Drive World

26/10/2025

MG IM6 Performance ความแรงเกินราคา ออปชั่นครบ ขอแค่ลองเปิดใจ!?...เพราะก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า การจะเลือกซื้อรถซักคันต้องตัดสินใจ และพิจารณาจากหลากหลายส่วน ไม่ว่าจะความคุ้มค่า หน้าตา ข้าวของที่ให้ รวมไปถึงความมั่นใจในตัวแบรนด์จนไปถึงศูนย์บริการ
กับภาพจำของ MG ทุกวันนี้ เราก็ต้องยอมรับกันอย่างตรงไปตรงมาว่า ดีขึ้นในหลากหลายมิติ และกับคลิป (ลิ้งก์ใต้โพส) เรามีโอกาสได้มารีวิวแบรนด์ตัวบนของทางค่าย นั่นคือ IM (Intelligent Mobility) เดี๋ยวเรามาดูซิ้ว่า เกิดมาเพื่อเทียบรัศมีเพื่อนชาวยุโรป ญี่ปุ่น เก่าหลี รวมไปถึงแบรนด์จีนด้วยกันเองจะมีสิ่งใดน่าสนใจกันบ้าง เจ้า MG IM6 Performance คันนี้จะถูกใจ-ไม่ถูกใจผมตรงไหน เดี๋ยวเราไปรับชมพร้อมๆกันเลยครับ
ราคาค่าตัวของ MG IM6 MY 2025 (พร้อมส่วนลด)
Premium RWD : 1,299,900 บาท
Premium Long Range RWD : 1,499,900 บาท
Performance AWD : 1,699,900 บาท
และสำหรับทั้งหมดนี้ต้องขอขอบพระคุณ MG Thailand ‪ที่เอื้อเฟ้อรถทดสอบ MG IM6 Performance AWD ให้พวกเรา Drive World ‪นำมารีวิวครับ
สำหรับวันนี้สวัสดีครับ

24/10/2025

รถไฟฟ้าสมัยนี้ต้องราคาเท่าไหร่ถึงจะพอใจคนซื้อกันแน่นะ?🤨
Volvo เขาว่าตัวเลขที่ใช่คือ 2,990,000 บาทครับ กับเจ้า Volvo ES90 ซีดานไฟฟ้าขนาดกลางที่มาพร้อมความมินิมอลแบบสแกนดิเนเวีย🇸🇪
แต่เทคโนโลยีจัดเต็มแบบไม่มีกั๊ก
คันนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 92 kWh สถาปัตยกรรมแบต 800 โวลต์ วิ่งได้ไกลสุดถึง 755 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ชาร์จ DC ได้สูงสุด 350 กิโลวัตต์ เรียกว่าถ้าหาที่ชาร์จดี ๆ ก็พักจิบกาแฟแป๊บเดียวรถก็พร้อมลุยต่อแล้ว🔋
ขุมพลังขับเคลื่อนล้อหลัง 338 แรงม้า ฟีลขับเนียนแต่มีแรงดึงให้พอสนุก กดคันเร่งแล้วรู้เลยว่าพี่เขาไม่ธรรมดานะครับ
เรื่องดีไซน์ก็ยังคงเอกลักษณ์ของ Volvo แบบเต็มร้อย ทั้งไฟหน้า Thor’s Hammer ที่เห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเป็นรถค่ายนี้แน่นอน เส้นสายตัวรถดูเรียบแต่แพง ส่วนภายในก็มินิมอลดูพรีเมียมสุด ๆ หน้าจอกลาง Google built-in ใช้งานได้จริงเหมือนรุ่นพี่ EX90 จอฝั่งคนขับก็ชัดแจ๋วตามสไตล์สวีดิช และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเครื่องเสียง Bowers & Wilkins พร้อมระบบ Dolby Atmos มีลำโพง 25 จุด แถม Subwoofer และแอมป์กำลัง 1,610 วัตต์ เปิดเพลงทีคือเหมือนยกคอนเสิร์ตมาไว้ในรถ🔊
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ!!! เพราะจากที่ผมดูด้วยตาที่เก็บของท้ายรถนี่แอบเล็กไปนิด ถ้าใครแบกถุงกอล์ฟอาจจะต้องลองวัดก่อนว่าพอไหม แต่ถ้าของไม่ใหญ่มากก็ยังพอใส่ท้ายหรือช่องเก็บของด้านหน้าได้อยู่

