VI สายดอย

VI สายดอย ขับไรเดอร์ และ เป็นนักศึกษาด้านการลงทุนในหุ้นไทยและ ต่างประเทศ

วันนี้จะนำเสนอหุ้นแปลกนอกกระแสที่คนไม่ค่อยสนใจ แต่รอดหุ้นที่ “แปลก ๆ” หรือเรียกว่า หุ้นแนว Non-mainstream / Weird but Re...
03/07/2025

วันนี้จะนำเสนอหุ้นแปลกนอกกระแสที่คนไม่ค่อยสนใจ แต่รอด

หุ้นที่ “แปลก ๆ” หรือเรียกว่า หุ้นแนว Non-mainstream / Weird but Resilient Stocks คือหุ้นที่:

✅ ทำธุรกิจไม่ค่อยมีใครพูดถึง

✅ เจอข่าวร้าย เหตุการณ์แรง แต่ ราคาหรือปันผลไม่กระทบหนัก

✅ ถือแล้วมักจะ “อยู่รอดได้ดี” ในสถานการณ์ไม่แน่นอน เช่น COVID, เศรษฐกิจถดถอย, ดอกเบี้ยขึ้น ฯลฯ

มีอะไรไปดูกันเลย

แจกสูตรคำนวนเฉลี่ยต้นทุนซื้อหุ้น อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน
01/07/2025

แจกสูตรคำนวนเฉลี่ยต้นทุนซื้อหุ้น

อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน

13/06/2025

เก็บไว้ชม

หุ้นสายควัญ MO ปันผลสีครั้งต่อปี  ถ้าเห็นยังดูดบุหรี่ ก็ยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจ*ไม่ได้เป็นการชี้นำลงทุน
03/06/2025

หุ้นสายควัญ MO ปันผลสีครั้งต่อปี

ถ้าเห็นยังดูดบุหรี่ ก็ยังเป็นหุ้นที่น่าสนใจ

*ไม่ได้เป็นการชี้นำลงทุน

รวยไม่ไหวมาเยอะจัด
31/05/2025

รวยไม่ไหวมาเยอะจัด

เอ็งมาไงก่อนนน
30/05/2025

เอ็งมาไงก่อนนน

หนังสื่อดีน่าอ่าน
29/05/2025

หนังสื่อดีน่าอ่าน

บทเรียนที่ได้จากหนังสือ
รวยก่อนอายุ 40

1. นำรายได้ในปัจจุบันของคุณ
จำนวน 5 % ไปซื้อประกันภัยต่าง ๆ
ซึ่งไม่จำเป็นต้องประกันฟุ่มเฟือย
เอาเฉพาะที่จำเป็นอย่าง ประกันสุขภาพโรคร้ายแรง
ประกันชีวิต หรือประกันทรัพย์สินที่สำคัญเช่นคอนโด

2. แม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ก็ล้วนมีข้อผิดพลาดเช่นเดียวกัน
ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ

3. ความตายคือส่วนหนึ่งของชีวิต
การพยายามใช้ชีวิตในทุกวัน
ให้เหมือนกับเป็นวันสุดท้าย
จึงเป็นสิ่งสำคัญ

4. หากไม่มีความสม่ำเสมอ
มันจะพาคุณไปสู่ความล้มเหลวในที่สุด

5. เรียนรู้ที่จะพึ่งพาผู้อื่น
หัดอ่านคนให้มาก พยายามหาจุดแข็งจุดอ่อน
ติดต่อสื่อสารกับผู้คนให้มาก
จะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างความร่ำรวยให้กับคุณ

6. จำไว้เสมอว่าภาพลักษณ์มีความสำคัญ
มากกว่าลักษณะที่แท้จริงของเรา
ผู้คนเลือกที่จะมองเห็นในสิ่งที่พวกเขาต้องการ
และคาดหวังที่จะเห็น และเพื่อที่จะสร้างภาพลักษณ์นั้น
เราควรลงทุนกับมันโดยใช้ความพยายามแบบเดียวกัน
กับที่เราลงทุนในเรื่องสำคัญเรื่องอื่นๆ

7. มีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ
หากคุณต้องการที่จะเพิ่มโอกาส
ในการสร้างความสำเร็จ

