02/10/2025
คณะทูตฯ 21 ประเทศ ดูงานอุตสาหกรรมยาง พร้อมเยี่ยมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่
คณะทูตจาก 21 ประเทศ ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สาขาอันวาร์ และเยี่ยมชมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ส่งเสริมความเชื่อมั่นเมืองสงขลาน่าเที่ยว พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในภาคใต้
เมื่อวานนี้ (30 ก.ย. 2568) เป็นวันที่สองของการลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ภายใต้โครงการเสริมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับต่างประเทศ จัดโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ คณะทูตจาก 21 ประเทศในยุโรปและเอเชียได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจการของ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สาขาอันวาร์ และพื้นที่สวนยางพาราของกลุ่มบริษัทศรีตรัง โดยมีนายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทศรีตรัง พร้อมด้วยนายวิทย์นาถ สินเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ฯ คณะผู้บริหารระดับสูง นายอำเภอสะเดา หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
การศึกษาดูงานครั้งนี้ มุ่งเรียนรู้ระบบการทำงานและศักยภาพขององค์กรในหลายมิติ ทั้งประวัติความเป็นมา จุดแข็งของห่วงโซ่อุตสาหกรร,ยางพาราแบบครบวงจร รวมถึงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ภายใต้แนวคิด “Clean World Clean Gloves” หรือ “ถุงมือสะอาด โลกสะอาด” เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน คณะทูตได้เยี่ยมชมตัวอย่างผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิตถุงมือมาตรฐานโลกที่ผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งร่วมสาธิตและทดลองกรีดยางพาราด้วยตนเอง
นายวิทย์นาถ สินเจริญกุล เปิดเผยว่า โรงงานสาขาอันวาร์เป็นหนึ่งใน 14 โรงงานผลิตถุงมือยางของศรีตรังโกลฟส์ฯ ที่ตั้งอยู่ในภาคใต้ทั้งหมด การเยี่ยมชมครั้งนี้สะท้อนศักยภาพอุตสาหกรรมถุงมือยางของไทย ตลอดจนบทบาทของเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งนอกจาก
จะเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศแล้ว ยังช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในภาคใต้ และสนับสนุนบทบาทของไทยบนเวทีโลก
อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ในช่วงบ่าย คณะทูตได้ลงพื้นที่ ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์การค้าชายแดนไทย–มาเลเซีย โดยมีนายเสรีรัตน์ เขมะอุดม ผู้อำนวยการสำนักบริหารศุลกากร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและนำเยี่ยมชมการดำเนินงานของด่านพรมแดนฝั่งขาเข้า
ด่านศุลกากรสะเดาเป็นประตูเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ เชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับมาเลเซีย โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 400,000 ล้านบาท สินค้านำเข้าหลัก 5 อันดับแรก ได้แก่ จานบันทึกอุปกรณ์หน่วยเก็บความจำ วงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์ ของผสมสารที่มีกลิ่นหอม เครื่องประมวลผลอัตโนมัติ (แล็ปท็อป)
และอุปกรณ์ควบคุมระบบไฟฟ้า
การลงพื้นที่ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมยางพาราและการค้าชายแดนเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความเข้าใจ เสริมสร้างความร่วมมือ และตอกย้ำบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ของจังหวัดสงขลาในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ของประเทศไทย
H.E. Mr. Masato Otaka (นายมาซาโตะ โอตากะ) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า หลายคน
ที่ยังไม่เคยเดินทางมาจังหวัดสงขลา มักมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ คิดว่าอาจน่ากังวลหรือไม่ปลอดภัย จนไม่กล้าเดินทางมา แต่ในความเป็นจริง ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติสุข
นายมาซาโตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้มีโอกาสเยี่ยมชมย่านเมืองเก่าสงขลา พร้อมทั้งสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งสร้างความประทับใจอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนรู้สึกประทับใจที่สุด คือการได้เยี่ยมชม บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่มีแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
โดยคำนึงถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรม
ภาพ - ข่าว : NBT สงขลา