Howl Pet Story Magazine - Make our Story Together

.เคยสังเกตไหมว่าน้องแมวนอนของเราชอบนอนท่าไหนหลายคนอาจเคยเห็นน้องแมวของเรานอนงอเป็นกุ้ง หรือไม่บางทีก็นอนเหยียดยืดจนเหมือ...
09/07/2025

.เคยสังเกตไหมว่าน้องแมวนอนของเราชอบนอนท่าไหน
หลายคนอาจเคยเห็นน้องแมวของเรานอนงอเป็นกุ้ง หรือไม่บางทีก็นอนเหยียดยืดจนเหมือนเส้นยากิโซบะ หรือกระทั่งนอนท่ายากที่มนุษย์เห็นแล้วถึงกับเกาหัว แต่ท่านอนของน้องแมวนั้นสำคัญกว่าที่เราคิด เพราะล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ค้นพบข้อมูลที่น่าสนใจว่าแมวส่วนใหญ่เลือกนอนตะแคงซ้าย และที่น้องแมวเลือกนอนท่านี้ไม่ได้มีสาเหตุแค่เฉพาะความสบายเท่านั้นด้วย
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในตุรกีได้ศึกษาพฤติกรรมนอนของแมวจรจัดในเมือง Adana จำนวน 48 ตัว โดยใช้เวลาเฝ้าสังเกตนานถึง 6 เดือน และพบว่าแมวกว่า 75% มีแนวโน้มจะเลือกนอนตะแคงซ้ายมากกว่าตะแคงขวาหรือท่านอนหงาย
แต่เดี๋ยวก่อน ที่น้องแมวนอนตะแคงซ้ายนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความชอบส่วนตัวหรือนิสัยของน้องแมวเพียงอย่างเดียว เพราะนักวิจัยยังพบอีกว่าแมวที่นอนตะแคงซ้ายมักมีสัญญาณของสุขภาพที่ดี เช่น อัตราการหายใจปกติ ร่างกายผ่อนคลาย และมีความเครียดต่ำ ขณะที่แมวที่นอนตะแคงขวาหรือนอนหงาย มักแสดงพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความวิตกกังวลหรือความไม่สบายตัวมากกว่า
และที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ไม่พบความเกี่ยวข้องระหว่างเพศ อายุ หรือขนาดของแมวกับท่าทางการนอนเลย กล่าวคือไม่ว่าจะเป็นแมวหนุ่มสาวหรือรุ่นใหญ่ต่างก็มีแนวโน้มจะนอนตะแคงซ้ายเหมือนกัน

ข้อมูลที่ได้นี้อาจไม่สามารถใช้วินิจฉัยสุขภาพของแมวได้โดยตรง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยให้เจ้าของแมวสังเกตพฤติกรรมสัตว์เลี้ยงได้ละเอียดขึ้น เช่น ถ้าแมวที่เคยนอนตะแคงซ้ายเปลี่ยนมานอนหงายบ่อยขึ้นหรือดูไม่สบายตัว ก็ควรลองพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ แต่อย่าลืมว่าน้องแมวแต่ละตัวก็อาจจะมีความชอบและลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน ถึงน้องแมวของเราไม่ได้นอนตะแคงซ้ายก็อาจจะไม่ได้ผิดปกติอะไร เพียงแค่เฝ้าสังเกตไว้นิดๆ ก็พอ ถ้าน้องแมวแฮปปี้นอนท่าไหนก็ปล่อยเขานอนท่านั้นไปเถอะ
เพราะสำหรับมนุษย์อย่างเราๆ แล้ว แมวนอนท่าไหนก็น่ารักทุกท่านั่นแหละนะ
อ้างอิงข้อมูล

https://www.sciencealert.com/scientists-find-most-cats-sleep-on-their-left-side-this-could-be-why
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

สุปสัปดาห์นี้...เคลียร์คิวไปเที่ยวงาน Dog Show กันอิมแพ็คฯ ผู้นำการจัดงานแสดงสินค้าและบริการด้านสัตว์เลี้ยง จัดงาน สมาร์...
27/06/2025

