Howl Pet Story Magazine - Make our Story Together

เรียกได้ว่าเต็มอิ่มกับความน่ารักของเหล่าน้องแมวแบบจุกๆ กันไปเลยกับงาน “Bravoo Pawtection Talk – ปรสิต ป้องกันได้…ไม่เครี...
20/08/2025

เรียกได้ว่าเต็มอิ่มกับความน่ารักของเหล่าน้องแมวแบบจุกๆ กันไปเลยกับงาน “Bravoo Pawtection Talk – ปรสิต ป้องกันได้…ไม่เครียดด้วย” ที่จัดขึ้นตรงกับ “วันแมวโลก” เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์วิลล์ เลยมีเซอร์ไพรส์รวมพลเหล่าน้องแมวอินฟลูคนดังกว่า 50 ครอบครัวมาโชว์ความน่ารักภายในงานแบบจัดเต็ม พร้อมการเสวนาจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและดูแลสุขภาพแมวให้ปลอดภัยจากเหล่าปรสิตตัวร้าย ที่ป้องกันได้ง่ายๆ เพียงแค่ หยดครั้งเดียว ก็ป้องกันปรสิตได้นานถึง 12 สัปดาห์
โดยการเสวนาได้พูดุคยกันในหัวข้อ “ปรสิต ศัตรูเงียบของแมว” โดย ผศ.สพ.ญ.ดร.วรพร สุขุมาวาลี อาจารย์ประจำหน่วยปรสิตวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหัวข้อ “เคล็ดลับ...ทำอย่างไรไม่ให้แมวเครียด” โดย อ.น.สพ.ดร.ปรารมภ์ ศรีภวัศราคม อาจารย์ประจำภาควิชาปรีคลินิกและสัตวศาสตร์ประยุกต์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยอาจารย์ทั้งสองท่านได้แชร์ความรู้และเคล็ดลับการดูแลน้องแมวที่เจ้าของสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงและน่าสนใจมากๆ พร้อมด้วยการ ถาม-ตอบ ทุกข้อปัญหาคาใจของเหล่าเจ้าของแมวที่มาร่วมงานอีกด้วย
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีการพูดคุยเสวนาต่ออย่างสนุกสุดมันส์ในหัวข้อ “ป้องกันทุกเดือน แต่ยังเจอปรสิต…พลาดตรงไหน?” กับ 2 ครอบครัวน้องแมวชื่อดัง การ์ฟิลด์แมวจ้ม และ ฟาโรห์ ไอซิสแฟมิลี ที่ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์สนุกๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงแมวฉบับทาสแมวตัวจริง พร้อมด้วยเคล็ดลับแก้ปัญหากวนใจเจ้าของแมวหลายๆ ท่านที่ต้องคอยเตือนตัวเองไม่ให้ลืมป้องกันปรสิตน้องแมวทุกๆ เดือน ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันปรสิตในแมวที่ใช้เพียงครั้งเดียวก็ป้องกันได้ยาวนานถึง 12 สัปดาห์
นอกจากนี้ภายในงานได้มีการให้บริการตรวจสุขภาพหูน้องแมวฟรี พร้อมให้คำแนะนำการป้องกันปรสิตอย่างถูกต้อง โดย ทีมสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลสัตว์ Vetville อีกด้วย
โดยบรรยากาศภายในงานตลอดทั้งวันเต็มไปด้วยความน่ารักของเหล่าแมวคนดัง ที่พร้อมให้แฟนคลับได้ถ่ายรูปและสัมผัสใกล้ชิด เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวมทั้งสาระ ความอบอุ่น และรอยยิ้มไว้ในที่เดียวอย่างแท้จริง
สำหรับใครที่สนใจเกี่ยวกับ Bravo โปรแกรมป้องกันปรสิตในน้องแมวที่ใช้เพียง 1 ครั้งปกป้องน้องแมวได้นานถึง 12 สัปดาห์ (หรือ 3 เดือน) เรียกได้ว่า คุ้มกันยาว คุ้มกว่าเยอะ ให้ครอบครัวน้องแมวได้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/Bravoforpet

เคยสงสัยไหมว่าเราเริ่มเลี้ยงแมวกันครั้งแรกตอนไหนน้องแมวที่ตอนนี้กลายเป็นเหมือนกับหนึ่งในวัฒนธรรมของมนุษยชาติไปแล้วนั้น จ...
08/08/2025