——————————————

เปิดราคามาแบบนี้คู่แข่งยุโรปมีหนาวแน่นอน เพราะตอนนี้ Mercedes EQE 300 Sedan ก็ขยับราคามาอยู่ที่ 2,890,000 บาท ส่วนฝั่ง BMW i5 eDrive40 M Sport Inspiring ก็มาแนวขับสนุกแต่ราคาทะลุไปที่ 4,599,000 บาท (แต่ๆยังไม่รวมส่วนลดนะ)
เรียกได้ว่า Volvo ES90 มาชนในจุดกลางที่ลงตัวสุด ๆ หรูได้ เทคครบ ขับดี และราคาไม่บ้าพลังจนน่าตกใจ ใครกำลังมองหาซีดานไฟฟ้าระดับพรีเมียมแต่ยังอยากได้ความคุ้มค่านิด ๆ คันนี้คือหนึ่งในตัวเต็งแน่นอน
แล้วถ้ามีงบอยู่แถว ๆ 3 ล้าน คุณจะเลือกอะไรดี? 😎


Volvo Car Thailand

19/10/2025

ส่งมอบไปแล้วมากกว่า 5,000 คันกับรถยนต์ TANK300 ตัวเครื่องยนต์ดีเซล ยอดดีขนาดนี้ก็ต้องฉลองกันหน่อย🥳🎉 แต่จะฉลองอย่างไรให้ดูยิ่งใหญ่ ก็จัดมหกรรม TANK FEST 2025 and TOP RANK MOD ซ้ะเลย🏁
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น ณ ESC Park รังสิต บอกได้เลยว่าสายลุย หรือแต่งแบบโหดๆ ชอบใจอย่างแน่นอนครับ แต่งมามากน้อยแค่ไหน ก็ต้องมาลองลุยกันสักตั้ง เพราะเกิดมาเป็น ”TANK“ ทั้งที👀
ลุยอย่างเดียวมันส์ได้ระดับนึงแหละ แต่จับเวลาเพิ่มความท้าทายด้วย รถลูกค้าเกือบทุกคันนั้นได้มีการตกแต่งแบบมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ทั้งแต่งน้อยล้อยางลุยได้ หรือเป็นสายจัดเต็มของแคมป์ปิ้งกันชนเหล็กรอบคันก็โหดไปอีกแบบ จึงไม่ค่อยแปลกใจที่ลูกค้าของแบรนด์นี้จะลุยกันโหดใช้ได้ เพราะตัวรถก็น่าจะปลุกอารมณ์สายลุยของลูกค้าพอสมควร🚗
——————————————
และในขณะเดียวกัน งานที่จัดขึ้นครั้งนี้ ได้จัดแสดงกระบะ GWM POER SAHAR ที่เปลี่ยนหัวใจใหม่ ยกเครื่องมาจาก TANK300 และ TANK500 นั่นคือเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 ลิตร ปล่อยพลังออกมาอยู่ที่ 184 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตันเมตร รวมถึงระบบขับเคลื่อนและเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
ส่วนตัวผมกลับชอบการตกแต่งในรุ่นดีเซลนี้นะ เพราะว่ามันคุมโทนตัวรถให้ดูดุดันมากยิ่งขึ้น แตกต่างจากรุ่นไฮบริดที่ออกมาก่อนหน้านี้ ดูเป็นคุณหนูและติ๋มไปหน่อย เล่นโครเมียมมาเยอะเกินไป ในส่วนของภายในก็ตกแต่งมาหรูหราเหมือนเดิมเน้นโทนเข้มๆ ล้อลายใหม่ที่ใส่มาขนาด 18 นิ้วสีดำเงา บอกได้เลยว่าลายนี้ดุดันมาก แค่หายาง AT หรือ MT มาใส่เพิ่มเติมหน่อยก็หล่อแล้ว ซุ้มล้อก็ใหญ่มากๆ รองรับกับการไปตกแต่งยกสูงได้สบายๆ และจากที่เห็น ช่วงล่างด้านหน้า ยังได้ปีกนกบนแบบอะลูมิเนียม คาดว่าเพื่อลดน้ำหนักที่มีผลในด้าน Unsprung Mass
ในตลาดรุ่นนี้จะถือว่าเป็น Mid-Power ของ GWM เนื่องจากว่าในรุ่นที่เป็นไฮบริด มีแรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 350 แรงม้า ยังคงขายต่อไป ทำการตลาดไม่ต่างจาก TANK300 และ TANK500 โดยการยกตัว HEV เป็นเรือธงของรุ่น
รอลุ้นแค่เพียงราคาเท่านั้นครับ น่าจะต้องทำราคามาให้ดึงดูดลูกค้ามากขึ้น เพราะจากที่เห็น มีอุปกรณ์ที่หายไป อย่างเช่นไฟ Spotlight ด้านล่างของกันชน รวมถึงฝาท้ายกระบะที่สามารถเปิดแบบตู้กับข้าวได้ก็หายไปด้วยเช่นกัน ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full-Time ถูกเปลี่ยนเป็นแบบ Part-time 2H,4H,4L แต่ยังคงมีโหมด Snow/Sand/Mountain/Gravel/Dirt/Expert ให้เลือกสำหรับการลุย🥺
งานก็สนุก ได้เห็นรถทรงเหลี่ยมๆอย่าง TANK300 และทรงผู้ใหญ่ๆอย่าง TANK500 มาสาดโคลน และเม็ดทรายกระจายทั่วบริเวณแบบสวยงาม รถเลอะด้วยดินเป็นเอกลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นสายลุย อีกทั้งยังได้เห็นรถคันจริงของกระบะ POER SAHAR ในเวอร์ชั่นที่เป็นเครื่องดีเซล ซึ่งก็ทำให้รอลุ้นราคาเลยว่าจะออกมาอยู่ที่เท่าไหร่🤔