8. คุณควรใช้เวลา 90 % ในการทำงาน
และใช้เวลา 10% ในการประชาสัมพันธ์
และรายงานเกี่ยวกับที่คุณทำ
ทั้งในช่วงก่อนและในระหว่างที่คุณกำลังทำงาน
ไม่ใช่หลังจากที่คุณทำงานเสร็จเพียงเท่านั้น

9. เรามักจมปลักอยู่กับความรู้สึกแย่ ๆ
เมื่อเราเชื่อว่าเราสมควรจะได้รับบางสิ่ง
แต่เรากลับคว้ามันมาไม่ได้
จงคิดว่า หากคุณกำลังลงมีทำสิ่งที่ถูกต้อง
เวลาก็จะดูแลความสำเร็จให้คุณเอง

10. คนที่กล้าหาญจะไม่พูด
พวกเขาจะลงมือทำแทน

11. คุณจะต้องไม่รู้สึกสิ้นหวัง
หากคุณยืนหยัด แสดงถึงความมีวินัย
และความกล้าหาญ ยังพยายามต่อสู้
ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะต้องเผชิญหน้า
กับความล้มเหลวก็ตาม

12. คุณมีคุณค่ามากกว่าที่คุณคิด
หากคุณเชื่อเรื่องนี้ มันก็จะเกิดขึ้นจริง ๆ

13. ถ้าคุณไม่รู้อะไรอย่าพูด
ความเงียบมีค่าดั่งทองคำ
การหลีกเลี่ยงไม่พูดอะไร
ดีกว่าการพูดเรื่องไร้สาระ

14. หากจำเป็นต้องจ้างผู้เชียวชาญ
อย่าตระหนี่กับเรื่องเหล่านี้
เพราะหากไม่ทำ อาจเกิดผลเสียหาย
กับงานของคุณมากกว่าราคาที่จ้างหลายเท่า

15. สุขภาพที่ดีสำคัญที่สุด
หากคุณสะสมเงินมา แต่ไม่มีสุขภาพที่ดี
ก็คงไม่มีความหมาย

หนังสือเล่มนี้ยังมีบทเรียนอีกมากมาย
หากสนใจสั่งซื้อหนังสือได้ที่
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.OXLnS?cc

ไม่เล่าเสียดีกว่า
29/05/2025

ไม่เล่าเสียดีกว่า

💬 คำคมของ Charlie Munger ที่ว่า "อย่าเล่าปัญหาของคุณให้คนอื่นฟัง เพราะคน 90% เขาไม่ได้สนใจ และคนอีก 10% อาจกำลังดีใจที่คุณมีปัญหา" เป็นคำพูดที่สะท้อนความจริงบางด้านของสังคมได้อย่างลึกซึ้ง
คนส่วนใหญ่ (90%) มักยุ่งอยู่กับชีวิตตัวเอง จึงไม่ใส่ใจปัญหาของคนอื่นอย่างจริงจัง แม้อาจฟังด้วยมารยาท แต่ไม่ได้รู้สึกร่วมลึกซึ้ง
ส่วนอีกบางคน (10%) ไม่เพียงไม่เห็นใจ แต่ อาจรู้สึกสะใจหรือยินดี เมื่อเห็นคนอื่นล้ม เหตุเพราะความอิจฉา หรือความรู้สึกเหนือกว่า
✅ จงระวังว่าคุณเล่าปัญหาให้ใครฟัง – ไม่ใช่ทุกคนที่สมควรเป็น “ที่ปรึกษา” หรือ “ที่ระบาย”

✅ อย่าคาดหวังการเห็นใจจากทุกคน – เพราะไม่ใช่ทุกคนจะมีความเข้าอกเข้าใจ หรือหวังดีกับเรา

✅ เรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองทางอารมณ์ – ใช้ปัญหาเป็นพลังผลักดัน มากกว่าการหาที่พักใจผิดที่
อย่าเปิดเผยปัญหาให้ใครก็ได้ฟัง เพราะไม่ใช่ทุกคนจะเห็นใจ และบางคนอาจใช้ "จุดอ่อนของคุณ" เป็น "ความสะใจของเขา"
คำคมนี้ไม่ได้สอนให้ปิดกั้นตัวเองหรือไม่ระบายความรู้สึกเลย แต่สอนให้เลือกคนให้ถูกก่อนเปิดใจ และให้เรามีสติในการแบ่งปันเรื่องสำคัญของชีวิต
#คำคม #ข้อคิด #คิดก่อนพูด #เลือกคนให้ถูก #อย่าเล่าปัญหาให้ทุกคนฟัง #ความลับคือพลัง #ไม่ใช่ทุกคนจะหวังดี