เคยสงสัยไหมว่าเราเริ่มเลี้ยงแมวกันครั้งแรกตอนไหน
น้องแมวที่ตอนนี้กลายเป็นเหมือนกับหนึ่งในวัฒนธรรมของมนุษยชาติไปแล้วนั้น จริงๆ แล้วมีจุดเริ่มต้นมาจากไหนกันแน่ หลักฐานเก่าแก่ที่เชื่อกันแต่ก่อนคาดว่ามนุษย์อาจเริ่มเลี้ยงแมวในช่วงการเริ่มต้นยุคเกษตรกรรมที่มนุษยชาติได้เริ่มลงหลักปักฐานและปลูกธัญพืชเอาไว้เป็นอาหาร เมื่อเก็บธัญพืชไว้เยอะขึ้นก็มีเหล่าหนูตามมา มนุษย์ก็เลยเริ่มเลี้ยงแมวเพื่อจับหนูอีกที โดยนักประวัติศาสตร์หลายคนคาดว่าจุดแรกน่าจะเป็นอารยธรรมอียิปต์โบราณหรือไม่ก็บริเวณแถบอารยธรรมเมโสโปเตเมีย
แต่งานวิจัยชิ้นใหม่กลับเปลี่ยนแนวคิดไป โดยเผยว่าถิ่นกำเนิดของแมวเลี้ยงอาจไม่ได้มาจากอียิปต์หรือแถบเมโสโปเตเมียอย่างที่เคยเชื่อกันมา แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าอยู่ที่ประเทศตูนีเซีย ประเทศในแถบแอฟริกาเหนือต่างหากที่เป็นบ้านหลังแรกของแมวเลี้ยงของเหล่ามนุษยชาติ
โดยก่อนหน้านี้ นักโบราณคดีและนักพันธุศาสตร์มักระบุว่าการเลี้ยงแมวเริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 9,000 ปีก่อน ในแถบตะวันออกกลาง เช่น อียิปต์ หรือ “ฮิลาลแห่งความอุดมสมบูรณ์” (Fertile Crescent) บริเวณที่ครอบคลุมอิรัก อิหร่าน ซีเรีย และตุรกีบางส่วน โดยเชื่อว่าแมวบ้านมีวิวัฒนาการมาจากแมวดาวแอฟริกา (Felis lybica) ที่ค่อยๆ คุ้นเคยกับมนุษย์จากการล่าแมลงศัตรูพืชในยุคเกษตรกรรม
แต่การศึกษาล่าสุดซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร *Nature Ecology & Evolution โดยทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ นำโดย Claudio Ottoni จากมหาวิทยาลัยตูริน ประเทศอิตาลี และ Eva-Maria Geigl จาก CNRS ประเทศฝรั่งเศส เผยข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง พวกเขาได้วิเคราะห์ดีเอ็นเอจากกระดูกแมวมากกว่า 350 ตัว ที่พบในแหล่งโบราณคดี 85 แห่งทั่วแอฟริกา ยุโรป และเอเชีย ซึ่งครอบคลุมระยะเวลากว่า 9,000 ปี และพบว่าศูนย์กลางต้นกำเนิดทางพันธุกรรมของแมวเลี้ยงอยู่ในประเทศ “ตูนีเซีย” ประเทศในแอฟริกาเหนือที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำให้แมวกลายเป็นสัตว์เลี้ยง
สิ่งที่ทำให้การค้นพบนี้โดดเด่นคือแนวคิดที่ว่าการทำให้แมวเชื่องไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แต่เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและเกิดขึ้นซ้ำหลายครั้งในหลายพื้นที่ตลอดระยะเวลาเป็นพันปี โดยเฉพาะในแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และยุโรปใต้ เช่น อิตาลี และกรีซ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการกระจายตัวของพันธุกรรมแมวที่หลากหลาย ไม่ได้มีต้นสายเดียว
นอกจากนี้ งานวิจัยนี้ยังระบุว่า แม้ว่าตูนีเซียจะเป็นศูนย์กลางพันธุกรรมสำคัญในยุคแรก แต่ภายหลัง แมวจากตะวันออกกลางก็มีบทบาทในการผสมสายพันธุ์และขยายพันธุกรรมของแมวเลี้ยงในยุโรปและเอเชียอีกครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการและการเคลื่อนย้ายที่ซับซ้อนมากกว่าที่เคยเข้าใจ
โดยสรุปแล้ว เราอาจจะยังคงต้องรอคอยการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อชี้ชัดว่าแท้จริงแล้วมนุษย์กลุ่มแรกจากดินแดนไหนที่เป็นคนริเริ่มเลี้ยงแมวกันแน่ แต่ตอนนี้คาดว่าจะเป็นที่ประเทศตูนิเซีย และได้มีการถ่ายทอดไปยังดินแดนต่างๆ ก่อนที่จะมีการปรับปรุงพันธุ์จนกลายมาเป็นน้องแมวที่อยู่รอบตัวเราตอนนี้
บางที… น้องแมวที่กำลังหลับอยู่ข้างตัวคุณ อาจมีบรรพบุรุษที่เคยเดินเล่นอยู่ที่ทวีปแอฟริกาก็เป็นได้นะ
อ้างอิงข้อมูล

https://phys.org/news/2025-04-complex-story-domestic-cats-tunisia.html
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

เปิดรับสมัครทีม Production มาร่วมทำอะไรสนุก ๆ ด้วยกัน!เรากำลังมองหาเพื่อนร่วมทีมที่มีใจรักในการเล่าเรื่องผ่านภาพ เสียง แ...
06/08/2025

เปิดรับสมัครทีม Production มาร่วมทำอะไรสนุก ๆ ด้วยกัน!
เรากำลังมองหาเพื่อนร่วมทีมที่มีใจรักในการเล่าเรื่องผ่านภาพ เสียง และวิดีโอ เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงและวงการสัตวแพทย์
ถ้าคุณชอบสร้างสรรค์คอนเทนต์และอยากเติบโตไปด้วยกัน มาร่วมงานกับเราได้เลย
ตำแหน่งที่เปิดรับ: Media Production (Full Time)
ทำหน้าที่ :
- ถ่ายและตัดต่อ VDO, Reel และ Podcast
- ถ่ายภาพ
- ถ่าย Live
- ถ้าคุณรักสัตว์ จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ 😽🐶🐰🐹
ส่ง Resume และ Portfolio มาได้ที่ [email protected]
เขียนชื่ออีเมล์ว่า สมัครงานตำแหน่ง Media Production ตามด้วยชื่อของตัวเอง
📍 สถานที่ทำงาน: พหลโยธิน 18/1 จตุจักร กรุงเทพฯ
https://maps.app.goo.gl/UmbEgxEUPR7EFYdV6
มาร่วมสร้างผลงานดี ๆ และบรรยากาศการทำงานที่เป็นกันเองไปด้วยกันนะ