17/10/2025

รถซิ่งบนตึก MINI Go-Kart On The Roof🏁🚘
วันนี้พวกเรามีโอกาสได้มาสัมผัสความเป็น Go-Kart feeling ที่มากกว่าการขับบนถนนหลวงครับ กับการจำลองสนาม Go-Kart ขนาดย่อมที่ดาดฟ้า Amphitheatre One Bangkok 👀
ในงานมีรถ MINI Cooper SE (J01) มาให้เราได้ซิ่งกันครับ กับแรงม้า 218 ตัว แรงบิด 330 นิวตันเมตร… ไม่ได้แรงโลกแตกแต่เร้าใจครับ🤘🏻🫠
งานมีถึงวันพรุ่งนี้ 18/10/2025 ตั้งแต่เวลา 16:00-22:00น.
ลงทะเบียนฟรีได้ที่ https://www.mini.co.th/en_TH/home/serv/special-offers/Mini_Go-Kart_OnTheRoof.html?fbclid=IwdGRjcANfCnlleHRuA2FlbQIxMQABHjYCB_wRpclRjHVuqGZXJMg54ee9KGnMv9iwJbo1L_cCOO61XIM2XLe1yCpE_aem_EBEXkuko5_TkhENdo4_yEg

17/10/2025

ไฮบริดตัวจี๊ด ทั้งแรงทั้งประหยัด
เป็นนิยามของเจ้ารถ MG3 Hybrid+ 👌🏻
ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่เขาบอก ด้วยพละกำลังรวมอยู่ที่ 194 แรงม้า ถ้าว่ากันด้วยรถเดิมๆ จากโรงงานในกลุ่มเดียวกัน นี่ถือว่าแรงที่สุดแล้ว แต่จะแรงอย่างเดียวนั้นคงไม่พอ เพราะการควบคุมรถนั้นก็ถือว่าเป็นจุดสำคัญ
ผมเคยได้ขับ MG3 Hybrid+ ในรูปแบบรถเดิมๆจากโรงงาน ก็ค่อนข้างรู้สึกเซอร์ไพรส์กับช่วงล่างที่ได้มาในรถยนต์ราคาไม่ถึง 700,000 บาท ความประหยัดน้ำมันคือจุดเด่นที่เราได้จากคันนี้ ซึ่งเขาเคลมไว้ที่ 26.2 กม./ลิตร ขับสนุกและประหยัดน้ำมัน ถือว่าจี๊ดสมชื่อ😲
และครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ผมได้ทดสอบขับ MG3 Hybrid+ ที่ตกแต่งและใช้แข่งจิมคาน่าโดยคุณตี้ Day Dream Drive ในงาน MOMA Festival ณ สนามพีระ ซึ่งเป็นทั้งรถที่ต้องวิ่งนำขบวน วิ่งรอบสนาม รวมถึงถ่ายทำในสนาม ก็ถือว่าได้จับอาการและเก็บประสบการณ์จากคันนี้พอสมควร ความสนุกที่ได้มาจากคันนี้เลย คือตอนที่เลี้ยวเข้าโค้ง รถมันควบคุมได้ไปตามมือเรากว่าที่คิดเอาไว้ จากตอนแรกที่เราเห็นภายนอกก็ดูเป็นรถห้าประตูบ้านๆ เมื่อผ่านการอัพเกรดก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก อัตราเร่งของรุ่นนี้ถือว่าดีอยู่ในเงื่อนไขที่แบตเตอรี่ต้องไม่หมดเกลี้ยง ความที่ตัวเกียร์ของรุ่นนี้เป็นแบบ E-AT 3สปีด ก็มีอรรถรสของการลากรอบและเปลี่ยนเกียร์ของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรคันนี้ด้วย
แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดหวังเลยจากการวิ่งในสนามคืออัตราสิ้นเปลือง แน่นอนว่าเราขับในสนามนั้นก็ต้องทำความเร็วเป็นหลัก เน้นเอามันส์ให้สุดๆ แต่อัตราสิ้นเปลืองที่ทำได้ในสนามยังอยู่ประมาณ 18 กม./ลิตร วิ่งไปมากกว่า 20รอบ รวมการถ่ายทำวิดีโอ น้ำมันยังคงเหลือ 3/4 ของถัง(จากแถบที่แสดงในจอ) จากถังน้ำมันแค่เพียง 36 ลิตรเท่านั้น วิ่งจบรถสวยเหลือน้ำมันวิ่งกลับกรุงเทพฯได้สบายๆ ไม่มีไฟโชว์
สรุปว่ารถคันนี้คือรถที่ได้ทั้งความสนุกและก็ความประหยัดในคันเดียวกันได้ ก็ไม่ค่อยแปลกใจที่จะได้ฉายาว่าตัวไฮบริดตัวจี๊ด🚗



MG Thailand

16/10/2025

เพราะพวกเราโตมากับ BMW 🥹... เหลาอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต ทุกวันนี้รู้สึกอย่างไร จากใจผู้ใช้จริง🫡👌🏻

BMW ที่ดีควรเป็นอย่างไร อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต แล้ว NEUE KLASSE ไหวไหม??? กับทิศทางการทำรถที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แบร....

13/10/2025

รอบนี้กลับมาพิสูจน์คำท้า "ไหนลองให้ได้ 1 ถังรวม 1,000 กิโลเมตรดิ"😜
ตอนแรกก็คิดว่า โหกับเครื่อง 3.0ลิตร เบนซิน 6 สูบเรียง แรง 398 ม้า มันได้ไหมนะ😅 แต่พูดก็พูดครับ เลข trip computer ที่แสดงผลขึ้นมา คือตัวพิสูจน์ว่า ถังนึงไปได้ไกลมากกว่า 1,000 กิโลเมตรจริงๆ👌🏻
รายละเอียดคร่าวๆของการทดสอบ X3 M50
- ถังน้ำมันขนาด 65 ลิตรครับ น้ำมันที่เราใช้เป็นแก๊สโซฮอล 95 (ปตท.)
- ความเร็วที่ใช้ 90-100 kph [อัตราเฉลี่ย 33.01-18.4 Km/L]
- เส้นทาง กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ
- ขับจนระบบคำนวนระยะทางคงที่จนได้เลขที่เสถียรที่สุด [542+461=1,003 KM.]

