Triple J Communication

08/07/2025

ยังทันไหม.... พูดจริงบ้างไม่จริงบ้างเกือบจะหมดวันแล้ว

7 กรกฎาคม วันพูดความจริง รากฐานสำคัญของการกำกับดูแลที่ดี (G) ในโลก ESG

🗣

วันนี้ 7 กรกฎาคม "วันพูดความจริง" (Tell the Truth Day) เพื่อระลึกถึงการแสดงความซื่อสัตย์ จริงใจต่อกัน กระตุ้นให้ผู้คนพูดความจริงต่อกันมากขึ้น
ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงวันพิเศษที่เราให้ความสำคัญกับการซื่อสัตย์ในระดับบุคคลเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงคุณค่าที่สำคัญอย่างยิ่งต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Governance) ภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social, Governance)


การ "พูดความจริง" ในบริบทขององค์กร คือหัวใจของ "ความโปร่งใส" (Transparency) และ "ความรับผิดชอบ" (Accountability) ซึ่งเป็นเสาหลักของตัว G

- ความโปร่งใส คือการเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และทันเวลา ไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการ ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม หรือผลกระทบทางสังคม คือกุญแจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน พนักงาน ลูกค้า หรือแม้แต่ชุมชน

- ความรับผิดชอบ การกล้ายอมรับความจริง ไม่ว่าจะดีหรือร้าย คือการแสดงออกถึงความเป็นผู้นำที่มีความรับผิดชอบ ซึ่งนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด และการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

- จริยธรรมและความซื่อสัตย์ องค์กรที่ยึดมั่นในการพูดความจริง สร้างวัฒนธรรมแห่งความซื่อสัตย์สุจริต จะเป็นเกราะป้องกันความเสี่ยง และสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนในระยะยาว

ในโลกที่ความยั่งยืนกำลังเป็นบรรทัดฐาน องค์กรที่กล้า "พูดความจริง" จะเป็นองค์กรที่ได้รับความไว้วางใจ และเติบโตได้อย่างมั่นคงบนพื้นฐานของธรรมาภิบาลที่แข็งแกร่ง

มาร่วมกันสร้างสรรค์วัฒนธรรมองค์กรที่กล้าหาญในการ "พูดความจริง" เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน

#7กรกฎาคม #วันพูดความจริง #ธรรมาภิบาล #ความโปร่งใส #ความรับผิดชอบ #ความยั่งยืน

08/07/2025

ยังไม่อยากถึงตอนนั้นเลย บอกตรงๆ

ช่วงนี้สายฝนเริ่มโหมกระหน่ำกรุงเทพฯ อีกครั้ง ด้วยความหวั่นเกรงว่าน้ำจะท่วมโลกขึ้นมา เราเลยกลับไปดูภาพยนตร์เรื่อง Flow ที่เพิ่งลงสตรีมมิ่งเจ้าดังไปหมาดๆ มันทำให้เราหวนคิดถึงความเป็นไปได้ที่อนาคตข้างหน้าอารยธรรมโลกเราอาจแหลกสลาย เหลือเพียงสัตว์น้อยดังเช่นในภาพยนตร์ก็ได้
Flow (2024) ภาพยนตร์แอนิเมชันดีกรีรางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชัน และผู้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันขนาดเล็กจากประเทศลัตเวีย ที่เล่าถึงการผจญภัยของแมวดำตัวน้อยกับผองเพื่อนสรรพสัตว์ ที่ต้องพากันหนีน้ำท่วมโลก ในวันที่อารยธรรมล่มสลายและไร้ซึ่งมนุษย์
เหตุการณ์น้ำท่วมโลกในภาพยนตร์ทำให้เรานึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตจริง ที่ระดับน้ำทะเลกำลังขึ้นสูงจาภาวะโลกร้อน ทำให้น้ำแข็งละลายและน้ำทะเลขยายตัว ส่งผลให้เมืองชายฝั่งหลายแห่งที่อยู่ในภาวะเสี่ยงจมบาดาลลงลึกสู่ก้นทะเล
ข้อมูลของนาซา (NASA; National Aeronautics and Space Administration) ได้ระบุไว้ว่าตั้งแต่ปี 1993-2024 ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นเฉลี่ย 10 เซนติเมตร มันอาจดูไม่มากนัก ทว่าหากเกิดฝนตกหนัก พายุเข้า และน้ำนอง อาจทำให้ระดับน้ำจากแม่น้ำพุ่งสูงจนทะลักเข้าสู่ตัวเมืองได้โดยง่าย
ซึ่งเมืองที่จะจมลงทะเลไวที่สุดหนีไม่พ้นจาร์การ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ที่ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นกว่า 17 เซนติเมตรต่อปี โดยมีการคาดการณ์ว่าบริเวณส่วนใหญ่ของเมืองจะอยู่ใต้น้ำภายในปี 2050 จนทำให้ต้องดำเนินการย้ายหนีไปที่เมืองกรุงนุสันตารา
ขณะที่กรุงเทพฯ กลายเป็นอีกเมืองที่เสี่ยงจมลงสู่ทะเลเป็นอันดับที่ 7 ของโลก เรามีอัตราการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำราว 1-2 เซนติเมตร ซึ่งอาจทำให้เราอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลได้ภายในปี 2030 หากไม่มีการแก้ไขอะไร กรุงเทพฯ อาจจมอยู่ใต้น้ำได้ในสักวันหนึ่ง
เห็นได้ว่าระดับน้ำทะเลหนุนสูงไม่ใช่เพียงเรื่องของเจ้าแมวดำและผองเพื่อนในภาพยนตร์ Flow เท่านั้น หากแต่มันยังอยู่ใกล้ตัวมนุษย์อย่างพวกเรามากกว่าที่คิด
#ภาพยนตร์ #น้ำท่วมโลก #สัตว์โลก
ที่มา : https://www.imdb.com/title/tt4772188/awards/
https://climate.nasa.gov/vital-signs/sea-level/?intent=121
https://www.climate.gov/news-features/understanding-climate/climate-change-global-sea-level
https://climatalk.org/2024/10/29/indonesias-new-capital-city-an-environmental-justice-perspective
https://www.abc.net.au/news/2023-08-11/bangkok-is-sinking-residents-warn-rising-seas-will-swallow-city/102559364

08/07/2025

รู้จักเศรษฐกิจฐานรากไหม มีความสำคัญอย่างไร แล้วเรามีส่วนช่วยได้อย่างไรได้บ้าง ไปหาคำตอบพร้อมกัน #นวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม #พลังงานเพื่อชีวิต #ชุมชนเข้มแข็ง #ยั่งยืน #เกษตรกร

04/07/2025

การจะสร้างความเข้มแข็งให้ยั่งยืน เศรษฐกิจฐานรากเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แล้วจะมีแนวทางอะไรให้เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็งไปติดตามพร้อมกันเลย
#พลังงานเพื่อชีวิต #เกษตรกร #ชุมชน #สิ่งแวดล้อม #นวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม #สินค้าชุมชน #ชุมชนเข้มแข็ง #ท่องเที่ยวทั่วไทย #ยั่งยืน

28/06/2025

ไปดูพลังของพลังกัน ว่าเป็นยังไง...

พลังของพลังจริงๆ #ปิโตรเลียม #พลังของพลัง

27/06/2025

ใครสนใจเพิ่มพื้นที่สีเขียว ต้นมะสังดัดบอนไซ ติดต่อกันได้เลยค่ะ
กลุ่ม Tree Smile 065-378-0645
#ต้นไม้มงคล #ต้นไม้ #ชุมชน #เกษตรกร #ปตท #สิ่งแวดล้อม #พลังงานเพื่อชีวิต #จังหวัดปราจีนบุรี

26/06/2025

🤗มาจ้าาา.... คนบ้านเดียวกัน แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่ ชวนมาเที่ยวงานนี้ให้หายคิดถึงบ้านเพราะตั้งแต่วันนี้ได้ยกมหาสารคามมาไว้ที่กรุงเทพฯแล้ว !!!!😙