บอกเลยว่างานนี้ฟินทั้งคนทั้งน้องหมากันไปเลย !!!เรียกได้ว่าเต็มอิ่มกับงาน "REMY DAY WITH MY LOVE" ที่จัดขึ้นโดย REMY x NA...
05/08/2025

บอกเลยว่างานนี้ฟินทั้งคนทั้งน้องหมากันไปเลย !!!
เรียกได้ว่าเต็มอิ่มกับงาน "REMY DAY WITH MY LOVE" ที่จัดขึ้นโดย REMY x NAT งานแฟนมีตสุดพิเศษที่ไม่ได้มีแค่ความฟิน...แต่ยังเต็มไปด้วยเนื้อหาดีๆ จากสัตวแพทย์ สำหรับเจ้าของน้องหมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น...
- แขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์อย่าง "Max Kornthas"
- ความรู้แน่นๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงจากคุณหมอบีม & คุณหมออ้อย
- กิจกรรมมากมาตลอดงาน ทั้ง Photo Booth, D.I.Y Accessories, Cupcake Station และสถานีตรวจสุขภาพสำหรับน้องหมา
ที่สำคัญที่สุดคือทาง REMY ยังขอชวนทุกท่านร่วมทำบุญกับ REMY x NAT Charity Exclusive T-Shirt เสื้อลายสุดน่ารัก By น้องณฐ ณฐสิชณ์ มีจำนวนจำกัด 500 ตัวเท่านั้น รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปจัดซื้อผลิตภัณฑ์ REMY เพื่อบริจาคให้ มูลนิธิสัตว์พิการและสัตว์จร 5 แห่ง ภายใต้โครงการ "REMY CHARITY — อิ่มนี้เพื่อเจ้าสี่ขา"
ใครสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่โพสต้นทางกันได้เลย

“ปรสิต”… ศัตรูร้ายที่น้องแมวไม่ควรต้องเจอ!ลองจินตนาการดูสิ… น้องแมวสุดที่รักของคุณ กำลังเผชิญภัยเงียบจากปรสิตตัวร้ายที่เ...
04/08/2025

“ปรสิต”… ศัตรูร้ายที่น้องแมวไม่ควรต้องเจอ!
ลองจินตนาการดูสิ… น้องแมวสุดที่รักของคุณ กำลังเผชิญภัยเงียบจากปรสิตตัวร้ายที่เราอาจมองไม่เห็น แต่ส่งผลต่อสุขภาพและความสุขของเจ้าเหมียว 😿
อย่ารอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยรักษา!
มาเรียนรู้ก่อนกับงาน Pawtection Talk: ปรสิต ป้องกันได้.. ไม่เครียดด้วย
📅 วันที่ 8 ส.ค. 2568
🕑 เวลา 14.00 - 17.00 น.
📍 Central Westville ลานกิจกรรม ชั้น 1 (Semi-outdoor)
🐾 รับฟังจากสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
💬 เจาะลึก “ปรสิต” ศัตรู​เงียบของแมว
โดย ผศ.สพ.ญ.ดร. วรพร สุขุมาวาลี
หน่วยปรสิตวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
💡 เคล็ดลับ... ทำอย่างไรไม่ให้แมวเครียด
โดย อ.น.สพ.ดร. ปรารมภ์ ศรีภวัศราคม
ภาควิชาปรีคลินิกและสัตวศาสตร์ประยุกต์
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
🎤 พร้อมแชร์เคสจริงจากคนรักแมว พูดถึงประสบการณ์การเจอปรสิตสุดหยี
🐱 การ์ฟิลด์แมวจ้ม
🐱 ฟาโรห์ ไอซิสแฟมิลี
และพลาดไม่ได้กับกิจกรรม​ตรวจหูฟรี โดยโรงพยาบาลสัตว์ Vetville
👉 ลงทะเบียนเข้าร่วมฟรี: https://forms.gle/AhBr9wM2gdA6edpV9
(รับบัตรคิวหน้างานได้เลย)
อย่าปล่อยให้ปรสิตคุกคามแมวของคุณอีกต่อไป!

#คุ้มกันยาวคุ้มกว่าเยอะ ​
#ครบตัดจบปรสิตในแมว

ใครชอบแมวดำยกมือขึ้นแมวดำนับว่าเป็นหนึ่งในแมวที่น่ารักและมีเสน่ห์เฉพาะตัวสูงมาก ใครที่โดนน้องแมวดำตกแล้วรับรองว่าได้เลี้...
04/08/2025