ถ้าพูดถึงร้านที่ขายชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องมือ อุปกรณ์ ในไทยมีเยอะมากกขอแนะนำหุ้น อเมริกา ORLY  ถ้าซื้อหุ้นใน Dime ตั้งแต...
28/05/2025

ถ้าพูดถึงร้านที่ขายชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องมือ อุปกรณ์ ในไทยมีเยอะมากก

ขอแนะนำหุ้น อเมริกา ORLY ถ้าซื้อหุ้นใน Dime ตั้งแต่ปี 2022
คุณอาจจะกำไรเป็นกอบเป็นกำไปแล้วก็ได้

O'Reilly Automotive, Inc. หรือที่รู้จักกันในชื่อ O'Reilly Auto Parts เป็นบริษัทค้าปลีกชิ้นส่วนยานยนต์ของอเมริกาที่ให้บริการชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องมือ อุปกรณ์ และอุปกรณ์เสริมแก่ผู้ให้บริการมืออาชีพและลูกค้าที่ทำเอง ก่อตั้งขึ้นในปี 1957 โดยครอบครัว O'Reilly ปัจจุบัน O'Reilly Auto Parts มีร้านค้ามากกว่า 6,000 แห่งใน 48 รัฐของสหรัฐอเมริกา, เปอร์โตริโก และเม็กซิโก

ประวัติของบริษัท Michael Byrne O'Reilly อพยพมายังอเมริกาในปี 1849 และตั้งถิ่นฐานในเมืองเซนต์หลุยส์ เขาทำงานเพื่อหาเงินเรียนจนได้รับปริญญาด้านกฎหมาย และต่อมาได้ทำงานเป็นผู้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ ลูกชายของเขา Charles Francis O'Reilly เริ่มทำงานในปี 1914 เป็นพนักงานขายเดินทางให้กับ Fred Campbell Auto Supply ในเมืองเซนต์หลุยส์ ในปี 1932 Charles ได้เป็นผู้จัดการของ Link Motor Supply ในเมืองสปริงฟิลด์ และลูกชายของเขา Charles H. (Chub) O'Reilly ก็เข้าร่วมบริษัทด้วยกัน

ในปี 1957 Link Motor Supply วางแผนการปรับโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงการเกษียณอายุของ Charles F. O'Reilly และการย้าย Chub O'Reilly ไปยังเมืองแคนซัสซิตี้ ทั้งสองตัดสินใจที่จะก่อตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ O'Reilly Automotive, Inc. และเปิดร้านแรกในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐมิสซูรี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 1957 โดยมีพนักงาน 13 คน ในปี 1993 O'Reilly Auto Parts ได้ทำการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก และในปี 1998 บริษัทได้ควบรวมกิจการกับ Hi/LO Auto Supply เพิ่มร้านค้า 182 แห่งในรัฐเท็กซัสและหลุยเซียนา

O'Reilly Auto Parts ได้ขยายกิจการผ่านการซื้อกิจการหลายครั้ง รวมถึงการซื้อ KarPro Auto Parts ในปี 2000, Mid-State Automotive Distributors ในปี 2001, Midwest Automotive Distributors ในปี 2005 และ CSK Auto ในปี 2008 ซึ่งทำให้บริษัทกลายเป็นหนึ่งในสามบริษัทค้าปลีกชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

ในปี 2019 O'Reilly Auto Parts ได้ขยายกิจการไปยังตลาดต่างประเทศด้วยการซื้อกิจการ Mayasa Auto Parts ในเม็กซิโก และในปี 2023 บริษัทได้เปิดศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรกในเปอร์โตริโกและร้านค้าปลีกสองแห่งใน Hatillo และ Bayamón

