เว็บไซต์คืออะไร?

https://www.facebook.com/423687421027090/

สี่แควนิวส์, Nakhon Sawan (2025)

09/10/2025

ระทึก! ฝรั่งเยอรมันพลัดตกบ่อ 20 เมตร ลอยคอ 40 นาที รอดหวุดหวิด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่หน่วย #กู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถาน อ.สัตหีบ #ชลบุรี รับแจ้งเหตุชายชาวต่างชาติพลัดตกบ่อน้ำ ภายในซอยหลังวัดป่ายุบ ต.สัตหีบ จึงรีบจัดกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ลึกกว่า 20 เมตร ภายในบริเวณรกร้าง พบ MR. Roland อายุ 63 ปี ชาวเยอรมนี ลอยคออยู่อย่างอ่อนแรงในน้ำ เจ้าหน้าที่ใช้เชือกโรยตัวและอุปกรณ์ช่วยเหลือ ใช้เวลากว่า 15 นาที จึงสามารถดึงตัวขึ้นจากบ่อได้อย่างปลอดภัย

จากการสอบถามเพื่อนบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ประสบเหตุตัดหญ้าอยู่บริเวณข้างบ่อ กระทั่งได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อมาดูก็พบว่าตกลงไปในบ่อแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือ

ด้าน MR. Roland ให้การว่า ระหว่างใช้เครื่องตัดหญ้าเดินถอยหลังไม่ทันสังเกตเห็นว่าฝาบ่อถูกหญ้าปกคลุม จึงเหยียบพลาดตกลงไป ต้องพยายามลอยคออยู่ในน้ำเกือบ 40 นาที ก่อนมีคนได้ยินเสียงร้อง จึงรอดชีวิตมาได้ เจ้าตัวเผยว่า “ถ้าไม่มีใครได้ยิน คงไม่รอดแน่ๆ” พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

เครดิตภาพ-ข่าว : สยามชลนิวส์
#อุบัติเหตุ #สี่แควนิวส์

09/10/2025

ทลายขบวนการ ‘ป่วยทิพย์’ ปลอมใบหมอเคลมประกัน สูญกว่า 3 แสน

พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมด้วยคณะนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการ และ พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามจับกุมเครือข่าย #ป่วยทิพย์ หลังสืบทราบว่ามีการปลอมใบรับรองแพทย์เพื่อยื่นเคลมเงินประกันสุขภาพ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 3 แสนบาท

โดยเจ้าหน้าที่นำโดย พ.ต.ท.วรวุฒิ คงรักษา สว.กก.4 บก.ปอศ. พร้อมพ.ต.ท.สาธิต หาวงษ์ชัย และพ.ต.ต.หญิง ชนากานต์ นิรัมย์ เข้าจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายไพฯ อายุ 29 ปี, นายสหรัฐฯ อายุ 47 ปี และน.ส.กุลธิดาฯ อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา “ฉ้อโกง, ปลอมและใช้เอกสารปลอม และเรียกร้องผลประโยชน์ตามกรมธรรม์โดยทุจริต”

สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งเข้าแจ้งความกับ บก.ปอศ. หลังตรวจพบเอกสารใบรับรองแพทย์ปลอมใช้ในการขอเคลมค่าสินไหมทดแทน โดยผู้ต้องหาจะอ้างว่าป่วยหนักและยื่นหลักฐานปลอมจากคลินิกและโรงพยาบาลเดียวกันหลายครั้ง จนบริษัทหลงเชื่อและจ่ายค่าสินไหมรายละ 1 แสนบาท รวมเสียหายกว่า 3 แสนบาท

จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มนี้จะชักชวนผู้มีประกันสุขภาพมาร่วมปลอมหลักฐาน โดยเสนอแบ่งเงินสินไหมครึ่งหนึ่งเป็นค่าดำเนินการ เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบความเชื่อมโยงระหว่างผู้เอาประกันกับผู้จัดทำเอกสารปลอม จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับและลงพื้นที่จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ กทม. และเชียงใหม่ ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันยื่นเคลมประกันเท็จจริง โดยเสียค่าเบี้ยเพียงปีละ 500–600 บาท แต่ได้รับคุ้มครองสูงถึง 1 แสนบาท จึงหลงเชื่อคำชักชวนจากคนรู้จักที่อ้างว่าสามารถจัดทำเอกสารเท็จให้ได้

ทั้งนี้ #ตำรวจสอบสวนกลาง เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพที่เสนอจัดทำใบรับรองแพทย์หรือเอกสารปลอม เพื่อเรียกร้องสินไหมประกันภัย เพราะเข้าข่าย “ร่วมกันฉ้อโกง” และ “ปลอมเอกสารทางราชการ” มีโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมยืนยันจะขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป.