ใครชอบแมวดำยกมือขึ้น
แมวดำนับว่าเป็นหนึ่งในแมวที่น่ารักและมีเสน่ห์เฉพาะตัวสูงมาก ใครที่โดนน้องแมวดำตกแล้วรับรองว่าได้เลี้ยงแมวดำกันไปยาวๆ ว่าแต่คุณเคยสังเกตไหมว่าแมวดำส่วนใหญ่นั้นมักจะมีตาสีเหลือง ใช่แล้ว...ตาสีเหลืองของแมวดำนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์อยู่เบื้องหลังอย่างน่าสนใจเลยทีเดียว
แล้วทำไมตาแมวดำถึงมักเป็นสีเหลืองกันล่ะ
เรื่องนี้ต้องย้อนมาดูที่ "เม็ดสีเมลานิน (melanin)" ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในโลกของสีขนและสีตาสัตว์ เมลานินไม่ได้แค่ให้สีเข้มกับขนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทในสีของม่านตาด้วย โดยแมวที่มีเมลานินสูงมากจะมีขนสีดำเข้ม และเม็ดสีในตาก็มีแนวโน้มเป็นเฉดเหลือง-ทอง-ส้มเช่นกัน (ซึ่งเป็นเฉดที่เกิดจากประเภทเมลานินที่เรียกว่า pheomelanin ผสมกับ eumelanin)
ด้วยเหตุนี้เอง น้องแมวดำจึงมักมีตาสีเหลืองไปโดยปริยาย (แต่ในกรณีที่หายากก็สามารถเจอตาสีอื่นได้เหมือนกันนะ)
นอจากนี้ยังมีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับขนสีดำของน้องแมวอีกเรื่องนั่นก็คือขนสีดำนั้นอาจจะไม่ได้ดำไปตลอด เพราะถ้าน้องแมวดำตากเป็นระยะเวลานานๆ ก็อาจจะทำให้ขนดำนั้นสีซีดลงจนกลายเป็นสีน้ำตาลได้เหมือนกัน
สาเหตุก็มาจากเจ้าแสงยูวีในแดดนี่แหละที่เข้าไปทำลายเมลานินในเส้นขน ทำให้แมวดำที่ชอบนอนอาบแดดทุกวัน ขนจะค่อยๆ เปลี่ยนเฉดจากดำสนิทเป็นน้ำตาลเข้ม หรือที่คนเลี้ยงแมวบางคนเรียกว่า "สีโกโก้" ซึ่งในภาษาอังกฤษเค้าเรียกอาการนี้ว่า sun bleaching ซึ่งเป็นภาวะที่ไม่เป็นอันตรายอะไร แค่สีขนซีดลงเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับแมวดำก็คืองานวิจัยบางชิ้นยังพบว่าแมวดำอาจมี "ภูมิคุ้มกันโรคบางชนิด" ได้ดีกว่าแมวสีอื่น เพราะยีนที่ให้ขนสีดำเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันด้วย (แต่เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นการศึกษาเพิ่มเติมนะ ยังไม่สามารถฟันธงได้อีกต่อไป)
โดยสรุปแล้วน้องแมวดำกับตาสีเหลืองเป็นของคู่กัน และถ้าไม่อยากให้น้องแมวดำสีซีดก็อย่าปล่อยน้องไปตากแดดนานๆ เพราะในเมืองไทยตากแดดนานๆ นอกจากจะทำให้ขนซีดง่ายแล้วยังอาจจะร้อนจนถึงขั้นเป็นลมแดด (ฮีทสโตรก) ได้ด้วยนะ
อ้างอิงข้อมูล

https://scienceofbiogenetics.com/articles/the-fascinating-world-of-cat-genetics-unveiling-the-secrets-behind-coat-colors-patterns-and-traits

https://fluffytamer.com/black-cat-brown
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

ยุคนี้มองไปทางไหนก็มีแต่เรื่องให้เครียดเต็มไปหมดไม่ว่าจะทั้งเรื่องการเก็บภาษีของสหรัฐอเมริกา วิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ ทั้ง...
29/07/2025

ยุคนี้มองไปทางไหนก็มีแต่เรื่องให้เครียดเต็มไปหมด
ไม่ว่าจะทั้งเรื่องการเก็บภาษีของสหรัฐอเมริกา วิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งยังปัญหาใกล้และไกลตัวมหาศาลที่รุมเร้าเราทุกวันย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเรามักจะเครียดหนักกันอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าใครเลี้ยงน้องหมาอยู่อาจจะมีวิธีลดเครียดที่ได้ผลและทำได้ง่ายด้วยนั่นคือเพียงแค่เล่นกับน้องหมาเพียงแค่ 10 นาที เท่านั้น เพราะล่าสุดมีงานวิจัยออกมายืนยันว่าน้องหมาช่วยลดความเครียดให้เราได้มากกว่าที่เราเคยคิดไว้เสียอีก
งานวิจัยนี้มาจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ได้ทำการศึกษาผลกระทบของการมีปฏิสัมพันธ์กับสุนัขต่อระดับความเครียดของมนุษย์ โดยนักวิจัยได้ติดตามผู้เข้าร่วมการทดลองกว่า 200 คน ในช่วงเวลาที่พวกเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียด
สิ่งที่น่าสนใจคือ งานวิจัยนี้ไม่ได้ศึกษาแค่ผลระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังติดตามผลในระยะยาวด้วย ทำให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นว่าน้องหมามีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพจิตของเราอย่างไร
ผลการศึกษาพบว่าการใช้เวลากับสุนัขเพียง 10 นาทีก็สามารถลดระดับคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ในร่างกายได้อย่างมีนัยสำคัญ ที่สำคัญกว่านั้นคือผลการลดความเครียดนี้ยังคงอยู่ได้นานหลายชั่วโมงหลังจากการมีปฏิสัมพันธ์กับสุนัขสิ้นสุดลง
นอกจากนี้ยังพบว่าไม่จำเป็นต้องเป็นสุนัขของเราเองเท่านั้น แม้แต่การได้ใช้เวลากับสุนัขที่ไม่รู้จักมาก่อนก็ยังให้ผลในการลดความเครียดได้เช่นกัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับการนำไปประยุกต์ใช้ในสถานที่ต่างๆ
นักวิจัยอธิบายว่าเมื่อเราสัมผัสหรือมีปฏิสัมพันธ์กับสุนัข ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความรักและความผูกพัน ในขณะเดียวกันก็ลดการหลั่งคอร์ติซอลลง ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น
ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือผลนี้เกิดขึ้นได้แม้ในคนที่ไม่ได้ชอบสุนัขเป็นพิเศษ แสดงให้เห็นว่าเป็นปฏิกิริยาทางชีววิทยาที่ค่อนข้างเป็นสากล
ข้อค้นพบนี้ทำให้หลายองค์กรเริ่มนำสุนัขเข้ามาช่วยในการจัดการความเครียด เช่น มหาวิทยาลัยหลายแห่งมีโปรแกรม "Therapy Dogs" ให้นักศึกษาได้มาเล่นกับสุนัขในช่วงสอบ บางบริษัทอนุญาตให้พนักงานนำสุนัขมาทำงานด้วย และโรงพยาบาลบางแห่งก็มีสุนัขบำบัดเพื่อช่วยผู้ป่วย
งานวิจัยนี้ยืนยันสิ่งที่คนรักสุนัขรู้มานานแล้วว่า น้องหมาไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยง แต่เป็นเพื่อนที่ช่วยให้ชีวิตเรามีความสุขและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น ในยุคที่ความเครียดเป็นปัญหาใหญ่ของคนเมือง การมีน้องหมาหรือการได้ใช้เวลากับพวกเขาอาจเป็นหนึ่งในวิธีธรรมชาติที่ช่วยให้เราจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดีอย่าลืมดูแลสุขภาพน้องหมาของเราให้ดีด้วยนะ เพราะไม่งั้นแล้วน้องหมาเครียดแล้วป่วย เราจะยิ่งเครียดหนักเป็นสองเท่าเลย
อ้างอิงข้อมูล

