SmartNews Online /สมาร์ตนิวส์ ออนไลน์

SmartNews Online /สมาร์ตนิวส์  ออนไลน์ ทุกข่าวสาร รายงาน สถานการณ์ เพื่อสังคม

POLITICS NEWS : ‘สะถิระ’ เผย กธ.เตรียมเสนอร่าง กม.พระสงฆ์ หวังฟื้นศรัทธาพุทธศาสนา ยันพร้อมรับตำแหน่งรองประธานสภาฯ หากพรร...
22/07/2025

POLITICS NEWS : ‘สะถิระ’ เผย กธ.เตรียมเสนอร่าง กม.พระสงฆ์ หวังฟื้นศรัทธาพุทธศาสนา ยันพร้อมรับตำแหน่งรองประธานสภาฯ หากพรรคร่วมหนุน

วันที่ 22 ก.ค. 68 นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี พรรคกล้าธรรม(กธ.) เผยว่า ขณะนี้พรรคกล้าธรรม มีความกังวลต่อกระแสข่าวที่เกี่ยวข้องกับพระภิกษุสงฆ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา พรรคจึงอยู่ระหว่างจัดทำร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับพระสงฆ์ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ รวมถึงการกำหนดแนวทางที่ชัดเจนในการบรรพชาอุปสมบท เช่น ระยะเวลาในการบวช และมาตรการตรวจสอบเพื่อสร้างความโปร่งใส

“เราห่วงใยความรู้สึกของพี่น้องประชาชนอย่างยิ่ง พระสงฆ์คือที่พึ่งทางใจของคนไทย เราจึงต้องช่วยกันนำความเลื่อมใสและศรัทธาในพระพุทธศาสนากลับคืนมา” นายสะถิระ กล่าว

ทั้งนี้ ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบในด้านข้อกฎหมายโดยนักกฎหมายของพรรค และเมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จ พรรคจะยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาต่อไป

นายสะถิระ ยังกล่าวถึงกรณีกระแสข่าวมีชื่อปรากฏในกระแสข่าวผู้ถูกเสนอเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ว่า พรรคกล้าธรรมมีสิทธิในการเสนอชื่อบุคคล และยืนยันว่ามีความพร้อมรับตำแหน่งหากพรรคเสนอชื่อของตน โดยเน้นย้ำว่า ควรให้พรรคร่วมรัฐบาลหารือกันเพื่อเดินหน้าไปพร้อมกัน

เมื่อถูกถามว่ามีสัญญาณจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า ตำแหน่งดังกล่าวจะเป็นโควตาของพรรคใด นายสะถิระตอบว่า เป็นสิทธิของทุกพรรคที่จะเสนอชื่อ แต่ท้ายที่สุดจะต้องตกลงกันภายในรัฐบาล หากพรรคกล้าธรรมเห็นชอบและเสนอชื่อ เขาก็พร้อมที่จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่
#กล้าธรรมวันนี้ #การเมืองวันนี้

AGRICULTURE NEWS :  ‘อรรถกร–นเรศ’ แถลงมาตรการเร่งด่วนช่วยชาวสวนลำไย ตั้งงบ 1,000 ล้าน ลุยพัฒนาคุณภาพ พร้อมดึง 200 ล้านจา...
22/07/2025

AGRICULTURE NEWS : ‘อรรถกร–นเรศ’ แถลงมาตรการเร่งด่วนช่วยชาวสวนลำไย ตั้งงบ 1,000 ล้าน ลุยพัฒนาคุณภาพ พร้อมดึง 200 ล้านจากกองทุนเกษตรฯใช้แปรรูปลำไยให้ชะลอขายถึงตรุษจีน มั่นใจจะช่วยพยุงราคาให้เกษตรกร

วันที่ 22 ก.ค. 68 ที่อาคารพรรคกล้าธรรม(กธ.)นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคกล้าธรรม ร่วมแถลงข่าวถึงแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไย เนื่องจากปีนี้ผลผลิตลำไยในช่วงเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม มีปริมาณเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าจะสูงถึงถึง 120,000- 140,000 ตัน แต่การบริโภคในประเทศยังเท่าเดิม ส่งผลให้เกิดภาวะราคาตกต่ำ และ

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า สส.นเรศ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ที่ผ่านมา พรรคกล้าธรรมนำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม, นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ไปพบเกษตรกรที่จังหวัดเชียงใหม่กว่า 6,000 คน และได้พิจารณาเตรียมเสนอมาตรการเร่งด่วนต่อ ครม. โดยจะใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพผลผลิตลำไย โดยจัดสรรงบประมาณไร่ละ 1,000 บาท เพื่อให้เกษตรกรแต่งทรงพุ่ม ตัดแต่งกิ่ง และดูแลต้นลำไยอย่างเหมาะสม เพื่อยกระดับผลผลิตจากเกรด B และ C ให้เป็นเกรด A และ AA ซึ่งจะทำให้ผลผลิตมีราคาเพิ่มขึ้น และมีตลาดรองรับในประเทศและต่างประเทศ และ 2. คือการช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะค่าปุ๋ยและค่าใช้จ่ายในการดูแลผลผลิต เพื่อลดต้นทุนของเกษตรกรและเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาด

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการระบายผลผลิตลำไยออกจากตลาด โดยใช้เงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ และกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร กองทุนละ 100 ล้านบาท รวม 200 ล้านบาท เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ใช้ในการรับซื้อลำไยสด เพื่อนำไปแปรรูปเป็นลำไยอบแห้งและลำไยสีทอง โดยจะชะลอการขายไว้ถึงช่วงปลายปี และส่งต่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนที่มีความต้องการสูง ช่วยพยุงราคาให้เกษตรกรอีกด้วย

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯ ต้องขอขอบคุณความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่ระดมกำลังมาช่วยกันแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงศึกษาธิการ นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่มอบหมายให้ สพฐ.รับซื้อลำไยจากภาคเหนือ เพื่อกระจายให้โรงเรียนในสังกัด,กรมราชทัณฑ์ รับลำไยไปแจกจ่ายให้ผู้ต้องขัง ,ภาคเอกชน โดยเฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กำลังประสานความร่วมมือเพื่อช่วยรับซื้อลำไย และกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ คุณกัน จอมพลัง ที่ร่วมไลฟ์ขายลำไยจนช่วยระบายผลผลิตไปได้กว่า 4 ตัน

“ผมยืนยันว่า เราจะไม่ปล่อยให้เกษตรกรต้องเผชิญปัญหาลำพัง พรรคกล้าธรรมและพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค กำลังร่วมกันวางแผนระยะยาว เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมลำไยให้เกิดความยั่งยืน ทั้งในด้านการตลาด คุณภาพ และการบริหารจัดการ” นายอรรถกร กล่าว

ด้านนายนเรศ กล่าวว่า ถือเป็นข่าวดีของเกษตรกรปลูกลำใยที่กระทรวงเกษตรฯ จะจัดสรรงบประมาณผ่านกองทุนจำนวนสองกองทุน รวมมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท (กองทุนละประมาณ 100 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์การเกษตร ให้มีทุนหมุนเวียนในการดึงลำไยสดออกจากตลาด เพื่อลดปริมาณลำไยสดส่วนเกิน และนำไปเข้าสู่กระบวนการแปรรูป โดยเป้าหมายของมาตรการนี้คือ การชะลอการจำหน่ายลำไยออกไปสู่ช่วงปลายปีจนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อรักษาเสถียรภาพและยกระดับราคาผลผลิตให้กับเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม

“เมื่อเราหลังการแปรรูปลำไย ไม่ว่าจะเป็นลำไยพันธุ์สีทอง หรือลำไยที่มีคุณภาพพลิกฟื้นได้จริง ล้วนมีตลาดรองรับอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการบริโภคลำไยแปรรูปสูง” นายนเรศ กล่าว
#เกษตรวันนี้ #ลำไย

POLITICS NEWS :  ‘นฤมล’ ลงนามแต่งตั้ง  ‘อิทธิ ศิริลัทธยากร’ ผอ.พรรคกล้าธรรม ตอบสนองความต้องการของ ปชช.ได้รวดเร็วและมีประ...
22/07/2025

POLITICS NEWS : ‘นฤมล’ ลงนามแต่งตั้ง ‘อิทธิ ศิริลัทธยากร’ ผอ.พรรคกล้าธรรม ตอบสนองความต้องการของ ปชช.ได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

วันที่ 22 ก.ค. 68 ศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม(กธ.) ลงนามในคำสั่งพรรคกล้าธรรมที่ 11/2568 เรื่อง แต่งตั้งผู้อำนวยการพรรคกล้าธรรม เพื่อให้การบริหารงานของพรรคและหัวหน้าพรรคกล้าธรรม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยบรรลุตามอุดมการณ์ วัตถุประสงค์ และนโยบายของพรรค ให้มีความคล่องตัว ทันสมัย ทันเหตุการณ์ สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงเหมาะสมกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ สามารถตอบสนอง ต่อความต้องการของประชาชนได้รวดเร็วทั่วถึง มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดอาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคกล้าธรรม พ.ศ.2568 ข้อ 20(1) (จ) (ช) จึงแต่งตั้งนายอิทธิ ศิริลัทธยากร เป็นผู้อำนวยการพรรคกล้าธรรม โดยให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่แต่งตั้งและอำนาจอื่นตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ นายอิทธิ จบการศึกษาปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอดีต สส. ฉะเชิงเทรา 5 สมัย ระหว่างปี พ.ศ. 2535 ถึง พ.ศ. 2550 และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และเมื่อปี 2567 นายอิทธิ ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
#การเมืองวันนี้ #กล้าธรรมวันนี้