#สี่แควนิวส์

09/10/2025

“วัชรินทร์” มอบ 6 ภารกิจ อัยการสอบสวน เสนอตั้งหน่วยสืบสวนอัยการ

วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนคนใหม่ เปิดแถลงนโยบายสำคัญต่อข้าราชการอัยการและเจ้าหน้าที่สังกัดสำนักงานการสอบสวน ณ อาคารสำนักงานการสอบสวน ถนนบรมราชชนนี ตลิ่งชัน โดยมอบหมาย 6 ภารกิจหลักเพื่อขับเคลื่อนงานด้านการสอบสวนของอัยการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมประกาศแนวคิดตั้ง #หน่วยสืบสวนอัยการ เพื่อเสริมศักยภาพในคดีนอกราชอาณาจักรและคดีอุ้มหาย

ภารกิจหลักทั้ง 6 ข้อประกอบด้วย 1. คดีนอกราชอาณาจักร 2. คดีร่วมสอบสวนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 3. คดีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ที่มีการร้องเรียนพรรคการเมืองล้มล้างการปกครอง 4. คดีชันสูตรศพกรณีเจ้าพนักงานเกี่ยวข้องกับการตาย 5. คดีตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือ “พ.ร.บ.อุ้มหาย” และ 6. คดีองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

นายวัชรินทร์ กล่าวระหว่างการมอบนโยบายว่า คดีนอกราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่สำนักงานการสอบสวนต้องรับผิดชอบ โดยมีหน้าที่รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนทั่วประเทศตาม ป.วิ. อาญา มาตรา 20 ซึ่งให้อำนาจอัยการสูงสุดพิจารณามอบหมาย 3 แนวทาง คือ 1. ให้ตำรวจหรือดีเอสไอสอบสวนฝ่ายเดียว 2. ให้อัยการร่วมสอบสวน และ 3. ให้อัยการดำเนินการสอบสวนเองทั้งหมด ที่ผ่านมาเคยมีคดีที่อัยการสอบสวนดำเนินการเองแล้ว 5 คดี

อธิบดีอัยการคนใหม่ชี้ว่า สิ่งที่สำนักงานยังขาดคือ “เจ้าหน้าที่สืบสวน” ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐาน ตรวจค้น จับกุม และติดตามผู้ต้องหา ที่ผ่านมาอัยการสอบสวนต้องอาศัยความร่วมมือจากตำรวจหรือดีเอสไอ ทำให้กระบวนการล่าช้าและซับซ้อน “เรามีแต่นิติกรและเจ้าพนักงานคดี ซึ่งทำงานสนับสนุนได้ดี แต่ไม่สามารถลงภาคสนามได้ หากมีหน่วยสืบสวนของเราเอง จะช่วยให้กระบวนการสอบสวนของอัยการมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดภาระการพึ่งพาหน่วยอื่น” นายวัชรินทร์ กล่าว

ทั้งนี้ นายวัชรินทร์ ยกตัวอย่างคดีนอกราชอาณาจักรที่อัยการต้องดำเนินการเอง ซึ่งพบปัญหาการติดตามผู้ต้องหาที่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน บางกรณีต้องใช้เวลาและขั้นตอนซับซ้อนกว่าจะออกหมายจับหรือควบคุมตัวได้ จึงเตรียมเสนอจัดตั้งหน่วยสืบสวนอัยการขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมติของ ก.อ. เคยเห็นชอบหลักการไว้แล้ว เหลือเพียงการผลักดันให้เกิดขึ้นจริง

สำหรับโครงสร้างงานสอบสวนปัจจุบัน มีเพียงอัยการและนิติกรเป็นหลัก แม้จะสามารถจัดทำสำนวนได้ครบถ้วน แต่การสืบพยานและติดตามหลักฐานยังเป็นจุดอ่อนสำคัญ นายวัชรินทร์ จึงวางแนวทางพัฒนาให้สำนักงานสอบสวนมี “ขาเดิน” ของตนเอง เพื่อให้สามารถรวบรวมหลักฐานได้ตรงประเด็นและทันต่อสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ถือเป็นหน่วยงานสำคัญที่เคยมีบทบาทในคดีใหญ่หลายคดี เช่น คดีกำนันนกยิงตำรวจ คดีเป้รักผู้การ คดีน้ำมันเถื่อนโกฟลุ๊ค และคดีฮั้วประมูลมูลค่าหลายพันล้าน รวมถึงคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย อย่างคดีลุงเปี๊ยกที่สระแก้ว และคดีตำรวจจราจร 7 นายทำร้ายประชาชนผิดตัว

สำหรับนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ ถือเป็นอธิบดีอัยการคนที่ 7 ของสำนักงานการสอบสวน และเป็นคนแรกที่จบหลักสูตร Major Case Management จาก FBI Academy เมือง Quantico รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ได้รับฉายา #อัยการFBI จากเพื่อนร่วมงาน โดยเป็นลูกหม้อสำนักงานการสอบสวนมากว่า 10 ปี ผ่านการทำคดีสำคัญระดับประเทศนับไม่ถ้วน

#สี่แควนิวส์

09/10/2025

รวบแก๊งตีนแมวฝั่งธนฯ ตระเวนงัดร้านกวาดทรัพย์อื้อ!

วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่ สน.เพชรเกษม พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรงค์กรณ์ ขจรบุญญาวัฒน์ รอง ผกก.สส., พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส. และชุดสืบสวน สน.เพชรเกษม ร่วมกับชุดสืบสวน สน.หลักสอง แถลงผลการจับกุมแก๊งตีนแมวฝั่งธนฯ ที่ก่อเหตุลักทรัพย์หลายท้องที่ในเขตบางแวก ภาษีเจริญ และเพชรเกษม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ นายธนาวุฒิ หรือวุฒิ สุวรพันธ์ อายุ 21 ปี นายอภิรักษ์ หรือหยิก ดวงจันทร์ อายุ 48 ปี และนายอาทอน หรือเอก มาเหลาหนาด อายุ 42 ปี พร้อมของกลางประกอบด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสไปซี่วัน สีดำ ทะเบียน ฬอล 379 กรุงเทพมหานคร และทรัพย์สินอื่นรวม 16 รายการ

พฤติการณ์คือคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ในย่านฝั่งธนฯ โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพขณะก่อเหตุได้ชัดเจน เจ้าหน้าที่จึงติดตามจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามได้ภายในชุมชนริมคลองราชมนตรี แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสามให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุจริงในหลายพื้นที่ ได้แก่ ร้านราชมนตรีฮาร์ดแวร์ ถนนราชมนตรี 8, หมู่บ้านนิศาชล ซอยบางแวก 27 และร้านด๊อกไม้เพลย์ ซอยเพชรเกษม 58 รวมถึงพื้นที่อื่นๆ อีกหลายจุดที่จำไม่ได้ โดยมีนายทศพล หรือบาส ที่ยังหลบหนี เป็นหัวโจก คอยชี้เป้าและพาไปลงมือ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายอภิรักษ์ หนึ่งในผู้ต้องหา เคยก่อคดีงัดเซฟบริษัทก่อสร้างชื่อดัง “ช.การช่าง” ได้เงินหลายล้านบาท และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน ก่อนหวนมาก่อเหตุซ้ำอีก

เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด” ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว.

#แก๊งตีนแมว #สี่แควนิวส์

08/10/2025

ถอยรถไถขึ้นเทเลอร์ พาดร่วงทับดัUคาไร่อ้อย

เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2568 หน่วยบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิการกุศลตาคลี ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.อาทิตย์ แย้มกลิ่น พนักงานสอบสวน สภ.ตาคลี ว่าเกิดอุบัติเหตุรถไถพลิกคว่ำทับคนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณบ้านห้วยคต หมู่ 5 ตำบลหัวหวาย อำเภอตาคลี #นครสวรรค์ หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาฯ จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานตำรวจและแพทย์เวร #โรงพยาบาลตาคลี

ที่เกิดเหตุพบรถไถคันหนึ่งพลิกคว่ำอยู่ริมทางดิน มีผู้เสียชีวิตเป็นชาย คือนายลิขิต อายุ 37 ปี ร่างถูกเครื่องไถทับอยู่ในสภาพเสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแพทย์เวรได้ร่วมกันตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุ ก่อนมอบหมายให้หน่วยบรรเทาฯ นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลตาคลี โดยมีข้อมูลสาเหตุที่ผู้ตายถูกรถไถทับ ขณะถอยขึ้นรถเทเลอร์ ซึ่งเรื่องนี้จะมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง

#อุบัติเหตุ #สี่แควนิวส์

08/10/2025

บุกจับ “หมอกอล์ฟ” คาม่านรูด รับฉีดไอซ์ถึงเตียงให้คู่รักเกย์เล่นเซ็ก

วันที่ 7 ตุลาคม 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. (ปส.) สั่งการให้ศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศอ.ปส.บช.น.) วางแผนล่อซื้อและเข้าจับกุม “หมอเถื่อนได้ทุกฟิวส์” หรือ นายคมอนันต์ อายุ 39 ปี หัวจ่ายยาไอซ์ชื่อดังบนโลกออนไลน์ ที่ให้บริการ “ฉีดยาไอซ์ถึงเตียงนอน” กลางโรงแรมม่านรูดย่านคลองตัน

ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลจากการลาดตระเวนออนไลน์ของทีมสืบสวน บช.น. ที่ตรวจพบผู้ใช้สื่อโซเชียลรายหนึ่งโฆษณาขายยาไอซ์ พร้อมบริการฉีดให้ลูกค้าถึงที่ โดยเฉพาะกลุ่มชายรักชาย พร้อมจุดขายสุดพิสดาร “ฉีดสองเข็ม” ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และยังแอบถ่ายคลิปเผยแพร่ลงโซเชียล จนกลายเป็นกระแสในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดและ LGBTQ+

เมื่อสืบทราบตัวตนชัดเจนว่า “หมอเถื่อนได้ทุกฟิวส์” คือ นายคมอนันต์ ชาวชลบุรี ซึ่งมีประวัติอาชญากรรมโชกโชนถึง 5 คดี ทั้งยาเสพติด ค้ามนุษย์ และลักทรัพย์ ชุดสืบสวนจึงจัดสายลับรูปร่างกำยำอำพรางตัวเป็นลูกค้า นัดหมอเถื่อนมาฉีดยาที่โรงแรมม่านรูดชื่อดังย่านคลองตัน

ระหว่างปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่เผชิญสถานการณ์สุดระทึก เมื่อหมอเถื่อนไม่ยอมเข้าพบทันที แต่ส่งชายกล้ามใหญ่เข้ามาในห้องแทน และพยายามบังคับให้สายลับถอดเสื้อรอ “บริการ” เพื่อรักษาแผนล่อซื้อ สายลับจำต้องยอมตาม ก่อนหมอเถื่อนปรากฏตัวพร้อมเข็มฉีดยาบรรจุไอซ์ 2 เข็ม และยาไวอากร้า 1 แผง เตรียมฉีดให้ลูกค้าในจังหวะที่สถานการณ์กำลังจะเกินควบคุม เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มอยู่ด้านนอกจึงบุกเข้าชาร์จ จับกุมไว้ได้อย่างหวุดหวิด

จากการตรวจค้นภายในห้องพัก พบของกลาง #ยาไอซ์ 7.2 กรัม เข็มฉีดยาจำนวนหนึ่ง กล่องพัสดุสำหรับบรรจุยาเพื่อจัดส่ง และโทรศัพท์มือถือที่ภายในมีคลิปแนววิปริตกว่า 283 คลิป เจ้าหน้าที่ขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักในซอยปรีดี พนมยงค์ 42 พบของกลางเพิ่มเติมอีกหลายรายการ

นายคมอนันต์ ให้การรับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ ไม่มีงานทำจึงหันมาค้ายา โดยเจาะตลาดกลุ่มชายรักชายที่นิยมเสพยาไอซ์ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และอ้างว่าการถ่ายคลิปเป็น “จุดขาย” สร้างรายได้หลักหมื่นต่อวัน ส่วนหญิงสาวที่อยู่ร่วมในห้องให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่รู้เห็นกับการกระทำผิด
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า “คดีนี้เป็นตัวอย่างของการใช้โลกออนไลน์เป็นแหล่งค้ายาเสพติดและสื่ออนาจารซึ่งกำลังแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในหมู่เยาวชนและกลุ่มหลากหลายทางเพศ บช.น. จะเดินหน้าปราบปรามให้ถึงที่สุด เพื่อทำให้กรุงเทพฯ ปลอดภัยจากยาเสพติดทุกมิติ”

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดีในข้อหา “จำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม

#สารวัตรแจ๊ะ #สี่แควนิวส์

08/10/2025

“เบตง” คึกคักรับออกพรรษา! ไทย–มาเลย์ร่วมชักพระ สืบสานประเพณีใต้

วันที่ 8 ตุลาคม 2568 พื้นที่เทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง #ยะลา ต่างเนืองแน่นไปด้วยประชาชนทั้งชาวไทยพุทธ ชาวจีน และนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย ที่เดินทางมาร่วมชักพระอย่างพร้อมเพรียง โดยมีขบวนเรือพระจากวัดต่างๆ ในอำเภอเบตง รวม 6 วัด ได้จัดตกแต่งเรือพระอย่างสวยงามอลังการ ก่อนชักเคลื่อนออกจากวัด มุ่งหน้าสู่ตลาดสด #เทศบาลเมืองเบตง เพื่อร่วมประกอบพิธีสมโภชถวายเป็นพุทธบูชา

