร์รังสี” บริหารและรับผิดชอบเต็มตัว การนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา กัดไม่ปล่อย และไม่ยอมตกอยู่ภายใต้ผลประโยชน์ที่นำมาล่อ หนังสือพิมพ์โคราชรายวัน จึเป็นความไม่พอใจของผู้มีอิทธิพล “สุนทร จันทร์รังสี” ในฐานะบรรณาธิการอำนวยการ จึงตกเป็นเป้าหมายของการกำจัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และด้วยนโยบายขวาพิฆาตซ้ายของพลตรีประมาณ อดิเรกสาร รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ในคืนวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๑๙เวลา๔ทุ่ม สุนทร ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามเช่นปืนขนาด๑๑ม.ม.และปืนกลเอ็ม๑๖หน้าสำนักงานสนั่น เมือง ขณะจะขึ้นรถไปตรวจข่าว อาการสาหัสร่อแร่ไม่มีใครคิดว่าจะรอดชีวิต การถูกสังหารด้วยอาวุธสงครามอย่างเหี้ยมโหด แม้สร้างบาดแผลทางกายให้กับสุนทรอย่างหนัก ต้องผ่าตัดอวัยวะสำคัญภายใน แต่ยิ่งทำให้สภาพจิตใจของความเป็นสื่อมวลชนกล้าแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม เห็นได้จากหลังรอดตายราวปาฏิหาริย์ด้วยฝีมือของนายแพทย์อนุศักดิ์ ตั้งไพบูลย์ ซึ่งภายหลังได้กลับมาเกษียณอายุราชการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช แม้พ่อแม่จะขอร้องให้หยุดอาชีพนักหนังสือพิมพ์เพราะเป็นห่วงในสวัสดิภาพ แต่เมื่อหัดเดินได้แข็งใกล้จะเหมือนเดิม “สุนทร” กลับนำเงินจากแม่๓หมิ่นบาทไปหาซื้อแท่นพิมพ์จากกรุงเทพฯเพื่อทำโรงพิมพ์ เพราะสรุปว่าถ้าจะทำหนังสือพิมพ์ต่อต้องมีโรงพิมพ์ของตัวเอง หลังเหตุการณ์ลอบสังหารแต่รอดตายเหนือความคาดหมาย สุนทรยังคงเจอปัญหาจากการทำอาชีพนักหนังสือพิมพ์ต่อเนื่อง เวลาผ่านไปโคราชรายวันโด่งดังมากขึ้นจึงถูกมุ่งทำลายอีกครั้ง โดยหวังจะให้ได้รับโทษจำคุกถึง๑๒ปีจากกฎหมายอาญามาตรา๑๑๒ สุนทร จันทร์รังสี ในฐานะบรรณาธิการอำนวยการหนังสือพิมพ์โคราชรายวัน ถูกผู้ร่วมอาชีพแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ที่สุดแล้ว ศาลทหารได้พิจารณาตัดสินยกฟ้อง โดยพิพากษาว่า การทำหน้าที่ของสุนทร มีเจตนาปกป้องพระบรมเดชานุภาพ “โคราชรายวัน” ณ ช่วงเวลาที่มรสุมผ่านพ้นไป กลายเป็นชื่อหนังสือพิมพ์ที่ได้รับการกล่าวถึง และให้การยอมรับมากที่สุด ทั้งในจังหวัดนครราชสีมา ระดับประเทศ รวมถึงนานาชาติ ซึ่งสุนทร จันทร์รังสี ได้รับเชิญจากรัฐบาลประเทศต่างๆ เพื่อศึกษาดูงาน ทั้งในทวีปเอเชีย สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังเป็นสนามให้นิสิตนักศึกษา โดยเฉพาะด้านนิเทศศาสตร์หรือ สื่อสารมวลชน ได้มีโอกาสฝึกงาน เป็นเสมือนห้องเรียนที่บ่มเพาะสื่อมวลชนรุ่นใหม่ก่อนเข้าสู่วงการวิชาชีพ สื่อในอนาคต ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าศึกษาดูงานการทำหน้าที่สื่อมวลชนท้องถิ่นที่ เข็มแข็ง สะท้อนให้เห็นความสามารถของกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ รวมถึงระบบโรงพิมพ์ที่พัฒนาเติบโตอย่างต่อเนื่อง และด้วยเหตุที่คนหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่ในประเทศชอบพอและนับถือ “สุนทร” จึงถูกเลือกเป็นตัวแทนเข้าคัดเลือกเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ และที่สุดได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2550 นับเป็น สสร.คนเดียวของจังหวัดนครราชสีมา โดยก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งเทศมนตรีเทศบาลเมืองนครราชสีมา ประธานสภาเทศบาลนครราชสีมาถึง 3 สมัย ประธานกรรมการประจำสภาเทศบาลนครราชสีมา ประธานองค์กรกลางอำเภอเมือง นครราชสีมาแล้ว ในด้านวิชาชีพมีบทบาทต่อองค์กรวิชาชีพสื่อทั้งระดับ จังหวัดและระดับประเทศ โดยดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมาพันธ์สื่อมวลชนพันธมิตรนคราชสีมาหลายสมัย ประธานเครือข่ายบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ภาคอีสานสองสมัยติดต่อกัน กรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมจริยธรรม สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และได้รับเลือกให้เป็นรองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติคนที่ 1 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2552 นับเป็นนักหนังสือพิมพ์ต่างจังหวัดที่มีตำแหน่งสูงสุด กระทั่งปี พ.ศ.๒๕๕๐มีการเลือกตั้งสภาระดับต่างๆทั่วประเทศ “หนังสือพิมพ์โคราชรายวัน” จึงเพิ่มชื่อเป็น “โคราชคนอีสาน” เพื่อตอบสนองการทำหน้าที่สื่อหนังสือพิมพ์ ที่ไม่จำเพาะแต่เพียงในจังหวัดนครราชสีมาเท่านั้น แต่ยังขยายเนื้อหาครอบคลุมทั้งภาคอีสาน