22/03/2023
‘ชูวิทย์’ ตอบ ษิทรา แฉ ‘ซัว’ …
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์
“แฉไป ไถไป?
เงิน 2 ถุง ถุงละ 3 ล้าน ที่ทนายตั้มพูดถึง เห็นแล้วจำได้ชัดเจน
เป็นเงินที่นายตำรวจผู้ใหญ่นอกราชการคนหนึ่งที่ผมรู้จักมานาน นำมาให้ที่โรงแรมของผม
โดยบอกว่าเป็นเงินของ “ซัว” ให้ผมช่วยหยุดโจมตี
ผมบอกไปว่า “ไม่รับเคลียร์”
มันไม่สามารถช่วยอะไรได้ ผมยังต้องแฉต่อ
แต่นายตำรวจท่านดังกล่าว ยืนยันยัดเยียดให้ผมรับไว้
และสิ่งที่ง่ายที่สุด คือ ผมเก็บเงินไปใช้ส่วนตัว เพราะไม่มีใครทราบ
แต่ผมเลือกที่จะนำเงินในถุงแรกจำนวน 3 ล้าน ไปบริจาคให้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วาเลนไทน์เดือนที่แล้ว
และอีกถุงจำนวน 3 ล้านเท่ากัน ไปบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งสองครั้งมีสื่อมวลชนไปทำข่าวเป็นสักขีพยาน
และผมก็ยังแฉเรื่อง “ซัว” อย่างต่อเนื่อง
หลักการของผมชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่ปฏิเสธ แต่เงินที่ยัดมาไม่เคยคิดจะใช้ส่วนตัวแม้แต่สักบาทเดียว
หากผมจะเก็บไปใช้เอาไว้แจกอีหนูก็ได้ แต่เงินแค่นี้ไม่มีความหมาย
หากมี 50 ล้านมาให้อย่างที่ทนายตั้มว่าจริง ผมก็นำไปบริจาคอีก
จะเรียกผมว่าอะไรก็ได้
นักบุญคนบาป โรบินฮู้ด นักแฉใจบุญ
หรือใครจะเอาอย่างผมก็ได้
แต่ส่วนใหญ่มันรับแล้วเข้ากระเป๋าตัวเองทั้งนั้น ลองถามทนายตั้มดูสิครับ
อย่าเรียกผมว่าคนดี หรือมาศรัทธาอะไรผมเลยครับ
ผมก็ไม่ใช่ “ฮีโร่” อยู่แล้ว
ส่วนใครจะตราหน้าผม ก็ขอรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า ผมนั้นเป็นโจร
เพียงแต่เป็น ”โจรที่เอาเงินบาปไปทำบุญ”
ยังนึกไม่ออกเลย จะทำให้ดีกว่านี้ได้ยังไง
ใครรู้ช่วยบอกที
คนที่จะถ่ายรูปถุงเงินนี้ได้ ก็น่าจะต้องเป็นเจ้าของเงิน
คนที่ให้รูปทนายตั้มบอกว่ายังไง?
เงิน 50 ล้านที่ไหน? ผมจะรอฟัง”
และเขียนเพิ่มต่อมาว่า
“นี่ยังดีนะที่ผมเอาเงินไปบริจาค มีหลักฐานเห็นชัดๆ
ถ้าเอาไปใช้ส่วนตัว ซวยตายห่า
ส่วนพวกสีเทาจะมาบริจาคให้ผมอีกก็ได้
ทำบุญบ้าง ให้มาเท่าไหร่ เอาไปบริจาคเท่านั้น
แต่ผมไม่หยุดแฉนะครับ”
CR : FB ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
#เลือกตั้ง66
#ชูวิทย์ #ทุนจีน #รัฐบาล #การเมือง
#คลิปเด็ด #การเมือง #สภา #นักการเมือง #หาเสียง
#ข่าวดัง #ทันเหตุการณ์ #พรรคการเมือง #นายกฯ
#สยามนิวส์
แฉไป ไถไป?
เงิน 2 ถุง ถุงละ 3 ล้าน ที่ทนายตั้มพูดถึง เห็นแล้วจำได้ชัดเจน
เป็นเงินที่นายตำรวจผู้ใหญ่นอกราชการคนหนึ่งที่ผมรู้จักมานาน นำมาให้ที่โรงแรมของผม
โดยบอกว่าเป็นเงินของ “ซัว” ให้ผมช่วยหยุดโจมตี
ผมบอกไปว่า “ไม่รับเคลียร์”
มันไม่สามารถช่วยอะไรได้ ผมยังต้องแฉต่อ
แต่นายตำรวจท่านดังกล่าว ยืนยันยัดเยียดให้ผมรับไว้
และสิ่งที่ง่ายที่สุด คือ ผมเก็บเงินไปใช้ส่วนตัว เพราะไม่มีใครทราบ
แต่ผมเลือกที่จะนำเงินในถุงแรกจำนวน 3 ล้าน ไปบริจาคให้โรงพยาลธรรมศาสตร์ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วาเลนไทน์เดือนที่แล้ว
และอีกถุงจำนวน 3 ล้านเท่ากัน ไปบริจาคให้โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งสองครั้งมีสื่อมวลชนไปทำข่าวเป็นสักขีพยาน
และผมก็ยังแฉเรื่อง “ซัว” อย่างต่อเนื่อง
หลักการของผมชัดเจนตรงไปตรงมา ไม่ปฏิเสธ แต่เงินที่ยัดมาไม่เคยคิดจะใช้ส่วนตัวแม้แต่สักบาทเดียว
หากผมจะเก็บไปใช้เอาไว้แจกอีหนูก็ได้ แต่เงินแค่นี้ไม่มีความหมาย
หากมี 50 ล้านมาให้อย่างที่ทนายตั้มว่าจริง ผมก็นำไปบริจาคอีก
จะเรียกผมว่าอะไรก็ได้
นักบุญคนบาป โรบินฮู้ด นักแฉใจบุญ
หรือใครจะเอาอย่างผมก็ได้
แต่ส่วนใหญ่มันรับแล้วเข้ากระเป๋าตัวเองทั้งนั้น ลองถามทนายตั้มดูสิครับ
อย่าเรียกผมว่าคนดี หรือมาศรัทธาอะไรผมเลยครับ
ผมก็ไม่ใช่ “ฮีโร่” อยู่แล้ว
ส่วนใครจะตราหน้าผม ก็ขอรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า ผมนั้นเป็นโจร
เพียงแต่เป็น ”โจรที่เอาเงินบาปไปทำบุญ”
ยังนึกไม่ออกเลย จะทำให้ดีกว่านี้ได้ยังไง
ใครรู้ช่วยบอกที
คนที่จะถ่ายรูปถุงเงินนี้ได้ ก็น่าจะต้องเป็นเจ้าของเงิน
คนที่ให้รูปทนายตั้มบอกว่ายังไง?
เงิน 50 ล้านที่ไหน? ผมจะรอฟัง