------------------------------------

คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมถึงทำเลขได้ขนาดนั้น???🤔
คำตอบคือ เพราะระบบ mild-hybrid และระบบขับสี่ xDrive ครับ
ประการแรก mild-hybrid : ด้วยความที่รหัส M50 มอเตอร์ mild-hybrid จะถูกฝังตรงระหว่างเครื่องและเกียร์ ทำให้สามารถส่งกำลัง หรือฉุดเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพาไดสตาร์ท... มอเตอร์ mild-hybrid กำลังขับเยอะมากจนสามารถวิ่งเป็น EV mode ในความเร็วคงที่ระยะสั้นๆได้ [18 แรงม้า/200 นิวตันเมตร] และสามารถส่งกำลังเพื่อแบ่งเบาภาระเครื่องยนต์อีกหนึ่งแรง นี่เลยเป็นคำตอบว่า บนความเร็ว 90 kph ถ้าเดินคันเร่งเนียนๆ คุณสามารถเห็นเลข 33 Km/L โผล่ขึ้นมาได้ไม่ยากเลยครับ...
ประการที่สอง ระบบ xDrive : ขึ้นชื่อว่าขับสี่ไม่น่าประหยัด🫢 ก็มีทั้งใช่และไม่ครับ... X3 M50 xDrive เป็นขับสี่แปรผันที่ให้ความสำคัญกับล้อคู่หลังก่อน กล่าวคือ ถ้ารถไม่จำเป็นต้องใช้ระบบขับสี่ (อาทิ ขับทางตรงเนิบๆเรียบๆ) รถจะเป็นขับหลังล้วนเลยครับ แล้วถ้าเกิดการเร่งแซง หักเลี้ยว หรือเจอสภาวะต้องมีระบบขับสี่มาช่วย ตัวรถจะกระจายแรงแยกล้อต่อล้อแบบอิสระ... จึงเป็นที่มาของคำตอบประการที่สองว่า ระบบขับเคลื่อนที่จัดการแรงลงล้อได้อย่างอิสระ จะช่วยให้ทั้งการยึดเกาะอยู่ในจุดที่เหมาะสม แถมยังประหยัดน้ำมันไปได้ในเวลาเดียวกัน🫶🏻
สรุปคือ การเกิดเป็นรถครอบครัว Hot SAV (SUV) คันนึง ไม่ใช่แค่แรงหรือช่วงล่างเฟิร์มกระชับหรอกครับ แต่หากวันนึงที่เราอยากเดินทางไปกับครอบครัวสบายๆชิวๆ แล้วมีอัตราเร่งแซงทันใจ ปลอดภัย แถมยังประหยัด ผมว่าคันนี้เป็นตัวจบสายเดินทางในงบไม่ข้าม 4.5 ล้านได้สบายครับ

------------------------------------

และช่วงนี้จนไปถึง 31 ตุลาคม 2568
X3 M50 ราคา 4,499,000 บาท
- อัปเกรด BSI จาก 3 ปี เป็น Ultimate Package 5 ปี ฟรี
- ฟรีประกันภัยชั้น 1 BMW Protect 1 ปี (ทุกสัญญา)

ตรวจสอบข้อมูลรุ่นอื่นๆรวมไปถึงข้อเสนอทางการเงินได้ที่ : https://www.bmw.co.th/th/topics/offers-and-services/bmwfreedomchoicoffers.html
คิดเห็นอย่างไรกับเจ้า BMW X3 M50(G45) โฉมนี้กันบ้าง คอมเมนต์มาบอกพวกเราได้ครับ (รีวิวในช่องทาง Youtube เร็วๆนี้) ...สำหรับโพสนี้ขอลาไปก่อน ขอบคุณครับ
BMW Thailand

09/10/2025

วันเวลาเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยน BMW Vision Neue Klasse ว่าที่แบบฉบับ BMW ยุคใหม่หลังจากนี้ ที่ไม่ได้มีแค่เรื่องหน้าตา👀🔋
ถ้าท่านใดได้ผ่านไป Central Embassy อาจจะได้เห็นรถต้นแบบ Vision Neue Klasse กันอยู่บ้างครับ🚗…พูดแบบเข้าใจง่าย นี่คือภาษาการออกแบบใหม่ของ BMW ในอนาคต ที่จับคู่มากับเทคโนโลยีที่ปรับตัวตามอย่างก้าวกระโดด โดยมีชุดหัวใจหลังของเทคโนโลยีอย่าง Heart of Joy 💙ที่ทำหน้าที่ควบคุมการส่งกำลังและการควบคุมตัวรถ นับตั้งแต่มอเตอร์ไฟฟ้า เบรก การหมุนเวียนพลังงาน และฟังก์ชันบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับพวงมาลัย💨
ความสำคัญที่ว่า อยู่บนพื้นฐาน eDrive เจนเนเรชั่นที่ 6 มีส่วนช่วยให้รถยนต์ของ BMW พัฒนาขึ้นในหลากหลายปัจจัยครับ