🩷สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ขอเชิญชวนคนกรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง ชิม ชิล แช๊ะ แชร์ เลือกซื้อสินค้าดี มีคุณภาพส่งตรงจากผู้ประกอบการ OTOP SMEs จังหวัดมหาสารคาม ภายในงานจะได้พบกับสินค้า OTOP SMEs คุณภาพเยี่ยม ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีจากใจกลางอีสานและเพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนในการเพิ่มช่องทางการตลาดได้อย่างแพร่หลาย ซึ่งนำสินค้า ของกิน ของใช้และของประดับ กว่า 43 คูหา อาทิ เสื้อกกทองใบเต่างอย ปากหม้อในหลีบ กลุ่มผ้าฝ้ายย้อมครามหมักโคลน กลุ่มมันแกว GI ตานัน กลุ่มทอผ้าบ้านดอนงัว สุรภากระเป๋าหนังแท้ แบ๊กสมุนไพร สาระพันธุ์ข้าว และนางเล็ด 7 ชุมชน ฯลฯ มาร่วมจัดแสดงภายในงาน “ ฮักหลาย…มหาสารคาม 160 ปี สร้างชุมชนสู่การพัฒนา สร้างสรรค์ภูมิปัญญา ก้าวไกลสู่สากล” ครั้งที่ 2 ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.30 น.

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดลุ้นรับของรางวัล ช่วงนาทีทองทุกวัน และพลาดไม่ได้การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงตลอดงาน โดยในวันที่ 26 มิถุนายน 2568 พบกับการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้อง “นัท มานิสา”

แล้วพบกัน ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.30 น.

18/06/2025

ใครว่ารักตัวเองไม่เจ็บแล้ว การรักษ์โลกก็ไม่เจ็บเลยสักวันเหมือนกัน

🌍 ร่วมด้วย ช่วยกันรักษ์โลกฉบับอับดุลเอ้ย! 🌎💚
▫️
“ให้โลกเราสวยพวกเรามาช่วยกันนะนายจ๋า” ช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี เดือนนี้มีวันสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมโลกคือวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี แม้ว่าจะผ่านไปแล้วแต่เราก็ยังต้องดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ช่วยกันลดโลกร้อนกันต่อไปนะจะนายจ๋า
▫️
ถ้าใครยังไม่ได้เริ่ม แล้วไม่รู้จะเริ่มยังไง อับดุลมีวิธีแนะนำบอกเลยจ๊ะนายจ๋า “ทำได้ ทำง่าย ทำเลย” นั่นคือการช่วยกันประหยัดพลังงานนั่นเอง เพราะการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจะมีช่วยช่วยให้เราใช้พลังงานน้อยลง เมื่อใช้พลังงานน้อยลงก็มีส่วนช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกได้ ยิ่งช่วงนี้หน้าร้อนบ้านนายจ๋าเปิดแอร์กระหน่ำเลยไหม ถ้าใช่ ลดๆลงหน่อย อับดุลลองแล้วได้ผลค่าไฟจากที่เคยพุ่งขึ้น ก็พุ่งลงเลยจะนายจ๋า
▫️
และเพื่อให้นายจ๋าช่วยกันประหยัด และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ อับดุลมีสูตรลับ 5 ป. ฉบับอับดุลเอ้ย! ทำแล้วโลกยิ้ม เราก็ยิ้มเพราะเงินในกระเป๋าเรายังเหลือ ๆ กับวิธีง่าย ๆ ได้แก่
▫️
🌟 1. ปิด: อะไรไม่ได้ใช้ ปิดมันซะ! เปิดไฟห้องน้ำทั้งวัน? เปิดทีวีทิ้งไว้? เสียบชาร์จมือถือลืมถอดปลั๊ก? พฤติกรรมแบบนี้มันเปลืองทั้งพลังงาน เปลืองทั้งเงิน! 😩 ปิดไฟเมื่อออกห้อง ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้ ง่าย ๆ แค่นี้ก็ช่วยโลกแล้ว! คิดดูนะอับดุลเอ้ย! ปิดพัดลม 1 ตัว วันละ 4 ชั่วโมง เดือนนึงประหยัดได้หลายสิบบาท!
▫️
🌟 2. ปรับ: แอร์ไม่ต้องหนาวสั่น 26°C ก็พอ! แถมเปิดพัดลมช่วย บ้านก็เย็นฉ่ำ คนก็แฮปปี้ โลกก็ไม่แบกภาระ! 🌬️😌
▫️
🌟 3. ปลด: ดึงปลั๊กเมื่อไม่ใช้! ไม่เปิดก็ยังเปลืองได้! 😱 ทีวี เครื่องเล่นเกม แท่นชาร์จ พวกนี้มันยังแอบดูดไฟอยู่! ง่ายสุดคือ "ถอดปลั๊ก" หรือใช้ปลั๊กพ่วงมีสวิตช์ตัดไฟ นอกจากประหยัด ยังลดเสี่ยงไฟช็อตด้วยนะอับดุลเอ้ย! 🔌🤏
▫️
🌟 4. เปลี่ยน: เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องเก่า ๆ กินไฟยังกับปอบลง! 👻 เปลี่ยนมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 สิ ประสิทธิภาพในการประหยัดไฟสูงคุ้มค่าสุด ๆ ไม่ว่าตู้เย็น แอร์ พัดลม หลอดไฟ อัปเกรดด่วนจี๋เลยนายจ๋า! 🔌✨
▫️
🌟 5. ปลูก: ต้นไม้เย็นใจ คนก็เย็น โลกก็เย็น! อะไรจะดีไปกว่าการ "ปลูกต้นไม้" 🌳 ร่มรื่น ลดร้อน ดูดซับคาร์บอน เพิ่มออกซิเจน แถมสวยงาม! ไม่ต้องมีพื้นที่เยอะ กระถางเล็ก ๆ ก็ช่วยโลกได้แล้ว! ปลูกต้นไม้ยังได้ออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยนะ! 🌿💪
▫️
อย่ารอให้โลกส่งสัญญาณเตือนแรงกว่านี้ เราทุกคนช่วยได้ เริ่มที่บ้านตัวเองวันนี้เลย! เพราะ "การรัก(ษ์)โลก" ไม่ใช่หน้าที่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของพวกเราทุกคนนะจ๊ะนายจ๋า! 🌎💚
▫️
ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/16DgC99NSR/