สุปสัปดาห์นี้...เคลียร์คิวไปเที่ยวงาน Dog Show กัน
อิมแพ็คฯ ผู้นำการจัดงานแสดงสินค้าและบริการด้านสัตว์เลี้ยง จัดงาน สมาร์ทฮาร์ท พรีเซนต์ส ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชันแนล ด็อกโชว์ ( The 23rd edition of SmartHeart presents Thailand International Dog Show ) มหกรรมรวมพลคนรักสุนัขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 23 บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร งานแฟร์สำหรับคนรักสุนัขที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดพื้นที่สร้างประสบการณ์พิเศษ ให้คนเลี้ยงและสุนัขได้ใช้เวลาร่วมกัน หนุนแนวคิดเลี้ยงแบบมีคุณภาพ ขานรับข้อบัญญัติควบคุมการเลี้ยง พร้อมเสวนาทิศทางอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในงานกว่า 75 ล้านบาท
อิมแพ็คฯ ตอกย้ำเบอร์หนึ่งงาน “Dog Show” ใหญ่ที่สุดในไทย
Dog Show Adventure ชวนสร้างประสบการณ์ร่วมกันระหว่างเจ้าของและน้องหมา
นางสาวกุลวดี จินตวร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า
“ปัจจุบันมีงานอีเวนต์ที่เกี่ยวกับสัตว์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ซึ่งงานเกี่ยวกับสุนัขยังคงครองสัดส่วนใหญ่ที่สุด ทั้งด้านจำนวนงาน พื้นที่จัดแสดง และมูลค่าการใช้จ่ายภายในงาน จากจำนวนผู้เลี้ยงสุนัขที่มีจำนวนมากขึ้น ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าภายในปี 2568 คนไทยเลี้ยงสุนัขกว่า 3.45 ล้านตัว โดยงาน “สมาร์ทฮาร์ท พรีเซนต์ส ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชันแนล ด็อกโชว์ (SmartHeart presents Thailand International Dog Show) ซึ่งจัดโดยอิมแพ็คฯ ร่วมกับ สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศไทย ยังคงเป็นอีเวนต์เพื่อคนรักสุนัขที่ใหญ่ที่สุด ด้วยประสบการณ์ จัดอีเวนต์เพื่อคนรักสุนัขมายาวนาน โดยจัดงานครั้งที่ 23 ขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2568 นี้ บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร รวมสินค้าและบริการจากกว่า 300 แบรนด์ชั้นนำ
จากประสบการณ์การ Dog Show มายาวนาน พบว่าผู้เข้าชมงานชอบอีเวนต์ที่ส่งเสริม “Pet-Friendly Lifestyle” มีกิจกรรมที่หมาและเจ้าของทำร่วมกันได้ เช่น ชมกิจกรรม เล่นเกม ถ่ายรูป ถ่ายคลิป ให้ผู้เข้าชมเกิดประสบการณ์ร่วมมากกว่าการมาเดินซื้อของ จากพฤติกรรมของผู้บริโภคดังกล่าว ปีนี้อิมแพ็คฯ จึงได้จัดงานภายใต้แนวคิด “Dog Show Adventure เปิดโลกผจญภัยของคนรักหมา” เปิดพื้นที่สร้างประสบการณ์พิเศษให้คนเลี้ยงและสุนัขได้ใช้เวลาร่วมกัน
โดยไฮไลท์สำคัญซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของงานด๊อกโชว์ อิมแพ็คฯ คือการประกวดสุนัขสวยงามระดับนานาชาติ โดย The Kennel Association of Thailand สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งยกระดับสู่เวทีสากลด้วยการเชิญคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจาก 10 ประเทศ ซึ่งล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ และเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือ ในวงการ Dog Show ระดับนานาชาติ การันตีมาตรฐานการตัดสินที่โปร่งใส ยุติธรรม คาดว่าจะมีสุนัขเข้าร่วมประกวดทั้งหมด 4,300 ตัว การรวมตัวของสุดยอดนัก Groom มือโปรของไทยในการแข่งขันตัดขนสุนัข โดย F.C.I. Thailand เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ให้เจ้าของและน้องหมาได้สนุกสนานสร้างรอยยิ้มแห่งความประทับใจไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งวิ่ง “มาหาแม่มา” แบบทดสอบน้องหมาวิ่งหาเจ้าของ “หมาเลีย” แข่งกินสุดฮา Dogventure ภารกิจพิชิตเขาวงกต (เปิดตัวเป็นครั้งแรก!) ผจญภัยบอร์ดเกม พาหมาทอยเต๋า Dog Boot Camp คลาสฝึกและเล่นสุดมันส์ จาก Bounce Dog Sport Center กิจกรรม Vlog Challenge ประกวดคลิปสนุกโดนใจ “ตะลุย Dogventure” พร้อมโปรโมชั่นเฉพาะงานจากกว่า 300 แบรนด์ดัง และการเปิดตัวไอเท็ม Pet Tech รุ่นใหม่ล่าสุด โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในงานกว่า 75 ล้านบาท
ผู้ประกอบการร่วมจับตาเทรนด์ธุรกิจสัตว์เลี้ยง “ฟองสบู่หรือยั่งยืน?”
แม้ธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงจะเป็น Sunrise Business ของไทยและในระดับโลก แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตอย่างยั่งยืน หรือฟองสบู่จะแตกหรือไม่ ภายในงานสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย (TPIA) จึงเชิญผู้ประกอบการธุรกิจในตลาดสัตว์เลี้ยง ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย ร้านค้าปลีกและธุรกิจบริการ เข้าร่วมสัมมนาเจาะลึกเทรนด์ธุรกิจสัตว์เลี้ยง วิเคราะห์ทุกมุมมองจากตัวแทนภาคธุรกิจของตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงในไทย “ฟองสบู่หรือโอกาสยั่งยืน? Bubble or Sustainable Growth?” ถ้า Bubble แตกเราจะรู้ได้อย่างไร โอกาสการลงทุนหรือเข้าสู่ธุรกิจที่ยังเหลืออยู่ กับธุรกิจ Start-Up ใน sector ใหม่ ๆ จะอยู่รอดได้อย่างไร ในวันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 – 17.00 น.
สำหรับการสัมมนาครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อขยายภาพรวมของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในมิติที่ลึกยิ่งขึ้น เปิดเวทีให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้สนใจ ได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทิศทางการเติบโตของธุรกิจ ทั้งด้านการผลิต การจัดจำหน่าย บริการ และผลิตภัณฑ์นวัตกรรม พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อร่วมกันวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยงในบริบทเศรษฐกิจปัจจุบัน และร่วมวางแนวทางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้เดินหน้าอย่างยั่งยืนในระยะยาว
หนุนข้อบัญญัติควบคุมการเลี้ยง ยกระดับคุณภาพชีวิต
ในฐานะผู้จัดงาน Thailand International Dog Show ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและกิจกรรมเกี่ยวกับสุนัข ที่ใหญ่ที่สุด อิมแพ็คพร้อมให้การสนับสนุนแนวทางตามข้อบัญญัติควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 มกราคม 2569 โดยเห็นว่าการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยง การดูแลความสะอาดในพื้นที่สาธารณะ และการป้องกันการทอดทิ้งสัตว์ เป็นมาตรการสำคัญที่จะยกระดับสวัสดิภาพสัตว์อย่างยั่งยืน พร้อมช่วยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยภายในงานมีการให้ความรู้แก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงและผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมต่อกฎเกณฑ์ใหม่นี้ และยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสวัสดิภาพสัตว์เลี้ยงภายในงาน ด้วยการจัดทีมสัตวแพทย์จากโรงพยาบาลสัตว์ Hato ให้บริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นฟรี มีพื้นที่พักสัตว์ ห้องน้ำสุนัข จุดปฐมพยาบาล และกำหนดให้เจ้าของใช้สายจูงหรือเป้อุ้มตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงทุกตัว
The 23rd edition of SmartHeart presents Thailand International Dog Show จะจัดขึ้นระหว่าง วันพฤหัสบดี ที่ 26 – วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน 2568 ณ อาคาร 5–6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

พรุ่งนี่เริ่มแล้วนะค๊าบบบ เตรียมเจ้าตูบให้พร้อมมมกับงาน SmartHeart presents Thailand International Dog Show 2025📅วันที่ ...
25/06/2025

พรุ่งนี่เริ่มแล้วนะค๊าบบบ เตรียมเจ้าตูบให้พร้อมมม
กับงาน SmartHeart presents Thailand International Dog Show 2025
📅วันที่ 26 – 29 มิถุนายน 2568
📍ณ อาคาร 5 – 6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
⏰ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.
🐾 พบโซนกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย เช่น
🎯 การแข่งขันหมาเลีย
🏆 การแข่งขันมาหาแม่มา Award
🎡 วงล้อหรรษา
📸 และมุมถ่ายรูปร่วมกับน้องหมาอีกเพียบ

✨ พร้อมช้อปสินค้า อาหาร ขนม ของเล่น และบริการจากผู้ประกอบการกว่า 250 บูท!