TAT UPDATE : ททท. คว้า 2 รางวัล PATA Gold Awards 2025 สาขา Marketing จากแคมเปญ “The Love Season Initiative” และภาพถ่าย “...
22/07/2025

TAT UPDATE : ททท. คว้า 2 รางวัล PATA Gold Awards 2025 สาขา Marketing จากแคมเปญ “The Love Season Initiative” และภาพถ่าย “The Hidden Romance of Sam Roi Yot”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คว้า 2 รางวัล PATA Gold Awards 2025 จากสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Pacific Asia Travel Association) ได้แก่ แคมเปญ“The Love Season Initiative” ในประเภท Best Integrated Digital Marketing Campaign (Destination) และภาพถ่าย “The Hidden Romance of Sam Roi Yot” ในประเภท Best Travel Photography

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า การประกาศผลรางวัล PATA Gold Awards 2025 จัดขึ้นโดย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Pacific Asia Travel Association) จากการคัดเลือกโครงการด้านการท่องเที่ยวที่มีผลงานดีเด่นและประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในหลากหลายสาขา โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ผู้แทนและผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อมอบรางวัล PATA Gold Awards จำนวน 26 รางวัล และ PATA Grand Awards จำนวน 2 รางวัล โดยในปีนี้ ททท.สามารถคว้ารางวัล PATA Gold Awards 2025 ในสาขา Marketing จากแคมเปญ“The Love Season Initiative” ในประเภท Best Integrated Digital Marketing Campaign (Destination) และ ภาพถ่าย “The Hidden Romance of Sam Roi Yot” ในประเภท Best Travel Photography ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่โครงการของประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล

ทั้งนี้ สำหรับแคมเปญ “The Love Season Initiative” ได้รับรางวัลในประเภท Best Integrated Digital Marketing Campaign (Destination) เป็นแคมเปญการตลาดออนไลน์ของ ททท. เพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวหรือโลว์ซีซั่น โดยเปลี่ยน Low Season ให้เป็น Love Season ที่นักท่องเที่ยวจะตกหลุมรักประเทศไทย ด้วยการจัดทำคอนเท้นต์ออนไลน์เจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันตามไลฟ์สไตล์ เพื่อนำเสนอเสน่ห์ของประเทศไทยในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น การดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติในช่วงฤดูที่ต้นไม้เขียวชอุ่ม การเดินทางที่ผ่อนคลาย ความเป็นส่วนตัวของหาดทรายชายทะเล และประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่าง อาทิ ล่องแก่ง ชมน้ำตก พร้อมเชื่อมโยงไปสู่การนำเสนอข้อเสนอและส่วนลดพิเศษของแพ็คเกจสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทันที ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างมากในช่วงการดำเนินโครงการในปี 2567 ด้วยจำนวนการรับรู้กว่า 90 ล้านคน-ครั้ง และยอดจองสินค้าและบริการท่องเที่ยวกว่า 2,128 แพ็คเกจ ขณะที่ภาพถ่าย “The Hidden Romance of Sam Roi Yot” ที่ได้รับรางวัลในประเภท Best Travel Photography นำเสนอ Grand Moment ที่น่าประทับใจในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศไทย ด้วยความสวยงามของช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก ณ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้รับรางวัล PATA Gold Awards 2025 ในสาขาต่าง ๆ อีกจำนวน 6 รางวัล ได้แก่ รางวัล Sustainability & Social Responsibility Grand Award –การอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมวิสาหกิจชุมชนกลุ่มโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น, รางวัล Best Climate Action Initiative (Destination) - ต้นแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ปลดปล่อยคาร์บอนอย่างสมดุล, รางวัล Destination Resilience (All Destinations) - พื้นที่สร้างสรรค์ สู่การพลิกฟื้นคืนเมืองเก่าสงขลา สู่ย่านเมืองเก่าที่มีชีวิต, รางวัล Tourism for All: Best Inclusion and Diversity Initiative - การท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อคนทั้งมวล, รางวัล Best Women Empowerment Initiative - พลังสตรีกับการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชน: กรณีศึกษา บ้านสันทางหลวง จังหวัดเชียงราย และรางวัล Best Youth Empowerment Initiative –กลุ่มชวนน้องออมถวายพ่อหลวง (องค์กรสาธารณประโยชน์) ซึ่งนำเสนอโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.)
รางวัล PATA Gold Awards เป็นรางวัลที่มอบให้แก่โครงการด้านการท่องเที่ยวในหลากหลายสาขาที่มีผลงานดีเด่นและประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก พิธีการประกาศรางวัลจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ พ.ศ. 2527 โดยสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ พาต้า เพื่อส่งเสริมและยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วยมาตรฐานความเป็นเลิศและนวัตกรรม โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามผลการประกาศรางวัล และโครงการที่ได้รับรางวัล PATA Gold Awards 2025 ได้ที่ https://www.pata.org/pata-gold-awards-2025
#ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว

POLITICS VOICE : ‘อัครแสนคีรี’ แจงดรามากางเกงยีนส์ ‘รมว.นฤมล’ ย้ำลุยงานวันหยุด ตั้งใจเข้าถึง ชาวบ้าน - ครู นักเรียน ขอ ม...
22/07/2025

POLITICS VOICE : ‘อัครแสนคีรี’ แจงดรามากางเกงยีนส์ ‘รมว.นฤมล’ ย้ำลุยงานวันหยุด ตั้งใจเข้าถึง ชาวบ้าน - ครู นักเรียน ขอ มองที่ความตั้งใจ อย่าตัดสินจากภาพลักษณ์เพียงวันเดียว

วันที่ 22 ก.ค. 68 นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ และโฆษกพรรคกล้าธรรม(กธ.) กล่าวชี้แจงถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ระหว่างลงพื้นที่ตรวจติดตามนโยบายการศึกษาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 19-20 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ไม่เหมาะสมนั้น ตนขอเรียนชี้แจงต่อประชาชนว่า การลงพื้นที่ในวันนั้น รัฐมนตรีของพรรคกล้าธรรม ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำจากภาวะผลผลิตล้นตลาด ถือเป็นการบูรณาการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ในวันที่ผ่านมา นอกจาก บุคลากรด้านการศึกษา และเด็กเยาวชน แล้ว ศ.ดร.นฤมล ต้องพบปะเกษตรกร ชาวสวน ทำให้การแต่งกายของท่านเป็นไปเพื่อความคล่องตัว และเพื่อให้ประชาชนรู้สึกเข้าถึงง่าย ไม่ใช่การไม่รู้กาลเทศะอย่างที่หลายฝ่ายวิจารณ์ในสื่อโซเชียล ลักษณะการแต่งกายดังกล่าวเป็นแนวทางที่ ศ.ดร.นฤมล ยึดถือมาตั้งแต่แรกปฎิบัติมาตลอด เพื่อต้องการลดระยะห่างกับประชาชน ให้ทุกคนไม่ต้องเคอะเขิน สามารถเข้ามาปรึกษาพูดคุยปัญหาได้อย่างเป็นกันเอง โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ต้องพบเจอคนหลากหลายอาชีพ

“ท่านไม่เคยละเลยความสุภาพ หากเป็นการปฏิบัติราชการที่กระทรวงในวันทำการ ท่านแต่งกายสุภาพและเรียบร้อยเสมอ ทุกคนสามารถไปตรวจสอบย้อนดูได้ ผมขอวิงวอนให้ประชาชนผู้รับข่าวสาร พิจารณาในหลายมิติ ไม่ใช่ตัดสินเพียงแค่รูปลักษณ์ในวันเดียวเท่านั้น และผมเชื่อว่า คนไทยต้องการรัฐมนตรีศึกษาฯ ที่ทำงานอย่างเต็มที่ จริงจัง เพื่ออนาคตทางการศึกษาของลูกหลานเรามากกว่าภาพลักษณ์ภายนอกว่า ท่านจะสวมใส่กางเกงยีนส์หรือไม่“ นายอัครแสนคีรี กล่าว
#กระทรวงศึกษาธิการ
#รัฐมนตรีแต่งกายไม่เหมาะสม

https://smartnews.online/?p=5420
22/07/2025

https://smartnews.online/?p=5420

DPU จัด “วิ่งกับหมอ เพื่อชะลอวัย” ตอกย้ำผู้นำด้านส […]

https://smartnews.online/?p=5414
22/07/2025

https://smartnews.online/?p=5414

สนาม DPU คึกคัก! เปิดบ้านต้อนรับศึกฟุตบอลนักเรียน […]

TOURISM NEWS : ททท. ผนึก 20 พันธมิตร ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) พร้อมเดินหน้า Shape Supply ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเท...
21/07/2025

TOURISM NEWS : ททท. ผนึก 20 พันธมิตร ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) พร้อมเดินหน้า Shape Supply ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่หัวใจแห่งความยั่งยืนตามเป้าหมาย STGs ภายในปี 2030

วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมเป็นประธานและสักขีพยาน พิธีลงนามหนังสือแสดงจำนงเพื่อประกาศเจตนารมณ์การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยตามเป้าหมายการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals : STGs)
ในปี 2030 ระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. และ 20 หน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร เพื่อแสดงความมุ่งมั่นร่วมกันในการมุ่งพัฒนาระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการยกระดับการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยการแสดงเจตจำนงร่วมกันระหว่าง ททท. และหน่วยงานพันธมิตรในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่สำคัญในการร่วมกันขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวยั่งยืนในปี 2030 พร้อมผลักดันให้เกิดการดำเนินงานและการบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างอนาคตของการท่องเที่ยวไทยที่มั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า “การมุ่งสู่ความยั่งยืน” เป็นพันธกิจสำคัญของ ททท. ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ททท. จึงได้นำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals :SDGs) 2030 ขององค์การสหประชาชาติ มาพัฒนาเป็นเป้าหมายการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals : STGs) ที่เหมาะสมกับบริบทของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และใช้เป็นแนวทาง
ในการพัฒนาสินค้าและบริการท่องเที่ยว ตลอดจนส่งเสริมผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้ตราสัญลักษณ์ที่ได้รับการรับรองจาก ททท. (TAT Certified) ได้แก่ STGs Sustainable Tourism Acceleration Rating (STGs STAR) , Carbon Footprint Hotels (CF-Hotels) และรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards: TTA) โดยในปี 2568 ททท. ได้เพิ่มรางวัลประเภทองค์กรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน (Tourism Support and Promotion Organisations) รวมทั้งเพิ่มระดับรางวัลแห่งความยั่งยืนในทุกประเภทรางวัลด้วย
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ททท. จึงจัดพิธีลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อประกาศเจตนารมณ์การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยตามเป้าหมายการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals : STGs) ในปี 2030 ร่วมกับ 20 หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ได้แก่ กรมการท่องเที่ยว การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) (อพท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมโรงแรมไทย (THA) สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย (สทอ.) สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ – ไทย (TICA) มูลนิธิพัฒนาการท่องเที่ยวยั่งยืน บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (Central Group) แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น (AWC) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (มหาชน) บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และบริษัท วัน แบงค็อก จำกัด

การลงนามในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการระหว่าง ททท. และพันธมิตรระหว่างปี 2568-2570 ได้แก่ การเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการท่องเที่ยวและชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศ ให้ได้รับการรับรองตามเกณฑ์ความยั่งยืนของ ททท. (STGs STAR, CF-Hotels, TTA) กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (Green Hotel plus) และกรมการท่องเที่ยว (THAILAND GREEN PLAN 2030) และมาตรฐานสากลในระดับต่างๆ ร่วมกันสร้างสรรค์เส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ส่งเสริมการจัดกิจกรรมไมซ์ให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน สร้างความเข้าใจในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการชดเชยคาร์บอน พร้อมทั้งจัดหาเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการประเมินและชดเชยก๊าซเรือนกระจกให้แก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว
และไมซ์อย่างทั่วถึง มีการนำ BCG Model และแนวทาง ESG / Eco-Efficiency มาใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนสนับสนุนผู้ประกอบการที่พัก ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า ในการลดปริมาณการใช้ทรัพยากรและพลังงาน การลดของเสียและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์หรือก๊าซเรือนกระจก และการนำขยะจากแหล่งท่องเที่ยวและสถานประกอบการมาพัฒนา
เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ (Zero waste) เป็นต้น
ททท. เชื่อมั่นว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ
และเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
#ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว

TOURISM NEWS : ‘จีรเดช’ ส่งเสริมพะเยาสู่พื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษ ศักยภาพเมืองเก่า 900 ปี เชื่อมล้านนาตะวันออก สร้างรายได้ ...
21/07/2025

TOURISM NEWS : ‘จีรเดช’ ส่งเสริมพะเยาสู่พื้นที่ท่องเที่ยวพิเศษ ศักยภาพเมืองเก่า 900 ปี เชื่อมล้านนาตะวันออก สร้างรายได้ ยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่น

วันที่ 21 ก.ค. 68 นายจีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา พรรคกล้าธรรม (กธ.) ในฐานะคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ตนได้จัดประชุมสัมมนาเรื่อง “พะเยา…ปลูกฝัน ปั้นพลังสู่การยกระดับเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดพะเยา

“การท่องเที่ยวถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดพะเยาของเรา ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 900 ปี เต็มไปด้วยแหล่งอารยธรรม ธรรมชาติที่งดงาม โอบล้อมด้วยขุนเขาและสายน้ำ พร้อมด้วยผู้คนที่เปี่ยมด้วยไมตรีจิตและอัธยาศัยอันงดงาม นี่คือเสน่ห์ที่สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน” นายจีรเดช กล่าว

นายจีรเดช ยังกล่าวถึงจุดแข็งด้านภูมิศาสตร์การท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยา ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางอาณาจักรล้านนาตะวันออก สามารถเชื่อมโยงการเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งในการผลักดันให้พะเยาก้าวสู่การเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

“ขอขอบคุณวิทยากรจากมหาวิทยาลัยพะเยา หอการค้าจังหวัดพะเยา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพะเยา ผู้นำท้องถิ่น และผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่าน เราจะเดินหน้าไปด้วยกันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของชาวพะเยา” นายจีรเดชกล่าวทิ้งท้าย
#ท่องเที่ยวพะเยายั่งยืน #ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว

TOURISM  NEWS : ททท. เติมไฟท่องเที่ยว Green Season เร่งบูสต์ตลาดด้วยอีเวนต์ เผยผลสำเร็จงาน VIJIT GASTRONOLIGHT ผนวกแห่เท...
20/07/2025

TOURISM NEWS : ททท. เติมไฟท่องเที่ยว Green Season เร่งบูสต์ตลาดด้วยอีเวนต์ เผยผลสำเร็จงาน VIJIT GASTRONOLIGHT ผนวกแห่เทียนพรรษา บูมภาคอีสานคึกคัก นักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่กว่า 6.5 แสนคน ดันรายได้สะพัด 1,516 ล้านบาท

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปลุกกระแสท่องเที่ยวในประเทศช่วง Green Season ด้วยการกระจายจัดกิจกรรมและเทศกาลในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ หวังกระตุ้นท่องเที่ยวต่อเนื่องแบบไร้รอยต่อล่าสุดในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา บรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าร่วมงานประเพณีแห่เทียนพรรษาและกิจกรรม VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างคับคั่ง ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวในภูมิภาคอีสาน รวมกว่า 650,000 คน สร้างรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวรวม 1,516 ล้านบาท

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เผยว่า ททท. ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้เกิดความต่อเนื่องไร้รอยต่อ ลดช่วงโลว์ซีซัน พร้อมวางเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ขณะนี้ ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ฤดูฝน หรือ Green Season อย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศให้คึกคักมากยิ่งขึ้น ททท. จึงได้เติมเต็มด้วย กิจกรรมอีเวนต์ที่สะท้อนถึงความเชื่อ ความศรัทธา ความเป็นไทยในพื้นที่ต่าง ๆ มาเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นการเดินทาง โดยล่าสุด ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา ททท. ได้จัดงานอีเวนต์ “VIJIT GASTRONOLIGHT @อุบลราชธานีศรีศิลป์” ระหว่างวันที่ 7–16 กรกฎาคม 2568 จัดแสดงแสง สี และศิลปะร่วมสมัยที่ผสานความเชื่อ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตท้องถิ่นในพื้นที่สำคัญของเมืองอุบลราชธานี ควบคู่ไปกับประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งการจัดงานมีผู้เข้าร่วมงานรวม 426,873 คน สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 1,239 ล้านบาท และส่งผลให้ภาพรวมของสถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนกว่า 650,000 คน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยว 1,516.84 ล้านบาท สูงกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ ยังส่งให้เกิดการกระจายการเดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของภูมิภาค ซึ่งช่วงฤดูฝนถือเป็นช่วงเวลาทองของการท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยวชมธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ อาทิ จังหวัดชัยภูมิ บริเวณอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปเยือนเพื่อชมความงดงามของทุ่งดอกกระเจียว หรือ “ราชินีแห่งดอกไม้ฤดูฝน” ที่ปีนี้บานสะพรั่งเต็มพื้นที่มากที่สุดในรอบ 5 ปี สร้างความประทับใจและเป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยวภาคอีสานในฤดูกาลนี้

ททท. จะเดินหน้าสร้างแรงกระเพื่อมทางการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดและสนับสนุนกิจกรรม เทศกาล และงานประเพณีที่หลากหลายทั่วทุกภูมิภาค เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจ และกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสู่เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวในช่วง Green Season ซึ่งกิจกรรมที่เตรียมไว้ล้วนสะท้อนอัตลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละท้องถิ่น อาทิ เที่ยวชมทุ่งดอกเทียนเรืองแสง ปี 2568 จ.อุบลราชธานี ประเพณีตักบาตรบนหลังช้าง และนมัสการพระพุทธรูปใหญ่ ประจำปี 2568 วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2568 จ.บุรีรัมย์ งาน Music and Night at the Museum ครั้งที่ 4 วันที่ 25-26 กรกฎาคม 2568 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา จังหวัดสงขลา งาน Sip & Surf X Beach Break 2025 วันที่ 25-27 กรกฎาคม 2568 จ.ภูเก็ต งานระนองมหานครน้ำแร่ ปี 3 วันที่ 26-27 กรกฎาคม 2568 จ.ระนอง AWAKENING SONG WAT 2025 วันที่ 8-17 สิงหาคม 2568 กรุงเทพมหานคร งานดนตรีฤดูฝน Maelanoi Craft Camp วันที่ 9 สิงหาคม 2568 จ.แม่ฮ่องสอน งาน Khorat Geopark Night Run 2025 : ท่องดินแดนบรรพชีวินยามค่ำคืน 9 สิงหาคม 2568 จ.นครราชสีมา งานขนอมเฟสติวัล ครั้งที่ 9 “Light Up the Beach” วันที่ 9-10 สิงหาคม 2568 จ.นครศรีธรรมราช งาน Krabi Agro Fest วันที่ 10-12 สิงหาคม 2568 จ.กระบี่ การแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล FIVB Women’s World Championships 2025 วันที่ 22 สิงหาคม - 7 กันยายน 2568 กรุงเทพมหานคร จ.นครราชสีมา จ.ภูเก็ต และจ.เชียงใหม่ Summer Sonic Bangkok 2025 วันที่ 23-24 สิงหาคม จ.นนทบุรี ประเพณีแข่งขันเรือยาว วันที่ 6-7 กันยายน 258 จ.พิจิตร ประเพณีทิ้งกระจาดสุพรรณบุรี ประจำปี 2568 วันที่ 9-21 กันยายน 2568 จ.สุพรรณบุรี งาน "วิ่งกับช้าง" (Authentic Elephant Run) วันที่ 14 กันยายน 2568 จ.สุรินทร์ ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ วันที่ 17-26 กันยายน 2568 จ.เพชรบูรณ์ ประเพณีไหลเรือไฟ วันที่ 29 กันยายน - 8 ตุลาคม 2568 จ.นครพนม ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งและแข่งเรือยาว วันที่ 6 ตุลาคม 2568 จ.สกลนคร ประเพณีบุญกระธูป ออกพรรษา วันที่ 7 ตุลาคม 2568 จ.ชัยภูมิ ประเพณีวิ่งควาย วันที่ 7 ตุลาคม 2568 จ.ชลบุรี เป็นต้น
#ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว

AGRICULTURE NEWS :  ‘อรรถกร-อัครา’ ลงพื้นที่นครศรีฯ ดันโครงการระบบส่งน้ำ  ‘อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส’  เพิ่มพื้นที่เกษตร 9 หม...
19/07/2025

AGRICULTURE NEWS : ‘อรรถกร-อัครา’ ลงพื้นที่นครศรีฯ ดันโครงการระบบส่งน้ำ ‘อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส’ เพิ่มพื้นที่เกษตร 9 หมื่นไร่ พร้อมเร่งโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองทุ่งสง

วันที่ 19 ก.ค. 68 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลัง พร้อมด้วย นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ติดตามโครงการปรับปรุงระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ชะอวด

โดยนายอรรถกร กล่าวว่า พื้นที่ อ.ชะอวดจ.นครศรีธรรมราช มีแหล่งน้ำต้นทุนที่สำคัญคือ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ความจุ 86 ล้าน ลบ.ม. และมีน้ำไหลเข้าอ่างเฉลี่ยปีละ 97.5 ล้าน ลบ.ม. โดยมีระบบกระจายน้ำต่อเนื่องจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส คือ 1. ระบบส่งน้ำท่อนิคมควนขนุน 2. ระบบส่งน้ำควนมีชัย และ 3. ฝายคลองไม้เสียบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมพื้นที่ชลประทาน 90,248 ไร่ อย่างไรก็ตาม มีการใช้น้ำ 83.2 ล้าน ลบ.ม. จากปริมาณน้ำท่าเฉลี่ย 97.5 ล้าน ลบ.ม. ทำให้จำเป็นต้องมีการระบายน้ำทิ้ง กว่า 14.3 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งปริมาณน้ำดังกล่าวสามารถที่จะพัฒนาระบบกระจายน้ำเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดพื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งน้ำในพื้นที่ชลประทานเดิม

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กรมชลประทาน สำนักงานชลประทานที่ 15 จึงมีแผนงานเพื่อพัฒนาระบบส่งน้ำ จำนวน 6 โครงการ ตั้งแต่ปี 2570 - 2572 ซึ่งหากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะทำให้มีพื้นที่ชลประทานเพิ่มขึ้น 4,160 ไร่ มีผู้ที่ได้รับประโยชน์จำนวน 555 ครัวเรือน ทำให้เพิ่มศักยภาพชลประทานจากจำนวน 90,248 ไร่ เป็น 94,408 ไร่

“ผมได้กำชับให้กรมชลประทานเร่งรัดโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร ให้ดำเนินการสำรวจพื้นที่และเร่งดำเนินงานในส่วนที่สามารถแก้ไขได้ทันที เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งวันนี้ผมและท่านรัฐมนตรีช่วยฯ ตั้งใจเดินทางมารับฟังปัญหาโดยตรงจากเกษตรกร และขอยืนยันว่าทุกปัญหาที่ได้เสนอมานั้นจะได้รับการแก้ไข โดยจะนำไปหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป“ นายอรรถกร กล่าว