18/06/2025

ลมเอยช่วยพัดพาก๊าซเรือนกระจกให้ที

‘ลม’ มวลอากาศที่เคลื่อนตัวได้อย่างอิสระ ไร้รูปร่างแน่ชัดแต่สามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ หนึ่งในสิ่งที่มนุษย์เราหยิบมาใช้เล่นแร่แปรธาตุให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าในสัดส่วนที่มากกว่า 10% ของพลังงานไฟฟ้าทั่วทั้งโลก และเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยผลักดันให้โลกเข้าใกล้ยังเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ตามกรอบระยะเวลา
แต่จะดีแค่ไหน ถ้ากังหันลมไม่ได้แค่ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เท่านั้น แต่ยังสามารถสกัดก๊าซเรือนกระจกออกจากอากาศได้ด้วย?
“หากเราไม่สามารถควบคุมการปล่อยมลพิษได้จริงๆ เราจำเป็นต้องควบคุมสิ่งที่อยู่ในอากาศ และอีกวิธีหนึ่งในการจัดการเรื่องนี้คือการลดก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ” Yuri Tsitrinbaum ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ BomVento บริษัทสตาร์ทอัพน้องใหม่จากประเทศอิสราเอลกล่าว
ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวคือ การใช้กังหันลมผลิตพลังงานสะอาดและใช้สารเคลือบพิเศษที่มาจากกระบวนการทางเคมี ที่ชื่อว่า photocatalysis หรือการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง ในการแปลงไนตรัสออกไซด์(N2O) ให้เป็นไนโตรเจน(N2) และออกซิเจน(O2) และมีเทน(CH4) ให้เป็นน้ำ(H2) และคาร์บอนไดออกไซด์ (C2O) ซึ่งถือเป็นการลดระดับความรุนแรงของภาวะเรือนกระจกให้กับโลกได้มากขึ้น
และเพื่อให้เห็นภาพเปรียบเทียบง่ายขึ้น ผู้ก่อตั้งได้ยกตัวอย่างถึงรถยนต์ที่มีตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งจะอยู่ในห้องที่เชื่อมต่อกับท่อไอเสีย ที่ภายในมีความร้อน (พลังงาน) และโลหะมีค่า (ตัวเร่งปฏิกิริยา) ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่เปลี่ยนโมเลกุลที่เป็นอันตรายให้เป็นโมเลกุลที่ไม่เป็นอันตราย ช่วยลดมลพิษจากเครื่องยนต์ของรถยนต์ได้มากถึง 70%
หลักการทำงานคล้ายกัน แต่กระบวนการ photocatalysis ที่มาในรูปแบบของสารละลายเคลือบใบพัด (อาจเป็นฟิล์ม หรือสารคล้ายสี) นั้นมีราคาถูกกว่ามาก ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการกำจัดก๊าซเรือนกระจกออกจากชั้นบรรยากาศให้เหลือเพียงไม่ถึง 50 ดอลลาร์ต่อตัน ทั้งที่เดวิด เวบบ์ หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Boston Consulting Group หนึ่งในสามบริษัทที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกระบุว่าต้นทุนการกำจัดก๊าซเรือนกระจกตอนนี้อยู่ที่ 600-1,000 ดอลลาร์ต่อตัน
Yuri Tsitrinbaum คาดการณ์ว่ากังหันลมขนาด 7 เมกะวัตต์จะสามารถกำจัดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 10,000 ตันต่อปีหากใช้โซลูชัน BomVento และลองนึกภาพว่าหากมีกังหันลมราว 300,000 เครื่องทั่วโลกใช้เทคโนโลยีนี้ นั่นหมายความว่าก๊าซเรือนกระจกจะถูกกำจัดได้มากถึง 3 พันล้านตันต่อปีทีเดียว
แต่การเดินทางครั้งนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนวิจัยและพัฒนา ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกหนึ่งปีครึ่งในการพัฒนาแนวคิดนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ และอีกสองปีครึ่งเพื่อจะพร้อมสำหรับวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ เพราะการเข้าถึงเงินทุนก็ถือเป็นความท้าทายด่านใหญ่ของสตาร์ทอัพน้องใหม่เสมอ และหากถึงวันที่เทคโนโลยีนี้สำเร็จเป็นจริงแล้ว เราจะกลับมาเล่าให้ฟังใหม่อีกครั้งนะ
#กังหันลม #พลังงานลม #พลังงานสะอาด
ที่มา: https://nocamels.com/2024/08/transforming-wind-turbines-into-killers-of-greenhouse-gasses/
https://climaccelerator.climate-kic.org/news/carbon-removal-climaccelerator-start-up-spotlight-bomvento/
https://blueconomy-il.com/startups/bomvento/