🌟 เด็กเข้าฟรี! สำหรับเด็กส่วนสูงไม่เกิน 100 ซม. / สัตว์เลี้ยงเข้าฟรีทุกตัว
👨‍👩‍👧 ผู้ใหญ่เข้าชมเพียง 20 บาท/ท่าน รายได้ส่วนหนึ่งร่วมบริจาคเข้าสู่โครงการ “1 บาทเพื่อเจ้าตูบที่หิวโหย”

และพบกับกิจกรรมสนุกๆอีกเพียบ

📣 พาน้องหมาไปเที่ยวกันทั้งบ้าน! 🐶🏕️
กลับมาแล้ว! งานนี้ เด็กเข้าฟรี! น้องหมาก็เข้าฟรี!
ใครกำลังหาที่เที่ยววันหยุดแบบครบทั้งครอบครัว ต้องไม่พลาด!
พาเจ้าตัวเล็กทั้งสองขาและสี่ขา มาเปิดโลกผจญภัยในงานสำหรับคนรักหมาที่ใหญ่ที่สุดในไทย!

🐾 พบโซนกิจกรรมสนุก ๆ มากมาย เช่น
🎯 การแข่งขันหมาเลีย
🏆 การแข่งขันมาหาแม่มา Award
🎡 วงล้อหรรษา
📸 และมุมถ่ายรูปร่วมกับน้องหมาอีกเพียบ

✨ พร้อมช้อปสินค้า อาหาร ขนม ของเล่น และบริการจากผู้ประกอบการกว่า 250 บูท!

🌟 เด็กเข้าฟรี! สำหรับเด็กส่วนสูงไม่เกิน 100 ซม. / สัตว์เลี้ยงเข้าฟรีทุกตัว
👨‍👩‍👧 ผู้ใหญ่เข้าชมเพียง 20 บาท/ท่าน รายได้ส่วนหนึ่งร่วมบริจาคเข้าสู่โครงการ “1 บาทเพื่อเจ้าตูบที่หิวโหย”

SmartHeart presents Thailand International Dog Show 2025
📅วันที่ 26 – 29 มิถุนายน 2568
📍ณ อาคาร 5 – 6 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
⏰ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.

📍ดูรายชื่อผู้ออกบูททั้งหมด คลิกเลย >>
👉 https://thailand-dogshow.com/th/exhibitor-list/


#งานหมา2025

เรียกได้ว่าจบลงไปพร้อมกับรอยยิ้มและความน่ารักจากเหล่าเหล่าไอดอลสี่ขาจากทั่วประเทศที่เข้าร่วมการประกวด "Thonglor Brand Am...
22/05/2025

เรียกได้ว่าจบลงไปพร้อมกับรอยยิ้มและความน่ารักจากเหล่าเหล่าไอดอลสี่ขาจากทั่วประเทศที่เข้าร่วมการประกวด "Thonglor Brand Ambassador 2025" รอบชิงชนะเลิศ ในงาน Pet Expo Thailand 2025 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ผ่านมา
“Thonglor Brand Ambassador 2025” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างสีสันและความสุขให้กับคนรักสัตว์เลี้ยง ซึ่งโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "สุขภาพดีสมวัย ดูดีแบบมีสไตล์" เพื่อเฟ้นหาน้องหมาน้องแมวสุขภาพดี สมวัย ดูดีแบบมีสไตล์ มาทำหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ
สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ผู้นำด้านการรักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมียม กล่าวว่า "กิจกรรมนี้ไม่ได้เป็นเพียงการประกวดความสวยงามและความสามารถของบรรดาน้องหมาน้องแมวเท่านั้น แต่เรายังต้องการให้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสังคมคนรักสัตว์เลี้ยงที่เข้มแข็ง เพื่อมาแลกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ในการดูแลสัตว์เลี้ยง ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงให้ดียิ่งขึ้น"
กิจกรรมครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากเหล่าทาสหมาและทาสแมวอย่างล้นหลาม โดยมีผู้สมัครกว่า 500 บ้านจากทั่วประเทศ ผ่านคัดเลือกจาก 7 สนามใหญ่ของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต จนเหลือเพียง 49 บ้านสุดท้าย แบ่งเป็นสุนัข 27 บ้าน และแมว 22 บ้าน ที่ได้มาประชันความน่ารักในรอบชิงชนะเลิศ
สำหรับบรรยากาศบนเวทีในรอบชิงชนะเลิศนั้นก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานและตื่นเต้น เมื่อบรรดาไอดอลสี่ขาและเจ้าของได้ออกมาโชว์ความน่ารักและความสามารถ แต่ละบ้านต่างก็ครีเอตกลเม็ดเด็ด ๆ มานำเสนอกันเต็มที่ ทำให้คณะกรรมการถึงกับลังเลว่าจะเทคะแนนให้ใครดี โดยเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนนนั้นครอบคลุมทั้งเรื่องบุคลิกภาพ การนำเสนอ ความมั่นใจ ความสง่างาม ความเป็นมิตร ความร่าเริง รวมถึงการแต่งกาย และความพร้อมของเจ้าของ
หลังจากขับเคี่ยวประชันความน่ารักกันพักใหญ่ ๆ ในที่สุดก็ได้ผู้ที่ชนะใจกรรมการ คว้าตำแหน่ง
แบรนด์แอมบาสเดอร์ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อไปครอง โดยประเภทสุนัข ได้แก่ น้อง Coco พันธุ์ Golden Retriever ส่วนประเภทแมว ได้แก่ น้อง เซเลส พันธุ์ Ragdoll ซึ่งนอกจากรางวัลชนะเลิศแล้ว ยังมีรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทสุนัข ได้แก่ น้อง ไอยู พันธุ์ Shiba Inu ประเภทแมว ได้แก่ น้อง ไข่ต้ม พันธุ์ Scottish Fold รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทสุนัข ได้แก่ น้อง Valentino พันธุ์ Siberian Husky ประเภทแมว ได้แก่ น้อง ซูชิ พันธุ์ Scottish Fold Longhair รางวัล Popular Vote ได้แก่น้อง โอลาฟ British Longhair
พิเศษมากกว่านั้น ยังมีรางวัลพิเศษจากรพส.ทองหล่อ รางวัล Grow Together ครอบครัวทองหล่อ Family of Love และ รางวัล Best Costume ดูดีแบบมีสไตล์ รวมรางวัลขวัญใจจากแบรนด์ต่าง ๆ รวม 16 รางวัล
"ความสำเร็จของงาน Thonglor Brand Ambassador 2025 นับว่าเกินความคาดหมาย เพราะมีผู้สมัครมาจากทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก นอกจากจะได้เห็นความน่ารักของน้องหมาน้องแมวแล้ว เรายังได้เห็นความรัก ความใส่ใจ และความทุ่มเทของเหล่าเจ้าของ ที่ดูแลสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี ซึ่งตรงกับปณิธานของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อที่มุ่งส่งเสริมการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้องและมีคุณภาพ เราหวังว่ากิจกรรมนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างคอมมูนิตี้คนรักสัตว์เลี้ยงให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะจัดกิจกรรมดี ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อมอบความสุขและประสบการณ์ที่ดีให้ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง" สพ.ญ.กฤติกา กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมดี ๆ จากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ได้ทาง page : Thonglor Brand Ambassador และ page : Thonglor Pet Hospital โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ

ย่านสุขภาพดีของน้องสี่ขาพร้อมเปิดให้เช็กอินแล้ว ! พรุ่งนี้ยังมาเจอกันได้อีกวัน !!!เตรียมพบกับย่านสุขภาพดีแห่งใหม่ของน้อง...
22/05/2025

ย่านสุขภาพดีของน้องสี่ขาพร้อมเปิดให้เช็กอินแล้ว ! พรุ่งนี้ยังมาเจอกันได้อีกวัน !!!
เตรียมพบกับย่านสุขภาพดีแห่งใหม่ของน้องสี่ขา ‘Royal Canin Healthy District’ ที่จะพาทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์แห่งความรักและความเข้าใจเพื่อให้น้องหมาน้องแมวแฮปปี้ทุกพันธุ์ เฮลท์ตี้ทุกวัย พร้อมกิจกรรมและสาระความรู้สนุกๆ ที่ทำให้ทุกโมเมนต์คุ้มค่าที่สุด
ล็อกคิวไว้แล้วมาเจอกัน!
📅 วันที่ 22-23 พฤษภาคม 2568
🕙 เวลา 10.00 - 21.00 น.
📍 ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
📌 ลงทะเบียนเข้าร่วมงานเลยที่! 👉https://forms.gle/98DcnrMd8Wtfx5zY9
ห้ามพลาด! ย่านนี้มีกิจกรรมจัดเต็มถึง 3 โซน พร้อมแจกของรางวัลสุดพิเศษ
Pet Edutainment
อัปเดตความรู้สุดสนุกเรื่องหมาแมว แวะถ่ายรูปสุดชิค พร้อมรับคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ ฟรี!
Pet Playtime Exhibition
สัมผัสประสบการณ์ IMMERSIVE HEALTHY PLAY สร้างสรรค์สัตว์เลี้ยงแสนสนุกผ่านจินตนาการในแบบของคุณ
Pet Market & Community
ช้อปสินค้าสุดฮิต เวิร์กชอปแสนน่ารัก Pet Park ที่ให้คนและสัตว์เลี้ยงพักผ่อน พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษบนเวที
ย่านนี้ Pet-Friendly สุดๆ ทุกคนสามารถพาน้องหมาน้องแมวมาด้วยได้น้า แต่ขอให้อยู่ในการดูแลตลอดเวลา และใส่สายจูงหรือกระเป๋า ก็พร้อมพาน้องมาตะลุยย่านนี้ได้เลย ❤️
#เพราะสุขภาพดีคุ้มค่าที่สุด

เรียกทั้งวัน ไม่เคยหันซักทีเวลาเรียกน้องแมวแล้วแมวไม่ยอมหันนี่เรียกว่าเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของคนเลี้ยงแมวที่ต้องทำใจเลย...
14/05/2025