จากนั้นในช่วงบ่าย รัฐมนตรีว่าการฯ และรัฐมนตรีช่วยฯ เดินทางไปยัง สำนักงานเทศบาลเมืองทุ่งสง ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รับฟังบรรยายสรุปโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่บริเวณ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาอุทกภัยเกือบทุกปี ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กระทรวงเกษตรฯ โดย กรมชลประทาน จึงได้ศึกษาความเหมาะสมการแก้ไขปัญหาอุทกภัย อ.ทุ่งสง เพื่อวางแผนพัฒนาลุ่มน้ำใน อ.ทุ่งสงให้มีแผนงานบรรเทาอุทกภัยและบริหารจัดการน้ำที่เชื่อมโยงทั้งระบบตามศักยภาพและข้อจำกัดของแต่ละพื้นที่อย่างเหมาะสม โดยมีโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัย พื้นที่บริเวณตัวเมืองทุ่งสง ลักษณะโครงการ เป็นงานขุดลอก/ปรับปรุงคลองระบายน้ำสายหลัก และอาคารตามลำน้ำ ระยะทาง 65.709 กิโลเมตร งานขุดลอกผันน้ำ ระยะทาง 5.848 กิโลเมตร และงานก่อสร้าง/ปรับปรุงอาคารบังคับน้ำ 10 แห่ง

“โครงการดังกล่าวหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองทุ่งสง ทำให้สามารถควบคุม บรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนตัวเมืองทุ่งสง และโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ราษฎรริมสองฝั่งคลองให้มีน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภค - บริโภค และสามารถกักเก็บน้ำไว้เพื่อการเพาะปลูก แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งอีกด้วย โดยมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 6,100 ไร่ ครอบคลุม 10 หมู่บ้าน 3 ตำบล และ 1 เทศบาล” นายอรรถกร กล่าว

#เกษตรวันนี้ #กรมชลประทาน #นครศรีธรรมราช

AGRICULTURE TOURISM : ‘ภาคภูมิ’ เปิดงาน 1st ASEAN AVOCADO SEMINAR 2025 ผลักดัน ‘อะโวคาโดไทย’ สู่ตลาดโลก พร้อมหนุน จ.ตาก ...
19/07/2025

AGRICULTURE TOURISM : ‘ภาคภูมิ’ เปิดงาน 1st ASEAN AVOCADO SEMINAR 2025 ผลักดัน ‘อะโวคาโดไทย’ สู่ตลาดโลก พร้อมหนุน จ.ตาก ยกระดับสินค้าเกษตรคุณภาพ

วันที่ 19 ก.ค. 68 นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก พรรคกล้าธรรม (กธ.) เผยว่า ตนได้รับเกียรติให้เป็นประธานเปิดงาน 1st ASEAN AVOCADO SEMINAR 2025 พร้อมร่วมเยี่ยมชมกิจกรรมในงาน มหกรรมสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรคุณภาพ ตากการันตี ปีที่ 6 ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นโดยจังหวัดตาก ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดตาก เป็นเจ้าภาพหลัก

นายภาคภูมิ กล่าวต่อว่า กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18–20 กรกฎาคม 2568 ณ บริเวณศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรปลอดภัยและคุณภาพจากจังหวัดตาก สนับสนุนรายได้ของเกษตรกรในพื้นที่ รวมถึงสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่สินค้าเกษตรท้องถิ่น โดยภายในงานมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรหลากหลายชนิด รวมถึงสินค้าแปรรูปจากฝีมือเกษตรกรชาวจังหวัดตากที่ได้รับการการันตีคุณภาพ ทั้งด้านความปลอดภัย ความสะอาด และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น

นอกจากนี้ ยังมีการจัดสัมมนาวิชาการ “1st ASEAN AVOCADO SEMINAR” ระหว่างวันที่ 18–19 กรกฎาคม 2568 โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วม แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านอะโวคาโด เพื่อส่งเสริมให้พืชเศรษฐกิจชนิดนี้เติบโตสู่ตลาดสากลอย่างยั่งยืน โดยหัวข้อสำคัญภายในงาน อาทิ มุมมองตลาดอะโวคาโดในเอเชียและแนวโน้มในอนาคต ,เทคนิคการเพาะปลูกแนวใหม่ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ,การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวอย่างมืออาชีพ,นวัตกรรมการผลิตน้ำมันอะโวคาโด ,มาตรฐานอะโวคาโดเพื่อยกระดับคุณภาพและการส่งออก

“ผมขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดตาก และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนอำเภอแม่สอด ร่วมสนับสนุนของดีจากเกษตรกรในพื้นที่ และสามารถเข้าร่วมกิจกรรม “ชิม ช็อป ใช้” ภายในงานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน งานนี้ไม่เพียงแค่เป็นเวทีในการส่งเสริมสินค้าเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเกษตรสมัยใหม่ ทั้งกับเกษตรกร นักวิชาการ และผู้ประกอบการ เพื่อร่วมกันยกระดับสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดโลก” นายภาคภูมิ กล่าว
#เกษตรท่องเที่ยว #กล้าธรรม

ที่อยู่

Paknam

เบอร์โทรศัพท์

+66841047799

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ SmartNews Online /สมาร์ตนิวส์ ออนไลน์ผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

ติดต่อ ธุรกิจของเรา

ส่งข้อความของคุณถึง SmartNews Online /สมาร์ตนิวส์ ออนไลน์:

แชร์