13/06/2025

ปตท.สผ. ครบรอบ 40 ปี ภูมิใจภารกิจสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ

ส่งเพลง “พลังของพลัง” ผ่านศิลปิน ตูน อาทิวราห์-แอลลี่ ถ่ายทอดพลังให้กับทุกพลัง

ปตท.สผ. ครบรอบ 40 ปี เน้นย้ำการทำหน้าที่สร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศอย่างเข้มแข็ง โดยมุ่งแสวงหาแหล่งพลังงานทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รองรับความต้องการใช้พลังงานของประเทศและประชาชน ถ่ายทอดความมุ่งมั่น 4 ทศวรรษ ผ่านบทเพลงใหม่ “พลังของพลัง” โดย 2 ศิลปิน ตูน อาทิวราห์ และ แอลลี่ อชิรญา เพื่อส่งพลังให้กับทุกคน

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า เมื่อ 40 ปีที่แล้ว ด้วยวิสัยทัศน์ของรัฐที่มุ่งหวังให้ประเทศไทยสามารถดำเนินการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียมเองได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการพึ่งพาตนเอง ด้านพลังงาน และสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ เจตนารมณ์ดังกล่าวคือจุดเริ่มต้นของ ปตท.สผ. ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2528 โดยการแยกหน่วยงานมาจาก ปตท. ภารกิจที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวนั้นเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เนื่องจากในช่วงเวลานั้น บริษัทไทยยังมีข้อจำกัดทั้งความรู้ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ เทคโนโลยี และเงินลงทุน จึงต้องเริ่มต้นเรียนรู้ ฝึกฝน สั่งสมประสบการณ์ และในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากจุดเริ่มต้นในปี 2528 ซึ่ง ปตท.สผ. เข้าร่วมทุนในโครงการเอส 1 (แหล่งสิริกิติ์) กับบริษัทน้ำมันนานาชาติ ปตท.สผ. มีอัตราการผลิตประมาณ 5,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณน้ำมันดิบที่ได้รับตามสัดส่วนการเข้าร่วมทุนในขณะนั้น ผ่านมา 4 ทศวรรษ จนถึงปัจจุบัน ปตท.สผ. ขยายการดำเนินงานในโครงการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม ไปกว่า 50 โครงการ ใน 13 ประเทศทั่วโลก มีอัตราการผลิตทั้งน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และคอนเดนเสท รวมประมาณ 700,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันจากโครงการผลิตในประเทศไทย มาเลเซีย เมียนมา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน แอลจีเรีย เป็นต้น