ในเดือนธันวาคม 2023 O'Reilly Auto Parts ได้ประกาศการซื้อกิจการ Groupe Del Vasto ซึ่งทำให้บริษัทเข้าสู่ตลาดแคนาดา

สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่ปี 2010 O'Reilly Auto Parts มีสำนักงานใหญ่ในอาคารขนาด 117,000 ตารางฟุตในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐมิสซูรี

มูลค่ารวมของบริษัทในตลาดหุ้น $78.32B
จำนวนเงินปันผลต่อหุ้นต่อปี Div Rate (FWD) ORLY does not currently pay a dividend.
อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล Yield (FWD) ORLY does not currently pay a dividend.
*ไม่ได้เป็นการชี้นำ ผู้ลงทุนควรศึกษาและตัดสินใจด้วยตัวเอง

วันนี้ขอเสนอหุ้น PFE ถ้าชอบปันผล และถือระยะยาวเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่น่าสนใจไฟเซอร์ (Pfizer Inc.)ไฟเซอร์ เป็นบริษัทยาสัญชาติ...
27/05/2025

วันนี้ขอเสนอหุ้น PFE ถ้าชอบปันผล และถือระยะยาวเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่น่าสนใจ

ไฟเซอร์ (Pfizer Inc.)
ไฟเซอร์ เป็นบริษัทยาสัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1849 โดย คาร์ล ไฟเซอร์ (Karl Pfizer) นักเคมีชาวเยอรมัน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ผลิตภัณฑ์สำคัญ
ลิปิเตอร์ (Atorvastatin): ยาลดคอเลสเตอรอลที่เคยเป็นยาขายดีที่สุดในโลก

ไดฟลูแคน (Fluconazole): ยาต้านเชื้อรา

ไซโทรแมกซ์ (Azithromycin): ยาปฏิชีวนะออกฤทธิ์ยาว

ไวอะกร้า (Sildenafil): ยารักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ซีลีเบรกซ์ (Celecoxib): ยาบรรเทาอาการปวดและอักเสบ

พัฒนาการสำคัญตามลำดับเวลา
1849: เริ่มธุรกิจผลิตยาในย่านบรูกลิน นิวยอร์ก

1880: เริ่มผลิตกรดซิตริกซึ่งเป็นก้าวแรกสู่ความสำเร็จ

1944: ผลิตเพนิซิลินด้วยวิธีการหมักแบบ deep-tank ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

1950–1960s: พัฒนาและวางตลาดยาปฏิชีวนะหลายชนิด เช่น เทอราไมซิน และเตตราไซคลีน

1982: เปิดตัวยาเฟลดีน (Piroxicam) ซึ่งประสบความสำเร็จระดับโลก

1990s: วางตลาดยาสำคัญ เช่น โซลอฟต์ (Sertraline), นอร์แวส (Amlodipine), ไวอะกร้า

1995–2003: ขยายกิจการผ่านการควบรวมกับบริษัทเวชภัณฑ์สัตว์, วอร์เนอร์-แลมเบอร์ต และฟาร์มาเซีย

2020: ร่วมกับไบออนเทค พัฒนาวัคซีนโควิด-19 สำเร็จ มีประสิทธิภาพ 95%

สถานะในตลาด
หุ้นของไฟเซอร์อยู่ในดัชนีดาวโจนส์ตั้งแต่ปี 2004

ปี 2019 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทยาอันดับ 1 ของโลกโดยนิตยสาร Forbes

มูลค่ารวมของบริษัทในตลาดหุ้น $132.58B
จำนวนเงินปันผลต่อหุ้นต่อปี Div Rate (FWD)$1.72 (4 ครั้งต่อปี)
อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล Yield (FWD) 7.38%
*ไม่ได้เป็นการชี้นำ ผู้ลงทุนควรศึกษาและตัดสินใจด้วยตัวเอง

ที่อยู่

Pathum Thani
12000

เบอร์โทรศัพท์

0998254085

เว็บไซต์

แจ้งเตือน

รับทราบข่าวสารและโปรโมชั่นของ VI สายดอยผ่านทางอีเมล์ของคุณ เราจะเก็บข้อมูลของคุณเป็นความลับ คุณสามารถกดยกเลิกการติดตามได้ตลอดเวลา

แชร์