บรรยากาศเต็มไปด้วยความศรัทธาและรื่นเริง ขบวนชักพระแต่ละวัดประดับประดาเรือด้วยต้นกล้วย ต้นไผ่ ดอกไม้สด และธงพุทธศาสนา พร้อมเสียงตะโพน กังสดาล และระฆังที่ดังสนั่นตลอดเส้นทาง ชาวบ้านทั้งชาวไทยและชาวมาเลย์ต่างช่วยกันจับเชือกชักเรือพระด้วยแรงศรัทธา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้กระจายกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในพื้นที่ ทั้งตามเส้นทางชักพระและจุดประกอบพิธีสมโภช เพื่อป้องกันเหตุร้ายและสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน

“ประเพณีชักพระ” ถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวภาคใต้ที่จัดขึ้นทุกปีในวันออกพรรษา (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในพุทธประวัติ เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จกลับจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังโปรดพระมารดา พุทธศาสนิกชนจึงร่วมกันจัดขบวนรับเสด็จและแห่พระไปรอบเมือง ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นขนบธรรมเนียมสืบทอดมาช้านาน

ภายในงานยังมีการแจกขนมพื้นเมือง เช่น “ขนมต้ม” และ “ขนมลูกเห็ด” เพื่อให้ผู้ร่วมชักพระได้อิ่มบุญ อิ่มใจกลับบ้านในวันออกพรรษา

ภาพ-ข่าว : เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา
#ประเพณีชักพระ #วันออกพรรษา #สี่แควนิวส์

08/10/2025

รวบหมอฟันเถื่อน “ปลอมใบประกอบวิชาชีพ” ตีเนียนทำฟันคนไข้กลางคลินิก

วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ. ร่วมกับทันตแพทยสภา นำโดย ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ กรรมการทันตแพทยสภา สนธิกำลังเข้าจับกุมหญิงสาววัย 26 ปี หลังสวมรอยเป็น “หมอฟัน” ปลอมใบประกอบวิชาชีพ ทำฟันให้คนไข้โดยไม่มีสิทธิ์

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการ 4 บก.ปคบ. ได้รับการประสานจากทันตแพทยสภาให้ตรวจสอบพฤติกรรมของหญิงสาวรายหนึ่งที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ แต่กลับให้บริการรักษาทันตกรรมในคลินิกย่านสาทร #กรุงเทพมหานคร จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบผู้ต้องหากำลังทำหัตถการขูดหินปูนให้ผู้ป่วยอยู่ในคลินิกดังกล่าว เมื่อตรวจสอบเอกสาร พบว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรม แต่กลับใช้ใบประกอบวิชาชีพของทันตแพทย์รายอื่นปลอมแปลงขึ้นมาเพื่อสมัครเข้าทำงานในคลินิก

จากการสอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเรียนจบทันตแพทยศาสตร์ภายในประเทศ แต่ยังไม่ได้สอบใบประกอบวิชาชีพ จึงปลอมเอกสารเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ และอ้างตนเป็นทันตแพทย์มานานกว่า 2 ปี โดยรับงานตามคลินิกต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เจ้าหน้าที่จึงจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “ประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ปลอมแปลงเอกสารราชการ”

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับในข้อหาเดียวกันมาแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นตัวอย่างอันตรายของ “หมอเถื่อน” ที่อาจทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน

รศ.ดร.ทพ.ไชยรัตน์ เฉลิมรัตนโรจน์ นายกทันตแพทยสภา ย้ำเตือนประชาชนว่า ก่อนเข้ารับบริการทางทันตกรรม ควรตรวจสอบว่าผู้ให้บริการมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ถูกต้องและยังไม่หมดอายุ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อทันตแพทย์ได้ที่เว็บไซต์ของทันตแพทยสภา ส่วนคลินิกที่รับทันตแพทย์เข้าปฏิบัติงาน ต้องตรวจสอบคุณสมบัติให้แน่ชัดเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายทางกฎหมายและคุ้มครองผู้บริโภค

พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ. กล่าวเสริมว่า “การจับกุมครั้งนี้คือการส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ที่คิดจะสวมรอยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เพราะการรักษาโดยหมอเถื่อนอาจนำไปสู่การติดเชื้อ พิการ หรือเสียชีวิตได้” พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ตรวจสอบสถานะคลินิกและผู้ให้บริการทุกครั้งก่อนเข้ารับการรักษา หากพบพฤติกรรมน่าสงสัยสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ “ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค”.