สำหรับในประเทศไทย ปตท.สผ. สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ประมาณร้อยละ 82 ของปริมาณก๊าซธรรมชาติทั้งหมดที่ผลิตได้ในประเทศ ส่วนใหญ่มาจากโครงการ G1/61 โครงการ G2/61 และโครงการอาทิตย์ ในอ่าวไทย ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เป็นเชื้อเพลิง ในการผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การผลิต การขนส่งและคมนาคม โทรคมนาคม เทคโนโลยี สาธารณสุข การศึกษา และอื่น ๆ ไปจนถึงการใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชน ก๊าซธรรมชาติ

ในอ่าวไทยยังมีองค์ประกอบที่ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกจำนวนมาก อุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมากจากค่าภาคหลวง ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ส่วนแบ่งกำไรจากระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต เงินผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ รายได้อื่น ๆ และรายได้จากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย เพื่อนำไปใช้พัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ สำหรับ ปตท.สผ. นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทจนถึงปี 2567 ได้นำส่งรายได้ดังกล่าว รวมทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้กับรัฐกว่า 891,000 ล้านบาท

การเป็นผู้ดำเนินการ (Operator) แหล่งปิโตรเลียมที่สำคัญทั้งในอ่าวไทยและบนบกดังกล่าวนั้น นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของ ปตท.สผ. ที่ได้ทำหน้าที่ในการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศได้อย่างต่อเนื่องตามเจตนารมณ์ของการก่อตั้งบริษัท ซึ่ง ปตท.สผ. จะเดินหน้าภารกิจนี้อย่างเข้มแข็งต่อไป พร้อมกับขยายการดำเนินงานทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ พัฒนาการผลิตปิโตรเลียมให้สะอาดมากยิ่งขึ้น สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในกระบวนการผลิต และการนำเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Carbon Capture and Storage (CCS) มาใช้ รวมถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกป่าอีก 2 แสนไร่ นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจศึกษาพลังงานรูปแบบใหม่ในอนาคต เพื่อความยั่งยืนด้านพลังงาน

ควบคู่ไปกับการแสวงหาแหล่งพลังงาน ปตท.สผ. มีแนวทางในการส่งเสริมสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม โดยได้ดำเนินการโครงการและกิจกรรมหลายด้าน เพื่อให้เกิดการพัฒนาและการเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น โครงการ “ทะเลเพื่อชีวิต” (Ocean for Life) ซึ่งช่วยสร้างความสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล สร้างอาชีพ และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย รวมทั้ง มีโครงการและกิจกรรมที่ส่งเสริมความต้องการพื้นฐาน การศึกษา สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ให้กับชุมชนในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติการต่าง ๆ ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

“ความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่สร้างความมั่นคงทางพลังงานของ ปตท.สผ. ตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมา เปรียบเหมือน พลังของพลัง คือเป็นพลังที่ช่วยขับเคลื่อนพลังของประเทศให้เติบโต และเป็นพลังที่สนับสนุนทุกคนให้สามารถทำภารกิจ ทำหน้าที่ เพื่อเป้าหมายให้สำเร็จ ปตท.สผ. เองก็เช่นกัน เกิดขึ้นจากพลังของทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุนบริษัทมาโดยตลอดทั้งภาครัฐ ปตท. ผู้มีคุโณปการ ผู้บริหารและพนักงานในทุกยุคสมัยในช่วงเวลา 40 ปี ซึ่งผมเชื่อว่าชาว ปตท.สผ. ในทุกยุคสมัย ภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่นี้ และจะยังคงเดินหน้าภารกิจนี้ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ” นายมนตรี กล่าว

02/06/2025

โรคนี้มาทุกฤดูจริงๆ โดยเฉพาะฤดูฝนที่ต้องระวังตัวกันดีๆ

ไข้เลือดออกรุนแรงมีอาการแบบไหน แตกต่างจากไข้เลือดออกทั่วไปอย่างไร แล้วมีวิธีป้องกันรักษาอย่างไร เป็นคำ...