เรียกทั้งวัน ไม่เคยหันซักที
เวลาเรียกน้องแมวแล้วแมวไม่ยอมหันนี่เรียกว่าเป็นเรื่องปกติธรรมชาติของคนเลี้ยงแมวที่ต้องทำใจเลยทีเดียว จนบางคนถึงกับบอกว่าน้องแมวนั้นสามารถเปิดโหมดหูตึงใส่เสียงเรียกของมนุษย์ได้ และได้ยินแต่เสียงแกะห่อขนมแมวเลียเท่านั้น แต่ความพยายามของมนุษยชาติไม่ได้จบลงแค่ตรงนี้แต่อย่างใด เพราะมีเหล่าทีมนักวิทย์พยายามหาวิธีเรียกน้องแมวให้ได้ผลที่สุดกันอยู่
ทีมนักวิจัยนำทีมโดยคุณ Charlotte de Mouzon จากมหาวิทยาลัย Paris-Nanterre University ได้ทดลองการเรียกแมวหลายๆ แบบกับแมวที่อยู่ในคาเฟ่แมว และพบผลลัพธ์ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
1. ใช้ทั้งเสียงและท่าทางร่วมกัน: แมวตอบสนองดีที่สุด
2. ใช้ท่าทางอย่างเดียว: ได้ผลดี
3. ใช้เสียงอย่างเดียว: ได้ผลปานกลาง
4. ไม่ทำอะไรเลย: แมวไม่สนใจและอาจเครียด (เอ้า เรื่องมากจริง)
จากผลการทดลองจะเห็นได้ว่าการใช้ทั้งเสียงเรียกและท่าทางร่วมกันนั้นจะทำให้แมวสนใจได้ดีที่สุด และที่น่าตกใจคือการใช้ท่าทางนั้นดูได้ผลมากกว่าการใช้เสียงเรียกอย่างเดียวด้วย โดยทางทีมวิจัยให้คำแนะนำว่าถ้าเรียกน้องแมวให้เรียกด้วยการใช้เสียงและท่าทางรวมกัน (เช่น เรียกชื่อแมวและทำมือกวักเรียกมาหา) และถ้ามีโอกาสลองใช้ท่าทางเพื่อการเรียกอย่างเดียวเพื่อให้แมวคุ้นชินมากขึ้น รวมไปถึงต่อให้ไม่เรียกก็ลองมองหรือยิ้มให้น้องแมว จะช่วยให้แมวคุ้นชินกับเราและมีโอกาสปฏิสัมพันธ์มากขึ้นได้
อีกเรื่องที่น่าเล่าก็คือในงานทดลองนี้พบว่าการใช้เสียงเรียกแมวแบบฝรั่งเศส คือ การใช้เสียง Pff Pff (น่าจะประมาณใช้เสียงฟอฟัน) จะได้ผลดีกว่าการใช้เสียง Pss Pss (น่าจะประมาณเสียง สอเสือ) ดังนั้นถ้าจะลองเรียกแมวลองใช้วิธีนี้ช่วยเพิ่มดู แล้วได้ผลอย่างไรก็มาเล่าให้ฟังกันด้วยนะ
แต่ถ้าน้องแมวทำยังไงก็ไม่หันเลย ก็ลองใช้ไม้ตายสุดท้ายแกะห่อขนมแมวเลีย รับรองว่าหันหมดทุกตัวแน่นอน
อ้างอิงข้อมูล

https://glassalmanac.com/scientists-reveal-the-best-way-to-call-a-cat-and-get-its-attention/
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

สุดสัปดาห์นี้เคลียร์คิวให้ว่าง เพราะงานสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดแห่งปีกำลังจะเริ่มแล้ว !!!พบกับงาน Pet Expo Thailand 2025...
29/04/2025

สุดสัปดาห์นี้เคลียร์คิวให้ว่าง เพราะงานสัตว์เลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดแห่งปีกำลังจะเริ่มแล้ว !!!
พบกับงาน Pet Expo Thailand 2025 ที่ปีนี้จัดเต็มอลังการกว่าทุกปีด้วยธีม "Friendship Beyond Frontier" พร้อมด้วยการจัดงานกว้างถึง 4 ฮอลล์ ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัด Pet Expo มาเลย
ภายในงานเตรียมพบกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งช็อปสินค้าสัตว์เลี้ยงทุกรูปแบบพร้อมส่วนลดเต็มๆ แบบจุกๆ กว่า 850 ร้าน ให้เจ้าของน้องหมาและน้องแมวล้มละลายกันอย่างมีความสุข รวมไปถึงเที่ยวชมสัตว์แปลกชนิดต่างๆ การแข่งขันและประกวดสัตว์ชนิดต่างๆ ตลอดทั้งงาน หรือกิจกรรมสุดน่ารักอย่าง "น้องเหมียวนักตบ" ใครจะตบแรง ตบเก่งกว่ากัน ต้องไปลุ้นกันที่งานกันเลย
งาน Pet Expo Thailand 2025 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-4 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถพาน้องหมาและน้องแมวมาร่วมงานได้ แต่ถ้าน้องตัวใหญ่อย่าลืมใส่สายจูงตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัย ส่วนน้องตัวเล็กมาในรถเข็นจะสะดวกและปลอดภัยมากที่สุดจ้า

ถ้าเลี้ยงแมวแล้วหักลดหย่อนภาษีได้จะเป็นดีแค่ไหนกันนะความจริงที่ว่าเลี้ยงแมวแล้วมีแต่เรื่องเสียงตังค์นี่คงเป็นเรื่องที่ไม...
04/04/2025