#หมอฟันเถื่อน #สี่แควนิวส์

08/10/2025

สืบนครบาลลากคอ “อดีตธนาคารสาว” พัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปิดบัญชีม้าโยงเงินหมุน 39 ล้าน

วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำโดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม, พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. แถลงผลการจับกุมหญิงสาววัย 38 ปี อดีตพนักงานธนาคารรายหนึ่ง หลังจากถูกออกหมายจับในข้อหาพัวพันขบวนการ #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รายใหญ่

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากธนาคารต้นสังกัดตรวจพบความผิดปกติภายในองค์กร เมื่อมีเงินจำนวนกว่า 24 ล้านบาท ถูกจัดเตรียมรอการถอนออกจากบัญชีใหม่ 4 บัญชี ภายในเวลาเพียง 3 วัน จึงรีบประสานข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลเข้าตรวจสอบ ก่อนพบพฤติกรรมต้องสงสัยเชื่อมโยงกับอดีตพนักงานรายดังกล่าว ซึ่งเพิ่งลาออกจากธนาคารไปไม่นาน

จากการสืบสวนขยายผลร่วมกับทางธนาคาร พบว่าบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเธอเชื่อมโยงไปยังเครือข่าย #บัญชีม้า นิติบุคคลถึง 22 บัญชี โดยใช้เป็นช่องทางหมุนเงินของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 39 ล้านบาท จากคดีทั้งหมด 291 คดี (ในพื้นที่นครบาล 16 คดี และภูธรอีก 275 คดี) เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจนได้รับอนุมัติหมายจับรวม 35 หมาย

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่พนักงานสอบสวนได้นำตัวส่ง สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมและตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดอย่างละเอียด ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.สยาม พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูง ได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมที่ บก.สส.บช.น. ย้ำว่าการสกัดกั้นเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ ถือเป็นการป้องกันความเสียหายทางเศรษฐกิจ และเป็นตัวอย่างของการร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมีประสิทธิภาพ.

#สี่แควนิวส์

07/10/2025

ปูพรมค้นหาวันที่ 4 ยังไร้ร่องรอย “น้องโจ้” ชาวบ้านร่วมทำพิธีขอให้พบร่างโดยเร็ว

กรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิเจ้าพ่อกวนอู–กู้ภัยนครสวรรค์ สูญหายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ดำน้ำค้นหารถกระบะที่ตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่หมู่ 3 ต.ยางขาว อ.พยุหะคีรี #นครสวรรค์ เมื่อคืนวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยผู้สูญหายคือนายรุ่งโรจน์ หรือโจ้ รักเขตวิทย์ วัย 24 ปี ซึ่งขณะดำลงไปในจุดที่มีความลึกกว่า 18 เมตร และกระแสน้ำเชี่ยว ได้ขาดการติดต่อจากทีมค้นหา ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องระดมกำลังและอุปกรณ์โซนาร์เข้าช่วยตรวจค้นตลอดหลายวัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบร่องรอยของเจ้าหน้าที่หนุ่มรายดังกล่าว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 ซึ่งนับเป็นวันที่ 4 ของปฏิบัติการค้นหา “น้องโจ้” นายรุ่งโรจน์ รักเขตวิทย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิเจ้าพ่อกวนอู–กู้ภัยนครสวรรค์ ที่สูญหายระหว่างดำน้ำช่วยค้นหารถกระบะตกแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่หมู่ 3 ต.ยางขาว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ทีมกู้ภัยจากหลายมูลนิธิยังคงปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง โดยได้ขยายวงค้นหาไปจนถึงเขตจังหวัดชัยนาท หลังมีชาวบ้านแจ้งเบาะแสพบเห็นคล้ายศพลอยไปตามแม่น้ำ บริเวณแถวสะพานวัดธรรมามูล ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังเข้าตรวจสอบในหลายจุด โดยใช้เรือทั้งหมด 10 กว่าลำ และเจ็ทสกีในการค้นหาอีกจำนวนนึง แต่ก็ยังไม่พบร่างตามที่ได้รับแจ้งแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน บริเวณ “วอร์รูม” จุดบัญชาการหลักในพื้นที่หมู่ 3 ต.ยางขาว ยังคงมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยบางส่วนปักหลักประจำการ แม้กำลังจะเหลือน้อยลง แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่เฝ้าพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมาให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง บางส่วนร่วมประกอบพิธีตามความเชื่อ จุดธูปกราบไหว้พระแม่คงคาและแม่ตะเคียน เพื่อขอให้พบร่างของน้องโจ้โดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่และทีมแพทย์จากโรงพยาบาลพยุหะคีรี ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพจิตใจของ น.ส.พาณี กับเกิด เจ้าของรถกระบะที่จมน้ำ โดยเกรงว่าเจ้าตัวจะเกิดความเครียดและโทษตัวเองจนเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า จึงได้เข้าไปพูดคุยให้กำลังใจและเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ยังคงรู้สึกผิดและเป็นห่วงน้องโจ้อย่างมาก หวังเพียงให้เจ้าหน้าที่สามารถค้นพบร่างโดยเร็วที่สุด