https://theconversation.com/dogs-are-helping-people-regulate-stress-even-more-than-expected-research-shows-254563
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

กอดแมวแล้วฟิน…มีใครคิดเหมือนกันบ้างสำหรับเจ้าของแมวทั้งหลายคงรู้อยู่แล้วว่าการได้กอดได้น้วยน้องแมวตัวโปรด มันช่างดีต่อใจ...
24/07/2025

กอดแมวแล้วฟิน…มีใครคิดเหมือนกันบ้าง
สำหรับเจ้าของแมวทั้งหลายคงรู้อยู่แล้วว่าการได้กอดได้น้วยน้องแมวตัวโปรด มันช่างดีต่อใจเหลือเกิน แต่น้องแมวกลับชอบทำหน้าตาเบื่อเวลามนุษย์กอดซะงั้น แต่บางทีเราอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะจากงานวิจัยล่าสุดนี้เราพบว่าแมวเองก็อาจจะฟินกับการกอดของมนุษย์ได้เหมือนกัน
แต่เรื่องนี้มีข้อแม้อยู่นิดหนึ่ง....นั่นก็คือต้องให้น้องแมวอยู่ในอารมณ์ที่ให้มนุษย์กอดก่อน
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนระบุว่าการที่แมวจะหลั่งออกซิโทซิน (ฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกผูกพันและอบอุ่นใจ) ขณะกอดกับเจ้าของนั้นยจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อแมวเป็นฝ่ายยอมรับการกอดของมนุษย์หรือพูดง่ายๆ ก็คือต้องเป็นกอดที่แมวเต็มใจเท่านั้น
โดยการทดลองนั้น ทางทีมนักวิจัยได้ลองเก็บน้ำลายแมว ก่อนและหลังที่เจ้าของจะเข้าไปเล่นหรือกอดกับแมว พบว่าถ้าแมวมี “ความผูกพันที่มั่นคง” กับเจ้าของ และแมวเลือกเดินเข้ามาหาเอง หลังเล่นหรือกอดกันสักพัก ระดับออกซิโทซินของแมวจะพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่ในทางกลับกันถ้าเจ้าเหมียวเป็นสายขี้ระแวงหรือถูกบังคับให้กอดจะทำให้ระดับออกซิโทซินลดลง รวมไปถึงแมวบางตัวที่ชอบเดินตามเจ้าของก็จริง แต่ไม่ชอบถูกอุ้มหรือถูกกอด เมื่อโดนบังคับกอดทีไร ระดับออกซิโทซินกลับลดลง ส่วนแมวบางตัวที่ชอบทำหน้านิ่งๆ พอโดนกอดระดับฮอร์โมนก็แทบไม่เปลี่ยนเลย
สรุปชัด ๆ แบบเข้าใจง่าย นั่นก็คือ
1. กอดแบบสมัครใจ = แมวและเจ้าของแฮปปี้ ทั้งคู่หลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข
2. กอดแบบบังคับ = แมวเครียด ระดับฮอร์โมนแห่งความสุขลดลง
3. ถ้าแมวไม่อินกับเจ้าของเลย = ฮอร์โมนแห่งความสุขนิ่งไม่ขยับ
พอรู้แบบนี้แล้วเราก็มีวิธีดีๆ มาแนะนำเจ้าของที่อยากกอดแมวแล้วแมวฟินด้วย นั่นก็คือ รอให้แมวเป็นฝ่ายเดินมาหาเราก่อนและทำท่าเหมือนอยากเล่นกับเรา ช่วงจังหวะนั้นเป็นช่วงที่ดีที่สุดที่จะกอดแมว แต่ถ้าเริ่มกอดแล้วแมวมีอาการปฏิเสธหรือพยายามหนี ให้หยุดและรอน้องแมวมาหาใหม่แทน
แต่ถ้าน้องแมวไม่ยอมมาหานี่ก็ไม่รู้ว่าจะแก้ยัไงเหมือนกันนะ ได้แต่ทำใจอย่างเดียว
อ้างอิงข้อมูล

https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S016815912500022X?via%3Dihub
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