ถ้าเลี้ยงแมวแล้วหักลดหย่อนภาษีได้จะเป็นดีแค่ไหนกันนะ
ความจริงที่ว่าเลี้ยงแมวแล้วมีแต่เรื่องเสียงตังค์นี่คงเป็นเรื่องที่ไม่อาจเลี่ยงได้ โดยเฉพาะช่วงที่ต้องเสียภาษีที่ชวนให้ปวดใจเช่นนี้ แต่ว่าถ้าเลี้ยงแมวแล้วสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้นี่ น่าจะเป็นความคิดที่ดีไม่ใช่น้อย และนี่ไม่ใช่ความคิดเล่นๆ แต่เป็นแนวคิดจากนักวิจัยออสเตรเลียที่เห็นว่าแมวที่ถูกเลี้ยงไว้ทำงานในฟาร์ม เช่น เพื่อจับหนู และสัตว์รบกวนต่างๆ ควรเป็นสิทธิ์ให้เจ้าของนำไปลดหย่อนภาษีได้
ต้องบอกก่อนว่าในออสเตรเลีย เหล่าสัตว์เลี้ยงในฟาร์มที่ไว้คอยช่วยมนุษย์ เช่น สุนัขต้อนแกะ หรือม้า เจ้าของจะได้สิทธิ์หักลดหย่อนด้วยเพราถือว่าเป็นต้นทุนแบบหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันมีหลายฟาร์มมากที่ใช้แมวในการทำงานในฟาร์มด้วยแต่กลายเป็นว่าไม่ได้รับสิทธิ์อะไรเลย ทั้งๆ ที่ก็มีต้นทุนที่ต้องจัดการด้วยเช่นกัน
ทีมนักวิจัยได้ไปสัมภาษณ์เจ้าของฟาร์มโคนมจำนวน 15 แห่ง ที่ New South Wales พบว่าทุกฟาร์มมีแมวตั้งแต่ 3 ตัว ไปจนถึง 60 ตัวเลยก็มี ส่วนใหญ่เลี้ยงไว้เพื่อใช้กำจัดสัตว์รบกวนต่างๆ และทีมวิจัยก็พบว่าผู้เลี้ยงโคนมเหล่านี้ใช้เหล่าน้องแมวเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดการสัตว์รบกวนต่างๆ โดยเฉพาะหนู ซึ่งบางครั้งหนูก็สร้างความเสียหายมหาศาล เช่น หนูแค่ตัวเดียวอาจจะไปกัดสายไฟทำให้ไฟฟ้าทั้งโรงเรือนดับได้เลย และตั้งแต่เลี้ยงแมวมาก็ไม่เคยเจอปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องปัญหาจากหนูอีกเลย
นอกจากนี้แต่ก่อนคนเลี้ยงโคนมยังต้องวางยาเบื่อหนูซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม แต่พวกเขาบอกเลยว่าไม่ได้ผลเท่ากับการใช้แมว และการใช้แมวก็ประหยัดกว่าและปลอดภัยยกว่ามาก เพราะยาเบื่อหนูอาจจะไปทำอันตรายต่อทั้งวัวและสุนัขต้อนวัวได้
แต่อย่างไรก็ดีการเลี้ยงแมวก็มีค่าใช้จ่าย (ใช่ ทุกคนรู้เรื่องนี้ดี และค่าใช้จ่ายเยอะด้วย) โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการทำหมันและฝังไมโครชิป ซึ่งในออสเตรเลียถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง และถ้าปล่อยปละละเลยส่วนนี้ไปอาจจะทำให้ประชากรแมวเพิ่มขึ้นจนเกินควบคุมและกลายเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าชนิดอื่นได้ รวมไปถึงยังมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพประจำปี เช่น การใช้ยาป้องกันเห็บหมัด และตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์
ที่อังกฤษและสหรัฐอเมริกานั้น อนุญาตให้มีการลดหย่อนภาษีสำหรับเจ้าของฟาร์มที่เลี้ยงแมวไว้ใช้งาน แต่ที่ออสเตรเลียนั้นยังคงจำกัดไว้แค่ที่ม้าและสุนัขเท่านั้น ดังนั้นทีมนักวิจัยจึงคาดหวังว่าการลดหย่อนภาษีแมวนี้จะช่วยให้เจ้าของฟาร์มสามารถทำหมันและดูแลน้องแมวได้ดีขึ้นจากกการเสียภาษีที่ลดลง และแน่นอนว่าช่วยคุมประชากรแมวให้คงที่และทำอันตรายต่อสัตว์ป่าน้อยลงด้วยเช่นกัน
หันกลับมาดูที่บ้านเรา ใครเลี้ยงน้องแมวก็ยังคงต้องเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยกันต่อไปนะ ไม่ว่าจะเลี้ยงเพื่อทำงานหรือไม่งานก็ตาม เจ้าของก็ต้องทำงานเสียภาษีและเลี้ยงดูเหล่าน้องแมวของเรากันเองต่อไป
อ้างอิงข้อมูล

https://www.abc.net.au/news/2025-03-15/working-cats-deserve-tax-deductible-status/105051628

https://www.mdpi.com/2076-2615/15/6/800
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

วันนี้ วันสุดท้าย Howl เชิญชวนเหล่าทาสสตาร์ทรถตอนนี้ยังทัน ยังมีกิจกรรมดีๆ โปรโมชั่นจุกๆ อีกเพียบบบบ
30/03/2025

วันนี้ วันสุดท้าย Howl เชิญชวนเหล่าทาสสตาร์ทรถตอนนี้ยังทัน ยังมีกิจกรรมดีๆ โปรโมชั่นจุกๆ อีกเพียบบบบ

รู้หรือไม่ว่า น้องๆ สัตว์เลี้ยงของเราก็ป่วยเป็นโรคระบบประสาทได้โรคระบบประสาทในสัตว์เลี้ยงนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การรักษ...
12/03/2025

รู้หรือไม่ว่า น้องๆ สัตว์เลี้ยงของเราก็ป่วยเป็นโรคระบบประสาทได้
โรคระบบประสาทในสัตว์เลี้ยงนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่การรักษาโรคระบบประสาทในสัตว์เลี้ยงนั้นยังถือว่าเป็นศาสตร์การรักษาที่ค่อนข้างใหม่ในประเทศไทย และมีการพัฒนาไปเร็วมาก ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ากระทั่งในน้องๆ สัตว์เลี้ยง ก็มีการทำ CT-Scan และ MRI รวมไปถึงผ่าตัดระบบประสาทแบบใช้เทคโนโลยีกล้องจุลทรรศน์ ที่แทบไม่ต่างจากในคนได้แล้ว
แน่นอนว่าทั้งหมดที่เราพูดถึงนี้ ศูนย์โรคประสาทและกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์ มีอยู่อย่างครบครัน
ดังนั้นในคราวนี้เราเลยขอพาเพื่อนๆ ทุกคนไปเที่ยวชมหนึ่งในโรงพยาบาลสัตว์ที่ได้ชื่อว่าดีไซน์สวย มีความพร้อม และทันสมัยที่สุดในย่านทองหล่อที่บอกเลยว่าเพียงแค่เดินเข้าไปก้าวแรกก็ต้องร้องว้าวกันแล้ว มาดูกันว่าที่ศูนย์โรคระบบประสาทและกระดูกสันหลังแห่งนี้มีจุดเด่นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจ
และทำไมที่นี่ถึงได้ชื่อว่าเป็นศูนย์โรคระบบประสาทและกระดูกสันหลัง สัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดในย่านทองหล่อนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : Arak Animal Hospital โรงพยาบาลสัตว์อารักษ์

นี่...สรุปแล้วเราเป็นอะไรกันนี่ไม่ใช่ประโยคดราม่าในแชทไลน์ของใครบางคนที่คุยกันมานานแต่ก็ไม่รู้ว่าระหว่างเรากับอีกฝ่ายนั้...
06/03/2025