ด้านแฟนสาวของน้องโจ้ ที่เดินทางมาทำพิธีไหว้พระแม่คงคาตามความเชื่อ เปิดเผยว่า 1 สัปดาห์ ก่อนที่โจ้จะมาทำภารกิจค้นหารถกระบะจมน้ำแล้วหายไป เจ้าตัวมักจะมีการพูดถึงเรื่องน้ำตลอด รวมถึง เคยมีครั้งหนึ่ง พาตนขี่รถไปที่แม่น้ำ พร้อมกับชี้ให้เห็นถึงกระแสน้ำที่มีความน่ากลัวรุนแรง และเคยถึงกับพูดว่า หากเจ้าตัวตกลงไปตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าตัวจะลอยไปยังทิศทางไหน และจะโผล่ขึ้นแถวไหน

ต่อมาในช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่ตรวจพบกลิ่นและคราบไขสีขาวลอยขึ้นจากผิวน้ำ ใกล้จุดที่มีการประกอบพิธี จึงเร่งเข้าตรวจสอบและใช้ตะคล้อเกี่ยวขึ้นมาดู แต่ยังไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ กระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่จึงเก็บเต็นท์และทยอยถอนกำลังกลับศูนย์ โดยทีมกู้ภัยจากจังหวัดใกล้เคียงยังคงตั้งฐานเตรียมพร้อม ส่วนมูลนิธิเจ้าพ่อกวนอู–กู้ภัยนครสวรรค์ ยืนยันจะกลับมาปฏิบัติการค้นหาอีกครั้งในช่วงเช้าวันถัดไป.

#กู้ภัยนครสวรรค์ #อุบัติเหตุ #สี่แควนิวส์

06/10/2025

บุกจับแอดมินเว็บพนันเชียงราย! เงินสะพัดกว่า 5 ล้านต่อเดือน รับทำงานข้ามฝั่งเมียนมานาน 2 ปี

วันที่ 6 ตุลาคม 2568 พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 นำทีมประกอบด้วย พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.นรวัตน์ คำภิโล รอง ผบก.สอท.4 พ.ต.ท.ศิริพล จรรยา สว.กก.4 บก.สอท.2 พ.ต.ท.ชัยภัทร เชื้อสาย สว.กก.4 บก.สอท.2 พ.ต.ท.ชยกฤต จันหา สว.กก.1 บก.สอท.2 และ พ.ต.ท.วัธนดิศ ธนกุลนันท์ สว.กชช.ทว. ปฏิบัติหน้าที่ ศปอส.ตร. นำหมายค้นศาลจังหวัดเชียงรายที่ ค.318/2568 เข้าตรวจค้นห้องเช่าภายในบ้านเลขที่ 271 หมู่ 3 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน #เชียงราย

จากการตรวจค้นสามารถจับกุม น.ส.กมลภัทร์ หัตถะผะสุ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย พร้อมของกลางโน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ซึ่งใช้เป็นอุปกรณ์ในการดูแลระบบหลังบ้านของเว็บไซต์พนันออนไลน์

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่า เว็บไซต์ดังกล่าวลักลอบเปิดให้บริการมานานกว่า 2 ปี มีรูปแบบครบวงจร ทั้งพนันกีฬา หวย บาคาร่า และสล็อต โดยมีระบบโอนเงินอัตโนมัติผ่านบัญชีธนาคารในประเทศ พร้อมทีมแอดมินคอยตอบแชตลูกค้าและจัดการธุรกรรมการเงินในระบบอย่างต่อเนื่อง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยข้ามไปทำงานฝั่งเมียนมา ทำหน้าที่แอดมินเว็บพนันออนไลน์อยู่กว่า 2 ปี ก่อนกลับเข้ามาฝั่งไทยและทำงานกับเว็บไซต์นี้ต่อเนื่องนานกว่า 1 ปี ได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 15,000 บาท โดยเว็บไซต์มีสมาชิกกว่า 9,000 ราย และมียอดหมุนเวียนมากกว่า 5 ล้านบาทต่อเดือน

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่จัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

#จับเว็บพนัน #สี่แควนิวส์

05/10/2025

ยังไร้ร่องรอย! กู้ภัยหนุ่มดำน้ำช่วยรถตกเจ้าพระยา สูญหายเข้าวันที่ 3 ทีมค้นปูพรมไล่รัศมี 18 กม.

จากกรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิเจ้าพ่อกวนอู–กู้ภัยนครสวรรค์ สูญหายระหว่างปฏิบัติหน้าที่ดำน้ำค้นหารถยนต์กระบะที่ตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหมู่ 3 ต.ยางขาว อ.พยุหะคีรี #นครสวรรค์ เมื่อคืนวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ารถกระบะของตนไหลตกน้ำเพราะลืมดึงเบรกมือ โดยในขณะเข้าช่วยเหลือ ทีมกู้ภัยกว่า 10 นายผลัดเปลี่ยนกันลงน้ำค้นหารถ แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อนายรุ่งโรจน์ หรือโจ้ รักเขตวิทย์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยวัย 24 ปี หนึ่งในทีมดำน้ำสูญหายไป ขณะดำอยู่ในแม่น้ำที่มีความลึกกว่า 18 เมตรและกระแสน้ำเชี่ยวกราก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงระดมกำลังจากหลายมูลนิธิ พร้อมนำเครื่องมือโซนาร์เข้ามาช่วยสแกนหาใต้ผิวน้ำ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบร่างผู้สูญหายตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 5 ตุลาคม 2568 ทีมกู้ภัยจากหลายมูลนิธิยังคงเดินหน้าปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงเช้า โดยใช้เรือและเจ็ตสกีไล่ปูพรมตรวจค้นบนผิวน้ำในรัศมี 18 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ขณะเดียวกันทีมประดาน้ำอีกชุดได้ลงตรวจใต้น้ำห่างจากฝั่งราว 10 เมตร เนื่องจากคาดว่าอุปกรณ์ดำน้ำซึ่งมีน้ำหนักกว่า 3 กิโลกรัมที่ติดตัวน้องโจ้อาจไปเกี่ยวรั้งกับกิ่งไม้หรือขอนไม้ใต้แม่น้ำจนไม่สามารถลอยขึ้นมาได้ แม้ตรวจพบจุดต้องสงสัยหลายแห่ง แต่การตรวจสอบอย่างละเอียดกลับยังไม่พบร่างผู้สูญหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถกระบะที่ตกน้ำเป็นของ น.ส.พาณี กับเกิด ซึ่งจอดอยู่ริมถนนหน้าบ้านในสภาพพังเสียหายหนัก เจ้าของรถเผยว่าเป็นรถของบิดาที่ให้ยืมมาใช้จาก จ.กำแพงเพชร และไม่ได้ทำประกันภัยไว้ ขณะนี้เจ้าตัวเครียดหนักและไม่กล้าแตะต้องหรือขับรถอีก โดยตั้งใจจะขายซากทิ้งเท่านั้น

ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิเจ้าพ่อกวนอู–กู้ภัยนครสวรรค์ เผยว่า “น้องโจ้” เป็นเจ้าหน้าที่ที่ขออาสาเข้ามาช่วยงานกู้ภัยตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี ก่อนจะไปสมัครเป็นทหารเรือนานกว่า 3 ปี และกลับมาทำงานกู้ภัยอีกครั้ง โดยในกลางเดือนตุลาคมนี้ เจ้าตัวจะมีอายุครบ 25 ปีพอดี เจ้าหน้าที่ในทีมยืนยันว่า โจ้เป็นนักดำน้ำฝีมือดี มีประสบการณ์สูงและได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมงาน

ขณะที่เวลาประมาณ 16.00 น. ทีมนักประดาน้ำพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายร่างคนใต้น้ำ แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดกลับพบว่าเป็นเพียงกิ่งไม้ใหญ่ จึงยุติภารกิจชั่วคราวเนื่องจากลมฝนแรงและกระแสน้ำเชี่ยว อย่างไรก็ตาม ทีมค้นหายืนยันจะดำเนินภารกิจต่อเนื่องจนกว่าจะพบร่างของ “น้องโจ้”

#กู้ภัยนครสวรรค์ #อุบัติเหตุ #สี่แควนิวส์

สี่แควนิวส์

09/10/2025

09/10/2025

09/10/2025

09/10/2025

08/10/2025

08/10/2025

08/10/2025

08/10/2025

08/10/2025

07/10/2025

06/10/2025

05/10/2025

ที่อยู่

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

ทางลัด

แชร์

ประเภท