แมวที่บ้านไหนชอบคาบเหยื่อมาให้เจ้าของบ้านบ้างแน่นอนว่าเหยื่อแต่ละตัวทั้งหนู กิ้งก่า จิ้งจก หรือกระทั่งตุ๊กแก ล้วนแต่ชวนใ...
22/07/2025

แมวที่บ้านไหนชอบคาบเหยื่อมาให้เจ้าของบ้านบ้าง
แน่นอนว่าเหยื่อแต่ละตัวทั้งหนู กิ้งก่า จิ้งจก หรือกระทั่งตุ๊กแก ล้วนแต่ชวนให้เจ้าของขนลุกกันถ้วนหน้า แต่รู้หรือไม่ว่าเคยมีแมวตัวหนึ่งช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบไวรัสหายากจากเหยื่อที่เอามาให้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่แมวเป็นผู้ช่วยโดยแท้
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ประเทศออสเตรเลีย โดยที่นักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ John Lednicky ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้เลี้ยงแมวตัวหนึ่งชื่อว่า Pepper ซึ่งแมวตัวนี้เป็นนักล่าผู้เก่งกาจ วันหนึ่งก็ได้ไปล่าหนูสายพันธุ์พื้นเมืองตัวหนึ่ง (เป็นพันธุ์ Rusty Mouse) แล้วเอามาฝากคุณ John Lednicky และเมื่อเขาเอาหนูตัวนั้นมาผ่าซากและส่องกล้องดูก็พบว่าในตัวหนูนั้นมีไวรัสชนิดใหม่ที่ไม่เคยเจอในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมาก่อน ไวรัสนั้นคือ Mobuck Virus ซึ่งปกติไวรัสชนิดนี้พบแค่ในเห็บหรือนกบางชนิดเท่านั้น
ที่พีคไปกว่านั้นคือเจ้า Pepper ไม่ได้ช่วยให้คุณ John Lednicky พบไวรัสหายากเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นอีกประมาณ 6 เดือน Pepper ก็ไปหาอะไรล่าตามเคย และคราวนี้ก็ไม่ล่าหนูผีสายพันธุ์หนึ่งมาให้คุณ John ตามเคย
โดยหนูผีตัวนั้นเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองที่มีชื่อว่า Everglades short-tailed shrew (ชื่อวิทยาศาสตร์ Blarina peninsulae) และเมื่อเขาผ่าซากและส่องกล้องก็พบกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เจอมาก่อนของ Orthortovirus ไวรัสที่มนุษย์เราตอนนี้รู้จักมันน้อยมาก ที่สามารถติดได้ทั้งนก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมหลายชนิด รวมไปถึงคนด้วย โดยทางทีมงานก็ได้ตีพิมพ์การค้นพบนี้ในวารสาร journal Microbiology Resource Announcements เป็นทีเรียบร้อย
เรียกได้ว่านักวิทยาศาสตร์ได้รู้จักไวรัสสายพันธุ์ใหม่เพราะน้องแมวจริงๆ เลยนะเนี่ย
คุณ John Lednicky บอกว่าโลกของไวรัสยังมีอะไรที่กว้างใหญ่และมนุษย์ยังไม่รู้จักอีกมาก หากเราตั้งใจที่จะค้นหาก็คงจะพบกับไวรัสชนิดใหม่เรื่อยๆ แต่เขาไม่ได้บอกว่าตัวเองจะรอลุ้นให้น้อง Pepper คาบเอาซากตัวอะไรแปลกๆ มาให้พร้อมกับไวรัสชนิดใหม่หรือเปล่านะ
อ้างอิงข้อมูล

https://www.livescience.com/health/viruses-infections-disease/scientists-cat-helps-discover-a-rare-virus-yet-again
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

น้องแมวที่บ้านคุณเป็นสายไหนน้องแมวบางบ้านชอบร้องชอบพูดไม่หยุด ถามอะไรก็เถียงเหมียวๆ กลับมาตลอดเวลา แต่น้องแมวบางบ้านกลับ...
18/07/2025