นี่...สรุปแล้วเราเป็นอะไรกัน
นี่ไม่ใช่ประโยคดราม่าในแชทไลน์ของใครบางคนที่คุยกันมานานแต่ก็ไม่รู้ว่าระหว่างเรากับอีกฝ่ายนั้นมีชื่อเรียกความสัมพันธ์ว่าอะไร แต่นี่คือคำถามของทีมนักวิจัยที่อยากรู้ว่าแมวกับมนุษย์นั้นมีความสัมพันธ์กันแบบไหนกํนแน่ ซึ่งทีมวิจัยพบว่าความผูกพันระหว่างแมวกับเจ้าของสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภท คือ ความผูกพันแบบมั่นคง (secure attachment) แบบวิตกกังวล (anxious attachment) และแบบหลีกเลี่ยง (avoidant attachment)
การวิจัยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าแมวมีความฉลาดทางสังคมมากกว่าที่เคยคิดกันไว้ พวกมันสามารถเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์ รับรู้สัญญาณทางสังคม และจดจำเสียงของเจ้าของได้ นั่นหมายความว่าวิธีที่มนุษย์ปฏิสัมพันธ์กับแมวสามารถส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของพวกมันได้ งานวิจัยบางชิ้นยังพบว่าบุคลิกภาพของเจ้าของและวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงมีความเชื่อมโยงกับพฤติกรรมที่เป็นปัญหาในทั้งแมวและสุนัข ตัวอย่างเช่น การปฏิสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความเครียดอาจทำให้แมวมีแนวโน้มที่จะก้าวร้าวมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ทีมนักวิจัยจึงต้องการศึกษาว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและแมวเกี่ยวข้องกับรูปแบบความผูกพันของแมวอย่างไร และบทบาทของออกซิโทซินในการสร้างความสัมพันธ์นี้
ออกซิโทซินเป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ระหว่างมนุษย์กับสัตว์เลี้ยง และอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่อธิบายถึงประโยชน์ทางจิตใจและร่างกายที่เกิดจากความสัมพันธ์นี้ งานวิจัยในสุนัขพบว่าปฏิสัมพันธ์ที่ดี เช่น การสบตา การลูบไล้ และการเล่นร่วมกัน สามารถกระตุ้นการหลั่งออกซิโทซินในทั้งสุนัขและเจ้าของ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมเชิงบวกและทำให้เกิดการหลั่งออกซิโทซินมากขึ้น แต่สำหรับแมว ข้อมูลเกี่ยวกับออกซิโทซินในระหว่างการปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของยังคงมีน้อยมาก
เพื่อศึกษาประเด็นนี้ ทีมนักวิจัยได้คัดเลือกแมวบ้านจำนวน 30 ตัวจากเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยแมวเพศผู้และเพศเมียจากหลากหลายสายพันธุ์ และมีอายุระหว่างหนึ่งถึงสามปี โดยเงื่อนไขสำคัญในการเข้าร่วมการทดลองคือ แมวต้องมีอายุตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป และอาศัยอยู่กับเจ้าของเดิมเป็นเวลาขั้นต่ำสี่เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าแมวมีโอกาสพัฒนาความผูกพันที่มั่นคงกับเจ้าของ
นักวิจัยใช้แบบทดสอบที่เรียกว่า “secure base test” เพื่อวิเคราะห์รูปแบบความผูกพันของแมว ในการทดลองนี้ แมวจะถูกพาเข้าไปในห้องที่ไม่คุ้นเคยพร้อมกับเจ้าของเป็นเวลาสองนาที จากนั้นเจ้าของจะออกจากห้องไปเป็นเวลาสองนาที ก่อนจะกลับเข้ามาอีกครั้ง ในระหว่างการทดลอง กล้องความละเอียดสูงจะบันทึกพฤติกรรมของแมวทั้งหมด นักวิจัยจะสังเกตว่าหลังจากเจ้าของกลับเข้ามา แมวแสดงพฤติกรรมอย่างไร เช่น เดินเข้าไปหาเพื่อขอความสนใจ สำรวจห้อง หรือแสดงท่าทางหลีกเลี่ยง จากนั้นจึงจัดประเภทของแมวว่าอยู่ในกลุ่มความผูกพันแบบมั่นคง วิตกกังวล หรือหลีกเลี่ยง
หลังจากนั้น ทีมวิจัยได้ศึกษาแมวในสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ โดยให้เจ้าของปฏิสัมพันธ์กับแมวตามปกติเป็นเวลา 15 นาทีในบ้านของตนเอง ในระหว่างนี้ กล้องจะบันทึกพฤติกรรมของแมว เช่น การเข้าใกล้เจ้าของ การเว้นระยะห่าง และการปฏิสัมพันธ์ที่ถูกบังคับโดยเจ้าของ นอกจากนี้ นักวิจัยยังเก็บตัวอย่างน้ำลายจากแมวแต่ละตัวสองครั้ง คือ 30 นาทีก่อนการปฏิสัมพันธ์และ 5 นาทีหลังจากสิ้นสุดการทดลอง เพื่อวัดระดับออกซิโทซิน
ผลการศึกษาพบว่ามีความแตกต่างอย่างชัดเจนในหมู่แมวที่มีรูปแบบความผูกพันต่างกัน ประมาณหนึ่งในสามของแมวมีความผูกพันแบบมั่นคง ซึ่งแมวกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะเข้าหาและโต้ตอบกับเจ้าของมากขึ้น และพยายามหลีกเลี่ยงน้อยลง ในทางกลับกัน แมวที่มีความผูกพันแบบวิตกกังวลจะคอยติดตามเจ้าของตลอดเวลา แต่กลับรู้สึกไม่สบายใจหากถูกอุ้ม ส่วนแมวที่มีความผูกพันแบบหลีกเลี่ยงมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่เดินหนีและหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์
ที่น่าสนใจคือ ระดับออกซิโทซินในน้ำลายของแมวก็สะท้อนถึงพฤติกรรมที่แตกต่างกันนี้ แมวที่มีความผูกพันแบบมั่นคงเริ่มต้นด้วยระดับออกซิโทซินที่ต่ำกว่าแต่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากปฏิสัมพันธ์ ในขณะที่แมวแบบวิตกกังวลมีระดับออกซิโทซินสูงตั้งแต่แรกและลดลงหลังจากการปฏิสัมพันธ์ ส่วนแมวที่มีความผูกพันแบบหลีกเลี่ยงไม่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนอย่างมีนัยสำคัญ
แม้ว่าการศึกษานี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแมวกับเจ้าของ แต่ก็ยังมีข้อจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขนาดตัวอย่างที่ค่อนข้างเล็ก และความจำเป็นในการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าปัจจัยใดในพฤติกรรมของเจ้าของที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันของแมวได้มากที่สุด การศึกษาต่อไปอาจช่วยให้เข้าใจถึงแนวทางที่เหมาะสมในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแมวและเจ้าของได้ดียิ่งขึ้น
ส่วนความสัมพันธ์ของเรากับแมวที่บ้านนั้นเป็นอย่างไร ก็คงมีแต่ตัวเราเท่านั้นที่รู้คำตอบ ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเจ้านายกับทาสก็ได้นะ แฮร่
อ้างอิงข้อมูล

https://www.psypost.org/cat-attachment-style-impacts-behavior-and-hormone-levels-study-finds/
อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