- ด้านการจัดเก็บพลังงานดีขึ้น 20%
- ด้านระยะทางต่อการชาร์จ หรือการจัดการอัตราสิ้นเปลืองดีขึ้น 30%
- ด้านการชาร์จเร็วขึ้น 30%
- ด้านการรีดประสิทธิภาพ Performance มากขึ้น 25%
-และด้านวิศวกรรม Lightweight จากการรวบระบบสายไฟกว่า 600 เมตร รอบคันอีก 30%
**เมื่อเทียบกับระบบ eDrive เจนเนอเรชั่นที่ 5**
ฉะนั้นแล้ว BMW Vision Neue Klasse ไม่ใช่แค่หน้าตาอย่างที่หลายท่านมองเผินๆครับ แต่คือรถทั้งคัน และคืออนาคตที่ช่วยให้ BMW Group ช่วยต่อสู้กับความท้าทายบนโลกยานยนต์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นเอง😌
แล้วทุกท่านมีความเห็นว่าอย่างไรครับ สวยไม่สวย เหมาะสมหรือไม่กับอนาคตของ BMW คอมเมนต์มาบอกพวกเราได้ครับ สำหรับโพสนี้ต้องขอลาไปก่อน ขอบคุณครับ

----------------------------------------------

งาน BMW Road to Neue Klasse : The Neue New
ที่จัดขึ้น ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ในวันที่ 8-12 ตุลาคม 2568
ดูเพิ่มเติมและลงทะเบียนสำรองสิทธิ์ได้ที่นี่ https://www.bmw.co.th/.../vision-neue-klasse-2025.html...

----------------------------------------------

หมายเหตุ: สิทธิ์มีจำนวนจำกัด และให้สิทธิ์ตามลำดับการลงทะเบียน หลังจากลงทะเบียน BMW Thailand จะติดต่อกลับเพื่อยืนยันสิทธิ์การเข้าร่วม, *BMW Vision Neue Klasse เป็นรถยนต์ต้นแบบและไม่ได้จำหน่ายจริง*

05/10/2025

เทียบกันชัดๆ มุมต่อมุม New Subaru Forester [SL] เจนเนอเรชั่นที่ 6 เปลี่ยนอะไรไปบ้าง?👀🤔
New Subaru Forester [SL] 🚙โฉมใหม่นี้ บอกเลยว่าไม่ใช่ไมเนอร์เชนจ์ เพราะคราวนี้ “ประกอบจากญี่ปุ่นทั้งคัน” ยกมาทั้งบอดี้แบบไม่หวงของ และดีไซน์ภายนอกก็เปลี่ยนใหม่หมดจดทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ไม่ว่าจะไฟหน้า กระจัง หรือเส้นสายของตัวรถ ดูแข็งแรง ทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจน
แม้แต่สิ่งที่เราไม่เห็นอย่างการบุซับเสียง🗣️ภายในตัวถัง ก็ถูกอัปเกรดให้เงียบขึ้นกว่ารุ่นเดิมแบบรู้สึกได้ทันทีเมื่อขับ ที่เก็บของด้านหลังก็ยังคงความใหญ่สะใจในแบบฉบับ SUV เอาไว้ครบ
พอเปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสาร... บอกเลยว่า "ใหม่" แน่นอน แต่ความลับคือ Subaru เลือกยกดีไซน์ภายในของ Outback รุ่นพี่มาใส่ไว้ใน Forester รุ่นนี้เต็มๆ 👏🏻
ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะมันคือการออกแบบที่สดใหม่ที่สุดของค่าย ณ ตอนนี้ หน้าจอกลางแนวตั้งขนาดใหญ่ที่เข้ามาแทนที่ปุ่มกดจำนวนมาก ไม่เพียงแค่ทำให้ดูโมเดิร์นขึ้น แต่ยังช่วยให้การใช้งานง่ายและสบายตามากขึ้นด้วย
ใครที่กำลังมองหา SUV ที่ทั้งแกร่ง เงียบ นั่งสบาย แถมยังได้ฟีลญี่ปุ่นแท้ ๆ แบบไม่ต้องบินไปไกล แนะนำให้ลองไปสัมผัส New Subaru Forester ตัวจริงได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม Subaru ใกล้บ้านคุณครับ