น้องแมวที่บ้านคุณเป็นสายไหน
น้องแมวบางบ้านชอบร้องชอบพูดไม่หยุด ถามอะไรก็เถียงเหมียวๆ กลับมาตลอดเวลา แต่น้องแมวบางบ้านกลับเงียบเสียจนแทบไม่เคยได้ยินเสียงร้องซักแอะเลยก็มี เคยสงสัยไหมว่าทำไมน้องแมวถึงมีนิสัยแตกต่างกันได้ขนาดนี้ และเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับการเลี้ยงแต่เพียงอย่างเดียว แต่หากเกี่ยวกับเรื่องของยีนหรือหน่วยพันธุกรรมด้วยนะ
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ได้ค้นพบว่ายีนที่ชื่อว่า “Androgen Receptor (AR)” หรือแปลให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า "ยีนรับฮอร์โมนเพศชาย" อาจเป็นตัวกำหนดว่าแมวของเราจะเป็นสายชอบร้องหรือว่าเงียบได้
แล้วแมวพูดเก่งกับแมวเงียบมียีนที่แตกต่างกันอย่างไร
นักวิจัยพบว่าแมวที่มียีน AR แบบ short-repeat จะมีแนวโน้มพูดเก่งกว่า ขี้เล่นกว่า และชอบมีส่วนร่วมในทุกสิ่งทุกอย่างมากกว่า ทั้งร้องเรียกเวลาอยากออกไปข้างนอก เรียกขออาหาร หรือแค่จะชวนคุยเล่นเฉย ๆ ก็มี เรียกได้ว่าเป็นแมว Extrovert อย่างแท้จริง
ในขณะที่แมวที่มียีน AR แบบ long-repeat มักจะแมวที่มีนิสัยแนวสุขุม ขรึม นิ่งๆ ไม่พูดมากแต่แอบรู้เยอะ เรียกได้ว่าเป็นสาย Introvert ซึ่งมักจะเจอในแมวพันธุ์แท้ที่ผ่านการคัดเลือกสายพันธุ์ให้เลี้ยงง่ายและไม่เสียงดังรบกวนเจ้าของ
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือนักวิจัยยังพบด้วยว่าแมวที่มียีน AR แบบ short-repeat อาจมีแนวโน้มแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวได้มากกว่าแมวทั่วไปเล็กน้อย โดยเฉพาะเวลาเจอแมวแปลกหน้าหรือมีการแย่งของเล่น อาหาร หรือความสนใจจากเจ้าของ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะยีนเดียวกันนี้มีผลต่อความไวต่อฮอร์โมนเพศชาย ที่อาจทำให้แมวกระตือรือร้นและหวงของมากขึ้น
โดยสรุปแล้วก็คือพฤติกรรมพูดเก่งหรือขี้อ้อนของแมวไม่ใช่สิ่งที่เราฝึกแล้วจะเปลี่ยนได้ทั้งหมด เพราะมันฝังอยู่ใน DNA ตั้งแต่เกิด ซึ่งถ้าแมวที่บ้านชอบมานั่งจ้องหน้าแล้วเหมียวๆ ใส่ทุกเช้า ก็อย่าเพิ่งรำคาญ เพราะเขาอาจเกิดมาพร้อมยีนพูดเก่งก็เป็นได้
ในทางกลับกัน ถ้าแมวบ้านคุณเงียบมาก ไม่เคยร้องเลย นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเขาไม่รักคุณ แต่อาจเป็นแค่บุคลิกจากพันธุกรรมที่ทำให้เขาไม่แสดงออกเก่งเท่าแมวตัวอื่นก็เท่านั้นเอง แล้วคุณล่ะชอบน้องแมวแบบไหนมากกว่ากัน คอมเมนต์มาบอกกันได้นะ
อ้างอิงข้อมูล

https://theconversation.com/is-your-cat-vocal-or-quiet-the-explanation-could-be-in-their-genes-259402
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl

วันๆ เอาแต่นอน เรียกก็ไม่เคยหันเชื่อว่าเจ้าของแมวในใจหลายคนคงเคยแอบคิดอยู่ในใจเมื่อเห็นเห็นน้องแมวนอนสบายใจอยู่ในบ้าน ใน...
11/07/2025

วันๆ เอาแต่นอน เรียกก็ไม่เคยหัน
เชื่อว่าเจ้าของแมวในใจหลายคนคงเคยแอบคิดอยู่ในใจเมื่อเห็นเห็นน้องแมวนอนสบายใจอยู่ในบ้าน ในขณะที่เจ้าของแมวทำงานหาเงินซื้อขนมแมวเลียให้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่ถ้าใครเคยคิดแบบนี้คุณอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะมีน้องแมวตัวหนึ่งในรัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา ทำสิ่งที่เจ้าของแมวทั่วโลกต้องอึ้ง นั่นก็คือช่วยเจ้าของหาลอตเตอรี่ที่หายไปจนเจอ แถมยังแถมยังถูกรางวัลได้เงินมากถึง 150,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5 ล้านบาท) อีกต่างหาก
เรื่องมีอยู่ว่าชายคนหนึ่งจากเมืองแคนเทอร์เบอรี รัฐคอนเนตทิคัต ซื้อลอตเตอรี่ Powerball (คล้ายๆ กับสลากกินแบ่ง เมืองไทยนี่แหละ) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ดันเกิดเหตุการณ์ที่คนเรามักเผชิญกันประจำ นั่นก็คือเผลอทำใบล็อตเตอรี่หายซะงั้น
ทีนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ประจำบ้านกันไปเลย เรื่องอะไรเราจะทิ้งหนทางรวยกันไปง่ายๆ แน่นอนว่าเจ้าตัวก็พยายามหาทั้งบ้านกันสุดชีวิต แต่หายังไงก็หาไม่เจอ จนตอนที่เกือบจะถอดใจอยู่แล้วเชียว แต่แล้วน้องแมวที่เขาเลี้ยงก็เดินเข้าไปใต้ตู้อย่างเท่ๆ และอยู่ๆ ก็เขี่ยอะไรบางอย่างออกมา ซึ่งนั่นก็คือหวยที่หายไปนั่นเอง
ที่เด็ดไปกว่านั้นคือหวยใบนั้นดันถูกรางวัลใหญ่ซะด้วยสิ
โดยหวยใบที่เจอของชายคนนั้นถูกรางวัล Powerball หมายเลขรอง (match five) พร้อมตัวคูณ Power Play 3 เท่า ทำให้เจ้าของได้รับเงินรางวัลรวมถึง 150,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 5 ล้านบาทไทย กันไปเลย เรียกได้ว่าเป็นน้องอภิชาตแมวเรียกทรัพย์ให้กับเจ้าของโดยแท้
ส่วนน้องแมวตัวนั้นได้อะไรนั้น ในข่าวไม่ได้บอกไว้ แต่บอกเลยว่าถ้าน้องแมวอุตส่าห์ช่วยให้ทรัพย์ขนาดนี้แล้วก็คงได้กินขนมแมวเลียตัวท็อปส์ตลอดปีเป็นแน่แท้
ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบบ่นแมวของเราเลย เพราะไม่แน่ว่าบางทีน้องแมวของเราอาจจะช่วยเราคว้าเงินล้านมาก็ได้ ใครจะรู้
อ้างอิงข้อมูล

https://www.fox61.com/article/news/local/tolland-county/man-wins-150000-after-cat-finds-missing-powerball-ticket/520-3cddb3d4-8d94-42dc-8e7b-95cf5690a82e
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