ทำไมถึงเกิดมาเป็นแมวส้มถ้าคุณเลี้ยงแมวส้มอยู่ คุณเคยสงสัยไหมว่าเหตุใดแมวบางตัวจึงมีขนสีส้ม โอเค ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องของค...
12/02/2025

ทำไมถึงเกิดมาเป็นแมวส้ม
ถ้าคุณเลี้ยงแมวส้มอยู่ คุณเคยสงสัยไหมว่าเหตุใดแมวบางตัวจึงมีขนสีส้ม โอเค ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องของคนจิตว่างขี้สงสัยไม่มีอะไรทำ แต่จริงๆ เรื่องขนสีส้มของน้องแมวนี้ถือเป็นปริศนาทางพันธุกรรมที่ได้รับความสนใจมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะจากนักวิทยาศาสตร์ที่พยายามไขความลับของสีขนในแมว และในที่สุดการค้นพบที่น่าทึ่งจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ได้เผยความจริงที่อยู่เบื้องหลังสีขนของเหล่าน้องแมวส้มแล้วหลังจากที่พยายามกันมาเกือบ 100 ปี
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1912 นักพันธุศาสตร์ชาวอเมริกัน Clarence Cook Little ได้ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับการถ่ายทอดพันธุกรรมของสีขนในแมว เขาอธิบายว่าแมวเพศเมียมีโครโมโซม X สองชุด (XX) ขณะที่แมวเพศผู้มีโครโมโซม X เพียงชุดเดียว (XY) และสีขนส้มถูกควบคุมโดยยีนบนโครโมโซม X หากแมวมีโครโมโซม X สองชุดที่ต่างกัน เช่น แมวเพศเมียที่มีโครโมโซม X หนึ่งชุดที่มีลักษณะ "สีส้ม" และอีกชุดที่ไม่มีลักษณะนี้ จะมีสีขนลายกระดองเต่า (tortoiseshell)
แต่ผลการศึกษาใหม่ของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์เผยให้เห็นรายละเอียดมากขึ้นว่าสีขนของแมวส้มถูกกำหนดโดยยีนตัวหนึ่งที่เรียกว่า MC1R (Melanocortin 1 Receptor) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลิตเมลานินในร่างกาย การกลายพันธุ์บางอย่างในยีนนี้ทำให้สีเมลานินเปลี่ยนเป็นสีส้มสดใส ซึ่งแตกต่างจากสีขนแบบดั้งเดิมที่อาจเป็นสีดำหรือเทา นอกจากนี้ ผลการศึกษายังยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างโครโมโซม X และสีขนส้มเป็นไปตามสมมติฐานของ Clarence Cook Little
ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ทำไมแมวส้มส่วนใหญ่ถึงเป็นเพศผู้ คำตอบนั้นง่ายมาก เพราะเพศผู้มีโครโมโซม X เพียงชุดเดียว หากยีน MC1R บนโครโมโซม X ของแมวเพศผู้เป็นลักษณะ "สีส้ม" แมวตัวนั้นจะมีสีขนส้มทันที ต่างจากแมวเพศเมียที่ต้องมียีนส้มในโครโมโซม X ทั้งสองชุดจึงจะเป็นแมวสีส้มล้วน
นอกจากจะช่วยเพิ่มความเข้าใจในเรื่องสีขนแล้ว การศึกษาเรื่องยีน MC1R ยังมีผลต่อการศึกษาเรื่องโรคทางพันธุกรรมในแมวและสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ความเข้าใจในกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเมลานินอาจนำไปสู่การพัฒนาวิธีรักษาโรคทางผิวหนังและโรคเม็ดสีผิดปกติในมนุษย์ได้
เรียกได้ว่าความเป็นแมวส้มนี้....ยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิดจริงๆ
อ้างอิงข้อมูล

https://www.sydney.edu.au/news-opinion/news/2024/12/04/mystery-gene-cats-coats-found-ginger.html

อ่านเรื่องอื่นๆ ได้ที่ : www.readhowl.com
ช่องทางติดตามอื่นๆ
Instagram : https://www.instagram.com/readhowl
Youtube : https://bit.ly/3EiWwRL
Blockdit : https://www.blockdit.com/readhowl
Line Today : https://today.line.me/th/v2/publisher/102783

ที่อยู่

Howl Magazine
Nonthaburi
1100

เวลาทำการ

จันทร์ 09:00 - 17:00
อังคาร 09:00 - 17:00
พุธ 09:00 - 17:00
พฤหัสบดี 09:00 - 17:00
ศุกร์ 09:00 - 17:00

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ Howlผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง Howl:

แชร์

ประเภท

What the howl ?

Howl magazine คือนิตยสารสัตว์เลี้ยงที่เกิดจากคนรุ่นใหม่รวมตัวกันด้วยความคิดที่ว่าอยาก ทำหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของสัตว์เลี้ยงออกมาในรูปแบบที่แปลกใหม่ สวยงาม และโดดเด่น โดย Howl magazine เป็นนิตยสารแจกฟรีทางออนไลน์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและอ่านได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ

คำว่า Howl นั้นแปลว่าเสียงหอนของสัตว์ ซึ่งทีมงาน Howl ทุกคนหวังว่าเสียงที่พวกเรากำลังทำขึ้นนี้จะดังเข้าไปในใจของคนอ่านทุกคน

Howl are you ?

Howl magazine นั้นมี E-magazine เป็นผลงานหลักที่พวกเรารักและภูมิใจไปกับมัน แต่เพื่อปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีในปัจจุบันเราพยายามที่จะสร้างผลงานใหม่ๆ ในรูปแบบอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น วิดีโอภาพเคลื่อนไหว งานแฮนด์คราฟต่างๆ รวมไปถึงเว็บไซต์แห่งนี้ด้วย