Subaru Asia

04/10/2025

KIA Carnival HEV ใหม่ – รถครอบครัวที่พรีเมียมขึ้น ประหยัดขึ้น และราคาดีขึ้น🤔
หน้าตาพรีเมียมขึ้นกว่าเดิม เครื่องยนต์ใหม่ประหยัดน้ำมันขึ้นอีกนิด ส่วนราคาก็เบาลงกว่ารุ่นดีเซลเดิมเล็กน้อย…เรียกว่าดูดีขึ้นรอบด้าน แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า "ถูกพอมั้ยนะ?"🥺
ต้องยอมรับเลยว่า KIA Carnival กลายเป็นขวัญใจรถครอบครัวของจริง เพราะเห็นวิ่งกันให้เพียบตามหน้าโรงเรียน หรือเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดไปกันเป็นแก๊ง…

——————————————

จุดแข็งของรถรุ่นนี้คือพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมาก ใช้ได้จริงทั้งครอบครัว ฟังก์ชันประตูสไลด์ไฟฟ้าก็ใช้งานสะดวกสุดๆ และที่สำคัญคือการขับขี่ที่นุ่มนวล พร้อมกับเบาะที่นั่งสบายมาก จนหลายคนบอกว่าเป็น “เสมือนรถตู้ที่ไม่รู้สึกเหมือนนั่งรถตู้”🚙
รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในไทย เป็นรุ่น Hybrid (HEV) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่สุดคือเรื่องของขุมพลังครับ จากเดิมที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ก็กลายมาเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร ไฮบริด ที่ให้กำลังรวมทั้งระบบ 245 แรงม้า แรงบิด 367 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แน่นอนว่าถ้าใครเป็นแฟนเครื่องดีเซลอาจจะรู้สึกเสียดายเหมือนผม เพราะแรงบิดของดีเซลมันมาไวและเหมาะกับรถใหญ่แบบนี้ แต่พอลองขับจริงต้องยอมรับว่าเครื่องใหม่นี้ตอบสนองดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะเวลาขับในเมือง เพราะมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อน ทำให้ขับลื่นขึ้นเร่งง่ายขึ้น เวลาแซงหรือขึ้นทางชันก็ยังมั่นใจได้
เรื่องความประหยัดน้ำมันก็ถือว่าดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในสภาพจราจรที่รถติดเป็นประจำแบบในเมือง การใช้ระบบไฮบริดช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้เยอะมาก ต่างจากดีเซลที่ต้องติดเครื่องไว้ตลอดเวลา

——————————————

ราคาที่เปิดตัวอยู่ระหว่าง 2,499,000 ถึง 2,699,000 บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่ารุ่นดีเซลเดิม และในขณะที่ราคาถูกลง ออปชั่นที่ให้มาก็ยังจัดเต็มเหมือนเดิม ไม่มีกั๊ก ไม่ตัดของออก ดีไซน์ภายนอกก็ปรับให้ทันสมัยขึ้นตามภาษาการออกแบบของ KIA ยุคใหม่ ดูเท่ขึ้นมีมิติขึ้นชัดเจน
ภายในห้องโดยสารก็มีการอัปเดตฟังก์ชันต่างๆ ให้ทันสมัยขึ้น แต่ยังคงความอเนกประสงค์เหมือนเดิม เบาะ 7 ที่นั่งยังให้มาแบบเต็มที่ รุ่นเริ่มต้นก็มีเบาะแถวสองที่ปรับได้หลากหลาย ส่วนรุ่นท็อปก็มีเบาะแถวสองแบบปรับไฟฟ้าพร้อมโหมด relaxation นั่งรอรับลูกที่โรงเรียนยังไงก็สบาย
โดยรวมแล้วการปรับโฉมครั้งนี้ของ KIA Carnival HEV ถือว่า “ดีขึ้นจริง” เหมาะสำหรับคนที่มองหารถครอบครัวแบบพรีเมียม ขับง่าย ประหยัดขึ้น และยังคงนั่งสบายเหมือนเดิม จะให้คุณพ่อขับก็เหมาะ หรือคุณแม่ใช้งานก็สะดวก ส่วนใครที่ยังรักเครื่องดีเซลอยู่ก็ไม่ต้องห่วง เพราะ KIA ยังมีขายอยู่ในโฉมเดิมเหมือนเดิม👌🏻👌🏻👌🏻
แล้วคุณล่ะ…คิดเห็นยังไงกับ KIA Carnival HEV รุ่นใหม่นี้? เสียดายดีเซล หรือเริ่มเปิดใจให้ไฮบริด? ลองคอมเมนต์มาคุยกันดูครับ 😊