เคยสังเกตไหมว่าน้องแมวนอนของเราชอบนอนท่าไหนหลายคนอาจเคยเห็นน้องแมวของเรานอนงอเป็นกุ้ง หรือไม่บางทีก็นอนเหยียดยืดจนเหมือน...
09/07/2025

เคยสังเกตไหมว่าน้องแมวนอนของเราชอบนอนท่าไหน
หลายคนอาจเคยเห็นน้องแมวของเรานอนงอเป็นกุ้ง หรือไม่บางทีก็นอนเหยียดยืดจนเหมือนเส้นยากิโซบะ หรือกระทั่งนอนท่ายากที่มนุษย์เห็นแล้วถึงกับเกาหัว แต่ท่านอนของน้องแมวนั้นสำคัญกว่าที่เราคิด เพราะล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ค้นพบข้อมูลที่น่าสนใจว่าแมวส่วนใหญ่เลือกนอนตะแคงซ้าย และที่น้องแมวเลือกนอนท่านี้ไม่ได้มีสาเหตุแค่เฉพาะความสบายเท่านั้นด้วย
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในตุรกีได้ศึกษาพฤติกรรมนอนของแมวจรจัดในเมือง Adana จำนวน 48 ตัว โดยใช้เวลาเฝ้าสังเกตนานถึง 6 เดือน และพบว่าแมวกว่า 75% มีแนวโน้มจะเลือกนอนตะแคงซ้ายมากกว่าตะแคงขวาหรือท่านอนหงาย
แต่เดี๋ยวก่อน ที่น้องแมวนอนตะแคงซ้ายนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความชอบส่วนตัวหรือนิสัยของน้องแมวเพียงอย่างเดียว เพราะนักวิจัยยังพบอีกว่าแมวที่นอนตะแคงซ้ายมักมีสัญญาณของสุขภาพที่ดี เช่น อัตราการหายใจปกติ ร่างกายผ่อนคลาย และมีความเครียดต่ำ ขณะที่แมวที่นอนตะแคงขวาหรือนอนหงาย มักแสดงพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลหรือความไม่สบายตัวมากกว่า
และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ไม่พบความเกี่ยวข้องระหว่างเพศ อายุ หรือขนาดของแมวกับท่าทางการนอนเลย กล่าวคือไม่ว่าจะเป็นแมวหนุ่มสาวหรือรุ่นใหญ่ต่างก็มีแนวโน้มจะนอนตะแคงซ้ายเหมือนกัน

ข้อมูลที่ได้นี้อาจไม่สามารถใช้วินิจฉัยสุขภาพของแมวได้โดยตรง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยให้เจ้าของแมวสังเกตพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงได้ละเอียดขึ้น เช่น ถ้าแมวที่เคยนอนตะแคงซ้ายเปลี่ยนมานอนหงายบ่อยขึ้นหรือดูไม่สบายตัว ก็ควรลองพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ แต่อย่าลืมว่าน้องแมวแต่ละตัวก็อาจจะมีความชอบและลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน ถึงน้องแมวของเราไม่ได้นอนตะแคงซ้ายก็อาจจะไม่ได้ผิดปกติอะไร เพียงแค่เฝ้าสังเกตไว้นิดๆ ก็พอ ถ้าน้องแมวแฮปปี้นอนท่าไหนก็ปล่อยเขานอนท่านั้นไปเถอะ
เพราะสำหรับมนุษย์อย่างเราๆ แล้ว แมวนอนท่าไหนก็น่ารักทุกท่านั่นแหละนะ
อ้างอิงข้อมูล

https://www.sciencealert.com/scientists-find-most-cats-sleep-on-their-left-side-this-could-be-why
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

ที่อยู่

Howl Magazine
Nonthaburi
1100

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Howlผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Howl:

แชร์

ประเภท

What the howl ?

Howl magazine คือนิตยสารสัตว์เลี้ยงที่เกิดจากคนรุ่นใหม่รวมตัวกันด้วยความคิดที่ว่าอยาก ทำหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของสัตว์เลี้ยงออกมาในรูปแบบที่แปลกใหม่ สวยงาม และโดดเด่น โดย Howl magazine เป็นนิตยสารแจกฟรีทางออนไลน์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและอ่านได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ

คำว่า Howl นั้นแปลว่าเสียงหอนของสัตว์ ซึ่งทีมงาน Howl ทุกคนหวังว่าเสียงที่พวกเรากำลังทำขึ้นนี้จะดังเข้าไปในใจของคนอ่านทุกคน

Howl are you ?

Howl magazine นั้นมี E-magazine เป็นผลงานหลักที่พวกเรารักและภูมิใจไปกับมัน แต่เพื่อปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีในปัจจุบันเราพยายามที่จะสร้างผลงานใหม่ๆ ในรูปแบบอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น วิดีโอภาพเคลื่อนไหว งานแฮนด์คราฟต่างๆ รวมไปถึงเว็บไซต์แห่งนี้ด้วย